แชร์

บทที่ 2 ขั้วตรงข้ามต้องร่วมมือ

ผู้เขียน: วราไรซ์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-03 22:21:10

การทำงานโครงการวิจัยร่วมกัน ณ หน้าห้องทดลองของคณะวิทยาศาสตร์  

พีท มักจะนัดทำงานร่วมกับอันนา ในตอนเย็นๆ ที่คนไม่พลุกพล่าน และไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตาของใคร ระหว่างที่ขึ้นมายังห้องทดลอง เขามักจะใส่หมวกอำพรางเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจมากนัก

และวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่พวกเขาได้ทำงานร่วมกัน และรู้จักกันมากขึ้น แต่สถานการณ์การเจอกันแต่ละครั้งเหมือนอยู่ในสมรภูมิอารมณ์ ที่มีชายหนุ่มหน้าหล่อคอยก่อกวน

“วันนี้เราทำบทไหนต่อนะ… เธอลองอธิบายให้ฉันฟังที” พีท พูดขึ้น ขณะก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตาเป็นประกายซุกซนกวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่เป้าหมาย—หญิงสาวใส่แว่นเจ้าประจำที่มักจะบ่นเขาเสมอ

“ปกติ นายชอบไปนั่งมองสาวๆ ตามคณะอื่นใช่ไหมล่ะ เลยไม่ค่อยมีเวลาทบทวนรายละเอียดของโครงการวิจัยเลย!!! ” อันนาเอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน้ามอง ขณะที่เธอกำลังก้มหยิบของบนพื้น

พีท ยิ้มบางๆ กับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ โต๊ะของเธอ “โห หาว่าฉันเจ้าชู้อีก? นี่ฉันตั้งใจมาทำงานนะ”

อันนาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาผ่านกรอบแว่น “งั้นเหรอ? ก็ลองดูว่าคราวนี้นายจะตั้งใจได้นานแค่ไหน”

"ถ้า….ฉันตั้งใจมองเธอมากกกว่าละ" พีท พูดออกมาพร้อมสายตาที่มองมายัง อันนา แบบหวานเยิ้มเหมือนจะแกล้งแหย่เธอให้คล้อยตามคำพูดที่เขาพูด

อันนา ได้ฟังก็หูและหน้าแดง ไม่พูดอะไร แล้วรีบเดินไปหยิบเอกสารและรีบเตรียมของที่จะต้องทำโครงการวิจัย

การทำงานผ่านไปอย่างไม่ราบรื่นเลยสักนิด อันนา

ชอบทำงานอย่างเป็นระบบ วางแผนล่วงหน้า และคำนวณอย่างรอบคอบ ส่วน พีท ชอบ "ลองก่อน ค่อยว่ากัน" วิธีการทำงานที่แตกต่างกันสุดขั้วทำให้ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกันตั้งแต่วันแรก

"นี่นายจะทำอะไร!" อันนา ถามเสียงแข็ง เมื่อเห็น พีทหยิบลวดทองแดงมาต่อวงจรไฟฟ้าโดยไม่ได้ตรวจสอบค่าแรงดันไฟฟ้าก่อน

พีท ยักไหล่ "ก็ลองดูน่ะสิ บางทีการทดลองก็ต้องมีความเสี่ยงบ้าง"

"ถ้านายต่อผิด ไฟอาจช็อตได้เลยนะ!" อันนา ถลึงดวงตากลมโต ผ่านแว่นตาใส่เขา แต่ พีท กลับหัวเราะ

"เธอนี่เหมือนหนังสือเรียนเดินได้เลยนะ เคยลองทำอะไรโดยไม่คิดมากบ้างไหม? " เขายิ้มขี้เล่น

แต่ อันนา ไม่ขำด้วย เธอคว้าลวดจากมือเขาแล้วเริ่มวัดค่าแรงดันด้วยเครื่องมืออย่างระมัดระวัง

พีท พิงโต๊ะแล้วมองเธอทำงาน "ฉันว่าถ้าเธอเลิกเครียดสักนิด ชีวิตคงสนุกขึ้นเยอะ"

"และถ้านายจริงจังกับงานสักหน่อย งานคงเสร็จเร็วกว่านี้" อันนา ตอบกลับ เธออยากกลับหอพักแล้วเพราะเมื่อดูเวลาบนนาฬิกา กลับพบว่าเวลาได้ล่วงเลยมาจนเกือบสามทุ่มแล้ว ทางกลับหอพักเธอค่อนข้างจะมืดและเปลี่ยว ทำให้เธอกังวลใจถ้างานยังไม่เสร็จ

การทำงานเต็มไปด้วยการเถียงกันเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างที่ อันนา เสนอ พีทก็มักจะหาเรื่องเถียง หรือไม่ก็แกล้งเธอเล่นให้หงุดหงิด ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนเครื่องมือไปไกลๆ หรือทำเป็นฟังเธอพูดครึ่งๆ กลางๆ เพื่อกวนประสาท

"นี่! นายตั้งใจฟังบ้างสิ!" อันนา เริ่มหมดความอดทน

พีท ยิ้มกวนๆ "ฟังอยู่จ้ะคุณครู แต่ทำไมน้ำเสียงเธอดูเหมือนจะฆ่าฉันยังไงก็ไม่รู้"

"ฉันกำลังพิจารณาอยู่" เธอพูดเสียงเรียบ แต่ถึงจะทะเลาะกันแค่ไหน โครงการของพวกเขาก็ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

