ริมฝีปากได้รูปของเขากดจูบลงมาที่ริมฝีปากบางของเธออย่างแนบแน่น ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานพรั่งพรูออกมาในสัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา
อันนา ตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ เธอรู้ดีว่าเธอควรผลักเขาออกไป ควรบอกให้เขาหยุด แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟังอีกแล้ว
หัวใจเต้นแรงเสียจนเธอมั่นใจว่าพีทต้องได้ยิน มือเย็นเฉียบของเธอกำเข้าหากันแน่น รู้สึกถึงเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตามฝ่ามือ
เขารังแกเธออีกครั้งแล้วหรือนี่? ทำไมเขาถึงชอบทำแบบนี้กับเธอ? หรือว่าเธอเป็นเพียงของเล่นสำหรับเขา... คำถามนั้นติดค้างอยู่ในใจ
แต่ริมฝีปากกลับหนักอึ้งเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกมา และมันถูกปิดอยู่ด้วยปากของชายหนุ่ม
ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะกับริมฝีปากของเธอ ลิ้นที่อุ่นๆ ของเขาไต่ไล่หาลิ้นนุ่มของหญิงสาว ดูดดื่มริมฝีปากบางอิ่มเหมือนกลัวว่ามันจะหลุดลอยไป
จูบที่แสนเสียวซ่านนี้ทำให้ อันนา ลืมตัวไปชั่วขณะ เธอเริ่มตอบสนองการจูบของเขา เริ่มเรียนรู้การตอบสนองต่อการรุกราน จากการบังคับของเขาที่ค่อยๆ สอดใส่ปลายลิ้นเข้ามาภายในเพื่อความหาลิ้นอันอ่อนนุ่มของเธอและดูดดื่มมันให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่อารมณ์ของเขาจะพอใจ
เธอเกลียดตัวเองที่เธอไม่ได้ปฏิเสธการจูบของเขาอีกต่อไป
เหมือนใจเธออยากผลักไสตัวเขาออกไป แต่อารมณ์ตรงกันข้ามกลับอยากสัมผัสตัวเขามากกว่านี้ นี่เธอกำลังหลงเข้าไปในเสนห์ของเขาแบบไม่ได้คิดจะถอนตัวเลยหรือ หญิงสาวถามตัวเองอยู่ในใจ
เขาจูบเธอเนิ่นนาน ให้สมกับอารมณ์ที่พุ่งพล่านของผู้ชายที่เกินต้านทาน มือหนาอุ่นกำลังซุกซน มันกำลังเริ่มไต่ลูบคลำมายังเนินเนื้อนุ่มชูชันที่อยู่ภายใต้เสื้อนักศึกษาและอยู่ภายใต้เสื้อในลูกไม้ตัวจิ๋ว ที่แสนจะยั่วยวนเขาเป็นยิ่งนัก เขาค่อยๆ สอดมือเข้าไปยังเนินเนื้อนั้นและเริ่มบีบเค้นเต้าชูชันอย่างเบามือ อารมณ์ของชายหนุ่มโลดแล่น
"อ่า…..อืม….." เขาครางออกมาอย่างมีความสุข และเริ่มรุกเร้าเธอมากขึ้น
ชายหนุ่มเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเธอ และมือใหญ่หนาเริ่มสำรวจลึกเข้าไปยังเนินเนื้อทั้งสองข้างอย่างจงใจ จนเจอเข้ากับปลายปุ่มของเต้าอันเต่งตึงที่ชูชันพร้อมรับกับมือหนาอันร้อนผ่าวของเขา มันช่างนุ่มและน่าสัมผัสอะไรอย่างนี้ มือเขาเริ่มเคล้าคลึงและบดขยี้แบบเบามือ ตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่สามารถต้านทานอารมณ์ความต้องการอันร้อนแรงนี้ได้แล้ว
อันนา รู้สึกสั่นสะท้านกับการสัมผัสของเขา เธอรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ผ่านมือของพีทไปยังเนินเนื้อและปลายปทุมที่มือใหญ่ของเขากำลังเคล้าคลึง เธอควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เลย อารมณ์เธอตอนนี้โดนชายหนุ่มชักนำไปจนเธอลืมว่าวันนี้เธอมีนัดกับใครไว้
ชายหนุ่มได้พาเธอดำดิ่งไปกับความปรารถนาที่เร่าร้อนของชายหญิงจนยากที่จะถอนตัวได้เลย แต่ละจุดของร่างกายที่เขาสัมผัสเธอทำให้เธออ่อนระทวยและยากจะปฏิเสธเขาได้เลย
และพีทเองก็เตลิดไปกับอารมณ์อันเร่าร้อนและพลุ่งพล่านของเขา ที่เจอเข้ากับความงดงามของเรือนร่างที่อยู่ตรงหน้า
เขา กระชับร่างเธอให้แน่นขึ้น รู้สึกถึงความอ่อนนุ่มที่ชวนให้เขาเผลอหลงไปในอารมณ์ มันร้อนรุ่มจนเขาแทบจะกลั้นหายใจไม่ทัน
เขายังคงจูบเธอไม่ปล่อย ยังไม่ยอมละความปรารถนาที่จะลิ้มลองริมฝีปากของเธอให้นานที่สุด
"อื่อ…." เธอเผลอครางเบาๆ อ่อนแรงไปกับสัมผัสของชายหนุ่ม และเริ่มคล้อยตามอารมณ์ของเขาที่ยัดเยียดเข้ามาให้เธอมากยิ่งขึ้น
เสียงหายใจที่กระเส่า เสียวซ่าน และเสียงครางเบาๆของหญิงสาวยิ่งทำให้อารมณ์ของเขากระเจิงควบคุมไม่อยู่
จากนั้นมือหนาใหญ่ของเขา ก็ผละจากการสำรวจเนินอกเต่งตึง ลากเลื่อนต่ำลงไปสำรวจความงามที่อยู่ภายใต้กระโปรงนักศึกษาตัวสั้นที่ตอนนี้ถูกเขาถลกขึ้นมาสูงขึ้นจนเกือบจะถึงกางเกงในตัวจิ๋วของเธอ
เขาเริ่มไล่มือเคล้าคลึงไปตามเนื้อนุ่มของต้นขาเรียวงามของหญิงสาว
ผิวกายของเธอร้อนระอุขึ้นมา มือใหญ่ค่อยๆไล่เล้าโลมและบีบเค้นขึ้นมาเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงกางเกงในตัวจิ๋ว เพื่อค้นหาความยั่วยวนให้ทั่วร่างระหงสมส่วนของหญิงสาวประหนึ่งเขานั้นคือเจ้าของร่างกายเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
อันนา ไม่สามารถบอกให้เขาหยุดได้เลย เพราะริมฝีปากของเธอก็ยังถูกเขาดูดดึงอยู่อย่างไม่ยอมปล่อย ส่วนมืออันซุกซนของเขาก็กำลังเล่นอยู่กับช่วงล่างอันน่าหลงใหลของเธอ
เธอยอมรับว่าเธออายมาก อายที่ตัวเธอทำไมต้องตอบสนองเขาและไม่พยายามผลักใสเขาออกไปสักนิด เธอพยายามปฏิเสธว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา…แต่…..!!!!
