共有

ความรู้สึกดีๆ

last update 最終更新日: 2025-11-26 08:00:26

หกโมงเช้าที่คอนโดของพราวรัมภา หญิงสาวตื่นสาย ปกติเธอจะต้องตื่นตีห้า หรือไม่ก็ตีห้าครึ่ง แต่เพราะเมื่อวานเป็นวันที่เธอรู้สึกว่าเหนื่อยที่สุดในโลก เมื่อคืนหลังจากเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเรียบร้อย เธอเห็นมินทดาหลับเธอไม่อยากปลุก เขาเองก็ไม่เหนื่อยไม่น้อยไปกว่าเธอ เลยยอมให้เขานอนพักด้านนอกแบ่งผ้าห่มไปให้ ส่วนตัวเองก็นอนหลับสนิทตื่นเช้าทีเดียว รู้สึกสมองปลอดโปร่งโล่งกว่าเมื่อวานนิดหน่อย รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาข้างนอก มินทดาตื่นแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า รู้สึกคุ้นเคยกับเขามากกว่า อาจเป็นเพราะว่าเธอกับเขาพบกันก่อนที่จะมีงานแต่งงานเกิดขึ้นก็เป็นได้

“สวัสดีค่ะ คุณเป็นยังไงบ้างคะ ตื่นนานหรือยัง เมื่อคืนฉันเห็นคุณหลับสนิทเลยไม่อยากปลุก”

“ครับตื่นเมื่อสักครู่ ขอบคุณมากที่ไม่ปลุก แถมยังใจดีแบ่งผ้าห่มมาให้อีก”

“เดี๋ยวฉันทำอาหารเช้าให้กินนะคะ แล้วค่อยขนของ ฉันยังต้องเก็บพวกอาหารสดใส่กล่องอีกนิดหน่อย รอสักครู่นะคะ หรือคุณจะกลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”

“ขอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนละกันครับ แล้วเดี๋ยวมาใหม่”

หลังมินทดาออกไปแล้ว พราวรัมภารีบเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ สำหรับเธอและเขา กระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมแล้วทั้งหมดสี่ใบพวกอาหารสดกล่องพลาสติกใหญ่ 1 กล่อง เครื่องครัวเธอจะไปหาซื้อใหม่ เพราะคอนโดใหม่อยู่ใกล้ที่ทำงานมากกว่าใกล้ห้างสรรพสินค้าด้วย สะดวกกว่าที่นี่มาก

พ่อกับแม่จะมาหรือไม่มาเธอไม่รู้แต่ขอย้ายออกก่อนล่ะกัน ยังไงก็ยังทำใจไม่ได้ พ่อกับแม่ไม่ได้สนใจเธอตั้งแต่แรกแล้ว ว่าทำงานอะไรที่ไหนยังไง หรือถ้าหากว่าท่านตามเธอถึงที่ทำงาน เธอก็จะขอย้ายไปอยู่สาขาอื่น แต่เชื่อเถอะว่าแม่กับพ่อไม่ตามแน่นอน โน้นอาจจะตามหาพี่พลอยมากกว่าด้วยซ้ำ เธอรู้ว่าไม่ดีที่ทำแบบนี้ แต่ขอเวลาสักหน่อยเถอะ ในความโชคร้าย ดีที่เจ้าบ่าวหลอกๆ ปลอมๆ ของเธอเข้าใจและยินดีช่วยเหลือทุกอย่าง

มินทดากลับมาที่ห้องของพราวรัมภา สองคนนั่งกินข้าวด้วยกันเงียบๆ หน้าตาของหญิงสาวยังไม่ค่อยสบายใจนัก มินทดาเข้าใจขนาดเขาเองตั้งใจไว้แล้วว่าเหตุการณ์จะต้องออกมาประมาณนี้ ก็ยังตั้งตัวไม่ติด เขายอมรับผู้หญิงคนนี้สติดีมาก

“ขอบคุณนะครับสำหรับอาหาร”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันขอเก็บของสดใส่กล่องสักครู่นะคะ”

“งั้นผมทยอยขนกระเป๋าลงไปใส่รถไว้ก่อนนะครับ กระเป๋า 4 ใบ รวมกล่องอาหารสดก็เต็มกระบะรถพอดี”

“ค่ะ อีกรอบเดียวก็หมดแล้ว”