อันนา เริ่มสังเกตว่า พีท มีความสามารถอย่างที่เธอไม่คาดคิด ชายหนุ่มอาจจะทำตัวขี้เล่น แต่เวลาจริงจังกับงาน เขาก็มีความรู้แน่นไม่แพ้เธอ

และคืนนี้ ฝนได้เริ่มตั้งเค้าและทำท่าว่าจะตกหนัก และเมื่อทั้งคู่ทำงานไปสักพัก ฝนก็เริ่มตกลงมาอย่างหนัก และฝนที่ตกอย่างหนักทำให้ไฟฟ้าดับกะทันหัน ห้องทดลองตกอยู่ในความมืดสนิท

"ให้ตายสิ! ไฟดับตอนนี้เนี่ยนะ?" อันนา บ่น ขณะที่พยายามควานหามือถือของตัวเอง

พีท หยิบไฟฉายจากกระเป๋าเสื้อแล้วเปิดขึ้น ส่งแสงสว่างให้ห้อง "กลัวเหรอ? "

"เปล่า ฉันแค่หงุดหงิดที่งานถูกขัดจังหวะ" อันนา รีบปฏิเสธ

พีท หัวเราะเบาๆ "แน่ใจนะ? หน้าเธอดูเหมือนเด็กกลัวผีเลย"

"นาย...!" อันนา กำลังจะเถียง แต่ พีท กลับนั่งลงข้างๆ เธอและพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

"เธอรู้ไหมว่าเคมีกับไฟฟ้ามันก็มีความเชื่อมโยงกันนะ อิเล็กตรอนเคลื่อนที่จากขั้วหนึ่งไปอีกขั้ว มันสร้างพลังงาน และพลังงานนั่นทำให้เกิดปฏิกิริยา เหมือนเราสองคนไง ขั้วตรงข้าม แต่ดึงดูดกันโดยไม่รู้ตัว"

อันนา นิ่งไปชั่วขณะ เธอไม่แน่ใจว่าที่ใจเธอเต้นแรงขึ้นเพราะคำพูดของเขา หรือเพราะไฟฉายในห้องมืดที่ส่องไปกระทบใบหน้าของ พีท ทำให้เธอได้เห็นรอยยิ้มขี้เล่นที่แฝงไปด้วยความจริงใจ

"!!!!?" เธอพยายามเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนรอยยิ้มเล็กๆ ที่เผลอหลุดออกมา

พีท ยิ้มกว้างขึ้น "เธอไม่รู้สึกเหรอว่าเรากำลังทำปฏิกิริยากันอยู่?"

เธอ กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ แล้วหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาบังหน้า "หยุดพูดมากได้แล้ว ไฟคงกลับมาเร็วๆ นี้"

พีท หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอนตัวพิงโต๊ะ "โอเคๆ ไม่กวนแล้วก็ได้ แต่เธอรู้ตัวไหมว่าเธอน่ะ... กำลังยิ้มอยู่นะ"

หญิงสาว ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบหันหน้าไปทางอื่น แต่ภายในใจกลับรู้สึกแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

และเธอ ก็รู้สึกได้ว่า นี่ก็ดึกแล้วคงจะต้องกลับหอพักก่อนค่อยเริ่มทำงานอีกครั้งในวันถัดไป

อันนา เหลือบมองนาฬิกา แล้วถอนหายใจ “เรากลับกันเถอะ ไฟดับ ทำงานต่อไม่ได้แล้ว”

“แต่ฉันว่ายังสนุกอยู่เลยนะ” พีท ยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ “หรือว่าเธอแอบกลัวความมืด?”

หญิงสาว ถอนหายใจอีกครั้ง “ฉันไม่กลัวความมืด แต่ฉันกลัวจะเสียเวลามากกว่า”

“โอเคๆ กลับก็กลับ” พีท ยกมือขึ้นยอมแพ้ แต่ก่อนเดินออกจากห้อง เขาหันมากระซิบข้างหู อันนา เบาๆ “แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ คุณนักวิทย์สุดเคร่งเครียด”

อันนา เม้มปากแน่น รู้สึกได้ถึงความร้อนบนใบหน้าตัวเองโดยไม่รู้สาเหตุ เธอสะบัดหน้าแล้วรีบเดินออกไป โดยมีเสียงหัวเราะของ พีท ตามมาเบาๆ

ระหว่างทางเดินออกจากอาคาร อันนา พยายามไม่สนใจ พีท ที่เดินตามมาติดๆ

“เดี๋ยว ฉันไปส่ง” พีท พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ

อันนา หันขวับ “ไม่ต้อง! ฉันกลับเองได้”

“ดึกแล้วนะ จะกลับคนเดียวเหรอ?” พีท ยักไหล่

“ไหนๆ ฉันก็จะกลับเหมือนกัน” พีท พูดขึ้นมา

“ฉันไปเอารถมอเตอร์ไซด์แป๊ปนึงนะ เจอกันหน้าตึก

เดี๋ยวฉันพาไปกินข้าว ก่อนที่เธอจะเป็นลมแล้วต้องลำบากให้ฉันพาเธอไปโรงพยาบาลอีก” พีท พูดและทำท่าทะเล้น

อันนา คิดจะพูดตอบโต้ไป แต่ก็ได้แค่คิด และมองตาม

พีท และอดหัวเราะไม่ได้

“นายนี่ก็ตลกดีนะ” อันนา รู้สึกว่าทำไมตัวเธอถึงแอบยิ้มทุกครั้งที่ พีท พูดจากวนอารมณ์เธอ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 3 สูตรลับเคมีและไฟฟ้า

    เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ ๆ ดังขึ้นที่หน้าตึก อันนา ที่ยืนรออยู่ ต้องอึ้งไปชั่วขณะมอเตอร์ไซด์คันใหญ่สีดำด้าน มาพร้อมดีไซน์หรูและโลโก้ของแบรนด์ราคาแพงที่เธอรู้จักดี มันไม่ใช่รถที่นักศึกษาธรรมดาจะเป็นเจ้าของได้แน่ ๆ และที่สำคัญ… มันเป็นของ พีท"ขึ้นมา" พีท ยกหมวกกันน็อกอีกใบให้เธออันนา กะพริบตา ไม่คาดคิดว่าเขาจะมารับเธอด้วยรถคันนี้ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาคงขับมอเตอร์ไซด์เก่า ๆ มาซะอีก แต่ไม่ใช่เลย..."นี่นาย..." เธอเอ่ยเบา ๆ แต่ยังไม่ขยับ"ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวฉันไปส่งที่หอ แล้วก็อย่าลืมบอกทางด้วยนะคร้าบบบ" พีท ว่าพลางสวมหมวกกันน็อกของตัวเองอันนา กลืนน้ำลาย รถคันนี้ใหญ่เกินไปสำหรับเธอ และที่แย่กว่าคือเบาะที่นั่งมันเล็กเกินไปสำหรับสองคน เธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องนั่งเบียดกับเขาเธอปีนขึ้นไปนั่งด้านหลังอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อพีทสตาร์ทรถและเร่งเครื่อง เธอก็ต้องรีบคว้าชายเสื้อเขาไว้แน่น"จับแน่น ๆ หรือจะกอดก็ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ " เสียงทุ้มเอ่ยอย่างมีเลศนัย"ฉันไม่อยากจับหรือกอดตัวนายหรอกน่า!" อันนา เถียงกลับ แต่เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไป เธอก็ต้องกลืนน้ำลายอีกครั้ง เพราะแรงลมและแรงดึงทำให้เธอเผลอขยับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 4 ครอบครัวแสนเงียบเหงาของพีท

    ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในเขตชานเมืองของกรุงเทพฯ บ้านสไตล์ยุโรปสีขาวสะอาดตา ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัล และเฟอร์นิเจอร์สุดคลาสสิก ทุกมุมของบ้านดูสมบูรณ์แบบราวกับอยู่ในนิตยสารบ้านและสวน แต่ถึงแม้ภายนอกจะดูสวยงามเพียงใด ภายในบ้านหลังนี้กลับเย็นชาและไร้ชีวิตชีวาหลังจากที่ พีท ส่ง อันนา ถึงหอพักของเธอเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจกลับมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เขาเรียกว่าบ้านไฟหน้ารถสาดส่องไปตามทางรถแล่นที่ปูด้วยหินแกรนิตเงาวับ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลดความเร็วและเลี้ยวเข้าสู่บริเวณโรงรถเสียงเครื่องยนต์ดับลงพร้อมกับที่ พีท ยกหมวกกันน็อกออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แม้จะเหนื่อยล้าแต่ก็ยังคงความเฉียบคมเขาก้าวลงจากรถ มอเตอร์ไซค์คันโปรดถูกจอดเคียงข้างกับรถสปอร์ตหรูหลายคันที่เรียงรายอยู่ในโรงรถขนาดใหญ่ รถแต่ละคันเป็นเหมือนงานศิลปะที่สะท้อนถึงรสนิยมและความหลงใหลของบิดาของเขาตั้งแต่เฟอร์รารีสีแดงสด แลมโบร์กินีสุดโฉบเฉี่ยว ไปจนถึงโรลส์-รอยซ์ที่ดูสง่างามพีท ยืนมองรถเหล่านั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆเขาไม่เคยสนใจความหรูหราเหล่านี้มากนัก แม้มันจะอยู่รายล้อมชีว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 5 สายสัมพันธ์ที่ถูกหลงลืม

    เช้าวันต่อมา…ณ คฤหาสน์หลังงามแสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านม่านโปร่งแสงสีครีม ส่องสะท้อนบนพื้นหินอ่อนขัดเงากลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลิลลี่ขาวจากแจกันกลางโถงใหญ่คลอเคลียอยู่ในอากาศเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วจากสวนกว้างด้านนอกผสานเข้ากับเสียงน้ำพุที่ไหลรินเป็นสาย ส่งให้บรรยากาศยามเช้าชวนให้รู้สึกถึงความสงบงดงามพ่อของพีท — คุณอรรถพลและคุณแม่ของพีท — คุณภัทรลดา ทั้ง 2 ต้องเดินทางไปต่างประเทศเนื่องจากมีงานด่วน ทำให้คฤหาสน์ หลังใหญ่ จึงเหลือเพียง ชายหนุ่ม กับ น้องสาว ของเขา รวมถึงเหล่าคนรับใช้ภายในคฤหาสน์หลังนี้ เสียงฝีเท้าของพีทดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอเมื่อเขาเดินขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์ และห้องของ "มีน" หรือ พิมพ์มณี น้องสาวคนเดียวของเขา เธอกำลังเรียนอยู่ชั้นม. 4 เป็นสถานที่เดียวที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจ เมื่อเปิดประตูเข้าไป ภาพแรกที่เห็นคือเด็กสาวตัวเล็กที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ พร้อมกับกระดาษสีขาวหลายแผ่นและดินสอสีในมือ ผมสีดำขลับของเธอยาวสรวย ใบหน้าเนียนสวยได้รูป กำลังจดจ่อยู่กับการวาดภาพ ข้างกายของเธอมี ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ ที่เขาเป็นคนซื้อให้เมื่อป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-05
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 6 ครอบครัวแสนอบอุ่มของอันนา

    ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน ก่อนที่ อันนา จะเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยใน กรุงเทพ ฯกลางหมู่บ้านเล็ก ๆ เป็นหมู่บ้านชนบทที่ห่างไกลจากความหรูหราและแสงสีของเมืองใหญ่ มีร้านขายของชำเก่าแก่ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักของหมู่บ้านร้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้จำเป็นสำหรับคนในละแวกนั้น แม้จะไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ที่นี่คือศูนย์กลางของชุมชน และเป็นหัวใจของครอบครัว อันนาภายในร้านมีชั้นวางไม้ที่ถูกใช้งานมานานจนมีร่องรอยของกาลเวลา ขวดน้ำอัดลมเรียงตัวเป็นแถวอยู่ในตู้แช่เก่า ๆ ขนมหลากชนิดใส่ไว้ในขวดโหลแก้วใส ส่วนเคาน์เตอร์คิดเงินเป็นโต๊ะไม้ตัวเดิมที่อยู่คู่กับร้านมาหลายสิบปีหลังเคาน์เตอร์ มีหญิงวัยกลางคนสวมผ้ากันเปื้อนสีซีดกำลังจัดเรียงสินค้าบนชั้นเธอคือ "ป้าสมพร" แม่ของอันนา ผู้เป็นเจ้าของร้านขายของชำแห่งนี้ส่วนพ่อของเธอ "ลุงมนัส" กำลังนั่งนับเงินทอนอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ ทั้งสองทำงานหนักทุกวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ เพราะรายได้จากร้านเล็ก ๆ แห่งนี้คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงครอบครัวของพวกเขาและที่มุมหนึ่งของร้านอันนา — หญิงสาวที่ดูขี้บ่นและจริงจังกับชีวิต กำลังช่วยน้องชายตัวแสบของเธอทำการบ้าน"อาร์ต" เด็กชายวัย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-05
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 7 นายมันหล่อ

    อาทิตย์ถัดมา……ภายในห้องเรียนของคณะ อันนา กำลังตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับรายวิชาที่เธอเรียนเธอจดบันทึกลงสมุดอย่างขยันขันแข็ง จนกระทั่งอาจารย์สอนเสร็จและหมดคาบเรียนตอนเย็นพอดีเสียงพูดคุยของนักศึกษาดังขึ้นเมื่อหมดเวลาเรียนอันนา เก็บอุปกรณ์การเรียนลงกระเป๋าอย่างเรียบร้อยทว่าเสียงทุ้มของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมอง”อันนา พรุ่งนี้ไปกินชาบูกันนะ พรุ่งนี้วันเกิดของเราเอง เดี๋ยวเราเลี้ยง”เสียงของ ”โชติ” ดังก้องลอยมาชายหนุ่มหน้าตาหล่อตี๋ ผิวขาว ตัวสูง จัดว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีเลยทีเดียว ส่งยิ้มอบอุ่นมาให้เธอโชติ เป็นเพื่อนที่คอยดูแลอันนาเสมอ และครั้งนี้เขาก็หวังว่าเธอจะตอบตกลงไปฉลองวันเกิดของเขาด้วยกันอันนา ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบาง ๆ และกำลังจะตอบกลับไปแต่แล้ว เสียงฮือฮาของสาว ๆ รอบตัวก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดึงดูดความสนใจของทุกคนในห้องอันนา เหลือบมองไปทางประตูห้องเรียน และหัวใจเธอกระตุกวูบเมื่อเห็น พีท เดินเข้ามาอย่างสง่างาม ร่างสูงราวเทพบุตรของเขาเดินมาพร้อมรอยยิ้มขี้เล่นและดวงตาที่คมกริบของเขาทำให้สาว ๆ รอบข้างแทบละลายพีท เป็นชายหนุ่มที่มี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 8 คนเจ้าเล่ห์กลับมากวนใจ

    เนื่องจากร้านกาแฟ ปิดประมาณ 2 ทุ่ม อันนา เลยได้มีโอกาสทำงานพิเศษที่นี่ต่อหลังจากที่เธอเลิกเรียนเธอทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านนี้แห่งนี้ ซึ่งร้านกาแฟร้านนี้อาจไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงพูดคุยอย่างเป็นกันเองจากพนักงานและลูกค้าประจำเมื่อหญิงสาวมาถึงก็ยิ้มให้เจ้าของร้านและเพื่อนร่วมงาน ก่อนจะเริ่มงานของตัวเองเธอจะต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน เนื่องจากต้องการช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่ แต่เธอก็ไม่เคยละเลยเรื่องการเรียนขณะที่เธอกำลังจัดเรียงขนมบนตู้กระจกอย่างตั้งใจ เสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ก็ดังขึ้นจากด้านนอก มันแทรกผ่านบรรยากาศอันเงียบสงบของร้าน ก่อนจะค่อย ๆ แผ่วลงราวกับกลืนหายไปกับสายลม และในที่สุด ทุกอย่างก็สงบนิ่งเมื่อเครื่องยนต์ดับลงเธอชะงักมือไปชั่วครู่ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจาง ๆ ที่ยังค้างอยู่ในอากาศ และเพียงไม่นาน ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าประตูร้านอันนา เงยหน้ามอง และต้องตกใจเมื่อเห็นพีท เดินเข้ามา“นี่นายมาทำอะไรที่นี่? ฉันคิดว่าฉันหนีพ้นนายแล้วนะ นายยังจะตามฉันมาอีกหรอเนี่ย เราไม่ได้อยู่ในเวลาทำโครงการวิจัยกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 9 อารมณ์ที่เริ่มก่อตัว

