Share

6

Author: Scince
last update Huling Na-update: 2025-07-17 11:42:54

เช้าวันนี้เป็นการทำงานวันแรกของหลี่เล่อเยียนในร่างนี้ เธอเป็นคนตื่นเช้าอยู่แล้ว ตอนนี้เวลา 04.30 น. เล่อเยียนลุกขึ้นมาแล้วเตรียมของเข้าไปทำอาหารในครัว หลี่เล่อเยียนเลือกทำอาหารง่ายๆ  อย่างโจ๊กข้าว ใส่หมูสับลงไปเคี่ยวพอหอม แต่กลิ่นหอมนั้นบอกเลยว่าไม่ธรรมดา หอมจนคนที่นอนในห้อง ไม่อาจข่มตาหลับได้อีกต่อไป จนต้องลุกขึ้นมาตามกลิ่นว่าเป็นของใครทำไมมีกลิ่นเนื้อด้วย

แต่หลี่เล่อเยียนยังคงได้เปรียบกว่า เธอทำการเก็บข้าวของเครื่องปรุงกลับเข้าไปในมิติเป็นที่เรียบร้อย เพราะเครื่องปรุงบางอย่างในที่แห่งนี้ก็ยังไม่มี ที่เห็นในครัวตอนนี้คือเกลือ น้ำตาล น้ำส้มสายชูเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในร้านค้าสหกรณ์หรือบ้านอื่น ๆ จะไม่มี

ในความทรงจำของร่างเดิม  เธอเคยใช้มันตอนที่อยู่บ้านเก่า หลี่เล่อเยียนมาจากปักกิ่ง เธอเกิดที่นั่น แน่นอนว่ามันต้องทันสมัยกว่าแถบชนบทนี้อยู่แล้ว

" โอ๊ย... ใครกันทำอาหารได้หอมถึงเพียงนี้ ฉันนอนต่อไม่ไหวแล้ว " โครก โครก ตามมาด้วยเสียงท้องร้องอันดังลั่นของ ฟ่านเหมยเหมย เธอเป็นคนสัมผัสไวเสมอถ้าเป็นเรื่องของการกิน อีกอย่างคือเมื่อคืนเธอได้กินเพียงน้ำข้าวต้ม ถูกแล้วล่ะมันคือน้ำข้าวต้ม เพราะเธอแทบจะนับเม็ดข้าวในชามได้เลย

แต่กว่าที่ฟ่านเหมยเหมยจะถึงในครัว หลี่เล่อเยียนก็ได้ยกหม้อโจ๊กของเธอออกมาก่อนแล้ว ทั้งสองเดินสวนกันตรงทางเดินเข้าพอดี

" เป็นหล่อนเองหรือ ที่ลุกขึ้นมาทำอาหารแต่เช้ามืด ไม่รู้จักเกรงใจคนที่เขาหลับนอนบ้างหรืออย่างไรกัน " ฟ่านเหมยเหมยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วประชดประชันไม่น้อย

' ยัยผู้หญิงฟันดำปากเหม็นนี่พูดอะไรไม่เคยเข้าหูเลยสักนิด '

บางทีหลี่เล่อเยียนยังแอบสงสัยในใจว่าทำไมคนอื่นถึงอยู่กับผู้หญิงปากร้ายคนนี้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฟ่านเหมยเหมยเป็นแค่ผู้หญิงที่ปากไม่มีหูรูด คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น โดยส่วนตัวแล้วคือเธอเป็นหมาป่าตาขาวต่างหากล่ะ

" นี่..ฉันพูดกับหล่อนอยู่นะ จะเดินหนีกันไปง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไรกัน อีกอย่างฉันบอกไปแล้วว่าฉันต้องได้ใช้ครัวก่อน " ฟ่านเหมยเหมยแค้นใจนัก นางจิ้งจอกหน้าขาวไม่แม้แต่จะสนใจคำพูดของเธอแถมยังเดินชนไหล่จากไปยังห้องนอนของเธอ

 " ฉันชื่อ หลี่เล่อเยียน ไม่ได้ชื่อนี่.. อีกอย่างเธอเป็นเจ้าของบ้านหรืออย่างไรกัน ถึงได้กำหนดกฎเกณฑ์ให้คนอื่นใช้ครัวก่อนหลัง

