แชร์

ความทรงจำที่ขาดหาย

ผู้เขียน: พงศ์พัชรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-10 18:30:47

ผมพยายามไม่รอเขา...แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองนาฬิกาบนมือถือทุกๆ สิบนาที ไม่ดูหรอก...ก็ตั้งใจอ่านหนังสือนิยายอยู่นะ วันนี้เป็นวันพักผ่อนหลังสอบ ควรจะผ่อนคลายสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไม ตัวหนังสือที่เคยสนุกกลับกลายเป็นแค่ตัวอักษรที่เรียงกันไม่มีความหมาย หรือว่าผมกำลัง...

ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ใจเต้นแรงเหมือนเด็กน้อยที่รอคอยของขวัญ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่พี่ภพ...

"คนเก่ง...ได้ท็อปเลยดิ ยังอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้ก็วันศุกร์" มิวยืนอยู่หน้าประตู ยิ้มกว้างพร้อมกับชีทที่ถืออยู่ในมือ

ผมพยักหน้าเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกผิดหวังไว้ในใจ "ทำไมวันนี้มาหาเรา...ลืมอะไรหรือเปล่า"

"ลืม...ลืมชีทที่เราให้แกวันติวไว้"

"อ้าว แล้วไม้โทรมาบอก" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ

"ก็ห้องอยู่แค่ชั้นเดียว เดินมาหากันก็ได้" มิวยักไหล่แล้วก็ส่งสายตามองผมอย่างสนใจ 

"...ไม่ใช่หรอ หรือแกมีอะไร"

"มีอะไรล่ะ ไม่มี" 

มิวหัวเราะเบาๆ "แล้วนี่ไม่กลัวแล้วหรอ...พี่ชายข้างบ้านยังมาหาอยู่ไหม"

 "ก็มาบ้างแหละ เขาบอกว่าแม่ให้มาช่วยดู"

"น้าเพชรก็แปลกนะ...ให้คนมาคอยดูแต่ไม่ยอมบอก ส่วนพี่เขาก็ดูแปลกๆ ทำไมไม่มาหาดีๆ" มิวจ้องผมเหมือนจะล้วงความลับอะไรสักอย่าง

"แล้วนี่จะได้ท็อปอีกวิชาป่ะ" 

"ได้ท็อปอะไรเล่า" 

"ก็วิชาเสริม แกบอกว่าแกทำได้หมด"

"ก็มันไม่ยากขนาดนั้น" ผมตอบอย่างมั่นใจ

"อืมๆ" มิวยิ้มกว้าง "ก็สู้ๆ แล้วกัน อีก 2 ตัวก็จะได้กลับบ้านแล้ว"

"อืมๆ ...ถ้าจะมาหาก็โทรมานะ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ

"ไม่โทรอ่ะ...แต่ไม่มาแล้ว แค่มาเอาชีท ไปแล้วนะ" มิวยกมือโบกลา

"อืม...ไว้เจอกันมิว"

"เคๆ"

จากนั้นมิวก็ออกไปจากห้อง เหลือผมเพียงคนเดียวที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น มือยังจับที่มือประตูไว้แน่น ใจยังคงหวั่นไหวกับความรู้สึกที่รอคอยใครบางคน

ผมมองนาฬิกาอีกครั้ง...แล้วก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ หนังสือนิยายที่วางอยู่ข้างหน้าดูเหมือนจะไม่มีความหมายอีกแล้ว เพราะใจของผมยังคงลอยไปที่พี่ภพ...คนที่ผมรอคอย แต่ยังไม่มาเสียที

 

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้...คนที่ผมรอคอยก็มาเสียที ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ทำให้พี่ภพแปลกใจ

"พี่ขอโทษนะครับ...พี่ติดงานนิดหน่อย เลยมาหาเราช้า" พี่ภพพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อยแต่ยังอบอุ่นเหมือนเดิม

"มะ...มะเป็นไรครับ" ผมตอบด้วยความตื่นเต้นที่พยายามเก็บไว้ไม่ให้เกินเหตุ

"พี่ทานข้าว..."