ทำไมเธอต้องอ่อนไหวไปกับสัมผัสอันเร่าร้อนนี้ทุกครั้งที่เขามอบให้เธอ ทำไมเธอถึงยอมให้เขานำพาอารมณ์ปรารถนาอย่างนี้นะ
ทันใดนั้น……
เสียงโทรศัพท์ของ อันนา ดังขึ้นมาขัดจังหวะอารมณ์อันพุ่งพล่านของทั้งสองพอดี….
ชายหนุ่มเองยังไม่อยากหยุดอารมณ์และจูบของเขา เขาอยากสัมผัสเธอแบบนี้ไปนานๆ แต่เสียงโทรศัพท์นั้นกลับทำให้เขาต้องชะงักและหยุดความฟุ้งซ่านของตัวเขาเอง
อันนา ได้สติจากเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
เธอรีบผลักตัว พีท ออกไป และรีบไปรับโทรศัพท์โดยไม่คิดจะมองหน้าเขา
"ฮัล…..ฮัลโหล?" อันนาพูดเสียงตะกุกตะกัก ขณะที่ยังรู้สึกถึงความร้อนจากการสัมผัสเมื่อครู่อยู่ในร่างกาย
"อันนา อยู่ที่ไหน?" เสียงโชติถามทันทีอย่างร้อนรน "รีบมาที่ร้านชาบูเลยนะ โชติมาถึงแล้ว ยังไม่เห็นใครมาเลย"
หัวใจของเธอเต้นแรง เธอกลืนคำตอบเอาไว้ก่อนจะรีบตอบกลับไปว่า
"เดี๋ยวไปนะโชติ แล้วเจอกันนะ ฉันเพิ่งทำโครงการวิจัยเสร็จพอดี" แล้วก็กดวางสายทันที
พีท ยังคงจ้องมองเธอ ดวงตาคมฉายแววจริงจัง เดินเข้ามาหาหญิงสาวอีกครั้ง “เธออยากให้ฉันทำต่อหรือเปล่า…ยังมีเวลาอีกเยอะนะ?” เขายิ้มและทำสายตากรุ้มกริ่ม
อันนา หน้าแดงเป็นลูกตำลึง เธอจัดเสื้อและกระโปรงนักศึกษาให้เข้าที่ ทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ตอนนี้ด้วยนะ เธอรู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่อาจห้ามเขาได้ แต่กลับปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสของเขาแทน
“…นายมันอีตาคนบ้า” เธอพึมพำเสียงแผ่ว รู้สึกว่าหน้าเธอร้อนและแดงถึงใบหู
พีท ยิ้มมุมปาก หน้าตาหล่อเหลาคมเข้มของเขาก้มลงมาใกล้เธออีกครั้ง ก่อนกระซิบเสียงพร่า “เหมือนเธอจะชอบคนบ้าอย่างฉันนะ และชอบให้คนบ้ารังแกนะ?” เขามองสำรวจร่างกายสมส่วนที่เขาได้มีโอกาสลิ้มลองความหอมหวานและอ่อนนุ่ม แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่อารมณ์เขากลับดิ่งลงไปและไม่อยากลุกขึ้นมาจากอารมณ์วาบหวามยั่วยวนใจนั้น
ทำไมเขาถึงมีความต้องการแบบนี้กับผู้หญิงคนนี้คนเดียวนะ หรือเขาจะรู้สึกว่าเขาเริ่มมี……ความรัก…..เข้าแล้วใช่ไหม?
ความรักงั้นเหรอ? คำนี้มันฟังดูไกลตัวเกินไปสำหรับเขา มันเป็นสิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง—แต่ตอนนี้ หัวใจของเขากลับเต้นแรงขึ้นทุกครั้งที่เห็นเธอ
ให้ตายสิ...เขาเสพติดมันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ชายหนุ่ม กัดฟันแน่น พยายามควบคุมตัวเอง ไม่ให้หันไปคว้าตัวเธอเข้ามาใกล้อีก และไม่ให้เผลอทำตามสัญชาตญาณที่บ้าคลั่งในใจ
เขาแทบคลั่งจริง ๆ หัวใจเตลิดไปไกลกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว
เขาคิดถึงห้องเล็ก ๆ ของเธอ เตียงนอนธรรมดาแต่งแบบน่ารัก หมอนที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นเอกลักษณ์ของเธอ ผ้าห่มที่ไม่ได้หรูหราอะไรแต่กลับให้ความอบอุ่นอย่างน่าประหลาด บรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นกันเองราวกับกักเก็บไออุ่นของเธอไว้ในทุกมุมห้อง
เทียบไม่ได้เลยกับห้องของเขา—ห้องที่โอ่อ่าใหญ่โต กว้างขวาง และตกแต่งอย่างหรูหรา เตียงขนาดคิงไซส์ที่ปูด้วยผ้าปูเตียงเนื้อนุ่มที่สุด โคมไฟระย้าที่ทอดเงาอ่อนโยนลงบนผนังลายหินอ่อน และผ้าม่านเนื้อดีที่พลิ้วไหวไปตามสายลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ทุกอย่างในห้องของเขาถูกจัดวางอย่างสมบูรณ์แบบ สะท้อนถึงฐานะและรสนิยมของเจ้าของได้อย่างไร้ที่ติ
แต่ทำไมกัน… ทำไมเขาถึงไม่อยากกลับไปที่ห้องของตัวเอง?
แต่เขากลับอยากไปที่ห้องของ อันนา… เตียงของหญิงสาวทำให้เขาติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น
เขาอยากกลับไปที่ห้องของเธออีกครั้ง อยากสัมผัสบรรยากาศแบบนั้นอีก
มันน่าหงุดหงิดที่เขาไม่สามารถบังคับตัวเองได้เลย…ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ตลอดเวลา มันร้อนรุ่มมากจริงๆ ให้ตายสิ
ทำไมเขาถึงต้องมาใส่ใจหญิงสาวคนนี้ ผู้หญิงสวยๆ ที่พร้อมจะไปกับเขาเพราะฐานะและหน้าของเขามีตั้งมากมาย ทำไมเขาไม่สนใจใครเลย เขาครุ่นคิดในใจ "ทำไมกัน?"
เขาถามตัวเองเสียงต่ำ ในหัวมีแค่คำถามเดียว "ทำไมเธอถึงมีผลกับฉันขนาดนี้?"
