ช่วงสอบปลายภาค พี่ภพแวะมาหาเขาเกือบทุกวัน บางวันก็ขอแวะมานอนด้วยโดยอ้างว่า "หอพี่แอร์เสีย" หรือ "อยากติวหนังสือเป็นเพื่อน" แต่กนกรู้ดีว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเพราะสุดท้ายแล้วพี่ภพก็ไม่ได้แตะหนังสือสักเท่าไหร่ มีแต่เขาส่วนพี่ภพก็นอนกลิ้งเล่นอยู่ข้างๆ
แรกๆ กนกยังรู้สึกเกร็งเวลาถูกพี่ภพจ้องมอง ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือเขามักจะพบสายตาอบอุ่นคู่นั้นมองอยู่เสมอเป็นสายตาที่ทำให้ใจเต้นแปลกๆราวกับว่าพี่ภพเห็นบางสิ่งในตัวเขาที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป... ความรู้สึกพวกนั้นก็ค่อยๆจางหาย สายตาที่เคยหลบเลี่ยงหรืออาการประหม่าเมื่อต้องอยู่ใกล้พี่ภพเริ่มหายไปเช่นกัน
แทนที่ด้วย...
ความสบายใจ
การมีพี่ภพอยู่ด้วยกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน ห้องที่เคยเงียบเหงาก็กลับมีเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของขนมที่พี่ภพชอบซื้อมาให้
หัวใจที่เคยปิดกั้นเริ่มเปิดออกทีละนิด
"ไงครับคนเก่ง วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม?"
เสียงทุ้มที่ฟังแล้วอบอุ่นเสมอดังขึ้นจากด้านหลัง กนกเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถอนหายใจยาว
"เหนื่อยมากครับ แทบไม่มีแรงทำอะไรเลย"
พี่ภพหัวเราะ ก่อนจะเดินไปหย่อนตัวนั่งลงข้างเตียงเหมือนทุกที
"แล้วยังมีแรงอ่านนิยายเรื่องใหม่ไหมน้า"
"…เฮ้ย! นั่นมันหนังสือแม่ผมนะ!"
หนังสือปกเก่าถูกพี่ภพถือขึ้นมา "ลิขิตรักจากฟากฟ้า" หนังสือนิยายที่กนกเคยคิดว่ามันมีมนต์ดำซ่อนอยู่ จึงแอบซ่อนไว้ใต้เตียงนอน แล้วพี่ภพไปเจอมันได้ยังไง เขาพุ่งเข้าไปแย่งหนังสือจากมือของพี่ภพแต่กลับโดนอีกฝ่ายแกล้งยกขึ้นสูงกว่าเดิม
"เฮ้ย! คืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"อยากได้ก็มาเอาสิ" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมสีหน้าท้าทายส่งมาให้เขา แต่เขาไม่มีวันยอมแพ้ให้หนังสือเล่มโปรดตกไปเป็นของใครง่ายๆแน่นอน กนกรีบพุ่งตัวเข้าไปแย่งแต่มือของเขากลับไปคว้าตัวอีกฝ่ายแทน ส่งผลให้ร่างทั้งสองล้มลงบนเตียง
"โอ๊ะ!"
กนกตัวแข็งทื่อเมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นของร่างพี่ภพที่แนบชิด เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นข้างหูขณะที่มือใหญ่กอดเขาไว้แน่น
"อื้อ...ปล่อยผมนะ...พี่ไม่หนักเหรอ"
"ไม่อ่ะ รู้สึกดีสุดๆ"
"แต่ผมอึดอัด!" สุดท้ายพี่ภพก็ยอมคลายอ้อมกอดแต่ยังคงโอบไว้หลวมๆ กนกพยายามขยับออกแต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรต่อ
"ฟอด!"
ริมฝีปากของพี่ภพกดลงบนศีรษะของเขาอย่างแรง
"พี่!! ทำอย่างนี้ได้ยังไง!"
