로그인เช้าของอีกวัน หังเจอเยียนก็เอ่ยปากชวน3พี่น้องให้ไปในเมืองด้วยกัน "ข้าไม่เคยเข้าเมืองมาก่อนเลยอยากชวนพวกท่านไปด้วยกัน ข้าไปคนเดียวอาจหลงทางได้"
"เฟิ่งเอ๋ออยากไปเที่ยวในเมืองมั้ยเจ้า" "ไปเจ้าคะ..เราจะไดพาหย่างเอ๋อเที่ยวด้วย" "ปกติข้าก็พาพวกเจ้าเข้าเมืองบ่อยๆ "นางรู้ว่าน้องสาวอยากเข้าเมืองไปกับเจอเยียน เจอเยียนจึงรับหน้าที่หัดบังคับรถม้า พอคล่องแล้วชายหนุ่มก็ให้3พี่น้องนั้งชมวีว ไป๋หย่างตื่นเต้นกับภาพข้างทางนางชอบนั้งรถม้า จนมาถึงเมืองเจอเยียนก็นำรถม้าไปฝากที่ฝากม้าแล้วเข้าเมืองโดยไป๋เสวียนเป็นผู้จ่ายค่าผ่านเข้าเมือง "ข้าจะไปร้านฝากเงิน พวกท่านจะไปด้วยกันมั้ย?" "ไม่ดีกว่า เดี๋ยวข้าพาหย่างเอ๋อเดินดูรอบๆเมือง เจ้าพาเฟิ่งเอ๋อไปเถอะ"ไป๋เสวียนเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวอยู่ด้วยกัน ส่วนนางขอพาน้องเล็กเดินดูร้านค้ารอบเมืองดีกว่า เจอเยียนเลยพาไป๋เฟิ่งไปร้านฝากเงินด้วยกัน พอไปถึงหญิงสาวก็จะรอด้านนอก แต่เจอเยียนกลับให้นางเข้าไปข้างในด้วยกัน เขารู้สึกอยากให้นางรู้ทุกเรื่องของเขาเลยไม่คิดปิดบัง "ท่านจะมาฝากหรือถอนขอรับ"คนในร้านฝากเงินเอ่ยถามทั้งคู่ "ข้าจะมาถอนเงินขอรับ"พูดพร้อมยื่นป้ายสัญญลักษณ์ของทางร้าน เมื่อคนในร้านรับป้านมาตรวจดูให้แนชัดว่าเป็นของจริงหรือไม่ ก่อนจะเชิญทั้งคู่นั้งรอ "โปรดรอสักครู่นะขอรับ"พร้อมยกน้ำชาและของว่างมาตอนรับ ตำลึงทั้งหมด2380ตำลึงเขาเบิกมาหมดแล้วทำท่าเก็บเข้ากระเป๋า แต่ที่จริงเก็บเข้าคอนโด พอออกมาจากร้านฝากเงิน "เจ้าอยากได้อะไรมั้ย?"เมื่อทั้ง2ผ่านร้านเครื่องประดับชายหนุ่มเลยถามสาวน้อยที่เดินเคียงคู่ด้วย "ไม่อยากได้เจ้าคะ ซื้อแล้วก็ไม่รู้จะใส่ไปไหน" "ใส่ให้ข้ากับพี่สาวเจ้าดูยังไงละ ม่ะ..เข้าไปเลือกกัน"ชายหนุ่มจับแขนหญิงสาวเข้าไปในร้านเพื่อเลือกเครื่องประดับ ทั้ง2มองเครื่องประดับที่วางให้เลือกมากมาย "มีแต่สวยๆทั้งนั้น ข้าเลือกไม่ถูกเจ้าคะ"นางมองจนตาลายก็เลือกไม่ถูก ชายหนุ่มมองไปก็เห็นกำไลหยกสีแดงสวยงาม เลยหยิบมาลองให้สาวน้อย "ข้าว่าสีนี้เหมาะกับเจ้า