หน้าหลัก / รักโบราณ / เกิดใหม่มาตบตีกับแม่ผัว / บทที่ 3 : เริ่มต้นชีวิตของสะใภ้สกุลโต้ว

แชร์

บทที่ 3 : เริ่มต้นชีวิตของสะใภ้สกุลโต้ว

ผู้เขียน: จางหลิงมี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-23 13:22:42

บทที่ 3

เริ่มต้นชีวิตของสะใภ้สกุลโต้ว

          ท้ายที่สุดโต้วตงหมิงและเจินซูเมิ่งก็อยู่ในชุดวิวาห์สีแดงสด  ห้อมล้อมด้วยสมาชิกในครอบครัวทั้งฮูหยินผู้เฒ่า ‘โต้วจูไห่’ ผู้เป็นย่า  พร้อมด้วยบิดามารดาของเจ้าบ่าว  รวมถึง ‘โต้วเชี่ยเฟิง’ น้องชายคนรองวัยสิบแปดปีและ ‘โต้วชุนฮวา’ น้องสาวคนเล็กวัยสิบสี่ปีซึ่งไม่มีใครยิ้มแย้มด้วยความยินดีเลยสักคน  สวนทางกับฝั่งภรรยาซึ่งมีบิดามารดาของเจ้าสาวรวมถึงเพื่อนรักที่มาร่วมเป็นพยานทวงคืนความยุติธรรมทั้งสองคนด้วย  ใบหน้าของพวกเขายิ้มแย้มแจ่มใสเต็มไปด้วยความยินดีแม้เจ้าสาวจะอยู่ในอาการประหม่าก็ตาม

          ชายหนุ่มนึกไม่ถึงว่าสิ่งที่ตอบรับไปด้วยความหงุดหงิดจะส่งผลเสียต่ออนาคตของตัวเองถึงเพียงนี้

“พวกท่านว่ายังไงข้าก็ว่าตามกัน”

จู่ ๆ ก็มีภรรยาขึ้นมาเสียได้  แถมเป็นแค่ตระกูลค้าขายไม่ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีที่จะมาค้ำชูส่งเสริมวงศ์ตระกูลได้แต่กลับถูกเชิดชูให้ได้เป็นถึงภริยาเอก

          จะมาคัดค้านเอาตอนนี้ก็ดูจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว

          ตามธรรมเนียมก่อนส่งตัวเข้าหอครอบครัวฝ่ายหญิงจะจัดเตรียมอาหารมงคลจำนวนสิบชนิดไว้ให้เพื่อเป็นการอวยพร

          “กินนี่นะเมิ่งเอ๋อร์”  เจินเจียวหรงใช้ตะเกียบคีบเห็ดหอมวางไว้ในถ้วยบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวน  “เห็ดหอมนี่หมายความว่าให้ชีวิตคู่ของเจ้าหอมหวาน...”

          .

          .

          .

          ‘พราวฝัน’ ใช้ตะเกียบคีบเห็ดหอมจากในถ้วยที่แฟนหนุ่มตักให้เข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย

          “อร่อยมั้ย”

          “อื้อ”  หญิงสาวพยักหน้าตอบแหย ๆ เพราะรู้สึกกระอักกระอ่วนกับสถานการณ์แวดล้อมตรงหน้า

          แม้ ‘แทนคุณ’ จะสังเกตอาการของแฟนสาวได้แต่ก็ทำเพียงคลี่ยิ้มเจื่อน ๆ ตอบกลับไป  เขาจะทำอะไรได้เพราะต้นเหตุของอาการไม่ปกติที่ทั้งสองต้องเผชิญอยู่ดันเป็นแม่ของเขานั่นเอง

          “ทำไมล่ะ  ปกติกินยากกินเย็นนักรึไง”  หญิงสูงวัยแทรกถามเมื่อเห็นว่าแฟนของลูกชายดูจะไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไรนัก  “ทำหน้าตาเหมือนไม่ถูกปาก”

          “เอ่อ...”

