Home / LGBTQ+ / เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง / ความทรงจำที่ขาดหาย

Share

ความทรงจำที่ขาดหาย

last update Huling Na-update: 2025-05-10 18:30:47

ผมพยายามไม่รอเขา...แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองนาฬิกาบนมือถือทุกๆ สิบนาที ไม่ดูหรอก...ก็ตั้งใจอ่านหนังสือนิยายอยู่นะ วันนี้เป็นวันพักผ่อนหลังสอบ ควรจะผ่อนคลายสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไม ตัวหนังสือที่เคยสนุกกลับกลายเป็นแค่ตัวอักษรที่เรียงกันไม่มีความหมาย หรือว่าผมกำลัง...

ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ใจเต้นแรงเหมือนเด็กน้อยที่รอคอยของขวัญ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่พี่ภพ...

"คนเก่ง...ได้ท็อปเลยดิ ยังอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้ก็วันศุกร์" มิวยืนอยู่หน้าประตู ยิ้มกว้างพร้อมกับชีทที่ถืออยู่ในมือ

ผมพยักหน้าเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกผิดหวังไว้ในใจ "ทำไมวันนี้มาหาเรา...ลืมอะไรหรือเปล่า"

"ลืม...ลืมชีทที่เราให้แกวันติวไว้"

"อ้าว แล้วไม้โทรมาบอก" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ

"ก็ห้องอยู่แค่ชั้นเดียว เดินมาหากันก็ได้" มิวยักไหล่แล้วก็ส่งสายตามองผมอย่างสนใจ 

"...ไม่ใช่หรอ หรือแกมีอะไร"

"มีอะไรล่ะ ไม่มี" 

มิวหัวเราะเบาๆ "แล้วนี่ไม่กลัวแล้วหรอ...พี่ชายข้างบ้านยังมาหาอยู่ไหม"

 "ก็มาบ้างแหละ เขาบอกว่าแม่ให้มาช่วยดู"

"น้าเพชรก็แปลกนะ...ให้คนมาคอยดูแต่ไม่ยอมบอก ส่วนพี่เขาก็ดูแปลกๆ ทำไมไม่มาหาดีๆ" มิวจ้องผมเหมือนจะล้วงความลับอะไรสักอย่าง

"แล้วนี่จะได้ท็อปอีกวิชาป่ะ" 

"ได้ท็อปอะไรเล่า" 

"ก็วิชาเสริม แกบอกว่าแกทำได้หมด"

"ก็มันไม่ยากขนาดนั้น" ผมตอบอย่างมั่นใจ

"อืมๆ" มิวยิ้มกว้าง "ก็สู้ๆ แล้วกัน อีก 2 ตัวก็จะได้กลับบ้านแล้ว"

"อืมๆ ...ถ้าจะมาหาก็โทรมานะ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ

"ไม่โทรอ่ะ...แต่ไม่มาแล้ว แค่มาเอาชีท ไปแล้วนะ" มิวยกมือโบกลา

"อืม...ไว้เจอกันมิว"

"เคๆ"

จากนั้นมิวก็ออกไปจากห้อง เหลือผมเพียงคนเดียวที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น มือยังจับที่มือประตูไว้แน่น ใจยังคงหวั่นไหวกับความรู้สึกที่รอคอยใครบางคน

ผมมองนาฬิกาอีกครั้ง...แล้วก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ หนังสือนิยายที่วางอยู่ข้างหน้าดูเหมือนจะไม่มีความหมายอีกแล้ว เพราะใจของผมยังคงลอยไปที่พี่ภพ...คนที่ผมรอคอย แต่ยังไม่มาเสียที

 

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้...คนที่ผมรอคอยก็มาเสียที ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ทำให้พี่ภพแปลกใจ

"พี่ขอโทษนะครับ...พี่ติดงานนิดหน่อย เลยมาหาเราช้า" พี่ภพพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อยแต่ยังอบอุ่นเหมือนเดิม

"มะ...มะเป็นไรครับ" ผมตอบด้วยความตื่นเต้นที่พยายามเก็บไว้ไม่ให้เกินเหตุ

"พี่ทานข้าว..."