    อันนา ก้าวออกจากร้านกาแฟเพื่อขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของ พีทพีท ยื่นหมวกกันน็อกมาตรงหน้าเธอโดยไม่พูดอะไร หญิงสาวก้มมองมัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาเล็กน้อยอย่างลังเลหมวกกันน็อกสีดำด้านมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยตามการใช้งาน แต่มันดูสะอาดและถูกดูแลอย่างดี กลิ่นจาง ๆ ของน้ำหอมผู้ชายยังติดอยู่ที่ด้านในของมันเธอจ้องมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ยกขึ้นครอบศีรษะขอบหมวกแตะกับหน้าผากของเธอเบา ๆ ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ดึงมันลงจนพอดีกับศีรษะเธอเอื้อมมือไปจับสายรัดคาง พยายามเกี่ยวมันเข้ากับตัวล็อก แต่นิ้วมือดันสั่นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเพราะความตื่นเต้นหรือเพราะสายรัดมันแน่นเกินไปกันแน่"อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวฉันช่วย"เสียงของ พีท ดังขึ้นใกล้ ๆ ก่อนที่มืออุ่นของเขาจะเอื้อมเข้ามาจัดการล็อกสายรัดให้แทน ปลายนิ้วของเขาแตะแผ่วเบาที่ใต้คางของเธอ ทำให้ อันนา สะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้อันนา เผลอกลั้นหายใจเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้กว่าที่เธอคาดไว้ ใกล้เสียจนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รินรดอยู่แถวแก้ม และกลิ่นกายของเขาที่เจือไปด้วยความสดชื่นแบบผู้ชายเธอ พยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่หัวใจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19
  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 10 ค่ำคืนที่แสนอบอุ่น (1)

    บรรยากาศรอบตัวกลับคืนสู่ความเงียบสงบ เหลือเพียงแค่พีทและอันนานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารของพวกเขาแสงไฟสีอุ่นจากโคมระย้าสาดส่องลงมา เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกโดยไม่ตั้งใจบนโต๊ะมีเมนูอาหารสุดพิเศษที่ พีท เป็นคนเลือกสั่ง ทุกจานถูกจัดวางอย่างประณีต กลิ่นหอมของอาหารลอยคลุ้งไปทั่ว แต่เจ้าของร่างสูงที่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้กลับไม่ได้ให้ความสนใจกับมื้ออาหารตรงหน้าเลยสายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวตรงข้าม ที่กำลังใช้ส้อมจิ้มอาหารในจานของเธออย่างเงียบ ๆ ท่าทางเหมือนตั้งใจจะโฟกัสกับมื้อนี้แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าเธอเองก็รับรู้ถึงสายตาของเขา“นี่…” เขาเอ่ย และมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้ม ดวงตาคมวาววับราวกับมีเรื่องในใจที่เขากำลังชั่งใจว่าจะพูดออกมาดีหรือไม่...“แลกเบอร์กันไว้หน่อยสิ” พีท พูดหน้าตาย พลางหมุนส้อมในมืออย่างไม่ใส่ใจ“เผื่อมีอะไรต้องคุยกันเรื่องโครงการวิจัย จะได้สะดวก”อันนา มองเขาด้วยสายตาอ่านไม่ออก ก่อนจะยอมพยักหน้าเล็กน้อย“ก็ได้ จะได้สะดวก”เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดหมายเลขของตัวเองแล้วเลื่อนหน้าจอไปให้ พีท บันทึกหมายเลขลงเครื่องของเขา ส่วนพีท ก็ทำแบบเดียวกัน เอ่ยบอกตัวเลขด้วยน้ำเสียงราบเรียบราว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-19

บทล่าสุด

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 31 ความจำเป็น

    ตี 5 เมื่อรถไฟมาถึงชานชลา พิษณุโลก….หญิงสาว ลงจากรถไฟ แล้วรีบเหมารถมอเตอร์ไซด์เพื่อไปยังโรงพยาบาลทันทีณ โรงพยาบาล ประจำจังหวัดอันนา รีบวิ่งไปตามทางเดินของโรงพยาบาล หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความวิตกกังวล กลิ่นยาฆ่าเชื้อและเสียงเครื่องช่วยหายใจแว่วมากระทบโสตประสาท แต่เธอไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวแม้แต่น้อย ดวงตาของเธอจ้องไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว หวังว่าจะพบแม่และน้องโดยเร็วที่สุดเมื่อมาถึงหน้าห้องผ่าตัด อันนา เห็นแม่ของเธอนั่งกอดน้องชายตัวเล็กไว้แน่น ใบหน้าของแม่ซีดเซียว ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่น้องชายของเธอก็ดูอิดโรยและหวาดหวั่นไม่ต่างกัน“อันนา ลูกแม่…” แม่เงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นเธอ และน้ำตาก็ไหลรินลงมาทันที “พ่อของลูกเจ็บหนัก ต้องผ่าตัดด่วน”หญิงสาว รู้สึกเหมือนมีอะไรหนัก ๆ มากดทับอยู่ที่หน้าอก เธอรีบก้าวเข้าไปนั่งข้างแม่ จับมือที่สั่นเทาของแม่ไว้แน่น“แม่…พ่อจะไม่เป็นอะไรคะ” เสียงของเธอสั่นเครือแม่ส่ายหน้าช้า ๆ “หมอบอกว่าพ่อเสียเลือดมาก ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน เราต้องรอ…”เธอ ก้มหน้าลงซ่อนน้ำตา เธอรู้สึกหมดหนทางแต่ก็ต้องเข้มแข็งเพื่อแม่และน้อง แม่ลูบหลังเธอเบา ๆ อย่างปลอบโยน ทั้งสามคนต่า

