เรื่องบังเอิญมักเกิดขึ้นได้เสมอ เพียงแต่อติกานต์ไม่คิดมาก่อนว่าเรื่องบังเอิญจะมาเกิดขึ้นกับเขาบ่อยเหลือเกินในช่วงนี้ โดยเฉพาะเรื่องบังเอิญที่เกี่ยวข้องกับทิพากร
หลังจากเด็กของไดจิบอกแบบนั้น อติกานต์ก็เดินไปที่ผนังกระจกของห้องรับรอง สอดส่องสายตาลงไปที่บาร์น้ำมองหาใครสักคนที่เมาพับตามคำบอกเล่า เพียงไม่นานสายตาคมของอติกานต์ก็เห็นชายหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่งที่นั่งฟุบไปกับเคาน์เตอร์บาร์ตรงหน้าบาร์เทนเดอร์ที่กำลังเขย่าผสมเครื่องดื่มให้ลูกค้าคนอื่น ๆ
ความคุ้นตาบางอย่างทำให้ใจของอติกานต์กระตุกวูบไปชั่วครู่ ก่อนที่จะเอ่ยบอกเพื่อนสนิทว่าไม่ต้องให้คนลงไปดูให้แล้ว เพราะเขาจะเป็นคนลงไปดูชายหนุ่มคนนั้นด้วยตัวเขาเอง
“มีไฝหลังคอเหมือนกันจริงด้วยวะ แล้วนายจะเอาไงต่อ” ไดจิถามขึ้นเมื่อลงมาดูคนเมาพับกับอติกานต์
ไม่อยากจะเชื่อว่าโลกมันแคบและเล็กขนาดนี้ ไดจิอยากจะขำออกมาให้กับโชคชะตาของเพื่อนสนิท ทันทีที่อติกานต์โอบไหล่เล็กพลิกตัวคนเมาขึ้นมาจากเคาน์เตอร์ ใบหน้าที่ไดจินิยายว่าเป็นหนุ่มจืดชืดก็ปรากฏต่อหน้าสายตาของเขาทั้งสอง
หากไม่ติดที่เห็นว่าอติกานต์หน้าตึงขึ้นมาทันทีที่เห็นคู่เดตเก่า ไดจิคงปล่อยเสียงหัวเราะลั่นร้านไปแล้ว แต่จะว่าไปแล้ว ไดจิเพิ่งค้นพบเมื่อได้เห็นใบหน้าของอดีตคู่เดตของอติกานต์ชัด ๆ ในระยะใกล้อย่างนี้
หน้าตาดูดีทีเดียว
แก้มที่ขึ้นสีน้อย ๆ จากปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปยิ่งทำให้เขาอยากลองจับใส่หูและหางกระต่ายดูสักครั้ง คงเข้ากันน่าดู
“ดื่มไปเยอะแค่ไหน”
อติกานต์ไม่ได้ตอบคำถามของไดจิในทันที เขาประคองร่างอ่อนปวกเปียกของทิพากรไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆ ปล่อยให้น้ำหนักอันน้อยนิดทิ้งลงที่ลำตัวของเขาก่อนที่จะหันไปถามบาร์เทนเดอร์คนที่ยืนใกล้ร่างเล็กนี้มากที่สุด
“ไม่เยอะครับคุณกานต์ แต่คืนนี้เขาดื่มตัวแรงกว่าทุกที”
ฝ่ามือใหญ่ช้อนปลายคางของคนเมาให้ใบหน้าของคนไร้สติเงยขึ้นมาให้มองเห็นได้ถนัดอีกครั้ง
ไม่อยากเชื่อว่าทิพากรจะรู้จักบาร์นี้ด้วย และมากกว่านั้นเหมือนว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่มา แปลกที่เขาไม่เคยเจอทิพากรที่นี่เลยสักครั้ง
“เด็กนายนี่น่าสนใจดีนะ ไหนว่าเขาใสซื่อบริสุทธิ์ไงวะ คนดีที่ไหนจะมาเข้าบาร์ของฉัน แถมยังเมาไม่รู้เรื่องอีก” ไดจิเอ่ยหยอกเพื่อนสนิทที่หน้าตึงกว่าเดิมจนพนักงานและลูกค้ารอบข้างเริ่มหันใบหน้าหนีไปทางอื่น หลบสายตาจากรังสีดำมืดที่เริ่มแผ่ขยายออกมาทำลายบรรยากาศโดยรอบ