มินทดาขนกระเป๋าเสื้อผ้าไปก่อนสองใบ ไปไว้ที่ท้ายกระบะรถของพราวรัมภา แล้วกลับขึ้นมาขนอีกรอบ หญิงสาวก็พร้อมสำหรับการย้ายออกจากคอนโดแห่งนี้

“คุณไม่ต้องทำงานเหรอคะ ช่วยฉันตลอดเวลาเลย”

“ไม่รีบครับผมพกโน้ตบุ๊คมาด้วย ทำที่ไหนก็ได้”

มินทดาอาสาขับรถเขาขับไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ อาจเพราะเขารูปร่างสูงใหญ่รถของเธอคันเล็ก เบาะปรับไม่ได้

“จริงๆ ฉันขับเองก็ได้นะคะ จะถนัดกว่า”

“ไม่เป็นไรผมขับได้ เดี๋ยวก็ชินนี่อย่าบอกนะว่าคุณขับรถคันนี้ไปทำงานทุกวัน”

“ใช่ค่ะประหยัดดี แค่มันแข็งไปหน่อยนึง แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับฉันหรอกค่ะ”

“เห็นว่าพี่สาวคุณจะให้รถมาใช้เหรอครับ” พูดออกไปแล้วเขาก็เพิ่งนึกได้ว่าลืมตัว

“ทำไมคุณรู้คะว่าพี่พลอยจะให้รถฉันมาใช้”

“ได้ยินแม่ผมคุยกับแม่คุย ผมไม่แน่ใจว่าใช่ไหม ได้ยินผ่านๆ หูครับ”

“จริงค่ะพี่พลอยจะซื้อให้ใหม่เลย หรือไม่ก็จะให้คันของพี่พลอยมาใช้ พี่กริชซื้อรถให้พี่พลอยใหม่ แต่ฉันไม่รับเองพอใจแค่นี้ไม่อยากใช้ของใคร คันนี้ก็ยังใช้ได้ดี”

“เดี๋ยวมื้อกลางวันเราออกไปกินข้าวข้างนอกดีกว่าไหม ผมไม่อยากให้คุณทำแล้ว กว่าจะจัดของเสร็จก็คงจะเหนื่อย เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง ตอบแทนที่คุณทำอาหารให้ผมกิน”

“สั่งมากินได้ไหมคะ ฉันไม่อยากออกไปกินข้างนอก”

“ครับก็ได้ งั้นคุณอยากกินอะไรก็บอกมาเลย เดี๋ยวผมสั่งให้”

พราวรัมภาใช้เวลาช่วงเช้าทั้งหมดจัดของ จัดเสื้อผ้า คอนโดแห่งนี้เพื่อนที่ทำงานเธอแนะนำมา ว่างพอดี

“คุณคะ ฉันว่า ฉันทำกับข้าวเองดีกว่า ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ของสดเยอะแยะเลย เดี๋ยวฉันทำต้มยำให้กิน ทอดปลาแดดเดียวแค่สองอย่างก็น่าจะพอ ไม่ต้องสั่งหรอกค่ะกว่าจะมาเผื่อบางทีอาจไม่อร่อย”

“ครับ แล้วแต่ไม่เหนื่อยก็ไม่เหนื่อย เดี๋ยวผมดูไฟให้นะครับ เมื่อกี้ไฟในห้องน้ำไม่ติด เดี๋ยวค่ำแล้วจะลำบาก”

“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้เขาอย่างจริงใจ

“ผมดูเรื่องไฟและความปลอดภัยอื่นๆ ให้แล้วนะ อีกห้องไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจะใช้ต้องหาเตียงและที่นอนใหม่เพราะห้องโล่งมาก หรือถ้าไม่ใช้ก็ทำเป็นห้องเก็บของก็ได้”

“มากินข้าวก่อนเถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้ว เดี๋ยวค่อยไปดูใหม่”

“คุณบันทึกเบอร์ผมไว้นะ มีอะไรก็โทรหาผมได้ไม่ต้องเกรงใจ ช่วงนี้ผมยังอยู่ที่กรุงเทพฯเดือนหน้าถึงจะกลับไปทำงานที่เชียงใหม่ คุณเปลี่ยนเบอร์เหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

“เมื่อเช้าค่ะ”