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 30 อยู่เคียงข้างเสมอ

    เสียงเครื่องบดกาแฟดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ภายในร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟคั่วใหม่ นิดหน่อยกำลังจัดเรียงแก้วอยู่หลังเคาน์เตอร์ ขณะที่พี่ลินกำลังรับออเดอร์จากลูกค้าเมื่อรับออเดอร์เสร็จ พี่ลินก็เดินมาหานิดหน่อย"นี่! นิดหน่อย!" พี่ลินกระซิบ "ไม่เห็นอันนาหลายวันแล้วนะ!"นิดหน่อยชะงักมือที่กำลังหยิบแก้วก่อนจะเงยหน้ามองพี่ลิน "จริงด้วยสิ ชักจะเป็นห่วงนะพี่ลิน"ทันใดนั้น เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านก็ดังขึ้น ตามมาด้วยร่างของอันนา เธอเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ"อันนา!" พี่ลิน เรียกอย่างตื่นเต้น "หายไปไหนมาเนี่ย?"อันนา หัวเราะเบา ๆ "ขอโทษด้วยนะพี่ลิน และนิดหน่อย พอดีช่วงนี้ติดทำโครงการวิจัยเลยยุ่งมาก ๆ"พี่ลินมองอันนาด้วยสายตาแซว ๆ "ที่แท้ก็ยุ่งอยู่กับเรื่องโครงการวิจัย นึกว่าหายไปไหนกับพ่อเทพบุตร หน้าหล่อคนนั้น""พี่ลินก้อ….ไม่ขนาดนั้นหรอกคะ!" หญิงสาวรีบหลบสายตาพี่ลิน แล้วรีบเดินไปหลังร้านใส่ชุดกันเปื้อนเพื่อทำงานทำงานไปได้สักพัก พี่ลินสังเกตเห็นว่า อันนา ดูไม่ค่อยสดชื่น จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงว่า"อันนา เป็นอะไรรึเปล่า? ดูเหนื่อย ๆ นะ"อันนา ยิ้มบาง ๆ ก่อนตอบเสียงแผ่วเ

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 29 เมื่อต้องเจอกับกวิน

    เช้าวันต่อมา...พีท สะดุ้งตื่นขึ้นมาท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างของห้องนอนอันกว้างขวางของเขา เขายังคงรู้สึกถึงความอ่อนล้าเล็กน้อยจากค่ำคืนที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะร่างกาย แต่เป็นเพราะจิตใจที่ไม่ได้หยุดคิดถึงเธอเลยหลังจากนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ลุกขึ้นนั่ง ใช้มือเสยผมอย่างลวก ๆ ใบหน้าหล่อเหลามีคราบของความเหนื่อยล้า แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้หน้าคมของเขาลดความน่ามองลงไปได้เลยเขาเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างความคิดฟุ้งซ่านให้หมดไป แม้จะรู้ดีว่าความคิดถึงนั้นไม่มีทางจางหายง่าย ๆ ก็ตามเมื่อจัดเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เขาสวมเสื้อยืดสีขาวด้านในพร้อมใส่เสื้อช็อปวิศวะทับเข้าไป และกางเกงยีนส์ตัวขาดเข่าตัวเก่งของเขา ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้แล้วก้าวออกจากห้องนอนของตัวเอง ลงบันไดไปยังโรงจอดรถ ที่ซึ่งมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขาจอดรออยู่เครื่องยนต์คำรามขึ้นเมื่อ พีท สวมหมวกกันน็อกและเร่งเครื่องเพี่อขับออกจากคฤหาสน์ของครอบครัวลุงมิ่ง รีบวิ่งมาเปิดประตูรั้วใหญ่ให้ทันที เพราะรู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะออกไปยังมหาวิทยาลัยเขามุ่งตรงไปยังคณะวิศวกรรมศาสตร์ ถนนยามเช้าเต็มไปด้วยรถราที่เคลื่อนตัวไปมา แต่เขาก็ชินกับเ

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 28 ต้องไปอยู่อังกฤษหกเดือน

    เมื่อเขากลับเข้ามาในคฤหาสน์หลังงาม ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปข้างใน"คุณพีท นะคุณพีท! หายไปทั้งคืนอีกแล้วนะคะ!" ป้าศรีบ่นด้วยความเป็นห่วง มองชายหนุ่มด้วยสายตาเหนื่อยใจ"นี่คุณพ่อกับคุณแม่กำลังจะกลับมาแล้วนะ ดีนะที่คุณมีนโทรตาม ไม่งั้นคงโดนดุแน่เลย!"พีท ยิ้มแหย ๆ พลางยกมือขึ้นเกาหลังคอ "ผมขอโทษครับป้าศรี พอดีมีเหตุบังเอิญ... ต้องอยู่เป็นเพื่อน….เพื่อนนะครับ"ป้าศรีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพึมพำเบา ๆ "เพื่อน หรือสาวที่ไหนอีกล่ะคะ..."ไม่ทันที่ ชายหนุ่ม จะตอบ ป้าศรียังไม่วายส่ายหน้าก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง "คุณพีทคะ สาว ๆ ระวังหน่อยนะคะ คุณ พีท ยิ่งหล่ออยู่ด้วย เดี๋ยวโดนสาว ๆ หลอกเอานะคะ!"เขา หัวเราะออกมาเบา ๆ "โธ่ ป้าศรี ผมไม่ได้ซื่อขนาดนั้นหรอกน่า"ป้าศรีแกล้งถามขึ้นมาอีก "แล้วเพื่อนคนนี้ ทำไมคุณพีทถึงให้ความสำคัญมากขนาดนั้นนะคะ ป้าไม่เคยเห็นคุณพีทไปนอนค้างคืนที่ไหนเลย นอกจากไปบ้านคุณกวิน..."พีท ที่กำลังจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มถึงกับชะงักไปเล็กน้อย"เอ่อ... ก็..." เขา เกาหลังคอ พลางหลบตานิด ๆ "คือ เพื่อนคนนี้ เขา... เอ่อ... ต้องการกำลังใจนิดหน่อย ผมเลยอยู่เป็นเพื่อนเฉย ๆ"ป้าศรีเลิกคิ้ว

