Share

1-2

last update Last Updated: 2024-11-23 16:57:33

เสียงน้ำจากภายนอกเป็นระลอกคลื่นสูงมหึมาทำให้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน เมื่อนั่งหลับตาเพ่งจิต ตั้งสมาธิให้มั่น นางพอที่จะควบคุมสถานการณ์โคลงเคลง กระเด็นไปมาเหมือนลูกบอลกลิ้งในขวดแก้วได้ ถึงไม่รู้ว่าอยู่ในปากงูนานเท่าไร​

กระทั่งมาถึงแหล่งน้ำที่ไหนสักแห่ง จากการสัมผัสได้ถึงเสียงระลอกคลื่นสาดกระจาย กายอสรพิษโผล่พ้นขึ้นเหนือน้ำ นางอาศัยจังหวะที่ท่านเผยอปาก ลอดช่องเล็ก ๆ ถีบตัวเองออกมาในท่านอนหงาย สะบัดปลายเท้ากระโดดขึ้นอากาศ ถือวิสาสะเหยียบบนอุ้งมือหยาบซึ่งมีเล็บแหลมคมราวอุ้งมือของมังกร กระตุกดึงผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวโยนทิ้งไป

ตาสบตาใต้แสงจันทร์มืดสลัว เทพผู้ยิ่งใหญ่ท่าทางประหลาดใจ ยกนิ้วอันโอฬารขึ้นเพื่อพิจารณา

นางเป็นมนุษย์ สตรี ตัวเล็กกว่าดวงตาสีแดงอันน่ากลัวของท่านเสียอีก

“เจ้า... ยังมีชีวิตอยู่หรือ?”

“ท่านเทพหลงเหนียนจะแสดงความยินดีกับข้าไหมเล่า สงสัยว่าข้าหนังเหนียวไปสักหน่อย”

“เครื่องสังเวยที่ข้าพากลับมาทั้งสิบสองชีวิตเหลือเพียงเถ้ากระดูก พวกนางไม่สามารถทนพิษจากน้ำลายข้าได้ ไม่คิดว่าปีนี้... เจ้าเมืองหลงอี้จินจะส่งเซียนหญิงมา... หรือจะเป็นไปได้ว่า... คิดเป็นกบฏ ต่อต้านเทพ...” ปลายเสียงข่มขู่หญิงตรงหน้า นางยกฝ่ามือขึ้นปราม

“เดี๋ยวก่อนท่านเทพหลงเหนียน เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดกัน ข้าเป็นบุตรสาวของแม่นางเหยียน เมื่อท่านแม่คลอดข้าแล้วพบว่าข้ามีรอยปานแดงรูปงู จึงส่งข้าไปอยู่ตีนเขาวันเทียนหลงกับท่านอาจารย์ฮุ่ยหมิง ข้าได้รับการสั่งสอนวิทยายุทธ์มาเล็กน้อยเท่านั้น ข้ามิได้รู้เรื่องอะไรมากมายเลย ตัวข้ามิอาจนับว่าเป็นเซียนด้วยซ้ำ”

รอดตายมาทั้งที อาเป้ยไม่อยากให้พวกเขามีปัญหา นับว่านางจิตใจงดงามนัก นางคิดเข้าข้างตัวเอง ยืดแผ่นหลังตรงเอามือไพล่หลังอย่างหาญกล้า

“มนุษย์เช่นเจ้าล้วนโป้ปด วิชาเกราะกำบังของเจ้าต้องแข็งกล้าเทียบเท่าเทพเซียน จึงสามารถรอดชีวิตจากพิษของข้า”

“เป็นจริงดังท่านว่า หากอาจารย์ฮุ่ยหมิงมิได้ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ลำพังตัวข้า หากกางเกราะกำบังเองก็คงไม่รอด เชื่อเถิดว่าข้าพูดความจริง ท่านเจ้าเมืองหลงอี้จินไม่เคยคิดคดทรยศต่อท่าน ออกจะเทิดทูนเหล่าทวยเทพด้วยซ้ำไป มิฉะนั้นท่านจะส่งเครื่องสังเวยในทุกสิบสองปีเพื่อการใด”

