Share

บทที่ 2 ดื้อรั้น

last update Last Updated: 2025-11-09 13:09:52

        เรือนตระกูลเจียงยังคงวุ่นวาย เจียงซิงอีฮูหยินของเรือนแม้จะได้รับคำปลอบโยนจากสามีก่อนหน้านี้แล้ว หากแต่คล้อยหลังสามีกลับเป็นลมล้มพับหลายคราจนหมอยาต้องเหงื่อตก ซูเม่ยกลับถึงเรือนเห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นแม้คาดการณ์ไว้แล้วแต่ยังอดเป็นห่วงมารดาไม่ได้

                “ท่านหมอ ท่านแม่เป็นอย่างไรบ้าง” สายตาซูเม่ยจับจ้องสตรีร่างกายผอมแห้งบนเตียงนอน โดยที่ยังมีเจียวเจียวสาวใช้ข้างกายดูแลอยู่

                “ฮูหยินเจียงทุกข์ใจฉับพลัน จึงหมดสติหลายครั้งจากนี้คุณหนูเจียงจำต้องปลอบใจนางให้ดีขึ้น”

                “ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านหมอ”

        ซูเม่ยถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า กวีบทเดียวทำให้บิดาที่ทำความดีทั้งชีวิตต้องรับโทษ มารดาซึ่งอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วต้องตรอมใจรับความเป็นจริงไม่ได้ ซูเม่ยได้แต่ตัดพ้อโชคชะตา

                “อาเม่ย” เสียงอ่อนแรงของมารดาดังขึ้นพร้อมมือสั่นเทายื่นมาคว้ามือซูเม่ย น้ำใสที่ไหลออกจากหางตาทำให้นางรู้ว่ามารดายังคงทำใจเรื่องบิดาถูกทางการนำตัวไปไม่ได้

                “ท่านแม่เป็นอย่างไรบ้าง”

                “พ่อเจ้าถูกนำตัวไปแล้ว เช่นนี้เราจะทำเช่นไรดี”

                “ท่านแม่โปรดวางใจ ท่านพ่อสัญญาว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย ตอนนี้รอท่านพี่กลับมาจากทำการค้าต่างเมืองเสียก่อนค่อยหารือกัน” ซูเม่ยปลอบใจมารดาพลางตบหลังมือนางเบา ๆ

                “หากเราสามารถเข้าเมืองหลวง ไปขอร้องตระกูลเพ่ยได้คงดีกว่านี้” เจียงซิงอีได้แต่พึมพำลำพัง

                “ตระกูลแม่ทัพใหญ่น่ะหรือเจ้าคะ” ซูเม่ยสนใจทันที

                “ถูกแล้ว ฮูหยินเอกของจวนแม่ทัพแต่ก่อนเคยเป็นสาวใช้ข้างกายแม่ตั้งแต่อยู่ตระกูลไป๋ ก่อนแม่จะแต่งออกมานางถูกแม่ทัพใหญ่ที่ตอนนั้นยังเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเพ่ยสู่ขอ”

                “แล้วเหตุใดตระกูลเพ่ยถึงจะช่วยท่านพ่อได้”

                “ท่านผู้เฒ่าตระกูลเพ่ยเคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่อดีตฮ่องเต้องค์ก่อน จนได้รับตราอภัยโทษเว้นโทษตายได้หนึ่งครั้ง” เจียงซิงอีเล่าด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ความคิดนี้ของนางช่างเป็นไปได้ยาก

                “ท่านแม่หมายถึง หากตระกูลเพ่ยยอมมอบตรานั่นให้เราใช่หรือไม่” แม้เป็นไปได้ยากทว่าซูเม่ยกลับมีความหวัง

                “ช่างเถิดตรานั่นสำคัญกับตระกูลเพ่ยเช่นกัน การมอบให้คนนอกนั้นเป็นไปไม่ได้ เช่นไรก็รอพี่ชายเจ้ากลับมาก่อนค่อยหารือแล้วกัน”

