LOGIN“อืมดี แล้วต้องเรียกแบบนี้ตลอด ถ้ามึงไม่เรียกกูจะถือว่ามึงมันเป็นคนผิดคำพูด”
“เออรู้แล้ว”
ย้ำจัง เพราะปากซวย ๆ ของฉันดันไปบอกให้เขาขออะไรก็ได้นี่นาแทนคำขอบคุณที่เขาไม่รับ ฉันไม่อยากติดค้างอะไรกับใครซะด้วย
“บอกทางบ้านมึงด้วย”
ฉันพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มาส่งฉันถึงบ้านโดยตลอดทางก็มีด่ากันบ้างเล็กน้อยพอกรุบ
เช้าวันต่อมา...
หลังจากที่เมื่อคืนฉันนั่งคุยกับแม่เรื่องที่ไอ้บ้- เอ๊ยพี่เคียร์ไรนั่นแม่ฉันก็โอเคที่จะให้ไปทำ โดยบอกว่ามันคือโอกาสที่คนส่วนมากไม่มี ให้ฉันรีบคว้าไว้
แต่ฉันติดอยู่อย่างเดียวเลยคือถ้าไปทำงานเป็นเลขาเขาก็ต้องไปอยู่แถวนั้นเพราะบริษัทที่ฉันต้องไปทำมันอยู่ไกลมาก เห็นแม่บอกว่าช่วงนี้ต้องกลับบ้านเกิดไปหายายที่กำลังป่วย
ฉันก็ต้องไปอยู่คนเดียวเหงา ๆ นะสิ T^T เอาวะสู้เว้ย แต่เรื่องที่พักเห็นเขาบอกจะจัดการให้ ฉันก็เอออ่อไปเพราะที่ฉันจะไปฉันไม่รู้จักอะไรแถวนั้นเลย
“จะยืนเล่นเอ็มวีอีกนานไหม”
“ชิ!”
ฉันสะบัดผมใส่เขาก่อนจะเดินขึ้นรถเขา
“เจ็บนะโว้ย! ยัยบ้า”
ไม่แคร์ไม่สนจ้ะ
เขาโวยวายเสร็จก็เดินโมโหขึ้นมาบนรถทันที
“แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง”
หลังจากที่รถเคลื่อนตัวออกมาได้สักพักฉันก็ถามเขาเกี่ยวกับงานที่จะต้องทำทันที
“อะ อ่านดู”
เขาโยนไอแพดมาให้ฉัน ข้างในเป็นเหมือนสัญญาอะไรให้อ่านเนี่ยแหละ
โดยเขียนว่า กฎการอยู่ร่วมกัน อ่อ เอ๊ะ!เดี๋ยวนะ
“นี่นาย กฎการอยู่ร่วมกันอะไร”
“มึงเรียกกูว่าไรนะ?”
โว๊ะ!
“พี่เคียร์อันนี้หมายความว่าไงฮะ!”
“ก็ตามที่มึงอ่าน มึงต้องมาอยู่กับกู”
บ้าไปแล้วหรือไง ฉันได้เป็นไมเกรนแน่ ๆ ถ้าอยู่กับเขา
“ไม่เอา จะบ้าหรือไง มันดูไม่งามเข้าใจปะ”
“แบบมึงห่วงเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอวะ กูขำ”
ไอ้บ้านี่!
“ทำไม ก็ฉันนะสวยน่ารักขนาดนี้ เกิดมีใครมาเห็นว่าเราอยู่ด้วยกันฉันก็เสียหายนะสิ”
“มึงนี่มันหลงตัวเองฉิบหาย แล้วนั่นหน้าหรืออะไรวะ”
ระหว่างที่รถกำลังติดไฟแดงอยู่ เขาก็หันมาจับที่หน้าของฉันพร้อมกับสายตาที่เหมือนกำลังสำรวจใบหน้าฉัน
“ทำไม สวยละสิ มองแบบนี้หลงเสน่ห์ฉันละเหรอ^^”
ฉันพูดจบก็ทำหน้าทะเล้นใส่เขาทันที
“กูนึกว่าตีนเลอะเครื่องสำอาง”
กรี๊ด ไอ้ส้นตีนนี่มันต้องโดน!
