"ทำไมวันนี้โหดขนาดนี้...ใครจัดตารางเรียนว่ะ"
"นั่นนะสิ...จะแบ้ล้า นี่มันเด็กปีหนึ่งนะเว้ย" พราวสมทบอีกหนึ่งเสียง
"แล้วพวกแกจะบ่นเพื่อ...กินข้าว กลับบ้านแยกย้ายกัน"
"เย้ อาหารจะช่วยชีวิตพวกเรา ฉันอยากกินยำ อยากกินยำ" พราวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
"กนกกินอะไรดี?"
"อ่า...อะไรดีอ่าา อยากกินกระเพาะแล้วกัน กระเพาะเนื้อ"
"อืม งั้นไปร้านป้าข้างหอพราว แล้วค่อยเดินกลับมาหอในแล้วกัน"
"อืม..." กนกพยักหน้ารับ
ระหว่างทาง กนกก็เหม่อมองบรรยากาศโดยรอบ วันนี้รู้สึกเหนื่อยตั้งแต่เช้าที่ต้องวิ่งมาเรียน ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินแล้วมาเรียนแล็ปต่อ ปวดหัวจะแย่ คิดถึงหนังสือนิยายที่อยู่ที่หอจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่จะได้กลับไปอ่านต่อนะ... แต่ในตอนนี้ เขาต้องกินข้าวให้อิ่มก่อนแล้วค่อยกลับไปหาหนังสือเล่มโปรดที่รอเขาอยู่
"ป้าคะ หนูขอยำแซ่บๆหนึ่งจานค่ะ ขอเผ็ดๆเลยนะคะ" พราวสั่งอาหารด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยหิวกระหาย
"กินเผ็ดเดี๋ยวก็ปวดท้องอีก"
"ก็เหนื่อยอ่ะ อยากกินอะไรที่มันสดชื่น" กนกหันไปมองพราวด้วยความมั่นไส้แล้วก็ผลักหัวพราวไปเบาๆหนึ่งที
"ป้าครับ กระเพาะเนื้อสองจานด้วยครับ" มิวหันไปสั่งอาหารกับป้าเจ้าของร้าน
"มิวว...กนกมันทำร้ายพราวอีกแล้ว" แล้วพราวก็มาฟ้องอะไรสักอย่างกับนิว
"ก็แกทำตัวหน้าหมั่นไส้อ่ะ"
"ทำตรงไหน ตรงไหนๆๆ หาๆๆ"
"เดี๋ยวๆเหอะ" ก่อนที่เขาจะเอามือแกล้งผลักพราวอีกครั้ง
"หยุด! ทั้งสองคนนั้นแหละ เล่นเป็นเด็กเสียงดังอยู่ได้"
"ก็..."
"พราว!" มิวหันไปมองพราวพร้อมส่งสายตาดุกลับมา
"อ่าาา..."
ในที่สุด ทั้งสามคนก็หยุดเล่นกันและหันไปสนใจกับอาหารที่กำลังจะมา กนกหันไปมองรอบๆจนไปสะดุดกับสายตาของชายคนหนึ่งที่จ้องมองเขาอย่างสนใจและเมื่อเขาจ้องกลับไป ชายคนนั้นรีบหลบสายตาก่อนที่จะรีบกินอาหารในจานให้หมดอย่างรวดเร็วแล้วเดินออกจากร้านไป
กนกยังคงจ้องมองไปที่ชายคนนั้นเดินออกไปด้วยความสงสัย
" กนก ทำไมเจอคนรู้จักหรอ?"
"อ่า...ไม่นะ แค่คนหน้าคุ้นแหละ"
"พี่รหัสหรอหรือพี่เทคหรือเปล่า...ช่วงนี้เขาให้เราตามหาพี่เทคเองด้วยนะ"
"หรอ...ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่อง"
"ก็ตอนประชุมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แกอ่านนิยายอะไรของแกไงเลยไม่ได้ยิน"
"อืม...แล้วเขาให้หายังไงหรอ"
"เห็นเขาบอกว่า เป็นโค้ดของรหัสสายที่เราอยู่หรือไม่ถ้าพี่เทคอยากเทคคนไหนก็คงเอาขนมมาให้เรามั้ง"
"หรอออ.."