ใส่แล้วต้องทำให้แขนเจ้าดูสว่างขึ้นแน" "แต่ข้าทำงานบ้านมันอาจทำให้กำไลหักก็ได้นะเจ้าคะ"นางก็เห็นว่าสวยดีก็กลัวจะไม่ระวังจนทำมันแตกหัก "หักก็แค่ซื้อใหม่" "ไม่เอาเจ้าคะ ดูเป็นอย่างอื่นดีกว่า"ทางพนักงานในร้านเห็นดั่งนั้นจึงช่วยเลือก "ถ้าแม่นางกลัวทำหักเช่นนั้นเปลี่ยนเป็นสร้อยลูกปะคำก็ดีนะขอรับ ไม่แตกหักง่ายแถมใส่แล้วยังเป็นศิริมงคลด้วยเพราะสลักรูปหยินหยางด้วยขอรับ"พูดแล้วก็หยิบสร้อยปะคำให้ลูกค้าได้เลือกที่มีทั้งสีแดงสีม่วงและสีเขียว "เจ้าชอบเส้นไหนเลือกได้เลยข้าซื้อให้" พอไป๋เฟิ่งได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มอย่างเขินอาย เจอเยียนจึงเลือกสร้อยปะคำสีต่างๆมาทาบแขน "สีแดงเจ้าใส่ขึ้นสุด เอาสีนี้แล้วกันเถ้าแก่" "มิได้ๆ..ข้าน้อยเป็นเพียงหลงจู้หาใช่เถ้าแก่ขอรับ"หลงจู้รีบเอ่ยปฏิเสธ เขาเห็นหนุ่มสาวที่ช่วยกันเลือกก็คิดว่าชายหนุ่มช่างเอาใจคนรักเสียจริง เจอเยียนใส่สร้อยปะคำให้สาวน้อยแล้วยิ้ม "เห็นมั้ย เจ้าใส่แล้วดูงามขึ้น" "แค่ใส่สร้อยปะคำจะงามได้เช่นไรกันเจ้าคะ พี่เจอเยียนก็พูดไป"ถึงปากจะค้านคำพูดของชายหนุ่มแต่นางก็ดีใจจนยิ้มไม่หุบ เมื่อเดินทางมาสมทบพี่สาวและน้องสาวนางก็ยังยิ้มสดใสจนพี่สาวสังเกตุุได้ "เดินยิ้มมาแต่ไกลเชียว เจอเยียนตามใจอะไรเจ้าหรือ"พอรู้ว่าพี่สาวจับได้นางเลยก้มหน้าด้วยความเขินอาย "พี่เจอเยียนซื้อสร้อยข้อมือให้ข้าเจ้าคะพี่ใหญ่..นี้ไงสวยมั้ยเจ้าคะ"นางยื่นแขนให้พี่สาวเห็นสร้อยขอมือที่ชายหนุ่มซื้อให้ "ให้เป็นของหมั้นหรือเปล่าละ?" "พี่ใหญ่พูดอะไรเจ้าคะ "ไป๋เฟิ่งเขินจนหน้าแดงไปหมด ส่วนเจอเยียนก็ยิ้มแล้วเอ่ยถาม "ถ้าหมั้นหมายไว้ก่อนจะได้มั้ยขอรับ รอให้เฟิ่งเอ๋อโตกว่านี้ค่อยแต่ง" "ได้สิ..ถือว่าเจ้าหมั้นน้องสาวข้าแล้วนะ แต่เจ้าต้องแต่งเข้านะ ข้าไม่ให้น้องสาวข้าแต่งออกแนๆ กลัวนางโดนรังแก"นางพอใจที่ชายหนุ่มผู้นี้ชัดเจน "ข้าสาบานว่าจะไม่มีวันทำร้ายนางแนนอน " "ดีๆ..