เวลาต่อมา อรนำกะละมังและผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กมาวางเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียงให้กับเดือนอ้าย
“พี่อรผสมน้ำให้คุณอ้ายแล้วนะคะ”
“ขอบคุณพี่อรมากนะคะ เดี๋ยวอ้ายดูแลต่อเองค่ะ”
อรมองอีกฝ่ายอย่างลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายเมื่อคิดได้ว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันแล้ว หน้าที่นี้ควรเป็นเดือนอ้ายที่ต้องดูแลถึงจะถูก
“ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติม เรียกพี่ได้เสมอนะคะคุณอ้าย”
หญิงสาวยิ้มให้กับอรและมองจนฝ่ายนั้นออกไป ทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง
ร่างบางขยับเข้าไปนั่งลงบนเตียงของอีกฝ่าย พลางมองเขาด้วยสายตาหม่นโศก
“คุณพริกคะ เช็ดตัวก่อนนะคะ”
เสียงแว่วหวานดังขึ้น ทำให้คนที่คล้ายกับครึ่งหลับครึ่งตื่นส่งเสียงอยู่ในลำคอพลางปัดมือที่กำลังวุ่นวายอยู่บนตัวของเขาออก
“ฮื้อ…อย่ามายุ่ง”
เสียงอ้อแอ้บ่งบอกถึงความเมาอย่างหนักของ พาทิศทำให้เดือนอ้ายที่มองเขาอยู่นั้นน้ำตาคลอ ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเบาๆ มือเรียวเล็กสั่นขณะปลดกระดุมออกจากเสื้อเชิ้ตสีดำของอีกฝ่าย ระหว่างนั้นเขายังคงปัดป้องอยู่กลายๆ แต่สุดท้ายหญิงสาวก็สามารถถอดเสื้อออกจากร่างของเขาได้ แล้วค่อยๆ เช็ดเนื้อตัวของเขาอย่างแผ่วเบา ดวงตาคู่งามมองคนตรงหน้าด้วยความรัก รักชนิดที่ว่าไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ รักจนยอมให้เขาเกลียดชัง ยอมถูกคนในครอบครัวของเขาดูแคลน เพียงเพราะต้องการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อว่าสักวันเขาจะหันกลับมามองหล่อนด้วยสายตารักใคร่บ้าง
“อ้ายรักคุณพริกนะคะ”
เสียงหวานกระซิบ ทว่าคนที่หลับตาและหายใจสม่ำเสมอกลับคิดว่าเป็นความฝัน
ไม่...ฉันไม่รักเธอ
นั่นคือสิ่งที่เขาคิดและพูดออกไปในความฝัน แต่คนที่ถูกเขาตะโกนใส่หน้ากลับน้ำตาอาบแก้มออกมาจริงๆ เมื่อได้ยินเสียงพึมพำออกมาจากปากคนละเมอ...
“ฉันไม่รักเธอ ไม่เคยคิดจะรัก”
ไม่ว่าคืนที่ผ่านมาพาทิศจะดื่มหนักหนาแค่ไหน แต่ในเช้าวันใหม่เขาก็กลับมาเป็นพาทิศคนเดิม ที่เคร่งขรึม เย็นชา...