“นี่แหนะ ๆ ปากหมานักใช่ไหม ย้ากกก”
“โอ้ย ๆๆๆ!!! ยัยบ้าปล่อยนะเว้ย”
ฉันใช้มือยกขึ้นไปจิกผมเขาทันที หน็อยกล้าดียังไงมาด่าฉันว่าหน้าเหมือนตีนเลอะเครื่องสำอาง เขากล้าดียังไงมาด่าหน้าสวย ๆ ของฉันแบบนี้!
“ขอโทษมาเดี๋ยวนี้!”
“มึงเป็นบ้าเหรอวะ ปล่อย!! กูจะขับรถ!!”
ฉันหันไปมองก็เห็นว่าเป็นไฟเขียวแล้ว ฉันจึงปล่อยเขาไปก่อน ฝากไว้ก่อนเถอะ
“เหอะ!”
ฉันสถบใส่เขาไปด้วยความโมโห
“กูเป็นถึงประธานบริษัทเลยนะ กล้าดียังไงมาจิกผมกูยัยบ้า!”
เขาแว้ด ๆ ใส่ฉันในขณะที่ตาก็มองทางไปด้วย ฉันเลือกไม่สนใจก่อนจะก้มลงไปอ่านสัญญาต่อ
ตอนนี้ฉันมาถึงคอนโดเขาละ กว่าจะตกลงกันได้สุดท้ายฉันก็ต้องยอมแพ้ ว่าแต่นี่มันคอนโดหรืออะไรเนี่ย โอ้โหตึกสูงมาก มีกี่ชั้นกันวะเนี่ย
ฉันเคยรู้มาว่าตึกหรู ๆ พวกนี้ยิ่งชั้นสูง ๆ ก็จะแพงเพราะว่าจะได้วิวที่สวยเว่อร์วังนั่นเอง
“นายตึกสูงมว๊ากกก *0*”
“อย่าลืมขอบคุณกูละที่ทำให้มึงได้มีโอกาสอยู่ที่ดี ๆ แบบนี้”
เอารองเท้ายัดปากหมา ๆ ของไอ้บ้านี่ดีมะ
“อ๊ะ อ๊า จะ..จุกไป ๆ” เธอใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กอดคอเขาไว้มากุมท้องตัวเองที่จุกจากการกระแทกลึกของเขา “ยืนแป๊บ” เคียร์เอ่ยบอกหญิงสาวที่ทำหน้างงก่อนจะวางเธอลงในท่ายืน เขาจับเธอหันหลังดันเธอให้ติดกับกระจกหน้าต่าง เขาดึงก้นเธอเข้ามาแนบชินก่อนจะสอดใส่เจ้ามังกรเปียกชุ่มเข้าจากทางด้านหลัง “อ๊า อื้ออออ ไม่..เอาท่านี้สิ อื้อออ” หญิงสาวร้องออกมาเมื่อท่านี้มันทำให้แก่นกายใหญ่ของเขาเข้ามาได้ลึกกว่าเดิมอีก ไหนจะหน้าอกหน้าใจของเธอที่กำลังเบียดเสียดรูดขึ้นลงกับกระจกที่แนบชิดอยู่ สร้างความเสียวราคะทุกโซนประสาทจริง ๆ “ตอดขนาดนี้จะแตกแล้วเหรอหืมม ซี้ดด” เมื่อรับรู้ถึงการตอดถี่ของหญิงสาวว่าใกล้จะแตะขอบสวรรค์แล้วเขาก็เร่งเครื่องติดจรวดทันที กระแทกเข้าออกไม่ยั้ง “อ๊ามะไหวว/อื้อออซี้ดด” เสียงครางกระเส่าดังขึ้นประสานกันเมื่อทั้งคู่แตะที่จุดสุดยอดในที่สุด ชายหนุ่มกระแทกสองสามทีรีดน้ำรักเข้าไปในตัวของหญิงสาวจนหมดก่อนจะชักออกมา ส่งผลให้หญิงสาวที่มีขาอ่อนจากความเสียวในตอนแรกนั่งพับ
ตอนพิเศษ ๓ NC+++สถานที่ ประเทศ USAตอนเช้า... ชายหนุ่มหญิงสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานกันไปได้ไม่นานก้าวขาลงจากเครื่องบินส่วนตัวเพียงสองคน วันนี้เธอและเขามาฮันนีมูนกันนั่นเอง โดยได้คุณแม่ของเธอและคุณแม่ของเคียร์ที่กำลังเห่อน้อง กำไล รับไปดูแล จนทำให้เธอกับเขาได้มีโอกาสเที่ยวกันสองคน “อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม?” มือใหญ่วางทาบลงบนหัวคนตัวเล็กที่กำลังยืนชั่งใจคิดว่าจะเที่ยวที่ไหนดี เนื่องจากก่อนมาพวกเขาไม่ได้ทำการวางแพลนใด ๆ เลย “อืม...อยากไปดูที่เขาแปะมือกับดาราอะ แบบมีการประทับมือดาราดัง ๆ ลงแผ่นไรสักอย่างอะ” เคียร์พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ภรรยาตัวเองพูด ก่อนจะยกมือถือโทรหาคนขับรถของประเทศนี้ เพียงไม่นานรถหรูก็เคลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้า พร้อมกับมีพนักงานลงมาเปิดประตูต้อนรับแขกคนพิเศษ พวกเขาคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ สร้อยเองก็ทำหน้าไม่ค่อยจะเข้าใจมากเท่าไหร่ “รู้งี้ตั้งใจเรียนภาษาดีกว่า” ภรรยาตัวแสบนั่งบ่นให้เขาฟัง ส่วนเขาได้แต่นั่งยิ้มกับความน่าเอ็นดูของเธอ “อยากเรียนไหมล่ะ”
ตอนพิเศษ ๒ ใช้เวลาพักฟื้นตัวหลังคลอดได้ไม่นานก็ถึงเวลาเตรียมการจัดงานแต่งงานที่เคยสัญญาไว้แล้ว “ฝากเจ้าตัวเล็กด้วยนะคะแม่ สร้อยจะรีบกลับมาค่ะ” เสียงหญิงสาวเอ่ยบอกคนเป็นแม่ คุณยายของเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด เธอจะต้องออกไปลองชุดและซื้อของต่าง ๆ เพื่อจัดเตรียมงานแต่งที่กำลังใกล้จะถึงกับว่าที่สามีของเธอ “ไปเถอะลูก เจ้าตัวเล็กนี่แม่จะดูแลเอง เนอะหลานยาย” หญิงสาวมีอายุหันไปหยอกล้อเล่นกับหลานตัวน้อยอย่างเอ็นดูหลายชั่วโมงผ่านไป... ใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะเตรียมของจนเสร็จ นอกนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออร์แกไนเซอร์ เนื่องจากว่าที่สามีของเธอได้จ้างวานมาเอง “เหนื่อยไหมวันนี้” เคียร์เอ่ยถามเจ้าตัวแสบของเขา พลางวางมือหนาไว้บนหัวของว่าที่ภรรยาสาวไปด้วย “นิดหน่อย บอกแล้วไม่ต้องจัดก็ได้” เธอเพียงมุ่ยหน้าเล็กน้อย สร้างรอยยิ้มเอ็นดูให้กับคนตรงหน้าได้มากทีเดียว “ได้ไง คนดังอย่างกูแต่งงานทั้งทีเลยนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาได้ไม่อายปาก หญิงสาวได้แต่ส่ายหัวไปมาแท
ตอนพิเศษ ๑8 เดือนผ่านไป...เวลา 04.35 น. ภายในห้องกว้างมีเพียงสองร่างชายหญิงกำลังนอนหลับใหล ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกำลังทำงานส่งผลให้ทั้งคู่หลับอย่างสบาย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมาจากความเงียบสงบแปรเปลี่ยนเป็น.... “อะ โอ้ยยยย” หญิงสาวท้องโตสะดุ้งตื่นพร้อมกับส่งเสียงถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ เสียงที่เธอร้องออกมาดังจนปลุกให้ชายร่างกำยำมีลายสักที่คอสะดุ้งตื่น “สร้อยเป็นอะไร!” เขาถามเธอออกไปด้วยความตระหนกตกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกุมท้องใหญ่ “ละ..ลูก จะคลอด! โอ๊ยยยยยเจ็บบบ” หญิงสาวท้องโตพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด เตียงที่เคยแห้งกลับกลายเป็นเปียกโชก บ่งบอกได้ดีว่าเด็กน้อยในท้องพร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว “เวรเอ๊ย! อดทนก่อนกูจะรีบพามึงไปโรงพยาบาล” ชายร่างกำยำรีบจัดการเสื้อผ้าบนตัวก่อนจะวิ่งอ้อมมาหาหญิงสาวด้วยความรีบร้อน “หนักฉิบหายเลยโว๊ยยยยย” ปากหนาบ่นอุบอิบ หญิงสาวไม่มีเวลามาสนใจเนื่องจากต้องทนกับอาการเจ็บปวดที่ได้รับ ฝ่ายชายรีบอุ้มหญิงสาววิ่งไปที่รถ
“ไหวไหมนั่น” ฉันทำท่าทางจะลุกเดินไปหา แต่เขาห้ามไว้ซะก่อน “อย่าแกล้งพ่อเขาหนักสิลูก” ฉันนอนลูบท้องเปล่งเสียงเบาบอกลูกของตัวเอง ส่วนเขาก็เดินขึ้นมานอนข้าง ๆ “ดีแล้วที่กูแพ้แทนมึง เพราะถ้ามึงแพ้เองกูคงไม่มีกะจิตกะใจทำงานแน่” แหนะ ยังจะมาปากหวานอีก “พูดถูกใจตลอดด” ฉันแอบแซวเขาพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นไปหยิกแก้มทั้งสองไปมา “กูพูดตามความรู้สึก” เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันที่กำลังหยิกเขา แล้วหอมมือฉันอย่างแผ่วเบา “รู้ไหมว่ารักมาก?” “อือรู้ ฉันก็รักพี่มากเหมือนกัน” “แล้วรู้ไหมว่ากู หวง ห่วง มึงมาก?” “รู้สิ สร้อยก็ หวง ห่วง พี่เหมือนกันนะ” “งั้นก็รู้ไว้ซะ ว่ามึงคือผู้หญิงของกูคนเดียวและเป็นแม่ของลูกกูด้วย” “>////พี่ก็เหมือนกันเป็นพ่อของลูกสร้อย” ความร้อนรุ่มแทรกผ่านเข้ามาที่ใบหน้าของฉัน เครื่องปรับอาการที่ว่าเย็นมากแล้วยังต้องยอมแพ้กลับความร้อนที่เผาผลาญอยู่บนหน้าของฉัน เขานี่มันพูดได้ไม่อายเลยจริง
บทที่ 31 END “ทำงี้กะจะให้กูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยเหรอวะ” บ้าที่สุดดด ชอบพูดคำน่าอายอยู่นั่น “รีบไปได้แล้ว >///” ฉันออกแรงผลักไล่ให้เขาขยับตัวออก แล้วไล่ดุนหลังเขาจนไปถึงหน้าห้อง “เดี๋ยวรีบกลับนะ จุ๊บ” ว่าจับเขาก็จุ๊บลงบนปากของฉันอีกครั้ง แล้วหมุนตัวเดินออกไป กว่าจะได้ออกไปทำงานฉันก็เปลืองตัวไปกับเขามากโขแล้ว หุหุหัวค่ำ...Rrrr Rrr เสียงริงโทนดังขึ้นเรียกความสนใจให้ฉันละสายตาออกจากทีวี พลางก้มลงไปมองสายที่โทรเข้ามา ฉันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครโทรเข้ามา “จะกลับแล้วเหรอ” ฉันกดรับก่อนจะเอ่ยถามคนปลายสาย “อืม ใกล้ถึงแล้ว” เขาตอบเสียงเรียบ “ใกล้ถึงแล้วจะโทรมาให้เปลืองเงินทำไมเล่า” “คิดถึง เพิ่งมีเวลาจับมือถือเอง” เสียงออดอ้อนของปลายสายสร้างความรู้สึกดีให้ฉันไม่น้อย “คิดถึงเหมือนกัน วางสายก่อนขับรถอยู่อันตราย” “ครับ” เขาตอบรับด้วยคำสุภาพทำเอาฉันรู้สึกกระดากหูที่ได้ยิน ไม่