อยากแต่งเมื่อไรก็บอกข้า จะได้จัดงานแบบง่ายๆ ให้ฟ้าดินและท่านพ่อท่านแม่รับรู้" ในขนาดที่พวกนางกำลังคุยกันอย่างมีความสุข หางตาไป๋เสวียงก็เห็นเหมือนคนรู้จัก พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นน้องชาย'ซื่อหลัวเทียน'เดินเข้ามาภายในร้าน นางเห็นก็รู้สึกบอกไม่ถูก จะว่าเสียใจก็ไม่ถึงขนาดนั้นแต่ก็ไม่ดีใจ ครอบครัวในอดีตตัดนางทิ้งอย่างไม่มีเยื้อใย แล้วทำไมนางยังต้องถวิลหาด้วย ตอนนี้นางมีครอบครัวตรงหน้าที่ต้องค่อยใส่ใจ แต่ไป๋หลัวเทียนกลับเดินทานั้งข้างหลังนาง แล้วยังได้ยินบทสนทนาอีกด้วย "ท่านพ่อให้ตามหาสาวใช้ของพี่เยียหลิน นี้ข้าตามหานางตั้งหลายเมืองก็ไม่มีเบาะแส นางหนีไปอยู่ที่ไหนกันนะ" "หรือนางอาจเจอสมบัติของคุณหนูแล้วไปเอามันแล้วก็ได้นะขอรับ" "นางเป็นแค่สาวใช้ จะมีสมองคิดได้เช่นไรกัน ถ้านางเจอสมบัติจริงเราก็ต้องรู้ข่าวนางสิ" "แล้วเราจะทำเช่นไรดีขอรับคุณชายรอง" ไป๋เสวียนได้ยินคำพูดทั้งหมด ทำไมบิดานางถึงคิดตามหาชิงฉี จากที่ฟัง บ้านเดิมของนางรู้แล้วว่านางมีของวิเศษของท่านยาย แต่พวกเขาไม่รู้ว่าชิงฉีได้ตายตามนางไปแล้ว มิน่าท่านยายถึงบอกของที่ท่านให้ไว้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ฮึ ตอนนางอยู่ไม่คิดช่วยเหลือ พอมาตอนนี้กลับพยายามตามหาของดีของนาง ฝันไปเถอะที่นางคิดใส่ใจ "หย่างเอ๋อกินบะหมี่อิ่มหรือยัง?"นางถามน้องสาวที่ตอนนี้นั้งตังนางแล้วมีไป๋เฟิ่งคอยป้อนบะหมี่คำน้อยๆให้ พอน้องสาวกินอิ่มพวกเขาก็ให้คิดเงินก่อนจะออกมาจากเหลาอาหาร "ไหนๆก็มาแล้วเราก็ซื้อเสบียงกลับไปกันดีมั้ยเจ้าคะ"ไป๋เฟิ่งเสนอ นางกะจะซื้อผ้าเอาไปตัดชุดให้ไป๋หย่างด้วย "ดีเหมือนกัน ไปซื้อกัน" "ข้าอยากซื้อม้าหนุ่มขอรับ" "บ้านเราก็มีม้าแล้วไง" "นั้นเป็นม้าสาว ข้าอยากได้ม้าหนุ่มอีกตัวขอรับ เอาไว้ขี่ไปไหนมาไหนสะดวกกว่า"ไป๋เสวียนคิดตามเลยตกลง แต่พอจะควักตำลังชายหนุ่มกลับค้าน "เดี๋ยวม้าข้าเป็นคนซื้อเองขอรับ พวกเจ้าไปซื้อเสบียงรอข้าดีมั้ยขอรับ" "ได้..เช่นนั้นไปเจอกันที่ฝากม้าแล้วกันนะ เฟิ่งเอ๋อไปซื้อของกัน" หวังเจอเยียนเมื่อแยกพวกนางก็เดินไปที่ตลาดค้าสัตว์ เขาเดินดูม้าไปเลื่อยๆก็ถูกใจม้าสีดำตัวหนึ่ง ดูรูปร่างสวยงามถูกใจเขา "เถ้าแก่..