Share

7

Author: Scince
last update Last Updated: 2025-07-17 11:43:19

" ดูสิแม่นางฟ้าตกสวรรค์มาโน่นแล้ว " เสียงซุบซิบนินทามาแต่ไกลจากทางทุ่งนา

ช่วงที่มาถึงแรกๆ ชาวบ้านต่างพากันเอ็นดู หลี่เล่อเยียนกันไม่น้อย เพราะพวกเขาตื่นเต้นกับคนเมืองหลวง ยิ่งได้รู้ว่าเธอมาจากปักกิ่ง ก็ต่างพากันแห่มาดูเธอกันยกใหญ่

คนเมืองหลวงนี่ผิวพรรณช่างแตกต่างจากชาวชนบทอย่าพวกเขายิ่งนัก คงไม่ต้องตากแดดหลังขดหลังแข็งทำงานหนักกระมัง

แม่สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มที่พวกเขาเหล่านั้นนึกเอ็นดูตั้งแต่แรกเห็น หล่อนกลับทำตัวไม่น่าเอ็นดูเหมือนกับหน้าตาเลยนี่สิ

เธอไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยปากทักทายใครทั้งนั้น มีเพียงสายตาว่างเปล่าที่มองพวกเขาเท่านั้น หากแต่ความเป็นจริงแล้ว สวาเจ้าก็เพียงแค่กลัวและตกใจ เพราะเธอไม่คิดว่าคนจะแห่มาดูกันทั้งหมู่บ้าน รวมไปถึงเด็ก ๆ  ขี้มูกโป่งทั้งหลายเหล่านั้นด้วย

หลี่เล่อเยียนเป็นหญิงสาวที่อายุใกล้เข้าวัยออกเรือนไม่เคยเจอเด็กเล็ก ๆ ที่หน้าตามอมแมมผอมโซขนาดนี้มาก่อน จึงทำตัวไม่ถูก จะเอ่ยวาจาอะไรออกไปก็กลัวไม่เข้าหู พาลแต่จะทำให้พวกชาวบ้านโกรธ จึงเลือกที่จะเงียบเสียดีกว่า ไม่คิดเลยว่าชาวบ้านจะตีความหมายเป็นอื่นซะนี่

เรื่องนินทาเป็นธรรมชาติของมนุษย์ โดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านหรือแม้กระทั่งเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่พากันอิจฉาปัญญาชนคนเมืองเหล่านั้น ที่ถึงแม้ว่าหน้าตาจะไม่ได้สะสวยทุกคน แต่ก็ต้องยอมรับว่าผิวพรรณพวกเขานั้นช่างแตกต่างจากชาวชนบทอย่างพวกเธอราวฟ้ากับดิน

" เราไปตรงโน้นกันเถอะ " หม่ายวี่ไท่เอ่ยขึ้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบหลี่เล่อเยียน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะชอบฟังคนอื่นนินทาผู้อื่นซะทีเดียว เท่าที่เธอสังเกตดู หลี่เล่อเยียนก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น ติดที่หล่อนเป็นคนพูดน้อยไปหน่อย

" ใช่ๆ ไปกันเถอะเล่อเยียน " เหอหมี่เมี่ยนรีบพูดเสริมขึ้นมาด้วยกลัวว่าจะมีเรื่องกับชาวบ้านซะเปล่าๆ

" เล่อเยียน ผมได้ข่าวว่าคุณไม่สบาย หายดีแล้วหรือถึงได้มาทำงาน ผมว่าคุณลาพักอีกสักวันดีไหมครับ " ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วน อกผายไหล่ผึ่งสมชายชาตรี กล้ามรึก็นึกว่าก้ามปูช่างดูอบอุ่นเสียจริงเชียว

ใครกันละนี่ พ่อหนุ่มน้อยดูจากหน้าตา กะอายุคร่าวๆ น่าจะไม่ต่างจากหลี่เล่อเยียนสักเท่าไหร่ มองหน้าชายหนุ่มไม่นานภาพของชายผู้นั้นก็ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน

เขามีชื่อว่า 'เตียวซูอวี้ ' เป็นเลขาธิการหนุ่มไฟแรงของหมู่บ้านนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มหล่อที่สาวๆ ทั้งหมู่บ้านหมายตา พากันส่งแม่สื่อตามไปทาบทามจนกระไดบ้านไม่แห้งกันเลยทีเดียว แต่พ่อหนุ่มน้อยก็ยังไม่ถูกใจใครสักคน ด้วยว่าตัวเขานั้นอายุเพิ่งจะ 19 ปี ยังไม่รีบคิดมีครอบครัว หากยังไม่เจอหญิงสาวที่เขานั้นถูกใจจริง ๆ