อติกานต์ไม่ได้ตอบโต้กลับไป เขาช้อนร่างของทิพากรขึ้นอุ้มแล้วหันหลังเดินออกไปทางประตูหน้าบาร์ แรงอารมณ์ของอติกานต์ทำให้ไดจิต้องก้าวขายาวขึ้นกว่าปกติ เพื่อที่จะเดินให้ทันเพื่อนสนิท
“ไอ้กานต์ นายจะพาเขาไปไหนวะนั่น บาร์ฉันไม่เคยมีประวัติเรื่องความปลอดภัยลูกค้านะเว้ย”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ลูกค้านายจะปลอดภัยแน่” อติกานต์เอ่ยตอบในขณะที่รถสปอร์ตคันหรูถูกนำมาจอดเทียบให้ตรงหน้าด้วยพนักงานของบาร์ที่ดูแลเรื่องยานพาหนะของลูกค้า VIP
“ไปกับมึงจะปลอดภัยยังไงวะ แล้วนี่สรุปจะพาเขาไปไหน”
ไดจิรีบถามย้ำอีกรอบเมื่ออติกานต์วางคนเมาลงที่เบาะด้านข้างคนขับคาดเข็มขัดนิรภัยให้จนเสร็จเรียบร้อย แล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งหย่อนตัวนั่งลงหลังพวงมาลัย หากไม่ติดที่เจ้าของบาร์จับประตูฝั่งคนเมาเอาไว้ อติกานต์คงเหยียบขันเร่งออกไปแล้ว
“พิสูจน์หลักฐานไงวะ”
พูดจบคนตอบคำถามแสนสั้นกับรถสปอร์ตคันหรูก็ขับหายไปจากหน้าบาร์ของเขาแล้ว ช่างเถอะ เรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากอยู่แล้ว อติกานต์ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น และถ้าเกิดว่าเพื่อนเขาจะหน้ามืดตามัวขืนใจคนเมาไม่ได้สติ เขาจะอาสาเป็นฝ่ายพิทักษ์ความยุติธรรมให้กระต่ายออฟฟิศตัวน้อย ๆ เอง
นึกถึงใบหน้าตึง ๆ ของเพื่อนสนิท ไดจิก็ยกยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะฮัมเพลงเบา ๆ เดินกลับเข้าไปด้านใน
ไม่ใช่แค่อติกานต์คนเดียวนี่ ที่มีกระต่ายเนื้อนุ่มให้นอนซุกในคืนนี้
ว่ากันว่าโดยปกติแล้วคนเมามักจะตัวหนักกว่าปกติ แต่ทิพากรกลับตัวเบามากทั้งที่ความสูงต่างจากเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นซึ่งน่าจะพอ ๆ กับไดจิเพื่อนของเขา แต่เจ้านั้นกลับตัวหนักอย่างกับหมูทั้งที่ดูเพรียวบางกว่า
แต่ถึงแบบนั้นอติกานต์ก็ไม่ได้แปลกใจมากนัก ก็เพราะเนื้อตัวนุ่มนิ่มอย่างนี้ไม่ต้องถามเขาก็พอจะรู้ว่าคนที่เขากำลังอุ้มอยู่นี้คงไม่ค่อยได้ออกกำลังกายสักเท่าไหร่
อติกานต์อุ้มทิพากรมาตลอดทางโดยไม่รู้สึกหนักแต่อย่างใดตั้งแต่จอดรถ จนกระทั่งขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของคอนโดหรูใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร เขาไม่ได้พาทิพากรกลับไปที่คอนโดของเจ้าตัวเพราะทิพากรเมาเกินกว่าจะบอกเส้นทางได้ ซึ่งต่อให้บอกได้เขาก็ไม่ใจดีขนาดนั้น