"ทำมากกว่านี้ก็เคยมาแล้วนะ" พี่ภพหัวเราะชอบใจพร้อมทั้งค่อยๆโน้มลงมาใกล้ จนกนกตกใจรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองแน่น
"ไม่เอา! ไม่ให้ทำ!"เสียงของเขาอู้อี้จนฟังแทบไม่รู้เรื่อง พี่ภพเอียงคออย่างงุนงงก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้
"อะไรนะ? ไม่เข้าใจเลย พูดใหม่ซิ"กนกไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากของพี่ภพแนบลงมาที่มือของเขาแทน
"พี่!"ใบหน้าของกนกแดงขึ้นริ้วระเรื่อ เขาพยายามจะเอนตัวหนีแต่กลับโดนพี่ภพประคองไว้อ้อมแขนของอีกฝ่ายรัดเข้ามาใหม่
"พี่เหนื่อยจังเลยครับ..." เสียงของพี่ภพฟังดูอ่อนล้า
"ทั้งทำงาน ทั้งเรียน เก็บเงินให้เรา...เหนื่อยจัง"เสียงถอนหายใจแผ่วดังขึ้นราวกับเขากำลังแบกรับอะไรไว้มากมาย กนกลังเลใจแต่สุดท้ายก็ค่อยๆยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังของพี่ภพเบาๆเป็นการปลอบโยนที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความห่วงใย
อยู่กับพี่ภพ ผมไม่เคยหวาดกลัวเลย
อยู่กับเขา ผมอบอุ่นเสมอ
มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ มันเหมือนมีสายสัมพันธ์บางอย่างที่เชื่อมโยงเราเข้าด้วยกัน
บางครั้งผมก็สงสัยในตัวเอง ว่าความรู้สึกนี้คืออะไรกันแน่ มันคือความรักแบบพี่ชายที่แสนดี ที่คอยปกป้องและดูแลผมอย่างอบอุ่นหรือว่ามันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น เวลาที่พี่ภพยิ้มให้ เวลาที่เขาเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆหรือแม้แต่เวลาที่เขาเงียบๆ นั่งอยู่ข้างๆผมกลับรู้สึกได้ถึงความผูกพันที่ยากจะอธิบาย ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่ที่แน่ๆ คือผมรู้สึกขอบคุณทุกครั้งที่ได้อยู่กับพี่ภพ สำหรับความอบอุ่นที่เขามอบให้และขอบคุณสำหรับทุกช่วงเวลาที่เราได้แบ่งปันร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเหนื่อยล้า
เพราะไม่ว่าจะเป็นวันไหน เวลาใด...อยู่กับพี่ภพ ผมก็รู้สึกเหมือนอยู่บ้านเสมอ
"วันนี้พี่นอนกับเราได้ไหม"เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับแววตาอ้อนๆที่ทำให้กนกชะงักไปเล็กน้อย
"อ่า..." เขาลากเสียง ก่อนจะเม้มริมฝีปาก มองไปยังเตียงขนาดเล็กของตัวเองอย่างลังเล เตียงนี้พอให้เขานอนคนเดียวได้สบายๆ แต่ถ้าพี่ภพมานอนด้วย มันคงจะเบียดกันน่าดู
"แต่เตียงผมเล็กนะ"
"ก็พี่ก็นอนกับเราบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ?"
"ก็ตอนนั้นผม..."
"เรากลัว..." พี่ภพเอ่ยเสียงเบา ดวงตาของเขาสะท้อนบางอย่างที่ทำให้กนกหยุดพูดไปชั่วขณะ
"แต่ตอนนี้อยู่กับพี่ เราไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะ พี่จะอยู่ตรงนี้" กนกยอมรับว่าเขาเคยกลัวจริงๆ ตอนที่ฝันร้ายสะดุ้งตื่นกลางดึกแล้วพบว่ามีเพียงเงาของตัวเองในห้อง แต่ตั้งแต่พี่ภพเข้ามาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
"วันนี้พี่มีอะไรจะบอกเราด้วย"คำพูดนั้นดึงกนกกลับมาสู่ปัจจุบัน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
"บอกผมเหรอ"
"อืม... จริงๆ ก็อยากรอให้สอบเสร็จก่อน แต่มันเหลืออีกแค่ไม่กี่วิชาแล้ว หลังจากนั้นเราคงต้องกลับบ้านกัน พี่คิดว่า...บอกไว้ก่อนดีกว่า"
"เรื่องร้ายหรือเปล่า?" กนกถามด้วยความระแวง "ผมจะได้ไม่ฟัง"
"เป็นเรื่องของเรา... เราสองคน"
"...เรา?"