          “ก็คงจะไม่ค่อยได้มากินบ่อยล่ะมั้งอาหารเหลาราคาแพง ๆ พวกนี้”

          “แม่...!”  คนเป็นลูกชายพยายามร้องปรามเมื่อดูว่าถ้อยคำของมารดาเริ่มจะไปกันใหญ่

          “งานมันไม่แน่ไม่นอนรายได้ก็เลยไม่มั่นคงใช่มั้ยล่ะ  หาได้มื้อนี้ก็ต้องเผื่อไปอีกห้าหกมื้อเพราะไม่รู้ว่าจะหาได้หรือมีคนจ้างอีกเมื่อไหร่”

          “ใช่ค่ะ”  หญิงสาวตอบกลับทันควันพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ  “งานไม่แน่นอนอันนี้ถูกค่ะ  แต่หาได้งานเดียวก็พอกินไปเป็นสิบมื้อเลยล่ะค่ะคุณแม่”

          ‘นิศมา’ กระตุกยิ้มมุมปากน้อย ๆ เมื่อได้ฟังว่าที่ลูกสะใภ้โต้กลับ

ส่วนพราวฝันเองก็อดทนมานานแล้ว  ที่จริงต้องเรียกว่ากล้ำกลืนมาโดยตลอด  ตั้งแต่คบกับแทนคุณสิ่งที่ดูจะเป็นอุปสรรคก็คือแม่ของเขานี่ล่ะ  ไม่รู้จะจงเกลียดจงชังอะไรเธอนักหนา  พอรู้ว่าเธอเป็นนักแสดงอิสระก็เบ้ปากคว่ำหน้าไม่อยากจะเสวนาด้วยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  เจอหน้ากันทีไรก็เอาแต่ถากถางเรื่องหน้าที่การงานไม่มีหยุดหย่อน 

นั่นก็เพราะเธอ ‘เต้นกินรำกิน’ จะมีเงินไปพอใช้อะไร  สามารถสร้างฐานะสร้างตัวตนได้เมื่อไรก็ไม่รู้  กลัวก็แต่จะมาเกาะลูกชายสุดที่รักของตัวเองจนหมดตัวสูบจนเลือดแห้งสิไม่ว่า  นิศมาคิดเช่นนี้มาโดยตลอด  หน้าตารึก็สะสวยดี  แต่สวยอย่างเดียวมันอิ่มท้องเสียที่ไหน  ยุคที่หากินยากจนแร้นแค้นอย่างตอนนี้ความมั่นคงต้องมาก่อน

“แทนคุณอาจจะไม่เคยปริปากบอกคุณแม่  ว่าก่อนหน้านี้ที่เราไปกินโอมากาเสะกับเชฟชื่อดังแถวทองหล่อหมดไปแปดหมื่นกว่าบาทก็เป็นพราวที่เลี้ยงทุกคนเองนะคะ”  ว่าที่ลูกสะใภ้ประกาศบอกด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

“...!”

“อย่าหาว่าทวงบุญคุณหรือพูดให้อึดอัดใจเลยนะคะคุณแม่  แค่อยากให้คุณแม่ได้เห็นมุมมองอะไรใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยรับรู้บ้าง”

นิศมาหันมองลูกชายพร้อมอ้าปากค้าง  หมายจะได้รับการอธิบายข้อมูลแปลกประหลาดที่เพิ่งได้รับจากปากของลูกชายด้วย

แต่คนกลางอย่างแทนคุณก็ทำได้เพียงนั่งทำหน้ากระอักกระอ่วนไม่สามารถปริปากพูดอะไรเป็นเรื่องเป็นราวได้อย่างที่พราวฝันว่า  เพราะไม่ว่าจะพยายามอย่างไรว่าที่ภรรยากับแม่บังเกิดเกล้าของตัวเองก็ไม่มีทางจะผูกสัมพันธ์กันได้เลย  อุตส่าห์ชวนมากินข้าวร่วมกันในเทศกาลไหว้พระจันทร์เพื่อกระชับมิตรแล้วแท้ ๆ