"ว้าว! ยำมาแล้ว...ว้าวว กระเพราก็มาแล้ว กินกันเถอะหิวจนไส้จะพันกันแระ"
กนกไม่ได้สนใจอะไรมากกับคำว่าพี่รหัสหรือพี่เทค เขาหันไปสนใจกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าแทน
วันนี้เขากลับมาถึงหอเกือบสี่ทุ่มแล้ว กว่าจะอาบน้ำ ทำการบ้าน อ่านหนังสือ ก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนแต่เมื่อวานเขาอ่านนิยายจนมาถึงตอนที่ตัวเอกเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันแล้วเขาไม่อยากพลาดเลยจึงพยายามที่จะอ่านมันให้ได้ แต่แล้ว...
เขาก็หลับไปในห้วงนิทรา
ในความฝัน เขาหลงมาในห้องแห่งความมืดที่หาทางออกไม่เจอแม้พยายามจะเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่ง...
โอ๊ย!
จมูกของเขาชนกับอะไรสักอย่าง เขารู้สึกเจ็บไม่มากแต่กลับได้กลิ่นหอมอ่อนๆแทรกเข้ามา เขาค่อยๆเอาจมูกเข้าไปใกล้ๆเพื่อดมกลิ่นนั้นให้ชัดขึ้น
แล้วเขาก็ได้ยินเสียงกระซิบข้างหู
"นี่...คิดจะหอมแก้มพี่เลยหรอ? คิดถึงพี่ขนาดนั้นเลยสิ"
เพราะความมืดทำให้เขามองไม่เห็นแต่เสียงที่ได้ยินกลับทำให้เขารีบถอยหลังด้วยความตกใจ ด้วยความที่มองไม่เห็นมือใหญ่ๆ ของชายคนนั้นก็คว้าเขาเข้ามาในอ้อมกอดที่อบอุ่น
"อย่าหนีไปไหน..." เสียงกระซิบนั้นดังขึ้นอีกครั้ง คำพูดนั้นทำให้กนกรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น เขาพยายามจะพูดอะไรแต่คำพูดก็ติดอยู่ในลำคอ
"ไม่ต้องกลัวนะ...พี่จะไม่ทำร้ายเธอ"
จากนั้น ทั้งสองคนก็...
วันนี้เขาตั้งนาฬิกาปลุก แล้วก็ตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยล้า มองไปรอบๆ ก็เพิ่งรู้สึกว่าเขานอนหลับที่โต๊ะทำการบ้าน พอมองดูเวลาก็เห็นว่าเพิ่งเจ็ดโมง เขาขยับตัว ยืดแขนไล่ความเมื่อยล้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ
แล้วมองตัวเองในกระจกและนึกถึงความฝันเมื่อคืน รวมถึงคืนก่อนหน้าที่เหมือนจะเป็นกึ่งฝันกึ่งตื่น
หรือเราอ่านนิยายมากเกินไปจนเก็บไปฝัน? เขาคิดในใจ
พอพยายามนึกถึงนิยายเรื่องไหนที่คล้ายกับเรื่องราวในความฝัน เขาก็นึกไม่ออก เลยคิดว่า ศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้จะกลับบ้านไปค้นหนังสือนิยายที่คุ้นๆ กับเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกสับสนในใจ
"สัปดาห์นี้เรากลับบ้านนะ"
หน้าบ้านหลังเล็กที่เงียบงัน มีเพียงเสียงสะอื้นปะปนกับเสียงลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ปล่อยให้มีเพียงสองร่างในอ้อมกอดกันแน่นอยู่กลางห้วงเวลาอันแสนเจ็บปวด ภพกอดร่างของกนกแน่น รู้สึกได้ถึงแรงสั่นจากการร้องไห้ที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่าย ๆ น้ำตาของคนน้องเปียกเสื้อเขาจนชื้น และแรงกอดของกนกก็เหมือนเป็นการยึดเหนี่ยวสุดท้ายไว้กับความจริง“ฮึก… พี่ภพ… มันเจ็บ…” เสียงสะอื้นแผ่วเบารอดออกจากริมฝีปากสั่น“ไม่เป็นไรแล้ว…” ภพกระซิบเบา ๆ มือใหญ่ลูบหลังคนน้องอย่างอ่อนโยน“พี่อยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้วนะ…”กนกส่ายหน้าเล็กน้อย ซุกหน้าลงที่ไหล่กว้าง เสียงร้องไห้เปลี่ยนเป็นสะอื้นอย่างทรมาน“มันย้อนกลับมา… ภาพพวกนั้น… ตอนเด็ก… ทำไมถึงลืมมันไปได้ ฮึก… ทำไมถึงเพิ่งจำได้ตอนนี้…”“ไม่ต้องโทษตัวเองนะคนเก่ง…” ภพก้มลงจูบผมนิ่ม ๆ ซับน้ำตาที่เปื้อนแก้มเนียนด้วยความอดทนที