พี่ภพเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ "พี่กับกนก"
กนกไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆ แม้ในใจยังเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่กล้าถามออกไป
"ไปอาบน้ำ กินข้าวก่อนนะ เดี๋ยวพี่ต้องไปทำธุระแป๊บนึง แล้วจะกลับมาหาประมาณสามทุ่ม อย่าพึ่งหลับล่ะ"
"โอเค"
พี่ภพยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินไปยังประตูแต่ก่อนจะก้าวออกไปเขาหันกลับมา "ไม่ต้องคิดมากนะ"
"ยังไงพี่ก็รักเรา"
"รัก"
พี่ภพพูดคำนั้นอีกแล้ว...
กนกนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ปล่อยให้เสียงหัวใจตัวเองเต้นดังเกินกว่าที่ควรเป็น มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่ภพพูดคำนั้นแต่ทำไมทุกครั้งถึงยังทำให้เขารู้สึกแปลกๆอยู่ดีพวกเขารู้จักกันแค่ไม่กี่เดือนเอง แล้วพี่ภพรักเขาได้ยังไง ทำไมต้องเป็นเขาทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้พิเศษอะไรสักหน่อย...หรือบางที พี่ภพแค่พูดเล่นเหมือนที่ชอบพูดอะไรแปลกๆ เสมอ
...ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ
"เฮ้ย ไอ้ภพ มึงกลับบ้านกับเด็กนั่นทุกวันเลยเหรอวะ"เสียงแซวของเพื่อนในห้องดังขึ้น ขณะที่ภพกำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงุนงง"ทำไมหรอ?" เพื่อนยักไหล่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะว่าต่อ "ก็น้องชายมึงก็ไม่ใช่... มึงลองพามันไปบ้านมึงดิ๊"ภพหลุดหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า "มึงอยากให้กนกไปบ้านกูจริงดิ เดี๋ยวพ่อกูก็อาละวาดบ้านแตกหรอก""แม่มึงก็เก่งเนอะ อยู่กับพ่อมึงได้""แล้วกูไม่เก่งหรอวะที่อยู่กับพ่อแม่ได้""ไอ้เหี้ย มึงเป็นลูกมึงก็ต้องอยู่กับพ่อแม่ป่ะวะ""มั้ง..."เสียงหัวเราะเบาๆ ปะปนกับการพูดคุยเล่นกันในห้องเรียนแต่ภพกลับไม่ได้สนใจนัก เขาเพียงแต่เงียบลงเมื่อนึกถึงกนกเด็กน้อยที่มักจะรอเขากลับจากโรงเรียนทุกวัน มันเป็นเรื่องจริง... เพราะเส้นทางที่เขากลับบ้านผ่านสำนักงานสาธารณสุขตำบลพอดี ทุกเย็นน้าเพชรจะพากนกมาทำงานด้วย และกนกก็มักจะมาเล่นอยู่ที่สวนข้างสำนักงานรอให้ภพพากลับบ้านด้วยกัน มันเป็นแบบนี้มาเกือบสองเดือนแล้ว ตั้งแต่ที่พวกเขารู้จักกัน"พี่ภพ..."กนกน้อยจับเสื้อภพเขย่าเบาๆ ขณะที่พวกเขากำ
"เราจำตุ๊กตาตัวนี้ได้ไหม..."พี่ภพค่อยๆ หยิบตุ๊กตาตัวนั้นมาให้กนก ตุ๊กตาหมีสีเหลืองตัวเดิมผ้าขนหนูที่คลุมอยู่บนตักร่วงลงพื้น เขาหันหน้าหนีปิดตาแน่นไม่กล้ามองสิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัว มันเป็นอะไรที่เขาอธิบายไม่ได้แค่เห็นภาพนั้นกล้ามเนื้อก็เริ่มเกร็งหัวใจเต้นแรง และเริ่มหายใจหอบ“น้องกนก...” พี่ภพเรียกเบาๆ ด้วยน้ำเสียงกังวล กนกไม่ตอบจนพี่ภพรีบขึ้นไปบนเตียง โอบกอดน้องไว้แน่น“เราไม่ต้องกลัว...