Home / รักโบราณ / เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว / ๒ เจี่ยเจียทำเต็มที่แล้ว

Share

๒ เจี่ยเจียทำเต็มที่แล้ว

last update Last Updated: 2025-05-26 15:16:04

เจี่ยเจียทำเต็มที่แล้ว

แม้ท่านพ่อจะบอกว่าบุรุษรูปงามงานดีทั้งสามจะต้องเป็นหนึ่งในว่าที่สามีของข้า แต่ใช่ว่าท่านพ่อจะปล่อยบุตรสาวให้ไปเสวนากับพวกเขาในตอนนี้

การแข่งธนูในวันนี้พรรคมารป๋ายหลงเป็นเจ้าภาพสถานที่และอาหารการกินก็จริง แต่เมื่อถึงเวลาอาหาร ท่านพ่อก็ให้ข้ากลับเรือน ไม่ให้ร่วมโต๊ะอาหารกับแขก

ข้าจึงได้เดินกลับเรือนมานอนเล่นในห้องนอนให้สาวใช้คนสนิทอ่านนิยายราคาสามอีแปะให้ฟัง

“เจี่ยเจียขอรับ!”

ในตอนที่ข้ากำลังเคลิ้มหลับนั้น เสียงคุ้นหูของลี่หลานก็ปลุกข้าให้ตื่น เขาวิ่งเข้ามาในห้องนอนของข้า น้ำร้อนรนจนข้าพลอยตื่นเต้นตามไปด้วย

“เสี่ยวตี้เข้ามาในห้องนอนเจี่ยเจียอีกแล้ว!”

ข้าลุกขึ้นนั่งพิงผนักพิงของเตียง ทำเสียงดุใส่เขาเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขัดคำสอนของข้าเรื่องห้ามเข้ามาในห้องนอนของสตรีโดยพลการ

ลี่หลานชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่กับทุกคน แต่พออยู่กับข้ากลับทำตัวเหมือนเด็กสามหนาว ชอบคิดว่าตัวเองตัวเล็กเพียงสามเซนติเมตร

ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่!

ลี่หลานโตเร็วมาก หากกะเอาโดยใช้ที่วัดของชาติภพก่อนของข้า เขาก็คงสูงไม่ต่ำกว่า 180 เซนติเมตร อีกเพียงนิดเดียวก็จะสูงเท่าท่านพ่อแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้เพราะตอนนี้เขาอายุเพียง 17 หนาวเท่านั้น

เขายังโตได้อีก!

“เจี่ยเจียค่อยดุข้าทีหลังนะขอรับ ตอนนี้เรื่องนี้สำคัญกว่า เจี่ยเจียรู้หรือไม่ว่าบุรุษทั้งสามที่ท่านพ่อหมายมั่นไว้ให้ท่าน ไม่ผ่านมาตรฐานของข้าสักคน!”

ว่าที่ประมุขพรรคมารโดนลี่หลานประเมินแล้ว

“อย่างไร”

แม้ไม่เสียใจที่น้องชายไม่ปลื้มว่าที่สามี แต่ข้าก็ยังอยากทราบเหตุผลของเขา

“หลางยีเจ้าชู้ กุยฮั่นรุนแรง เฟิ่งหงซีหัวสูง”

โธ่~น้องชายข้า ให้คำจำกัดความไว้ด้วย

“แล้วอย่างไรต่อ”

ลี่หลานถอนหายใจ น้ำเสียงชัดเจนว่าท้อใจเป็นอย่างมาก เรียกข้าเสียงอ่อน

“เจี่ยเจีย~เจ้าชู้ รุนแรง หัวสูงก็ไม่คู่ควรกับเจี่ยเจีย อย่างไรเล่า”

“เป็นเช่นนี้”

“ในเมื่อทราบอย่างนี้แล้ว เจี่ยเจียต้องทำอะไรสักอย่างแล้วขอรับ”

ท่าทางกระตือรือร้นของน้องชายทำให้ข้ารู้สึกมีไฟไม่น้อย แต่เมื่อคิดว่าต้องลงมือเปลี่ยนใจท่านพ่อให้ได้

ข้าก็รู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากทำแล้ว!