เมื่อร่างสูงเดินลงมาจากห้องนอน เขาก็ได้พบเดือนอ้ายรออยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมมารดาเรียบร้อยแล้ว เดิมทีเขาตั้งใจรับประทานอาหารเช้า แต่พอเห็นหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนใจทันที
“นั่นจะรีบไปไหนจ๊ะ ไม่มากินข้าวด้วยกันก่อนหรือไง”
พาทิศสบตามารดาแล้วส่ายหน้า
“ไม่ล่ะครับ วันนี้ผมมีประชุมแต่เช้า เดี๋ยวจะไม่ทัน”
พูดจบเขาปรายตามองเดือนอ้ายที่มีสีหน้าหม่นวูบลงทันทีที่กล่าวจบ หญิงสาวหลุบสายตามองอาหารสองในห้าอย่างที่หล่อนเป็นคนลงมือทำด้วยตนเอง เป็นอาหารที่เขาชอบและหล่อนตั้งใจทำให้เขาโดยเฉพาะ
คุณปาลินผ่อนลมหายใจ ก่อนจะเหลือบตามองลูกสะใภ้แวบหนึ่ง
“กินสักหน่อยไม่ได้เหรอ อ้ายทำของโปรดเอาไว้ให้ลูกด้วยนะ” ท่านกล่าวพร้อมรอยยิ้มอ่อนจาง ทำให้ พาทิศหลุบดวงตามองอาหารบนโต๊ะ หญิงสาวพยายามมองหาความเปลี่ยนแปลงในแววตาแต่กลับไม่พบเลย ทำให้หัวใจดวงน้อยวูบโหวง เกิดความรู้สึกน้อยใจขึ้นอีกครั้ง
“ไม่ทันแล้ว ผมไปก่อนนะครับ” ร่างสูงหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่คิดจะสนใจสายตาคู่งามที่กำลังมองตามเขาไปจนลับตา
คุณปาลินมองเดือนอ้ายแล้วถอนหายใจออกมาเสียงดัง ทำให้หญิงสาวจำต้องหันไปมองท่านก่อนหลบสายตาที่เจือรอยยิ้มสมเพชแทนรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างที่ควรจะมอบให้
“นี่แหละตาพริกของฉัน เขาเป็นคนแบบนี้ ไม่ค่อยสนใจอะไรรอบข้างนัก แต่ถ้าเป็นเรื่องงานละก็จะไม่มีทางผิดพลาดเด็ดขาด เธอเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียเขาก็จริง แต่ก็อย่าคาดหวังว่าเขาจะสนใจไยดีเธอเหมือนอย่างสามีของคนอื่น ยิ่งเขาไม่เต็มใจด้วยแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่ ทางที่ดีก็อย่าไปยุ่งวุ่นวายกับเขาให้มากนัก ดีไม่ดีอาจจะยิ่งทำให้เขารำคาญจนเกิดการแตกหักได้ ขอโทษที่ฉันพูดตรงๆ แต่เพราะไม่อยากให้เธอคาดหวังอะไรในตัวของเขานัก ฉันจึงต้องพูดให้ชัดเจน เอาละ กินข้าวกันได้ อรตักข้าว”
อรละสายตาที่มองเดือนอ้ายด้วยความเห็นใจก่อนเดินเข้าไปตักข้าวให้กับเจ้านาย
เดือนอ้ายรับประทานอาหารมื้อนั้นอย่างไม่รู้รสอาหารเลยสักนิดเดียว ยกเว้นรสชาติของน้ำตาที่กำลังตกในอยู่ในขณะนี้
การร่วมชีวิตระหว่างพาทิศและเดือนอ้ายมีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ และเขาก็พอใจให้เป็นเช่นนั้น ขณะที่ชายหนุ่มยังคงใช้ชีวิตสำเริงสำราญเหมือนเดิม เดือนอ้ายก็กลายเป็นนางอาย ที่เก็บตัวอยู่เพียงในบ้าน แทบไม่ได้รับอนุญาตให้ปรากฏตัวตามลำพัง หากหล่อนต้องการออกไปข้างนอก เพื่อซื้อของใช้จำเป็น จะมีคนขับรถและอรตามประกบด้วยเสมอ การพบปะเพื่อนฝูงเพื่อปรับทุกข์จึงไม่เคยเกิดขึ้น
แต่วันนี้ ขณะที่หญิงสาวกำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับแม่และเด็กอยู่ในห้องนอนส่วนตัว ก็มีข้อความส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ จึงวางหนังสือลงบนตักแล้วหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอ่านข้อความ ทว่าภาพที่เห็นทำให้หัวใจดวงน้อยวูบดิ่ง ร้อนรุ่ม มือเรียวอ่อนแรงลง
ภาพนั้นคือภาพของชายหญิงที่ดูอย่างไรก็ไม่อาจมองเป็นอื่นไปได้นอกจากคู่รักหวานฉ่ำ ที่สำคัญผู้ชายในภาพคือพาทิศ สามีของหล่อน ส่วนผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นสาวสวยไฮโซที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในสังคมชั้นสูงเวลานี้ ทั้งหน้าที่การงาน การศึกษาดีกรีนักเรียนนอก บิดามารดาเป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียงโด่งดัง เรียกได้ว่าเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
โทรศัพท์มือถือหลุดจากมือหล่นลงบนที่นอนนุ่ม พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลงมาในเวลาเดียวกัน
เมื่อคืนนี้ เขาไม่ได้โกหกหรอก แม้ในยามหลับใหล เขาก็ยังมั่นคงในความคิด นั่นคือไม่รักหล่อน ไม่เคยรักยิ่งไม่คิดจะให้เกียรติ เขาจึงทำอะไรแบบนั้น คบหาผู้หญิงอื่นอย่างเปิดเผย ทั้งที่มีเมียตีทะเบียนรออยู่ที่บ้านทุกเมื่อเชื่อวัน
เพราะหล่อนเป็นเมียที่เขาไม่รัก เขาจึงไม่สนใจว่าหล่อนจะคิดเช่นไรกับสิ่งที่เขาทำลงไป บางทีเขาอาจตั้งใจให้หล่อนรับรู้ เพื่อที่หล่อนจะได้ทนไม่ได้และสุดท้ายก็ตัดสินใจออกไปจากชีวิตของเขาเสียเอง...
