LOGINภาคินรีบขับรถกลับมายังคอนโดทันทีที่ได้เห็นข้อความจากน้องสาวของเพื่อนว่าจะมากินข้าวด้วย ทำให้เขายกเลิกนัดกับเด็กในสังกัด
จะมีใครสำคัญไปกว่าเด็กคนนี้อีกล่ะ และเป็นคนเดียวที่เขายอมทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ภาคินรีบขึ้นห้องและเก็บของในห้องทันที อะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทางก็รีบเคลียร์พื้นที่ทุกอย่างให้มันเรียบร้อย หลังจากเช็กสภาพห้องเสร็จก็รีบลงไปรอที่ลานจอดรถทันที ครั้นพอเห็นรถยนต์สีดำแค่มองก็รู้แล้วว่าเจ้าของรถเป็นใคร ทันทีที่รถจอดนิ่งเขาก็พุ่งเข้าหารถคันนั้นทันที “อุ๊ย! ตกใจหมดเลยพี่คิน ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้ วิ่งมาใช่ไหมคะเนี่ย คิกคิก” เจ้าจันทร์ทักทายชายหนุ่มที่วิ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะยื่นปลายนิ้วไปเช็ดเหงื่อออกให้อย่างใส่ใจ ทันทีที่ปลายนิ้วของหญิงสาวสัมผัสบริเวณหางคิ้ว ภาคินก็ตัวแข็งทื่อจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงจนลามไปถึงใบหู “หยอกพี่เล่นอีกแล้วเห็นใจคนแก่บ้างเถอะ หัวใจจะวายเอาได้นะ” “ขำขำนะคะ ซื้อกับข้าวมาหลายอย่างเลย มีขนมหวานของชอบพี่คินด้วย” “ขอบคุณครับ นึกถึงพี่ตลอดเลย” “ไม่เป็นไรค่า” ไม่นึกถึงพี่แล้วจะให้ไปนึกถึงใคร “ขึ้นห้องกัน” ภาคินพาหญิงสาวขึ้นห้องก่อนจะนำอาหารไปใส่จาน เทไวน์ใส่แก้วแล้วยื่นให้หญิงสาวตรงหน้า “ช่วงนี้บริษัทเป็นยังไงบ้างคะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่ไหม” “โอเคนะต่อให้มีปัญหาพี่ก็จัดการได้ และงานของเจ้าล่ะมีปัญหาอะไรไหม มีอะไรบอกพี่เลยนะ พี่ช่วยเจ้าเต็มที่” “รู้แล้วล่ะค่ะว่าพี่คินช่วยเจ้าได้ทุกอย่าง” เจ้าจันทร์จีบปากจีบคอพูดกับภาคินด้วยท่าทางปกติ แต่ในใจกลับว้าวุ่นไม่แน่ใจกับสิ่งที่จะทำ “ช่วงนี้ความรักของเราเป็นยังไงบ้าง” เจ้าจันทร์ที่ร่าเริงพอได้ยินภาคินถามก็เงียบไปทันที และกระดกแก้วไวน์ไม่หยุด “เจ้ามีอะไรหรือเปล่าเกิดอะไรขึ้น” ภาคินที่เห็นท่าทางคนตรงหน้าที่เริ่มไม่ปกติก็ลืมเส้นที่ตัวเองเคยขีดไว้ทันที เขาลุกขึ้นมานั่งข้างกายหญิงสาวแล้วรั้งร่างบางมากอดแนบกายลูบหัวราวกำลังปลอบขวัญ “ไม่เป็นอะไรนะเจ้า เจ้ายังมีพี่นะ” ภาคินปลอบโยนร่างบางที่ตัวสั่นจากการร้องไห้ “พี่คิน ฮือ…ฮึก เจ้าผิดอะไร เจ้าผิดอะไรทำไมถึงเจออะไรแบบนี้ สี่ปีไม่มีความหมายเลยทำไมถึงทิ้งกันได้ง่ายดายขนาดนี้” เจ้าจันทร์ปล่อยโฮออกมาต่อหน้าชายชู้ที่ทำลายความรักของเธอ แต่ยิ่งได้รับสัมผัสของภาคินก็ยิ่งรู้สึกปลอดภัยเลยปล่อยให้เขาได้เห็นความอ่อนแอโดยไม่กักเก็บไว้ “เจ้าไม่ผิด เจ้าของพี่ไม่ผิดเลยอย่าร้องไห้เลยนะ เจ้าอยากระบายให้พี่ฟังหรือเปล่าเผื่อเจ้าจะได้สบายใจขึ้น พี่ยินดีรับฟังนะ” “พี่คิน เจ้ารู้ว่าคนนั้นเปลี่ยนไปแถมยังอ้างนั่นอ้างนี่ตลอดเวลา ไม่มีเวลาให้เจ้าเลยและก็เคยเห็นว่าเธอเข้าโรงแรมม่านรูดกับผู้ชายคนหนึ่งเจ้ารู้ทุกอย่างแค่ไม่พูดมันออกไป จนวันนี้เธอนัดเจ้าไปที่ร้านอาหารเพื่อทานข้าว แต่แท้จริงแล้วเธอนัดเพื่อมาบอกเลิก บอกว่าเลือกผู้ชายคนนั้น บอกให้ปล่อยเธอไป พี่คินเจ้าไม่ดีตรงไหน” ภาคินที่ได้ฟังก็กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เขาดูแลเจ้าจันทร์มาอย่างดีไม่เคยคิดจะล้ำเส้น เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ในเมื่อตัวเขายังไม่กล้า แต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกล้าดียังไงทำร้ายหัวใจของเขาแบบนี้ “ไม่เป็นไรนะดีซะอีกที่เลิกกันไป ดีกว่าเจ็บปวดซ้ำไปซ้ำมา เจ้าอย่าคิดมากเลยนะ เจ้าอยากได้อะไรก็บอกพี่ พี่จะหาให้เจ้าทุกอย่าง” “เจ้าไม่อยากกลับบ้านไม่อยากตอบคำถามใครและยังไม่อยากกลับคอนโด ไม่อยากเห็นภาพจำที่ผู้หญิงคนนั้นเคยอยู่ในห้อง สงสัยต้องหาที่อยู่ใหม่แล้ว” ภาคินที่ได้ยินแบบนั้นก็เสนอตัวเองทันที “อยู่กับพี่ไหมเจ้า เอ่อ..คือหมายความว่าอยู่ที่นี่ไปก่อนไหม ถ้าเจ้าตกลงอ่ะนะ ค่อยไปขนของมา” “ได้ค่ะ เจ้าขออาศัยพี่ภาคินชั่วคราวก่อนนะคะ” “ได้สิ พรุ่งนี้พี่ให้ลูกน้องไปขนของให้” อยู่นานแค่ไหนก็ได้ พี่พร้อมดูแลเจ้าจันทร์เสมอ เจ้าจันทร์มองภาคินด้วยหางตาแล้วกลั้นใจอดทนต่อไป เธอต้องอยู่ที่นี่ ต้องทำตัวติดกับภาคินเข้าไว้ เมลดาจะได้รู้ว่าคิดผิดที่ทิ้งเจ้าจันทร์ไป ในเมื่ออยากนอกใจไปเอากับคนอื่น ในเมื่อเลือกทิ้งเธอเพราะผู้ชายคนนี้ ก็อย่าหวังจะสมหวังเลย เจ้าจันทร์เดินตามภาคินเข้ามาในห้องก่อนจะรับเสื้อผ้าที่เขาเลือกให้แล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า “ตามสบายนะเจ้า พี่ขอไปเคลียร์งานหน่อย” พูดจบก็เดินออกไปทันทีและเปิดห้องหนึ่งเข้าไป ภาคินเดินไปนั่งบนโซฟา และลูบกางเกงเบา ๆ เพื่อให้มันสงบลง ก่อนจะส่งข้อความหาลูกน้องให้ขนเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เอกสารและเครื่องประดับของเจ้าจันทร์มาให้หมด แล้วให้ลูกน้องสืบหาข้อมูลแฟนของเจ้าจันทร์ว่าเป็นใครมาจากไหน ก่อนจะเดินไปล้มตัวนอนบนที่นอนแล้วหลับไป เจ้าจันทร์อาบน้ำแล้วใช้เสียงน้ำในฝักบัวกลบเสียงร้องไห้ของตนเอง ดวงตากลมโตมองไปรอบห้องน้ำทั้งรักทั้งชิงชังสับสนในตัวเองจนหาทางออกไม่ได้ ใจหนึ่งไม่อยากให้ภาคินมาเป็นเหยื่อ แต่อีกใจก็อยากทำให้อีกคนเจ็บปวดเหมือนที่เธอกำลังเจออยู่ในตอนนี้ และก็ยังหวังถ้าวันหนึ่งเขารู้เรื่องจะให้อภัยเธอสักครั้งเมื่ออยู่กันสองคนภาคินที่มีสีหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าของหญิงสาวที่ก้มหน้าลง