แต่เมื่อเร็วๆ นี้เห็นทีเขาจะเจอนางในดวงใจเขาแล้วล่ะ เพราะตั้งแต่ที่เจอหลี่เล่อเยียน ตัวเขาเองนั้นก็ไม่คิดที่จะมองหญิงใดอีกเลย

ในคราแรกที่เธอมาถึง ใช่ว่าเขาจะไม่สนับสนุนให้หลี่เล่อเยียนมาเป็นครูสอนเด็ก ๆ ในโรงเรียนประจำตำบลแห่งนี้ แต่เพียงแค่คำพูดของเขาคนเดียว ไหนเลยจะช่วยสนับสนุนเธอได้ เขาเห็นรูปร่างอ้อนแอ้นอรชร พร้อมทั้งรูปร่างบอบบางเช่นเธอ เขาจะทำใจให้สาวเจ้ามาทำไร่ไถนาให้มือด้านได้อย่างไรกัน

เพียงแค่คิดเตียวซูอวี้ก็รู้สึกปวดใจแล้ว ชายหนุ่มจึงคอยเรียกหญิงสาวให้มาช่วยจดบันทึก หรือไม่ก็ตรวจสอบข้อมูลของผลผลิตในหมู่บ้านแทน เนื่องจากเธออ่านออกเขียนได้ อย่างไรเสียเธอก็จบตั้งมัธยมปลาย ซึ่งเวลานั้นถือว่าจบสูงมาก ๆ เลยล่ะ

เพียงวันนั้นแค่วันเดียว ที่ตัวชายหนุ่มไม่อยู่ เข้าเมืองไปสั่งปุ๋ยพร้อมกับของใช้บางอย่าง ทำให้หญิงในดวงใจของเขาต้องไปทำงานในทุ่งนาเหมือนคนอื่น ๆ จนเธอต้องเจ็บไข้เช่นนี้

" ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณเลขาธิการที่ถามไถ่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะคะ ใกล้จะถึงเวลาทำงานแล้ว "

ช่วงนี้น่าจะเป็นฤดูเพาะปลูก เพราะตอนนี้อากาศร้อนมาก งานในทุ่งนาไม่ค่อยมีอะไรให้ทำมากนัก นอกจากคอยถอนกำจัดวัชพืชในทุ่งนา ส่วนหน้าที่หว่านปุ๋ย จะเป็นงานผู้ชายเนื่องจากแต้มค่าแรงเยอะกว่า

เหล่าบรรดาหญิงสาว หรือแม้กระทั่งแม่บ้าน จะขึ้นเขาเก็บผักป่ามาแลกเป็นแต้มค่าแรงเสียมากกว่า

" เอ่อ..ถ้าอย่างนั้นก็ไปช่วยผมตรวจของทางโน้นเถอะครับ พอดีผมสั่งซื้อปุ๋ยมา ยังไม่ได้ตรวจนับให้ละเอียด " เตียวซูอวี้ พยายามช่วยหญิงสาวเต็มที่ ด้วยกลัวว่าผิวขาวๆ ของเธอจะเสียเอาได้ ยามที่ต้องสัมผัสกับแดดลมแรงๆ

" อะไรกันคะ ซื้อของมาต้องทำการตรวจสอบตั้งแต่ขนขึ้นรถมาแล้วไม่ใช่หรอกหรือคะ เลขาธิการล้อฉันเล่นอีกแน่ ๆ เลยค่ะ ฉันไม่มีเวลาแล้ว คงต้องขอตัวก่อนเพราะเพื่อนยืนรอนานแล้วล่ะค่ะ " หลี่ล่อเยียนกล่าวยิ้มๆ พร้อมกับปลีกตัวออกมาปล่อยให้เลขาธิการหนุ่มยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น

ถ้าเป็นเมื่อก่อน หลี่เล่อเยียนคงจะรีบวิ่งไปยังที่ทำการกลางหมู่บ้าน โดยไม่รีรอให้เลขาธิการพูดจบหรอก เพราะเธอไม่ชอบทำงานตรงที่มีแดดร้อน เธอรักผิวของตัวเองยิ่งกว่าอะไร พยายามทุกทาง เพื่อที่จะได้เข้าไปช่วยงานภายใน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วล่ะทุกอย่างมันได้เปลี่ยนไปแล้ว