ม้าตัวนี้ราคาเท่าไร?" "ตัวนี้หรือขอรับ ข้าคิด150ตำลึงขอรับ " "ข้าอยากให้ใส่อานให้ด้วยได้มั้ย?" "ได้ขอรับ" "เช่นนั้นตกลง"เมื่อตกลงราคากันได้เขาก็จ่ายเงินแล้วพามันเดินเรื่องขี่สบายมากเพราะชาติที่แล้วเขาเคยฝึกขี่ม้าเพื่อแข่งระดับทีมชาติมาแล้ว เดินผ่านร้านขายสัตว์เล็กก็ซื้อไก่อีก6ตัวเพื่อให้พวกมันไข่ พอไปถึงที่ฝากรถม้าเขาก็เอาสุ่มไก่วางบนรถม้า "เจ้าซื้อไก่ไข่หรือ?" "ขอรับ หย่างเอ๋อกำลังโตนางต้องการอาหารไว้บำรุง"ไป๋เสวียงเลยพยักหน้ารับรู้ ส่วนไป๋ฟิ่งกำลังกล่อมไป๋หย่างให้หลับ ขากลับไป๋เสวียนเลยเป็นผู้บังคับรถม้าโดยมีเจอเยียนขี่ม้าขนาบข้างตลอด พอถึงบ้านไป๋หย่างก็ตื่นพอดี ไป๋เฟิ่งจึงวางน้องสาวให้นั้งแคร่หน้าบ้านแล้วช่วยเอาของลงจากรถม้า แล้วนำไก่ไปวางในคอกสัตว์ "เดี๋ยวข้าทำเล้าไก่ให้เอง เจ้าไปพักเถอะ เดินทางมาเหนื่อยๆ" "เจ้าคะ..เดี๋ยวข้าไปดูหย่างเอ๋อก่อนนะเจ้าคะ"พูดจบนางก็เดินไปทางบ้าน ส่วนเจอเยียนก็ไปตัดลำไผ่มาทำเป็นเล้าไก่ "อ้าว...แล้วเจอเยียนละ?"ไป๋เสวียนเมื่อเห็นน้องสาวเดินเข้าบ้านมาคนเดียวไม่เห็นเจอเยียนก็ถามน้องสาว "พี่เจอเยียนกำลังสร้างเล้าไก่อยู่เจ้าคะ ข้ามาช่วยพี่ใหญ่เก็บของเข้าที่แล้วเลี้ยงหย่างเอ๋อ" เมื่ออยู่กันแค่พี่น้องเลยอดถามความรู้สึกของน้องสาวไม่ได้ "ที่เจอเยียนหมั้ยหมายให้เจ้านั้น เจ้าเต็มใจหรือไม่?"พอไป๋เฟิ่งได้ยินคำถามจากพี่สาวก็หน้าแดงเขินอ้าย "หน้าแดงแบบนี้แปลว่าเต็มใจใช้มั้ย อิอิ" "พี่ใหญ่ก็.." "เจ้าเต็มใจพี่ก็หมดห่วง..พี่ไม่อยากเห็นเจ้ามีความทุกข์เพราะได้คู่ครองผิด" "ขอบคุณท่านมากเจ้าคะ แต่พี่ใหญ่ก็เห็นพี่เจอเยียนว่าเขาเป็นคนเช่นไร ข้ามั่นใจว่าพี่ใหญ่เลือกคนไม่ผิดให้ข้าแนเจ้าคะ"นางรู้ว่าพี่สาวรักนางมาก ถ้าพี่เจอเยียนไม่ใช้คนดีพี่สาวนางคงไม่ตกลงให้นางหมั้นหมายแนนอน "แต่ถ้าวันใดเขารังแกเจ้าให้มาบอกพี่สาวคนนี้ได้ พี่จะไปสั่งสอนเขาให้เจ้าเอง" "เขาแต่งเข้ามาในบ้านเรา จะกล้ารังแกข้าหรือเจ้าคะ " "ไม่รู้ละ ข้าบอกไว้ก่อน" แล้วน้องพี่น้องก็ช่วยกันเอามาฝ้ายมาตัดชุดรับหน้าร้อนให้ทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะไป๋หย่างที่ไม่มีเสื้อผ้าเลยเพราะนางโตขึ้นมาก