เราจะปลอดภัย”“ผะ...ผม...ผมไม่อยากเห็นมัน...” หอบถี่และหนักหน่วง สะท้อนถึงความหวาดหวั่นที่ก่อตัวขึ้นในอก มือที่กำเสื้อของพี่ภพไว้สั่นระริก ความอบอุ่นจากร่างกายของอีกฝ่ายเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยยึดเหนี่ยวเขาไว้ในตอนนี้“เราจะไม่เป็นอะไร...พี่จะอยู่ข้างเรา...จะไม่มีใครทำอะไรเรา” เสียงกระซิบของพี่ภพนุ่มนวลและอบอุ่น ราวกับสายลมอ่อนที่พัดผ่านใจ เขาเผลอหลับตาลงปล่อยให้ถ้อยคำเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาอย่างแผ่วเบา มันเหมือนมีมนต์สะกดค่อยๆปลดเปลื้องความตึงเครียดในอกไปทีละนิด ลมหายใจที่เ
ผมพยายามไม่รอเขา...แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองนาฬิกาบนมือถือทุกๆ สิบนาที ไม่ดูหรอก...ก็ตั้งใจอ่านหนังสือนิยายอยู่นะ วันนี้เป็นวันพักผ่อนหลังสอบ ควรจะผ่อนคลายสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไม ตัวหนังสือที่เคยสนุกกลับกลายเป็นแค่ตัวอักษรที่เรียงกันไม่มีความหมาย หรือว่าผมกำลัง...ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ใจเต้นแรงเหมือนเด็กน้อยที่รอคอยของขวัญ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่พี่ภพ..."คนเก่ง...ได้ท็อปเลยดิ ยังอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้ก็วันศุกร์" มิวยืนอยู่หน้าประตู ยิ้มกว้างพร้อมกับชีทที่ถืออยู่ในมือผมพยักหน้าเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกผิดหวังไว้ในใจ "ทำไมวันนี้มาหาเรา...ลืมอะไรหรือเปล่า""ลืม...ลืมชีทที่เราให้แกวันติวไว้""อ้าว แล้วไม้โทรมาบอก" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ"ก็ห้องอยู่แค่ชั้นเดียว เดินมาหากันก็ได้" มิวยักไหล่แล้วก็ส่งสายตามองผมอย่างสนใจ"...ไม่ใช่หรอ หรือแกมีอะไร""มีอะไรล่ะ ไม่มี"มิวหัวเราะเบาๆ "แล้วนี่ไม่กลัวแล้วหรอ...พี่ชายข้างบ้านยังมาหาอยู่ไหม""ก็มา
ช่วงสอบปลายภาค พี่ภพแวะมาหาเขาเกือบทุกวัน บางวันก็ขอแวะมานอนด้วยโดยอ้างว่า "หอพี่แอร์เสีย" หรือ "อยากติวหนังสือเป็นเพื่อน" แต่กนกรู้ดีว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเพราะสุดท้ายแล้วพี่ภพก็ไม่ได้แตะหนังสือสักเท่าไหร่ มีแต่เขาส่วนพี่ภพก็นอนกลิ้งเล่นอยู่ข้างๆแรกๆ กนกยังรู้สึกเกร็งเวลาถูกพี่ภพจ้องมอง ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือเขามักจะพบสายตาอบอุ่นคู่นั้นมองอยู่เสมอเป็นสายตาที่ทำให้ใจเต้นแปลกๆราวกับว่าพี่ภพเห็นบางสิ่งในตัวเขาที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป... ความรู้สึกพวกนั้นก็ค่อยๆจางหาย สายตาที่เคยหลบเลี่ยงหรืออาการประหม่าเมื่อต้องอยู่ใกล้พี่ภพเริ่มหายไปเช่นกันแทนที่ด้วย...ความสบายใจการมีพี่ภพอยู่ด้วยกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน ห้องที่เคยเงียบเหงาก็กลับมีเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของขนมที่พี่ภพชอบซื้อมาให้หัวใจที่เคยปิดกั้นเริ่มเปิดออกทีละนิด"ไงครับคนเก่ง วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม?"เสียงทุ้มที่ฟังแล้วอบอุ่นเสมอดังขึ้นจากด้านหลัง กนกเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถอนหายใจยาว
ช่วงเวลาการสอบปลายภาคของปีหนึ่งผ่านไปอย่างแสนเหนื่อย เขาอดนอนมาหลายคืนเพื่ออ่านหนังสือทบทวนเนื้อหา ร่างกายอ่อนล้า แต่จิตใจกลับว้าวุ่นยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่รู้ว่าคนแปลกหน้าที่เข้ามาในชีวิตไม่ใช่ผี และยังเป็นคนรู้จักกับแม่ ความหนักอึ้งในใจกลับเบาลงและรู้สึกปลอดภัยขึ้นโดยไม่รู้ตัวแต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ พี่ภพยังมาหาเขาเป็นประจำบางวันมาตอนบ่าย พร้อมกับขนมของว่างวางไว้บนโต๊ะเรียนของเขาบางวันมาตอนเย็น ยืนรออยู่หน้าหอพักด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตากลับดูอ่อนโยน กนกพยายามปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับ เพราะกลิ่นหอมๆ นั้นทำให้ท้องร้องทุกทีและบางคืน...ชายคนนั้นมาเพียงเพื่อบอก "ฝันดีนะ"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมมืออุ่นที่ลูบเบาๆ บนศีรษะ กนกมักจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมถึงดูแลเขาขนาดนี้ แต่พอรู้ตัวอีกที หัวใจของเขาก็ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้วแต่ที่ทำให้สับสนยิ่งกว่าคือ บางคืน...เขากลับเข้ามากอด อ้อมแขนนั้นแน่นหนา แข
หลังจากที่กนกได้รู้ความจริงว่า คนที่เขาเจอในฝันที่เหมือนจริงมาตลอดคือ พี่ภพ พี่ชายข้างบ้านที่เขาลืมไปแล้ว ความทรงจำในวัยเด็กของเขาหายไปเหมือนกระดาษหน้าหนึ่งที่ถูกฉีกทิ้ง ทุกครั้งที่พยายามนึกย้อนก็มักจบลงด้วยความสับสนจนปวดหัวแต่ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ภพถึงโผล่มาหาเขาแบบนี้ หรือเหตุผลอะไรที่ทำให้พี่ภพก้าวเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง…แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสัมผัสได้คือ ความอบอุ่น เสมอเมื่ออยู่ในอ้อมกอดนั้นช่วงนี้ พี่ภพมาหาเขาทุกเย็น เอาของอร่อยมาให้ กนกก็มักจะรับมันมาด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นเคย หรือเพราะเขายังไม่เข้าใจสถานะของพวกเขาในตอนนี้"เราแข็งแรงดีไหม?""ครับ""ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วสินะ""ครับ""ขนมที่พี่ซื้อมาถูกใจไหม?""ครับ"กนกตอบรับสั้นๆ ทุกคำถามโดยแทบไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วคำพูดต่อมาของพี่ภพกลับทำให้เขาสะดุด"เรานี่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ"กนกเผลอชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะรีบตอบ "คะ...ครับ?"