“ฟังดูเหนื่อยมาก เจี่ยเจียไม่ทำได้หรือไม่ ตอนนี้ขอนอนก่อน”

“เจี่ยเจีย~”

ลี่หลานไม่ยอมแพ้ ดึงแขนข้าให้ลุกขึ้นมานั่งสนทนากันดี ๆ แจงให้ข้าฟังว่าเรื่องนี้มีผลต่อชีวิตข้าอย่างไร

“เรื่องนี้เจี่ยเจียจะเหนื่อยก่อนทำไม่ได้ นี่มันอนาคตเจี่ยเจียนะขอรับ ท่านเคยกล่าวว่าเลือกคู่ครองผิดชีวิตเปลี่ยน แต่นี่ยังไม่ทันเลือกก็เห็นผลแล้ว หาให้ดีไม่ได้มิสู้ไม่มีดีกว่าขอรับ”

เขาคิดจะให้ข้าเป็นสาวเทื้อให้ได้เลย

“เจี่ยเจียไม่ต้องห่วงว่าตนจะเป็นสาวเทื้อ หากท่านแต่งไม่ออก เสี่ยวตี้จะเลี้ยงท่านไปจนตาย”

ข้ายังไม่ได้พูดก็เดาความคิดข้าออกแล้ว

“เสี่ยวตี้ยังไม่ได้แต่งงานตอนนี้เสี่ยวตี้ก็พูดได้ หากต่อไปเสี่ยวตี้มีฮูหยิน มีลูก เสี่ยวตี้จะเห็นความสำคัญของเจี่ยเจียน้อยลง มีตัวอย่างให้ดูถมไป”

ลี่หลานถอนหายใจแรง จากนั้นก็ยกแขนขึ้นกอดอก ท่าทางเอาแต่ใจตัวเอง

“อย่างไรก็ตาม เจี่ยเจียต้องปฏิเสธกับอาเตียอย่างเป็นจริงเป็นจังก่อน แค่เพียงปฏิเสธเท่านั้นทำได้หรือไม่ขอรับ”

ข้าเหนื่อยจะเถียงกับเขาแล้ว

“แค่ปฏิเสธอย่างเป็นจริงเป็นจังก็จบใช่หรือไม่”

“ขอรับ”

“ก็ได้”

เมื่อข้ารับปาก ใบหน้าหล่อเหลาอ่อนเยาว์ก็ปรากฏรอยยิ้มกว้าง หมุนตัวเดินออกจากห้องนอนของข้าโดยไม่ต้องให้ใครเชิญออก

ข้าเหนื่อยแน่! ต่อต้านท่านพ่อก็เหมือนทหารชั้นเลวต่อต้านแม่ทัพ

เอาใจช่วยข้าด้วย!

มื้อค่ำโต๊ะอาหารวันนี้เต็มไปด้วยความสงบ เพราะคนที่พูดเก่งสุดอย่างลี่หลานเงียบกริบ สายตาจับจ้องมายังข้ากับท่านพ่อสลับกันอยู่หลายครั้งจนท่านพ่อเอ่ยปาก

“หลานเอ๋อร์มีสิ่งใดพูดจงพูด ดวงตาหลุกหลิกไปมาไร้ความสุขุุม”

เริ่มแล้ว!

“เอ่อ…”

ลี่หลานชะงักไปครู่หนึ่งในตอนที่มองข้า เมื่อข้าพยักหน้าให้เขาน้อย ๆ เขาก็เอ่ยว่า…

“เจี่ยเจียมีเรื่องจะกล่าวกับท่านพ่อขอรับ”

ถึงคราวที่ข้าต้องทำในสิ่งที่รับปากเขาไว้แล้ว!