เสื้อผ้าที่มีเริ่มคับแล้ว เมื่อเห็นเวลานานก็อดห่วงคนสร้างเล้าไก่ไม่ได้เลยตักน้ำเอาไปให้คู่หมั้นที่คอกสัตว์ "พี่เจอเยียนดื่มน้ำก่อนเจ้าคะ" "ขอบใจเจ้ามาก" "ใกล้เสร็จแล้วนี้เจ้าคะ แถมดูแล้วจะแข็งแรงอีกด้วย" "ไหนๆสร้างแล้วก็สร้างให้แข็งแรงไปเลยนะ"ชายหนุ่มรับจอกน้ำจากคู่หมั้นสาวมาดื่มดับกระหาย "เฟิ่งเอ๋อ...เจ้าเสียใจมั้ยที่หมั้ยให้ข้า?" "ทำไมข้าต้องเสียใจด้วยเจ้าคะ?" "ข้าไม่มีอะไรเลย แถมยังต้องมาอาศัยพวกเจ้าพี่น้องอีก เจ้าอาจจะอายก็ได้" "ข้าไม่ได้มองเรื่องนั้นสะหน่อย " "เช่นนั้นเจ้าเต็มใจแต่งกับข้าใช้มั้ย?" "พี่เจอเยียนพูดอะไรก็ไม่รู้ ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว "หญิงสาวอายจนหน้าแดงแล้วเดินหนีเข้าบ้าน ชายหนุ่มก็นึกขำ คนสมัยนี้จีบกันเรียบงายไปอีกแบบนะ ชายหนุ่มรู้สึกเมื่อมีไป๋เฟิ่งอยู่ด้วยทำให้เขาอยู่ภพนี้อย่างราบรื่นและอุ่นใจด้านรองแม่ทัพชื่อถ่านหย่งรู้สึกขัดใจ ฮวนจือถานทำไมถึงดวงแข็งไม่ตายง่ายแบบผู้เป็นบิดา ที่แค่ใส่ยาพิษให้กินทุกวันก็ตายภายใน3เดือนพอให้เขาหายแค้นไปได้บ้าง แต่ทายาทอย่างฮวนจือถานยังอยู่แถมหน้าที่การงานยังมีทีท่าว่าจะไปได้ดีด้วย เขารู้สึกไม่ยินยอม ตอนที่ฮูหยิงอยากให้บุตรสาวคนเล็กแต่งงานกับฮวนจือถานดด้วยเห็นเป็นคนหนุ่มอนาคตไกล ในใจตอนนั้นก็คิดจะปฏิเสธ แต่ก็นึกแผ่นร้ายได้เลยให้บุตรสาวหมั้นหมายไปก่อน สมบัติสกุลฮวนมีไม่ใช้น้อยด้วยนายท่านฮวนเป็นถึงเสนาบดีการคลัง และฮูหยินเป็นถึงบุตรสาวเศรษฐีทางใต้ทีมีกิจเดินเรือมากมาย ทำให้นายท่านเสนาบดีฮวนเหมือนหนูตกถังข้าวสาร ยิ่งสร้างแรงแค้นให้รองแม่ทัพเพราะฮวนหมิงหลางได้ทั้งภรรยางามแถมร่ำำรวยผิดกับตนเองที่ได้ภรรยาเป็นบุตรของราชครูของฮองเต้องค์ก่อน คิดว่าจะสามารถช่วยส่งเสริมตนเองได้ แต่ภรรยากลับเป็นแค่สตรีอ่อนแอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้ แถมแม่ยายยังไม่ชอบหน้าเขาอีก ผิดกับหลิงเยียที่แม่ยายรักและเอ็นดูนางมาก เลยรับหลิงเยียไปเลี้ยงแต่เล็กจนแม่ยายเสียชีวิตหลิงเยียถึงกลับมาอยู่สกุลชื่อเขาที่ไม่เคยเลี้ยงดูบุตรสาวคนนี้เคยไม่มีความผูกพัน ตอนให้นางแต่งกับแม่ทัพเ