อันนา หลบตา รีบเบือนหน้าหนี มือน้อยๆ ของเธอสั่นเทา รีบติดกระดุมเสื้อที่ถูกชายหนุ่มปลดออกให้เรียบร้อย ราวกับต้องการลบหลักฐานของเหตุการณ์อันเร่าร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับพีท
จากนั้นเธอรีบควานหาแว่นตาที่ พีท จงใจถอดมาใส่ แล้วรีบทำหน้าให้เป็นปกติที่สุด เธอพยายามข่มความรู้สึกอายและพร้อมกันนั้นอารมณ์พลุ่งพล่านที่ไม่ได้ปฏิเสธเขาเลย
นั่นยิ่งทำให้เธอหน้าแดงเป็นทวีคูณ
พีท จ้องมองอยู่ที่ใบหน้าอันแดงระเรื่องของอันนา
ริมฝีปากของเขายังรู้สึกถึงสัมผัสของเธอ มันยังอุ่น...ยังติดตรึงอยู่ในความรู้สึกของเขาไม่จางหาย
"รีบไปกันเถอะ โชติเค้ารอนานแล้ว"
เสียงของอันนา สั่นไหว ราวกับพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ
แต่น้ำเสียงนั้นกลับสะกิดให้ พีท ตื่นจากภวังค์
เขากระพริบตา ไล่ความคิดวุ่นวายในหัวออกไป ก่อนจะมองใบหน้าของหญิงสาวที่ยังแดงก่ำ ดวงตาของเธอหลุบต่ำ เหมือนพยายามเลี่ยงสายตาของเขา
เธอรีบตัดบท ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องทดลองทันที
ชายหนุ่ม มองตามแผ่นหลังของเธอที่รีบก้าวออกไปด้วยความร้อนรน ราวกับต้องการหนีอะไรบางอย่าง
เขาแค่นยิ้ม พลางส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะเดินตามเธอไป
"ยังไงเธอก็ต้องไปกับฉันอยู่แล้ว ไม่ต้องรีบเดินหนีไปไหนหรอกน่า" เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ เมื่อเริ่มควบคุมอารมณ์ที่ครุกรุ่นด้วยแรงปรารถนาให้เบาบางลง
อันนา เม้มริมฝีปากแน่น ไม่ตอบโต้อะไร รีบสาวเท้าลงบันไดไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว หวังเพียงว่าอากาศข้างนอกจะช่วยให้เธอสงบลงบ้าง
ชายหนุ่มเดินตามเธอมาอย่างไม่รีบร้อน
เพื่อนนักศึกษาหญิงหลายคนในตึก เมื่อเห็น พีท เดินตาม อันนา ลงมาที่ด้านล่างของตึก เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทันที
"กรี๊ดดด! พีท เดือนมหาวิทยาลัย เค้ามาอีกแล้ว!เธอ"
"ให้ตายสิ เข้ามาคณะเราบ่อยเกินไปแล้วนะ!"
"มีอะไรที่เขาติดใจอยู่ที่นี่แน่นอน!"
กลุ่มนักศึกษาพากันซุบซิบ บ้างแอบหัวเราะคิกคักมองไปที่ อันนา เป็นเชิงสงสัย
"หรือว่าเขามาตามจีบ อันนา จริง ๆ หรือแค่มาทำโครงการวิจัยด้วยกัน?" ใครบางคนพูดขึ้น
"เป็นไปได้ไหมว่าเขาสองคนกำลังคบกัน?" อีกเสียงเสริม
อันนา ได้ยินทุกคำพูดชัดเจน เธอเม้มปากแน่น หน้าแดงและร้อนผ่าว เธอไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของใครๆ และไม่ต้องการทำตัวเด่นเพื่อให้ใครสนใจเธอ
เธอแค่อยากเป็นคนธรรมดา ใช้ชีวิตเรียบง่าย ตั้งใจเรียนให้จบ หางานดี ๆ ทำเพื่อดูแลพ่อแม่และน้องชาย เธอมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน
แต่ พีท…ชายหนุ่มคนนี้กำลังเข้ามาทำให้หัวใจของเธอวุ่นวายจนเธอสับสน
ขณะที่ พีท กลับทำตัวสบาย ๆ ราวกับเสียงกรี๊ดและสายตานับสิบที่จับจ้องมานั้นเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่าน
"ฉันจะต้องตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนเพราะนายคนเดียวเลย!"
อันนา หันมากระซิบเสียงเครียด ขณะที่รอบตัวพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงซุบซิบและสายตาอยากรู้อยากเห็น
เพราะ พีท เด่นมาก ในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาก็เป็นจุดสนใจเสมอ ทั้งรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลามีเสน่ห์แบบกวน ๆ ฐานะทางบ้านที่ร่ำรวย และท่าทางที่ดูเจ้าเล่ห์ปนมั่นใจ เขาเพอร์เฟคทุกอย่าง เป็นใครก็อยากที่จะเข้าหาเพื่อให้ได้ใกล้ชิดชายหนุ่ม
และทุกคนรู้จักเขา...นั่นทำให้ อันนา พลอยตกเป็นเป้าสายตาไปโดยปริยาย
พีท ยักไหล่ ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอแม้แต่น้อย "ทำไมล่ะ? ฉันชอบนะ พวกเขาจะได้มีเรื่องให้ได้คุยกันไง ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธสักหน่อยว่าฉันมาหาเธอ มาเพื่อทำงานกับเธอให้เสร็จ!!"
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ พลางโน้มตัวเข้ามาใกล้จนเธอเผลอกลั้นหายใจ "หรือจริง ๆ แล้ว เธอกลัวอะไรอยู่กันแน่? กลัวฉัน... หรือกลัวความรู้สึกของตัวเอง?"
อันนา เบิกตากว้าง หัวใจกระตุกวูบเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
"บ้าไปแล้ว!" เธอรีบหันหน้าหนี แต่แก้มกลับร้อนผ่าวขึ้นมาจนน่าหงุดหงิด
ชายหนุ่ม ยิ้มอย่างพอใจ
"โอเค ไปกันเถอะ เราต้องไปกินชาบูตามที่เธอกับฉันนัดกันไว้กันนะ จำได้ไหม?" เขาพูดเสียงดังให้ทุกคนได้ยินก่อนจะเดินนำไปที่มอเตอร์ไซค์
หญิงสาวแทบจะมุดลงไปในพื้นดินเพื่อกลบความอายที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกจากอก
เธอเหลือบมองรอบตัว เห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นจากคนอื่น ๆ ที่แอบฟังบทสนทนาของพวกเขา
ทุกคำพูดของ พีท เหมือนจะตอกย้ำให้ทุกคนคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันจริง ๆ
"นายพูดบ้าอะไรของนาย!" เธอกระซิบเสียงดุ พยายามไม่ให้ใครได้ยินมากนัก
แต่ชายหนุ่มกลับยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับอยู่บนใบหน้า ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอราวกับกำลังสนุกที่ได้เห็นเธอเขินอาย
ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้ ทำให้เธอถอยหลังไปอีกก้าว "หรือว่าเธออยากให้ฉันพูดให้ชัดเจนกว่านี้?"
เธอทำตาโต รีบส่ายหน้า หัวใจเต้นโครมครามจนแทบระเบิด บ้าจริง! นี่เขาจะทำให้เธออับอายไปถึงไหน!
เธอโพล่งออกมาโดยไม่คิด "ฉันจะหาทางไปร้านเอง นายไม่ต้องไปส่งเลย!"
