การเดินทางสู่ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของนิวซีแลนด์เป็นมากกว่าแค่การพักผ่อนสำหรับ ภาคินัย และ ปลายฝัน มันคือการเดินทางเพื่อค้นหาความสุขที่แท้จริง และการสร้าง ความทรงจำที่สวยงาม ร่วมกัน ที่ทำให้ ความรักของพวกเขาเบ่งบานเต็มที่ ดุจดอกไม้นานาพรรณในฤดูใบไม้ผลิ ทุกช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกันท่ามกลางทัศนียภาพอันตระการตา ได้หล่อหลอมให้หัวใจของพวกเขาผูกพันกันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าบนเส้นทางแห่งความรักที่สมบูรณ์แบบ
เช้าวันหนึ่งที่ฟยอร์ดมิลฟอร์ด ซาวด์ ปลายฝันตื่นขึ้นมาด้วยแสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องพักของลอดจ์เล็กๆ ริมน้ำ ภาคินัยยังคงนอนหลับอยู่ข้างๆ เธอ ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายและไร้ความกังวล
ปลายฝันลุกขึ้นอย่างเงียบๆ เดินไปที่ระเบียงห้องพัก สูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า และมองดูผิวน้ำที่นิ่งสงบราวกับกระจกสะท้อนเงาของภูเขาสูงตระหง่าน แสงสีทองของดวงอาทิตย์ค่อยๆ สาดส่องลงมา ทำให้ทิวทัศน์เบื้องหน้าดูงดงามราวกับภาพฝัน
ภาคินัยค่อยๆ ตื่นขึ้นมา เขาเห็นปลายฝันยืนอยู่ที่ระเบียง จึงเดินเข้าไปโอบกอดเธอจากด้านหลัง
"อรุณสวัสดิ์ครับปาย" ภาคินัยกระซิบเบาๆ จูบเบาๆ ที่ไหล่ของเธอ
ปลายฝันเอนตัวพิงกับอกของเขา "อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณภีม ที่นี่สวยงามมากเลยนะคะ"
"สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยครับ" ภาคินัยตอบพลางกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น "ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่ความสุข"
พวกเขาใช้เวลาในช่วงเช้าตรู่ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติ พูดคุยกันเบาๆ และรู้สึกถึงความสุขที่เรียบง่ายที่ได้อยู่เคียงข้างกันในสถานที่ที่สวยงามเช่นนี้
ตลอดการเดินทางในนิวซีแลนด์ ภาคินัยและปลายฝันได้สร้างความทรงจำที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความประทับใจ
การขับรถผ่านทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตา: พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการขับรถสำรวจเกาะใต้ ถนนที่คดเคี้ยวเลียบไปตามภูเขา ทะเลสาบ และทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสุข ปลายฝันมักจะร้องเพลงคลอไปกับวิทยุ ภาคินัยคอยส่งเสียงหัวเราะและบางครั้งก็ร้องตามเธอไปด้วย
มีอยู่ครั้งหนึ่ง พวกเขาจอดรถข้างทางเพื่อถ่ายรูปทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยแกะจำนวนนับไม่ถ้วน ปลายฝันวิ่งเข้าไปใกล้ฝูงแกะด้วยความตื่นเต้น ภาคินัยหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพรอยยิ้มสดใสของเธอ แกะบางตัวเดินเข้ามาใกล้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำให้ปลายฝันหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
ประสบการณ์ล่องเรือคายัค: ในวันที่อากาศแจ่มใส พวกเขาตัดสินใจไปล่องเรือคายัคในทะเลสาบที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ปลายฝันไม่เคยพายเรือคายัคมาก่อน เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ภาคินัยคอยให้กำลังใจและสอนวิธีการพายให้เธอ
"ไม่ต้องกลัวนะครับปาย ผมอยู่ตรงนี้แล้ว" ภาคินัยพูดพลางจับมือเธอไว้แน่น
แรกๆ ปลายฝันพายเรือเก้ๆ กังๆ ทำให้เรือหมุนวนไปมาไม่ไปไหน ภาคินัยหัวเราะเบาๆ ก่อนจะช่วยเธอปรับทิศทาง เมื่อพายได้คล่องขึ้น พวกเขาก็ล่องเรือไปตามผิวน้ำสีฟ้าใส สัมผัสได้ถึงความสงบและเย็นสบายของธรรมชาติ การได้ทำกิจกรรมใหม่ๆ ร่วมกันแบบนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายและสนุกสนานอย่างแท้จริง
ปิกนิกใต้แสงดาว: คืนหนึ่งที่เทคาโป หลังจากชมดาวจนเต็มอิ่มแล้ว ภาคินัยเซอร์ไพรส์ปลายฝันด้วยการจัดปิกนิกเล็กๆ ใต้แสงดาว เขาเตรียมแซนด์วิช ผลไม้ และไวน์มาอย่างดี พวกเขานั่งคุยกันใต้แสงดาวนับล้านดวง แบ่งปันความฝันและความปรารถนาในอนาคต
"คุณภีมคะ... ปายไม่เคยคิดเลยว่าจะมีช่วงเวลาแบบนี้ในชีวิต" ปลายฝันกล่าวด้วยน้ำเสียงตื้นตัน