เทพหลงเหนียนกลอกนัยน์ตาสีโลหิตไปมา แล้วจดจ้องนางเช่นเดิม

“ข้าจะส่งรายงานท่านราชาแห่งสวรรค์ตามที่เจ้าบอกข้ามาทุกอย่าง หวังว่าคำพูดของเจ้าจะไม่มาเป็นภาระแก่ข้าในภายหลัง”

สิ้นคำ อสรพิษกายายิ่งใหญ่โอฬารกลับกลายเป็นบุรุษร่างกำยำสวมอาภรณ์งดงาม เสื้อคลุมไหล่แขนยาวเป็นหนังเงามันเหมือนหนังงู ผ้าคาดเอวถักทอด้วยดิ้นทองปักลายอสรพิษ

ไยงูยักษ์น่ากลัวตนนี้จึงมีอุ้งมือมังกร? แม้แต่อาภรณ์ของท่านก็เป็นเช่นนั้น

นางขมวดคิ้วเข้าหากันในสีหน้ายุ่งเหยิง น่าแปลกสำหรับนางผู้ไม่ได้ละวางตาไปจากท่านเลยแม้สักอึดใจเดียว ขณะที่นางเพิ่งจะสูญเสียการทรงตัวเกือบร่วงลงน้ำ เมื่อท่านเทพอยู่ดี ๆ ก็แปลงกายไม่บอกนางสักคำ หากด้วยความว่องไวของนาง จึงแตะปลายเท้ากระโดดข้ามผืนน้ำไปอย่างทันท่วงทีที่เทพหลงเหนียนออกคำสั่ง

“ตามข้ามา”

บุรุษร่างกำยำวาดฝ่ามือทั้งสองออก ถีบปลายเท้าทะยานขึ้นสู่เวหา ท่านนำหน้านางไปอย่างรวดเร็วปานเทพแห่งสายลม ผ่านลำน้ำทอดยาวสุดตาในยามราตรี ดวงเดือนบนท้องนภาส่องสว่างลงมาให้พอมองเห็นหนทาง

ถัดจากพงไพรอันกว้างใหญ่อุดมสมบูรณ์เป็นเรือนหลังใหญ่ คล้ายจวนท่านเจ้าเมืองหลงอี้จินซึ่งนางจำได้แม่นยำตอนนางถูกทหารจับตัวมา ต่างตรงที่โดยรอบนั้นโอบล้อมด้วยห้วงนทีสีมรกตเปล่งประกายระยิบระยับ พฤกษาเบ่งบานสีจัดจ้านปานสีของโลหิต ยังมีบุษบันสีชมพูหวาน สีขาวสว่างผลิบานอย่างงดงาม

ไม่น่าเชื่อว่าความงามเบื้องหน้าได้ประจักษ์แก่สายตาของนาง เคยได้ยินเพียงหญิงชราเล่าขานกันว่าเทวโลกแสนสวยงามสะอาดสะอ้าน กว้างขวางกว่าโลกมนุษย์มากนัก เป็นที่พำนักอาศัยของเทพเซียนและเหล่าเทพ

เทวโลกทั้งชั้นฟ้า ชั้นดิน ชั้นน้ำ ยิ่งสูงเท่าไรยิ่งงดงาม เงียบสงบมากขึ้นเท่านั้น

“เจ้าโกหกข้าข้อหนึ่ง” เสียงเข้มว่า เทพหลงเหนียนหันกลับมาประจันหน้านาง ด้วยสายตาคมกริบราวมีดเฉือน “รู้วิทยายุทธ์เพียงเล็กน้อย วิชาตัวเบากลับร้ายกาจนัก เจ้าจึงสามารถไล่ตามข้าทัน”

“ข้าจำเป็นต้องตามท่านให้ทันเพราะข้าไม่อยากถูกทิ้งไว้กลางป่าต่างหากเล่า เท้าข้าร้าวระบมไปหมด ท่านเอาแต่กระโดดหนีข้า ไม่เหลียวมองสักนิดว่าข้าจะตามทันหรือไม่ จะไปรู้เรื่องได้ยังไงกัน”