ดังนั้น เพนต์เฮาส์ส่วนตัวของเขาจึงเป็นจุดหมายปลายของการเดินทางนี้ตั้งแต่แรก อติกานต์วางทิพากรลงบนเตียงนุ่มขนาดคิงไซซ์ในห้องนอนห้องหนึ่ง ซึ่งในไม่กี่นาทีข้างหน้า ห้องนอนนี้จะกลายเป็นห้องสอบสวนและห้องพิสูจน์หลักฐาน
ภายในเพนต์เฮาส์ถูกตกแต่งตามความต้องการและความชอบส่วนตัวของอติกานต์ผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งโทนสีมีเพียงสีดำ เทา ขาว และตัดด้วยสีทองในบางส่วน แม้จะดูหรูหราแต่ก็แฝงไปด้วยความดิบเถื่อนที่ผสมอยู่ด้วย สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในห้องนี้คงเป็นเตียงที่ทิพากรนอนอยู่ มุมทั้งสี่ด้านมีเสาเหล็กเชื่อมเป็นโครงขึ้นไปด้านบน ซึ่งหากสังเกตดี ๆ คานเหล็กที่เชื่อมเสาทั้งสี่จะมีห่วงที่ดูเหมือนจะถูกสั่งทำขึ้นมาพิเศษสำหรับแขวนบางอย่างได้เชื่อมติดไว้ด้วย
หลังจากถูกวางลงบนเตียงไม่นานทิพากรก็เริ่มขยับตัวเล็กน้อย ร่างเล็กถูไถใบหน้าไปมากับผ้าห่มแพรซึ่งคลุมอยู่บนผ้านวมนุ่มอีกที เรียวปากเล็กคลี่ยิ้มบางออกมาทั้งที่ดวงตายังหลับใหล
ดูท่าทางแล้วทิพากรจะชอบสัมผัสของเนื้อผ้าลื่น ๆ มากทีเดียว
อติกานต์ยืนมองลูกแมวน้อยอยู่ข้างเตียงครู่ใหญ่ ก่อนที่จะถอดสูทของตัวเองออก พับทบครึ่งหนึ่งแล้วพาดไว้กับเก้าอี้คริสตัลสีดำใสที่ริมห้อง มือล้วงลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงกดหน้าจออยู่สักพักก็เดินมาหย่อนตัวลงบนเตียงข้างร่างเล็กที่เริ่มครางเสียงแผ่วกับผืนผ้า
‘ซันคิดมานานแล้วว่าอยากลองลงคลิปดูสักครั้ง เลยรวบรวมความกล้าสุ่มชวนเมมเบอร์ที่สนใจไปคนหนึ่ง โชคดีที่เขาเองก็อยากช่วยซันในครั้งแรกนี้เช่นกัน ยังไงซันฝากทุกคนรอติดตามซันด้วยนะครับ ซันจะทำให้เต็มที่แม้จะตื่นเต้นมากก็ตาม’
นั่นคือข้อความล่าสุดที่ your sun เจ้าของแอ็กเคานต์โอนลีแฟนต้องสงสัยลงไว้ หากคิดเชื่อมโยงเล่น ๆ ดู มันก็อาจเป็นเรื่องบังเอิญอีกเรื่องที่คนอย่างทิพากรจะเข้าไปเมาพับที่บาร์แบบนั้น
เป็นไปได้ไหมว่า ทิพากร ก็นัดใครสักคนมาเจอเช่นเดียวกับ your sun
อติกานต์ไม่ชอบเรื่องบังเอิญ เขาไม่ชอบอะไรที่เหนือการควบคุม เพราะเป็นนักลงทุนและนักธุรกิจ เรื่องบังเอิญในความคิดเขาจึงไม่มีอยู่จริง ทุกเรื่องล้วนสามารถคาดการณ์หรือดูแนวโน้มจากข้อมูลต่าง ๆ ในมือได้ เว้นแต่ว่าคุณจะดูความเป็นไปได้เหล่านั้นไม่ละเอียดพอ
“อือ...”