เธอก้าวถอยหลังเพราะตั้งรับกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่ทัน ร่างเล็กตัวสั่นเหมือนลูกนกที่พลัดออกจากรังชายหนุ่มใช้สองแขนคร่อมเหนือร่างเพื่อกันไม่ให้เจ้าตัวหนีไปไหน ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกระซิบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ “เห็นพี่โง่เป็นควายขนาดนั้นเลยใช่ไหมถึงปั่นหัวกันแบบนี้ เจ้าจันทร์คนดีบอกให้พี่ชื่นใจหน่อยสิ”เจ้าจันทร์ที่รู้ว่าภาคินกำลังโกรธจึงเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย “เจ้าขอโทษพี่คิน ฮือ..ขอโทษ แต่เจ้าไม่ผิด พี่เป็นชู้กับแฟนเจ้าจริงนี่ เจ้าเจ็บ เจ้าอยากแก้แค้นบ้างเจ้าผิดตรงไหน”ภาคินได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดออกมาก็โมโหจนขบฟันกรามแน่น เขาก้าวถอยหลังและเดินไปปิดประห้องน้ำก่อนจะดันร่างของหญิงสาวจนติดผนังห้องน้ำ“พะ พี่คิน” เจ้าจันทร์ดิ้นสุดแรงเกิดเพราะรู้ว่าตัวเองจะไม่รอด“เก่งมากเลยนะ เก่งเหลือเกินทำร้ายหัวใจพี่ได้ตลอดเวลา ที่ผ่านมาพี่ยังอดทนกับเธอไม่พอหรือไง จะเหยียบพี่ให้จมดินเลยใช่ไหม”“ไม่ใช่แบบนั้น เจ้าไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอส่ายหน้าปฏ
เจ้าจันทร์ขับรถมาจอดหน้าร้านเพื่อซื้ออาหารเป็นมื้อเที่ยงให้ชายหนุ่ม เธอเลือกข้าวหน้าเป็ดและเค้กสามชิ้นเป็นของหวานและน้ำผลไม้ล้างปาก หลังจากที่ซื้อเสร็จก็ขับรถไปบริษัทของภาคินทันที สองเท้าก้าวเข้ามาบริษัทที่คุ้นเคย ทักทายพนักงานไปตลอดทางด้วยรอยยิ้มแจ่มใสก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์พออยู่ในลิฟต์รอยยิ้มหวานก็หายไปทันทีกลับถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เฉยเมยและว่างเปล่า จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็ก้าวออกไปทันทีและทักทายเลขาหน้าห้องด้วยความคุ้นเคยพร้อมของฝากเป็นเค้กหนึ่งชิ้น มือเล็กเปิดประตูเข้าไปกลับเห็นฉากที่ทั้งสองคนกำลังเกี่ยวรัดกันและรีบผละตัวออกจากกันเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา “ขอโทษที่ขัดจังหวะค่ะพอดีเอาข้าวเที่ยงมาให้ แต่คงไม่ต้องกินแล้วเนอะดูท่าจะอิ่มแล้ว” พูดจบก็หันหลังเดินหนีทันทีทำให้ภาคินรีบวิ่งมาคว้าข้อมือไว้“เจ้ามันไม่มีอะไรครับ เจ้ากินข้าวกับพี่ก่อนนะครับคนดี”“แต่พี่คินมีแขกนี่คะเจ้าไม่อยากรบกวน”“ไม่รบกวนเลยครับ ไม่เลย” เมลดาที่มองเห็นภาพที่ทั้งสองคนง้องอนกัน ก็รู้ทันทีว่าเจ้าจันทร์ต้องการจะทำอะไร เธอได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ภายในไม่ให้มันแส