สามปีต่อมา ช่วงหลังเลิกงาน ร่างสูงในชุดทำงานขาดแต่สูท เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มพับแขน แต่แทนที่เขาจะอยู่บ้านกลับนั่งรอผลการตรวจร่างกายของภรรยาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จนเกือบสิบห้านาที นางพยาบาลจึงเดินออกมาเรียกเดือนอ้ายไปพบแพทย์ ชายหนุ่มผุดลุกและเดินตามภรรยาไปติดๆ หลังจากนั้นอีกแค่สิบนาทีสองสามีภรรยาก็ก้าวออกมาพร้อมรอยยิ้มสมใจของพาทิศ และสายตาค้อนคมของเดือนอ้าย “ถ้าน้องปราณกับน้องปริมรู้ว่ากำลังจะมีน้องอีกคน เด็กๆ จะต้องดีใจแน่ๆ” เขารวบเอวนุ่มของภรรยาเข้าไปกอดด้วยสีหน้าสดชื่น ท่าทางดีใจจนออกนอกหน้า ในขณะที่คนเป็นภรรยาทำหน้าตูม เพราะเขาเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาปั๊มลูกคนแล้วคนเล่า... “พี่พริก เราพอแค่คนนี้ได้ไหมคะ อ้ายเหนื่อยแล้วนะคะ” หญิงสาวซบหน้ากับท่อนแขนแกร่งเมื่อเข้ามานั่งภายในรถยนต์กับสามีผู้เป็นคนขับ ชายหนุ่มหลุบตามองหญิงสาวยิ้มๆ แล้วบอก “อันที่จริงพี่ตั้งใจมีสักห้าคน” คำตอบของพาทิศทำเอาคุณแม่ลูกสองในท้องอีกหนึ่งถึงกับเบิกตาโต “บ้าสิพี่พริก! อ้ายไม่ใช่แม่พันธุ์นะคะ” อุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะผละออกมาจากสามีด้วยท่าทีปั้นปึ่ง ทำเอาพาทิศถึง
เนื้อแน่นหนั่นนุ่มตึงถูกลูบไล้หนักมือพร้อมเสียงตบเพียะเบาๆ จากฝ่ามือแกร่ง จากนั้นกลีบสาวสีหวานก็ถูกโลมเล้าด้วยปลายนิ้วและฝ่ามือเรียวยาว เขาสอดปลายนิ้วแหย่เข้าไปในช่องทางคับแคบ ขยับขยุกขยิกเข้าๆ ออกๆ จนหญิงสาวร้องครวญครางสูดปาก “พี่พริก อือ...” พาทิศแสบร้อนสมชื่อ เขาทำให้หล่อนร้อนราวกับถูกไฟสุมไปทั้งร่าง ทั้งเสียวซ่านกับการเล้าโลมอย่างผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นหญิงสาวต้องสะดุ้ง เมื่อกลีบกุหลาบที่แย้มเยิ้มถูกปลายลิ้นกวาดเลียหยาดน้ำเชื่อม แล้วสอดลึกแหย่เย้าราวจะหยอกเอิน ยิ่งเพิ่มความกระสันเป็นทวีคูณเมื่อเขาสอดเสือกปลายนิ้วเรียวยาวเข้าออก แล้วบดบี้จุดกระสันจนเสียวปราดไปทั้งร่าง “อ๊าส์ โอ๊ย พะ...พี่พริกขา อ้าย อ้ายไม่ไหวแล้วนะคะ อ๊า!” พาทิศดูดกลีบสาวดังจ๊วบ ตวัดเลียถี่ยิบจนท่อนขาอวบงามที่สั่นระริกแทบทรงกายไม่อยู่ แต่ก่อนที่ร่างแน่งน้อยของเมียรักจะอ่อนยวบลงกับเตียง เขาก็ดึงใบหน้าออกห่างแล้วขยับกายเข้าประชิด ประคองแก่นกายพองใหญ่ที่รอบเรือนลำห้อมล้อมด้วยเส้นเลือดปูดโปน บ่งบอกถึงความกำหนัดพรักพร้อมที่จะปะทุเต็มที แล้วพุ่งกายเสือกใส่สู่ช่องทางล้ำลึกในคราเดียว