“อาเตียเจ้าคะ จูเอ๋อร์เก็บเรื่องนี้ในใจมาตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว ตอนนี้เราอยู่กันเพียงคนในครอบครัว จูเอ๋อร์เลยอยากกล่าวกับอาเตียตามตรง”

“เรื่องแต่งงานหรือ”

ข้าพยักหน้ารับพร้อมเอ่ยเหตุผล

“เจ้าค่ะ จูเอ๋อร์รู้สึกว่าเข้ากับหนึ่งในสามคนนั้นไม่ได้เลยสักคน ไม่แต่งให้พวกเขาได้หรือไม่เจ้าคะ”

ประมุขป๋ายหลงวางตะเกียบลงบนชามข้าว เสียงตะเกียบกระทบจานดังลั่นห้องรับประทานอาหาร

หากเวลาปกติได้ยินเสียงนี้คงไม่รู้สึกอะไร แต่พออยู่ในสถานการณ์ที่อึมครึมเช่นนี้ จะต่างอะไรกับเสียงฟ้าผ่า

“หลานเอ๋อร์ใช่หรือไม่ เจ้าพูดกรอกหูเจี่ยเจีย!”

“ข้าเปล่านะขอรับท่านพ่อ”

ลี่หลานโกหกตาใสแอบไขว้นิ้วชี้กับนิ้วกลางไว้ใต้โต๊ะ สัญลักษณ์ที่ข้าสอนเขาทำในเวลาที่โกหก

“หึ! หากอาเตียรู้ไม่ทันลูก ๆ ก็อย่ามาเรียกกันว่า เตียเลย ทุกอย่างจะเป็นไปตามเดิม ด้วยสถานะของเรา ไม่อาจเกี่ยวดองกับตระกูลอื่นได้อีกแล้ว”

“อาเตีย สามคนนั้นไม่ดีเลยสักคน หลานเอ๋อร์ไม่ยอมขอรับ”

ประมุขลี่หลงตบมือลงบนโต๊ะอาหารจนถ้วยที่ใส่น้ำแกงกระฉอกเลอะโต๊ะ

ภายในห้องรับประทานอาหารเงียบกริบ ไม่มีใครกล่าวสิ่งใดเลยสักคน เมื่อประมุขลี่หลงเห็นว่าบุตรชายดูสงบเสงี่ยมแล้วจึงได้กล่าว

“งานแต่งใช่ว่าจะเริ่มวันนี้หรือพรุ่งนี้ ยังมีเวลาศึกษาอีกมาก” ประโยคนี้กล่าวเสียงแข็งกับบุตรชาย แต่เมื่อหันหน้ามาทางลี่จูก็เอ่ยเสียงนุ่มนวลมากขึ้น

“ใช้เวลาศึกษากันไปก่อน หากสุดท้ายพวกเขาแย่เกินกว่าที่ลูกจะรับได้ อย่างไรอาเตียก็ต้องนึกถึงลูกเป็นหลักอยู่แล้ว”

“เจ้าค่ะอาเตีย”

ข้าพยักหน้ารับเบา ๆ จากนั้นก็หันไปมองน้องชาย จึงเห็นว่าภายในดวงตาคู่นั้นยังฉายชัดถึงความไม่ยอมใจ ได้แต่สื่อสารผ่านสายตาแล้วขอโทษเขาในใจ

ขอโทษนะเสี่ยวตี้ เจี่ยเจียพยายามสู้แล้ว แต่แม่ทัพเก่งกาจเกินไปจนไม่ยอมมิได้จริง ๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 10 (จบบริบูรณ์)