"พี่ทานข้าวแล้ว แต่ขออาบน้ำห้องเราได้ไหม" เขายกกระเป๋าเสื้อผ้าโชว์ให้ดูว่าวันนี้เตรียมของมาพักกับผมแน่นอน

"คะ...ครับ" ผมตอบด้วยความตื่นเต้นที่แทบจะเก็บไม่อยู่

จากนั้นผมก็รีบเก็บของบนโต๊ะอ่านหนังสือให้เรียบร้อยแล้วหันกลับไปมองเตียงที่ผู้ชายสองคนต้องนอนด้วยกันในคืนนี้ เอาจริงๆ ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยนอนด้วยกันมาก่อนแต่ทุกครั้งที่ผ่านมา ผมมักจะหลับไปก่อนและน้อยครั้งมากที่พี่ภพจะนอนพักกับผมจนถึงเช้า วันนี้จึงเป็นวันที่ผมค่อนข้างตื่นเต้นและกังวลเล็กน้อย

ไม่นานนัก พี่ภพก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นและหัวที่ยังเปียกชื้น

"เอ่อ..." ผมไม่กล้าสบตาพี่ภพเท่าไรเพราะไม่คิดว่าพี่ภพจะหุ่นดีขนาดนี้

"เป็นอะไรครับ..เขินพี่หรอ" พี่ภพพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ผมซะงั้น

"ปะ...เปล่าครับ แค่...เอ่อ...ทำไมพี่ไม่เช็ดผมให้แห้งครับ เดี๋ยวก็ไม่สบาย" ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง

"เช็ดให้พี่หน่อยสิ" พี่ภพพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนที่ทำให้ผมแพ้ทางทุกที

"...เหมือนที่เราเคยเช็ดให้พี่ไง" 

"ผมหรอ..."

"ใช่...เราเคยเช็ดผมให้พี่ด้วย"

ผมพยายามคิดแต่ก็จำไม่ได้ "อ่า...ขอโทษทีครับ ผมจำไม่ได้"

พี่ภพไม่ได้ว่าอะไร แล้วค่อยๆ จับแขนผมให้นั่งลงบนเตียง เขายืนนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะย่อตัวเข้ามาใกล้ ทิ้งระยะห่างแค่พอสมควรแล้วก็ค่อยๆ นั่งลงตรงหว่างขาของผม ใบหน้าของเขาอยู่ในระยะที่สัมผัสได้ถึงอุ่นๆของลมหายใจ เขาเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูที่เตรียมไว้แล้วยื่นให้ผม ชั่วขณะที่มือของเราสัมผัสกันผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ทำให้ใจผมเต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

"นะครับ..." สีหน้าที่อ้อนๆ ของพี่ภพทำให้ผมปฏิเสธเขาไม่ได้ทุกที

"พี่ก็ชอบทำแบบนี้ทุกที" ผมบ่นเบาๆขณะที่เริ่มเช็ดผมให้พี่ภพ

"พี่เลียนแบบมาจากเราไง" พี่ภพพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น

"หืม...ผมไปทำหน้าแบบนี้ใส่พี่ตอนไหน" 

ถึงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ภพพูดเท่าไร แต่ผมก็ยอมเช็ดผมให้เขาไปอย่างนั้น ห้องเงียบลงชั่วขณะมีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆของทั้งสองคนที่ดังก้องอยู่ในอากาศ

"เรารู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงมาอยู่ตรงนี้" พี่ภพพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเศร้าที่ยากจะอธิบาย

"ก็เพราะพี่เป็นห่วงเรามาก...ถึงรู้ว่าเราโตแล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วง" พี่ภพพูดต่อโดยที่ผมยังคงนั่งนิ่งไม่รู้จะพูดอะไรดี

"..."

"คิดถึงเราตลอดที่ไม่ได้เจอกัน...ตอนนั้นพี่ตื่นขึ้นมา เราก็หายไปจากพี่แล้ว" 

"..."

"แม่บอกว่า พี่คงไม่ได้เจอเราแล้ว แต่พวกเราก็ได้มาเจอกันอีก" พี่ภพมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง 

"..."ผมยังคงเงียบ ไม่รู้จะตอบอย่างไร

"เราดีใจไหม..." พี่ภพถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงแต่ผมก็ยังไม่ตอบ เพราะทุกอย่างที่พี่ภพพูดมามันเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยรู้ไม่เคยจำได้

บทสนทนานี้เหมือนเป็นการพูดคุยเพียงคนเดียวเพราะทุกประโยคที่พี่ภพพูดมา ผมไม่เข้าใจ ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอพี่ภพทั้งๆที่เขาบอกว่าเป็นพี่ชายข้างบ้านและความทรงจำหรือทุกอย่างที่พี่ภพพูดมา...ผมจำไม่ได้ และรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนเส้นบางๆระหว่างความจริงและความทรงจำที่หายไป ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและอะไรคือสิ่งที่พี่ภพเชื่อว่าเป็นจริง

"พี่..." ผมเรียกเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสับสน "ผม...ผมจำไม่ได้" พี่ภพมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าแต่ก็ยังมีรอยยิ้มอ่อนๆส่งมาให้

 "ไม่เป็นไร...พี่เข้าใจ"แต่ในใจของผมกลับรู้สึกหนักอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไรและทำไมความทรงจำของผมถึงขาดหายไป...