"พี่ทานข้าวแล้ว แต่ขออาบน้ำห้องเราได้ไหม" เขายกกระเป๋าเสื้อผ้าโชว์ให้ดูว่าวันนี้เตรียมของมาพักกับผมแน่นอน

"คะ...ครับ" ผมตอบด้วยความตื่นเต้นที่แทบจะเก็บไม่อยู่

จากนั้นผมก็รีบเก็บของบนโต๊ะอ่านหนังสือให้เรียบร้อยแล้วหันกลับไปมองเตียงที่ผู้ชายสองคนต้องนอนด้วยกันในคืนนี้ เอาจริงๆ ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยนอนด้วยกันมาก่อนแต่ทุกครั้งที่ผ่านมา ผมมักจะหลับไปก่อนและน้อยครั้งมากที่พี่ภพจะนอนพักกับผมจนถึงเช้า วันนี้จึงเป็นวันที่ผมค่อนข้างตื่นเต้นและกังวลเล็กน้อย

ไม่นานนัก พี่ภพก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นและหัวที่ยังเปียกชื้น

"เอ่อ..." ผมไม่กล้าสบตาพี่ภพเท่าไรเพราะไม่คิดว่าพี่ภพจะหุ่นดีขนาดนี้

"เป็นอะไรครับ..เขินพี่หรอ" พี่ภพพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ผมซะงั้น

"ปะ...เปล่าครับ แค่...เอ่อ...ทำไมพี่ไม่เช็ดผมให้แห้งครับ เดี๋ยวก็ไม่สบาย" ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง

"เช็ดให้พี่หน่อยสิ" พี่ภพพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนที่ทำให้ผมแพ้ทางทุกที

"...เหมือนที่เราเคยเช็ดให้พี่ไง" 

"ผมหรอ..."

"ใช่...เราเคยเช็ดผมให้พี่ด้วย"

ผมพยายามคิดแต่ก็จำไม่ได้ "อ่า...ขอโทษทีครับ ผมจำไม่ได้"

พี่ภพไม่ได้ว่าอะไร แล้วค่อยๆ จับแขนผมให้นั่งลงบนเตียง เขายืนนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะย่อตัวเข้ามาใกล้ ทิ้งระยะห่างแค่พอสมควรแล้วก็ค่อยๆ นั่งลงตรงหว่างขาของผม ใบหน้าของเขาอยู่ในระยะที่สัมผัสได้ถึงอุ่นๆของลมหายใจ เขาเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูที่เตรียมไว้แล้วยื่นให้ผม ชั่วขณะที่มือของเราสัมผัสกันผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ทำให้ใจผมเต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

"นะครับ..." สีหน้าที่อ้อนๆ ของพี่ภพทำให้ผมปฏิเสธเขาไม่ได้ทุกที

"พี่ก็ชอบทำแบบนี้ทุกที" ผมบ่นเบาๆขณะที่เริ่มเช็ดผมให้พี่ภพ

"พี่เลียนแบบมาจากเราไง" พี่ภพพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น

"หืม...ผมไปทำหน้าแบบนี้ใส่พี่ตอนไหน" 

ถึงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ภพพูดเท่าไร แต่ผมก็ยอมเช็ดผมให้เขาไปอย่างนั้น ห้องเงียบลงชั่วขณะมีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆของทั้งสองคนที่ดังก้องอยู่ในอากาศ

"เรารู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงมาอยู่ตรงนี้" พี่ภพพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเศร้าที่ยากจะอธิบาย

"ก็เพราะพี่เป็นห่วงเรามาก...ถึงรู้ว่าเราโตแล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วง" พี่ภพพูดต่อโดยที่ผมยังคงนั่งนิ่งไม่รู้จะพูดอะไรดี

"..."

"คิดถึงเราตลอดที่ไม่ได้เจอกัน...ตอนนั้นพี่ตื่นขึ้นมา เราก็หายไปจากพี่แล้ว" 

"..."