ถ้าเธออยากจะมีเพื่อน เธอจะต้องรู้จักปรับตัว ตอนนี้ หลี่เล่อเยียนคนใหม่ ไม่กลัวที่จะทำงานกลางทุ่งนา เพราะเธอในเมื่อก่อนก็ทนทำงานทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด ถึงจะเกิดในเมืองหลวง แต่ชีวิตใช่ว่าจะสุขสบาย เช้าๆ ต้องรับจ้างเข็นผักขายที่ตลาด สายมาทำงานประจำที่ร้านสะดวกซื้อ ตกเย็นรับจ้างล้างจาน มีเวลานอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แค่งานถอนวัชพืชแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยมากสำหรับเธอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   120

    “เพียงแค่นี้ก็ดีมากแล้วละจ้ะ พี่จะลองไปทำดูนะ ขอบคุณเธอมาจริง ๆ ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้เลยนะ” สะใภ้ใหญ่หยิบสบู่ในตะกร้ากำลังจะกลับเข้าบ้านแต่เล่อเยียนเรียกเธอไว้อีกครั้ง“เดี๋ยวก่อนค่ะ นี่เป็นค่าแรงสำหรับ 4 วันที่ผ่านมาค่ะ รับไว้ไม่ต้องเกรงใจฉันเพราะถ้าพี่ไม่รับมันไว้ รอบหน้าฉันคงไม่กล้าเรียกพี่ให้มาช่วยแล้วละค่ะ” เธอไม่อยากให้คิดว่าเป็นหนี้บุญคุณหรืออะไร เพียงแต่ทุกคนทำงานต้องได้ค่าแรงสิถึงจะถูก ของฟรีไม่มีในโลกแม้แต่น้ำใจยังต้องตอบแทนด้วยน้ำใจ"ขอบคุณแม่หนิงหลงมาจริง ๆ นะ" สะใภ้ใหญ่เธอจำไม่ได้แล้ว่าขอบคุณน้องสะใภ้ไปกี่รอบแล้วสำหรับวันนี้ เธอรับเงิน 40 หยวนมาด้วยมือที่สั่นเทา นี่คือเงินก้อนใหญ่ที่สุดจากการทำงานของเธอเลยก็ว่าได้ ถ้าเทียบกับเงินเดือนของสามีก็เกือบจะ 4 เท่าของเงินเดือนสามีด้วยซ้ำ สามีเธอทำงานทั้งเดือนได้เงิน 12 หยวน แต่เธอทำงานเพียง 4 วันได้เงินถึง 40 หยวน นี่สินะความภูมิใจในตัวเองที่เล่อเยียนบอก ความรู้สึกมันเป็นอย่างนี้นี่เองกับการเห็นคุณค่าของตัวเอง พรุ่งนี้เธอจะไปซื้อเนื้อมาทำซุปให้ลูกๆ กิน รวมถึงลูกอมกระต่าย แล้วก็ยังมีนม

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   119

    วันนี้เป็นวันที่แม่สามีลงมือเก็บว่านหางจระเข้ให้กับลูกสะใภ้ เธอลงมือเก็บตั้งแต่เช้ามืด เพื่อให้ทันกับการทำสบู่ เพราะกลัวว่าจะช้าเกินไป หลี่หานที่มาถึงก็รับหน้าที่ในการทำอาหาร อย่าดูถูกว่าเขาเป็นผู้ชายแล้วทำมันไม่ได้ดี เพราะเป็นหน้าที่ของผู้หญิงหรืออย่างใด เพราะเขาทำมันออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว แม้แต่แม่เฒ่าหยางยังอดชมฝีมือการทำอาหารของเขาไม่ได้ ซ้ำยังเป็นตัวเชื่อมระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้อีกด้วย เพราะเขาคุยเก่งเลยทำให้วงสนทนาดูไม่เงียบเหงาเมื่อมีเขาอยู่ส่วนหลี่เยียนหลังจากที่จัดการลูกชายเสร็จแล้ว ก็เตรียมของสำหรับทำสบู่ ส่วนพี่สะใภ้ใหญ่ก็มาช่วยงานแต่เช้าเหมือนกัน เป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่วันนี้เป็นวันหยุดของสามีเธอพอดี เธอจึงฝากลูกไว้กับสามีให้เขาดูแลต่อจากเธอ จะเอามาส่งแค่ตอนที่เขาหิวนมเท่านั้น ส่วนหลี่หานนั้นลงไปช่วยแม่เฒ่าหยางขนว่านหางจระเข้มาให้กับพี่สาวที่ลานหน้าบ้านหลี่เล่อเยียนทำตรงลานหน้าบ้าน ไม่ต้องกลัวใครจะเดินผ่านมาเห็น เพราะกำแพงและประตูรั้วบ้านเธอนั้นกั้นได้มิดชิดอยู่แล้วจึงไม่ได้กลัวว่าความลับจะรั่วไหล อีกอย่างตั้งแต่ที่แม่สามีเธอมาอยู่ด้วย น้าสะใภ้ก็ไม่