“อ้าว...แล้วทำไมไม่บอกกันบ้างเลย พราวรัมภาผมไม่ใช่คนอื่นนะ อย่างน้อยผมก็เป็นพี่หรือเพื่อนคุณได้ ไม่บอกพ่อกับแม่ ไม่บอกพี่สาวแต่คุณต้องบอกผม อย่าลืมว่าเราเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่เรียกว่าเหมือนฝันร้ายร่วมกันมาแล้วนะ เพราะฉะนั้น เราเป็นผู้ประสบภัยร่วมกัน นี่ผมพูดหลายครั้งแล้วนะ มีอะไรก็ต้องดูแลและช่วยเหลือกัน เข้าใจไหม”

“ไม่ต้องมองผมแบบนั้น ถ้าผมคิดไม่ดีกับคุณผมไม่ปล่อยให้เวลาผ่านมาเนิ่นนานจนถึงวันนี้หรอก มีโอกาสตั้งหลายครั้ง คุณก็รู้ กินข้าวได้หรือยังผมหิวแล้ว”

“พอแล้วค่ะ ไม่ต้องบ่นแล้ว นี่ฉันไม่คิดนะคะว่าพี่พลอยไม่อยู่จะมีคุณมาบ่นฉันแทน”

“ทำไมครับ พี่สาวคุณขี้บ่นเหรอ”

“บ่นเรื่องที่ฉันช้า กลัวว่าฉันจะคบคนมั่วมากกว่าค่ะ ทั้งที่จริงแล้วฉันไม่ได้อยากคบใครเลย พี่พลอยห่วงมากไป”

“พี่สาวคุณใจดีไหม”

“ใจดีค่ะ ใจดีมากแต่พอมาเรื่องแต่งงาน ฉันเริ่มคิดแล้วว่า พี่พลอยรักและห่วงฉันจริงๆ หรือเปล่า หรือว่าที่ผ่านมาทำเพื่อตัวเองกันแน่ ฉันว่าพี่พลอยรู้ว่าเรื่องราวจะออกมาแบบนี้ ถึงไม่ชวนฉันไปด้วย เห็นแก่ตัวที่สุด” พูดแล้วหญิงสาวก็เริ่มเสียงเครือขึ้นมาอีกครั้ง

“เอาน่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าไปคิดเลย ต่อไปก็ทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด ผมเป็นกำลังใจให้”

“คุณคะ ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้อง”

“ครับ ว่ามาเลยผมช่วยได้แน่นอน”

“ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ “

“ครับ ไม่มีใครรู้แน่นอน”

“คุณมั่นใจได้ยังไงคะ ว่าจะไม่มีใครรู้”

“เอาน่าผมมั่นใจ หรือถ้าหากมีคนรู้ผมจะพาคุณย้ายไปอยู่ที่อื่นเอง แค่เสื้อผ้า 4 กระเป๋า และกล่องอาหารสดอีกกล่อง แค่นี้เองไม่ลำบากหรอกครับ”

“ฉันจะเชื่อคุณค่ะ ฉันอยากอยู่อย่างสงบ

“คุณไม่มีเพื่อนสนิทเลยเหรอ”

“มีค่ะ แต่ทุกคนมีครอบครัวกันหมดแล้ว เราเลยค่อนข้างห่างกัน เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมกับปริญญาตรีค่ะ ส่วนคนที่โสดก็แยกย้ายกันไปทำงานตามจังหวัดต่างๆ นานๆ ถึงจะนัดเจอกัน เช่นงานเลี้ยงรุ่น”

“ปกติคุณทำอะไรบ้างนอกจากทำงาน”

“ไม่ได้ทำอะไร วันหยุดฉันชอบอยู่ห้อง ทำความซักผ้ารีดผ้า แค่นี้ก็หมดเวลาแล้วค่ะ”

“ไม่ค่อยได้กลับบ้านเหรอครับ เหมือนไม่ค่อยสนิทกับที่บ้านเลยสักเท่าไหร่”

“ไม่ค่ะ พ่อกับแม่ไม่ค่อยปลื้มฉัน บอกว่าเชื่องช้า พ่อกับแม่ชอบแบบพี่พลอย แต่ฉันก็ไม่ได้น้อยใจมากมายนะคะ เพราะท่านก็จะไม่มายุ่งวุ่นวายกับฉัน”

“แบบนี้พี่สาวคุณคงเครียดเหมือนกันนะ เป็นความหวังทุกอย่างของพ่อกับแม่”