"แม่บอกว่า พี่คงไม่ได้เจอเราแล้ว แต่พวกเราก็ได้มาเจอกันอีก" พี่ภพมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง 

"..."ผมยังคงเงียบ ไม่รู้จะตอบอย่างไร

"เราดีใจไหม..." พี่ภพถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงแต่ผมก็ยังไม่ตอบ เพราะทุกอย่างที่พี่ภพพูดมามันเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยรู้ไม่เคยจำได้

บทสนทนานี้เหมือนเป็นการพูดคุยเพียงคนเดียวเพราะทุกประโยคที่พี่ภพพูดมา ผมไม่เข้าใจ ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอพี่ภพทั้งๆที่เขาบอกว่าเป็นพี่ชายข้างบ้านและความทรงจำหรือทุกอย่างที่พี่ภพพูดมา...ผมจำไม่ได้ และรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนเส้นบางๆระหว่างความจริงและความทรงจำที่หายไป ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและอะไรคือสิ่งที่พี่ภพเชื่อว่าเป็นจริง

"พี่..." ผมเรียกเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสับสน "ผม...ผมจำไม่ได้" พี่ภพมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าแต่ก็ยังมีรอยยิ้มอ่อนๆส่งมาให้

 "ไม่เป็นไร...พี่เข้าใจ"แต่ในใจของผมกลับรู้สึกหนักอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไรและทำไมความทรงจำของผมถึงขาดหายไป...

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พ่อ

    "เฮ้ย ไอ้ภพ มึงกลับบ้านกับเด็กนั่นทุกวันเลยเหรอวะ"เสียงแซวของเพื่อนในห้องดังขึ้น ขณะที่ภพกำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงุนงง"ทำไมหรอ?" เพื่อนยักไหล่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะว่าต่อ "ก็น้องชายมึงก็ไม่ใช่... มึงลองพามันไปบ้านมึงดิ๊"ภพหลุดหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า "มึงอยากให้กนกไปบ้านกูจริงดิ เดี๋ยวพ่อกูก็อาละวาดบ้านแตกหรอก""แม่มึงก็เก่งเนอะ อยู่กับพ่อมึงได้""แล้วกูไม่เก่งหรอวะที่อยู่กับพ่อแม่ได้""ไอ้เหี้ย มึงเป็นลูกมึงก็ต้องอยู่กับพ่อแม่ป่ะวะ""มั้ง..."เสียงหัวเราะเบาๆ ปะปนกับการพูดคุยเล่นกันในห้องเรียนแต่ภพกลับไม่ได้สนใจนัก เขาเพียงแต่เงียบลงเมื่อนึกถึงกนกเด็กน้อยที่มักจะรอเขากลับจากโรงเรียนทุกวัน มันเป็นเรื่องจริง... เพราะเส้นทางที่เขากลับบ้านผ่านสำนักงานสาธารณสุขตำบลพอดี ทุกเย็นน้าเพชรจะพากนกมาทำงานด้วย และกนกก็มักจะมาเล่นอยู่ที่สวนข้างสำนักงานรอให้ภพพากลับบ้านด้วยกัน มันเป็นแบบนี้มาเกือบสองเดือนแล้ว ตั้งแต่ที่พวกเขารู้จักกัน"พี่ภพ..."กนกน้อยจับเสื้อภพเขย่าเบาๆ ขณะที่พวกเขากำ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   อดีต