แล้วก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง  ในสายตาของพราวฝันนั้นแทนคุณก็ยังเป็นเพียงลูกแหง่ที่ยังร้องกินนมแม่อยู่ตลอดเวลา  ไม่สามารถช่วยจัดการให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแม่ของเขาดีขึ้นได้เลย  เธออยากจะเลิกกับเขาอยู่หลายครั้ง...  แต่ติดที่หมอนี่มันดันหน้าตาหล่อโคตร ๆ  ตรงสเปกไปเสียทุกอณูแถมเรื่องบนเตียงยังเผ็ดร้อนเด็ดสะระตี่ทำให้ตัดใจหันหลังหนีไปไม่ได้เสียที

.

.

.

เจินซูเมิ่งนั่งนิ่งบนเตียงภายใต้ผ้าคลุมหน้าและชุดแต่งงานสีแดงอยู่ในห้องหอมานานเกือบชั่วยามแล้ว  แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้าบ่าวของนางจะปรากฏตัวขึ้นเลยในคืนอันแสนสำคัญ

นางไม่ทราบหรอกว่าหลังจากนี้จะต้องทำอะไรกันต่อ  รู้เพียงว่าพ้นค่ำคืนนี้ไปนางก็จะกลายเป็นฮูหยินน้อยในจวนสกุลโต้วผู้สูงศักดิ์  สตรีอย่างนางแค่เติบโตและใช้ชีวิตไปวัน ๆ เท่านั้นไม่ประสาหรือเดียงสากับโลกเลยสักนิด

จนกระทั่งผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้  สะดุ้งตัวสุดแรงอีกทีก็ตอนที่มีเสียงเปิดประตูดังปังพร้อมเสียงโหวกเหวกของใครบางคน

“ถึงเวลาที่ฮูหยินจะต้องไปเก็บน้ำค้างมากรองให้ฮูหยินผู้เฒ่า  ใต้เท้าและฮูหยินใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”  น้ำเสียงจีบปากจีบคอฟังดูน่าหมันไส้ของอันหยินประกาศบอกภารกิจแรกในการเป็นสะใภ้ของจวนใหญ่แห่งนี้  “เพราะน้ำค้างบริสุทธิ์มีคุณสมบัติช่วยล้างพิษ  แก้ปวดเมื่อย  และฮูหยินใหญ่ยังเลือกใช้มันเพื่อชะลอวัยให้ใบหน้ายังคงงดงามอ่อนเยาว์อยู่เสมอ  ดังนั้นฮูหยินน้อยจะต้องตื่นตั้งแต่ยามอิ๋น[1]เพื่อมารอหยดน้ำค้างไหลลงมาจากใบไผ่สำหรับนำมาปรนนิบัติผู้อาวุโสในจวนให้ได้อุปโภคและบริโภคกันทุกเช้า”

“ต้องใช้ปริมาณมากเท่าใดกัน”

ผู้จัดการบ้านไม่ตอบแต่ยืนถังไม้ขนาดใหญ่ไปตรงหน้าแทน  “รอจนกว่าจะเต็มถังนี้เจ้าค่ะ”  บอกพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่ม

“ถังใหญ่มาก  คงเกือบสามชั่วยามกว่าจะเต็ม”

“บ่าวมิทราบ  จะใช้เวลานานเท่าใดก็สุดแล้วแต่ความสามารถของฮูหยินน้อยแล้ว”

“เหตุใดหน้าที่นี้จึงต้องเป็นข้าทำ”

“ก็เพื่อแสดงความกตัญญูอย่างไรเล่าเจ้าคะ”

“...!”