                “อือ” ซูเม่ยพยักหน้ารับคำมารดา หากแต่ในใจกลับไตร่ตรองสิ่งที่จะทำในทันที

        วันรุ่งฟ้ายังไม่สว่างอาชาสีดำขลับหยุดลงหน้าจวนตระกูลเจียง บุรุษรูปงามหน้าละม้ายคล้ายซูเม่ยรีบลงจากหลังม้า มุ่งหน้าไปยังเรือนของมารดาในทันที

                “ท่านแม่!” เสียงตื่นตกใจปลุกให้เจียงซิงอีตื่นจากนิทรา

                “เฉิงหยวน! หยวนเอ๋อร์ของแม่” ซิงอีสะอื้นไห้เมื่อได้พบหน้าบุตรชายในรอบครึ่งปีทว่ากลับมิได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว ทำให้นางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานอีกครั้ง

                “พ่อเจ้าถูกทางการจับไปแล้ว เราจะทำอย่างไรดี” น้ำตาของมารดายังคงไหลชุ่มเสื้อของเฉิงหยวน

                “ท่านแม่อย่าพึ่งร้อนใจ ท่านพ่อไม่มีทางทำให้ตนตกอยู่ในอันตรายโดยไม่วางแผนล่วงหน้าแน่” เฉิงหยวนแม้ไม่รู้เหตุผลของบิดา ทว่ากลับมั่นใจว่าบิดามีเหตุผลที่ร่ายกวีดูแคลนฮ่องเต้และเหล่าขุนนางเช่นนั้น

                “หากครั้งนี้พ่อเจ้าไม่มีแผนรับมือเล่า หากครั้งนี้เพราะความเมามายจนทำให้บิดาของเจ้าพลั้งปากแต่งกวีที่ไม่เหมาะสมเช่นนั้นขึ้นมาเล่า” ฮูหยินเจียวยังคงร้อนใจ ภายในร้อนรนจนมิอาจมองในแง่ดีได้

                “ท่านแม่วางใจเถอะ สุราเพียงกาเดียวมิอาจทำท่านพ่อเมามายได้ แต่ก่อนตอนอยู่จวนโหวของท่านตาสุราสิบกายังทำให้ท่านพ่อสามารถเขียนอักษรมงคลอวยพรท่านตาได้เลย ท่านแม่ลืมแล้วหรือ

        คำปลอบของบุตรชายทำให้เจียงซิงอีคิดไตร่ตรองเรื่องในอดีต แม้สามีนางไม่ชอบดื่มสุราหากแต่ก็ดื่มเก่งไม่เบา สุราไม่เคยทำให้เขาเมามายจนขาดสติได้ คิดได้เช่นนั้นนางจึงเบาใจลงบ้าง

                “อาเม่ยเล่าขอรับ?” สิ่งนี้ต่างหากที่ทำให้เฉิงหยวนรีบร้อนกลับมา น้องสาวที่มีนิสัยดื้อรั้นคนนี้ต้องไม่ยอมอยู่เฉยแน่ 

                “อยู่เรือนของนาง แม่ให้บ่าวไพร่เฝ้าไว้ทั้งเช้าค่ำแล้วเจ้าไม่ต้องห่วง” ซิงอีเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

                “เช่นนั้นลูกจะไปพบน้องสาวเสียหน่อย” แม้มีบ่าวไพร่เฝ้าแต่เฉิงหยวนกลับไม่ไว้ใจ สติปัญญาที่โดดเด่นของนางไม่ใช่จะใช้ทำในเรื่องดี ๆ เสมอไป

        เรือนเล็กหลังสวนยังคงเงียบสงบ ประตูยังคงปิดสนิทบ่งบอกว่าเจ้าของเรือนยังไม่ตื่นจากนิทรา บ่าวไพร่ยังคงยืนล้อมหน้าหลังเรือนอย่างแน่นหนา

                “คารวะคุณชายใหญ่” เจียวเจียวสาวใช้ข้างกายที่นำน้ำล้างหน้ามาให้ซูเม่ยพอดียอบกายเคารพ

                “คุณหนูตื่นหรือยัง?”

