Share

บทที่ 12

Penulis: เฉียวเหมย
ตระกูลลู่

ลู่ซีเจ๋อวุ่นวายแต่เช้าตรู่ กว่าจะเกลี้ยกล่อมเฉินชิงเสวี่ยให้ออกไปได้นั้นมันไม่ง่ายเลย ทันทีที่เข้ามาในบ้าน พริบตาถ้วยชาก็กระแทกเข้ากับหน้าผากเขาจนเลือดกระเด็นออกมาอย่างจัง

ลู่ซีเจ๋อที่ถูกกระแทกยังคงมึนงงอยู่และถามอย่างโมโหว่า “พ่อ! นี่พ่อทำอะไรเนี่ย!”

“ทำอะไร? ฉันจะฆ่าแกไอ้ลูกไม่รักดี!”

ลู่เทาตะโกนด้วยใบหน้าเขียวปั๊ด “กว่าฉันจะได้โปรเจกต์นี้มาได้มันไม่ง่ายเลยสักนิด แต่มันกลับถูกแกทำลายไปแล้ว! นอกจากแกจะเอาแต่สร้างปัญหาแล้ว แกยังจะมีปัญญาไปทำอะไรได้อีก!”

“พ่อ! นี่พ่อกำลังพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย!” ลู่ซีเจ๋อตะโกนตอบ

“วันนี้แกไปทำอะไรเอาไว้ที่ร้านเซียวเซียงซวนมาล่ะ? แกรู้ไหม เซียวเซียงซวนเป็นร้านของคุณชายรองตระกูลฮั่ว! แกกล้าดียังไงถึงไปก่อเรื่องวุ่นวายในอาณาเขตของตระกูลฮั่ว! แกกลัวว่าพ่อของแกจะอายุยืนใช่ไหม!” ลู่เทาอดกลั้นเอาไว้จนทั้งใบหน้าแดงก่ำไปหมด

ลู่ซีเจ๋อตะลึงงันไปครู่หนึ่ง อะไรนะ? เซียงเซียวซวนคือร้านของคุณชายรองตระกูลฮั่ว? ถ้าอย่างนั้นไอ้เวรนั่นก็เป็นคุณชายรองเหรอ?

เขากับเฉินชิงเสวี่ยถึงขั้นตะโกนปะทะฝีปากกับคนคนนั้น แบบนี้ก็เท่ากับเป็นการทำลายโปรเจกต์ใหญ่ของลู่กรุ๊ปไปแล้วน่ะสิ!

ในตอนที่ลู่ซีเจ๋อถูกลู่เทาด่าจนเลือดแทบกระอัก คุณนายลู่ก็ด่าออกมาชุดใหญ่เช่นกัน

“ฉันรู้เรื่องแล้วนะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินชิงเสวี่ย ลูกก็ไม่ต้องมีเรื่องกับคุณชายรองของตระกูลฮั่วหรอก แม่เคยพูดไปแล้วว่าเฉินชิงเสวี่ยน่ะเป็นตัวอันตราย แต่ลูกไม่ฟังเอง!”

ลู่ซีเจ๋อไม่พอใจขึ้นมาอย่างทันที

“เสวี่ยเอ๋ออ่อนโยนและเอาใจใส่จะตาย อันตรายตรงไหนกัน? อีกอย่างเรื่องวันนี้ก็โทษเธอไม่ได้! ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินมู่เอาแต่ตามตื๊อแบบไม่มีเหตุผล จะเกิดเรื่องที่ไหนกันเล่า? งานหมั้นนี่ผมก็ถอนหมั้นไปแล้วด้วย!”

คุณนายลู่โมโหจนหน้าเปลี่ยนสี “เจ้าลูกชาย แม่มองคนไม่เคยผิด! เสี่ยวมู่ทั้งรู้ความและรอบรู้! แม่ของเธอก็เคยเป็นอัจฉริยะด้านธุรกิจในปีนั้นด้วย!”

“ถ้าตัดเรื่องนิสัยกับฐานะ ตอนนั้นที่แม่ของเสี่ยวมู่ทำเรื่องหมั้นหมายกับพวกเราไว้ เธอทิ้งบริษัทนายหน้าไว้เป็นสินสอดทองหมั้น ถ้าลูกแต่งงานกับเธอ บริษัทนั่นก็จะตกเป็นของลูก!”

ลู่ซีเจ๋อโบกมืออย่างไม่สบอารมณ์ “ผมไม่ได้อยากได้บริษัทอะไรนั่น! ผมต้องการแค่เสวี่ยเอ๋อ! อีกอย่าง เรื่องของสินสอดยังไงคุณลุงเฉินก็เป็นคนตัดสินใจไม่ใช่เหรอ? เขายินดีที่จะให้บริษัทกับใครก็ให้ไปเถอะ!”

คุณนายลู่เอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้ดั่งใจ “ซีเจ๋อ! รอให้เสี่ยวมู่ได้แต่งงานกับคนอื่นก่อนเถอะ ลูกจะมาเสียใจทีหลังมันก็สายเกินไปแล้ว!”

“ผมไม่มีทางเสียใจในภายหลังแน่!” ลู่ซีเจ๋อสาบานอย่างหนักแน่น

เฉินชิงเสวี่ยสวยกว่าเฉินมู่ตั้งเยอะ อีกทั้งยังรู้ความ อ่อนโยน มีน้ำใจ เธอยังจะมีอะไรให้เขาผิดหวังในอนาคตได้อีก?

ลู่เทาตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด “ฉันไม่สนว่าแกจะแต่งกับใคร! แต่ถ้าแกไม่ได้โปรเจกต์ของฮั่วกรุ๊ปที่ขาดทุนไปกลับมาล่ะก็! ตำแหน่งรองประธานอะไรนั่นแกก็อย่าได้เป็นเลย!”

ทางด้านเฉินชิงเสวี่ย เธอได้กลับมาที่ตระกูลเฉินเป็นที่เรียบร้อย ซู่หรูหลานรีบเข้ามาต้อนรับเธอและถามว่า “เป็นอย่างไร? บอสฮั่วว่าไงบ้าง?”

เฉินชิงเสวี่ยยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วตอบ “บอสฮั่ว...บอสฮั่ววันนี้ยุ่งมาก ประชุมทั้งวันเลย หนูกับซีเจ๋อเลยไม่อยากรบกวนเขา...”

เมื่อชายชราได้ยินประโยคนี้จึงถามขึ้นว่า “ก็แสดงว่าแม้แต่หน้าเขาหลานก็ยังไม่ได้เห็น?”

“ไม่ใช่นะคะ!” เฉินชิงเสวี่ยรีบปฏิเสธทันที “แน่นอนว่าได้พบแล้วค่ะ! บอสฮั่วตอบตกลงที่จะมางานเลี้ยงวันเกิดแล้วด้วย เพียงแต่เรื่องเล็ก ๆ เมื่อคืนก่อนมันไม่ควรที่จะหยิบเอามาเบียดเบียนเวลางานของเขาต่างหาก”

ซู่หรูหลานรู้สึกเบิกบานขึ้นมาทันที “สมควรแล้ว ๆ ในเมื่อบอสฮั่วรับปากที่จะมางานเลี้ยงวันเกิด ถ้าอย่างนั้นก็อย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเมื่อวานเลย”

ชายชราพยักหน้า “ที่พูดมามันก็ถูก จริงสิ เสี่ยวมู่ไปไหนแล้วล่ะ? ทำไมถึงไม่เห็นเธอทั้งวันเลย?”

เฉินชิงเสวี่ยกลอกลูกตาไปมาด้วยความเลิ่กลั่กพลางพูดอย่างตะกุกตะกัก “พี่เขา พี่เขาวันนี้ไปทานข้าวที่ร้านเซียวเซียงซวนกับผู้ชายน่ะค่ะ...”

“ผู้ชาย? ผู้ชายอะไร?”ชายชราตกตะลึง

เฉินชิงเสวี่ยส่ายหน้า “เห็นไม่ค่อยชัด แต่น่าจะเป็นคนใหญ่คนโตสักคนล่ะมั้ง? สถานที่อย่างเซียวเซียงซวนไม่ใช่สถานที่ที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าไปได้หรอกนะคะ”

“การหมั้นของเธอยังคงอยู่ นี่มันเรื่องอะไรกัน!”ชายชราพูดออกมาด้วยความโมโห “ยังมีครูสอนพิเศษอยู่ไหม! ไปตามคนกลับมาให้ฉัน หลายวันมานี้ยังขายขี้หน้ากันไม่พออีกใช่ไหม!”

เฉินชิงเสวี่ยยิ้มเยาะในใจ เฉินมู่ กล้าที่จะมาแย่งลู่ซีเจ๋อกับเธอหรือ เธอจะต้องทำให้เฉินมู่รับรู้ถึงความร้ายกาจเสียหน่อยแล้ว!

โรงพยาบาลอันเซิ่ง

ตอนที่เฉินมู่ตื่นขึ้นมา เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ข้างหมอนก็ดังขึ้นไม่หยุด เธอกดรับสายแล้วพูดเสียงอ่อนอย่างคนไร้เรี่ยวแรงว่า “สวัสดีค่ะ?”

“เสี่ยวมู่! เธอหลับอยู่งั้นเหรอ?”ซู่หรูหลานแผดเสียงพูดจนเพดานห้องเกือบจะถล่ม “นี่มันกลางวันแสก ๆ! เธอไปนอนอยู่ที่ไหนกัน?”

เฉินมู่ขมวดคิ้วเข้าหากัน อีกทั้งตรวจเช็คให้แน่ใจอีกครั้งว่าใครโทรมาและถามว่า “คุณป้าซู่มีธุระอะไรหรือคะ?”

น้ำเสียงของซู่หรูหลานนั้นเฉียบคมและแสบแก้วหู “ธุระน่ะมีแน่! เธอรีบกลับมาเถอะ! คุณปู่ทราบเรื่องเธอกับผู้ชายคนนั้นแล้ว แถมกำลังด่าว่าเธอไร้ยางอายอีกด้วย! เธอกลับมาอธิบายเองเถอะ!”

สายถูกตัดไปแล้ว เฉินมู่กระพริบตาปริบ ๆ ผู้ชายอะไรกัน? สองแม่ลูกซู่หรูหลานหาเรื่องอะไรให้เธออีก?

เธอตรวจสอบข้อมือที่พันผ้าพันแผลอย่างดี ลุกขึ้นเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยและทำท่ารีบร้อนจะออกไป แต่เสียงร้อนรนของโอวจินก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง “คุณเฉิน! คุณจะไปไหนครับ?”

“กลับบ้าน!”

โอวจินมองไปยังเบื้องหลังของเฉินมู่ที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แค่คำว่ากลับบ้านสองคำ มันทำให้คำพูดของเธอดูทรงพลังเหมือนอยู่ในสนามรบ

โอวจินหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วพูดอย่างยั่วเย้าว่า “บอสฮั่ว คุณเฉินจะเข้าสู่สนามรบเพื่อไปสังหารศัตรูแล้ว ฉันส่งข่าวให้แล้วนะ ส่วนตัวคนฉันไม่สามารถยื้อไว้ได้จริง ๆ”

พอเฉินมู่เขามาภายในประตูบ้าน บรรยากาศในห้องรับแขกก็กดดันขึ้นมา ชายชรามองเฉินมู่ด้วยสายตาอึมครึมแวบหนึ่ง “เสี่ยวมู่ หลานพูดมาสิว่าช่วงเช้าหลานหายไปที่ไหนมา?”

เฉินมู่เปลี่ยนรองเท้าเดินเข้าไปข้างใน “ไปทานข้าวเช้าค่ะ”

“ไปทานกับใคร?”

เฉินมู่กำลังอ้าปากแต่ยังไม่ได้พูดออกไป ตอนนี้ถ้าเธอบอกว่าไปกับฮั่วหยุนเซียว มันจะยิ่งเป็นเรื่องที่อธิบายลำบาก

“ไปกินกับใคร!” คุณปู่เพิ่มเสียงและตะโกนถาม

เฉินชิงเสวี่ยที่นั่งอยู่อีกด้านพูดอย่างแผ่วเบาว่า “พี่คะ พี่ยอมรับไปเหอะน่า คุณปู่รู้เรื่องหมดแล้ว”

“ใช่เหรอคะ?”เฉินมู่ขมวดคิ้ว “คุณปู่ทราบอะไรมาคะ?”

เฉินชิงเสวี่ยขบกรามแน่น ยัยเฉินมู่คนนี้ ยังไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆ!

“งานเลี้ยงเมื่อคืนก่อนหลานก็ออกไปมั่วสุมไม่ยอมกลับบ้าน วันนี้ก็ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ ตอนที่แม่โทรหาหลานก็ไม่รู้ว่าหลานไปนอนหลับอยู่ที่ไหน ปู่ได้ยินชัดเต็มสองรูหู หลานยังไม่ยอมรับอีกเหรอ? จะต้องทำให้ปู่โกรธจนตายเลยใช่ไหม?”

เฉินชิงเสวี่ยตีหน้าเศร้าโศกเสียใจ

เฉินมู่ยิ้มขันพลางพูดขึ้นมาบ้าง “มีคนทำให้จริงเป็นเท็จทำให้ขาวเป็นดำแบบเธอกระโดดไปมาอยู่ในตระกูลเฉินแบบนี้ ต้องรอถึงรอบไหนล่ะฉันถึงจะทำให้ผู้ใหญ่โกรธจนตาย?”

“พี่! นี่แก...”

“พอแล้ว!”ชายชราตะโกนถามว่า “เสี่ยวมู่! หลานตอบมา! หลานไปทานข้าวเช้ากับใคร! เป็นผู้ชายคนไหน!”

“ผมเอง”

ทันใดนั้น น้ำเสียงที่เยือกเย็นน่าดึงดูดก็ดังขึ้น เฉินมู่ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหันกลับไปเห็นผู้ชายในชุดสูทสีดำก้าวเท้ายาว ๆ เข้ามาในห้องรับแขก ด้านหลังเป็นฮานเฉิงที่มีสีหน้าเอาจริงเอาจังตามมาด้วย

“ฮั่ว...บอสฮั่ว?”เฉินชิงเสวี่ยพูดติดอ่าง

ชายชราพยุงตัวลุกขึ้นในทันทีและถามว่า “หยุนเซียว ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”

“ผมมีธุระบางอย่างอยากพบคุณปู่ ไม่ได้ให้คนมาแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้า มันกระทันหันน่ะครับ”ฮั่วหยุนเซียวพยักหน้าเล็กน้อย

ซู่หรูหลานรีบเรียกคนรับใช้มารินน้ำชาให้ฮั่วหยุนเซียวพร้อมกล่าวต้อนรับอย่างอบอุ่น “ท่านประธานฮั่ว! นั่งลงก่อนค่ะ! นั่งลงจิบชาก่อน! ยังมีธุระอะไรถึงได้ลำบากคุณให้มาด้วยตัวเองอีกเหรอคะ?”

ฮั่วหยุนเซียวนั่งลงอีกฝั่งของโซฟาคู่ เขาเอียงหน้าไปมองเฉินมู่พลันเรียกอีกฝ่าย “มานี่ นั่งลง”

“อ้อ” เฉินมู่ขยับตัวมาข้าง ๆ ฮั่วหยุนเซียวและนั่งลงอย่างเงียบ ๆ

ชายชราเพิ่งจะนึกหัวข้อสนทนาเมื่อสักครู่ออก จึงถามขึ้น “หยุนเซียว เมื่อกี้พูดว่า...คนที่ทานข้าวเช้ากับเฉินมู่ก็คือ...”

“ผมเองครับ” มือของฮั่วหยุนเซียวแนบกับถ้วยชาและลูบไล้ไปมาขอบแก้วไปมา น้ำชายังอุ่นอยู่ เขาผลักถ้วยชาไปให้เฉินมู่เบา ๆ

ฮั่วหยุนเซียวพูดต่อว่า “คุณหนูเฉินรู้สึกละอายใจที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้มีข้อบกพร่อง จึงมาขอโทษเป็นพิเศษ ได้ยินมาว่าสุขภาพของคุณหนูเฉินไม่ค่อยดี ผมทนใจแข็งไม่ได้ เลยทานข้าวด้วยกันและไม่ถือสาเรื่องเมื่อคืนแล้ว”

น้ำชาที่เฉินมู่จิบเข้าปากไปหนึ่งอึกแทบจะพุ่งออกมา เธอเนี่ยนะละอายใจ? แถมยังมาขอโทษเป็นพิเศษ? ในบรรดาประโยคพวกนี้มีประโยคไหนที่ใกล้กับความจริงของเธอบ้าง?

ชายชรานิ่งอึ้งและหันไปมองเฉินชิงเสวี่ย ก่อนจะวกกลับไปมองที่ฮั่วหยุนเซียวแล้วถามอีกครั้ง “เป็นเสี่ยวมู่หรอกเหรอที่ไปขอโทษ? ไม่ใช่ชิงเสวี่ย?”

ขาของฮั่วหยุนเซียวไขว้กันอย่างเป็นธรรมชาติ ร่างแกร่งเอนตัวพิงโซฟาทำให้บรรยากาศรอบตัวเขานั้นดูมีพลังราวกับเป็นเทพเจ้า ดวงตาลึกล้ำของเขากวาดตามองทุกคนในห้องรับแขก เสียงเข้มเอ่ยเรียบนิ่ง “ใครคือชิงเสวี่ย?”

ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยแดงระเรื่อขึ้นมาทันที!

เมื่อครู่เธอยังพูดอย่างไม่อายปากอยู่เลยว่าฮั่วหยุนเซียวตอบตกลงที่จะมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของเธอไปแล้ว!

สรุปตอนนี้คือฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร? นี่มันเจ็บยิ่งกว่าโดนเฉินมู่ตบหน้าเสียอีก!
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status