ตอนที่ 23 ทิชาเจอกับความห่วงใยจากธาม

ตอนที่ 23 ทิชาเจอกับความห่วงใยจากธาม

ขณะที่ความรักระหว่างภาคินัยและปลายฝันกำลังเบ่งบานอย่างงดงาม อีกด้านหนึ่งของเรื่องราวกลับเต็มไปด้วยความมืดมิดและแผนการร้ายที่กำลังดำเนินไปอย่างลับๆ ทิชายังคงยึดมั่นในความแค้นและต้องการที่จะทำลายปลายฝันให้สิ้นซาก เธอวางแผนที่จะเปิดโปงเรื่องราวที่บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับปลายฝันสู่สาธารณะ เพื่อทำลายชื่อเสียงและอนาคตของเธอในวงการออกแบบอย่างถาวร

แต่โชคชะตากลับเล่นตลก ในช่วงเวลาที่ทิชากำลังสาละวนอยู่กับการวางแผนอันชั่วร้าย บริษัทของเธอซึ่งเป็นธุรกิจนำเข้าเครื่องประดับอัญมณีรายใหญ่ ก็ประสบปัญหาครั้งใหญ่ เมื่อมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าเครื่องประดับของบริษัทไม่ได้มาตรฐาน และมีการปลอมแปลงใบรับรองคุณภาพ ทำให้ลูกค้าเริ่มไม่เชื่อมั่นและยกเลิกคำสั่งซื้อจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทตกฮวบอย่างรุนแรง

คุณหญิงรัญจวน มารดาของทิชา และประธานบริษัท รู้สึกเครียดและวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เธอพยายามหาทางแก้ไขปัญหา แต่ข่าวลือที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วก็ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ

“ทิชา แกต้องช่วยแม่นะ” คุณหญิงรัญจวนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง “บริษัทกำลังจะล้มละลายแล้วนะ”

ทิชาเองก็รู้สึกตกใจและเครียดไม่แพ้กัน เธอไม่เคยคิดว่าปัญหาจะร้ายแรงได้ถึงขนาดนี้

“แล้วเราจะทำยังไงดีคะคุณแม่” ทิชาถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“เราต้องหาทางกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทกลับมาให้ได้” คุณหญิงรัญจวนเอ่ยขึ้น “แต่แม่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”

ในขณะที่สองแม่ลูกกำลังจมอยู่กับปัญหา ธามซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทของภาคินัย ก็ได้รับข่าวสารเกี่ยวกับปัญหาของบริษัททิชามาบ้าง เขารู้สึกเป็นห่วงภาคินัยว่าจะได้รับผลกระทบไปด้วย หากตระกูลที่ต้องมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจมีปัญหาเช่นนี้

ธามตัดสินใจที่จะเข้าไปหาภาคินัยเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

“ภีม แกได้ยินข่าวเรื่องบริษัทคุณทิชาหรือยังวะ” ธามถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของภาคินัย

ภาคินัยพยักหน้าเล็กน้อย “ได้ยินมาบ้างแล้วล่ะธาม”

“ข่าวลือมันค่อนข้างแรงเลยนะ” ธามเอ่ยขึ้น “ดูเหมือนบริษัทของคุณทิชาจะแย่เอาการเลยว่ะ”

ภาคินัยถอนหายใจเล็กน้อย “ฉันก็ไม่อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้นะ”

“แกจะช่วยพวกเขาไหม” ธามถาม

ภาคินัยเงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันยังไม่แน่ใจว่ะธาม”

“ฉันว่าแกควรจะช่วยนะภีม” ธามเอ่ยขึ้น “ถึงแม้ว่าคุณทิชาจะเคยทำไม่ดีกับแก แต่พวกเขาก็ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเรานะ”

ภาคินัยพยักหน้าเล็กน้อย “ฉันจะลองคิดดูอีกทีนะ”

หลังจากที่ธามเดินจากไป ภาคินัยก็ครุ่นคิดถึงคำพูดของธาม เขารู้สึกเห็นใจทิชาและคุณหญิงรัญจวนบ้างเล็กน้อย แม้ว่าพวกเขาจะเคยสร้างปัญหาให้เขาและปลายฝันมาตลอด แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะเห็นใครต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก

ในขณะเดียวกัน ทิชารู้สึกเครียดและกดดันอย่างมาก เธอพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ และคนรู้จัก แต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้เลย

ในที่สุด ทิชาตัดสินใจที่จะไปหาธามที่บริษัทของภาคินัย เธอรู้ดีว่าธามมีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ และอาจจะสามารถช่วยเธอได้

เมื่อมาถึงบริษัทของภาคินัย ทิชาก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของธาม

“คุณธามคะ” ทิชาเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “ทิชามีเรื่องอยากจะรบกวนคุณธามหน่อยค่ะ”

ธามเงยหน้าขึ้นมองทิชา เขาเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของเธอ

“มีอะไรครับคุณทิชา” ธามถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ

ทิชาถอนหายใจเฮือกใหญ่ “บริษัทของทิชากำลังมีปัญหาหนักเลยค่ะคุณธาม ทิชาไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว”

ธามพยักหน้าเล็กน้อย “ผมพอจะทราบข่าวมาบ้างแล้วครับ”

“คุณธามพอจะช่วยทิชาได้ไหมคะ” ทิชาถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง “คุณธามมีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ใช่ไหมคะ”

ธามเงียบไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ทิชาด้วยสายตาที่จริงใจ