มือสังหารพยายามจะลงมือกับสองพ่อลูก แต่ก็ถูกเจ้าลูกหมาป่าตัวเขื่องทั้ง2สกัดไว้ และด้วยเสียงเห่าของเจ้าหมาป่าสองตัวและการต่อสู้ จือถานที่หลับอยู่ในห้องจึงได้ยินแล้วออกมาเข้าช่วยเหลือสองพ่อลูกหารเขาใส่ดาบที่ได้จากเจอเยียนเข้าต่อสู้ผู้บุกรุกด้วยงานที่ต้องสอบสวนสืบคดีบ่อยๆทำให้เขาต้องฝึกร่างกายและมีวิชาการต่อสู้ แต่ด้วยมือสังหารมีกันหลายคนทำให้ฝั่งจือถานเสียเปรียบจือถานหยิบดินขึ้นมาซัดใส่คนร้ายก่อนที่จะใช้ดาบฟันอีกครั้งจนคนร้ายล้มบาดเจ็บไปหนึ่ง แต่ก็ยังมีอีกคนเข้ามาโจมตีส่วนพ่อลูกหารก็ต่อสู้กับคนร้าย แต่ด้วยคนร้ายมีมากเกินไป พ่อหารจึงพลาดท่าถูกคนร้ายแทงจนบาดเจ็บล้มลง หลงฝูที่เห็นบิดาได้รับบาดเจ็บก็จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ไม่ไม่อาจสลัดคนที่ตนเองต่อสู้ได้ แต่เจ้าลูกหมาป่าก็เข้าไปช่วยพ่อหารไว้ทัน มันใช้ขนาดตัวที่ไวเข้ากัดคนร้ายจนเขี้ยว"อ๊า.."มือสังหารที่โดนเจ้าเสี่ยวเจียกัดขาจมเขี้ยวก็ร้องเสียงหลงก่อนจะล้มลง เจ้าเสี่ยวเจียไม่ปล่อยโอกาส มันกัดและสบัดจนเหยื่อนอนจมกองเลือดไม่อาจต่อสู้กลับได้ เจ้าเสี่ยวจูจะคอยช่วยจือถานไม่ให้พวกที่คิดทำร้ายเจ้านายได้เข้าใกล้เจ้านายมันได้แต่ก็ไม่อาจโจมตีกลับ
สุดท้ายไป๋เสวียนก็ต้องจำใจเข้าไปในบ้านชายหนุ่ม ไป๋หย่างผู้ไม่รู้สิ่งใดก็ตื่นเต้นที่ได้จะได้ดูวัวแล้วไหนจะเจ้าหมาป่าสองตัวที่จำเจ้านายได้ก็กระดิกหางรับหน้าอย่างดีใจจือถานพาสองพี่น้องเข้าไปคารวะมารดาที่ห้องนั้งเล่น"ท่านแม่มีคนที่ลูกอยากให้ท่านแม่รู้จักขอรับ"แม่ฮวนที่นั้งปักชุดคุมให้บุตรชายก็เงยหน้าขึ้นมาจากงานในมือนางเห็นหญิงสาวหน้าตาไม่ถึงกับงานแบบสาวเมืองหลวง แต่ก็ถือว่าหน้าตาหมดจดชวนมองไม่ใช่น้อย"คารวะท่านป้าฮวนเจ้าคะ ข้าไป๋เสวียนเป็นพี่สาวคู่หมั้นของเจอเยียนสหายของพี่จือถานเจ้าคะ"ถึงจะไม่อยากเรียกพี่ แต่อยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสยังไงก็ต้องไว้หน้าชายหนุ่มบ้าง โดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจที่หญิงสาวรู้ความ"เช่นนั้นก็คนกันเอง...