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   118

    “สวัสดีครับพี่ จริง ๆ แล้วพี่ไม่ต้องมารับผมก็ได้นะครับผมไปเองได้” เล่อเยียนได้ยินดังนั้นก็หมุนจักรยานแล้วเตรียมตัวจะกลับบ้าน“พี่จะไปไหนครับ ผมปั่นให้ดีกว่า” หลี่หานรีบคว้าท้ายจักรยานไว้เพราะพี่สาวเขาทำท่าจะปั่นจักรยานไปซะแล้ว“ก็นายบอกเองไม่ใช่หรือว่าเดินกลับเองได้ ถ้าอย่างนั้นนายก็เดินกลับเองก็แล้วกัน” หลี่เล่อเยียนหมั่นไส้น้องชายที่ทำเป็นเล่นตัว จริง ๆ แล้วเขาก็ดีใจที่เธอจะมารับนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นคงไม่มารอเธอที่หน้าโรงเรียนแบบนี้หรอก“เดี๋ยวๆ ครับพี่ ไหน ๆ พี่ก็มาแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็กลับด้วยกันนี่แหละครับ ผมเป็นคนปั่นให้พี่ซ้อนท้ายเองจะดีกว่า นี่พี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย แตงโมอะไรกันทำไมมันถึงลูกใหญ่ขนาดนี้ละครับ” หลี่หานเคยกินแตงโมแต่เพียงไม่เคยเห็นแตงโมลูกใหญ่เท่านี้มาก่อน“กลับบ้านเถอะ” เล่อเยียนขี้เกียจต่อปากต่อคำกับน้องชาย เขาคิดถึงลูกชายจะแย่อยู่แล้ว ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะร้องไห้งอแงหิวนมแล้วหรือยังสองพี่น้องเมื่อปั่นจักรยานมาถึงบ้านก็เจอเข้ากับแม่เฒ่าหยางและลูกชายกำลังออกมาเดินเล่น

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   117

    ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เข้าช่วงฤดูร้อนอากาศในช่วงนี้ประมาณ 25-27 องศา เพราะยุคนี้ยังไม่ถือว่ามีมลพิษมากนัก ไม่มีปัญหาภาวะเรือนกระจกหรือแม้กระทั่งปัญหาของฝุ่น ทำให้อากาศที่บอกว่าร้อนก็ไม่ได้ร้อนมากมายเท่าไหร่นัก“แม่คะ ฉันขอฝากหนิงหลงด้วยนะคะ พอดีฉันจะออกไปซื้อของข้างนอกน่ะค่ะ” หลี่เล่อเยียนฝากลูกชายไว้กับแม่สามี จริง ๆ แล้วเธอจะออกไปถามเรื่องสบู่ต่างหากว่าตอนนี้เสี่ยวฮวาขายมันไปหมดแล้วหรือยัง เธอต้องการหารายได้เพิ่มหลังจากที่ขาดรายได้ไปในช่วงที่คลอดลูกใหม่ๆ“ได้สิ แล้วแม่หนิงหลงจะไปไหนหรือ” แม่เฒ่าหยางรู้สึกปวดใจทุกครั้งที่ลูกสะใภ้ออกไปนอกบ้าน เพราะเธอมักจะขนข้าวของมาเต็มไม้เต็มมือ เธอรู้สึกสงสารลูกชายจับใจ ที่มีเมียใช้เงินมือเติบเพียงนี้ แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่เธอซื้อมากลับพูดไม่ออก เพราะสิ่งที่เธอซื้อมานั้นล้วนมีแต่ของมีประโยชน์ไว้ใช้สำหรับบำรุงลูกชายของเธอทั้งนั้น แต่เดือนนี้ลูกชายของเธอเขาออกไปปฏิบัติภารกิจนอกพื้นที่ได้ 2 วันแล้ว“ฉันจะไปซื้อผ้าหน่อยนะค่ะ ชุดที่หนิงหลงใส่ฉันรู้สึกว่ามันจะคับเกินไป แล้วก็จะแวะรับน้องชายที่โรงเรียนด้