ถ้าฉันจำไม่ผิดคือทุกคนที่อยู่บ้านพักหลังนี้ถูกเกณฑ์มาใช้แรงงานแลกแต้มเหมือนกัน มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ถ้าเธออยากจะใช้ครัวก่อนก็หัดตื่นเช้า แล้วไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะมาพูดคุยกับคนอื่น เหม็นขี้ฟัน " หลี่เล่อเยียนร่ายยาวแบบไม่ยอมแพ้ พร้อมกับเว้นระยะห่างจากฟ่านเหมยเหมย เพราะเธอทนกลิ่นปากของอีกฝ่ายไม่ไหวจริง ๆ

ทางด้านของฟ่านเหมยเหมยนั้นยืนตัวแข็งไปแล้วเพราะไม่คิดว่าจะเจอคำพูดแบบนี้จากปากของหลี่เล่อเยียน

หลี่เล่อเยียนที่เคยรู้จัก หล่อนเป็นคนพูดน้อย หรือไม่พูดเลย หล่อนมักจะใช้สายตาดูถูกทุกคน ด้วยว่าหล่อนมาจากปักกิ่ง จึงมองทุกคนที่นี่ว่าเป็นพวกบ้านนอก

ฟ่านเหมยเหมยไม่ได้เตรียมใจมา กับคำพูดตาต่อตาฟันต่อฟันเช่นนี้มาก่อน จึงได้แต่ยืนเอามือปิดปากค้างไว้เช่นนั้น  เพราะกลัวว่ากลิ่นปากจะลอยออกมาเวลาอ้าปากอีกครั้ง

หลังจากที่เข้าห้องมาแล้ว ตอนนี้เวลาประมาณ 05.00 น. หลี่เล่อเยียนจัดการกับโจ๊กหมูสับถ้วยนั้นแล้ว ยังเก็บไว้ในมิติเพื่อคงสภาพเอาไว้ไม่ให้มันเสีย สำหรับไว้เป็นอาหารมื้อกลางวันต่อไป เธอจะต้องประหยัดก่อน เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ในช่วงวันและเวลาของปีอะไร

" อรุณสวัสดิ์จ้ะ..เล่อเยียน เป็นอย่างไรบ้าง อาการเธอดีขึ้นหรือยังจ๊ะ" เหอหมี่เมี่ยนก็คือเหอหมี่เมี่ยน เธอมักจะมองโลกในแง่ดีเสมอถึงแม้ว่าที่ผ่านมา เธอจะได้รับเพียงสายตาว่างเปล่าจากหลี่เล่อเยียนก็ตาม

" หมี่เมี่ยน เธอจะพูดกับหล่อนทำไม ก็รู้อยู่ว่าแม่นั่นหยิ่งแค่ไหน เฮอะ " หม่ายวี่ไท่สะกิดเหอหมี่เมี่ยนให้เดินออกมายังหน้าบ้าน เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเสวนากับแม่นางฟ้าตกสวรรค์ผู้นี้

" อือ ... ดีขึ้นมากแล้วล่ะ กำลังจะไปที่ทุ่งนาใช่ไหม ขอฉันไปด้วยคนนะ พอดีเพิ่งหายป่วยเลยยังงงๆ กับทิศทางอยู่ " หลี่เล่อเยียนรีบพูดแทรกขึ้น

เธอคิดมาแล้วว่า ถ้าเธออยากมีชีวิตรอด และอยากอยู่อย่างสงบสุขเธอจะต้องมีเพื่อนบ้าง ไม่เช่นนั้นเธออาจจะโดน ฟ่านเหมยเหมยจับถ่วงน้ำเข้าสักวันเป็นแน่

" อะ อ้อ ใช่ๆ เรากำลังจะไปกันพอดี ฉันชื่อเหอหมี่เมี่ยน และนี่ก็หม่ายวี่ไท่ พวกเรามาจากหมู่บ้านเดียวกัน ก็เลยสนิทกัน" เหอหมี่เมี่ยน แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองในยามที่ หลี่เล่อเยียนตอบกลับมาเป็นประโยคที่ยาวเช่นนี้ และที่สำคัญคือหล่อนขอเดินไปด้วย

" สวัสดีจ้ะ..ฉันชื่อ หลี่เล่อเยียน เรียกฉันว่าเล่อเยียนก็ได้ " หลี่เล่อเยียนฉีกยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร เพราะเธอรู้สึกถูกชะตากับเหอหมี่เมี่ยนไม่น้อยเลยทีเดียว

" เรารีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะสาย ถ้าไปสายจะโดนหักแต้มคะแนนเอาได้ " เหอหมี่เมี่ยนดีใจไม่น้อย ในที่สุดเธอก็ได้เป็นเพื่อนกับหลี่เล่อเยียนสักที

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   42

    ใกล้ถึงกำหนดส่งขนมตามที่นัดกันเอาไว้แล้ว ทั้งสามคนเริ่มตามแผนการคือ เล่อเยียนแกล้งป่วยขอลางาน หมี่เมี่ยนขอลาด้วยให้เหตุผลว่าไม่มีคนดูแลเล่อเยียน ส่วนหม่ายวี่ไท่ลากเหมยเหมยและฮุ่ยหลินออกจากบ้านพักตั้งแต่เช้า ก่อนที่เสียงระฆังจะเตือนให้ลงพื้นที่ด้วยซ้ำจากนั้นเล่อเยียนเริ่มขนอุปกรณ์ รวมถึงวัตถุดิบออกมาจากห้อง พร้อมทั้งบอกหมี่เมี่ยนว่าซื้อมาตั้งแต่ติดเกวียนของลุงในหมู่บ้านเข้าเมือง หมี่เมี่ยนถามเล่อเยียนว่าไม่กลัวเธอจะขโมยสูตรไปทำขายบ้างหรือ" ถ้าเธออยากทำขายฉันก็ไม่ขัดหรอก ขอแค่อย่าแย่งลูกค้ากันก็พอ " แต่ความจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ หมี่เมี่ยนจะทำขายได้ เพราะทุกอย่างต้องใช้เงินลงทุน อาศัยเพียงแค่สูตรอย่างเดียวไม่มีทางเป็นไปได้ทั้งสองช่วยกันอย่างขยันขันแข็ง กลิ่นของขนมโก๋ช่างหอมยั่วยวนเหลือเกิน กลิ่นมันหอมไปทั่วบริเวณบ้าน เพราะพวกเธอทำในปริมาณที่มาก วันแรกผ่านไปด้วยดีทั้งสองคนช่วยกันทำจัดขนมใส่กล่องเวลาในการทำขนมแต่ละครั้งใช้เวลานึ่งประมาณ 45 นาที นึ่งครั้งหนึ่งได้ประมาณครั้งละ 6 ชิ้น เมื่อนับแล้ววันนี้ทำขนมได้ทั้งหมด 50 กล่อง เป็นแบบนี้ทำไม่ทันแน่นอนเพราะเธอทำได้แค่เฉพาะกลางวันเพ

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   40

    เมื่อจัดการทุกอย่างที่บ้านหลี่เรียบร้อยแล้ว หยางหมิงเฉิงก็ต้องเข้ากรมแลกวันหยุดกับเพื่อน เพื่อที่จะเดินทางไปหาหลี่เล่อเยียนอีกครั้ง ครั้งนี้เขามั่นใจเต็มสิบส่วน ว่าคนที่เจอที่ร้านบะหมี่คือเธอแน่นอน แต่อาจจะต้องสืบอีกทีว่าเธออยู่ที่หมู่บ้านไหนเขาได้เรียนรู้แล้วว่าการที่เขาเงียบไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทุกอย่าง อย่างน้อยที่สุดตอนนี้พ่อของเล่อเยียนก็เข้าใจลูกสาวแล้ว และเสียใจกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งนี้ หลี่ฮ่าวตูอาสาจะเป็นคนไปแทนเล่อเยียน แล้วให้น้องสาวของเขากลับมามีชีวิตที่ดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยว่าจะทำได้ส่วนสองแม่ลูกหนูนั้นก็ถูกคาดโทษ เพราะการกระทำของคนเป็นแม่ เธอสารภาพว่าแผนการทุกอย่าง เธอนั้นลงมือทำเองคนเดียว ลูกสาวอย่างหรูฟางเซียนนั้นไม่รู้เห็นเรื่องนี้กับเธอด้วยกล่าวตามที่แม่เลี้ยงหรูรับสารภาพ ว่าเธอทำเรื่องน่าอายในงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ของ หยางหมิงเฉิงและซุยเถาหยวน ทั้งสองมาเลี้ยงฉลองที่บ้านของตระกูลหลี่ เพราะมีข่าวแว่วมาว่าทางการจะเกณฑ์พวกนักศึกษาจบใหม่ หรือที่กำลังเรียนอยู่นั้นไปเข้าค่ายชนบทห่างไกล เพื่อทำงานแลกแต้มค่าแรงว่ากันตามตรงคือคนที่เหมาะสมที่สุดคงหนีไม่พ้นหลี่