                “ยังเจ้าค่ะ”

                “เช่นนั้นปลุกนาง บอกข้ารออยู่ห้องโถง”

        ภายในห้องโถงเรือนเล็กยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ของตกแต่งภายในห้องโถงกลับไม่ใช่ดอกไม้หรือของสวยงามเช่นสตรีชื่นชอบ หากแต่เป็นตำรามากมายถูกวางไว้ทุกที่คล้ายกับเป็นห้องตำรามากกว่าเป็นห้องที่ใช้รับแขก

                “ท่านพี่!” ซูเม่ยยอบกายใบหน้ายิ้มดีใจ

                “ไม่เจอกันนาน เจ้ายังชื่นชอบตำราเช่นเดิม” เฉิงหยวนเย้าน้องสาวเล่น

                “แล้วครั้งนี้ท่านนำตำรามาฝากข้าอีกหรือไม่?” ซูเม่ยมองหาของฝากจากพี่ชาย

                “ครั้งนี้ด้วยเรื่องท่านพ่อ ฃพี่รีบกลับมาก่อน ขบวนการค้าของตระกูลยังไม่กลับมาเกรงทำเจ้าผิดหวังแล้ว” เฉิงหยวนนั่งลงดื่มชาเพื่อดับกระหาย

                “ท่านพี่ไปต่างเมืองบ่อย รู้เรื่องตระกูลเพ่ยดีมากน้อยเพียงใดเจ้าคะ?” ซูเม่ยนึกถึงเรื่องที่มารดาเล่า

                “เจ้าคิดจะให้ตระกูลเพ่ย ที่มีฮูหยินเคยเป็นสาวใช้ท่านแม่ช่วยเหลือหรือ”

                “อือ” นางไม่คิดปิดบัง

                “เจ้าลืมไปเสียเถิด” เฉิงหยวนบอกปัด

                “เหตุใดเล่าเจ้าคะ”

                “ฮูหยินตระกูลเพ่ยแม้เป็นสตรีที่ท่านแม่ทัพรักมากสุดหัวใจ ทว่าฮูหยินผู้เฒ่ากลับไม่พอใจด้วยฐานะที่แตกต่าง จนแล้วจนรอดจึงบังคับให้แม่ทัพแต่งบุตรสาวของราชครูเป็นฮูหยินรอง แม้ไม่เต็มใจแต่ด้วยความกตัญญูการแต่งงานก็เกิดขึ้นอยู่ดี อีกทั้งฮูหยินรองดันคลอดบุตรชายคนโตให้ท่านแม่ทัพ แลยังมีความสามารถด้านบุ๋นที่ไม่ผู้บัณฑิตใดเทียบได้ ต่างจากบุตรชายคนรองที่แม้จะเกิดจากฮูหยินเอก กลับไม่เอาไหนเที่ยวเล่นไปวัน ๆ นานวันเข้าท่านแม่ทัพก็เริ่มหนักใจ แม้ตอนนี้ยังรักบุตรชายคนนี้อยู่มาก หากการเลือกผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปต้องเลือกจากความสามารถ เช่นนี้ฮูหยินเอกจะมีอำนาจใดต่อรองกับแม่ทัพเพื่อขอตราอภัยโทษให้เจ้าได้”

                “มันก็ไม่แน่หรอก บางทีแม่ทัพอาจจะเห็นแก่บุญคุณของท่านแม่ที่ช่วยดูแลฮูหยินของเขาดั่งเช่นน้องสาวยอมช่วยเหลือเราก็ได้” ซูเม่ยยังไม่คิดถอดใจ

                “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?” เฉิงหยวนหยั่งเชิงน้องสาว

                “เปล่าเสียหน่อย เมืองหลวงอยู่ไกลข้าเองไม่รู้จักจะไปได้อย่างไร จำต้องเชื่อฟังท่านกับท่านแม่อยู่แล้ว”

                “เช่นนั้นก็ดี”

          แม้เฉิงหยวนไม่อยากเชื่อนาง ทว่าตอนนี้เขายังทำสิ่งใดไม่ได้ จำต้องกำชับเวรยามให้จับตาดูนางต่อไป เกรงว่าความเฉลียวฉลาดของนางจะทำให้เกิดเรื่องเข้าในสักวัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจียงซูเม่ย บุตรสาวตระกูลเจียง   บทที่ 16 นำมาเป็นภาระ