ฝีปากอาเป้ยไม่เป็นรองใคร นางยกขาขึ้นถอดรองเท้ายับเยินหลังผ่านสมรภูมิมาหมาด ๆ เหลือบตามองซ้ายขวาอย่างอยากรู้อยากเห็น ทันใดนั้นเอง ท่านเทพผู้มีหน้าตาโกรธขึ้งบึ้งตึงตลอดเวลาเหาะเหินขึ้นเวหาไป นางรีบตาม ตะโกนไล่หลัง

“ท่านเทพหลงเหนียน! ได้โปรดอย่าเสกฟ้าฝนลมกริ้วทำลายบ้านเมืองข้าเลย ทุกถ้อยคำของข้าล้วนเป็นความจริง ข้ามิกล้าโกหกท่านแน่นอน”

“เป็นบัญชาสวรรค์ ข้าไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ”

นั่นปะไร! ข่าวร้ายข่าวใหญ่ของท่านเจ้าเมืองหลงอี้จิน! หากแล้วแต่บัญชาสวรรค์ แปลว่าพวกนางทั้งหลายก่อนหน้านี้ก็มาตายเปล่าน่ะสิ

อาเป้ยหน้าตาตื่นตระหนก ในขณะที่นางไม่มีโอกาสได้ไถ่ถามอะไรอีก เมื่อมาถึงหน้าประตูบานเลื่อนไม้สลักลวดลายของท้องนภา มองเข้าไปภายในห้องคับแคบมีที่นอนปูทับด้วยขนสัตว์ดูฟูนุ่ม โต๊ะไม้หนึ่งตัว เทียนเล่มใหญ่เพียงเล่มเดียวส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง

“เรือนข้าไม่ชอบที่จะต้อนรับแขก ที่พักของเจ้าคือห้องใต้ดิน ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าออกไปเพ่นพ่าน และอย่าได้ส่งเสียงรบกวนข้า”

“เดี๋ยวก่อนท่านเทพ...” นางยกมือรั้ง ทว่าด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ของท่านตอนนี้ พูดไปก็จะหาว่านางเรื่องมากจึงก้าวเข้าไปในห้อง เอ่ยเสียงอ่อน

“มนุษย์ต่างเล่าขานกันว่าท่านในร่างบุรุษมีใบหน้าสีดำ มีเขี้ยวอสรพิษ กายาแข็งแกร่งเต็มไปด้วยเกล็ดอันคมกริบราวใบมีด บางคราท่านอาจมีร่างเป็นงูคู่สองตัวพันกันแต่มีศีรษะเป็นมนุษย์ บางตำราว่าท่านเป็นงูพันรอบเต่า”

คิ้วเข้มหนาขมวดเข้าหากันถาม “อย่างนั้นรึ?”

“แต่ท่าน... เอ่อ... ดูดีกว่าที่ข้าได้ยินมา... ตัวท่านเวลานี้หากได้ไปเดินเที่ยวในโลกมนุษย์ สตรีจากทั่วหล้าคงรุมล้อมท่านหน้าหลังทีเดียว ท่านเทพหลงเหนียนช่างรูปงามนัก ราวหยกสลักก็มิปาน”

ปัง!

เทพหลงเหนียนสะบัดมือฟาดเวทเซียนใส่ประตู กลุ่มควันดำยังลอยอยู่ในอากาศ เจ้าสาวในชุดสีแดงสดสวยผู้ก้าวถอยไม่ทัน ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งตะลึงงัน เมื่อนางเพิ่งถูกปิดประตูใส่หน้า!

นางเพียงเชยชมท่านว่ารูปงาม แล้ว... นางพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ!?