“หรือฮูหยินน้อยประสงค์จะละเลยคุณธรรมข้อสำคัญ  ไม่อยากดูแลท่านย่า  บิดาและมารดาของสามีงั้นรึเจ้าคะ”

“เอ่อ  เรื่องนั้น...  ข้าก็ยังไม่ได้หมายความเช่นนั้นเสียหน่อย”

“ดีมากเจ้าค่ะ  ถ้าเช่นนั้นก็เปลี่ยนชุดสีแดงนั่นออกแล้วรับภารกิจสำคัญแห่งสะใภ้ใหญ่จวนสกุลโต้วได้แล้วเจ้าค่ะ”

เพราะนางสรรหาจะยกมาอ้างทำให้ซูเมิ่งกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก  ยอมเอื้อมมือไปรับถังไม้ใบใหญ่นั้นมาแต่โดยดี

เจ้าสาวหมาด ๆ ในชุดพร้อมทำงานเดินตามบ่าวรับใช้สองคนไปยังสวนด้านข้างเรือนใหญ่แล้วทอดมองหยดน้ำที่ลู่ลงมาจากใบไผ่กอใหญ่ที่ตัดแต่งลดหลั่นวางลำดับอย่างงดงามแม้รอบด้านจะยังคงมืดมิดก็ตาม

มีหยดหนึ่งกำลังจะไหลตกลงพื้นหญ้าแล้วซูเมิ่งรีบยื่นถังไปรองรับเอาไว้ได้ทัน

“แต่ละหยดของเจ้าช่างมีค่ามากนัก  ข้าจะไม่ยอมสูญเสียพวกเจ้าไปอย่างเปล่าประโยชน์เด็ดขาด”  นางพึมพำกับตัวเองหลังสาวรับใช้ที่หน้างุ้มงอไม่ยอมพูดยอมจาทั้งสองคนเดินจากไปโดยทิ้งให้นางอยู่ตามลำพัง

หญิงสาวนั่งเอาคางเกยเข่าตัวเองแล้วมองหยดน้ำใสไหลลงภาชนะทีละแหมะ...  สองแหมะ...  แล้วก็ให้หวนนึกถึงตัวเองว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดกันกว่าสายตาของผู้คนในจวนนี้จะมองตัวนางเปลี่ยนไปบ้าง...

ดูท่าแล้ว...  การได้มาเป็นสะใภ้จวนนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะจบอย่างงดงามดุจในเทพนิยายเสียแล้วสิ  เพราะชีวิตต่อจากนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง...

[1] ยามอิ๋น คือเวลาตั้งแต่ 03.00 น. – 05.00 น.

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่มาตบตีกับแม่ผัว   บทที่ 35 : อ้อมกอดแห่งความผูกพัน (จบ)

    บทที่ 35อ้อมกอดแห่งความผูกพัน เวลานี้ข้างเตียงสลับเป็นโต้วตงหมิงเป็นฝ่ายมานั่งเฝ้าแล้วประคบประหงมภรรยาบ้างโดยเขาไม่ได้ชวนคุยหรือถามจุกจิกเป็นการรบกวนนางแม้แต่น้อย “เหตุใด... ถึงรู้สึกว่าบรรยากาศช่วงนี้น่าเศร้านัก” พราวฝันเพียงมองไปรอบ ๆ ห้องแต่ก็เกิดความหดหู่ขึ้นในใจ “บัดนี้... เทียนโฮ่วสิ้นพระชนม์แล้ว...” “สิ้นแล้วหรือ... มีแต่เรื่องน่าเศร้า...” เธอพึมพำ หลังจากนี้บ้านเมืองจะวุ่นวายและโกลาหลอยู่อีกหลายปีทีเดียว... “ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองต่างเต็มไปด้วยความโศกเศร้า” “เฉกเช่นเดียวกับในจวนของเรา... เจ้าเสียใจบ้างรึไม่ที่เราต้องสูญเสียลูกไป” “เหตุใดจึงเอ่ยถามด้วยถ้อยคำทิ่มแทงข้าเยี่ยงนี้ หากข้าทำดีกับเจ้าก็ย่อมหมายถึงข้าเฝ้ารอคอยการกำเนิดมาอย่างปลอดภัยและแข็งแรงของเขาเช่นเดียวกัน” “ข้าคงคิดมากเกินไป ขอโทษนะตงหมิง” ผู้เป็นสามีไม่คิดเก็บเอามาใส่ใจ หากแต่ยกฝ่ามือหนาขึ้นลูบศีรษะของภรรยาอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลราวกับต้องการปลอบประโลมจากทุกความโหดร้ายที่เกิดขึ้น “เจ้าโศกเศร้ามานานแล้ว อย่