    ๑๐เจ้าไม่ได้สิ้นรักข้า “ฮูหยิน เจ้าไม่ได้สิ้นรักข้า!”นี่คือประโยคแรกที่ข้ากล่าวหลังจากที่ถลันกายเข้าไปในห้องนอนรอยยิ้มบนใบหน้าข้าหายไปทันทีเมื่อเห็นสภาพนางที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนเตียง พอเห็นหน้าข้านางก็รีบหันหน้าไปทางอื่น ยกมือขึ้นปาดน้ำตาความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อครู่หายไปแทนที่ด้วยความเจ็บปวด เหตุใดนางจึงร้องไห้น้ำตาอาบหน้าเช่นนี้“ฮูหยิน…”อาชิ่งรู้งานรีบเดินออกไปจากเรือนนอนปล่อยให้เราสองคนอยู่ในห้องด้วยกันเพียงลำพัง“ฟูจวินอยู่ตรงนั้นเจ้าค่ะ ไม่ต้องเข้ามา”ข้าชะงักเท้าตามที่นางสั่ง แม้จะทราบว่านางเป็นเช่นนี้เพราะกำลังตั้งครรภ์อยู่ แต่ข้าก็ไม่อาจห้ามความเศร้าที่กอบกุมจิตใจได้“ฮูหยินร้องไห้ด้วยเหตุใด บอกฟูจวินได้หรือไม่”“ไม่บอกเจ้าค่ะ อยากร้องไห้ต้องมีสาเหตุด้วยหรือ” ปลายเสียงนางสะบัดแต่สะอื้นฮัก ๆ เพราะร้องไห้เห็นร่างบางที่หันหลังใส่ตัวสั่นเช่นนี้ข้าก็ไม่สนใจสิ่งใดแล้ว เดินไปนั่งด้านหลังนางแล้วสวมกอดร่างบางเอาไว้จากด้านหลัง“ฮูหยิน อยากร้องก็ร้อง แต่อย่าห้ามฟูจวินให้กอดเจ้าเลย ในเวลานี้เจ้าไม่ควรให้ตัวเองอยู่คนเดียว”นางเห็นหน้าข้าแล้วอาจหงุดหงิด แต่ทำแบบนี้ย่อมดีเสียกว่าทิ้ง

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 9

    ๙เบื่อหน้าเขานัก บุตรสาวข้าเลี้ยงง่ายยิ่งนัก! ท่านพ่อของข้ากล่าวว่าตอนเด็กนางเหมือนข้าไม่มีผิด เวลาใครอุ้มก็จะมองหน้าคนนั้น มองนิ่ง ๆ ด้วยสายตาสำรวจ นอกจากครั้งแรกที่ร้องไฮ้ตอนเป็นทารกแล้ว ข้าก็ไม่ได้ร้องไห้อีก หลางลู่หลินก็เช่นกัน! สิ่งนี้ทำให้ข้าเริ่มสงสัยว่านางเป็นแบบข้าหรือไม่ มีความทรงจำของชาติภพปัจจุบันติดมาด้วยหรือเปล่า มีวันหนึ่งข้าลองทดสอบดู พูดเป็นภาษาอังกฤษภาษาสากล แต่นางเพียงมองหน้าข้าด้วยสายตาว่างเปล่า ชัดเจนว่าไม่เข้าใจ คิดได้สองแง่ หนึ่งนางแค่ไม่ชอบร้องไฮ้ มีความเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เกิด สองนางอาจมากันคนละยุคกับข้า การทดสอบของข้าดำเนินการมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งนางอายุเข้าสามหนาวข้าก็หยุดทดสอบ คิดได้ว่า… ไม่ว่าใครจะมาเกิดนางก็ตาม อย่างไรนางก็คือบุตรสาวของข้า ใช้ชีวิตเป็นมารดาของหลางลู่หลินโดยไม่ตั้งคำถามกับตนเองในใจอีก เข้าปีที่สามของการใช้ชีวิตเป็นมารดา ปีนี้ลู่หลินพูดได้เยอะขึ้น วิ่งเล่นได้เร็วขึ้น ดูสดใสตามวัยโดยเฉพาะยามที่ได้เล่นกับบิดาและน้าชาย กอปรกับข้าตั้งครรภ์อ่อน ๆ หน

