เข้าสู่ระบบอากาศที่หนาวเหน็บในตอนเช้า ปลุกชลาลัยให้ตื่นขึ้น ร่างบางห่อตัวแล้วเบียดเข้าหาไออุ่น จากคนที่นอนอยู่ข้างกาย ความเย็นของที่นอน ที่สัมผัสลงมาบนผิวกาย ทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่อยู่อยู่ตรงนั้นแล้ว ตากลมโตปรือขึ้นช้า ๆ ถอนหายใจออกมา เมื่อพบกับความว่างเปล่า ธาดาลุกไปตั้งแต่ตอนไหน ทำไมเธอไม่รู้สึกตัว พยุงตัวเองลุกขึ้น ก่อนจะต้องล้มตัวลงไปนอนในท่าเดิม เพราะรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว ร่างกายของเธอถูกกระทำอย่างป่าเถื่อน จึงมีอาการเหมือนจะเป็นไข้ ธาดากระทำรุนแรงจนร่างกายเธอรับไม่ไหว กัดฟันแล้วฝืนตัวเองอีกครั้ง เธออยากเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก ที่ธาดาทิ้งไว้ในร่างกายของเธอ
“ผมจะทำให้คุณท้อง เหมือนกับที่ไอ้ทินกรมันทำกับน้องสาวผม!”
“คุณพูดอะไร ฉันท้องแล้วยังไง เด็กที่เกิดมาก็ลูกของคุณ!”
“เด็กที่เกิดมาไม่ใช่ลูกผม มันก็แค่เครื่องมือแก้แค้น คุณกำลังจะแต่งงานกับไอ้ทินกร”
“หมายความว่าไง!” ถามด้วยความสงสัย เพราะไม่รู้ว่าธาดาจะเล่นเกมอะไร
“ผมจะส่งของขวัญให้มัน จะเป็นยังไงนะถ้ามันต้องเลี้ยงลูกชู้!”
“คิดว่าทำแบบนี้แล้วสบายใจคุณก็ทำไปเถอะ อย่าคิดนะว่าฉันจะให้มันเกิด ฉันจะทำแท้ง”
“คุณไม่กล้าหรอกชลาลัย คุณเองก็จะต้องเจ็บปวด ไปพร้อม ๆ กับไอ้ทินกร เด็กคุณนี้จะเป็นหอกข้างแคร่ ที่คอยทิ่มแทงคุณ!”
“คุณเลวมากนะคุณธาดา! เด็กที่คุณพูดถึงเป็นลูกคุณนะ” ถึงแม้เขาจะยังไม่เกิด แต่เมื่อนึกตามคำพูดของธาดาชลาลัยก็ขนลุก เด็กที่ธาดาต้องการให้เกิด คงเป็นแค่น้ำเชื้อตัวหนึ่งเท่านั้น
“ผมเลวได้มากกว่านี้อีก ชลาลัย!”
บทสนทนาที่เธอคุยกับธาดา ยังก้องอยู่ในหู น้ำตาพากันไหลออกมา สิ่งที่ธาดาอยากให้เป็นมันเลวร้ายที่สุด ธาดายังมีหัวใจอยู่ไหม ถ้าท้องขึ้นมาจริง ๆ เธอคงทำร้ายเขาไม่ได้ เพราะเด็กคือผู้บริสุทธิ์
“คนเลว ฉันเกลียดคุณ” ทำได้เพียงก่นด่าเขาในใจ โวยวายไปก็เท่านั้น ที่นี่เป็นพื้นที่ของเขา มีแต่คนของเขาคงไม่มีใครช่วยเธอ
ก๊อก ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูดังติดกันสามครั้ง ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก เด็กหนุ่มหน้าตาเกลี้ยงเกลาผิวดำแดง มาพร้อมกับถาดอาหารในมือ
“ข้าวครับคุณ” เสกทักทายพร้อมกับวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ ชลาลัยมองถาดที่เด็กหนุ่มวางไว้ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นข้าวสวยกับไข่ดาวในถาดเธอนึกว่าธาดาจะปล่อยให้เธอหิวตายเสียแล้ว
“ฉันชื่อชลาลัย เรียกว่าน้ำเฉย ๆ ก็ได้เธอชื่ออะไร” ชลาลัยชวนคุย ผูกมิตรกับเด็กคนนี้เอาไว้ เผื่อเด็กจะช่วยพาเธอออกไปจากที่นี่ได้