    รถม้าหยุดลงหน้าจวนเสนาบดีฝ่ายซ้าย เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ต่างพาบุตรชายบุตรสาวเข้าร่วมงาน “ท่านต้องการให้ข้าทำอะไร” ซูเม่ยมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้า พลางถามสิ่งที่นางสงสัยว่าเขาพานางมาด้วยทำไม “กันเหล่าสตรีออกจากข้า” หยางอี้จัดอาภรณ์ตนให้เรียบร้อย ก่อนกำชับคำสั่งแสนเรียบง่ายทว่ากลับทำได้ยากยิ่ง “ข้าเป็นเพียงสาวใช้ จะขวางทางเหล่าคุณหนูบุตรีขุนนางใหญ่โตของราชสำนักได้อย่างไร” “นั่นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” เขากล่าวจบก็ลงจากรถม้าโดยไม่สนสายตาขอความเห็นใจของสตรีเบื้องหน้า ภายจวนเสนาบดีฝ่ายซ้ายถูกตกแต่งอย่างโออ่า เหล่าขุนนางใหญ่ต่างนั่งร่วมโต๊ะดื่มชา คุณหนูตระกูลใหญ่จับกลุ่มชมบุปผาอีกฝั่งของสระบัว โดยเหล่าคุณชายนั่งชมความงามของสตรีอยู่อีกฝั่ง งานในวันนี้แท้จริงแล้วมีจุดประสงค์ให้หนุ่มสาวได้เลือกคู่ครอง ทว่าสตรีที่โดดเด่นของงานนี้กลับเป็นคุณหนูจูลี่เฉี่ยวบุตรีเพียงคนเดียวของใต้เท้าจู ซูเม่ยยืนมองหยางอี้ที่บัดนี้กลายเป็นจุดศูนย์กลางให้เหล่าคุณชายรุมล้อมแย่งกันตีสนิท ทว่าเขากลับนิ่งเฉยไม่สนจะร่วมวงสนทนาด้วย

  • เจียงซูเม่ย บุตรสาวตระกูลเจียง   บทที่ 15 สิ้นหวัง

    “ซูเม่ยเจ้าอย่าพึ่งร้อนใจ.......” ยังไม่ทันที่อี้เฉิงจะกล่าวจบ ซูเม่ยหันหลังกลับออกไปโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา “ท่านแม่เหตุใดถึงทำเช่นนี้” อี้เฉิงมองมารดาด้วยความผิดหวัง “แม่ขอโทษ แม่เพียงเห็นว่าช่วงนี้เจ้ามีสมาธิในการท่องตำรา หากบอกเรื่องนี้ออกไปนางจะไม่มีกะจิตกะใจช่วยเจ้าทบทวนตำรา จึงได้คิดเห็นแก่ตัว” หลี่หว่ารู้สึกผิดต่อซูเม่ยอยู่มาก “นี่!” อี้เฉิงกล่าวสิ่งใดไม่ออก ในใจคิดเป็นห่วงสตรีที่พึ่งออกจากเรือนเขารีบหันกายตามนางไป ซูเม่ยไม่รู้จะทำเช่นไรในตอนนี้ ไม่รู้จะไปที่ใดได้แต่เดินตามท้องถนนยามตะวันใกล้ลับขอบฟ้าเพียงลำพัง แสงสุดท้ายของวันค่อย ๆ ลับขอบฟ้าสองข้างทางในเมืองหลวงที่มีคนพลุกพล่านตลอดทั้งวันบัดนี้เริ่มบางตา ลมพัดผ่านต้นไม้ยามเย็นทำให้อากาศที่ร้อนระอุตลอดทั้งวันกลับมาเย็นสบายอีกครั้ง ทว่าในใจของนางกลับเหน็บหนาวความพยายามตลอดสองเดือนของนางดูไร้ความหมาย แม้ว่าจะอดทนรอเพียงใดกลับเหมือนถูกสวรรค์กลั่นแกล้งให้ต้องผิดหวังจนได้ โรงเตี๊ยมซูเจียงตั้งอยู่เบื้องหน้า ไม่รู้ว่านางเดินมานานเพียงใดแล้วจนบัด