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 8

    ๘ผู้ซึ่งสมหวังที่สุดข้าเรียนรู้วิธีการกรี๊ดแล้ว!“กรี๊ด~เจ็บ!”ที่ผ่านมาข้าคิดว่าตนเองกรี๊ดไม่เป็นจนกระทั่งวันนี้ เจ้าตัวน้อยของแม่มอบบทเรียนให้กันตั้งแต่วันแรกที่กำลังลืมตาดูโลกเลย “ฮูหยิน เบ่งเจ้าค่ะ…อื้อ~” “อื้อ~”ข้าออกแรงเบ่งพร้อมเปล่งเสียงตามท่านหมอหญิง แต่เจ้าตัวน้อยของข้าก็ไม่ยอมออกเสียที“เบ่งอีกเจ้าค่ะฮูหยินน้อย เอาให้สุดแรงครั้งนี้ออกแน่เจ้าค่ะ”อีกครั้งเดียวแน่หรือ!“ฮูหยินน้อย อาชิ่งช่วยเบ่งเจ้าค่ะ”สาวใช้คนสนิทใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้ข้า น้ำเสียงสั่นเครือบ่งบอกสภาพจิตใจในตอนนี้“เอาล่ะเจ้าค่ะ เบ่งเจ้าค่ะ”“อีกทีใช่หรือไม่…อื้อ~” ข้าพยายามเบ่งอีกครั้ง แต่ผลก็เหมือนเดิมคือยังไม่ออกมีหลายเสียงบอกว่าข้าจะได้บุตรชาย แต่ก็มีหลายเสียงบอกว่าข้าจะได้บุตรสาวสุดท้ายข้าเลือกเชื่อว่าเป็นบุตรสาวเพราะสามีกระซิบกับท้องข้าเบา ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสเช่น…‘พ่อไปเรียนทำผมมาแล้ว จะถักเปียให้เจ้าทุกวันดีหรือไม่ลูกสาว’ไม่ก็กล่าวกับอาไท่ว่า…‘ทำชิงช้าน้อยใต้ต้นไม้ให้บุตรสาวข้าหน่อย’เป็นเช่นนี้ตลอด! นานวันเข้าข้าก็คาดหวังว่าตัวเองจะได้บุตรสาวเช่นเดียวกับฟูจวิน“ท่านหมอ ไม่ออก…ฮึก”เมื่อค

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 7

    ๗นางอาจจะมาแล้ว“เกิดอันใดขึ้นกับนาง!”“ฮูหยินเป็นลมขอรับ”ข้าบีบมือตนเองแน่น ต่อให้นางจะเป็นลมข้าก็ไม่วางใจ ถามเขาถึงสถานที่ที่นางอยู่่ในตอนนี้“ฮูหยินอยู่ที่ใด”“เรือนนอนขอรับ”เมื่อทราบสถานที่ที่นางอยู่แล้วข้าก็ไม่รีรอ ใช้พลังภายในที่มีทั้งหมดเร่งความเร็วมาที่เรือนหอ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงห้องนอนที่ได้ยินเสียงสนทนาของหลางผิงและท่านหมอประจำจวนข้าถลันกายเข้าในด้านในโดยไม่สนหน้าใครทั้งสิ้น“ฮูหยิน!”ใบหน้านางซีดมากจนข้าหายใจไม่ออก มารู้ว่าตนมือสั่นก็ตอนที่เอื้อมมือไปจับมือบาง“ฟูจวิน ใจเย็น ๆ เจ้าค่ะ ทำใจดี ๆ”ทำใจดี ๆ เช่นนั้นหรือ กล่าวเช่นนี้แล้วข้าจะยังใจเย็นได้ไหวหรือ นางเป็นอันใดถึงต้องกล่าวให้ข้าทำใจดี ๆ“ฮะ ฮูหยิน พูดแบบนี้ข้าใจไม่ดีเลย”ข้าเริ่มกล่าวเสียงตะกุกตะกักแล้ว ในตอนนั้นเองที่หมอประจำจวนเรียกความสนใจจากข้า“ท่านประมุขน้อย ฮูหยินไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายขอรับ แต่เป็นข่าวดี”ข่าวดี!“บอกเขาเถิดเจ้าค่ะท่านหมอ”เสี่ยวกูกู่เอ่ยขึ้น แววตาของนางฉายความขบขันจนข้าวางใจว่าภรรยาไม่ได้ป่วยเป็นอันใดจริง ๆ“ยินดีกับท่านประมุขน้อยด้วยขอรับ ฮูหยินตั้งครรภ์แล้วขอรับ”ตะ ตั้งครรภ์หรือ!“ฮูห