พีท ยิ้มมุมปากราวกับคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าเธอจะพูดแบบนี้ เขายืนกอดอก มองเธอด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ปนขี้เล่น ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้
"อันนา…" เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจ
"ถ้าเธอไม่ไปกับฉัน นายหน้าตี๋สงสัยแน่ เพราะเขารู้ว่าวันนี้เธอมาทำโครงการวิจัยกับฉัน และที่สำคัญ... เธอไม่มีรถไปเองอยู่แล้ว"
หญิงสาว เม้มริมฝีปากแน่น หัวใจเต้นระรัวกับสถานการณ์ตรงหน้า เธอเกลียดนักเวลาที่เขาพูดเหมือนรู้ทันเธอทุกอย่าง และที่แย่กว่านั้นคือ… เขาพูดถูกทุกคำ
เขาตัดบท ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเธอต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว "หรือว่า...เธออยากอธิบายเองว่าทำไมถึงมาสาย?"
"นี่นาย…." อันนา พูดเสียงหลง ความจริงแล้วเธอไม่มีทางเลือกอื่น เพราะปกติถ้าจะไปทานข้าวด้วยกัน โชติจะต้องมารับเธอเสมอ แต่คราวนี้โชติคิดว่าเธอคงไปกับพีท จึงไม่ได้มารับ
หญิงสาวจ้องเขากลับ ก่อนจะเบือนหน้าหนี หงุดหงิดตัวเองที่เผลอเล่นบทนี้ ทั้งที่รู้ดีว่าท้ายที่สุดแล้วก็ต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์เขาอยู่ดี
ชายหนุ่มอมยิ้ม พาเธอเดินไปจนถึงที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ เขาหยิบกุญแจมอเตอร์ไซค์คู่ใจขึ้นมา ก่อนจะสตาร์ทรถแล้วหันไปมองเธอที่ยืนกอดอก ทำหน้าเหมือนไม่อยากยุ่งกับเขา
"ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวนายหน้าตี๋จะรอนาน" เขาทำเสียงทะเล้น เอ่ยพลางตบเบาะเบา ๆ เหมือนกับจะทำให้บรรยากาศของเขาและเธอดูผ่อนคลาย
อันนา สูดลมหายใจลึก ก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายอย่างเสียไม่ได้ มือเธอจับเบา ๆ ที่ข้างเสื้อช็อปวิศวะของพีท แทนที่จะโอบรอบเอวเขา
พีท รู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบานั้น เขาหันไปมองเธอผ่านกระจกมองหลัง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก
"ทำไมวันนี้จับแค่นี้ล่ะ? กลัวอะไรอยู่เหรอ?"
"เปล่าสักหน่อย!" อันนา รีบเบี่ยงหน้าหนี ไม่อยากให้เขาเห็นว่าตัวเองกำลังหน้าแดง
ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก แต่ไม่พูดอะไรเพิ่ม เพียงแค่เร่งเครื่องออกไป โดยมีลมเย็นปะทะใบหน้า—ทว่าความร้อนที่ค้างคาในใจทั้งสองยังไม่มีทีท่าว่าจะจา
เมื่อทั้งสองมาถึงร้านชาบูหน้ามหาวิทยาลัย สถานที่นัดหมายกับ โชติพีท ก้าวเข้ามาในร้านชาบูพร้อมด้วยร่างบางของอันนาท่วงท่าอันสง่างาม และร่างสูงโปร่งของเขา ดึงดูดทุกสายตาราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่อาจต้านทานได้ใบหน้าคมคายรับกับหน้าคมเข้มสมส่วน ดวงตาคมลึกเปล่งประกายความมั่นใจ เพียงแค่เขาก้าวเท้าเข้ามา บรรยากาศในร้านก็ดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เสียงพูดคุยที่เคยจอแจพลันแผ่วลงแทบจะพร้อมกันอย่างน่าประหลาดสาว ๆ หลายคนเหลือบมองเขาด้วยแววตาตื่นเต้น บางคนกระซิบกระซาบกับเพื่อนราวกับไม่อยากเชื่อว่าได้เจอเดือนมหาวิทยาลัยคนหล่อ ในสถานที่แห่งนี้จริง ๆ พนักงานต้อนรับถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบส่งยิ้มต้อนรับพร้อมนำทางไปยังโต๊ะชายหนุ่มไม่ได้สนใจสายตาที่จับจ้องมาที่ตน เขาเดินไปอย่างมั่นคง ทุกจังหวะก้าวเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับไม่เคยหวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้าง ถ้าใครเห็นคงต้องบอกว่า นายคนนี้….ขี้เก๊กเป็นที่สุดเขารู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากสิ่งที่เขาคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง กลิ่นน้ำซุปร้อน ๆ ลอยคลุ้ง เสียงพูดคุยจอแจของกลุ่มนักศึกษาดังปะปนกับเสียงน้ำเดือดปุด ๆ และเสียงตะเกียบกระทบหม้อ ทุกอย่างดูเป็นกันเ
ใกล้สามทุ่ม…..อันนามองนาฬิกาข้อมือก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ "คงต้องกลับหอพักแล้ว..." เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองโชติและพี่หมอธีร์ด้วยสายตาคาดหวัง "พี่หมอกับโชติ ไปส่งอันนาหน่อยได้ไหม?"โชติ ยิ้มแหย ๆ ก่อนจะส่ายหน้า "เสียดายจังอันนา วันนี้เรากับพี่หมอมีนัดแล้วด้วยสิ"พี่หมอธีร์ เสริมขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ"ใช่ พี่จองโต๊ะที่คาเฟ่อีกแห่งไว้แล้ว กะว่าจะไปฉลองวันเกิดกันสองคนต่อนะ วันนี้ให้หนุ่มหล่อ คุณพีท ไปส่งนะ พี่ว่าเขาไม่น่าจะติดอะไรนะ" หมอธีร์พูดให้เธอรู้สึกคลายกังวลอันนา ชะงักเล็กน้อย หัวใจหล่นวูบอย่างช่วยไม่ได้ นั่นหมายความว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องให้ พีท ไปส่งอีกแล้วงั้นเหรอ?เธอหันไปมอง พีท ที่นั่งติดกันเขาได้ยินที่ทุกคนพูด รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง"ยินดีครับ" พีท เอ่ยรับคำของพี่หมอธีร์อย่างสั้นๆ เขาทำหน้าอมยิ้ม ใบหน้าอันหล่อเหลามีความเจ้าเล่ห์บางอย่างความทรงจำครั้งก่อนยังคงติดอยู่ในหัว...การสัมผัสที่ร้อนระอุจนผิวเนื้อเธอขนลุกชูชัน ความใกล้ชิดที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวยังไม่จางหายไปเธอกำมือแน่น พยายามกลั้นความรู้สึกกลัวที่ก่อตัวขึ้นมาในใจ"