บทส่งท้ายบริเวณบ้านรัตนบัญชานั้นกว้างขวาง จึงถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงงานมงคลสมรสขึ้นอย่างงดงามไม่แพ้ภายในโรงแรมหรู เพราะได้นักออกแบบชื่อดังมาจัดสถานที่ให้ ทุกอย่างตระการตาจนเดือนอ้ายในชุดเจ้าสาวเรียบหรูสีชมพูอ่อนงดงามเกินคำบรรยายเริ่มไม่มั่นใจขึ้นมาเสียดื้อๆ พาทิศสังเกตเห็นอาการตื่นเต้นของภรรยาจึงก้าวเข้าไปหาแล้วกอดหล่อนแรงๆ หนึ่งทีพร้อมกับกดจูบลงหน้าผากมนแผ่วเบา “ตื่นเต้นเหรอ” หญิงสาวยิ้มเจื่อน พร้อมพยักหน้าเบาๆ “ตอนแรกอ้ายคิดว่าจะเป็นแค่งานเล็กๆ รู้กันแค่ภายในไม่กี่คน แต่ทำไม...” พาทิศยิ้มกว้าง พลางมองเดือนอ้ายด้วยสายตารักใคร่ วันนี้หล่อนสวยมากเหลือเกิน สวยจนเขามองตาค้าง ยิ่งนานวันความรักความต้องการยิ่งเผยตัวมันออกมาจากแววตาของพาทิศ เขาไม่คิดถนอมความรู้สึกที่มีต่อหล่อนเลยสักนิด เพราะเมื่อรู้ตัวว่ารัก เขาจะรักหล่อนให้ผู้หญิงทั้งโลกต้องอิจฉา... “แต่งงานครั้งเดียว จะให้ทำเล็กๆ ได้ยังไง อีกอย่าง พวกหนุ่มๆ จะได้รู้ว่าอ้ายมีสามีมีลูกแล้ว ห้ามแหยมเด็ดขาด” เขากระซิบ จนริมฝีปากเกือบชนกัน ทว่าเป็นเดือนอ้ายที่ดันหน้าเขาออ
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะหนูอ้าย พริก พาน้องไปพักผ่อนเสียก่อนสิ” คุณพัฒนาบอกกับลูกชาย แล้วหันไปสั่งสาวใช้ที่ยืนยิ้มแป้นเพราะความดีใจให้ช่วยกันขนกระเป๋าของเดือนอ้ายและพาทิศขึ้นไปไว้บนห้อง เมื่อลูกชายถูกแย่งไปดูแลโดยคุณปู่และคุณย่า หญิงสาวก็ถูกพาตัวแยกไปอีกทางหนึ่ง ร่างบางนิ่งอึ้งขณะยืนอยู่ที่หน้าห้องของพาทิศ เมื่อเขาเปิดประตูกว้างหญิงสาวก็น้ำตาคลอ จู่ๆ ก็เกิดรู้สึกน้อยใจขึ้นมาอีกเมื่อคิดถึงครั้งหนึ่งที่เขาชี้หน้าประกาศไม่ให้หล่อนเหยียบเข้าไปในห้องของเขาอีก เจ้าของห้องหยุดนิ่งและมองหล่อนเมื่อหญิงสาวไม่ยอมขยับเท้าเข้าไปข้างในด้วยกัน แต่เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำเขาก็ให้คิดถึงครั้งหนึ่งที่เคยทำร้ายจิตใจหล่อนอย่างเจ็บแสบ อ้อมแขนที่โอบกอดลงมาทำให้น้ำตาหยดแหมะ นั่นเองหญิงสาวจึงรู้ตัวรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ทว่าต้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อถูกชายหนุ่มช้อนอุ้มแล้วพาก้าวเข้าไปด้านในห้อง พร้อมประตูที่ปิดลงและกดล็อก “ขอต้อนรับสู่โลกของฉัน” เขาวางหล่อนลงบนเตียงกว้าง แล้วทิ้งตัวทาบทับลงมา กดริมฝีปากลงบนหน้าผากนวล เลื่อนไล้จูบซับน้ำตาด้วยสัมผัสบ