  • เกิดใหม่มาตบตีกับแม่ผัว   บทที่ 34 : ทวงคืนบุตรสาว

    บทที่ 34ทวงคืนบุตรสาว วินาทีที่ร่างของเธอลอยละล่องไปบนอากาศราวกับกระดาษขอพรที่ปลิวขาดออกจากเชือกนั้น เธอคิดว่าตัวเองได้ตายไปเสียแล้ว ความรู้สึกนั้นคล้ายคลึงกันเล็กน้อยต่างกันก็แค่เพียงตอนนั้นเป็นกลางคืนแต่ตอนนี้เป็นกลางวัน... ตึง! ม้าตัวนั้นวิ่งฝ่าฝูงชนต่อไปด้วยอาการเตลิดพร้อม ๆ ร่างของพราวฝันก็ตกลงบนพื้นอย่างแรง เธอนอนแน่นิ่งท่ามกลางสายตาของผู้เป็นแม่สามีและคนอื่น ๆ บริเวณนั้น แม้แต่ชายฉกรรจ์ที่ทะเลาะกันก่อนหน้านี้ยังต้องหยุดวิวาท ราวกับโลกหยุดหมุน โต้วหนิงอันตะเกียกตะกายคลานมาหาลูกสะใภ้ ยิ่งเมื่อบริเวณกระโปรงของนางมีสีแดงฉานจากเลือดสด ๆ ซึมออกมาหญิงสูงวัยก็แทบสิ้นสติ “ซูเมิ่ง ไม่นะซูเมิ่ง ไม่เป็นอย่างนี้สิ เจ้าฟื้นขึ้นมาก่อนเจินซูเมิ่ง ไม่นะ ม่ายยย!!!”“ท่านย่าทวด ท่านปู่ ท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ แล้วก็ท่านอาเชี่ยเฟิงและท่านอาชุนฮวา... ฮวนเอ๋อร์กลับจากหอเหวินฟางแล้วขอรับ”“แหม พูดเสียงเจื้อยแจ้วน่าเอ็นดูจริง ๆ เลยเด็กคนนี้ ไหน... มาซิ มาใกล้ ๆ ย่า ให้ย่ากอดหน่อยเร็ว”เด็กน้อยถอยหลังกรูดตอนที่ผู้