“ค่ะ ฉันเข้าใจทุกคนเข้าใจทุกอย่าง แต่ตอนนี้ขอฉันอยู่คนเดียวก่อน รู้ว่าโกรธพ่อกับแม่มันไม่ดี “

“ครับดีแล้ว พ่อกับแม่เขาหวังดีกับเรา ผมว่าอย่าไปโกรธท่านเลย ไว้รอให้คุณหายโกรธ แล้วค่อยกลับไปกราบขอโทษท่านนะ ที่พูดไม่ดีออกไปเมื่อวานก่อน"

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เตือนสติฉัน”

“พรุ่งนี้คุณทำงานใช่ไหมครับ”

“ใช่ค่ะ”

ระหว่างที่กินข้าวทั้งสองคนพูดคุยกันต่อหลายเรื่อง ทั้งสองคนพูดคุยกันต่อ พราวรัมภาไว้ใจมินทดามากขึ้น ไม่นานทั้งสองคนกินข้าวอิ่ม พราวเลี่ยงไปล้างจานที่มีไม่กี่ใบเพราะเธอตั้งใจจะหาซื้อใหม่ ปล่อยให้มินทดาสำรวจโน้นนี่นั่นรอบห้อง

“คุณๆ มาทางนี้หน่อย”

“มีอะไรเหรอคะ”

“ช่วยหาหลอดไฟให้หน่อยได้ไหมครับ ห้องน้ำไฟดับอีกแล้ว ระเบียงก็ไม่ติด หน้าโต๊ะเครื่องแป้งด้วย”

“รอสักครู่นะคะเดี๋ยวขอฉันหาก่อน”

“เจอไหม”

“ไม่มีเลยค่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันออกไปซื้อ ช่วยบอกรายละเอียดหน่อยได้ไหมคะ ว่าจะต้องซื้อแบบไหน ฉันจะออกไปซื้อพวกช้อน แล้วก็จานด้วย”

มินทดาออกมาจากห้องน้ำ มีหลายอย่างที่จะต้องซ่อมแซม ดูเหมือนเจ้าของห้องจะไม่ได้เข้ามาพักอาศัยเลย

“ผมว่าเราออกไปซื้อของพร้อมกันดีไหม ก๊อกน้ำ ฝักบัวน้ำไม่ค่อยดี ไหนๆ ก็จะซื้อแล้วก็ซื้อให้ครบเลยดีกว่า ผมซ่อมได้ หรือคุณจะหาช่างมาทำเองก็ได้นะ”

“เอ่อ....เอายังไงดีคะ”

“เอางี้ดีกว่า ออกไปพร้อมกันผมว่างไม่ต้องเกรงใจ อย่างมากเย็นนี้ผมก็ขอข้าวกินอีกมื้อล่ะกัน สำหรับค่าแรงของช่างซ่อม” ท่าทางของเขาปกติไม่มีทีท่าว่าจะไม่หวังดี

“จะดีเหรอคะ คุณไม่ได้ทำงานหลายเวลาแล้วนะคะ”

“ก็บอกแล้วไง ผมมีธุรกิจ ทำเมื่อไหร่ก็ได้”

“ก็ได้ค่ะ ไปก็ไป แต่ฉันขอขับรถเองนะคะ คุณยังไม่ค่อยคล่องกับถนนในกรุงเทพฯ” พราวรัมภาถอนหายใจ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเธอจะเชื่อเขาอีกสักครั้ง ที่ผ่านมาเขาก็ไม่ใช่คนฉวยโอกาส ขนาดว่าแต่งงานกันแล้วเขายังไม่เอามาอ้างเลย

“ครับ ได้เลยไปกัน”

พราวรัมภารับหน้าที่ขับรถ จากตรงที่เธออยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้ามากนัก หญิงสาวจดรายการของที่จะต้องซื้อ ไม่ได้รู้สึกต้องระวังตัวหรืออะไร เลือกซื้อเครื่องครัวชุดเล็กสำหรับอยู่คนเดียว