แสงอาทิตย์วันใหม่ที่สาดส่องลงมาทำให้ภาคินต้องยกมือบังหน้า ก่อนจะลุกไปปิดผ้าม่านทำให้ห้องทึบอีกครั้งก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือบ่งบอกว่าตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว เขารีบเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตนเองและเร่งฝีเท้าไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมตัวทำอาหารเช้าให้อีกคน แต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นน้องสาวเพื่อนที่เขาเอ็นดูอยู่ในส่วนลึกจะมาจับตะหลิวทำครัวแบบนี้ ร่างบางที่หยิบจับนู่นนี่ด้วยความคล่องแคล่วทำให้ภาคินมีความสุขที่ได้แอบมองอยู่ตรงนี้ “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่คิน” เจ้าจันทร์ที่หันมาเจอภาคินก็ทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส “อรุณสวัสดิ์ครับเจ้า” ภาคินตอบรับรอยยิ้มของเจ้าจันทร์ด้วยคำทักทายเช่นกัน สองเท้าก้าวมาข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีตอนอยู่ตรงหน้าเจ้าจันทร์ที่ห่างกันแค่คืบ ซึ่งไม่แตกต่างจากหญิงสาวที่เฝ้ามองการกระทำของภาคินด้วยใจที่ว้าวุ่นจนแทบจะห้ามตัวเองไม่อยู่ “หิวหรือยังเอ่ย เจ้าทำอาหารแบบง่าย ๆ นะคะกินก่อนไปทำงาน ของพี่คินเป็นไส้กรอกขนมปังไข่ดาวและกาแฟสูตรเดิม ส่วนของเจ้าเป็นข้าวผัด” “ต่อไปเจ้าทำแบบที่เจ้าชอบก็ได้ พี่กินอะไรก็ได้ไม่ได้เรื่องมากเท่าไหร่”
ภาคินรีบขับรถกลับมายังคอนโดทันทีที่ได้เห็นข้อความจากน้องสาวของเพื่อนว่าจะมากินข้าวด้วย ทำให้เขายกเลิกนัดกับเด็กในสังกัด จะมีใครสำคัญไปกว่าเด็กคนนี้อีกล่ะ และเป็นคนเดียวที่เขายอมทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ภาคินรีบขึ้นห้องและเก็บของในห้องทันที อะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทางก็รีบเคลียร์พื้นที่ทุกอย่างให้มันเรียบร้อย หลังจากเช็กสภาพห้องเสร็จก็รีบลงไปรอที่ลานจอดรถทันที ครั้นพอเห็นรถยนต์สีดำแค่มองก็รู้แล้วว่าเจ้าของรถเป็นใคร ทันทีที่รถจอดนิ่งเขาก็พุ่งเข้าหารถคันนั้นทันที “อุ๊ย! ตกใจหมดเลยพี่คิน ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้ วิ่งมาใช่ไหมคะเนี่ย คิกคิก” เจ้าจันทร์ทักทายชายหนุ่มที่วิ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว อดไม่ได้ที่จะยื่นปลายนิ้วไปเช็ดเหงื่อออกให้อย่างใส่ใจ ทันทีที่ปลายนิ้วของหญิงสาวสัมผัสบริเวณหางคิ้ว ภาคินก็ตัวแข็งทื่อจนทำตัวไม่ถูก ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงจนลามไปถึงใบหู “หยอกพี่เล่นอีกแล้วเห็นใจคนแก่บ้างเถอะ หัวใจจะวายเอาได้นะ” “ขำขำนะคะ ซื้อกับข้าวมาหลายอย่างเลย มีขนมหวานของชอบพี่คินด้วย” “ขอบคุณครับ นึกถ