เดือนอ้ายหลุบตาลง คล้ายยังไม่แน่ใจนักกับการกระทำของเขาในวันนี้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง “นี่ไม่ใช่การฝืนใจใช่ไหม” เอ่ยถามให้แน่ใจว่าการตัดสินใจของเขาในวันนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความจำใจเช่นครั้งก่อน พาทิศส่ายหน้า เขายิ้มให้หล่อนแล้วก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มนุ่ม “คราวนี้ฉันไม่ได้ถูกบังคับ แต่จะเป็นฝ่ายบังคับแทน ถ้าเธอไม่ยอมแต่งกับฉัน” เดือนอ้ายหัวเราะเบาๆ พลางหันไปมองลูกชายที่ลืมตาแป๋วมองไปรอบๆ อย่างสนใจ “คุณหลิน” เพราะมัวแต่วุ่นวายอยู่กับเรื่องของตนเอง และเขาก็มาวุ่นวายอยู่กับหล่อนนานหลายวัน ทำให้หญิงสาวลืมฮุ่ยหลินไปชั่วคราว หรือความจริงแล้ว หล่อนพยายามลืมคนอื่นต่างหาก จะบอกว่ากำลังหลอกตัวเองอีกครั้งก็ย่อมได้ ขอแค่ได้อยู่กับเขาอีกสักครั้ง ต่อให้แกล้งทำเป็นลืมว่าเขายังมีผู้หญิงอีกคนที่ตั้งใจร่วมชีวิตด้วยก็ยอม พาทิศลูบแก้มหล่อนเบาๆ แล้วสอดฝ่ามือเข้าไปใต้กลุ่มผม ก้มลงจูบริมฝีปากอุ่นอีกครั้ง ซอนไซ้ ดูดดื่ม นานหลายอึดใจจึงยอมผละ “ฉันกับฮุ่ยหลินจบกันด้วยดี ตอนนี้มีแค่เธอกับลูกเท่านั้น” หัวใจดวงน้อยที่เคยช้ำกระตุกวาบ ม
เสียงคลื่นซัดสาดคลืนๆ ในยามเช้าตรู่ ส่งเสียงดังขึ้นไปถึงห้องพักของพาทิศภายในโรงแรมหรู ชายหนุ่มยืนกอดอกอยู่ที่ระเบียงกว้าง มือหนึ่งถือแก้วกาแฟ ดวงหน้าคมคายวันนี้แจ่มกระจ่างกว่าทุกวัน ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ก่อนหันไปมองด้านหลังแล้วยิ้มอ่อน หมุนตัวตรงไปหาคนบนเตียง นั่งลงข้างๆ คนที่หลับใหล ในอ้อมแขนมีคนตัวเล็กหลับพริ้ม ริมฝีปากจิ้มลิ้มเผยอน้อยๆ ชายหนุ่มก้มลงจูบแก้มยุ้ยของลูกชาย ก่อนเลื่อนจูบหน้าผากมนของคนที่มีผ้าห่มคลุมจนชิดลำคอ เมื่อวานเขาพาสองแม่ลูกมานอนค้างที่ห้องนี้ ดวงตาสีเข้มเลื่อนมองท่อนแขนเปลือยของเดือนอ้าย ก่อนก้มลงกดจูบและขบเม้มผิวเนื้อนุ่มหอมกรุ่นเบาๆ ทว่ากลับปลุกให้คนที่หลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียแสนสุขสมรู้สึกตัวตื่นและลืมตาขึ้น เมื่อสบตาคมเข้มที่มองมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนปนล้อเลียน หญิงสาวก็กระชับผ้าห่มเอาไว้แน่น เนื้อตัวเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มตอกย้ำว่าค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนบ้าง พาทิศหลุบสายตามองนวลแก้มแดงก่ำ ระเรื่อยลงมายังลาดไหล่ละมุน แล้วลดใบหน้าลงจูบเบาๆ จนหญิงสาวต้องเบี่ยงไหล่หนีด้วยความจักจี้ “คุณพริก” ปรามเขาเบา