กวินและกลุ่มเพื่อนมาถึงผับแล้ว ค่ำคืนย่างกรายเข้ามาอย่างสมบูรณ์ แสงไฟนีออนกระพริบระยิบระยับจากผับชื่อดังกลางเมือง เสียงเพลงจังหวะหนักดังกระหึ่มตั้งแต่หน้าประตู กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปะปนกับน้ำหอมราคาแพงลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณที่นี่เป็นจุดนัดหมายของพวกเขาในคืนนี้ พวกเขามีแผนจะมาสนุก ดื่ม และแน่นอน—ใช้เวลากับสาวๆเมื่อ กวิน ก้าวเท้าเข้าไปในโซนวีไอพี ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงที่กลุ่มสาวๆ โต๊ะประจำของพวกเขาและคนที่เขาต้องเจอคือ ยี่หวาเธอสวมเดรสสีแดงรัดรูปที่เปิดไหล่ข้างหนึ่ง เผยผิวเนียนละเอียดจนเป็นประกายภายใต้แสงไฟ กระโปรงของเธอสั้นจนแทบปิดต้นขาไม่มิด พร้อมกับส้นสูงคู่สวยที่ช่วยเสริมให้ขาเรียวยาวของเธอดูโดดเด่นขึ้นเธอนั่งไขว่ห้างบนโซฟา ท่าทางเป็นธรรมชาติ แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนข้างๆ เธอมีแก้วเครื่องดื่มอยู่ในมือ นิ้วเรียวยาวจับมันไว้เบาๆ ราวกับกำลังเล่นสนุกกับมันมากกว่าจะแค่ถือไว้เฉยๆเมื่อเธอเห็นกวินเดินเข้ามา รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความท้าทายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก"มาแล้วเหรอคะกวิน?" เสียงของเธอดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังระรัวยี่หวา คบกับ กวิน ส่วนหนึ่งมันคือความสะดวกส
"ขึ้นไปกันเถอะ" เขาเอ่ยเสียงแหบต่ำ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถยี่หวา ก้าวลงมาเช่นกัน ส้นสูงของเธอกระทบพื้นเป็นจังหวะ เธอเดินไปข้างกวินอย่างมั่นใจ ก่อนจะคว้าแขนเขาและพาเข้าไปด้านในล็อบบี้ของโรงแรมเงียบสงบในยามดึก พนักงานต้อนรับทำหน้าที่รับข้อมูลจากแขกผู้มาเยือ ก่อนจะส่งกุญแจห้องให้ตามที่ ยี่หวา ต้องการเธอรับมันมา ก่อนจะจับมือ กวิน แล้วเดินตรงไปยังลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไปกวิน ใช้สายตาจับจ้องเธอเหมือนจะกลืนกิน ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาแตะที่ข้อมือของเธอเบาๆ ก่อนจะไล้ขึ้นมาจนถึงต้นแขนยี่หวา หันมามองเขา ดวงตาของเธอเป็นประกายเจ้าเล่ห์ "มองยี่หวาแบบนี้ทำไม?"กวิน โน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเธอ "เพราะเธอร้อนแรงเกินกว่าจะละสายตานะสิ"เธอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น ปลายนิ้วแตะลงบนอกของกวิน ไล้ไปตามสาบเสื้อของเขาเบาๆ"แล้วกวินแน่ใจเหรอ ว่ารับมือยี่หวาไหว?"ติ๊ง!เสียงลิฟต์ดังขึ้น ประตูเปิดออกสู่ชั้นบนสุดของโรงแรมยี่หวา ดึงมือ เขาให้ก้าวออกไป ก่อนจะใช้คีย์การ์ดแตะประตูห้อง แล้วเปิดออกพร้อมกับผลักเขาเข้าไปเบาๆภายในห้องกว้างขวาง มีแสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียง ห
ค่ำคืนเดียวกันนี้….เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ดังก้องไปตามเส้นทางที่มืดสลัว ลมกลางคืนพัดปะทะใบหน้า อันนา แต่กลับไม่ได้ช่วยให้เธอใจเย็นลงเลยสักนิด และเธอไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำส้มที่เธอรับมาดื่มจากกวิน นั้นแฝงไว้ด้วยอันตรายบางอย่างความคิดของเธอยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์ก่อนหน้า กับคำพูดและการกระทำของกวิน... และที่สำคัญ—สัมผัสของพีทอันนา กระชับอ้อมแขนรอบเอวของ พีท โดยไม่รู้ตัว ไออุ่นจากแผ่นหลังของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยไว้ใจเขาเลยพีท เองก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสของความวางใจที่เธอเริ่มมีให้เขามากขึ้น"ใกล้ถึงหอเธอแล้วนะ" พีท เอ่ยขึ้นลอยๆ น้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจอันนา ไม่ตอบ แต่เธอรู้ว่าใจของตัวเองกำลังสั่นไหว ภาพของ กวิน ในค่ำคืนนี้ยังตามหลอกหลอนเธอ ทว่า อ้อมกอดที่เธอพึ่งพิงอยู่ตอนนี้กลับมั่นคงจนเธอไม่อยากปล่อย เวลาผ่านไปสักพัก…. อันนา เริ่มรู้สึกว่าร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นทุกขณะ ราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ภายในเธอรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างควบคุม ความต้องการบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้พลุ่งพล่านอยู่
แสงแรกของรุ่งเช้าสาดส่องผ่านม่านบางเบา ทอประกายอ่อนโยนลงบนเรือนร่างของหญิงสาวที่นอนแนบชิดอยู่ข้างๆ ร่างกายอันกำยำ แขนเรียวบางพาดอยู่บนอกกว้าง ผิวกายเบียดเสียดกันอยู่อันนา ขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ อาการมึนหัวอย่างหนักปรากฏต่อเธอ เธอรู้สึกถึงไออุ่นของคนข้างกายความจริงที่แล่นเข้ามาในหัวทำให้เธอรีบขยับตัวออกห่าง ร่างกายยังคงอ่อนล้า แต่หัวใจเต้นรัวแทบระเบิดและเริ่มทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ยังมีร่างของใครบางคนนอนเปลือยอกอยู่ใกล้ๆ เธอดวงหน้าคมเข้มของเขาหลับไหลอยู่แต่ชวนให้น่ามองทุกส่วนของใบหน้านั้นอันนา ทบทวน เธอสะดุ้งตื่นและสำรวจตัวเอง ตัวเธอเหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วตัวเดียวห่อหุ้มตัวอยู่ เธอหน้าแดงก่ำ และนึกทบทวนว่าเธอจำอะไรได้บ้างพีท รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของเตียงนอน เขา ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองร่างของหญิงสาวที่กำลังสั่นเทาและกำลังสำรวจร่างกายตัวเอง เขาอมยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ อันนา หันมาเจอสายตาคมเข้มที่จ้องมองมาที่เธออยู่พอดี เธอรีบดึงผ้าห่มมาห่อหุ้มร่างกายให้มิดชิดทันทีชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ตลกในท่าทางของเธอ นี่เธอจำอะไรไม่ได้เลยหรือไง"นี่…นี่…นาย…นายทำอะไรฉัน