มินทดาแยกไปหาอุปกรณ์ที่จะต้องซ่อมสิ่งต่างๆ ภายในคอนโด แต่เขาก็ยังคงวนเวียนคอยเฝ้าแอบมองเจ้าสาวจำเป็นของเขาอย่างเป็นห่วง ภายใต้หน้านิ่งๆ นั่น มีหลายเรื่องราวให้ทุกข์ใจ เห็นหน้าทีไรเขาใจอ่อนยวบลงทุกที ว่าไปแล้วพราวรัมภาก็เหมือนตัวคนเดียว น่าเห็นใจมาก แต่ผู้หญิงคนนี้เก็บความรู้สึกเก่ง ที่สำคัญสวยมากด้วย สวยถูกใจเขาไปหมดมองไม่เบื่อเลย

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เจ้าสาวจำเป็น   ความรู้สึกดีๆ

    หกโมงเช้าที่คอนโดของพราวรัมภา หญิงสาวตื่นสาย ปกติเธอจะต้องตื่นตีห้า หรือไม่ก็ตีห้าครึ่ง แต่เพราะเมื่อวานเป็นวันที่เธอรู้สึกว่าเหนื่อยที่สุดในโลก เมื่อคืนหลังจากเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเรียบร้อย เธอเห็นมินทดาหลับเธอไม่อยากปลุก เขาเองก็ไม่เหนื่อยไม่น้อยไปกว่าเธอ เลยยอมให้เขานอนพักด้านนอกแบ่งผ้าห่มไปให้ ส่วนตัวเองก็นอนหลับสนิทตื่นเช้าทีเดียว รู้สึกสมองปลอดโปร่งโล่งกว่าเมื่อวานนิดหน่อย รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาข้างนอก มินทดาตื่นแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า รู้สึกคุ้นเคยกับเขามากกว่า อาจเป็นเพราะว่าเธอกับเขาพบกันก่อนที่จะมีงานแต่งงานเกิดขึ้นก็เป็นได้“สวัสดีค่ะ คุณเป็นยังไงบ้างคะ ตื่นนานหรือยัง เมื่อคืนฉันเห็นคุณหลับสนิทเลยไม่อยากปลุก”“ครับตื่นเมื่อสักครู่ ขอบคุณมากที่ไม่ปลุก แถมยังใจดีแบ่งผ้าห่มมาให้อีก”“เดี๋ยวฉันทำอาหารเช้าให้กินนะคะ แล้วค่อยขนของ ฉันยังต้องเก็บพวกอาหารสดใส่กล่องอีกนิดหน่อย รอสักครู่นะคะ หรือคุณจะกลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”“ขอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนละกันครับ แล้วเดี๋

  • เจ้าสาวจำเป็น   ตกลงกันได้

    ระหว่างทางที่ทั้งสองคนเข้ากรุงเทพฯ มินทดาขับรถอย่างระมัดระวัง ฝนตกหนัก เขาไปส่งเจ้าสาวของเขาที่คอนโดของเธอ เหมือนความฝัน เมื่อเช้าเขาเข้าพิธีแต่งงานกับพราวรัมภา เขารู้มาตลอดว่าจะต้องเป็นพราวรัมภามินทดาส่งนักสืบติดตามพลอยไพลิน รู้ว่าเธอจะหนีการแต่งงาน ดีใจที่เป็นพราวรัมภา เอาจริงเขาภาวนาให้พลอยไพลินหนีไปให้ไกลๆ และให้เร็วที่สุด เขาเต็มใจแต่งงาน แต่ก็สงสารเจ้าสาวจำเป็น คงเป็นฝันร้ายของเธอไปอีกนาน เขาจะให้เวลา เสียงคนที่นั่งข้างๆ สะอื้น เห็นความพยายามระงับสติอารมณ์ และกลั้นสะอื้นแล้วก็สงสาร“ไม่น่าเชื่อนะว่าเราอยู่คอนโดเดียวกัน แต่ไม่เคยพบกันซะงั้น”“จริงเหรอคะ คุณก็พักอยู่ที่นี่เหรอ ฉันอยู่มาตั้งแต่เข้ามาเรียนแล้วก็ทำงาน คุณมาซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เห็นแม่บอกว่าคุณอยู่ต่างประเทศตลอดไม่ใช่เหรอคะ”“ผมซื้อไว้นานแล้วตั้งแต่อยู่เมืองไทย จนครอบครัวอพยพไปอยู่ต่างประเทศ นานๆ ผมกลับมาเมืองไทยก็มาพักที่นี่ ““ไม่น่าเชื่อนะคะ งั้นก็แสดงว่า วันที่คุณชนท้ายฉัน คุณก็กลับมาพักที่นี่เหรอคะ”“ครับ แต่ผ

  • เจ้าสาวจำเป็น   เจ้าสาวจำเป็น

    พราวรัมภาพยายามที่จะไม่ร้องไห้ หญิงสาวกลั้นสะอื้น แต่ก็อดไม่ได้น้ำตาไหลตลอดเวลา โชคดีที่ญาติของมินทดาเป็นช่างแต่งหน้า ไม่ยากเพราะเครื่องหน้าของเจ้าสาวสวยอยู่แล้ว ชุดของพลอยไพลินถึงจะเซ็กซี้ไปปน่อย แต่พราวรัมภาก็ใส่ได้พอดี สองพี่น้องหุ่นเท่าๆ กัน“ทำใจดีๆ หยุดร้องไห้ได้แล้ว ก็แค่แต่งให้เป็นพิธี หลังงานเราก็ต่างคนต่างก็แยกย้าย ผมสัญญา เราไม่ได้จดทะเบียนสมรส ไม่มีการ์ดแต่งงาน ยกเลิกงานฉลองสมรสแค่นี้พอใจไหม” สงสารก็สงสารจากที่เคยหมั่นไส้แต่ตอนนี้หัวใจเขากลับอ่อนไหวเมื่อเห็นน้ำตาของเจ้าสาว ใจเขาเสียไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำถูกหรือผิด แต่เขาต้องการให้เป็นแบบนี้“จริงๆ นะคะ เสร็จงานวันนี้แล้วเราก็ต่างคนต่างแยกย้าย คุณสัญญาไหมคะ” พราวรัมภาจับแขนของมินทดาเขย่าเหมือนขอความมั่นใจจากเขา“จริงซิ ผมไม่โกหกหรอก แต่ตอนนี้เราออกไปข้างนอกกันได้แล้ว ทำหน้ายิ้มเข้าไว้อย่าให้ใครจับพิรุธได้”พราวรัมภาถอนหายใจ พยายามกลั้นสะอื้น“พร้อมหรือยัง มาเกาะแขนผมไว้จะได้มั่นใจมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลัว แค่ผูกแขนเฉยๆ ไม่นานหรอก คนก็ไม่เยอะ

  • เจ้าสาวจำเป็น   เหตุการณ์ที่คิดว่าจะต้องเกิดขึ้น

    ในที่สุดวันสำคัญก็มาถึง ไม่มีการ์ดแต่งงานตามที่พลอยไพลินขอร้อง ไม่มีการจดทะเบียนสมรส เชิญเฉพาะญาติที่สนิท แต่งเช้ามีงานเลี้ยงฉลองที่โรงแรมในเมือง เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวไม่มีโอกาสพบหน้ากัน เห็นเพียงรูปสมัยเด็กๆ พลอยไพลินพยายามค้นหาอยากพบอยากพูดคุยกับเขา เพื่อที่ว่าสองคนตกลงกันได้ งานแต่งงานจะได้ไม่เกิดขึ้น แต่กลับติดต่อไม่ได้ และเธอไม่ว่างพอที่จะมาตามเรื่องพวกนี้ พลอยไพลินมีแผนในใจอยู่แล้วว่าจะทำยังไง ถ้าพ่อกับแม่ตัดเธอออกจากการเป็นลูกเธอก็จะยอม หลังจากที่ทำอะไรไม่ได้เธอก็ปล่อย ถึงเวลาที่เธอจะต้องเห็นแก่ตัว ชีวิตเป็นของเธอ จะไม่ยอมให้ใครมาบงการเด็ดขาด“แม่คะ เดี๋ยวให้ใครไปส่งพลอยกับพราวออกไปแต่งหน้าหน่อยนะคะ น่าจะกลับมาประมาณสองโมงเช้า ขากลับอย่าลืมให้รถไปรับพลอยกับน้องที่ร้านเสริมสวยนะคะแม่”“ได้ๆ ลูก แม่คุณคนดีของแม่ เสร็จแล้วโทรมาบอกแม่นะลูกจะได้ให้รถไปรับ” นางพจนีย์สาละวนกับเรื่องต่างๆ ขบวนขันหมากเริ่ม 09.30-10.30 พิธีหมั้นและสวมแหวน 10.30-11.30 นางเป็นคนจัดการจองโรงแรมให้กับครอบครัวของว่าที่เจ้าบ่าว ไม่ได้เรียกว่าจองเรียกว่าปิดโรงแรมเลยดีกว่า

  • เจ้าสาวจำเป็น   ข้อตกลงระหว่างครอบครัว

    หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากที่ที่พราวรัมภาและพลอยไพลินกลับไปเยี่ยมบ้าน ทั้งสองสาวกลับไปทำงานปกติ หลังจากนั้นเธอกับพี่สาวก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย พลอยไพลินย้ายไปอยู่กับกริชชัยที่คอนโดใช้ชีวิตร่วมกันพราวรัมภาไม่ได้รับข้อมูลหรือรายละเอียดจากผู้ชายคู่กรณีของเธอเลย เขาแอดไลน์มา แต่ไม่ส่งรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายมาให้ เธอคิดเอาเองว่า เขาคงนำรถเข้าศูนย์เอง รถเขาไม่ได้เสียหายอะไรมาก เลยตัดสินใจเปลี่ยนไอดีไลน์ใหม่เรื่องที่ทำให้ทั้งเธอและพี่สาวแปลกใจอีกเรื่องคือ ทำไมพ่อกับแม่เงียบมาก กับเรื่องของพี่พลอย ปกติจะโทรหาเธอหรือไม่ก็โทรหาพี่สาว แอบดีใจว่า พ่อกับแม่คงล้มเลิกความคิดแล้ว ดีเหมือนกัน เธอเองก็ไม่อยากให้ทุกฝ่ายเสียหายหรือเสียงชื่อเสียง บ้านเธอเป็นสังคมชนบท มีเรื่องมีราวไม่งามคนก็จะเล่าลือไปทั่ว ทำให้พ่อแม่รวมถึงญาติพี่น้องอับอายได้ ซึ่งพ่อกับแม่ของพวกเธอไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่นอนวันนี้เป็นวันศุกร์ เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ พราวรัมเร่งงานไม่อยากให้งานค้างไปถึงวันจันทร์ เธอตั้งใจเลิกงานสักประมาณสามทุ่มรอให้ถนนว่าง ตั้งใจแวะซื้อของใช้และอาหารสดที่ห้างนิดหน่อย แล้วกลับคอนโดเ

  • เจ้าสาวจำเป็น   ปัญหาที่รอคอยการแก้ไข

    พราวรัมภาตื่นมาด้วยอาการที่ยังปวดหัว เธอนอนคนเดียวที่ห้อง ส่วนพลอยไพลินอยู่ห้องเดียวกับพี่กริช หญิงสาวไม่แปลกใจนัก เธอพอที่จะรู้มาสักระยะแล้ว พี่พลอยไม่ค่อยอยู่คอนโด ส่วนมากจะพักที่โรงแรมที่ทำงาน เพราะเป็นระดับผู้บริหารจะมีห้องพักให้ หรือไม่พี่พลอยก็ไปอยู่บ้านของพี่กริช เธอไม่ยุ่งมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว กริชชัยเป็นผู้ใหญ่แล้วอายุ 33ปี พี่พลอย 27 เธอรู้ว่าพี่กริชพยายามจะไปพบพ่อกับแม่เธอเพื่อทำการสู่ขอ แต่พี่สาวของเธอเองที่ไม่อยากให้ไปหญิงสาวรีบลุก อาบน้ำอุ่นแต่งตัวเรียบร้อยแล้วลากกระเป๋าลงไปรอพี่สาวข้างล่าง แวะกินอาหารเช้าเพราะเธอต้องกินยา ไม่นานพลอยไพลินก็ลงมาพร้อมกับกริชชัย“เป็นยังไงพราว นอนหลับไหมดีขึ้นหรือเปล่า”“ดีขึ้นแล้วค่ะพี่พลอย ไม่ต้องห่วงนะคะ”พราวไม่อยากให้พี่สาวห่วง ทั้งที่ยังมีอาการไข้แต่ก็ต้องบอกว่าไม่เป็นไร หลังกินข้าวเช้าเสร็จกริชชัยและพลอยไปส่งหญิงสาวที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ“เดินทางปลอดภัยนะพราว พี่จะอยู่ช่วยงานพี่กริชอีกสักสองอาทิตย์แล้วจะตามไป”“ค่ะพี่พลอย พราวไปก่อนนะ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status