ตอนที่ 113 คุณพ่อมือใหม่

ตอนที่ 113 คุณพ่อมือใหม่

หลังจากที่เสียงร้องแรกของน้องเมฆและน้องเมษาดังก้องไปทั่วโรงพยาบาล ชีวิตของภาคินัยและธามก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากบทบาทของการเป็นสามีที่ดูแลภรรยา พวกเขาก็ก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความท้าทาย นั่นคือการเป็นคุณพ่อมือใหม่ การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำและผู้ดูแลครอบครัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายนี้ด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม

ภาคินัยนักธุรกิจหนุ่มที่เคยทุ่มเทชีวิตให้กับการบริหารอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้กลับต้องมาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยอยู่ในตำราธุรกิจ นั่นคือการดูแลทารกแรกเกิด

ในวันแรกที่น้องเมฆกลับมาถึงบ้าน ภาคินัยถึงกับประหม่าเมื่อต้องอุ้มลูกชายตัวน้อยที่ดูบอบบางเหลือเกิน

"คุณภีมคะ ลองอุ้มดูสิคะ" ปลายฝันยิ้มและส่งน้องเมฆให้เขา

ภาคินัยค่อยๆ รับลูกมาอุ้มอย่างระมัดระวัง แขนที่เคยแข็งแกร่งจากการเซ็นสัญญาธุรกิจ ตอนนี้กลับอ่อนโยนลงอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของน้องเมฆในอ้อมแขน

"โอ๊ย ตัวเล็กจังเลยครับปาย" เขาเอ่ยเสียงแผ่ว พลางจ้องมองลูกชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก

การเรียนรู้บทบาทใหม่เริ่มต้นขึ้นทันที ภาคินัยจริงจังกับการเป็นพ่อมาก เขาอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กอ่อนหลายเล่ม ดูวิดีโอสอนการเปลี่ยนผ้าอ้อม การชงนม การอาบน้ำ และการกล่อมลูกนอนอย่างตั้งใจ

"คุณภีมคะ ต้องพับผ้าอ้อมแบบนี้ค่ะ" ปลายฝันคอยแนะนำ

ภาคินัยพยายามทำตามอย่างตั้งใจ แต่ก็ยังเงอะงะไปบ้าง "ยากกว่าที่คิดเยอะเลยครับปาย" เขาบ่นพลางหัวเราะ

แม้จะทุลักทุเลในช่วงแรก แต่ภาคินัยก็ไม่เคยย่อท้อ เขาทุ่มเทฝึกฝนจนสามารถเปลี่ยนผ้าอ้อม ชงนม และอุ้มน้องเมฆได้อย่างคล่องแคล่ว สิ่งที่เขาชอบทำมากที่สุดคือการใช้เวลาหลังเลิกงานมาเล่นกับลูกชายตัวน้อย ร้องเพลงกล่อมลูกนอน และพาเดินเล่นรอบบ้าน

"ป๊าขอหอมหน่อยครับ น้องเมฆ" เขาจะกระซิบเบาๆ พลางหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่ด้วยความรัก

การอดหลับอดนอนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ภาคินัยต้องตื่นกลางดึกเมื่อน้องเมฆร้องไห้ แต่เขาก็ไม่เคยบ่น กลับกันเขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ลูกชาย และได้เห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน เขารู้สึกว่าการมีลูกคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต และตระหนักว่าครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุด

ธามผู้บริหารหนุ่มที่เคยเอาจริงเอาจังกับการทำงาน ตอนนี้ก็ได้ก้าวเข้าสู่บทบาทคุณพ่อเต็มตัวเช่นกัน การมาถึงของน้องเมษาทำให้เขากลายเป็นคุณพ่อที่อบอุ่นและอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ

ในตอนแรกธามก็รู้สึกประหม่าไม่น้อยกับการดูแลทารกตัวเล็กๆ เขาไม่กล้าแม้แต่จะอุ้มน้องเมษาด้วยซ้ำ

"คุณธามคะ ลองอุ้มดูสิคะ" น้ำหวานยิ้มและส่งน้องเมษาให้เขาอย่างเข้าใจ

ธามค่อยๆ รับน้องเมษามาอุ้มอย่างระมัดระวังมือที่เคยจับปากกาเซ็นเอกสารสำคัญ ตอนนี้กลับโอบอุ้มลูกสาวตัวน้อยด้วยความทะนุถนอม เมื่อเขาได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของลูกสาว เขาก็รู้สึกถึงความรักที่เอ่อล้นในหัวใจ