“ผมชื่อเสกครับ” เสกแนะนำตัว
“เสกเป็นคนงานที่นี่เหรอจ๊ะ” ชลาลัยถามพร้อมกับตักข้าวเข้าปากด้วยท่าทางเป็นกันเอง
“ครับ” เสกขานรับ
“เสกอายุเท่าไร ทำไมไม่ไปเรียนหนังสือ ถ้าให้ฉันเดาน่าจะไม่ถึงสิบแปด ทำไมถึงรีบทำงานล่ะ” ชลาลัยชวนคุย จับสังเกตอาการของคนตรงหน้า พร้อมกับมองหาทางหนีทีไล่
“ไม่มีเงินเรียนครับ” เสกตอบเสียงเศร้า ส่งผลให้คนที่กำลังตักอาหารเข้าปากชะงักไปด้วย
“อยากเรียนต่อไหม” ชลาลัยถามพร้อมกับรอคอยคำตอบ ไม่ยากอย่างที่คิด เสกเป็นคนซื่อ ถามอะไรก็ตอบหมดทุกอย่าง
“ถ้าเสกช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ ฉันจะให้เงินก้อนใหญ่กับเสก ฉันจะพาเสกไปด้วย จะส่งให้เรียนสูง ๆ เสกจะมีอนาคตดี จะได้ไม่ต้องเป็นคนงานแบบนี้ เสกสนใจไหม”
“ผมทำไม่ได้หรอกครับ ถ้าผมช่วยคุณพ่อเลี้ยงก็ฆ่าผม”
“อย่าให้พ่อเลี้ยงรู้สิ”
“ไม่มีเรื่องไหนรอดสายตาพ่อเลี้ยงไปได้หรอกครับ คุณอยู่เฉย ๆ ดีกว่า อย่าคิดหนี ที่นี่อันตรายกว่าที่คุณคิด” พูดจบเสกก็เดินออกไป
“คิดให้ดี ๆ นะเสก ฉันให้ชีวิตใหม่เธอได้นะ” ชลาลัยตะโกนตามหลัง เธอเห็นแววบางอย่างในดวงตาของเสก และมั่นใจว่าเสกจะรับข้อเสนอของเธอ
ธาดาไม่มีสมาธิทำงาน เพราะมัวแต่คอยจะคิดถึง คนที่เขานอนกอดมาทั้งคืน เป็นแบบนี้ได้ยังไง อยู่ ๆ เขาก็คิดถึงเธอ ไม่ว่าจะทำอะไร ภาพใบหน้าเปื้อนน้ำตาของหญิงสาวก็ตามมาหลอกหลอน เขาใจร้ายกับเธอเกินไปหรือเปล่า ความคิดในหัวต้องสะดุดลง เมื่อคิดอะไรได้บางอย่าง เขาจะใจอ่อนไม่ได้ ฟ้ารินต้องตรอมใจตายก็เพราะการกระทำของเธอ
“คืนพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงที่ไร่พ่อเลี้ยงถาวร คุณดินจะไปไหมครับ” คำถามของลุงสนิท ส่งผลให้คนที่กำลังเหม่อลอยสะดุ้งสุดตัว คนสูงวัยแปลกใจกับอาการของเจ้านาย ที่เหม่อลอยและไม่มีสมาธิทำงาน
“ลุงว่าอะไรนะ” ธาดาถามกลับ เขาไม่ทันฟังจึงไม่รู้ว่าสนิทพูดอะไร
“ผมถามว่างานเลี้ยงคืนพรุ่งนี้ พ่อเลี้ยงจะไปไหมครับ”
“ก็คงต้องไป” ตอบพร้อมกับถอนหายใจออกมา พ่อเลี้ยงถาวรเป็นคนกันเอง ถ้าไม่ไปคงน่าเกลียด
“บัวผันบอกว่า คุณชลาลัยกินข้าวหมดเกลี้ยง ไม่เหลือติดจานมาสักเม็ดเลยครับ” สนิทเล่าเรื่องที่ภรรยาของเขาบอกให้เจ้านายฟัง
“แล้วมาบอกทำไม”
“เธอคงหิวมากนะครับ ผมว่า” สนิทกำลังจะขอให้ธาดาเพิ่มมื้ออาหารให้หญิงสาว แต่ยังพูดไม่จบประโยคธาดาก็ขัดขึ้นเสียก่อน
“ลดข้าวลง ให้กับข้าวอย่างเดียวพอ!” ธาดาสั่งเสียงกร้าว เขาต้องการทรมานเธอ แต่ชลาลัยกลับไม่ทุกข์ร้อน กินอิ่มนอนหลับได้อย่างสบายใจอีกด้วย
“เอ่อ...คุณดินครับ” สนิทจะพูดอะไรบางอย่าง
“ทำตามที่ผมสั่ง!”
“ครับ” แม้จะไม่พอใจ แต่สนิทก็จำใจรับคำสั่งเจ้านาย สงสารชลาลัยจับใจ ไม่รู้ว่าธาดาจะทรมานเธอไปถึงไหน
กันตาอาศัยจังหวะที่ธาดาเข้าไปดูงานในไร่ ย้อนกลับมาที่บ้าน เสกตกใจที่เห็นเธอ แต่ก็ยอมเปิดประตูให้แต่โดยดี เพราะสัญญากับกันตาไว้แล้ว ถ้ากันตาจับได้ว่าธาดาซุกผู้หญิงเอาไว้ เธอจะได้เป็นอิสระ ถึงเวลานั้นเขาจะได้คบกับเธออย่างเปิดเผย
“เฝ้าไว้นะ ฉันเข้าไปแค่แป๊บเดียว” กันตาหันมาบอกกับเสก แล้วเดินเข้าไปในบ้าน
เสกยิ้มให้หญิงสาว ก่อนจะปิดประตูลงตามเดิม ผู้หญิงคนนั้นเสนอเงินให้เขาก้อนใหญ่ถ้าพาเธอออกไปจากที่นี่ เสกอยากมีเงินเยอะ ๆ ถ้าถึงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน กันตาจะได้ไม่ลำบาก เด็กหนุ่มฝันหวาน กลัวธาดาก็กลัว แต่ก็อยากได้เงินจากชลาลัย เพื่อไปสร้างครอบครัวกับกันตา
ฝนที่ตกลงมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้ชลาลัยตกใจกลัว เธอไม่รู้ว่าด้านนอกมีคนอยู่หรือไม่ เพราะทุกครั้งที่มืดลงเธอจะปิดประตูห้องนอน ขังตัวเองเอาไว้ ตะเกียงดับเพราะลมที่พัดแรง ยิ่งทำให้เธอกลัวมากขึ้นไปอีก หญิงสาวนอนกอดตัวเองในความมืด ผ้าห่มที่บัวผันเอามาให้ช่วยเธอได้มาก เพราะหนาวจนจับขั้วหัวใจ น้ำตาพากันไหลลงมาอีก เมื่อคิดถึงคำพูดของคุณหมอ เธอต้องกินอาหารให้ครบห้าหมู่ และดื่มนมมาก ๆ เจ้าตัวเล็กในท้องจะได้แข็งแรง หมอจะรู้ไหมว่าสิ่งที่เธอได้กินในแต่ละวันคืออะไร ข้าวเปล่ากับผักต้มและน้ำปลา บางวันมีไข่ต้มมาด้วย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ต่อให้เขาจัดอาหารดี ๆ มาให้ เธอก็กินไม่ลง ฟ้ารินบอกอะไรกับพี่ชายของเธอ ธาดาถึงได้เกลียดชังเธอขนาดนี้ ถ้าเธอออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไร เธอจะไม่มีวันย้อนกลับมา ธาดาจะไม่ได้เห็นหน้าลูก เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ น้ำตาก็ไหลออกมาอีก ธาดาคงไม่อยากเห็นหน้าลูก เพราะเขาไม่ต้องการลูกต้องแต่แรกแล้ว ลูกคือเครื่องมือแก้แค้นของเขา เธอจะไม่มีวันให้ใครมาทำร้ายลูกของเธอ จะพาเขาไปหาที่อยู่ใหม่ แล้วใช้ชีวิตกันสองคน แค่คิดก็มีความสุขแล้ว ไม่ว่าธาดาหรือทินกร ก็ไม่มีใครได้แตะต้องลูกของเธอ
บัวผันมาหาหญิงสาวตอนบ่าย หญิงสูงวัยกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นสภาพของเธอ “คุณน้ำขา ลุกขึ้นมากินอะไรสักหน่อยนะคะ ป้าเอาข้าวมาให้” ที่ผ่านมาชลาลัยได้กินแต่ข้าวกับผักต้ม ร่างกายถึงได้ผ่ายผอม พักหลัง ๆ คนเฝ้าประตูบอกว่าเธอไม่แตะอาหารเลย จึงทำให้ผอมลงไปอีก “ฉันไม่หิวค่ะป้า” “ไม่หิวก็ต้องฝืนนะคะ เห็นแก่นายน้อยนะคะ คุณน้ำไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกแล้ว จะทำอะไรก็นึกถึงลูกบ้างนะคะ” บัวผันเกลี้ยกล่อม น้ำตาไหลอาบแก้ม เพราะสงสารคนที่อยู่ในท้อง นายน้อยไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ทำไมต้องมารับกรรมที่พ่อแม่ทำไว้ “ดื่มนมสักนิดนะคะ ป้าเอานมมาให้ด้วย” ชลาลัยน้ำตารื้นหัวตา คงแค่มื้อนี้มื้อเดียว พรุ่งนี้กับข้าวของเธอ คงมีแค่ข้าวกับผักต้มตามเดิม “ป้าวางนมไว้ตรงนั้นนะคะ ดึก ๆ ฉันจะลุกมากิน” บอกให้คนแก่สบายใจ แต่เธอไม่คิดจะดื่มมัน “ผ้าห่มค่ะ กลางคืนอากาศหนาว ห่มอีกชั้นนะคะจะได้อุ่นขึ้น” “ขอบคุณนะคะป้า ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของป้าเลย” พูดจบชลาลัยก็หลับตาลง เป็นอันจบบทสนทนา บัวผันมองโซ่ที่ขาสลับกับใบหน้าที่ซีดเผือดของหญิงสาว ต้องโ
หลังจากตรวจเสร็จ คุณหมอหนุ่มก็เข้ามารายงานอาการของคนป่วยให้เจ้าของไร่ทราบ ธาดาตกใจจนพูดไม่ออก เมื่อรู้ว่าชลาลัยตั้งท้อง เร็วเกินไปหรือเปล่า ชลาลัยมาอยู่ที่นี่ยังไม่ถึงเดือน เธอท้องแล้วเหรอ ตั้งแต่วันนั้น เขาก็ไม่ได้ไปหาเธออีก คนของเขารายงานว่าเธอไม่ยอมกินอาหาร ร่างกายซูบผอมจนล้มป่วย แล้วยังมาท้องอีก แบบนี้ร่างกายเธอจะรับไหวเหรอ “มึงจะบอกกูได้หรือยังว่าเธอท้องกับใคร อย่าบอกนะว่าท้องกับมึง” พชรถามเมื่อเพื่อนไม่ตอบจึงสรุปเอาเอง ธาดาไม่ปฏิเสธ ยิ่งทำให้คุณหมองงหนักขึ้นไปอีก เกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วทำไมถึงอยู่ในสภาพนั้น หน้าตาผิวพรรณบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนแถวนี้ “ไม่ปฏิเสธ แสดงว่าจริง เกิดอะไรขึ้น ทำไมมึงให้เธออยู่อย่างนั้น ไหนจะโซ่ที่ขาอีก มึงรู้ไหมว่ามันบาดขาเธอจนเป็นแผลลึก เล่ามาเลยนะ เล่ามาให้หมด ไม่อย่างนั้นกูจะแจ้งความให้ตำรวจมาจับมึง” พชรขู่ ธาดายกมือกุมขมับ พร้อมกับถอนหายใจออกมา “ไว้กูจะเล่าให้ฟังทีหลัง มึงว่าอาการเธอเป็นยังไงนะ” หมอหนุ่มกลอกตา เมื่อเพื่อนไม่ยอมปริปาก ดีที่ยังเป็นห่วงเธอบาง “คนท้องนะมึง ถ้าไม่กินข้า
ธาดาวางหญิงสาวลงบนแคร่ไม้ไผ่ โดยมีบัวผันช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง “ทำไมต้องทำรุนแรงด้วยคะ” บัวผันถาม พร้อมกับใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดไปบนเนื้อตัวของหญิงสาว หญิงสูงวัยหัวใจกระตุก เมื่อเห็นแผลเป็นทางยาวที่เท้าและตามตัวของเธอ “ป้าก็เห็นว่าเธอคิดหนี” ธาดาตอบพร้อมกับถอนหายใจออกมา ไม่พอใจที่ถูกคนที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กตำหนิ “แล้วคุณดินทำอะไรคะ เธอถึงคิดหนี” “ป้าไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า” “ค่ะ ป้าจะไม่พูด จะไม่ยุ่งกับคุณดินอีก แต่ป้าขอนะคะ อย่าทำร้ายเธออีกเลย แค่นี้เธอก็เจ็บเจียนตายแล้วค่ะ” บัวผันตัดบท นางไม่รู้ปัญหาของสองคนนี้ นางก็จะไม่ยุ่งอีก ธาดาเป็นคนมีเหตุผล แต่สิ่งที่เขาทำกับชลาลัยมันมากเกินไป จนนางทนไม่ไหว “ขอโทษครับป้า” ธาดาขอโทษที่เผลอใช้คำพูดไม่ดีกับบัวผัน “ไม่เป็นไรค่ะป้าไม่โกรธ คุณดินเป็นคนมีเหตุผล ป้าเชื่อว่าที่คุณดินทำ คุณดินต้องคิดมาแล้วถึงทำ” บัวผันประชดให้คนหนุ่ม ธาดากลอกตาไปมา ตกลงป้าบัวผันเป็นคนของใครกันแน่ ทำไมไปอยู่ข้างชลาลัย “ออกไปสิคะป้าจะเช็ดตัวให้คุณน้ำ” บัวผันไล่เจ้านาย ที่ยังยืน
ชลาลัยมองเห็นไฟทางบนถนน ภูเขาที่อยู่อีกฟากถนนตั้งตระงาน ทอดเงาทะมึนมาบดบังแสงไฟ มองแล้วคล้ายกับเงาของผู้ชายร่างสูงใหญ่ ยืนจังก้าขวางอยู่ตรงนั้น ชลาลัยหอบหายใจถี่ ๆ รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ จังหวะที่วิ่งมาถึงบริเวณทุ่งโล่ง สายลมพัดมากระทบผิวกาย รู้สึกเย็นยะเยือกจนจับขั้วหัวใจ ขนอ่อนพากันเรียงตัว ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นรถยนต์จอดอยู่ริมถนน “นั่นครับรถ” เสกหันมาบอก ชลาลัยยิ้มตอบ ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยความหวัง อีกนิดเดียวเท่านั้น อีกห้าสิบเมตรเธอก็จะถึงรถ หลังจากนั้นเธอก็จะหลุดพ้นเสกที่วิ่งนำหน้าหยุดชะงัก แล้ววิ่งออกไปอีกทาง ชลาลัยตกใจกับการกระทำของเด็กหนุ่ม ไม่ทันได้คิดนาน แสงไฟฉายและสปอร์ตไลท์ก็สว่างขึ้น แสงไฟดวงใหญ่จับอยู่ที่ตัวเสก ไม่ว่าเสกจะวิ่งไปทางไหนไฟก็ส่องตามไป ไฟฉายอีกดวงถูกส่องมาที่หน้าเธอ ชลาลัยทำอะไรไม่ถูก ล้มทั้งยืนเมื่อเห็นว่าคนที่ส่องไฟมาที่หน้าเธอเป็นใคร “จับไอ้เสกไว้!” สิ้นคำสั่งชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ก็วิ่งตามเสกไป ชลาลัยถอยหนี ใช้มือปัดป้องตัวเอง เมื่อฝ่ามือใหญ่คว้าลงมาที่ต้นแขน “คิดว่าหนีผมพ้นเหรอ! ร้ายมากนะ มิน่าเมื
ชลาลัยมองข้าวในถาด ก่อนจะนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงนอน อยู่ ๆ ก็ไม่อยากกินอาหาร ความรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะได้ออกไปจากที่นี่หายไปจนหมดสิ้น หลังจากนัดเวลากับเสก หญิงสาวก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนอน เวลาแค่ไม่กี่วันที่อยู่ด้วยกัน ทำไมเธอถึงรู้สึกกับธาดามากมายขนาดนี้ คงเพราะเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ พยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกกับสิ่งที่เขาทำ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าเธอกำลังหลอกตัวเอง ถ้าธาดารู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำให้ฟ้ารินเสียชีวิต เขาจะรู้สึกอย่างไรกับเธอ ความเกลียดชังที่เขามีต่อเธอจะเบาบางลงบ้างไหม “ลาก่อนนะคุณธาดา หวังว่าเราคงไม่ต้องมาเจอกันอีก” บอกลาเขาในใจ จากกันครั้งนี้คงไม่ได้เจอกันอีก เป็นอีกวันที่ธาดาไม่มีสมาธิทำงาน ชายหนุ่มพาตัวเองออกมาท้ายไร่ ดูผลผลิตที่กำลังจะได้เก็บเกี่ยวในอีกไม่นาน ทำตัวให้ยุ่งที่สุด จะได้ไม่ต้องคิดถึงเธอ รอให้เธอตั้งท้องเขาจะพาเธอไปส่งที่บ้าน ถึงเวลานั้นคงไม่ต้องมาเจอกันอีก ปีนี้ลำไยราคาดีกว่าทุกปี เพราะช่วงที่ราคาตกต่ำ เกษตรกรพากันตัดต้นทิ้ง เขาบอกให้ทุกคนอดทน และทำแบบที่เขาทำ แต่ชาวบ้านก็ทนไม่ไหว ที่ลำไยของชาวบ้านขายไม่ได้ราคา เพราะผลผลิตไม่ได้มาตร