  • เจียงซูเม่ย บุตรสาวตระกูลเจียง   บทที่ 14 หลงเชื่อใจ

    อี้เฉิงไม่ได้ดีใจเหมือนแต่ก่อนเมื่อคิดว่าจะได้เจอมู่หยุนเสี่ยว เขาเพียงทำตามที่ซูเม่ยบอก แจ้งสาวใช้ว่าตนนำแจกันราคาเพียงหนึ่งตำลึงมามอบให้คุณหนูมู่ เพียงไม่นานหยุนเสี่ยวก็เปิดประตูออกมาพบเขาที่หน้าจวน แม้นี่เป็นครั้งแรกที่นางยอมออกมาพบทว่าเขากลับไม่ได้ดีใจลิงโลดดั่งที่คิดไว้ กลับกันเขาเพียงรู้สึกโล่งอกเท่านั้น “คุณชายรองเพ่ย” หยุนเสี่ยวยอบกายทักทาย “ขออภัยคุณหนูมู่ที่มารบกวนเวลานี้ ข้าได้ยินจากซูเม่ยว่าท่านตามหาแจกันเนื้อดี บังเอิญข้าพบกับช่างทำแจกันเห็นว่าเนื้อดินละเอียดสวยงามไม่แพ้แจกันราคาแพง จึงนำมาฝากคุณหนูมู่ด้วย” อี้เฉิงกล่าวพลางยื่นแจกันให้สตรีเบื้องหน้า “ขอบคุณคุณชายรองที่มีน้ำใจ ข้ากำลังหาแจกันราคาถูกอยู่จริงเพราะอยากได้ใส่ดอกไม้ถวายพระโพธิสัตว์พอดีเจ้าค่ะ” ใบหน้างามยิ้มบางให้เขาเป็นครั้งแรกพลางรับแจกันลายโบตั๋นสีขาวบริสุทธิ์จากผู้มอบ อี้เฉิงเพียงยิ้มตอบตามมารยาท “เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว ขอตัวก่อน” หยุนเสี่ยวแปลกใจไม่น้อยนางนึกว่าเขาอยากจะรั้งอยู่ต่อนานกว่านี้เสียอีก ทว่านางกลับไม่ถาม

  • เจียงซูเม่ย บุตรสาวตระกูลเจียง   บทที่ 13 ไร้สิ้นหนทาง

    อาจารย์อู๋ชายชราอายุแปดสิบปีอ่านบทความของลูกศิษย์ที่ตนหวังรับเป็นคนสุดท้ายด้วยแววตาปลาบปลื้ม “คุณชายรองเพ่ยก้าวหน้าขึ้นไม่น้อยเลย” แววตาชื่นชมมองมายังอี้เฉิงที่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ “เพราะมีอาจารย์คอยชี้แนะขอรับ” บุรุษหนุ่มยิ้มกว้าง “หากจะสอบให้ได้ขุนนางปีนี้เจ้าทำได้แน่ แต่ถ้าหากอยากหวังตำแหน่งจอหงวนยังห่างไกลนัก” อาจารย์อู๋กล่าวตามตรง “ศิษย์ไม่หวังตำแหน่งสูงเพียงนั้น เพียงไม่ทำให้มารดากับคนในครอบครัวต้องผิดหวังก็พอ” อี้เฉิงกล่าวพลางมองไปยังซูเม่ยที่นั่งยิ้มยินดีกับเขาอยู่มุมห้อง วันนี้ทุกอย่างดูสดใสไปหมด การตรากตรำเรียนตำรามากว่าสองเดือนของอี้เฉิงไม่สูญเปล่า บุรุษตัวสูงยิ้มหน้าบานเดินออกจากสำนักศึกษาอย่างภาคภูมิ ทำซูเม่ยที่เดินตามหลังอดขำกับความภาคภูมิใจนี้ของคุณชายตนไม่ได้ “วันนี้เจ้าอยากกินอะไร ข้าเลี้ยงเอง” อี้เฉิงหันกลับมาถามสาวใช้ที่เดินตามหลัง “อืม....” ซูเม่ยคิดหนัก นางต้องกินของอร่อย ๆ สมกับที่เหน็ดเหนื่อยช่วยทบทวนตำราให้เขามาสองเดือนเต็ม “เช่นนั้นกิ