มิวมาพักกับกนกได้ราวหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะต้องกลับไปอ่านหนังสือและติวให้เพื่อนกลุ่มอื่น คืนนี้จึงเป็นคืนแรกในรอบหลายวันที่กนกต้องนอนคนเดียวอีกครั้ง เขาปิดไฟและพลิกตัวซุกผ้าห่ม ตั้งใจจะข่มตานอน แต่แล้ว...แกร๊ก!เสียงของลูกบิดประตูที่หมุนเบาๆ ทำให้ร่างทั้งร่างแข็งค้างหัวใจเขาเต้นระรัวพร้อมลมหายใจที่ติดขัด ราวกับถูกพันธนาการด้วยความกลัวที่บีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออกใคร?น้ำตาค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับร่างกายที่เริ่มสั่นสะท้าน สติเริ่มตีกันยุ่งเหยิง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาใกล้ๆจนกระทั่ง...อ้อมแขนอบอุ่นโอบกอดเขาไว้แน่น"ไม่ต้องกลัวนะ..." เสียงทุ้มกระซิบข้างหูนั้นแผ่วเบาและมั่นคง"ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้ว" กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาจากเสื้อตัวหนาของชายแปลกหน้า อ้อมแขนที่กอดแน่นนั้นให้ความรู้สึกคุ้นเคยจนน่าแปลกใจ กนกหอบหายใจหนักขึ้นและร่างกายยังคงสั่นสะท้านแต่สัมผัสจากคนตรงหน้ากลับช่วยให้หัวใจที่เต้นกระหน่ำเริ่มสงบลงทีละนิด"พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษสำหรับท
วันนี้กนกเริ่มรู้สึกว่า…บางที คนที่ตามเขาอาจไม่ใช่ผีอย่างที่เขาคิด สายตาของใครบางคนเหมือนเฝ้าจับจ้องเขาจากที่ไกลๆ มันไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกวูบไหวหรือภาพหลอนที่เกิดจากความหวาดระแวง แต่มันชัดเจนจนทำให้ขนที่ต้นคอลุกชัน"หืม…มีอะไรเหรอ?" พราวถามขึ้นระหว่างกำลังตักข้าวเข้าปากในโรงอาหารกนกขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า "เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก" พราวเหลือบตามองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อช่วงบ่าย ขณะเดินไปห้องแล็บ มิวเข้ามากระซิบที่ข้างหูพราว เสียงของเขาเบาราวกับไม่ต้องการให้ใครได้ยิน พราวชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าตกใจแต่ก็พยายามเก็บอาการแล้วทั้งสองค่อยๆลดความเร็วในการเดินราวกับกำลังจับตาดูอะไรบางอย่างตรงข้ามกับพวกเขา กนกกลับเดินนำหน้าอย่างสบายใจ หูฟังเสียบอยู่กับหู ขยับปากร้องเพลงเบาๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่และมันก็เป็นอย่างที่คิด...เมื่อมิวกับพราวถอยห่างออกมา ก็เห็นชายคนหนึ่งที่ไม่เคยพบมาก่อน สวมหมวกและผ้าปิดปาก เดินลอบเลียบเลาะตามกนกอย่างแนบเนียน ทว่า…มีบางอย่างผิดปกติวันนี้เขาใส่เสื้อแขนยาว
ห้วงความฝันเด็กชายตัวเล็กพยายามยื้อแย่งตุ๊กตาในอ้อมปากของเจ้าหมาจอมดื้อ"อื้ออ... อย่าเอาของน้อง! แงงง!"เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น ดึงสุดแรงเกิด แต่แรงเด็กน้อยสู้หมาตัวโตไม่ไหว ตุ๊กตาหมีสีเหลืองยังคงถูกคาบแน่นในปากของมัน"แง... แงงง!" เสียงร้องดังลั่นไปทั่วสนามหญ้า จนเด็กอีกคนวิ่งเข้ามาพร้อมกับไม้ในมือ"ไอ้หมา! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!"...ฟาด!... ฟาด!เจ้าหมาสะดุ้งเฮือก ส่ายหัวไปมา ก่อนจะทนความเจ็บไม่ไหว ยอมคลายตุ๊กตาหมีสีเหลืองออกจากปาก"เย้ๆๆ!" เด็กน้อยกระโดดดีใจ เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้น พี่ชายใจดีที่ช่วยปกป้องเขาหยิบตุ๊กตาขึ้นมา"อันนี้ของเราสินะ แต่มันเปื้อนหมดเลย""ไม่เป็นไรครับ... หมูเหลืองไปซักได้"เด็กชายตัวน้อยยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย ก่อนภาพทุกอย่างจะเลือนหายไป…...วี๊วอ! วี๊วอ!เสียงไซเรนรถพยาบาลดังระงมไปทั่ว ความวุ่นวาย เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ เสียงวิทยุสื่อสารแทรกเป็นระยะมือของเขาเปื้อนเลือด...เลือด