"จะหนีไปไหน…แค่คิดว่า…ฉันอยากจะสำรวจมากขึ้น…?" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหู พร้อมกับแรงกอดที่แน่นขึ้นเล็กน้อยเธอ กลืนน้ำลายลงคอ พยายามผลักอกเขาออก แต่กลับสัมผัสได้ถึงผิวอุ่นและแนวกล้ามเนื้อแข็งแกร่งที่น่าหวั่นใจ"นาย!!!!...ปล่อยนะ" เธอพูดเสียงสั่น หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอกแต่แทนที่เขาจะปล่อย กลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนเธอรู้สึกถึงจังหวะลมหายใจมั่นคงของเขาที่แนบชิดกับแผ่นหลังของเธอ"ทำไมต้องหนีละ?" เขากระซิบเบาๆ ใกล้ใบหู ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัวอันนา เม้มริมฝีปากแน่น พยายามควบคุมตัวเอง แต่สัมผัสแนบชิดจากร่างกายของเขาทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก ร่างกายเธอเหมือนจะร้อนขึ้นกว่าเดิมจนแทบทนไม่ไหว..."อยากสัมผัสอีกจัง…เธอตัวหอมมากรู้ไหม" พีท กระซิบเสียงแหบพร่าข้างหู ราวกับจงใจให้เสียงนั้นก้องอยู่ในความคิดของอันนา กลิ่นกายตอนอาบน้ำใหม่ๆ ของเธอหอมจนชายหนุ่มไม่อยากปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระเธอ แทบหยุดหายใจเมื่อจมูกโด่งของเขาแนบเข้ากับใบหูของเธอ สัมผัสอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความร้อนแรงทำให้ร่างกายเธอสั่นไหว ลมหายใจอุ่นของเขารดราดอยู่บริเวณข้างแก้ม ปลุกความร้อนวูบวาบให้แล่นไปทั่วร่าง"อย่า..." เสียงของเธอแผ่
เขาไม่อยากปล่อยเวลาที่มีค่าไปง่ายๆ เพราะรู้ดีว่าช่วงเวลานี้มันพิเศษแค่ไหนเขาอยากแกล้งเธอ อยากกวนใจเธออีกครั้ง แค่เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ทำไมกันนะ... ทำไมเขาถึงชอบนักเวลาที่เธอเผลอหน้าแดงอย่างเป็นธรรมชาติ อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอดูน่ารักที่สุดหรืออาจเป็นเพราะหัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่แพ้กัน…"นาย! ไปแต่งตัวเลยนะ! เดี๋ยวก็ทำงานส่งไม่ทันหรอก!" เสียงของเธอสั่นนิดๆ พลางรีบหันหลังให้ ไม่กล้าสบตากับแผงอกเปลือยเปล่า แต่เขาไม่ยอมให้เธอหนีง่ายๆแขนแข็งแรงโอบรัดจากด้านหลัง ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดข้างหู "วันนี้งานของฉัน...อย่างแรกคือเธอ แล้วค่อยทำงานส่งอาจารย์ละกัน""อ๊ะ!" อันนา อุทานร้องเบาๆ เมื่อเขาช้อนตัวขึ้นจากพื้น แขนแกร่งตวัดรัดแน่นจนเธอขยับไม่ได้ ผ้าขนหนูที่พันกายเขาไว้ล่อแหลมเสียจนใจเต้นรัว"ดะ...เดี๋ยว! ปล่อยนะ!" เธอดิ้นแต่กลับทำให้ตัวเองแนบชิดเขามากขึ้นเขายิ้มขำ ยิ่งเธอต่อต้าน ยิ่งน่าหลงใหล"อย่าดื้อสิอันนา..." เขากระซิบเสียงพร่า "ฉันไม่ปล่อยหรอก"แล้วร่างเธอก็ถูกทิ้งลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ก่อนที่ร่างสูงจะโน้มลงมา...ดวงตาคมเต็มไปด้วยแรงปรารถนา ผ้าขนหนูที่ปิดห่อหุ้ม
ตี 5 เมื่อรถไฟมาถึงชานชลา พิษณุโลก….หญิงสาว ลงจากรถไฟ แล้วรีบเหมารถมอเตอร์ไซด์เพื่อไปยังโรงพยาบาลทันทีณ โรงพยาบาล ประจำจังหวัดอันนา รีบวิ่งไปตามทางเดินของโรงพยาบาล หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความวิตกกังวล กลิ่นยาฆ่าเชื้อและเสียงเครื่องช่วยหายใจแว่วมากระทบโสตประสาท แต่เธอไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวแม้แต่น้อย ดวงตาของเธอจ้องไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว หวังว่าจะพบแม่และน้องโดยเร็วที่สุดเมื่อมาถึงหน้าห้องผ่าตัด อันนา เห็นแม่ของเธอนั่งกอดน้องชายตัวเล็กไว้แน่น ใบหน้าของแม่ซีดเซียว ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่น้องชายของเธอก็ดูอิดโรยและหวาดหวั่นไม่ต่างกัน“อันนา ลูกแม่…” แม่เงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นเธอ และน้ำตาก็ไหลรินลงมาทันที “พ่อของลูกเจ็บหนัก ต้องผ่าตัดด่วน”หญิงสาว รู้สึกเหมือนมีอะไรหนัก ๆ มากดทับอยู่ที่หน้าอก เธอรีบก้าวเข้าไปนั่งข้างแม่ จับมือที่สั่นเทาของแม่ไว้แน่น“แม่…พ่อจะไม่เป็นอะไรคะ” เสียงของเธอสั่นเครือแม่ส่ายหน้าช้า ๆ “หมอบอกว่าพ่อเสียเลือดมาก ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน เราต้องรอ…”เธอ ก้มหน้าลงซ่อนน้ำตา เธอรู้สึกหมดหนทางแต่ก็ต้องเข้มแข็งเพื่อแม่และน้อง แม่ลูบหลังเธอเบา ๆ อย่างปลอบโยน ทั้งสามคนต่า
เสียงเครื่องบดกาแฟดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ภายในร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟคั่วใหม่ นิดหน่อยกำลังจัดเรียงแก้วอยู่หลังเคาน์เตอร์ ขณะที่พี่ลินกำลังรับออเดอร์จากลูกค้าเมื่อรับออเดอร์เสร็จ พี่ลินก็เดินมาหานิดหน่อย"นี่! นิดหน่อย!" พี่ลินกระซิบ "ไม่เห็นอันนาหลายวันแล้วนะ!"นิดหน่อยชะงักมือที่กำลังหยิบแก้วก่อนจะเงยหน้ามองพี่ลิน "จริงด้วยสิ ชักจะเป็นห่วงนะพี่ลิน"ทันใดนั้น เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านก็ดังขึ้น ตามมาด้วยร่างของอันนา เธอเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ"อันนา!" พี่ลิน เรียกอย่างตื่นเต้น "หายไปไหนมาเนี่ย?"อันนา หัวเราะเบา ๆ "ขอโทษด้วยนะพี่ลิน และนิดหน่อย พอดีช่วงนี้ติดทำโครงการวิจัยเลยยุ่งมาก ๆ"พี่ลินมองอันนาด้วยสายตาแซว ๆ "ที่แท้ก็ยุ่งอยู่กับเรื่องโครงการวิจัย นึกว่าหายไปไหนกับพ่อเทพบุตร หน้าหล่อคนนั้น""พี่ลินก้อ….ไม่ขนาดนั้นหรอกคะ!" หญิงสาวรีบหลบสายตาพี่ลิน แล้วรีบเดินไปหลังร้านใส่ชุดกันเปื้อนเพื่อทำงานทำงานไปได้สักพัก พี่ลินสังเกตเห็นว่า อันนา ดูไม่ค่อยสดชื่น จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงว่า"อันนา เป็นอะไรรึเปล่า? ดูเหนื่อย ๆ นะ"อันนา ยิ้มบาง ๆ ก่อนตอบเสียงแผ่วเ