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   38

    " อืม ฉันจะไปคุยกับคุณลุงเอง " หยางหมิงเฉิงคิดตำหนิตัวเองที่ไม่ยอมทำอะไรให้ชัดเจน ปล่อยให้เรื่องราวเลวร้ายจนทำลายชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งรอจนเวลาพลบค่ำ หลี่ฉินผู้เป็นพ่อของหลี่เล่อเยียนก็กลับมาถึงบ้าน ทันทีที่เขาเจอกับหยางหมิงเฉิงก็ตกใจไม่น้อยเพราะระหว่างเขาและหมิงเฉิงนั้นมีสัญญาใจกันอยู่ แต่จะให้เขาทำเช่นไรได้ล่ะ เพราะลูกสาวของตนเป็นคนไม่ดีเอง เขาผู้เป็นคนกลางจึงต้องให้ความยุติธรรมที่สุด" สวัสดีครับคุณลุง ไม่เจอกันนานสบายดีนะครับ " หยางหมิงเฉิงเป็นฝ่ายกล่าวทักทายผู้ใหญ่ก่อน พ่อของเล่อเยียนดูผอมลงเล็กน้อยเหมือนคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ" นั่งสิ กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ " หลี่ฉินตั้งสติได้ก็เริ่มบทสนทนา ท่าทางสุขุมของเขาที่ต้องทำงานพบปะผู้คนมากมาย พอจะช่วยลดอาการประหม่า เวลาที่เจอกับผู้ชายตรงหน้าเขาได้ รังสีของชายชาติทหารมันแผ่ออกมาโดยที่หยางหมิงเฉิงนั้นไม่ต้องทำอะไรเพียงแค่นั่งเฉยๆ ก็ดูน่าเกรงขาม" ครับ พึ่งมาถึงเมื่อคืนผมเห็นว่าดึกแล้วน่ะครับเลยไม่ได้มาหาคุณลุงก่อน " หลี่ฉินพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะถอนหายใจแล้วเข้าเรื่อง" เธอไปแล้วล่ะ ฉันขอโทษที่ทำตามสัญญาไม่ได้ " หลี่ฉินเอามือประสานกั

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   37

    กล่าวถึงนายทหารหนุ่มที่ร้อนใจขออนุญาตผู้บังคับบัญชา มุ่งหน้ากลับสู่เมืองหลวงก่อนกำหนดเดิม โดยรายงานว่ามีเหตุจำเป็นสำคัญ นายทหารยศใหญ่เดิมทีชอบในฝีมือและผลงานของเขา อีกทั้งยังหมายตาให้เป็นว่าที่ลูกเขย จึงพยายามที่จะสนับสนุนเต็มที่ ครั้งนี้จึงไม่มีปัญหาในการขอลากิจด่วน อีกอย่างภารกิจก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ไม่มีอะไรน่ากังวลหยางหมิงเฉิงเดินทางโดยรถไฟ ถึงแม้ว่าการเดินทางจะยากลำบากไปบ้าง แต่เพื่อให้หายขับข้องใจถึงอย่างไรเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในเมืองชนบทเขาพยายามตามหาเธอจนทั่วทุกที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไป แม้กระทั่งในค่ายชนบทของเหล่าปัญญาชน เขาไม่แน่ใจว่าเธอจะอยู่ในค่ายนั้นหรือไม่ เพราะคิดว่าครอบครัวของเธออย่างไรก็คงไม่ปล่อยให้มาเป็นแน่เธอมีพี่ชายที่ทั้งรักและหวงแหนเธอดั่งแก้วตาดวงใจขนาดนั้น เขาจะทนให้เธอมาลำบากได้อย่างไรกัน แต่เขาคิดไม่ตกสำหรับผู้หญิงที่เจอที่ร้านบะหมี่ ทำไมเขาถึงไม่เดินไปหาเธอให้รู้เรื่องกันนะ ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงไม่ต้องมานั่งร้อนใจ เพราะเป็นห่วงเช่นนี้ระยะเวลา 3 วัน 3 คืน ที่เขานั้นเดินทางมา ในที่สุดก็ถึงปักกิ่ง แต่ขอบอกว่าเวลานี้นั้น ปักกิ่งไม่น่าอยู่เลยสักนิด ม

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   36

    อี้หยางที่นั่งนิ่งๆ ตักข้าวกินไปด้วยพร้อมกับสังเกตเล่อเยียนไปด้วย เขารู้สึกสงสารเธอจับใจ นี่มันแร้งลงโต๊ะกินข้าวหรืออย่างไรกัน ทำไมถึงเป็นกันได้เพียงนี้ ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัวของเขา นี่พวกเขาอดอยากกันมากถึงเพียงนี้เชียวหรือแม่เฒ่าเว่ยเก็บอาการโมโหไว้ในใจ ลำพังพวกบรรดาลูกสะใภ้หล่อนจัดการสั่งสอนทีหลังได้ แต่แม่หนูฟ่านเหมยเหมยนี่อะไรกัน หล่อนเป็นหมูมาเกิดหรืออย่างไร ทำไมถึงได้กินมูมมามเสียงดังเพียงนี้ ทั้งยังกินแต่จานเนื้อ ไม่สนใจใครเลยด้วยซ้ำ หนูเล่อเยียนรึหล่อนหยิบแต่จานผัก อาหารที่หล่อนนำมาเธอยังไม่เห็นว่าที่ลูกสะใภ้แตะมันเลยแม้แต่น้อย"นี่พวกเธอไปอดอยากจากที่ไหนมากัน ไม่อายแขกของฉันกับอี้หยางบ้างเลยหรืออย่างไร " สุดท้ายแม่เฒ่าเว่ยก็ทนไม่ไหว จำต้องแสดงด้านโหดออกมาให้เล่อเยียนเห็น" เหลือไว้ให้คนอื่นเขากินบ้าง อาหารในปากก็เคี้ยวให้หมดเสีย ก่อนที่มันจะติดคอเพราะยัดไม่เลือก" แม่เฒ่าเว่ยโมโหจนตัวสั่น อีกทั้งเธอยังว่ากระทบฟ่านเหมยเหมยอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่กล้าว่าต่อหน้าก็ตาม" ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนกินกันเลยค่ะ ฉันไม่ค่อยชอบเนื้อเท่าไหร่ " หลี่เล่อเยียนตอบออกมายิ้มแบบฝืนๆ ใจจริงเธออยากจะบอ

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   35

    เมื่อไปถึงบ้านเว่ย แม่เฒ่าเว่ยก็ออกมารอต้อนรับอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว วันนี้เธอจะต้องได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ให้ได้เธอให้ลูกสะใภ้ทั้งสองเตรียมอาหารเนื้อชุดใหญ่ เพราะลูกชายเธอเป็นคนซื้อเนื้อมาเอง ถึงแม้ว่าเว่ยอี้หยางจะยังไม่แยกบ้าน แต่เขาก็พอมีเงินเก็บส่วนตัวบ้าง ไม่ได้ส่งให้แม่ไปจนหมดเผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้ไม่ลำบากเมื่อทั้งสามคนไปถึง อาหารก็ขึ้นโต๊ะพร้อมกินได้แล้วสมาชิกบ้านเว่ยมีทั้งหมด 10 คน ผู้ใหญ่ 7 คน เมื่อหลี่เล่อเยียนและฟ่านเหมยเหมยมาร่วมกินด้วย เด็ก ๆ จึงแยกโต๊ะ รวมถึงลูกสาวคนเล็กคนเดียวของบ้านเว่ยด้วย แม้ว่าเธอจะมีอายุเท่ากับเล่อเยียนก็ตาม" กับข้าววันนี้พี่เขาซื้อมาจากในเมือง หนูเล่อเยียนกินให้อร่อยนะจ๊ะ""จริงสิแล้วนี่ใครกันหรือ ป้าเหมือนจะเคยเห็นหน้า แต่ไม่รู้จักชื่อเพื่อนของหนูเล่อเยียนเองหรอกหรือจ๊ะ" แม่เฒ่าเว่ยว่าจะถามตั้งแต่เข้ามาในบ้าน แต่ก็มัวลืมรีบพาเล่อเยียนไปนั่งที่โต๊ะอาหาร กลัวว่าหล่อนจะลุกวิ่งหนีไปอีกเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา"หนูชื่อฟ่านเหมยเหมย เป็นเพื่อนของเล่อเยียนค่ะคุณป้า เอ่อ..พอดีหนูมาเป็นเพื่อนเธอน่ะค่ะ ให้เล่อเยียนมาคนเดียวเห็นจะดูไม่เหมาะสัก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status