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ไม่สมบูรณ์แต่เข้าใจ

    หน้าบ้านหลังเล็กที่เงียบงัน มีเพียงเสียงสะอื้นปะปนกับเสียงลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ปล่อยให้มีเพียงสองร่างในอ้อมกอดกันแน่นอยู่กลางห้วงเวลาอันแสนเจ็บปวด ภพกอดร่างของกนกแน่น รู้สึกได้ถึงแรงสั่นจากการร้องไห้ที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่าย ๆ น้ำตาของคนน้องเปียกเสื้อเขาจนชื้น และแรงกอดของกนกก็เหมือนเป็นการยึดเหนี่ยวสุดท้ายไว้กับความจริง“ฮึก… พี่ภพ… มันเจ็บ…” เสียงสะอื้นแผ่วเบารอดออกจากริมฝีปากสั่น“ไม่เป็นไรแล้ว…” ภพกระซิบเบา ๆ มือใหญ่ลูบหลังคนน้องอย่างอ่อนโยน“พี่อยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้วนะ…”กนกส่ายหน้าเล็กน้อย ซุกหน้าลงที่ไหล่กว้าง เสียงร้องไห้เปลี่ยนเป็นสะอื้นอย่างทรมาน“มันย้อนกลับมา… ภาพพวกนั้น… ตอนเด็ก… ทำไมถึงลืมมันไปได้ ฮึก… ทำไมถึงเพิ่งจำได้ตอนนี้…”“ไม่ต้องโทษตัวเองนะคนเก่ง…” ภพก้มลงจูบผมนิ่ม ๆ ซับน้ำตาที่เปื้อนแก้มเนียนด้วยความอดทนที

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เผชิญหน้า

    วันนี้พี่ภพชวนผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้า อากาศสดชื่นกว่าทุกวัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้พี่ภพอยู่ข้าง ๆเราไปเดินชมสวนดอกไม้ด้วยกัน แสงแดดอ่อน ๆ ทาบลงบนทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่กำลังผลิบาน นี่เป็นครั้งแรกที่เราถ่ายรูปคู่กัน พี่ภพยิ้มให้กล้อง ผมเองก็ยิ้มตามไปโดยไม่รู้ตัวแปลกดีนะ… ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของพี่ภพเป็นเหมือนบ้านช่วงบ่าย พี่ภพบอกว่าจะพาผมไปในสถานที่แห่งหนึ่ง "สถานที่แห่งความทรงจำ"ผมไม่ได้ถามว่ามันคือที่ไหน เพราะสิ่งเดียวที่พี่ภพบอกผมก็คือ—"จับมือพี่ไว้แน่น ๆ นะ"และช่วงนี้ ผมกล้าจับมือพี่ภพแล้วด้วยเรานั่งรถมาด้วยกัน ข้างทางเริ่มคุ้นตาขึ้นเรื่อย ๆ ผมคิดว่าเรากำลังเดินทางกลับไปที่บ้านพี่ภพแต่พอรถเลี้ยวเข้าเส้นทางเล็ก ๆ ผมกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างประหลาดมันไม่ใช่บ้านของพี่ภพ แต่เป็นบ้านเก่าหลังนึงที่สภาพดี แต่ไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อก้าวลงจากรถ ผมรู้สึกเหมือนถูกสายลมที่มองไม่เห็นกระแทกเข้ามาเต็มแรงลมพัดเอื่อย

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความสุข

    ในห้วงเวลาอบอุ่นช่วงปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว กนกอยู่บ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว พี่ภพเองก็ติดโปรเจกต์ปีสุดท้ายและกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ทำให้เราไม่ได้เจอกันบ่อยนัก มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ส่งหากันเป็นระยะจนกระทั่งวันนี้พี่ภพมาหาน้าแป้น และทักมาหาเขา"วันนี้มาหาพี่หน่อย อยู่เป็นเพื่อนตอนทำงานได้ไหม?"กนกอ่านข้อความแล้วบอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกกับพี่ภพ เมื่อเจอกัน เราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่พี่ภพจะขับรถพาเขาไปยังห้องพักบรรยากาศภายในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเพลงบรรเลงคลอแผ่วเบา อากาศเย็นกำลังดีทำให้รู้สึกสบายใจ กนกไม่ได้ถามว่าทำไมพี่ภพถึงพาเขามาที่ห้องพัก—เขาแค่ไว้ใจคอนโดของพี่ภพอยู่ไม่ไกลจากหอในของเขานัก เป็นห้องขนาดกว้าง แบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ พื้นที่ครัวเล็กๆ อยู่มุมหนึ่ง ห้องนอนเชื่อมกับพื้นที่ทำงาน เตียงกว้างและดูนุ่มมาก"เราจะนั่งอ่านหนังสือที่เตียงพี่ก็ได้นะ ถ้าง่วงก็นอนได้เลย""ครับ"กนกตอบรับโดยไม่ถามอะไร เขาหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาเปิด แต่ในใจก็แอบสงสัยว่าพี่ภพให้มาอยู่เป็นเพื่อน หรือแค่ต้