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-3

    ปัญหาใหญ่ทว่าหากชักช้าไปจะไม่ทันกาล พยัคฆ์อัคคียอมปล่อยลูกของตนออกจากหน้าท้อง สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเจ้าพยัคฆ์ตัวน้อยกายพยัคฆ์ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวอัคคีครึ่งหนึ่งถูกพิษสีเขียว หนอนพิษชอนไชจนเห็นกระดูก นัยน์ตาใสซื่อบริสุทธิ์ของมันเอ่อคลอหยดน้ำใส มันไม่แม้จะส่งเสียงร้องออกมาเหล่าเทพถึงจะไม่ชอบสัตว์อสูรสักเท่าไร อดไม่ได้ที่จะสงสารเวทนาเจ้าพยัคฆ์ตัวกระจ้อยร่อย“ตำราเล่มหนึ่งกล่าวว่าสัตว์อสูรจำพวกพยัคฆาไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้ผู้ใดเห็นเป็นอันขาด นิสัยของท่านช่างคล้ายคลึงกับตัวข้านัก...”“ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้า”เทพอู่เฉินเอ่ยขึ้น ชิงลงมือนำหน้า วาดวงเวทสีดำเสกสายน้ำเป็นระลอกคลื่น ดึงแผ่นน้ำขึ้นสูงเพื่อจัดการกับมัจฉาก้าวร้าวให้ขาดอากาศหายใจไปเสีย ไม่ปล่อยให้เสียเวลาแม้สักน้อย ใต้เท้าจีกงรีบปราม “ระวังด้วยเทพอู่เฉิน ดอกบัวสีทองจะขาดน้ำหล่อเลี้ยงรากไม่ได้เป็นอันขาด จะแห้งตายในทันที”“ข้าว่าไม่ง่าย... ต้องร่วมใจเป็นหนึ่ง”อาเป้ยสะบัดปลายเท้า กระโดดข้ามอากาศไปยืนถัดจากเทพอู่เฉินในระยะห่างพอสมควร เพื่อมองทิศทางน้ำในอีกด้านหนึ่ง เทพแห่งสายน้ำทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน รีบไปยืนคนละทิศ ทั้งสี่มุมสร

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-2

    “ข้าเชื่อก็คือเชื่อ... ท่านเคยได้ยินไหมว่าเปลี่ยนความเชื่อมนุษย์นี้ยากกว่ายกภูเขาทั้งลูกเสียอีก”“ข้าเพิ่งจะเอ็ดเจ้า”“ข้าขอนับเป็นความหวังดี ใช่ว่าท่านอยากจะเอ็ดจะว่าข้าเสียเมื่อไร ท่านใจดีกับข้า” นางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลง “และที่ท่านยอมช่วยเหลือพยัคฆาน้อยวันนี้ นับเป็นบุญกุศลของท่าน ข้าเชื่อเรื่องบุญกรรมวาสนา การทำความดี สิ่งดี ๆ จะย้อนกลับมา”อาเป้ยยิ้ม เงยหน้ามองเทพอู่เฉินในร่างสีดำทะมึนด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าเทพอู่เฉินคงไม่สบอารมณ์นางนัก ไม่หลงกลคารมนาง“เจ้าพูดจาได้ดี... ทั้งที่เพิ่งจะขังเทพผู้ยิ่งใหญ่ของมนุษย์เอาไว้ใต้ที่นอนในห้องใต้ดิน ห่อร่างข้าด้วยผ้าห่มเหม็นเน่าของเจ้า ทำให้ข้าในร่างครึ่งงูครึ่งบุรุษต้องติดอยู่ใต้เตียงถึงสองคืน”อาเป้ยเพิ่งนึกออกว่าลืมท่านเทพเอาไว้ หลังร่ายเวทอำพรางตาเปลี่ยนประตูให้กลายเป็นกำแพง ส่วนตัวนางนั่งน่ะหรือ เล่นหมากเซี่ยงฉี หัวเราะร่าเริงบันเทิงใจ ไปเที่ยวชมพรรณพฤกษาในป่ากับสองบุรุษเทพแห่งสายน้ำ!阿贝 อาเป้ย...宝贝 bǎobèi (เป่าเป้ย)ลูกรัก ที่รัก...ชื่อของนางคงมีรากฐานมาจากคำในความหมายว่านางคือผู้เป็นที่รักต่อทุกสรรพสิ่งเทพอู่เฉินมองเ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-1