เสียงครางแผ่วดังขึ้นอีกครั้ง ดวงตาคมปรายตามองคนที่ยังหลงใหลกับเนื้อผ้าเย็นลื่นก่อนที่จะโยนโทรศัพท์มือถือในมือไปอีกฝั่งของเตียงไม่สนใจว่ามันจะอยู่ตรงไหน หรือจะร่วงตกพื้นจนเสียหายหรือไม่
จากนั้นร่างสูงใหญ่ก็ขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตัวของทิพากร น้ำหนักที่กดลงมาทำให้ทิพากรพยายามลืมตาขึ้นมามอง แต่อาจจะเพราะแสงไฟที่เพดานหรืออาจจะเป็นความมึนเมาที่ยังไม่สร่างทำให้มองเห็นภาพใบหน้าของคนด้านบนไม่ชัดเจนนัก
นิ้วหัวแม่มือเย็นเฉียบข้างหนึ่งกดบี้ลงบนริมฝีปากอุ่นนุ่มไปมาก่อนที่จะส่งนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าไปสำรวจเล่นในโพรงปากชื้นแฉะ ไล่ปลายนิ้วไปตามไรฟันทั้งบนล่าง ทิพากรส่งเสียงต่อต้านอยู่เพียงไม่นาน ก็ทำตามคำสั่งของเขาอย่างว่าง่ายจนอติกานต์ยกยิ้มอย่างพอใจ
“ดูดแรง ๆ”
ริมฝีปากเล็กห่อรอบนิ้วยาวของอติกานต์เอาไว้ จากนั้นจึงเริ่มดูดเม้มอย่างเอร็ดอร่อยจนเกิดเสียงดังที่ฟังแล้วชวนให้จินตนาการไปไกล อติกานต์วนนิ้วเล่นหยอกเย้ากับลิ้นน้อย ๆ จนพอใจถึงถอนนิ้วออก
“อ๊ะ”
เสียงร้องตกใจจากคนที่สติยังกลับมาไม่ครบดังขึ้นเมื่ออยู่ ๆ คนด้านบนก็จับเขาพลิกนอนคว่ำ ความอุ่นและน้ำหนักที่กดแนบลงมาทำให้ทิพากรรับรู้ว่าคนแปลกหน้าทาบทับตัวตามลงมาด้วย
ฝ่ามือร้อนของคนคนนั้นสอดเข้ามาข้างใต้สัมผัสหน้าอกของเขาผ่านเสื้อเชิ้ต ยังไม่ทันได้ดื่มด่ำกับความรู้สึก ฝ่ามือนั้นก็กระชากเสื้อเชิ้ตของเขาออก เสียงเนื้อผ้าที่ดังเมื่อสักครู่ทำให้ทิพากรรู้ได้ทันทีเลยว่าเสื้อเขาคงขาดแล้วแน่ ๆ
“ผู้ต้องสงสัยต้องพิสูจน์ตัวตนและความบริสุทธิ์”
เสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างใบหู
ทิพากรไม่เข้าใจความหมายนั้น แต่เขาก็ไม่คิดจะประมวลหาคำตอบหรือความหมาย เพราะรู้ตัวเองดีว่าในตอนนี้ไม่อยู่ในสถานะที่จะขัดขืนอะไรได้
อีกอย่างน้ำเสียงคุ้นหูที่พูดกับเขาอยู่ตอนนี้มันทำให้ความอยากรู้อยากลองของเขากำลังถูกกระตุ้น แม้ว่าความจริงแล้วใจเขากำลังเต้นแรงเพราะความกังวลในความสัมพันธ์แบบวันไนต์สแตนด์ [1] ครั้งแรก แต่ร่างกายกลับทำตรงกันข้ามกับความคิด บางทีอาจจะเป็นความดำมืดในใจเขาก็ได้ที่สั่งร่างกายให้เคลื่อนไหวไปตามคำสั่งของคนที่กำลังค่อย ๆ ลูบไล้สัมผัสไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่า ก่อนที่จะเลื่อนลงต่ำรั้งเอาขอบกางเกงของเขาไว้ในมือ จากนั้นความเย็นของอากาศภายในห้องก็ค่อย ๆ เข้ามาจู่โจมช่วงล่างที่กางเกงถูกดึงหายไปไหนสักที่แล้วเรียบร้อย
“หึ ใส่สายรัดกับถุงน่องใหม่มาพร้อมเชียวนะ คงเตรียมตัวสำหรับนัดเจอคนแปลกหน้ามาอย่างดีเลยใช่ไหมครับ”
“???”