  • เกิดใหม่มาตบตีกับแม่ผัว   บทที่ 33 : โต้วเจียฮวน

    บทที่ 33โต้วเจียฮวน “อยากดูพระจันทร์ใกล้ ๆ กว่านี้รึไม่” “อื้อ” พราวฝันตอบทั้งคราบน้ำตา จากนั้นผู้เป็นสามีจึงพาภรรยาขึ้นม้าแล้วควบเบา ๆ ไปที่ใดที่หนึ่ง ระหว่างทางนั้นหญิงสาวก็ถูกประคองโอบไว้ด้วยชายที่เธอเฝ้ารอคอยมาหลายวันด้วย ใช้เวลาราวครึ่งชั่วยามเขาก็พาเธอมาที่เนินของภูเขาจงหนานในระดับความสูงที่ไม่ต้องบุกป่าฝ่าดงจนเกินไป เขาเลือกมุมหนึ่งที่ยืนมองออกไปเห็นเมืองฉางอานอันกว้างใหญ่ไพศาลทั่วทั้งเมืองในยามราตรี ขณะที่บนท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มก็มีแสงผุดผาดจากดวงจันทร์เต็มดวงส่องนำทาง “วิวที่นี่สวยจัง อย่างกับมองจากตึกมหานครแน่ะ” “ตึกอะไรนะ” “ตึกสูง ๆ สูงมาก ๆ จนเจ้าจินตนาการไม่ออกเลยว่ามนุษย์จะสร้างสิ่งก่อสร้างเทียมฟ้าได้” “มนุษย์จะกลายเป็นเทพเซียนรึ” “ไม่... มนุษย์ก็คือมนุษย์เช่นเดิม เราไม่ได้เป็นผู้วิเศษหรือมีพลัง แต่เราจะถูกพัฒนาการทางสมองและทักษะ ต่อยอดด้วยองค์ความรู้ต่าง ๆ จากคนในยุคนี้นี่ล่ะ” “คนในยุคนี้... แสดงว่าเจ้ามาจากอนาคตงั้นรึ” พราวฝันไม่ตอบแต่เบี่ยงประเด็นไปท

  • เกิดใหม่มาตบตีกับแม่ผัว   บทที่ 32 : ความคิดถึง

    บทที่ 32ความคิดถึง มื้อเที่ยงวันนี้มีเผิงฟางหยวนมารวมโต๊ะด้วย ทุกคนในจวนสกุลโต้วดูจะเอ็นดูเขาเป็นอย่างดี ปฏิบัติกับเขาอย่างน่ารักราวกับเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวก็มิปาน “หมอเผิงเจ้าต้องกินเยอะ ๆ ร่างกายเจ้าซูบผอมเกินไปแล้ว” หนิงอันใช้ตะเกียบคีบเนื้อหมูไปวางไว้บนถ้วยข้าวของว่าที่สะใภ้รอง “มัวแต่ดูแลคนอื่น เจ้าต้องมีคนดูแลที่ดีจะได้มีเรี่ยวแรงรักษาผู้ไข้ทั่วทั้งแผ่นดิน” “หากจะโทษก็ต้องโทษบุตรชายเจ้านั่นล่ะหนิงเอ๋อร์ที่ปล่อยปละละเลย...” ผู้เป็นย่ารีบแทรกด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ก่อนผู้เป็นแม่จะอมยิ้มรับกันโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ ปล่อยให้บุตรชายนั่งหน้าร้อนผ่าวจนทำตัวไม่ถูก “ยังอีก... ยังไม่รีบคีบกับข้าวให้สหายเจ้าอีกรึเชี่ยเฟิง” ผู้เป็นพ่อทำเสียงดุแต่ทุกคนกลับหัวเราะชอบใจ คนในบ้านนี้ได้เปิดรับโลกใหม่ที่อีกพันกว่าปีอย่าว่าแต่ครอบครัวเลยแม้แต่บางประเทศก็ยังทำไม่ได้ ก่อนเขาก่อนใครสุด ๆ “ข้าเพิ่งจะเคยพบเคยเห็นบุรุษสองคนวิ่งเล่นไล่จับผีเสื้อในสวนดอกไม้” ชุนฮวาแอบกระซิบกระซาบกับพี่สะใภ้ขณะนั่งจิบน้ำชาและกินของว่างอยู่ในศ