“ผมจะช่วยคุณนะครับคุณทิชา” ธามเอ่ยขึ้น “แต่คุณต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังนะครับ”

คำพูดของธามทำให้ทิชารู้สึกประหลาดใจและดีใจอย่างมาก เธอไม่คิดว่าเขาจะยอมช่วยเธอง่ายๆ แบบนี้

ทิชาเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับบริษัทของเธอให้ธามฟัง ตั้งแต่เรื่องข่าวลือ การยกเลิกคำสั่งซื้อ และความเสียหายที่บริษัทได้รับ

ธามรับฟังอย่างตั้งใจ เขาจดบันทึกข้อมูลสำคัญๆ และวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบ

“ผมจะช่วยคุณวางแผนการกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทนะครับคุณทิชา” ธามเอ่ยขึ้น “แต่คุณต้องทำตามคำแนะนำของผมอย่างเคร่งครัดนะครับ”

“ทิชาจะทำตามทุกอย่างเลยค่ะคุณธาม” ทิชาตอบรับอย่างกระตือรือร้น

หลังจากนั้น ธามก็เริ่มลงมือช่วยเหลือทิชาอย่างจริงจัง เขาใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของเขาในการวางแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่ครอบคลุม เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัททิชากลับคืนมา

ธามแนะนำให้บริษัทของทิชาแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดอย่างโปร่งใส และดำเนินการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องประดับอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

เขายังเสนอให้บริษัทจัดแคมเปญพิเศษ เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทอีกครั้ง

ทิชารู้สึกประทับใจในความสามารถและความจริงใจของธามเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้หวังผลประโยชน์ใดๆ จากเธอเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับเข้ามาช่วยเหลือเธออย่างเต็มที่ในยามที่เธอกำลังลำบากที่สุด

“คุณธามคะ” ทิชาเอ่ยขึ้นเมื่อพวกเขาประชุมงานกันเสร็จ “ทิชาไม่รู้จะขอบคุณคุณธามยังไงดีค่ะ”

ธามยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณทิชา ผมเต็มใจช่วยคุณ”

“คุณธามเป็นคนดีมากจริงๆ นะคะ” ทิชาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ “ทิชาขอโทษนะคะที่เคยทำไม่ดีกับคุณธามและคุณภีม”

คำขอโทษของทิชาทำให้ธามรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเธอจะพูดคำนี้ออกมาจากปาก

“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณทิชา” ธามเอ่ยขึ้น “ทุกคนต่างก็เคยทำผิดพลาดกันได้ครับ”

บทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างธามและทิชาในครั้งนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทิชาเริ่มมองธามในมุมมองที่แตกต่างออกไป เธอเห็นความดีงามและความจริงใจในตัวเขา ซึ่งเธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

ในขณะเดียวกัน ภาคินัยก็ได้รับข่าวจากธามเกี่ยวกับการช่วยเหลือบริษัททิชา

“แกแน่ใจนะธามว่าจะช่วยพวกเขา” ภาคินัยถามด้วยความกังวล

“ฉันแน่ใจภีม” ธามตอบ “ฉันคิดว่านี่คือโอกาสดีที่จะช่วยให้ทุกฝ่ายกลับมาคืนดีกันนะ”

ภาคินัยเงียบไปครู่หนึ่ง เขาชื่นชมในความใจกว้างของธามที่ไม่ถือโทษโกรธเคืองทิชาเลยแม้แต่น้อย

“ขอบใจมากนะธาม” ภาคินัยเอ่ยขึ้น “นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันจริงๆ”

หลังจากนั้น ธามก็ยังคงให้คำปรึกษาและช่วยเหลือบริษัทของทิชาอย่างต่อเนื่อง เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจในการกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัท จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ

ทิชารู้สึกซาบซึ้งใจในความช่วยเหลือของธามเป็นอย่างมาก เธอเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น เธอเลิกที่จะคิดร้ายกับปลายฝัน และหันมาสนใจเรื่องธุรกิจของครอบครัวอย่างจริงจัง

วันหนึ่ง ทิชาตัดสินใจที่จะเข้าไปหาปลายฝันที่แผนกออกแบบ

“คุณปลายฝันคะ” ทิชาเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ

ปลายฝันเงยหน้าขึ้นมองทิชา เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นทิชามาหาเธอถึงที่

“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณทิชา” ปลายฝันถาม

ทิชาถอนหายใจเล็กน้อย “ทิชาอยากจะขอโทษคุณปลายฝันนะคะ สำหรับทุกสิ่งที่ทิชาเคยทำไม่ดีกับคุณปลายฝัน”

คำขอโทษของทิชาทำให้ปลายฝันรู้สึกตกใจ เธอไม่คิดว่าทิชาจะมาขอโทษเธอถึงที่

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณทิชา” ปลายฝันตอบด้วยรอยยิ้ม “ปายไม่โกรธคุณทิชาแล้วค่ะ”

ทิชาหลยิ้มเล็กน้อย “ขอบคุณมากนะคะคุณปลายฝัน”

บทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างทิชาและปลายฝันในครั้งนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง ปลายฝันรู้สึกโล่งใจที่เรื่องราวทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายไปในทางที่ดี

ในขณะเดียวกัน ภาคินัยที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ห่างๆ ก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เขารู้สึกมีความสุขที่ทุกคนได้กลับมาคืนดีกัน

เรื่องราวความรักของภาคินัยและปลายฝันกำลังจะก้าวไปสู่บทใหม่ที่เต็มไปด้วยความสุขและความเข้าใจ และบทบาทของธามในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี