แสงแดดที่ส่องมากระทบใบหน้า ปลุกคนที่หลับมายาวนานให้ตื่นขึ้น ร่างบางขยับตัวด้วยความเมื่อยล้า ห่อปากเมื่อความเจ็บปวดแล่นเข้าสู้กลางกาย ลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความตกใจ มือสั่นระริกกำชายผ้าห่มไว้แน่น อาการผิดปรกติที่เกิดขึ้น ทำให้นวลแพรรู้ว่าร่างกายเธอไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ที่ไหน เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เมื่อคืนเธอออกไปดื่มที่ผับในตัวเมือง หลังจากดื่มไปสักพัก เธอก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ใครพาเธอมาที่นี่ แล้วใครทำร้ายเธอ คราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่บนที่นอนและหน้าขา เป็นเครื่องยืนยันว่าเธอเสียความบริสุทธิ์ที่เก็บมายาวนาน ให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้ไปแล้ว เขาทำร้ายเธอทำไม ความคิดในหัวตีกันจนวุ่นวายไปหมด สิ่งแรกที่ต้องทำคือพาตัวเองออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ตาเรียวเล็กมองไปรอบ ๆ เดาไม่ถูกเลยว่าที่นี่คือที่ไหน บรรยากาศและเฟอร์นิเจอร์ที่ตบแต่งอยู่ภายใน ทำให้เธอรู้ว่าไม่ใช่รีสอร์ทหรือ โรงแรมม่านรูด แต่มันคือที่ไหนกัน เสียงฝีเท้าที่ดังมาจากข้างนอก ทำให้หญิงสาวกอดกระชับผ้าห่มที่พันกายเอาไว้ให้แน่นขึ้น เสื้อผ้าของเธอร่วงอยู่เกลื่อนพื้น ไวเท่าความคิด ร่างบางกระโดดลงจากเตียงอย่างเร็ว ทันทีที่เท้ารับน้ำหนักนวลแพรก็ล้มลงกับพื้น ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นใคร เขาไม่ถนอมเธอเลยสักนิด ร่องรอยความป่าเถื่อนที่เขาทำไว้กระจายไปทั่วตัวของเธอ มือบางเอื้อมหยิบเสื้อผ้า ชิ้นไหนที่อยู่ไกล นวลแพรก็ใช้วิธีถัดเข้าไปหา กอดเสื้อผ้าเอาไว้ แล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมา สิ่งที่เกิดขึ้นเลวร้ายที่สุด เพราะเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนทำ เงินและของมีค่าที่ติดตัวมายังอยู่ครับทุกชิ้น แสดงว่าคนลงมือต้องการแค่ตัวเธอเท่านั่น
ใส่เสื้อผ้าด้วยความรีบร้อน เธอต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ทันทีที่เปิดประตูออกมาจากห้อง ก็ต้องหนาวไปทั่วสัพพังกาย เมื่อสายตาปะทะเข้ากับผู้ชายร่างกำยำที่มองมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนั้นคือคนที่ทำร้ายเธอ
“กุญแจรถครับ” เขาพูดพร้อมกับวางกุญแจรถของเธอไว้บนโต๊ะ
“คุณเป็นใคร” นวลแพรถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ถึงจะรังเกียจและหวาดกลัวแต่ก็ข่มกลั้นเอาไว้
“ผมได้รับคำสั่งจากนายให้มาดูแลคุณครับ” ตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ ท่าทางที่แสดงออกก็สุภาพด้วยเช่นกัน
“นาย...นายไหนกัน” คำพูดของคนตรงหน้า ทำให้นวลแพรจ้องหน้าคนตรงหน้าอีกครั้ง ลักษณะการวางตัว การแต่งกายและทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ จึงเดาได้ไม่ยากว่าคนตรงหน้าทำงานอะไร
“คุณเป็นตำรวจเหรอคะ” ที่ถามเพราะอย่างน้อย ๆ เธอก็ควรรู้สักนิดว่าคนที่ทำร้ายเธอเป็นใคร
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เธอนั่งดื่มเหล้าอยู่ในผับ แล้วมาตื่นที่นี่ได้ยังไง
“คุณจะกลับเลยหรือเปล่าครับ” สมัยไม่ตอบคำถาม แต่ถามคำถามกลับ มีคำสั่งให้เขาเฝ้าเธอไว้ หมดหน้าที่จะได้กลับไปทำงาน
ถึงจะไม่ได้คำตอบจากเขา แต่นวลแพรก็พอเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ ต่อให้เธอจะเสียสิ่งที่หวงแหนให้กับใครก็ตาม แต่มันไม่ได้ทำให้ความเป็นคนในตัวเธอลดลงไปเลยสักนิด ไม่ว่าคนคนนั้นจะทำไปด้วยเหตุผลอะไร แต่เธอยังต้องเดินหน้าต่อไป โชคดีแค่ไหนที่ยังหายใจอยู่ เธอส่งแม่กลับไร่สายธารไปแล้ว ส่วนพ่ออีกไม่กี่วันก็ได้รับการปล่อยตัว เธอยังต้องอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป มีเรื่องนี้เกิดขึ้น เธอก็แค่ต้องรักตัวเองให้มาก ๆ เท่านั้นเอง
ทันทีที่หญิงสาวก้าวเท้าลงบันได สมัยก็โทรรายงานเจ้านาย
ธาวินทร์ยังแปลกใจไม่น้อย เมื่อลูกน้องรายงานว่านอกจากจะไม่โวยวายแล้ว นวลแพรยังเงียบและสุขุมจนน่าตกใจ ด้วยลักษณะนิสัยของเธอ เขายังกังวลด้วยซ้ำว่าจะเพิ่มงานให้สมัย“ตามไปดู ผมกลัวเธอทำร้ายตัวเอง” สั่งแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตาย ความคิดนี้เกิดขึ้นในหัวของเขาได้ยังไง อันที่จริงเขาไม่ควรเป็นห่วงเธอเลยด้วยซ้ำ
“ครับนาย” สมัยรับคำแล้วขับรถตามเธอไปห่าง ๆ พร้อมกับต่อสายรายงานเจ้านายไปตลอดทาง
“เธอเปิดไฟเลี้ยวเข้าบ้านแล้วครับ ตามต่อไหมครับ”
“ไม่ต้อง!” รู้ว่าลูกน้องประชดให้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่วางใจ
“ตอนนี้เธอพักอยู่ไหน” นวลแพรออกจากบ้านของพ่อเลี้ยงธงชัยไปตั้งแต่พ่อเลี้ยงถูกจับ เขารู้ว่าเธอยังวนเวียนอยู่ในเชียงราย แต่ไม่รู้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหน
“ถามละเอียดขนาดนี้ เป็นห่วงเหรอครับ”
“ประสาท!” คำถามของสมัยได้คำสบถเป็นคำตอบ
“ขออนุญาตครับท่าน ผมต้องทำยังไงต่อครับ” สมัยถามเพราะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ
“กลับได้เลย” ธาวินทร์ออกคำสั่ง เขาได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ตอนนี้เป้าหมายของเขาสำเร็จแล้ว ธงชัยหมดสติเข้าโรงพยาบาล ไม่แน่ว่าฟื้นขึ้นมาจะปรกติเหมือนเดิมหรือไม่
[โรงพยาบาลประจำจังหวัด]
“อาจารย์ค่ะ เคสที่เข้ามาเมื่อคืน เป็นยังไงบ้างค่ะ” ถึงเคสนี้จะไม่ใช่ของเธอและไม่มีเวรให้ต้องมาสับเปลี่ยนดูแล แต่วาสินีก็อยากรู้ว่าตอนนี้คนไข้มีอาการเป็นอย่างไร อยู่ ๆ พ่อเลี้ยงธงชัยก็ช็อกจนต้องถูกหามเข้าโรงพยาบาล เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับคนรักของเธอก็ได้
“คนไข้ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ตอบสมองช้า จึงทำอะไรมากไม่ได้” คิมหันต์ตอบรุ่นน้อง
“กระทบกระเทือนจิตใจเหรอคะ” วาสินีทวนคำตอบของรุ่นพี่ใจ เธอคิดว่าสาเหตุที่ธงชัยป่วยน่าจะมาจากอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บ เพราะกลัวว่าคนรักจะเล่นนอกเกม แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้งงมากขึ้นไปอีก กระทบกระเทือนทางจิตใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ธาวินทร์ทำอะไรถึงได้ทำให้คนที่แข็งแรงอย่างธงชัยทรุดลงในเวลาข้ามคืน คุณหมอสาวเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ เอ่ยขอบคุณและขอตัวกับรุ่นพี่ ก่อนจะต่อสายหาธาวินทร์ เพื่อฟังน้ำเสียงจะได้รู้ว่าตอนนี้อาการของคนรักเป็นอย่างไร
นวลแพรรับมือถือ มาจากมือของเขา มองหน้าจอมือถือ แล้วเดินกลับขึ้นไปบนบ้าน กระเป๋าผ้าในเขื่อง ที่วางอยู่หน้าห้องคงเป็นเสื้อผ้า ที่ลลนานำมาให้ หยิบกระเป๋าแล้วเดินเข้าห้องนอน เธอคงต้องขอบคุณลลนา เพราะเธอยังต้องพึ่งพาลลนาอีกเยอะ ตัดสินใจอยู่ที่นี่เพราะรู้ตัวว่าหนีธาวินทร์ไม่พ้น ตอนแรกที่อยากเอาเด็กออก เพราะไม่รู้ว่าท้องกับใคร ตอนนี้รู้ แล้ว และพ่อก็อยากได้ลูก เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำบาป มันยากที่ต้องเก็บลูกคนที่เกลียดเธอเอาไว้ แต่เวลาไม่ได้หยุดอยู่กับที่เธอจะแกล้งลืมมัน แค่เก้าเดือนเท่านั้น เธอทนกับความอัปยศนี้แค่ เก้าเดือนเท่านั้นอาหารเช้าที่ไร่แสงตะวัน ส่งมารสชาติอร่อยถูกปาก เธอเคยมากินข้าวที่ไร่แสงตะวันหลายครั้ง และรู้ว่าแม่ครัวที่นั่นรสมือดี เจ้าของไร่ใส่ใจรายละเอียด กับข้าวที่คนงานในไร่กินจึงไม่แตกต่างจากเจ้าของไร่ “แกงส้มนี่อร่อยไม่เคยเปลี่ยน” ธาวินทร์พูดเมื่อตักน้ำเเกงซดลงคอ “แม่ครัวที่ไร่แสงตะวันฝีมือดีนะคะ” นวลแพรเห็นด้วยกับเขา เมื่อคุยไปทิศทางเดียวกันจึงมีบทสนทนามากขึ้น ระหว่างที่ทานอาหารร่วมกัน ต่างคนก็ตั้งข้อสังเกตกันและกัน โดยเฉพาะธาวินทร์ที่วันนี้มองหน้า
[ไร่แสงตะวัน]"อะไรนะคะ พี่เผ่าพูดว่า อะไรนะคะ" ลลนาถามอีกครั้ง เมื่อฟังประโยคที่สามีบอกไม่ชัด เผ่าเพชรวางแก้วกาแฟ ลงบนจานรอง แล้วหันไปทางภรรยา ต้องพูดกับเธออย่างเป็นทางการ เพราะเรื่องนี้มีผลกับชีวิต และหน้าที่การงาน ของธาวินทร์ นอกจากสองอย่างนี้ ที่สำคัญแล้ว ยังมีเรื่องความรู้สึก ของวาสินี เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือไม่ว่าจะไปทางไหน เรื่องนี้ก็ทำให้ ชีวิตธาวินทร์พังทั้งนั้น "ได้ยินไม่ผิดหรอก วินทำคุณแพรท้อง ตอนนี้วินพาคุณแพร มาอยู่บ้านท้ายไร่ พี่อยากให้ปอช่วยดูแล อย่าให้คนงานเข้าไปที่นั้น เรื่องนี้สำคัญกับวินมาก พี่ไม่อยากให้กระทบถึงวิน" "เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงคะ พี่วินกับคุณแพร เป็นไปได้ยังไง แล้วหมอวาล่ะคะ โอ้ย! ปองงไปหมดแล้ว" "พี่ก็ไม่รู้ว่า ทำไมวินทำแบบนี้ ที่มันทำไป เพราะอยากแก้แค้นให้พวกเรา" "พี่วินทำเพราะ แก้แค้นเหรอคะ! พี่วินไม่ได้รักคุณแพรเหรอคะ" ลลนาตกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อรู้ว่าที่ธาวินทร์ทำลงไปเพราะต้องการแก้แค้น ตอนแรกเธอเข้าใจว่าทธาวินทร์กับนวลแพร มีใจให้กัน และแอบมีความสัมพันธ์ จนนวลแพรตั้งท้อง พอได้ยินสามีพูดแบบ
เสียงฝีเท้าของคน ที่เดินขึ้นมาบนบ้าน ทำให้คนที่กำลัง เช็ดผมที่เปียกชื้นต้องหันไปมอง ธาวินทร์มองคนตรงหน้าเช่นกัน ชุดกีฬาของเขา คงใหญ่เกินไป นวลแพรจัดว่าเป็นผู้หญิง ที่สูงกว่าผู้หญิงทั่วไป เรียกว่าหุ่นนางแบบก็ไม่ผิด แต่ทำไม่เสื้อผ้าที่ใส่ถึงได้รุ่มร่ามแบบนั้น “สระผมเหรอ” ถามเพื่อชวนคุย เพราะตอนนี้ร่างกายเขา เกิดร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เมื่อสบตากับตายาวรี ที่มองหน้าเขาด้วยสายตางุนงง เหมือนจะถามแต่ก็ไม่ถามอะไร “ค่ะ” พูดจบก็หันหลังให้เขา เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ภายใต้ชุดกีฬาที่หลวมโครก ไม่มีชั้นในอยู่เลยสักชิ้น เธอซักมันพร้อมเสื้อผ้า แล้วตากไว้ในห้องน้ำ “อากาศเย็น เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” คำพูดที่เหมือนห่วงใย ทำให้นวลแพรต้องย่นหัวคิ้วเข้าหากัน “ฉันชินแล้ว” ธาวินทร์ลืมหรือไงว่าเธอก็เป็นคนเชียงราย เธอชินกับอากาศหนาวนี่เสียแล้ว “เข้าห้องเถอะ เดี๋ยวผมปูที่นอนให้” “คุณจะนอนที่นี่เหรอ” ถามรัวเร็วมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวง “ผมไม่ไว้ใจคุณ ผมให้คุณอยู่คนเดียวไม่ได้” ถ้าเกิดเธอทำร้ายลูก เขาจะทำอย่างไร เขาไม่อยากพลาดรอบสอ
ธาวินทร์เงยหน้าขึ้นมองฟ้าที่มืดสลัวเพราะมีเมฆมาบดบังดวงจันทร์เอาไว้ ความคิดในหัวตีกันจนวุ่นวายไปหมด ตั้งใจจะโทรหาคนรัก แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะกลัวคนบนเรือนจะกรีดร้องขึ้นมาอีกแล้วเสียงจะดังเข้ามาในสาย ตาคู่คมมองแผงยาในมือ เขาหยิบมันมาจากกระเป๋าของนวลแพร “ใจร้ายไปไหมแพร” พูดกับตัวเองเมื่อคิดว่ายานี้มีไว้ทำอะไร ถ้าเขามาไม่ทันเธอคงทำร้ายลูกเขาไปแล้ว “โธ่โว้ย!” ฟาดกำปั้นลงกับเสาบ้าน โมโหภัทรทิราที่สุดที่บอกเรื่องนวลแพรให้รู้ ถ้าไม่รู้ทุกอย่างก็จบเขาก็ไม่ต้องมาปวดหัวแบบนี้เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาทำให้ชายหนุ่มต้องหันไปมอง ร่างสูงใหญ่ที่เปิดรั้วเดินเข้ามาทำให้นายตำรวจหนุ่มต้องถอนหายใจออกมา “เห็นแสงไฟเลยมาดู” เผ่าเพชรบอกกับเพื่อน “ทำไมมาดึก ๆ มีอะไรหรือเปล่า รองเท้าใคร” ถามต่อด้วยความห่วงใย ก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงเมื่อเห็นรองเท้าที่หน้าบันได หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่าเป็นรองเท้าผู้หญิง ธาวินทร์ไม่เคยพาผู้หญิงมาที่นี่ “เห้อ!” ไม่มีคำตอบมีเพียงเสียงถอนหายใจเท่านั้น เพราะธาวินทร์ไม่รู้จะตอบว่าอะไร “หมอวาเหรอ” เผ่าเพชรถา
นวลแพรหอบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าที่ธาวินทร์เอามาให้เข้าห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว ห้องน้ำอยู่บนบ้านก็จริงแต่ต้องเดินอ้อมไปด้านหลัง ร่างบางเดินไปตามทางตาก็มองนี่นั่นไปเรื่อย นอกจากรูปขาวดำของแม่ธาวินทร์ที่แขวนอยู่บนผนังแล้ว บนบ้านยังมีเครื่องเรือนเก่า ๆ อีกหลายชิ้นถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ธาวินทร์บอกว่าคนที่ไร่สายธารจะเข้ามาทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง เมื่อนึกถึงไร่สายธารภาพของเจ้าของไร่ก็ปรากฏเข้ามาในความทรงจำ เธอรักเผ่าเพชรมากและทำทุกอย่างเพื่อได้เขามาครอบครอง แต่เขาไม่เคยรักหรือสนใจเธอเลยสักนิด เผ่าเพชรรักเดียวใจเดียวรักแรกและรักเดียวของเขาคือภรรยาคนปัจจุบัน เผ่าเพชรสารภาพว่าหลงรักภรรยาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สบตากัน ถึงแม้ครอบครัวภรรยาจะสลับตัวคู่หมั้น แต่พรหมลิขิตก็ทำให้เขาได้หัวใจตัวเองกลับมาครอบครอง เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หญิงสาวก็ได้แต่ยิ้มให้ตัวเอง เนื้อคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันคำนี้เป็นเรื่องจริง แล้วเธอล่ะเธอกับธาวินทร์เรียกว่าอะไร อยู่ๆ เขาก็กลายมาเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ ร่างบางเดินมาหยุดที่ด้านหน้าห้องน้ำ ที่ธาวินทร์เปิดไฟไว้ให้ก่อนหน้า เปิดประตูมองสำรวจด้านใน ก่อนจะก้าวเ
“อยู่ได้ไหมคุณ” ร่างสูงหันมาถามคนที่เดินตามมาข้างหลัง “มีคนอยู่ไหมคะ” นวลแพรถามที่ถามเพราะที่นี่ไม่เหมือนบ้านร้าง “ไม่มีหรอก เจ้าของไร่แสงตะวันเขาดูแลให้นะ เลยสะอาด นาน ๆ ผมจะแวะมา มีที่นอน หมอน ผ้าห่ม อยู่ในตู้ เดี๋ยวผมหาให้ คุณไปอาบน้ำเถอะ” “ไม่มีเสื้อจะอาบยังไง” เธอเถียงพร้อมกับกวาดตามองไปรอบ ๆ แล้วไปสะดุดตากับรูปถ่ายขาวดำที่แขวนอยู่ที่ผนังห้อง “รูปแม่ผมนะ แม่ผมเสียไปตั้งแต่ผม 6 ขวบ กลัวไหมถ้ากลัวผมจะได้เก็บ” “ไม่ค่ะ” ตอบไปตามตรงเธอไม่ใช่คนที่กลัวเรื่องพวกนี้ อีกอย่างแม่ของธาวินทร์ก็ดูเป็นคนใจดี ท่านคงไม่คิดร้ายกับเธอ ความคิดในหัวต้องสะดุดลง เมื่อรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ เธอพึ่งวางแผนฆ่าสายเลือดของเขา แม่เขาจะโกรธหรือเปล่า “เป็นอะไร ไหนบอกว่าไม่กลัว” “เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้กลัว” “ไม่กลัวก็ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวผมลงไปเอาผ้าขนหนูกับเสื้อผ้ามาให้” “ของใครคะ ถ้าเป็นของแฟนคุณฉันไม่เอานะ” “เสื้อยืดกับกางเกงบอลของผมเอง หิวไม่ใช่เหรอในรถมีขนม เดี๋ยวไปเอาให้ อยู่คนเดีย