เช้าวันต่อมา...พีท สะดุ้งตื่นขึ้นมาท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างของห้องนอนอันกว้างขวางของเขา เขายังคงรู้สึกถึงความอ่อนล้าเล็กน้อยจากค่ำคืนที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะร่างกาย แต่เป็นเพราะจิตใจที่ไม่ได้หยุดคิดถึงเธอเลยหลังจากนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ลุกขึ้นนั่ง ใช้มือเสยผมอย่างลวก ๆ ใบหน้าหล่อเหลามีคราบของความเหนื่อยล้า แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้หน้าคมของเขาลดความน่ามองลงไปได้เลยเขาเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างความคิดฟุ้งซ่านให้หมดไป แม้จะรู้ดีว่าความคิดถึงนั้นไม่มีทางจางหายง่าย ๆ ก็ตามเมื่อจัดเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เขาสวมเสื้อยืดสีขาวด้านในพร้อมใส่เสื้อช็อปวิศวะทับเข้าไป และกางเกงยีนส์ตัวขาดเข่าตัวเก่งของเขา ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้แล้วก้าวออกจากห้องนอนของตัวเอง ลงบันไดไปยังโรงจอดรถ ที่ซึ่งมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขาจอดรออยู่เครื่องยนต์คำรามขึ้นเมื่อ พีท สวมหมวกกันน็อกและเร่งเครื่องเพี่อขับออกจากคฤหาสน์ของครอบครัวลุงมิ่ง รีบวิ่งมาเปิดประตูรั้วใหญ่ให้ทันที เพราะรู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะออกไปยังมหาวิทยาลัยเขามุ่งตรงไปยังคณะวิศวกรรมศาสตร์ ถนนยามเช้าเต็มไปด้วยรถราที่เคลื่อนตัวไปมา แต่เขาก็ชินกับเ
เมื่อเขากลับเข้ามาในคฤหาสน์หลังงาม ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปข้างใน"คุณพีท นะคุณพีท! หายไปทั้งคืนอีกแล้วนะคะ!" ป้าศรีบ่นด้วยความเป็นห่วง มองชายหนุ่มด้วยสายตาเหนื่อยใจ"นี่คุณพ่อกับคุณแม่กำลังจะกลับมาแล้วนะ ดีนะที่คุณมีนโทรตาม ไม่งั้นคงโดนดุแน่เลย!"พีท ยิ้มแหย ๆ พลางยกมือขึ้นเกาหลังคอ "ผมขอโทษครับป้าศรี พอดีมีเหตุบังเอิญ... ต้องอยู่เป็นเพื่อน….เพื่อนนะครับ"ป้าศรีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพึมพำเบา ๆ "เพื่อน หรือสาวที่ไหนอีกล่ะคะ..."ไม่ทันที่ ชายหนุ่ม จะตอบ ป้าศรียังไม่วายส่ายหน้าก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง "คุณพีทคะ สาว ๆ ระวังหน่อยนะคะ คุณ พีท ยิ่งหล่ออยู่ด้วย เดี๋ยวโดนสาว ๆ หลอกเอานะคะ!"เขา หัวเราะออกมาเบา ๆ "โธ่ ป้าศรี ผมไม่ได้ซื่อขนาดนั้นหรอกน่า"ป้าศรีแกล้งถามขึ้นมาอีก "แล้วเพื่อนคนนี้ ทำไมคุณพีทถึงให้ความสำคัญมากขนาดนั้นนะคะ ป้าไม่เคยเห็นคุณพีทไปนอนค้างคืนที่ไหนเลย นอกจากไปบ้านคุณกวิน..."พีท ที่กำลังจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มถึงกับชะงักไปเล็กน้อย"เอ่อ... ก็..." เขา เกาหลังคอ พลางหลบตานิด ๆ "คือ เพื่อนคนนี้ เขา... เอ่อ... ต้องการกำลังใจนิดหน่อย ผมเลยอยู่เป็นเพื่อนเฉย ๆ"ป้าศรีเลิกคิ้ว
แต่…..เสียงโทรศัพท์ของ พีท ดังขึ้นขัดจังหวะบรรยากาศ ชายหนุ่มหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ “มีน”เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย "ฮัลโหล? ว่าไงมีน มีอะไรรึเปล่าพี่กำลังจะกลับ?" เขาแสร้งทำเป็นพูดเพื่อไม่ให้น้องสาวต้องเป็นห่วง เขารู้ดีว่าเขาควรกลับได้แล้วเสียงของ มีน ดังมาตามสายอย่างร้อนรน "พี่พีทคะ! พ่อกับแม่จะกลับถึงบ้านเร็วขึ้นนะคะ! ลุงมิ่งไปรับที่สนามบินแล้วคะ!"พีท ขยับร่างสูงใหญ่ พลางเอ่ยถาม "ทำไมพ่อกับแม่กลับไทยเร็วกว่ากำหนดล่ะ?""ท่านบอกว่างานเสร็จเร็วเลยได้กลับไทยเร็วคะ พี่พีทรีบกลับมาเถอะคะ!"เขาถอนหายใจเบาๆ ยกมือขึ้นเสยผม "โอเคๆ เดี๋ยวพี่ไปเดี๋ยวนี้แหละ" ก่อนจะกดวางสาย แล้วหันกลับมามอง อันนาเธอจ้องเขาอยู่ก่อนแล้วเหมือนจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นพีท ยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย "วันนี้สงสัยต้องพักไว้ก่อนล่ะ เสียดายจัง" สายตากรุ้มกริ่มบอกความต้องการที่ชัดเจนของเขา"…นายอยู่ก็กวนใจฉัน…ดีเลยเพราะฉันต้องรีบสรุปข้อสอบให้น้องชายจอมซน" เธอกล่าว แต่ในใจเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากให้เขากลับไปเลย…ไหนเธอบอกว่าเธอไม่สนใจเขาไง อันนา…?เธอเผลอกำปากกาของตัวเองแน่นขึ้น
เขาไม่อยากปล่อยเวลาที่มีค่าไปง่ายๆ เพราะรู้ดีว่าช่วงเวลานี้มันพิเศษแค่ไหนเขาอยากแกล้งเธอ อยากกวนใจเธออีกครั้ง แค่เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ทำไมกันนะ... ทำไมเขาถึงชอบนักเวลาที่เธอเผลอหน้าแดงอย่างเป็นธรรมชาติ อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอดูน่ารักที่สุดหรืออาจเป็นเพราะหัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่แพ้กัน…"นาย! ไปแต่งตัวเลยนะ! เดี๋ยวก็ทำงานส่งไม่ทันหรอก!" เสียงของเธอสั่นนิดๆ พลางรีบหันหลังให้ ไม่กล้าสบตากับแผงอกเปลือยเปล่า แต่เขาไม่ยอมให้เธอหนีง่ายๆแขนแข็งแรงโอบรัดจากด้านหลัง ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดข้างหู "วันนี้งานของฉัน...อย่างแรกคือเธอ แล้วค่อยทำงานส่งอาจารย์ละกัน""อ๊ะ!" อันนา อุทานร้องเบาๆ เมื่อเขาช้อนตัวขึ้นจากพื้น แขนแกร่งตวัดรัดแน่นจนเธอขยับไม่ได้ ผ้าขนหนูที่พันกายเขาไว้ล่อแหลมเสียจนใจเต้นรัว"ดะ...เดี๋ยว! ปล่อยนะ!" เธอดิ้นแต่กลับทำให้ตัวเองแนบชิดเขามากขึ้นเขายิ้มขำ ยิ่งเธอต่อต้าน ยิ่งน่าหลงใหล"อย่าดื้อสิอันนา..." เขากระซิบเสียงพร่า "ฉันไม่ปล่อยหรอก"แล้วร่างเธอก็ถูกทิ้งลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ก่อนที่ร่างสูงจะโน้มลงมา...ดวงตาคมเต็มไปด้วยแรงปรารถนา ผ้าขนหนูที่ปิดห่อหุ้ม
"จะหนีไปไหน…แค่คิดว่า…ฉันอยากจะสำรวจมากขึ้น…?" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหู พร้อมกับแรงกอดที่แน่นขึ้นเล็กน้อยเธอ กลืนน้ำลายลงคอ พยายามผลักอกเขาออก แต่กลับสัมผัสได้ถึงผิวอุ่นและแนวกล้ามเนื้อแข็งแกร่งที่น่าหวั่นใจ"นาย!!!!...ปล่อยนะ" เธอพูดเสียงสั่น หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอกแต่แทนที่เขาจะปล่อย กลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนเธอรู้สึกถึงจังหวะลมหายใจมั่นคงของเขาที่แนบชิดกับแผ่นหลังของเธอ"ทำไมต้องหนีละ?" เขากระซิบเบาๆ ใกล้ใบหู ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัวอันนา เม้มริมฝีปากแน่น พยายามควบคุมตัวเอง แต่สัมผัสแนบชิดจากร่างกายของเขาทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก ร่างกายเธอเหมือนจะร้อนขึ้นกว่าเดิมจนแทบทนไม่ไหว..."อยากสัมผัสอีกจัง…เธอตัวหอมมากรู้ไหม" พีท กระซิบเสียงแหบพร่าข้างหู ราวกับจงใจให้เสียงนั้นก้องอยู่ในความคิดของอันนา กลิ่นกายตอนอาบน้ำใหม่ๆ ของเธอหอมจนชายหนุ่มไม่อยากปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระเธอ แทบหยุดหายใจเมื่อจมูกโด่งของเขาแนบเข้ากับใบหูของเธอ สัมผัสอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความร้อนแรงทำให้ร่างกายเธอสั่นไหว ลมหายใจอุ่นของเขารดราดอยู่บริเวณข้างแก้ม ปลุกความร้อนวูบวาบให้แล่นไปทั่วร่าง"อย่า..." เสียงของเธอแผ่
แสงแรกของรุ่งเช้าสาดส่องผ่านม่านบางเบา ทอประกายอ่อนโยนลงบนเรือนร่างของหญิงสาวที่นอนแนบชิดอยู่ข้างๆ ร่างกายอันกำยำ แขนเรียวบางพาดอยู่บนอกกว้าง ผิวกายเบียดเสียดกันอยู่อันนา ขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ อาการมึนหัวอย่างหนักปรากฏต่อเธอ เธอรู้สึกถึงไออุ่นของคนข้างกายความจริงที่แล่นเข้ามาในหัวทำให้เธอรีบขยับตัวออกห่าง ร่างกายยังคงอ่อนล้า แต่หัวใจเต้นรัวแทบระเบิดและเริ่มทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ยังมีร่างของใครบางคนนอนเปลือยอกอยู่ใกล้ๆ เธอดวงหน้าคมเข้มของเขาหลับไหลอยู่แต่ชวนให้น่ามองทุกส่วนของใบหน้านั้นอันนา ทบทวน เธอสะดุ้งตื่นและสำรวจตัวเอง ตัวเธอเหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วตัวเดียวห่อหุ้มตัวอยู่ เธอหน้าแดงก่ำ และนึกทบทวนว่าเธอจำอะไรได้บ้างพีท รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของเตียงนอน เขา ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองร่างของหญิงสาวที่กำลังสั่นเทาและกำลังสำรวจร่างกายตัวเอง เขาอมยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ อันนา หันมาเจอสายตาคมเข้มที่จ้องมองมาที่เธออยู่พอดี เธอรีบดึงผ้าห่มมาห่อหุ้มร่างกายให้มิดชิดทันทีชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ตลกในท่าทางของเธอ นี่เธอจำอะไรไม่ได้เลยหรือไง"นี่…นี่…นาย…นายทำอะไรฉัน
ค่ำคืนเดียวกันนี้….เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ดังก้องไปตามเส้นทางที่มืดสลัว ลมกลางคืนพัดปะทะใบหน้า อันนา แต่กลับไม่ได้ช่วยให้เธอใจเย็นลงเลยสักนิด และเธอไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำส้มที่เธอรับมาดื่มจากกวิน นั้นแฝงไว้ด้วยอันตรายบางอย่างความคิดของเธอยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์ก่อนหน้า กับคำพูดและการกระทำของกวิน... และที่สำคัญ—สัมผัสของพีทอันนา กระชับอ้อมแขนรอบเอวของ พีท โดยไม่รู้ตัว ไออุ่นจากแผ่นหลังของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยไว้ใจเขาเลยพีท เองก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสของความวางใจที่เธอเริ่มมีให้เขามากขึ้น"ใกล้ถึงหอเธอแล้วนะ" พีท เอ่ยขึ้นลอยๆ น้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจอันนา ไม่ตอบ แต่เธอรู้ว่าใจของตัวเองกำลังสั่นไหว ภาพของ กวิน ในค่ำคืนนี้ยังตามหลอกหลอนเธอ ทว่า อ้อมกอดที่เธอพึ่งพิงอยู่ตอนนี้กลับมั่นคงจนเธอไม่อยากปล่อย เวลาผ่านไปสักพัก…. อันนา เริ่มรู้สึกว่าร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นทุกขณะ ราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ภายในเธอรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างควบคุม ความต้องการบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้พลุ่งพล่านอยู่