    "เราจำตุ๊กตาตัวนี้ได้ไหม..."พี่ภพค่อยๆ หยิบตุ๊กตาตัวนั้นมาให้กนก ตุ๊กตาหมีสีเหลืองตัวเดิมผ้าขนหนูที่คลุมอยู่บนตักร่วงลงพื้น เขาหันหน้าหนีปิดตาแน่นไม่กล้ามองสิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัว มันเป็นอะไรที่เขาอธิบายไม่ได้แค่เห็นภาพนั้นกล้ามเนื้อก็เริ่มเกร็งหัวใจเต้นแรง และเริ่มหายใจหอบ“น้องกนก...” พี่ภพเรียกเบาๆ ด้วยน้ำเสียงกังวล กนกไม่ตอบจนพี่ภพรีบขึ้นไปบนเตียง โอบกอดน้องไว้แน่น“เราไม่ต้องกลัว...เราจะปลอดภัย”“ผะ...ผม...ผมไม่อยากเห็นมัน...” หอบถี่และหนักหน่วง สะท้อนถึงความหวาดหวั่นที่ก่อตัวขึ้นในอก มือที่กำเสื้อของพี่ภพไว้สั่นระริก ความอบอุ่นจากร่างกายของอีกฝ่ายเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยยึดเหนี่ยวเขาไว้ในตอนนี้“เราจะไม่เป็นอะไร...พี่จะอยู่ข้างเรา...จะไม่มีใครทำอะไรเรา” เสียงกระซิบของพี่ภพนุ่มนวลและอบอุ่น ราวกับสายลมอ่อนที่พัดผ่านใจ เขาเผลอหลับตาลงปล่อยให้ถ้อยคำเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาอย่างแผ่วเบา มันเหมือนมีมนต์สะกดค่อยๆปลดเปลื้องความตึงเครียดในอกไปทีละนิด ลมหายใจที่เ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความทรงจำที่ขาดหาย

    ผมพยายามไม่รอเขา...แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองนาฬิกาบนมือถือทุกๆ สิบนาที ไม่ดูหรอก...ก็ตั้งใจอ่านหนังสือนิยายอยู่นะ วันนี้เป็นวันพักผ่อนหลังสอบ ควรจะผ่อนคลายสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไม ตัวหนังสือที่เคยสนุกกลับกลายเป็นแค่ตัวอักษรที่เรียงกันไม่มีความหมาย หรือว่าผมกำลัง...ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ใจเต้นแรงเหมือนเด็กน้อยที่รอคอยของขวัญ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่พี่ภพ..."คนเก่ง...ได้ท็อปเลยดิ ยังอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้ก็วันศุกร์" มิวยืนอยู่หน้าประตู ยิ้มกว้างพร้อมกับชีทที่ถืออยู่ในมือผมพยักหน้าเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกผิดหวังไว้ในใจ "ทำไมวันนี้มาหาเรา...ลืมอะไรหรือเปล่า""ลืม...ลืมชีทที่เราให้แกวันติวไว้""อ้าว แล้วไม้โทรมาบอก" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ"ก็ห้องอยู่แค่ชั้นเดียว เดินมาหากันก็ได้" มิวยักไหล่แล้วก็ส่งสายตามองผมอย่างสนใจ"...ไม่ใช่หรอ หรือแกมีอะไร""มีอะไรล่ะ ไม่มี"มิวหัวเราะเบาๆ "แล้วนี่ไม่กลัวแล้วหรอ...พี่ชายข้างบ้านยังมาหาอยู่ไหม""ก็มา

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   รัก

    ช่วงสอบปลายภาค พี่ภพแวะมาหาเขาเกือบทุกวัน บางวันก็ขอแวะมานอนด้วยโดยอ้างว่า "หอพี่แอร์เสีย" หรือ "อยากติวหนังสือเป็นเพื่อน" แต่กนกรู้ดีว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเพราะสุดท้ายแล้วพี่ภพก็ไม่ได้แตะหนังสือสักเท่าไหร่ มีแต่เขาส่วนพี่ภพก็นอนกลิ้งเล่นอยู่ข้างๆแรกๆ กนกยังรู้สึกเกร็งเวลาถูกพี่ภพจ้องมอง ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือเขามักจะพบสายตาอบอุ่นคู่นั้นมองอยู่เสมอเป็นสายตาที่ทำให้ใจเต้นแปลกๆราวกับว่าพี่ภพเห็นบางสิ่งในตัวเขาที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป... ความรู้สึกพวกนั้นก็ค่อยๆจางหาย สายตาที่เคยหลบเลี่ยงหรืออาการประหม่าเมื่อต้องอยู่ใกล้พี่ภพเริ่มหายไปเช่นกันแทนที่ด้วย...ความสบายใจการมีพี่ภพอยู่ด้วยกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน ห้องที่เคยเงียบเหงาก็กลับมีเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของขนมที่พี่ภพชอบซื้อมาให้หัวใจที่เคยปิดกั้นเริ่มเปิดออกทีละนิด"ไงครับคนเก่ง วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม?"เสียงทุ้มที่ฟังแล้วอบอุ่นเสมอดังขึ้นจากด้านหลัง กนกเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถอนหายใจยาว

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เด็กชายคนนั้น

    ช่วงเวลาการสอบปลายภาคของปีหนึ่งผ่านไปอย่างแสนเหนื่อย เขาอดนอนมาหลายคืนเพื่ออ่านหนังสือทบทวนเนื้อหา ร่างกายอ่อนล้า แต่จิตใจกลับว้าวุ่นยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่รู้ว่าคนแปลกหน้าที่เข้ามาในชีวิตไม่ใช่ผี และยังเป็นคนรู้จักกับแม่ ความหนักอึ้งในใจกลับเบาลงและรู้สึกปลอดภัยขึ้นโดยไม่รู้ตัวแต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ พี่ภพยังมาหาเขาเป็นประจำบางวันมาตอนบ่าย พร้อมกับขนมของว่างวางไว้บนโต๊ะเรียนของเขาบางวันมาตอนเย็น ยืนรออยู่หน้าหอพักด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตากลับดูอ่อนโยน กนกพยายามปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับ เพราะกลิ่นหอมๆ นั้นทำให้ท้องร้องทุกทีและบางคืน...ชายคนนั้นมาเพียงเพื่อบอก "ฝันดีนะ"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมมืออุ่นที่ลูบเบาๆ บนศีรษะ กนกมักจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมถึงดูแลเขาขนาดนี้ แต่พอรู้ตัวอีกที หัวใจของเขาก็ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้วแต่ที่ทำให้สับสนยิ่งกว่าคือ บางคืน...เขากลับเข้ามากอด อ้อมแขนนั้นแน่นหนา แข

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พี่ภพ

    หลังจากที่กนกได้รู้ความจริงว่า คนที่เขาเจอในฝันที่เหมือนจริงมาตลอดคือ พี่ภพ พี่ชายข้างบ้านที่เขาลืมไปแล้ว ความทรงจำในวัยเด็กของเขาหายไปเหมือนกระดาษหน้าหนึ่งที่ถูกฉีกทิ้ง ทุกครั้งที่พยายามนึกย้อนก็มักจบลงด้วยความสับสนจนปวดหัวแต่ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ภพถึงโผล่มาหาเขาแบบนี้ หรือเหตุผลอะไรที่ทำให้พี่ภพก้าวเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง…แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสัมผัสได้คือ ความอบอุ่น เสมอเมื่ออยู่ในอ้อมกอดนั้นช่วงนี้ พี่ภพมาหาเขาทุกเย็น เอาของอร่อยมาให้ กนกก็มักจะรับมันมาด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นเคย หรือเพราะเขายังไม่เข้าใจสถานะของพวกเขาในตอนนี้"เราแข็งแรงดีไหม?""ครับ""ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วสินะ""ครับ""ขนมที่พี่ซื้อมาถูกใจไหม?""ครับ"กนกตอบรับสั้นๆ ทุกคำถามโดยแทบไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วคำพูดต่อมาของพี่ภพกลับทำให้เขาสะดุด"เรานี่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ"กนกเผลอชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะรีบตอบ "คะ...ครับ?"

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กอด

    มิวมาพักกับกนกได้ราวหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะต้องกลับไปอ่านหนังสือและติวให้เพื่อนกลุ่มอื่น คืนนี้จึงเป็นคืนแรกในรอบหลายวันที่กนกต้องนอนคนเดียวอีกครั้ง เขาปิดไฟและพลิกตัวซุกผ้าห่ม ตั้งใจจะข่มตานอน แต่แล้ว...แกร๊ก!เสียงของลูกบิดประตูที่หมุนเบาๆ ทำให้ร่างทั้งร่างแข็งค้างหัวใจเขาเต้นระรัวพร้อมลมหายใจที่ติดขัด ราวกับถูกพันธนาการด้วยความกลัวที่บีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออกใคร?น้ำตาค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับร่างกายที่เริ่มสั่นสะท้าน สติเริ่มตีกันยุ่งเหยิง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาใกล้ๆจนกระทั่ง...อ้อมแขนอบอุ่นโอบกอดเขาไว้แน่น"ไม่ต้องกลัวนะ..." เสียงทุ้มกระซิบข้างหูนั้นแผ่วเบาและมั่นคง"ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้ว" กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาจากเสื้อตัวหนาของชายแปลกหน้า อ้อมแขนที่กอดแน่นนั้นให้ความรู้สึกคุ้นเคยจนน่าแปลกใจ กนกหอบหายใจหนักขึ้นและร่างกายยังคงสั่นสะท้านแต่สัมผัสจากคนตรงหน้ากลับช่วยให้หัวใจที่เต้นกระหน่ำเริ่มสงบลงทีละนิด"พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษสำหรับท

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   สายตาของใครบางคน

    วันนี้กนกเริ่มรู้สึกว่า…บางที คนที่ตามเขาอาจไม่ใช่ผีอย่างที่เขาคิด สายตาของใครบางคนเหมือนเฝ้าจับจ้องเขาจากที่ไกลๆ มันไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกวูบไหวหรือภาพหลอนที่เกิดจากความหวาดระแวง แต่มันชัดเจนจนทำให้ขนที่ต้นคอลุกชัน"หืม…มีอะไรเหรอ?" พราวถามขึ้นระหว่างกำลังตักข้าวเข้าปากในโรงอาหารกนกขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า "เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก" พราวเหลือบตามองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อช่วงบ่าย ขณะเดินไปห้องแล็บ มิวเข้ามากระซิบที่ข้างหูพราว เสียงของเขาเบาราวกับไม่ต้องการให้ใครได้ยิน พราวชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าตกใจแต่ก็พยายามเก็บอาการแล้วทั้งสองค่อยๆลดความเร็วในการเดินราวกับกำลังจับตาดูอะไรบางอย่างตรงข้ามกับพวกเขา กนกกลับเดินนำหน้าอย่างสบายใจ หูฟังเสียบอยู่กับหู ขยับปากร้องเพลงเบาๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่และมันก็เป็นอย่างที่คิด...เมื่อมิวกับพราวถอยห่างออกมา ก็เห็นชายคนหนึ่งที่ไม่เคยพบมาก่อน สวมหมวกและผ้าปิดปาก เดินลอบเลียบเลาะตามกนกอย่างแนบเนียน ทว่า…มีบางอย่างผิดปกติวันนี้เขาใส่เสื้อแขนยาว

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ห้วงความฝัน

    ห้วงความฝันเด็กชายตัวเล็กพยายามยื้อแย่งตุ๊กตาในอ้อมปากของเจ้าหมาจอมดื้อ"อื้ออ... อย่าเอาของน้อง! แงงง!"เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น ดึงสุดแรงเกิด แต่แรงเด็กน้อยสู้หมาตัวโตไม่ไหว ตุ๊กตาหมีสีเหลืองยังคงถูกคาบแน่นในปากของมัน"แง... แงงง!" เสียงร้องดังลั่นไปทั่วสนามหญ้า จนเด็กอีกคนวิ่งเข้ามาพร้อมกับไม้ในมือ"ไอ้หมา! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!"...ฟาด!... ฟาด!เจ้าหมาสะดุ้งเฮือก ส่ายหัวไปมา ก่อนจะทนความเจ็บไม่ไหว ยอมคลายตุ๊กตาหมีสีเหลืองออกจากปาก"เย้ๆๆ!" เด็กน้อยกระโดดดีใจ เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้น พี่ชายใจดีที่ช่วยปกป้องเขาหยิบตุ๊กตาขึ้นมา"อันนี้ของเราสินะ แต่มันเปื้อนหมดเลย""ไม่เป็นไรครับ... หมูเหลืองไปซักได้"เด็กชายตัวน้อยยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย ก่อนภาพทุกอย่างจะเลือนหายไป…...วี๊วอ! วี๊วอ!เสียงไซเรนรถพยาบาลดังระงมไปทั่ว ความวุ่นวาย เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ เสียงวิทยุสื่อสารแทรกเป็นระยะมือของเขาเปื้อนเลือด...เลือด

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status