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 7

    ๖ฮูหยินเป็นอันใดลี่จู…กลับไปเยี่ยมบ้านเจ้าสาวครั้งนี้ข้ารู้สึกเบาใจขึ้นกว่าเดิมโดยไม่แน่ใจถึงสาเหตุหรือเป็นเพราะเห็นทุกคนต่างพยายามปรับตัวเข้าหากันรวมถึงปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ข้าจึงเบาใจว่าจะไม่มีปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัวหลังกลับจากพรรคมารป๋ายหลงเมื่อวาน ข้าคิดจะนอนหลับพักผ่อน แต่ไม่วายโดนฟูจวินลากไปห้องหนังสือให้ช่วยฝนหมึกให้ในตอนนั้นเองที่ข้าทราบว่าเขาไม่ได้ต้องการคนฝนหมึก เขาแค่อยากให้ข้านั่งอยู่ใกล้ ๆช่วงค่ำพวกเราทานอาหารกับประมุขเฮยหลางที่ข้าเปลี่ยนมาเรียกท่านพ่อแล้วท่านพ่อกล่าวว่าพอได้ทานอาหารร่วมกันสามคน ความรู้สึกของการเป็นครอบครัวกลับมาอีกครั้ง สีหน้าแช่มชื่นของท่านเป็นตัวแสดงความสุขได้อย่างชัดเจนเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน…ข้าปรับตัวกับที่นี่ได้แล้ว!ฟูจวินทราบว่าข้าชอบดอกไม้จึงลงมือปลูกดอกไม้ให้ข้าด้วยตนเองดอกไม้ที่ลงมือปลูกโดยเขาแม้จะไม่งามเท่าคนสวนปลูก แต่ข้าเห็นถึงความตั้งใจนั้นและรักเขาเพิ่มอีกนิดหนึ่งวันหนึ่งข้ากำลังนั่งเย็บรองเท้าคู่ใหม่ให้ฟูจวินกับอาชิ่ง สาวใช้ประจำพรรคก็เดินเข้ามาในศาลา“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ”ข้าพยักหน้าให้นางรายงานได้“หลางผิงกูเหนียงมา ใ

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 5

    ๕ต่างคนต่างตามใจกันข้าจำคำพูดที่ฟูจวินกล่าวไว้วันแต่งงานได้ เขาบอกว่าสาบานเป็นพี่น้องกับลี่หลานแล้วตอนนั้นข้ารู้สึกทะแม่ง คิดอยู่นานว่าลี่หลานหรือจะยอมญาติดีกับเขาโดยง่ายแล้ววันนี้ข้อสงสัยของข้าก็ได้รับการพิสูจน์!ลี่หลานยังคงมองฟูจวินเป็นศัตรูที่แย่งความรักกับพี่สาวเขาไม่เสื่อมคลาย เพียงแต่ไม่มีสิทธิ์ห้ามฟูจวินเข้าใกล้ข้าอย่างกาลก่อน“...เจี่ยเจีย อาเตียนั่งรอที่โต๊ะอาหารแล้วขอรับ”ลี่หลานผายมือเชิญข้าไปยังห้องรับประทานอาหารในเรือนรับแขก เขาชายตามองฟูจวินเพียงครู่เท่านั้นก็ตวัดสายตามามองข้าไม่มองฟูจวินอีกเลย!“เชิญเจี่ยเจียอย่างเดียวหรือ ไม่เชิญเจี่ยฟุหรือ”ฟูจวินถามลี่หลานยิ้ม ๆ ก่อนที่จะยื่นมือมาสอดเอวข้าแล้วดึงเข้าใกล้กว่าเดิมลี่หลานแสดงท่าทางหวงผ่านแววตา ไม่ได้แสดงท่าทางต่อต้านเป็นเด็ก ๆ เช่นเคยเห็นเขาควบคุมตัวเองได้ดีแบบนี้ข้าก็ดีใจ!“เชิญเจี่ยฟุทางนี้”ข้าส่งยิ้มให้ลี่หลานทันทีเมื่อเขาเรียกฟูจวินเช่นนี้คำกล่าวเมื่อครู่ลี่หลานย่อมฝืนใจ แต่เมื่อเห็นข้าส่งยิ้มดีใจให้ ที่กล่าวไปเมื่อครู่ก็ไม่ดูฝืนอีกต่อไป“ไปทานข้าวกันขอรับเจี่ยเจี่ย เจี่ยฟุ”“ไป”ถือเป็นก้าวที่ดี ลี่หลานรั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status