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ครอบครัว

    "อ้อมกอดของแม่"คืนนี้เงียบสงบกว่าทุกคืน ลมหายใจของกนกอุ่นขึ้นเมื่อนอนอยู่ข้างแม่ อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ราวกับได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ อีกครั้ง"วันนี้แม่ขอนอนกับลูกชายคนโปรดได้ไหมครับ?""ได้ครับแม่"กนกขยับตัวให้แม่เข้ามาใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พอเพชรล้มตัวลงนอน กนกก็รีบซุกตัวเข้าหาแม่ทันที โอบกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเพชรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบผมลูกชายอย่างอ่อนโยน "เป็นยังไงบ้างลูก ปีแรกในมหาวิทยาลัย เหนื่อยไหม?""เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกมากด้วย""เรียนยากไหม?""ก็ยากนิดหน่อยครับ แต่ยังดีที่มีมิวช่วยติวให้ มิวเก่งมากเลยครับแม่""ดีจังเลย แม่จำได้ว่าลูกเล่าเรื่องมิวให้ฟังบ่อยๆ แล้วหนูพราวล่ะ เป็นไงบ้าง?""พราวก็ยังตลกเหมือนเดิมเลยครับแม่ ถ้าผมเครียดๆ เบื่อๆ พราวนี่แหละที่ทำให้ผมยิ้มได้""ดีแล้วล่ะลูก มีเพื่อนดีก็ช่วยกันประคองไปนะ มีอะไรให้แม่ช่วยก็บอกได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว"กนกพยักหน้ารับ แล้วเงียบไปครู่หนึ่งเพชรมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจ "แล้วพี่ภ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กำลังใจของกันและกัน

    หลังจากนั้นพบรักก็พากนกกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่น แม้จะมีความหวาดกลัวและกังวลบางอย่างยังค้างอยู่ในใจ แต่การมีพี่ภพอยู่เคียงข้าง คอยโอบกอด คอยปลอบโยน ทำให้เขารู้สึกว่า… ไม่ได้เผชิญทุกอย่างเพียงลำพังและยิ่งรู้สึก… ชอบพี่ภพมากขึ้นทุกวันวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังไปเยอะ ทั้งร่างกายและหัวใจเลยเหนื่อยล้าเต็มที กนกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมา หวังว่าจะอ่านเล่นสักหน่อยก่อนจะหลับไปแต่ก่อนที่เปลือกตาจะหนักอึ้ง มือถือก็สั่นเบา ๆ แจ้งเตือนข้อความจาก LINEพี่ภพ: “นอนหรือยังครับ”กนก: “กนกจะอ่านหนังสือนิยายสักหน่อย แล้วก็คงจะนอนแล้วครับ”พี่ภพ: “นอนไวจัง เพิ่งสามทุ่มเอง”กนกหลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับกนก: “พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าครับ”พี่ภพ: “พี่เหนื่อยนิดหน่อย พอดีส่งงานให้ลูกค้าอยู่ กำลังปั่นงานเลย”กนก: “วันนี้พี่ภพกลับไปในเมืองหรอครับ”

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   สวนมะพร้าวบ้านพี่ภพ

    เพชรมองหน้าลูกชายตัวน้อยที่กำลังยิ้มกับโทรศัพท์ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแสดงออกมา“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันครับ คุณกนกของแม่?”กนกสะดุ้งเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม “ยิ้มอะไรกันล่ะครับ แม่คิดไปเอง กนกไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”เพชรหัวเราะเบา ๆ “ก็เห็นยิ้มกับโทรศัพท์ไง”เด็กหนุ่มเม้มปาก หันไปมองหน้าจออีกครั้ง ก่อนจะยอมรับเสียงเบา “ก็...พี่ภพ LINE มาบอกนะครับว่าอยู่บ้านตัวเองแล้ว”“อ้อ”“แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กนกก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน” เจ้าตัวพูดต่อ “แต่ว่าพี่เขาบอกว่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราตรงนี้นี่เอง”เพชรพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตายังคงมองสำรวจลูกชายของตัวเอง“วันนี้เขาจะมาหาหรือเปล่า?”“พี่ภพเหรอครับ?”“จ้ะ”“เห็นบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวสวนมะพร้าวเล็ก ๆ”เพชรเลิกคิ้วเล็กน้อย “สวนมะพร้าว?”กนกพยักหน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status