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 27 เสียดายต้องกลับคฤหาสน์หลังใหญ่

    แต่…..เสียงโทรศัพท์ของ พีท ดังขึ้นขัดจังหวะบรรยากาศ ชายหนุ่มหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ “มีน”เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย "ฮัลโหล? ว่าไงมีน มีอะไรรึเปล่าพี่กำลังจะกลับ?" เขาแสร้งทำเป็นพูดเพื่อไม่ให้น้องสาวต้องเป็นห่วง เขารู้ดีว่าเขาควรกลับได้แล้วเสียงของ มีน ดังมาตามสายอย่างร้อนรน "พี่พีทคะ! พ่อกับแม่จะกลับถึงบ้านเร็วขึ้นนะคะ! ลุงมิ่งไปรับที่สนามบินแล้วคะ!"พีท ขยับร่างสูงใหญ่ พลางเอ่ยถาม "ทำไมพ่อกับแม่กลับไทยเร็วกว่ากำหนดล่ะ?""ท่านบอกว่างานเสร็จเร็วเลยได้กลับไทยเร็วคะ พี่พีทรีบกลับมาเถอะคะ!"เขาถอนหายใจเบาๆ ยกมือขึ้นเสยผม "โอเคๆ เดี๋ยวพี่ไปเดี๋ยวนี้แหละ" ก่อนจะกดวางสาย แล้วหันกลับมามอง อันนาเธอจ้องเขาอยู่ก่อนแล้วเหมือนจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นพีท ยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย "วันนี้สงสัยต้องพักไว้ก่อนล่ะ เสียดายจัง" สายตากรุ้มกริ่มบอกความต้องการที่ชัดเจนของเขา"…นายอยู่ก็กวนใจฉัน…ดีเลยเพราะฉันต้องรีบสรุปข้อสอบให้น้องชายจอมซน" เธอกล่าว แต่ในใจเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากให้เขากลับไปเลย…ไหนเธอบอกว่าเธอไม่สนใจเขาไง อันนา…?เธอเผลอกำปากกาของตัวเองแน่นขึ้น

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 26 ปลุกอารมณ์วาบหวาม

    เขาไม่อยากปล่อยเวลาที่มีค่าไปง่ายๆ เพราะรู้ดีว่าช่วงเวลานี้มันพิเศษแค่ไหนเขาอยากแกล้งเธอ อยากกวนใจเธออีกครั้ง แค่เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ทำไมกันนะ... ทำไมเขาถึงชอบนักเวลาที่เธอเผลอหน้าแดงอย่างเป็นธรรมชาติ อาจเป็นเพราะตอนนั้นเธอดูน่ารักที่สุดหรืออาจเป็นเพราะหัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่แพ้กัน…"นาย! ไปแต่งตัวเลยนะ! เดี๋ยวก็ทำงานส่งไม่ทันหรอก!" เสียงของเธอสั่นนิดๆ พลางรีบหันหลังให้ ไม่กล้าสบตากับแผงอกเปลือยเปล่า แต่เขาไม่ยอมให้เธอหนีง่ายๆแขนแข็งแรงโอบรัดจากด้านหลัง ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดข้างหู "วันนี้งานของฉัน...อย่างแรกคือเธอ แล้วค่อยทำงานส่งอาจารย์ละกัน""อ๊ะ!" อันนา อุทานร้องเบาๆ เมื่อเขาช้อนตัวขึ้นจากพื้น แขนแกร่งตวัดรัดแน่นจนเธอขยับไม่ได้ ผ้าขนหนูที่พันกายเขาไว้ล่อแหลมเสียจนใจเต้นรัว"ดะ...เดี๋ยว! ปล่อยนะ!" เธอดิ้นแต่กลับทำให้ตัวเองแนบชิดเขามากขึ้นเขายิ้มขำ ยิ่งเธอต่อต้าน ยิ่งน่าหลงใหล"อย่าดื้อสิอันนา..." เขากระซิบเสียงพร่า "ฉันไม่ปล่อยหรอก"แล้วร่างเธอก็ถูกทิ้งลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ก่อนที่ร่างสูงจะโน้มลงมา...ดวงตาคมเต็มไปด้วยแรงปรารถนา ผ้าขนหนูที่ปิดห่อหุ้ม