วันนี้พี่ภพชวนผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้า อากาศสดชื่นกว่าทุกวัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้พี่ภพอยู่ข้าง ๆเราไปเดินชมสวนดอกไม้ด้วยกัน แสงแดดอ่อน ๆ ทาบลงบนทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่กำลังผลิบาน นี่เป็นครั้งแรกที่เราถ่ายรูปคู่กัน พี่ภพยิ้มให้กล้อง ผมเองก็ยิ้มตามไปโดยไม่รู้ตัวแปลกดีนะ… ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของพี่ภพเป็นเหมือนบ้านช่วงบ่าย พี่ภพบอกว่าจะพาผมไปในสถานที่แห่งหนึ่ง "สถานที่แห่งความทรงจำ"ผมไม่ได้ถามว่ามันคือที่ไหน เพราะสิ่งเดียวที่พี่ภพบอกผมก็คือ—"จับมือพี่ไว้แน่น ๆ นะ"และช่วงนี้ ผมกล้าจับมือพี่ภพแล้วด้วยเรานั่งรถมาด้วยกัน ข้างทางเริ่มคุ้นตาขึ้นเรื่อย ๆ ผมคิดว่าเรากำลังเดินทางกลับไปที่บ้านพี่ภพแต่พอรถเลี้ยวเข้าเส้นทางเล็ก ๆ ผมกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างประหลาดมันไม่ใช่บ้านของพี่ภพ แต่เป็นบ้านเก่าหลังนึงที่สภาพดี แต่ไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อก้าวลงจากรถ ผมรู้สึกเหมือนถูกสายลมที่มองไม่เห็นกระแทกเข้ามาเต็มแรงลมพัดเอื่อย
ในห้วงเวลาอบอุ่นช่วงปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว กนกอยู่บ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว พี่ภพเองก็ติดโปรเจกต์ปีสุดท้ายและกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ทำให้เราไม่ได้เจอกันบ่อยนัก มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ส่งหากันเป็นระยะจนกระทั่งวันนี้พี่ภพมาหาน้าแป้น และทักมาหาเขา"วันนี้มาหาพี่หน่อย อยู่เป็นเพื่อนตอนทำงานได้ไหม?"กนกอ่านข้อความแล้วบอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกกับพี่ภพ เมื่อเจอกัน เราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่พี่ภพจะขับรถพาเขาไปยังห้องพักบรรยากาศภายในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเพลงบรรเลงคลอแผ่วเบา อากาศเย็นกำลังดีทำให้รู้สึกสบายใจ กนกไม่ได้ถามว่าทำไมพี่ภพถึงพาเขามาที่ห้องพัก—เขาแค่ไว้ใจคอนโดของพี่ภพอยู่ไม่ไกลจากหอในของเขานัก เป็นห้องขนาดกว้าง แบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ พื้นที่ครัวเล็กๆ อยู่มุมหนึ่ง ห้องนอนเชื่อมกับพื้นที่ทำงาน เตียงกว้างและดูนุ่มมาก"เราจะนั่งอ่านหนังสือที่เตียงพี่ก็ได้นะ ถ้าง่วงก็นอนได้เลย""ครับ"กนกตอบรับโดยไม่ถามอะไร เขาหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาเปิด แต่ในใจก็แอบสงสัยว่าพี่ภพให้มาอยู่เป็นเพื่อน หรือแค่ต้