"คุณธามคะ ดูสิคะ น้องเมษายิ้มให้คุณธามด้วยค่ะ" น้ำหวานบอกด้วยความดีใจ

ตั้งแต่วันนั้นธามก็เริ่มเรียนรู้การดูแลน้องเมษาอย่างจริงจัง เขาพยายามช่วยน้ำหวานในทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ้าอ้อม การพาเดินเล่นเบาๆ หรือการกล่อมลูกนอน เขาจะคอยซัพพอร์ตน้ำหวานอยู่เสมอ

ธามเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง เมื่อเขาทุ่มเทให้กับอะไรแล้ว เขาก็จะทำให้ดีที่สุด การเลี้ยงลูกก็เช่นกัน เขาทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับน้องเมษาอย่างเต็มที่ สิ่งที่เขาชอบทำกับน้องเมษามากที่สุดคือการอ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนนอนแม้น้องเมษาจะยังไม่เข้าใจความหมายของเรื่องราว แต่ธามก็เชื่อว่าเสียงของเขาจะช่วยให้ลูกสาวรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย

"หนูเมษาจ๋า วันนี้ป๊าจะอ่านเรื่องเจ้าหญิงนิทราให้ฟังนะครับ" ธามกระซิบเบาๆ พลางลูบผมลูกสาวอย่างอ่อนโยน

เช่นเดียวกับภาคินัย ธามต้องอดหลับอดนอนบ่อยครั้งเมื่อน้องเมษาร้องไห้กลางดึก แต่เขาก็ไม่เคยบ่น กลับกันเขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้โอบกอดลูกสาวไว้ในอ้อมแขน

ธามเริ่มปรับเปลี่ยนตารางงานเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น เขาตระหนักว่าชีวิตไม่ได้มีแค่เรื่องงานอีกต่อไป แต่ยังมีสิ่งมีค่าที่รอให้เขาดูแลและเอาใจใส่อีกด้วย

การที่น้องเมฆและน้องเมษาคลอดในวันเดียวกัน ทำให้ภาคินัยและธามกลายเป็นคุณพ่อมือใหม่ไปพร้อมๆ กัน พวกเขามักจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้คำแนะนำซึ่งกันและกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความทุลักทุเลในการเปลี่ยนผ้าอ้อม อาการนอนไม่พอ หรือแม้แต่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้จากการเฝ้าดูลูกน้อยเติบโต

"แกธาม! น้องเมฆนี่ร้องไห้ตอนกลางคืนบ่อยมากเลยว่ะ" ภาคินัยบ่นกับธามในขณะที่พวกเขานัดทานข้าวกัน

"เออภีม! เมษาก็เป็นเหมือนกัน! บางคืนนี่แทบไม่ได้นอนเลย" ธามตอบพลางถอนหายใจเล็กน้อย "แต่น้ำหวานนี่เก่งโคตรๆ เลยแก เธอรับมือได้ดีกว่าฉันเยอะ"

พวกเขาทั้งสองคนเข้าใจกันดี เพราะต่างก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน การมีเพื่อนคู่คิดในบทบาทใหม่นี้ ทำให้พวกเขารู้สึกมีกำลังใจและไม่โดดเดี่ยว

ปลายฝันและน้ำหวานเองก็ยังคงเป็นเพื่อนรักกัน พวกเธอมักจะโทรศัพท์คุยกันทุกวัน เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องลูก การดูแลตัวเองหลังคลอด และการปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ การสนับสนุนซึ่งกันและกันของทั้งสองคู่ ทำให้พวกเขากลายเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกันเสมอ

ภาคินัยและธามได้ก้าวเข้าสู่บทบาทของการเป็นคุณพ่อมือใหม่อย่างเต็มตัว แม้จะมีความเหนื่อยล้าและความท้าทายอยู่บ้าง แต่ความสุขที่ได้รับจากการมีลูกน้อยเข้ามาเติมเต็มในชีวิตนั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งอื่นใด

พวกเขาเรียนรู้ที่จะเสียสละ อดทน และเข้าใจในความต้องการของลูกน้อย ความรักที่บริสุทธิ์ที่ลูกมอบให้ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าทุกความเหนื่อยล้าคุ้มค่า

จากนี้ไป ชีวิตของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน จะไม่ได้มีแค่กันและกันอีกต่อไป แต่ยังมีน้องเมฆและน้องเมษา ดวงใจน้อยๆ ที่เข้ามาเติมเต็มให้ครอบครัวของพวกเขาสมบูรณ์แบบและอบอุ่นยิ่งขึ้นไปตลอดกาล

อนาคตกำลังรอคอยพวกเขาอยู่ข้างหน้า และพวกเขาพร้อมแล้วที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับลูกน้อยทั้งสองคน สร้างความทรงจำที่ดีงาม และเติมเต็มชีวิตด้วยความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด