หลังถูกยัยหนูเฟยสะบัดหนีไปจากความพยายามช่วยทายาลดอาการผื่นคัน เนื่องจากเจ้าตัวแพ้ฟีโรโมนของโอเมก้าให้ หมิงก็เดินกลับเข้ามาในงานโดยไม่ลืมที่จะสอดส่ายสายตาหาคนดังกล่าวเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่สร้างปัญหาให้ภายหลัง
ยาแก้แพ้ถูกอีกฝ่ายแย่งไปเสียแล้ว เหตุผลที่เขามีมันติดตัวมาด้วยนั้นเป็นเพราะหมิงเก็บได้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ หลังจากที่เฟยถูกหยางถอนหมั้นทั้งยังถูกไล่ตะเพิดออกมาอย่างไร้เยื่อใย ไม่ว่าเฟยจะพยายามขัดขืนเพียงใดหยางก็ไม่แม้แต่ใจจะอ่อน ข้าวของที่คนน้องเอาติดมาก็ล้วนถูกโยนทิ้งกระจัดกระจาย ใจหนึ่งก็แอบสงสารอยู่เหมือนกัน ทั้งที่คบหากันมาก่อนถึงแม้นิสัยใจคอจะเอาแต่ใจอยู่บ้าง แต่เรื่องรักมั่นใจเดียวของคนน้องขนาดตัวเขาเองยังนับถืออีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน พลันสายตาก็เห็นร่างบอบบางที่หมิงกำลังนึกถึงอยู่ ก้าวเท้ากลับเข้ามาในงานอีกครั้งหมอนั่นทำเช่นเดียวกันกับหมิง เดินหลบเข้ามุมโดยเลือกโซนที่มีของว่างพลางหยิบขึ้นมาทานเคี้ยวตุ้ย ๆ จนแก้มป่อง นี่ช่างเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับหมิงมาก เพราะปกติยัยหนูเฟยมักจะห่วงเรื่องรูปร่างของตัวเองอยู่เสมอ การไปยืนกินจุ๊บจิ๊บอยู่ตรงนั้นจึงแลไม่ใช่นิสัยของอีกฝ่ายเลยสักนิด ‘ตั้งแต่ถูกไอ้หยางบอกเลิกไป ดูเหมือนว่าหมอนี่จะเปลี่ยนไปนะ’ ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เขาความรู้สึกไปเองเท่านั้น ทั้งการแต่งกาย ท่าทีโต้ตอบตอนที่เจอหยางกับลีก็ราวกับหมอนั่นเป็นคนละคนกันเลย พลั่ก! ระหว่างที่หมิงกำลังคิดเรื่องเฟยอยู่นั้น จู่ ๆ สายตาก็พลันเห็นร่างของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาชนยัยน้องจากด้านหลัง ทำให้ร่างบอบบางเซถลาไปหาเด็กเสิร์ฟแล้วจึงล้มต่อกันเป็นทอด และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น น้ำในถาดเด็กเสิร์ฟหกใส่ลีที่บังเอิญเดินผ่านไปทางมาพอดี “อึก! ขะ ขอโทษครับ” เด็กเสิร์ฟคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงลนลานก้มหน้าไม่กล้าสบตาโอเมก้าหนุ่มแม้แต่น้อย ลีหันไปทางเด็กเสิร์ฟด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะมองผ่านไปยังอีกคนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง.. “คุณตั้งใจใช่ไหมครับ!?” ลีเดินพรวดเข้าไปหาเฟยที่กำลังตกใจกับสถานการณ์ที่ตัวเขาเองก็ไม่คิดว่ามันจะเกิด “นี่ก็โดนชนมาเหมือนกันเหอะ” เฟยสวนกลับพลางลูบไปที่หลังของตัวเองเบา ๆ ดูท่าแรงที่ถูกชนจะแรงจนทำเขาเจ็บตัวเหมือนกัน “ไม่เชื่อก็..” เฟยว่าพลางหันไปหาคนที่เดินมาชนกับตนทว่าด้านหลังของเขากลับพบว่าไม่มีผู้ใดยืนอยู่สักคน “เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” ยังไม่ทันที่เรื่องจะคลี่คลายหยางก็เดินตามเข้ามาสมทบ ด้วยเพราะเสียงเอะอะเริ่มดังมากขึ้นลีที่รู้สึกตัวก็เดินเข้าไปหาคนรักด้วยสีหน้าซึมเศร้าระคนแทบจะร้องไห้ “ฝีมือมึงใช่ไหมเฟย!?” หยางสำรวจตามเนื้อตัวของลี แล้วจึงมองขวับไปยังยัยหนูเฟยด้วยความโกรธ “ก็บอกแล้วไงว่ากูก็โดนชนเหมือนกัน” “แล้วไหนล่ะคนที่ชนมึงอะ?” หยางถามสวน “อึก...มันไปไหนแล้วก็ไม่รู้” แน่นอนว่าทั้งหมดอยู่ในสายตาของหมิงมาโดยตลอด คนที่ชนเข้ากับเฟยยืนมองสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงวิ่งออกไป ทำให้ตอนนี้ยัยน้องไม่มีพยาน และหลักฐานที่อยู่ของคนคนนั้น “ไม่ต้องมาอ้าง มึงตั้งใจจะมาป่วนงานตั้งแต่แรกใช่ไหม!?” ผู้คนเริ่มหันความสนใจมาที่พวกเขาทั้งสาม ต่างซุบซิบนินทาโดยส่วนมากจะเอาแต่มองด้วยสายตาต่อว่ามาที่เฟยซะเป็นส่วนใหญ่ ˜ ‘นี่ใช่อดีตคู่หมั้นที่ถูกถอนไปเมื่อไม่นานใช่ป่ะ?’ ‘ก็ว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงถูกถอนหมั้น...ที่แท้ก็นิสัยแบบนี้เอง’ ‘สมควรแล้วที่ถูกทิ้งล่ะ’ ˜ คำนินทา และต่อว่าดังเข้าหูหมิงที่ยืนสังเกตอยู่มาสักระยะพลางคิดในใจว่า ‘คนพวกนี้ช่างไม่รู้อะไรแต่กลับกล้าพูดจาต่อว่าคนอื่นได้หน้าตาเฉย’ ชวนให้เขาเกิดความหงุดหงิดใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “เกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะเฟย?” เฟียเดินเข้ามายังกลุ่มไทยมุงแต่งตัวหรูหรา ก่อนที่เฟยก็กระซิบกระซาบเล่าสถานการณ์ที่เกิดตรงหน้าให้ฟัง “เดี๋ยวเจ๊จัดการเอง...นี่เฟยมันก็บอกแล้วไงว่าเป็นอุบัติเหตุน่ะแล้วเด็กนั่นยังต้องการอะไรอีก!?” เฟียจ้องไปที่ลี ซึ่งอีกฝ่ายก็ถึงกลับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริง ๆ “ฮึก...ฮึก ผะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวหาคุณเฟยครับ ฮึก...แต่เขาไม่มีพยาน..” “ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ? เฮอะ!” เฟยสบถคำออกมาอย่างเหลืออดนั่นเป็นเพราะก่อนที่หยางจะเข้ามาเฟยบังเอิญเห็นแววตา และสีหน้าของโอเมก้าหนุ่มที่แสดงถึงความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด “แล้วไหนคนที่ชนน้องมึงอะ ไม่มีสักคน...ใครก็พูดได้วะ” ดูท่าหยางจะเอาความกับเหตุการณ์นี้ให้ได้เขาคว้าแก้วน้ำจากคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หมายจะสาดใส่ยัยหนูเฟยเพื่อจะทำให้เสียหน้าบ้าง หมับ! มือที่กำลังถือแก้วน้ำนั่นถูกรั้งไว้ด้วยคนที่ตรงเข้ามาห้ามทำให้เจ้าของอารมณ์โทสะรีบหันไปมองคนคนนั้นทันที “ไอ้หมิง!” “ใจเย็นหยาง...มึงอยากให้งานวันนี้ล่มไม่เป็นท่าหรือไง?” หมิงเขาไปกระซิบที่ข้างหูเพื่อเรียกสติเพื่อนซึ่งกำลังเดือดพล่านด้วยความโกรธ ลีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็หันไปมองยังหมิงด้วยความรู้สึกขัดใจที่ถูกอีกฝ่ายเข้ามาขัดจังหวะ “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เป็นอุบัติเหตุจริง ๆ ครับผมเห็นกับตาว่ามีคนเดินเข้ามาชนเฟยก่อน” “แล้วคนที่มึงว่าตอนนี้มันไปไหนซะล่ะ?” หยางยังคงไม่ยอมรับความจริงแล้วถามคาดคั้นเอาคำตอบ “หมอนั่นมันวิ่งออกไปทางนั้นแล้วน่ะ ถ้าไม่เชื่อมังจะเช็กกล้องวงจรปิดก็ได้นะ...เปา” พูดจบหมิงก็เรียกคนสนิทให้เข้ามาทันที “ครับ” เปาขยับเข้าไปฟังเจ้านายสั่งใกล้ ๆ แล้วจึงหายออกไปจากห้องจัดงาน ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับแฟลชไดรฟ์ที่ด้านในมีภาพของกล้องวงจรปิดในละแวกนั้น ทุกอย่างถูกเปิดออกจากหน้าจอแสดงซีรีส์ตัวอย่างซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่ยืนยันได้ว่ายัยหนูเฟยถูกใครคนหนึ่งชนเข้าจริง ๆ “ดูจากคลิปจะเห็นว่าคนคนนั้นจงใจเข้ามาเดินชนเฟยจริง ๆ เพราะก่อนที่เขาจะออกจากงานไป ได้มีการยืนดูสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่ง และแรงชนก็แรงมาจนทำให้เฟยรู้สึกเจ็บที่หลัง เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกที่เขาจะเซไปชนเข้ากับเด็กเสิร์ฟแล้วพลาดไปทำน้ำหกใส่ลีได้” ผู้คนเริ่มเซ็งแซ่ถึงเหตุการณ์ในจออีกครั้ง ทำเอาลีที่ได้ยินเสียงเริ่มมีท่าทีอยู่ไม่สุขก่อนจะแสร้งทำเป็นร้องไห้ “ฮึก...ฮืออ ขะ ขอโทษครับคุณเฟย ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณโดนชน” หยางเข้าไปโอบไหล่โอเมก้าหนุ่มแล้วลูบเบา ๆ เพื่อปลอบ ทว่าสีหน้ากลับดูประดักประเดิดทำตัวไม่ถูกเมื่อได้รู้ความจริงที่ถูกเปิดเผย นั่นเป็นเพราะหมอนั่นออกหน้าให้คนรักมากเกินไปจนถึงขนาดจะหยิบน้ำมาสาดใส่หน้าอีกฝ่าย เพื่อทำให้อับอายขายขี้หน้าคนในงาน “เฮอะ ออกโรงปกป้องกันจริง ๆ” หยางพยายามกลบเกลื่อนด้วยการหันไปตำหนิเพื่อนตัวเองด้วยคำพูดเหน็บแนมแบบไม่จริงจัง “นี่ไม่ใช่การปกป้อง แต่เป็นการเอาความจริงมาพูดกัน มึงกับลีจะได้ไม่เข้าใจผิด” หมิงสวนกลับโดยใช้เหตุผล “หึ ไม่แน่...เฟยมันอาจจ้างคนมาเดินชนตัวเองก็ได้” หยางเอ่ยพลางกลอกตามองบนใส่หมิง ทำเอาผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกคล้อยตามที่เจ้าตัวบอก เนื่องจากเมื่อก่อนยัยหนูเฟยก็เคยก่อเรื่องเอาไว้มากมาย พอมาตอนนี้แม้ยัยหนูเฟยจะไม่ได้ทำจริง ๆ ก็ยากที่จะมีคนเชื่อ “เรียนจบคณะมโนศาสตร์หรือไงวะ คิดว่าตัวเองน่าหลงใหลตายล่ะ” เฟยสบถออกมาพึมพำพลางทำท่าแคะหูราวกับว่าคำพูดของหยางไม่ได้สลักสำคัญ “เปา” “ครับ” หมิงส่งสัญญาณเรียกคนสนิทอีกครั้ง ก่อนที่ไม่นานจะมีคนสวมสูทสีดำคล้ายบอดี้การ์ดหิ้วแขนชายคนหนึ่งเข้ามาในงาน “หมอนี่คือคนที่เดินเข้ามาชนเฟยครับ ทีนี้ก็จะได้รู้แล้วล่ะว่าหมอนี่เป็นคนจ้างมาจริงหรือไหม?” “อึก...ไม่มีใครจ้างทั้งนั้นแหละ แค่ไม่ชอบหน้าหมอนั่นก็เท่านั้น” “แค่ไม่ชอบหน้างั้นสินะ” “ทำไม!? หรือมึงคิดว่ากูเป็นคนจ้างมางั้นเหรอ?” หยางตวาดถามเสียงดังราวกับกลัวว่าจะถูกโยงเรื่องทั้งหมดเข้าหาตัวเอง “ยังไม่มีใครพูดแบบนั้นสักหน่อย มึงจะร้อนตัวทำไมวะ” เฟียว่าพร้อมกับแสยะยิ้มด้วยความสะใจที่ความจริงไม่เป็นอย่างที่พวกนั้นกล่าว “แต่ถึงอย่างไงเฟยก็ต้องขอโทษลีหรือเปล่า เพราะตัวเองโดนชนจนทำคนอื่นเขาเดือดร้อนกันหมดน่ะ” “ถ้าอย่างนั้นไอ้เด็กลีก็ต้องขอโทษเฟยที่กล่าวหาว่าจงใจชนเด็กเสิร์ฟจนน้ำหกใส่” ทำเอาหยางอ้ำอึ้งไปพลางหันไปมองหน้าลี ซึ่งเจ้าตัวก็ส่ายหน้ายืนยันว่าตัวเองไม่ได้กล่าวหาน้องชายของเฟียจริง ๆ “เลิกเถียงเรื่องไร้สาระกันเถอะครับ ในเมื่อทุกต่างก็ให้ความสนใจเฟยกันอยู่แล้วงั้นผมจะถือโอกาสประกาศเรื่องสำคัญให้ทุกคนทราบ” สิ้นคำหมิงคว้าเข้าที่ข้อมือเฟยพลางออกแรงลากพาเจ้าตัวไปยังพื้นที่เวที ซึ่งเป็นจุดแถลงเปิดตัวซีรีส์เรื่องใหม่ของบริษัท Lucca “เราสองคนกำลังจะหมั้นกันครับ” โปรติดตามตอนต่อไป..“หรือมึงไม่อยาก?”แม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่ทว่าแรงปรารถนาเองก็มีมากพอสมควร“เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะไม่ได้ทำแบบนี้แล้ว”ขณะเฟยกำลังก้มหน้าลงไปใช้ปากช่วยทำให้คนพี่อยู่นั้นกลับหลุดถ้อยคำที่ทำให้หมิงถึงกับต้องหยุดค้างไปกลางคัน“อีกหน่อยจะไม่ได้ทำ? หมายความว่าไง?”หมิงถามทวนอีกครั้งพร้อมกับช้อนคางคนด้านล่างให้เงยหน้าขึ้น ทั้งสองจ้องตากันอยู่สักพัก ก่อนจะเป็นยัยน้องเองที่เป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาแล้วผุดลุกขึ้นนั่งข้างกายหมิง“กูตัดสินใจว่าจะไปเรียนแลกเปลี่ยนน่ะ”ราวกับฝันที่หมิงวาดไว้พังลงตรงหน้า เมื่อเฟยเอ่ยออกมาถึงการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่เขาเองก็ไม่ได้คิดถึงมันมาก่อน“ความจริงกูตั้งใจว่า...หลังหย่าค่อยไปน่ะ แต่ตอนนี้คุณลุงเขาไม่ได้เร่งรัดอะไรแล้วไง กูก็เลย...อยากใช้โอกาสนี้รีบไปก่อนที่เขาจะไม่อนุญาต”ช่วงที่ผ่านเหตุการณ์ลักพาตัวครั้งนั้น เฟยก็รู้ถึงความรู้สึกจริง ๆ ที่ตัวเองมีต่อหมิงแล้ว นั่นไม่ใช่แค่ความรู้สึกหวั่นไหวแต่เป็นความรู้สึกชอบ เป็นห่วง คิดถึงจนสามารถเรียกได้ว่ามันเป็นความรักได้เลยเพียงแต่เฟยไม่รู้ว่าอีกคนคิดเช่นไร แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากรู้ว่าเจ้าตัวรู้สึกอะไรกับตัวเองหรือไม่ เพราะเฟยกลั
ณ คอนโดแห่งหนึ่งย่านชานเมือง“นอนห้องนี้แล้วกัน”หวังเดินนำไปยังห้องนอนห้องหนึ่ง พลางเปิดประตูแล้วบอกให้อีกคนเข้าพักที่นี่ เฟยได้แต่ทำว่าง่ายทว่าสายตากลับพยายามสอดส่ายมองว่ามีบริเวณไหนบ้างที่ตนจะสามารถหลบหนีออกไปได้ก่อนหน้านั้นโทรศัพท์มือถือของเจ้าตัวก็ถูกลียึดไว้แล้วส่งให้หวังไปเรียบร้อยแล้ว การจะติดต่อกับคนภายนอกจึงถูกตัดไป“ทะ ทำไมระเบียงเป็นกระจกปิดตายล่ะครับ? แบบนี้ได้อึดอัดตายกันพอดี” สายตากวาดไปรอบห้องแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าระเบียง ที่ปกติตามคอนโดทั่วไปจะสามารถเปิดออกได้“กูสั่งให้คนเอาประตูเลื่อนออกน่ะ มึงจะได้หนีไปไม่ได้ไง”เรื่องนี้หวังคงคิดมาอย่างดี เพราะแม้ว่าเขาจะรู้จักเฟยคนนี้ดีแค่ไหน ทว่าคนตรงหน้านี้กลับดูแตกต่างราวกับคนละคน ซึ่งเขามั่นใจว่าถ้ามีช่องทางให้หนีได้ละก็ไม่ว่าจะระเบียง หรือแค่หน้าต่างโง่ ๆ เจ้าตัวก็คงสามารถหนีตนไปแน่นอน“หึ เฮียกะจะขังไว้ที่นี่เลยสินะครับ?”“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่จนกว่างานแต่งนั่นจะยกเลิกไปน่ะ”ยามนี้เฟยคิดถึงหมิง คิดถึงเฟียสุดหัวใจ ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะสามารถตามรอยจากมือถือ และหาที่อยู่ของเขาเจอหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องหาหนทางด้ว
ณ คอนโดแห่งหนึ่งย่านชานเมือง“เข้าไป! พวกมึงจับมันดี ๆ สิวะ!” ลีตะโกนออกคำสั่งให้ลูกน้องที่หวังส่งไปลักพาตัวเฟยมา ให้นำเข้ามาในห้องพักย่านห่างไกลจากการตามหาของหมิง และเฟียสภาพยัยหนูเฟยที่ถูกนำตัวเข้ามามีแต่รอยช้ำจากการถูกตบถูกทำร้าย และมีเลือดออกที่บริเวณมุมปากหวังที่ได้ยินเสียงก็รีบวิ่งมาดู ทว่าก็กลับต้องชักสีหน้าเมื่อเห็นสภาพของคนน้องไม่เป็นไปตามที่ตนกำชับ“กูสั่งไปแล้วเหรอ...ว่าห้ามใครทำร้ายเฟย!” รอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจในตอนแรกเปลี่ยนกลับมาเป็นโกรธเกรี้ยวขึ้นมา“ใครใช้ให้มีปากดีใส่กูล่ะ อีกอย่างก็เพราะมันเสือกโทรหาหมิงไงล่ะ ดีนะที่กูจับได้” นายเอกของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้คีพความเป็นนายเอกอีกต่อไป สีหน้าหงุดหงิด และรังเกียจ ทุกแสดงออกมาจนหมดเฟยได้เห็นอีกมุมของทั้งสองคนจากที่ต่างออกไปมาก เมื่อก่อนที่มักเห็นทั้งคู่เป็นคนสุภาพ แต่บัดนี้ไม่มีแม้แต่คราบของตัวละครที่เขาดูมาก่อนเลยสักนิด“พวกมึงกลับไปได้ล่ะ โดยเฉพาะมึงไอ้ลี...อย่าคิดนะว่ามึงจะเอาเหตุผลเหี้ยอะไรนั่นมาอ้างแล้วกูจะปล่อยมึงไป ถ้าไม่ติดว่ามึงยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง...มึงได้ตายห่าอยู่ข้างถนนไปนานแล้ว!”หวังกระชากคอเสื้อลีเข้า
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 วันก่อน..˜“เฟยนอนหรือยัง เจ๊เข้าไปหาได้ไหม?”เฟียพยายามเคาะเรียกน้องชายหลังจากที่เธอไล่ให้เพื่อนสนิทกลับไปก่อน เพราะอยากให้ทั้งสองฝ่ายอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยมาคุยกัน ซึ่งไม่นานเฟยก็เป็นฝ่ายเดินมาเปิดประตูให้ร่างบางเดินนำพี่สาวเข้าไปด้านใน ก่อนจะนั่งลงบนเตียงหลังกว้างด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ...บอกเจ๊ได้ไหม?”เฟียเดินไปนั่งลงข้าง ๆ โอบไปยังไหล่ของเฟยพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้คาดคั้น“เรื่องมันยาวอะเจ๊ แต่สรุปสั้น ๆ เลยก็คือลีมันจ้างคนมาทำร้ายตัวเองเพื่อใส่ร้ายเฟย แล้วหยางกับหมิงก็เชื่อ”เฟยเล่าเพียงแค่นั้น ทว่าเฟียก็พอจะเดาสถานการณ์ที่เหลืออยู่ออก เธอต่อยมือลงบนที่นอนเพื่อระบายโกรธ ซึ่งไม่ได้โกรธที่ลีทำแบบนั้น แต่เธอโกรธที่ตัวเองไม่ดื้อตามน้องชายไปด้วย เพราะอย่างน้องเธอนี่แหละที่จะสามารถเป็นพยานยืนยันได้ว่าเฟยไม่ได้เป็นคนทำ“เจ๊ขอโทษนะ ฮึก” เฟียขอโทษน้องชายเสียงสั่ง เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถปกป้องน้องชายผู้เป็นที่รักได้“ขอโทษทำไม เจ๊ไม่เกี่ยวซะหน่อย” พอเฟยได้ยินเช่นนั้นก็หันไปโอบไหล่เล็ก ๆ ของพี่สาวพลางลูบเบา ๆ เพื่อปลอบ“เจ๊จะไปบอกไ
“ยกเลิกงานแต่งไปซะ”หลังประโยคนั้นบรรยากาศกลับเงียบลงทันตา เฟยนิ่งคิดว่าที่อีกคนนัดตนมาแล้วพูดเช่นนี้เพราะอะไรกันแน่“หึ แล้วกูต้องทำตามที่มึงพูดด้วยเหรอ?” ยัยหนูเฟยสวนกลับกลอกตาทำเหมือนไม่ใส่ใจฟังที่ลีบอก พลางยกขาขึ้นมาไขว่ห้างทำราวกับไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร“ไม่แปลกใจหน่อยเหรอที่ผมก็มาคุยกับคุณเรื่องนี้น่ะ”แน่นอนว่าเฟยก็ต้องแปลกใจอยู่แล้ว เพียงแต่จะให้แสดงทีท่าเช่นนั้นต่อหน้าฝ่ายตรงข้ามก็อาจเป็นการเผยไต๋ให้อีกคนคาดเดาความคิดของเขาได้“ก็ไม่นี่ แล้วไง...สรุปนี่เรียกมาคุยแค่นี้ใช่ไหม? งั้นกูขอตัว”“ดูท่าจะมั่นใจมากสินะว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เฮียหยางหันกลับไปสนใจน่ะ...ไม่คิดบ้างเหรอว่าลูกไม้แค่นี้มันอ่อนเกินไปหน่อยน่ะ เฮ้ออ ถ้าเป็นผมคงทำได้ดีกว่านี้” คำพูดยืดยาวทำให้ เฟยต้องหยุดฟังโดยไม่ทันรู้ตัวทำไมกันนี่เขายังแสดงออกไม่พออีกเหรอว่าตัวเองไม่ได้สนใจในตัวของหยางอีกต่อไปแล้ว..“เฮ้ออ พูดจนปากเปียกปากแฉะ มึงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีสินะว่าที่กูแต่งงานน่ะ...ไม่ใช่เพราะไอ้หยาง”“แล้วมันเพราะอะไรล่ะ? จะบอกว่าเป็นเพราะคุณชอบเฮียหมิงงั้นเหรอ หึ ๆ อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย เอาตรง ๆ นะที่พวกคุณเล่นละครว่าร
“ช่วยกูแยกเฟยออกจากไอ้หมิงซะ”“หึ ชอบมันมากสินะ” พอได้ยินเช่นนั้นก็ทำเอาลีพ่นเสียงหัวเราะในลำคอออกมาอย่างนึกขบขัน ไม่คิดว่าคนอย่างหวังจะมีความคิดอยากแย่งชิงแบบนี้กับเขาด้วย“คิดว่าคนอย่างมึงมีสิทธิ์จะมาเรียกเฟยว่ามันงั้นเหรอ?”เบต้าหนุ่มยกเหล้าขึ้นจิบเบา ๆ พลางมองแก้วในมือก่อนจะเงยหน้าจ้องไปที่อีกคนด้วยสายตาดูถูก“ทำไม!? มันมีดีกว่าตรงไหน ก็แค่คุณหนูเอาแต่ใจ...”เพล้ง!แก้วถูกเขวี้ยงผ่านหน้าไปยังด้านหลังโอเมก้าหนุ่ม ก่อนมันจะตกกระทบลงพื้นดังสนั่น ทำเอาร่างบางสะดุ้งตกใจหน้าซีดไม่คิดว่าคนสุภาพเช่นนั้นจะมีมุมน่ากลัวแบบนี้ด้วย“ต้องถามว่ามึงมีอะไรเอามาเทียบกับเฟยได้หรือเปล่ามากกว่า”“เฮีย!”“หรือว่าไม่จริง?” ลีถึงกับพูดไม่ออกได้แต่คว้าแก้วค็อกเทลของตัวเองมาดื่มรวดเดียวจนหมด สีหน้าเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก“ถ้าช่วยแล้วจะได้อะไรล่ะ?”“ก็ได้ไอ้หมิงคืนไปไม่ใช่หรือไง?”“ทำไมพูดแบบนั้นอะ! ลีไม่ได้...คิดอะไรกับเฮียหมิงแล้วซะหน่อย” ทำเป็นเฉไฉไปอย่างนั้น ทว่าในใจกลับรู้สึกเต้นเร่าเพราะถูกอีกคนจับทางเอาได้ หากยังด้อแพร่งไม่ให้ความร่วมมือต่อไปดีไม่ดีเรื่องนี้คงได้ไปเข้าหูของหยางอย่างแน่นอน“เฮียจะทำยังไง