มานั้งใกล้ๆป้า แล้วซาลาปาน้อยนั้นใครหรือถึงอ้วนกลมขนาดนี้"นางเห็นหญิงสาวผูกหนูน้อยน่าหน้าน่าเอ็นดูเลยสอบถาม"น้องสาวคนเล็กข้าเองเจ้าคะท่านป้า""ป้ามีขนม พานางมานั้งข้างๆนี้ ช่างน่าเอ็นดูนัก"แม่ฮวนเห็นไป๋หย่างก็นึกเอ็นดู เด็กน้อยอ้วนกลม แต่งตัวสะอาดสะอาดบ่งบอกให้รู้ว่าได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี"หย่างเอ๋อคารวะท่านป้าสิลูก""จ้า.."หนูน้อยทำมือประสานก้มหัว
ฮวนจือถานย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านอิ้นถังได้หนึ่งเดือนหนึ่ง เขาเห็นสหายทำนาก็นึกอยากทำบ้าง เขาลงทุนซื้อวัวมาเพื่อเตรียมทำนา "เดี๋ยวตอนเจ้าเกี่ยวข้าวข้าจะมาช่วย"จือถานบอกกับสหายเมื่อทั้งคู่ชวนกันเข้าป่าไปล่าสัตว์ ด้วยทั้งสองเป็นคนหนุ่มมีกำลังมาก ทำให้ทั้งคู่ได้สัตว์ใหญ่อยู่บ่อยครั้งจือถานจึงยิ่งเป็นที่หมายตาของเหล่าสาวๆในหมู่บ้านโดยเฉพาะหลิงฉี แต่ด้วยตนเองมีประวัติไม่ดี นางจึงไม่กล้าทำอะไรมาก "พี่จือถานคนเดียวจะทำไหวหรือขอรับ ?""ข้ามีคนงานช่วย น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ถึงตอนนั้นเจ้าต้องชวยแนะนำข้าด้วยนะ""ย่อมได้ เงียบก่อน..เหมือนได้ยินเสียงเคลื่อนไหว"เจอเยียนฟังเสียงเคลื่อนไหวรอบๆก่อนจะพากันหลบ กลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณเกือบ20คนก็มาหยุดห่างจากสองหนุ่มเพียงไม่เกิน10จั้ง ซึ่งใกล้มาก"เจ้าสืบมาแนชัดแล้วใช้มั้ยว่าสองแม่ลูกฮวนอยู่หมู่บ้านนี้""ขอรับ พวกเขามาสร้างบ้านอยู่ในหมู่บ้านนี้มากว่าเดือนแล้ว ถ้าเราจะลงมือย่อมสะดวกขอรับ เพราะที่หมู่บ้านเป็นแค่ชาวบ้าน "ลูกน้องรายงานตามที่ไปสืบมา"ท่านรองแม่ทัพให้สังหารให้หมดไม่ให้ไว้ชีวิตผู้ใด"หัวหน้ามือสังหารได้รับงานที่ไม่ยากเย็นอะไร แค่สังหารแม่ลูกฮวนแล้ว