ภาคินกำลังอ่านรายงานที่เลขาสรุปมาให้ก็ขมวดคิ้วไม่หยุด ได้แต่ทนอ่านรายงานต่อไป สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าไม่สามารถร่วมงานกับบริษัทที่ทำงานห่วยแตกแบบนี้ได้เลย “ยกเลิกซะ และจ่ายค่าเสียเวลาไป” “รับทราบค่ะ บอสคะทางคุณแม่ของคุณเมลดาเชิญบอสไปทานข้าวที่บ้านค่ะ” “ไม่ไป วุ่นวายซะจริง” “เดี๋ยวดิฉันจะรีบจัดการให้เลยค่ะ บอสหายห่วงได้เลยค่ะ” ภาคินที่ตรวจเอกสารเสร็จก็ส่งให้เลขาทันที จนเลขาเดินออกจากห้องไป เขาก็เคาะนิ้วกับโต๊ะเป็นจังหวะอย่างคนใช้ความคิด “ล้ำเส้นซะจริง คิดว่าลูกสาวเป็นคู่นอนฉันและจะทำอะไรตามอำเภอใจได้หรือไง น่าเบื่อ” ครืดดด ครืดดด ภาคินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและก็จ้องมองข้อความนั้น นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้คุยกัน เจ้าจันทร์ : มาหาเจ้าหน่อย เจ้าไม่สบาย เจ้าไม่สบาย เจ้านี่นะป่วย?! ภาคินมองไปด้านหลังก็เห็นหยาดฝนโปรยปราย เขาหยิบกุญแจรถและพุ่งตัวออกไปทันที ชายหนุ่มขับรถแวะตลาดใกล้คอนโดของเจ้าจันทร์ นานมากแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ เขาเดินสำรวจของที่จะซื้อและไม่ลืมของหวานที่คนป่วยชอบรวมทั้งยากับแผ่นแปะลดไข้ ก่อนจะติดผลไม้กลับไปด้วย ไม่กี่อึดใจรถก็เข้ามาจอดใต้คอนโด สองเท้ารี
เมลดาหลังจากที่ออกมาจากคอนโดของเจ้าจันทร์ก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทของภาคิน เธอเดินเข้าไปด้านในและกดลิฟต์ไปยังชั้นที่สามสิบห้า ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็เข้าไปหาประธานหนุ่มทันทีไม่จำเป็นต้องให้เลขารายงาน “วันนี้มาเร็วจังนะ คิดถึงหรือไง” ชายหนุ่มพูดจบพลางตบขาให้มานั่ง หญิงสาวเดินมานั่งบนตักอย่างว่าง่าย สองมือของชายหนุ่มบีบไปที่ต้นขาและลูบมันไปมาพร้อมกับสายตาที่บ่งบอกความต้องการ “คิดถึงไงคะเลยรีบมาหา พี่ภาคินไม่ดีใจหรือคะเนี่ย” “ดีใจสิ แค่เธอมาหาก็ดีใจแล้ว อยากกินอะไรหรือเปล่าสั่งได้เลย” “ยังไม่หิวเลยค่ะ อยากกินพี่ภาคินแทนจะได้ไหม” สายตาหวานเชื่อมออดอ้อนภาคินและซบหน้าไปบนอกแกร่ง “หึ! แล้วรออะไรอยู่ล่ะ พี่พร้อมตลอดเวลา” ทันทีที่ได้รับอนุญาตก็ไถตัวลงไปนั่งข้างล่างตรงกลางหว่างขาทันที สองมือเอื้อมไปปลดเข็มขัดและรูดซิปลงพลางควักท่อนเนื้อสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้กำลังจะตื่นขึ้นมา “มองแบบนี้ระวังขาจะหุบไม่ได้นะคะคนดี” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อแกมอารมณ์ดี ที่ได้แกล้งจนทำให้เด็กสาวคนนี้อ่อนระทวยกับคำหวานของเขา “ปากหวานจังเลยนะคะพี่ภาคิน แต่ทำตรงนี้จะดีหรือคะ เข้าไปทำในห้องนอนไ