“คุณถูกจับแล้วครับ คุณพระอาทิตย์”
“!!!”
^ความสัมพันธ์ทางเพศที่คงอยู่เพียงคืนเดียว ไม่มีการผูกมัด
ภายในเพนต์เฮาส์สุดหรูชั้นบนสุดของตึกสูงระฟ้า บรรยากาศเงียบสงัดเมื่อแม่บ้านเก่าแก่ถูกขอให้ลงไปที่ชั้นล่างก่อนถึงเวลาพัก ชายหนุ่มผิวขาวก้าวเท้าเปลือยเปล่าลงมานั่งคุกเข่ารอเจ้าของบ้านอยู่ที่หน้าลิฟต์ทิพากรสวมชุดนอนสายเดี่ยวสั้นสีขาวสะอาด เช่นเดียวกับถุงน่องตาข่ายที่สวมขึ้นมาถึงต้นขา ชั้นในเล็กจิ๋วเนื้อบางทำหน้าที่โอบอุ้มส่วนอ่อนไหวเอาไว้ราวกับขนนกบนรังที่รายล้อมไข่ใบเล็กของแม่นกอย่างนุ่มนวลมือเรียวสวยสวมถุงมือโปร่งสีขาวแต่งระบายลูกไม้และโบเล็ก ๆ น่าทะนุถนอม ที่คอยังใส่ปลอกคอกระดิ่งเสียงใส รอคอยให้เจ้านายกลับมาใส่สายจูง ได้จิมอบชุดนี้ให้เขาในตอนที่ขับรถมาส่งเขาที่นี่ ก่อนที่จะขับจากไป ทิพากรก้มมองของอีกสองอย่างที่มาพร้อมกับชุดซึ่งเขายังไม่ได้สวมใส่ให้ครบบัตต์ปลั๊กหางกลมขนฟูนิ่มสีขาว เหมือนของบันนี่เพื่อนที่ชวนเขาไปงานปาร์ตี้ไม่ผิดเพี้ยน มันมาคู่กับคาดผมหูกระต่ายเข้าคู่กัน ทิพากรเขินตัวเองเล็กน้อยเมื่อต้องสวมคาดผมหูกระต่ายนี้ไว้บนหัว มือเล็กจับปลายหางนุ่มฟูอ้อมไปจ่อไว้ที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งรอที่ตรงนี้เขาได้ทำความสะอาดและหล่อลื่นช่อ
ทิพากรลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่พบใครอยู่ในห้องแล้ว บนโซฟาตัวยาวหน้าห้องมีเสื้อผ้าชุดใหม่พับวางเอาไว้ให้ เขาลุกขึ้นเดินไปหยิบมาเปลี่ยน ไซซ์พอดีจนน่าเหลือเชื่อ ดวงตากลมมองสำรวจไปรอบห้อง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับอติกานต์เมื่อคืนก็พานให้ใจสั่นไหว ไม่รู้ทำไมความสัมพันธ์เขาถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้ขณะที่กำลังจะหันหลังเดินออกไปจากห้องนี้ สายตาก็เหลือบไปเห็นซองกระดาษสีแดงที่ข้างหมอน เขาจำได้ว่าอติกานต์เป็นคนวางซองนี้เอาไว้ก่อนที่จะเดินจากเขาไป ทิพากรหยิบมันขึ้นมาดู ทำใจอยู่สักพักจึงเปิดซองดึงการ์ดขึ้นมาอ่านสายตาไล่ไปตามตัวอักษรทีละบรรทัด แล้วความจริงก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ใจของคนอ่านเต้นแรงเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาฟูมฟายไปเป็นอาทิตย์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เขาปรุงแต่งขึ้นมาเอง ตัดสินอีกฝ่ายโดยที่ไม่ซักถามความสงสัย“คุณทิ ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเรียกจากด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปดูชายหนุ่มร่างสูงเพรียวที่เขาเคยเห็นก่อนจะหลับไปปรากฏขึ้นที่ประตูหน้าห้อง ทิพากรเคยเห็นเขาคนนี้มาก่อนหน้านี้แล้วกับอติกานต์ที่ร้านประจำของเขาเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่ร