    พยัคฆ์อัคคียอมบอกความจริงต่อเทพว่าต้องการหยกพันปีไปฟื้นฟูพลังกายของบุตรชายตัวน้อย ซึ่งเล่นซนไปสักหน่อยจึงถูกพิษของป๋ายเซี่ยสัตว์อสูรจำพวกปูยักษ์มีวิถีนักล่าที่แปลกประหลาด ไม่กลืนเหยื่อเข้าไปทว่าจะฝังคมเขี้ยวไว้ รอให้แผลเน่าและถูกพิษกัดกินเสียก่อน ให้เหยื่อทุรนทุราย ร่างกายขยับไม่ได้เมื่อไรค่อยกลับมาจัดการอีกครั้งหนึ่งทั้งปีศาจและอสูรไม่ใช่ทุกเผ่าจะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน อสูรหลายตนนี้เป็นพวกเดียวกับพยัคฆ์อัคคี ซึ่งเป็นสัตว์อสูรในตำนาน จัดอยู่ในระดับที่มีพละกำลังใกล้เคียงกับปีศาจส่วนอสูรปักษาซึ่งมาก่อกวนคราวก่อนนั้นต้องการหยกพันปีไปทำอะไรไม่รู้ได้ ถึงคราวนี้ไม่มาปรากฏตัวแต่คราวหน้าไม่รู้ว่าจะมาหรือไม่อาเป้ยเห็นสัจธรรมอีกข้อหนึ่งว่ามนุษย์มีการแบ่งแยกเป็นหลายชนเผ่า เหล่าปีศาจและอสูรก็เช่นกัน ถึงบนเทวโลกไม่วุ่นวายเท่าโลกมนุษย์ แสนจะวุ่นวายนัก ต่างฝ่ายสู้รบกันเพื่อสนองกิเลส ยกตัวอย่างเช่นท่านเจ้าเมืองหลงอี้จินผู้ส่งเครื่องสังเวยให้แด่เทพด้วยความเชื่อของท่าน ก็ปรารถนาต้องการอำนาจจากเทพ หวังให้ผู้คนเคารพสยบต่อท่านณ สถานที่แห่งนี้ปีศาจยังอาจกลืนกินปีศาจด้วยกันเองเพื่อสูบพลังเวท ในขณะที่เทพ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-3

    ผ่านไปสามราตรีกาลไม่มีอะไรคืบหน้าปีศาจนับสิบตนยังพยายามตามหาเทพอู่เฉินในเรือนแต่ไม่พบท่านตามที่นางว่าทางด้านฝั่งเทพเลิกต่อต้านอสูรปีศาจ ปล่อยให้เดินไปเดินมาตามใจ ระหว่างรอก็ชักชวนกันฆ่าเวลา นั่งฝึกปัญญาด้วยหมากเซี่ยงฉี เหล่าเทพผู้น้อยช่วยกันซ่อมแซมพื้นเรือนด้านหน้าให้กลับมาสวยสะอาดเรียบร้อยดังเดิมแล้ว บ่าวงูทั้งสองยังกลับมาเอาความกับนางเรื่องเทพอู่เฉินไปอยู่ที่ใด“หวังว่าเจ้าจะไม่โป้ปดพวกข้า มิฉะนั้นเจ้าจะถูกลงโทษสถานหนักทีเดียว”“ท่านรอถามเทพอู่เฉินด้วยตัวท่านเองก็แล้วกัน ท่านซื่อหยูอี้ ท่านเซียวอี้หรู ข้าหน่ายจะอธิบายความให้ท่านฟัง เพราะว่าท่านไม่เคยจะฟัง”อาเป้ยกำลังวัดฝีมือกับเทพแห่งสายน้ำ บนโต๊ะหินใต้ต้นไม้สูงใหญ่ ลมพัดเย็นสบาย นางคีบหมากเฉียมุ่งไปดักโจมตีถึงในบ้านของอีกฝ่าย ทว่านางคงไม่ชำนาญงาน จึงไม่ได้ดูเลยว่ามีองครักษ์คอยป้องกันอยู่"เก็บพลังเวทไว้ใช้ยามจำเป็น กำชัยชนะโดยไม่ต้องออกรบ เจ้าเฉลียวฉลาดนัก อาเป้ย” เทพแห่งสายน้ำเอ่ยคำชื่นชมนาง จากเคยว่านางเป็นสตรีควรนิ่งเงียบเสียก็เปลี่ยนความคิดใหม่บนโลกของทวยเทพ เทพสตรีออกเรือนแล้วยังต้องเชื่อฟังและอยู่ในโอวาทสามีเช่นเดียวกับมน