ภาคินัยยิ้ม "ผมก็เหมือนกันครับปาย การได้อยู่กับคุณในที่แบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกเติมเต็มที่สุดแล้ว"
ทุกประสบการณ์ที่ได้ใช้ร่วมกันในนิวซีแลนด์ ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความผูกพันที่แน่นแฟ้นของภาคินัยและปลายฝัน พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คู่รัก แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมเดินทางที่เข้าใจและสนับสนุนกันในทุกๆ ก้าว
พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะดูแลกันและกันในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย ภาคินัยคอยดูแลปลายฝันในทุกเรื่อง ตั้งแต่การเดินทาง การเลือกที่พัก ไปจนถึงการจัดหาอาหาร เขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและได้รับการปกป้องเสมอ ปลายฝันเองก็คอยใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของภาคินัย เธอเตรียมเสื้อผ้าให้เขา ทำอาหารง่ายๆ ให้ทาน และคอยให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พวกเขาไปเดินป่าท่ามกลางสายฝนปรอยๆ ปลายฝันเดินสะดุดก้อนหิน ภาคินัยรีบเข้าไปประคองเธอไว้ทันที เขาถอดเสื้อแจ็กเก็ตของเขามาคลุมให้เธอ และเดินกอดเอวเธอไปตลอดทางเพื่อให้เธออบอุ่นและปลอดภัย
"ไม่เป็นไรนะครับปาย ผม อยู่ตรงนี้" ภาคินัยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ปลายฝันเงยหน้ามองเขา "ขอบคุณนะคะคุณภีม" เธอรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่แค่เพราะเสื้อแจ็กเก็ตที่เขาให้ แต่เป็นเพราะความห่วงใยที่เขามีให้เธอ
การเดินทางในครั้งนี้เป็นเหมือนบทสรุปของการเดินทางแห่งความรักของพวกเขา ความทรงจำที่สวยงามทุกเรื่องราวที่สร้างขึ้นร่วมกัน ทำให้ความรักของภาคินัยและปลายฝันเบ่งบานเต็มที่ พวกเขาไม่ได้รักกันแค่เพราะรูปลักษณ์ภายนอก หรือฐานะทางสังคม แต่รักกันด้วยใจที่แท้จริง รักในความเป็นตัวตนของกันและกัน และรักในสิ่งที่พวกเขาสามารถเป็นได้เมื่ออยู่ด้วยกัน
ในคืนสุดท้ายที่นิวซีแลนด์ ภาคินัยและปลายฝันนั่งอยู่ริมหน้าต่างห้องพัก มองดูแสงจันทร์ที่ส่องประกายอยู่บนผิวน้ำ พวกเขากุมมือกันแน่น
"ปายครับ... ผม ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตของ ผม จะมีความสุขได้ขนาดนี้" ภาคินัยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ "การได้อยู่กับปาย การได้สร้างความทรงจำดีๆ แบบนี้ มันคือสิ่งที่ ผม ต้องการที่สุดแล้วครับ"
ปลายฝันซบหน้ากับไหล่ของภาคินัย "ปายก็เหมือนกันค่ะคุณภีม ปายรู้สึกเหมือนปายเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลยค่ะ"
ภาคินัยค่อยๆ หันมาหาปลายฝัน เขามองเข้าไปในดวงตาของเธอ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน เขาค่อยๆ ก้มลงจูบเธออย่างแผ่วเบา จูบที่เต็มไปด้วยความรัก ความผูกพัน และความสุขที่เอ่อล้นอยู่ในหัวใจของพวกเขา
การเดินทางเพื่อพักผ่อนที่นิวซีแลนด์เป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ในชีวิตของภาคินัยและปลายฝัน พวกเขากลับมาพร้อมกับหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุข และพร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็เต็มไปด้วยความหวังและกำลังใจจากกันและกัน
"ภาคินัย กรุ๊ป" ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้การนำของพวกเขา และดำเนินธุรกิจภายใต้หลักจริยธรรมที่เข้มแข็ง
ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันจะเป็นดั่งบทพิสูจน์ว่า ความรักที่แท้จริงสามารถหล่อหลอมให้คนสองคนเป็นหนึ่งเดียวกัน และสร้างความสุขที่ยั่งยืนได้ หากพวกเขาพร้อมที่จะเรียนรู้ เติบโต และสร้างความทรงจำที่สวยงามร่วมกันในทุกๆ ก้าวของชีวิต
ความทรงจำที่สวยงามจากนิวซีแลนด์จะยังคงอยู่ในใจของพวกเขาตลอดไป เป็นดั่งเครื่องเตือนใจว่าความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล แต่อยู่ที่การได้อยู่เคียงข้างคนที่เรารัก และได้สร้างเรื่องราวดีๆ ร่วมกันในทุกๆ วัน
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