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   116

    “ตกลงครับผมจะจัดการทุกอย่างตามที่คุณบอก” หยางหมิงเฉิงเดินไปปิดไฟแล้วมานอนข้างๆ ภรรยา“คุณจะมาเบียดฉันทำไมคะ” หลังจากที่หยางหมิงเฉิงปิดไฟเขากลับมานอนข้างๆ เธอ แทนที่จะไปนอนอีกฝั่งหนึ่งเพราะตอนนี้หนิงหลงนอนตรงกลาง“ภรรยาครับ นานมากแล้วนะครับที่เรา…แผลคุณหายดีหรือยังครับยังเจ็บอยู่หรือเปล่า" หลี่เล่อเยียนขนลุกทันทีที่สามีเอาหน้ามาซุกซอกคอพร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมจากเธอไปมา“ฉะ ฉันยังไม่หายเจ็บเลยค่ะ อีกอย่างคุณแม่ก็บอกแล้วนี่คะ ว่าให้งดไปอีก 3 เดือน” แม่สามีเธอบอกตั้งแต่ที่กลับบ้านวันแรกว่ากิจกรรมบนเตียงให้ลูกชายงดไปอีก 3 เดือนให้แผลเธอสมานดีก่อน“ผมใกล้จะขาดใจตายแล้วล่ะครับ” หยางหมิงเฉิงหอมแก้มภรรยาแรงๆ พร้อมกับลุกไปเข้าห้องน้ำหยางหมิงเฉิงพาน้องชายสามไปซื้อของฝาก เขาซื้อมาเยอะทีเดียวตามคำสั่งภรรยา พร้อมทั้งกำกับชัดเจนว่าส่วนไหนเป็นของส่วนกลางและส่วนไหนเป็นของพ่อหยาง“สงสัยพี่ชายคุณจะกลัวพวกเราฮุบเอาของฝากไปหมดเลยมั้งคะถึงได้เขียนกำกับขนาดนี้” สะใภ้สามที่เห็นของบำรุงแต่ละอย่า

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   115

    หลังจากที่เข้ามาในห้องนอนสะใภ้สามก็เขวี้ยงปาข้าวของ เธอทำผิดอะไรทำไมถึงไล่กันยังกับหมูกับหมาขนาดนี้ ยัยสะใภ้รองอายุเท่าไหร่กันทำไมถึงไม่มีสัมมาคารวะบ้างเลย หล่อนอายุน้อยกว่าเธอตั้งหลายปี แต่พูดไม่ให้เกียรติกันเลยสักนิด เห็นว่าตัวเองมีชีวิตที่ดีจะถีบหัวใครไปไหนก็ได้อย่างนั้นหรือ อีกอย่างที่ดินในปักกิ่งสามีเธอก็ควรจะมีสิทธิได้เหมือนกันสิถึงจะถูก คิดแล้วมันน่าเจ็บใจนักมีสามีหัวอ่อนแบบนี้เธอหลับหูหลับตาแต่งงานด้วยได้ยังไงกัน“แม่คะเราต้องกลับบ้านจริง ๆ หรือคะ หนูชอบที่นี่เราไปขอคุณลุงดีหรือเปล่าคะ คุณป้าสะใภ้น่ากลัวมากเลยหนูกลัวมากเลยค่ะแม่” หยางจินเยว่ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ไม่กล้าที่จะเอ่ยแม้แต่ครึ่งคำ เพราะในตอนนั้นป้าสะใภ้เธอดูน่ากลัวมาก“แกไม่ได้ยินที่เขาด่าหรืออย่างไร จะให้ฉันหน้าหนาทนอยู่ได้อย่างไรกัน ถ้าแกอยากจะอยู่แกก็ไปขอคุณย่าสิ” เมื่อพูดถึงตรงนี้สะใภ้สามก็มีความคิดดี ๆออกแล้วล่ะ“เยว่เอ๋อร์ ถ้าลูกอยากจะอยู่ปักกิ่งต่อ ลูกลองไปขอคุณย่าดูซิจ๊ะ ไปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คุณย่าฟังว่าป้าสะใภ้พูดอะไรกับพวกเราบ้าง แม่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status