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-2

    นางยิ้มแล้วจึงพูด “ข้าขออภัย แต่อาจารย์ข้าพร่ำสอนเรื่องการมีมารยาท หากผู้ใดถามคำถามข้า ข้าควรต้องตอบให้ชัดเจนเท่าที่ข้าทราบ แถมตัวข้ายังมิใช่สตรี มิใช่ภรรยาของผู้ใด ข้าอยู่เยี่ยงบุรุษมาทั้งชีวิต บนโลกมนุษย์ข้ามีป้ายชื่อเด็กชาย เป็นข้ารับใช้นักพรต ตัวข้าไม่เคยมีแม้โอกาสจะได้ปักปิ่นผมเยี่ยงสตรีด้วยซ้ำ”นางยังอวดป้ายชื่อบุรุษของนางว่าอาเป้ย ซึ่งมีสีแตกต่างไปตามแคว้นที่อาศัยให้เทพดูเสียด้วย ทว่าเหล่าเทพคงไม่ได้สนใจ ถือโอกาสพักเอาแรงระหว่างทุกคนหันมองนางเป็นตาเดียวในเมื่อนางเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีผู้ใดชิงชังนาง อย่างมากคงแค่รำคาญใจเท่านั้น อาเป้ยถีบขาทะยานขึ้นอากาศ​ เหยียบลงบนพื้นหินหน้าพยัคฆา นางเกิดมีความคิดว่าสัตว์อสูรตนนี้เฉลียวฉลาดกว่าตนอื่น น่าจะพูดจารู้เรื่อง“ข้าว่าท่านเอาเวลาไปตามหาหยกพันปีเสียดีกว่า ในเมื่อท่านอู่เฉินให้คำอนุญาตแล้ว ท่านบอกด้วยตัวท่านเองว่ามันอยู่บนเกาะเทพอุดรแห่งนี้ ยังฝากข้าเป็นธุระมา ทั้งเทพและปีศาจ เชิญตามอัธยาศัย” นางก้มศีรษะทำความเคารพทั้งสองฝั่งอย่างนักปราชญ์ ผู้มีปัญญาเป็นที่ตั้ง ต่างฝ่ายจึงสงบสติอารมณ์ลงเพราะคารมของนาง“ข้าเอง... อยู่เฉย ๆ ไม่มีอ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-1

    เทพอู่เฉินในร่างปีศาจมีช่วงเวลาจำศีลหลายราตรี สักห้าสิบถึงหนึ่งร้อยปีจะลอกคราบเก่าของตนสักครั้งเช่นเดียวกับนางเฟยอี๋ ใช้เวลามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพลังเวทในกาย ซึ่งหลังจากลงไปรับเครื่องบรรณาการบนโลกมนุษย์ เดินทางข้ามภพภูมิกลับมายังเทวโลกทำให้สูญเสียพลังไปมาก คงซ่อมแซมตนได้ไม่ดีนักเทพและปีศาจต่อสู้กันมาสองราตรีแล้ว...อาเป้ยเดินไปเดินมาอย่างระวังไม่ให้เป็นภาระผู้ใด นางหลบเข้าไปนอนบ้าง เอามือปิดหูปิดประตูห้องเงียบเชียบ เสียงกระบี่ดังกระทบกัน พื้นดินแตกหักเป็นเศษเป็นชิ้น เสียงตะโกนบริภาษอย่างเกรี้ยวกราด แสงสีเสียงทอดดังมาเป็นระยะ ต่างฝ่ายตะโกนโหวกเหวกโวยวายทะเลาะวิวาทกันไม่จบสิ้น ไม่มีวี่แววว่าฝ่ายใดจะยอมเลิกราท้ายที่สุดนางก็ทนไม่ไหว จึงลองเดินหาห้องพักจำศีลของเทพอู่เฉินดูว่าอยู่ที่ใดห้องพักของเทพอู่เฉินหาไม่ยากนัก อยู่ถัดจากลานกว้างที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน นางคิดว่าท่านเทพคงไม่กลัวเกรงในสิ่งใดเลยจำศีลอย่างโจ่งแจ้ง นางยังเห็นว่ามีบุรุษเทพรูปงามร่างสูงใหญ่แต่งการด้วยอาภรณ์งดงามดูมีภูมิฐาน และอีกสี่คงเป็นลูกสมุนของฝั่งเทพแห่งสายน้ำตามมาสมทบนางเคาะประตูห้องอย่างมีมารยาท ทว่าไม่ได้ยินเสีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status