ร่างสูงเพรียวยืนพิงหลังกับผนังหน้าประตูห้องรับรองของลูกค้า VIP ข้างกายมีเด็กหนุ่มผิวสีแทนสวมเพียงกางเกงชั้นในหนังสีน้ำตาลนั่งหมอบอยู่แทบเท้า ที่คอมีปลอกคอหนังสีเดียวกับชั้นในสวมใส่อยู่ซึ่งมันถูกโซ่สีเงินวาวคล้องเอาไว้ โดยที่ปลายของมันอยู่ในมือของคนที่ยืนมองบานประตูด้วยใบหน้าเคร่งเครียดสุนัขหนุ่มคลอเคลียใบหน้ากับหน้าแข้งเรียวภายใต้กางเกงเนื้อผ้านิ่มราคาแพงของเจ้าของบาร์แห่งนี้อย่างเอาใจ เมื่อได้ยินเสียงเจ้านายถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่เจ้านายของเขายืนมองบานประตูฟังเสียงร้องครวญครางที่เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า คนด้านในกำลังสุขสมหรือเจ็บปวดไดจิยืนกอดอกครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรดีกับดวงใจของเพื่อนสนิทที่เจ้าตัวละทิ้งไว้ในห้องรับรองภายในบาร์ตนเอง ก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ นานแล้วที่อติกานต์เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงประโยคสั้น ๆ กับเขาแค่ว่า…“ฝากดูแลทิด้วย เขาอยากได้อะไรก็หาให้ด้วย ค่าใช้จ่ายมาคิดที่กู”ไดจิคลายมือออกลดมือลงไปลูบหัวสุนัขตัวโปรด จากนั้นจึงกระตุกโซ่จูงหนึ่งครั้งก่อนจะก้าวขาเดินไปยังบานประตู
ภาพเบื้องหน้าของผู้ต้องหาคือฉากเซ็กซ์อันเร่าร้อนของกระต่ายน้อยกับเหยี่ยวหนุ่ม ซึ่งกำลังใช้เข็มขัดฟาดลงที่ก้นงอนงามหลายต่อหลายทีอยู่ที่กลางเวทียกสูง ช่างดูสวยงามและกระตุ้นอารมณ์ของผู้คนภายในงานเป็นอย่างยิ่งหากทิพากรได้เป็นผู้ชมอยู่ในปาร์ตี้ข้างล่าง เขาก็คงอยู่ในอารมณ์ไม่ต่างจากผู้คนมากมายที่รายล้อมเวทีกลมนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่กำลังจะถูกตัดสินเสียงโซ่ดังทุกครั้งที่ร่างกายเขาไหวสะท้านกับแส้หนังที่อติกานต์ฟาดลงมาทั่วทั้งตัว มันไม่ได้เจ็บมาก แต่เมื่อโดนฟาดซ้ำที่เดิมอยู่บ่อยครั้งก็ทิ้งความแสบร้อนและรอยแดงที่ผิวได้เช่นกัน น้ำลายสายเล็กไหลย้อยออกมาจากช่องว่างระหว่างลูกบอลที่ปิดปากเขาไว้ หยดลงที่พื้นพรมสีแดงเบอร์กันดีนุ่มเท้าจนขึ้นเป็นวงสีเข้มทุกครั้งที่เส้นหนังฟาดลงมาที่ผิวเนื้อ มันทั้งสร้างความเจ็บปวดและกระตุ้นความต้องการบางอย่างให้ก่อเกิด ทั้งที่ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด แต่ร่างกายของทิพากรกลับตอบสนองตรงกันข้ามความเจ็บที่เกิดขึ้นที่ผิวเนื้อจึงย้ายเข้ามาเกาะกุมที่หัวใจดวงเล็กของเขาแทน แล้วปล่อยให้อวัยวะ