"อ้อมกอดของแม่"คืนนี้เงียบสงบกว่าทุกคืน ลมหายใจของกนกอุ่นขึ้นเมื่อนอนอยู่ข้างแม่ อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ราวกับได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ อีกครั้ง"วันนี้แม่ขอนอนกับลูกชายคนโปรดได้ไหมครับ?""ได้ครับแม่"กนกขยับตัวให้แม่เข้ามาใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พอเพชรล้มตัวลงนอน กนกก็รีบซุกตัวเข้าหาแม่ทันที โอบกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเพชรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบผมลูกชายอย่างอ่อนโยน "เป็นยังไงบ้างลูก ปีแรกในมหาวิทยาลัย เหนื่อยไหม?""เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกมากด้วย""เรียนยากไหม?""ก็ยากนิดหน่อยครับ แต่ยังดีที่มีมิวช่วยติวให้ มิวเก่งมากเลยครับแม่""ดีจังเลย แม่จำได้ว่าลูกเล่าเรื่องมิวให้ฟังบ่อยๆ แล้วหนูพราวล่ะ เป็นไงบ้าง?""พราวก็ยังตลกเหมือนเดิมเลยครับแม่ ถ้าผมเครียดๆ เบื่อๆ พราวนี่แหละที่ทำให้ผมยิ้มได้""ดีแล้วล่ะลูก มีเพื่อนดีก็ช่วยกันประคองไปนะ มีอะไรให้แม่ช่วยก็บอกได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว"กนกพยักหน้ารับ แล้วเงียบไปครู่หนึ่งเพชรมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจ "แล้วพี่ภ
หลังจากนั้นพบรักก็พากนกกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่น แม้จะมีความหวาดกลัวและกังวลบางอย่างยังค้างอยู่ในใจ แต่การมีพี่ภพอยู่เคียงข้าง คอยโอบกอด คอยปลอบโยน ทำให้เขารู้สึกว่า… ไม่ได้เผชิญทุกอย่างเพียงลำพังและยิ่งรู้สึก… ชอบพี่ภพมากขึ้นทุกวันวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังไปเยอะ ทั้งร่างกายและหัวใจเลยเหนื่อยล้าเต็มที กนกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมา หวังว่าจะอ่านเล่นสักหน่อยก่อนจะหลับไปแต่ก่อนที่เปลือกตาจะหนักอึ้ง มือถือก็สั่นเบา ๆ แจ้งเตือนข้อความจาก LINEพี่ภพ: “นอนหรือยังครับ”กนก: “กนกจะอ่านหนังสือนิยายสักหน่อย แล้วก็คงจะนอนแล้วครับ”พี่ภพ: “นอนไวจัง เพิ่งสามทุ่มเอง”กนกหลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับกนก: “พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าครับ”พี่ภพ: “พี่เหนื่อยนิดหน่อย พอดีส่งงานให้ลูกค้าอยู่ กำลังปั่นงานเลย”กนก: “วันนี้พี่ภพกลับไปในเมืองหรอครับ”
เพชรมองหน้าลูกชายตัวน้อยที่กำลังยิ้มกับโทรศัพท์ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแสดงออกมา“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันครับ คุณกนกของแม่?”กนกสะดุ้งเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม “ยิ้มอะไรกันล่ะครับ แม่คิดไปเอง กนกไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”เพชรหัวเราะเบา ๆ “ก็เห็นยิ้มกับโทรศัพท์ไง”เด็กหนุ่มเม้มปาก หันไปมองหน้าจออีกครั้ง ก่อนจะยอมรับเสียงเบา “ก็...พี่ภพ LINE มาบอกนะครับว่าอยู่บ้านตัวเองแล้ว”“อ้อ”“แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กนกก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน” เจ้าตัวพูดต่อ “แต่ว่าพี่เขาบอกว่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราตรงนี้นี่เอง”เพชรพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตายังคงมองสำรวจลูกชายของตัวเอง“วันนี้เขาจะมาหาหรือเปล่า?”“พี่ภพเหรอครับ?”“จ้ะ”“เห็นบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวสวนมะพร้าวเล็ก ๆ”เพชรเลิกคิ้วเล็กน้อย “สวนมะพร้าว?”กนกพยักหน