  • เกิดใหม่มาตบตีกับแม่ผัว   บทที่ 31 : แต่ละวันที่สามีไม่อยู่

    บทที่ 31แต่ละวันที่สามีไม่อยู่ หลังจากที่กินยาบำรุงจากแม่สามีไปได้ครึ่งขนานเธอก็กินเก่งขึ้นมาก ช่วงสายของวันนี้ก็เช่นกันหลังร่วมโต๊ะกินมื้อเช้ากับสมาชิกคนอื่น ๆ ไปเพียงไม่ถึงชั่วยามเธอก็อยากหาอะไรกระแทกปากอีกแล้ว พราวฝันชวนอาหว่านมาเดินเล่นที่โรงครัวแล้วเดินสำรวจโดยการเปิดดูโน่นนี่ไปเรื่อย “ช่วงนี้เราจะกินขนมฉงหยางเป็นของว่างเจ้าค่ะฮูหยินน้อย” บ่าวไพร่คนหนึ่งบอกแล้วยกจานขนมมาส่งให้ หญิงสาวรับมากัดเคี้ยวแล้วเสมองไปรอบ ๆ ก็เห็นคนคุ้นตานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่มุมหนึ่งโดยมีบ่าวรุ่นน้องคอยประคบร้อนบริเวณไหล่ให้อยู่ “มานั่งอู้อยู่รึอันหยิน” “บ่าวปวดระบมไปทั้งแผงไหล่เลยเจ้าค่ะ วันนั้นที่ฮูหยินน้อยปราบโจรขโมยถุงเงินแล้วได้ของรับขวัญมาตั้งมากมาย ถ้ารู้อย่างนี้จะให้หงเอ๋อร์กับไห๋เอ๋อร์ติดตามไปด้วยก็ดี” “โทษข้าอยู่รึ” “ใครจะไปกล้ากันล่ะเจ้าคะ” พราวฝันยัดขนมส่วนที่เหลือเข้าปากแล้วไล่เด็กสาวที่กำลังนั่งประคบแบบขอไปทีออกไปโดยพาตัวเองเข้าไปแทนที่ “ฮูหยินน้อยจะทำอะไรบ่าวเจ้าคะ บ่าวไม่ได้จะตำหนิฮ

  • เกิดใหม่มาตบตีกับแม่ผัว   บทที่ 30 : บุปผาหอมที่เริ่มคุ้นชิน

    บทที่ 30บุปผาหอมที่เริ่มคุ้นชิน สตรีสองนางขนาบข้างไปด้วยกันตามทางเดินแคบ ๆ พร้อมบ่าวไพร่ที่ช่วยถือของฝากบางส่วนตามมา “คงต้องขอบคุณฮูหยินน้อยโต้วที่กรุณาให้ข้าเข้าเยี่ยมสหายตั้งแต่วัยเยาว์ในวันนี้” ผู้มาเยือนเริ่มเปิดสนทนาด้วยการเหน็บแนมเล็กน้อย หากแต่ผู้ทำหน้าที่เจ้าบ้านเพียงยิ้มบาง ๆ ตอบกลับไปเท่านั้น “ยามที่ป่วยไข้ตงหมิงมักจะอยากกินบ๊วย... เจ้าทราบรึไม่” “ไม่... ข้าไม่ทราบ” เมี่ยวลี่ฟางเสวี่ยแค่นหัวเราะเบา ๆ ราวกับไพ่ใบนั้นกลับมาอยู่ในมือนางแล้ว “ตอนแปดขวบโต้วตงหมิงจมน้ำหลังจากขึ้นมาได้เขาก็ป่วยเป็นไข้ซมอยู่หลายวันอีกทั้งยังจืดปากจืดคอจนกินอะไรไม่ลง ข้าจึงนำบ๊วยเค็มนี่มาให้เขา หลังจากได้ลิ้มรสมันเขาก็ติดใจทันที ทุกครั้งเมื่อเขาป่วยหนักหลังฟื้นไข้ก็จะถามหาเม็ดบ๊วยเค็มอยู่เสมอ เขาบอกว่ามันทำให้เขาสดชื่นและกระตุ้นการรับรสได้ดี...” พราวฝันเพียงมองที่อีกฝ่ายเล่าเรื่องราวในอดีตด้วยใบหน้ามีความสุข “แม่นางเมี่ยวคงสนิทสนมกับสามีของข้ามาก” “ใช่... เราสองคนสนิทกันมากจนใคร ๆ ต่างก็คิดว่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status