ไวน์ ค็อกเทล วิสกี้ และเครื่องดื่มอีกมากมายมีสำหรับบริการให้ผู้ร่วมงานซึ่งซื้อบัตรเข้างานมาในราคาแพงอย่างไม่อั้น จะสั่งกี่อย่างหรือกี่แก้วก็ได้ ทุกอย่างถูกบริการเพื่อเสริมสร้างความมอมเมาเท่าที่แขกผู้มีเกียรติต้องการปกติทิพากรไม่ค่อยได้ดื่มเครื่องดื่มพวกนี้บ่อยนัก จึงไม่ค่อยรู้ว่าเครื่องดื่มแบบไหนเป็นอย่างไรบ้าง เขาเลือกหยิบจากบริกรมาหนึ่งแก้วที่มองดูแล้วสีถูกใจเขาที่สุด หลังจากจิบไปเพียงอึกแรก ตั้งแต่ลำคอลงไปถึงท้องเขาก็ร้อนวูบวาบ ทิพากรวางแก้วทรงแปดเหลี่ยมนั้นลงไม่ได้กินต่ออีก มันคงแรงไปสำหรับเขา แต่หากคิดอีกแง่ ก็ดีเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยความร้อนของมันก็คลายความหนาวจากการสวมใส่เสื้อผ้าเพียงน้อยชิ้นได้ใต้แสงไฟสะท้อนจากลูกบอลดิสโก้ขนาดใหญ่เหนือฟลอร์เต้นรำ กระต่ายขาว นายพรานหนุ่ม และเหยี่ยวดำหลายคนกำลังกอดรัดกันนัวเนียอยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศ ความตื่นเต้น หรือเพราะเครื่องดื่มที่เพิ่งดื่มไปที่ทำให้ทิพากรรู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมาจึงถึงกกหูเขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม เมื่อวางมันลงบนโต๊ะ ขนนกสีเทาปนน้ำตาลอันหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรง
Bunny Night Partyค่ำคืนของกระต่ายป่า นั่นเป็นชื่อปาร์ตี้ของคนที่มีรสนิยมคล้ายกันจะมารวมตัว ค่ำคืนที่เหล่าผู้กระหายอยากสัมผัสและอยากถูกสัมผัสได้มาพบปะกันอย่างอิสระ ปาร์ตี้ที่นาน ๆ ทีจะจัดขึ้นสักครั้ง และทิพากรเคยใฝ่ฝันว่าจะได้มาร่วมงานนี้สักหน เพียงแต่เขาไม่เคยกล้าพอ จนกระทั่งงานนี้หายเงียบไปในวงการ BDSM ต่างรู้กันดีว่าบาร์ของคุณไดจิเป็นอันดับหนึ่งสำหรับคนในวงการเสมอ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าบาร์นี้จะจัดกิจกรรมด้านนั้นอย่างเป็นปกติและเปิดเผย ค่ำคืนแห่งกระต่ายป่าจึงเป็นกิจกรรมที่ทุกคนที่มีความชอบแบบเดียวกันต่างรอคอยโดยปกติแล้วจะจัดเดือนละหนึ่งครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่กลางปีก่อนกิจกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไป การกลับมาจัดใหม่ในรอบเกือบปีจึงเป็นที่พูดถึงกันมาก ทิพากรเคยคิดว่าหากได้เข้าร่วมงานนี้พร้อมกับคนรักก็คงจะดี ไม่คิดว่าพอถึงเวลาได้มาจริง ๆ เขาจะไม่มีใครคนนั้นยืนข้างกาย“คุณซันใช่ไหมครับ”เสียงเรียกจากทางด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปมอง เขายืนอยู่ที่ข้างบาร์หรูสาขาใหญ่สุด ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีของเมืองหลวง สวมเสื้อ