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 25 เมื่อป้านวลป้าข้างหอแซว

    "จะหนีไปไหน…แค่คิดว่า…ฉันอยากจะสำรวจมากขึ้น…?" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหู พร้อมกับแรงกอดที่แน่นขึ้นเล็กน้อยเธอ กลืนน้ำลายลงคอ พยายามผลักอกเขาออก แต่กลับสัมผัสได้ถึงผิวอุ่นและแนวกล้ามเนื้อแข็งแกร่งที่น่าหวั่นใจ"นาย!!!!...ปล่อยนะ" เธอพูดเสียงสั่น หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอกแต่แทนที่เขาจะปล่อย กลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนเธอรู้สึกถึงจังหวะลมหายใจมั่นคงของเขาที่แนบชิดกับแผ่นหลังของเธอ"ทำไมต้องหนีละ?" เขากระซิบเบาๆ ใกล้ใบหู ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัวอันนา เม้มริมฝีปากแน่น พยายามควบคุมตัวเอง แต่สัมผัสแนบชิดจากร่างกายของเขาทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก ร่างกายเธอเหมือนจะร้อนขึ้นกว่าเดิมจนแทบทนไม่ไหว..."อยากสัมผัสอีกจัง…เธอตัวหอมมากรู้ไหม" พีท กระซิบเสียงแหบพร่าข้างหู ราวกับจงใจให้เสียงนั้นก้องอยู่ในความคิดของอันนา กลิ่นกายตอนอาบน้ำใหม่ๆ ของเธอหอมจนชายหนุ่มไม่อยากปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระเธอ แทบหยุดหายใจเมื่อจมูกโด่งของเขาแนบเข้ากับใบหูของเธอ สัมผัสอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความร้อนแรงทำให้ร่างกายเธอสั่นไหว ลมหายใจอุ่นของเขารดราดอยู่บริเวณข้างแก้ม ปลุกความร้อนวูบวาบให้แล่นไปทั่วร่าง"อย่า..." เสียงของเธอแผ่

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 24 นี่ฉันนอนกับนายแล้วหรอ!!!!

    แสงแรกของรุ่งเช้าสาดส่องผ่านม่านบางเบา ทอประกายอ่อนโยนลงบนเรือนร่างของหญิงสาวที่นอนแนบชิดอยู่ข้างๆ ร่างกายอันกำยำ แขนเรียวบางพาดอยู่บนอกกว้าง ผิวกายเบียดเสียดกันอยู่อันนา ขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ อาการมึนหัวอย่างหนักปรากฏต่อเธอ เธอรู้สึกถึงไออุ่นของคนข้างกายความจริงที่แล่นเข้ามาในหัวทำให้เธอรีบขยับตัวออกห่าง ร่างกายยังคงอ่อนล้า แต่หัวใจเต้นรัวแทบระเบิดและเริ่มทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ยังมีร่างของใครบางคนนอนเปลือยอกอยู่ใกล้ๆ เธอดวงหน้าคมเข้มของเขาหลับไหลอยู่แต่ชวนให้น่ามองทุกส่วนของใบหน้านั้นอันนา ทบทวน เธอสะดุ้งตื่นและสำรวจตัวเอง ตัวเธอเหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วตัวเดียวห่อหุ้มตัวอยู่ เธอหน้าแดงก่ำ และนึกทบทวนว่าเธอจำอะไรได้บ้างพีท รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของเตียงนอน เขา ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองร่างของหญิงสาวที่กำลังสั่นเทาและกำลังสำรวจร่างกายตัวเอง เขาอมยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ อันนา หันมาเจอสายตาคมเข้มที่จ้องมองมาที่เธออยู่พอดี เธอรีบดึงผ้าห่มมาห่อหุ้มร่างกายให้มิดชิดทันทีชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ตลกในท่าทางของเธอ นี่เธอจำอะไรไม่ได้เลยหรือไง"นี่…นี่…นาย…นายทำอะไรฉัน

  • เคมี(หัวใจ) กับ นายวายร้ายวิศวะไฟฟ้า   บทที่ 23 เพราะฤทธิ์ยาปลุกอารมณ์ของกวิน

    ค่ำคืนเดียวกันนี้….เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ดังก้องไปตามเส้นทางที่มืดสลัว ลมกลางคืนพัดปะทะใบหน้า อันนา แต่กลับไม่ได้ช่วยให้เธอใจเย็นลงเลยสักนิด และเธอไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำส้มที่เธอรับมาดื่มจากกวิน นั้นแฝงไว้ด้วยอันตรายบางอย่างความคิดของเธอยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์ก่อนหน้า กับคำพูดและการกระทำของกวิน... และที่สำคัญ—สัมผัสของพีทอันนา กระชับอ้อมแขนรอบเอวของ พีท โดยไม่รู้ตัว ไออุ่นจากแผ่นหลังของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยไว้ใจเขาเลยพีท เองก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสของความวางใจที่เธอเริ่มมีให้เขามากขึ้น"ใกล้ถึงหอเธอแล้วนะ" พีท เอ่ยขึ้นลอยๆ น้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็ยังมีความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจอันนา ไม่ตอบ แต่เธอรู้ว่าใจของตัวเองกำลังสั่นไหว ภาพของ กวิน ในค่ำคืนนี้ยังตามหลอกหลอนเธอ ทว่า อ้อมกอดที่เธอพึ่งพิงอยู่ตอนนี้กลับมั่นคงจนเธอไม่อยากปล่อย เวลาผ่านไปสักพัก…. อันนา เริ่มรู้สึกว่าร่างกายร้อนวูบวาบขึ้นทุกขณะ ราวกับมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ภายในเธอรู้สึกเหมือนโดนบางอย่างควบคุม ความต้องการบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้พลุ่งพล่านอยู่

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status