  • เจียงซูเม่ย บุตรสาวตระกูลเจียง   บทที่ 12 ช่วยเหลือ

    ตลอดเส้นทางกลับจวนอี้เฉิงเอาแต่เหม่อลอย เขานั่งพิงกรอบหน้าต่างรถม้าทอดสายตาออกไปภายนอก โดยไม่สนทนาใด ๆ กับซูเม่ยอีก ไม่ต่างจากนางที่ลอบสังเกตอาการของคนผิดหวังจากความรัก โดยที่ไม่กล่าวคำใดออกมาเช่นกัน รถม้าหยุดนิ่งหน้าจวนแม่ทัพใหญ่ ทว่าคุณชายรองของตระกูลยังไม่รู้สึกตัว ทำให้ซูเม่ยต้องกล่าวเตือน “คุณชายเพ่ย ถึงจวนแล้วหากท่านยังไม่อยากลง เช่นนั้นข้าเข้าจวนก่อนแล้วกัน” นางกล่าวก่อนลงจากรถม้าไป แต่พึ่งก้าวพ้นประตูจวนกลับถูกมื้อของอี้เฉิงรั้งแขนนางไว้ “เช่นนั้นเจ้าช่วยข้า” เสียงที่กล่าวขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ซูเม่ยต้องหันกลับไปมอง บุรุษเจ้าของเสียงมองมายังนางด้วยแววตาจริงจัง บ่งบอกว่าคำพูดเมื่อครู่เขาหมายความตามที่พูดจริง “ช่วยท่าน ช่วยท่านเรื่องอะไร” นางไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการสื่อ ก่อนที่จะจ้องมองไปยังแขนเรียวที่ถูกมือของอี้เฉิงรั้งไว้ไม่ยอมปล่อย คิ้วโก่งขมวดแน่นพลางมองสบตาอีกฝ่ายเป็นสัญญาณให้เขาปล่อยมือจากนาง หากทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สนใจ “เป็นแม่สื่อให้ข้า ช่วยให้ข้าเข้าหามู่หยุนเสี่ยว”

  • เจียงซูเม่ย บุตรสาวตระกูลเจียง   บทที่ 11 นับเป็นสหาย

    รุ่งเช้ายังไม่ทันที่ซูเม่ยจะผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ได้เรียบร้อย แม่นมกุ้ยคนสนิทของฉิงอันกลับมาลากตัวนางไปยังเรือนฮูหยินรองเสียแล้ว “คารวะฮูหยินรอง” นางมองสตรีสูงศักดิ์แต่งกายด้วยอาภรณ์ที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมชั้นดี ท่าทางเย่อหยิ่งทำให้ผู้คนมิกล้าเข้าใกล้ “ได้ยินว่าเจ้าไปร่ำเรียนเป็นเพื่อนคุณชายรองเป็นการส่วนตัวกับอาจารย์อู๋” เพ่ยฉิงอันกล่าวไม่ไยดี พลางเป่าชาในถ้วย “เจ้าค่ะ” “เด็กคนนั้นเรียนเป็นอย่างไรบ้าง” “แม้คุณชายรองจะมีความรู้ไม่โดดเด่น แต่เขาก็ตั้งใจศึกษาไม่น้อยเจ้าค่ะ” ซูเม่ยรู้ว่าฮูหยินรองไม่พอใจต่ออี้เฉิง ที่ถูกท่านแม่ทัพเอ็นดูกว่าบุตรชายของนาง “หลี่หว่าคิดให้บุรุษที่เพิ่งเริ่มอ่านตำราได้ไม่นาน สอบแข่งขันขุนนางกับหยางอีหรือ” ฉิงอันวางถ้วยชาลงก่อนจ้องสาวใช้ผู้มาใหม่อย่างไม่เป็นมิตร “ข้าน้อยไม่ทราบ” “หึ! ครั้งนี้หลี่หว่าเลือกสาวใช้ได้ดีนี่ กล้ามีปากเสียงมิเกรงกลัวข้าจนตัวสั่นเหมือนสาวใช้คนอื่น แลยังมีหน้าตางดงามโดดเด่นไม่น้อย” สายตาที่เพ่งมองซูเม่ยตั้งแต่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status