ฮวนจือถานตอนนี้กำลังเผชิญปัญหาหนัก นั้นก็คือรองแม่ทัพชื่อถ่านหย่งพยายามให้เขาสู่ขอชื่อหลิวหลูแต่เขากลับขอถอนหมั้นกับนางแทน โดยให้เหตุผลว่าเขามีปัญหาสุขจนไม่สามารถมีบุตรได้ เขาสืบจนรู้มาว่าชื่อถ่านหย่งเคยรักอยู่กับฮวนฝูฉิวท่านอาของเขา แต่เพราะชื่อถ่านหย่งมีภรรยาอยู่แล้วบิดาเขาจึงกีดกันโดยให้ท่านอาของเขาแต่งไปกับผู้อื่น รองแม่ทัพชื่อก็พยายามที่จะไปดักปล้นเกี่ยวเจ้าสาว แต่สุดท้ายฮวนฝูฉิวก็ไม่ยอมกลับไปกับเขา ด้วยเชื่อคำพี่ชายว่าแต่งงานควรแต่งให้คนที่แต่งไปเป็นฮูหยินไม่ใช้อนุ ชื่อถ่านหย่งเมื่อรู้ว่าต้นเหตุที่ท่านอาเขาไม่ยอมแต่งเป็นอนุเป็นเพราะบิดาเขาจึงผูกใจเจ็บมาตลอด ยิ่งเห็นว่าเขามีหน้าที่การงานที่ดีก็ยิ่งรู้สึกไม่ยินยอม จึงมีความคิดจะทำลายครอบครัวเขาขึ้นมา ความฝันที่เหมือนเตือนภัยเขาล่วงหน้าทำให้เขาสามารถระวังตัวได้ หลายครั้งที่ชื่อฝูฉิวพยายามจะเข้าหาเขา แต่ชายหนุ่มก็ระวังตัวตลอด จนเขาฝันเห็นหญิงผู้นั้น นางที่เขาเจอฉุยหลาง มันแปลกมากที่เขาจำนางได้ แต่อยู่ๆใบหน้านางก็เปลี่ยนเป็นอีกคน 'ชื่อเยียหลิน'หรือ เขาเคยเห็นนางอยู่สองหรือสามครั้งในงานเลี้ยงที่นางออกงานกับสามีแม่ทัพเชียนหลงเฟิง เขา
และด้วยลูกหมาป่ายังเล็กอยู่มาก พวกมันร้องกินนมบ่อยมาก ไป๋เฟิ่งจึงรับหน้าที่ป้อนนมกันและเอาพวกมันเข้าไปนอนในห้องด้วยเพราะต้องป้อนนมให้พวกมันยามดึก ส่วนตอนนอนก็มีไป๋หย่างนั้งเฝ้าไม่ห่าง นางถูกพี่สาวบอกว่าห้ามจับเจ้าพวกนี้แรงไม่เช่นนั้นพวกมันจะเจ็บ นางจึงค่อยๆเอามือลูกลูบพวกมันอย่างเบามือแล้วก็หัวเราะและด้วยเจอเยียนเห็นว่าคู่หมั้นต้องอดนอนคอยป้อนนมเจ้าลูกหมาป่าเขาเลยไม่ให้นางเดินเอาข้าวไปส่งแต่เขาจะเดินกลับมากินเอง ผ้านไป10วันลูกหมาป่าก็ค่อยๆลืมตา พอไป๋หย่างเห็นตาน้อยๆของลูกหมาป่าลืมก็ดีใจ และด้วยพวกลูกหมากินนมเก่งพวกมันจึงตัวกลมขนนิ่มน่ากอด ส่วนงานในนาก็เป็นเจอเยียนทำตัวเดียว ด้วยอากาศที่ร้อนเขาจึงไม่ยอมให้ไป๋เฟิ่งตามไปที่นาไม่ว่านางงอแงเช่่นไรเขาก็ไม่ใจอ่อน "เจ้าเจอเยียนนี้ก็เป็นจริง ถือว่าข้ายกเจ้าให้เขาดูแลเป็นการตัดสินใจที่ถูก""เขาจะเหนื่อยนะสิเจ้าคะ"ไป๋เฟิ่งบ่นอย่างแงงอน"แต่เขาห่วงเจ้ามากกว่า เขาเห็นเจ้าอดนอนเพราะต้องคอยป้อนนมเจ้าสามตัวนี้เลยไม่อยากให้เจ้าไปเป็นลมกลางแดดร้อน"ไป๋เสวียนเข้าใจน้องเขย นางเห็นคู่นี้มีความสุขก็เหมือนได้ชดเชยความทุกข์ในใจเมื่อชาติที่แล้ว ไป๋ฟิ่งเ







