มิ้นท์และปกรณ์เริ่มเตรียมงานแต่งงานของตนเองอย่างกระตือรือร้น อลิสาและคีรินทร์ในฐานะผู้มีประสบการณ์ก็เข้ามาช่วยให้คำปรึกษาและลงมือช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน การเตรียมงานเป็นไปอย่างสนุกสนานและอบอุ่น ความสุขของมิ้นท์และปกรณ์เป็นสิ่งที่เติมเต็มให้กับอลิสาและคีรินทร์เช่นกัน เพราะพวกเขาได้เห็นเพื่อนรักมีความสุขและได้สร้างครอบครัวในฝัน
หลังจากข่าวดีเรื่องการหมั้นหมาย มิ้นท์และปกรณ์ก็เข้าสู่ช่วงเวลาของการเตรียมงานแต่งงานอย่างเต็มตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งคู่รอคอยมานานแสนนาน งานแต่งงานในฝันของพวกเขาไม่ได้เน้นความหรูหราอลังการ แต่เป็นงานที่อบอุ่น เรียบง่าย และเต็มไปด้วยความหมาย โดยมีเพื่อนสนิทอย่างอลิสาและคีรินทร์คอยให้คำปรึกษาและลงมือช่วยเหลืออย่างเต็มที่
วันหนึ่ง มิ้นท์และปกรณ์นัดกันไปลองชุดแต่งงานที่ร้าน ซึ่งอลิสาและคีรินทร์ก็เดินทางไปร่วมด้วยเพื่อช่วยให้คำแนะนำ อลิสาตื่นเต้นไม่แพ้เจ้าสาว เธอให้คำแนะนำเรื่องแบบชุดที่เหมาะกับรูปร่างของมิ้นท์ ส่วนคีรินทร์ก็ช่วยปกรณ์เลือกชุดสูทเจ้าบ่าวที่ดูสง่างาม
“มิ้นท์ลองชุดนี้สิ ลิซว่าต้องสวยแน่ๆ เลย” อลิสาหยิบชุดเจ้าสาวเกาะอกผ้าลูกไม้ขึ้นมาให้มิ้นท์ลอง
มิ้นท์เข้าไปลองชุดในห้องลองชุด ใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมา เมื่อมิ้นท์ปรากฏตัวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ทุกสายตาก็ต้องจับจ้องไปที่เธอ ชุดลูกไม้ที่เข้ารูปขับเน้นเรือนร่างบอบบางของมิ้นท์ให้ดูสง่างามและอ่อนหวานยิ่งขึ้น
“โอ้โหมิ้นท์ สวยมากเลย” อลิสาอุทานด้วยความชื่นชม
ปกรณ์ยืนนิ่งราวกับถูกมนต์สะกด ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความรักและความภาคภูมิใจ
“มิ้นท์สวยที่สุดในโลกเลย” ปกรณ์พูดเสียงพร่า เขาเดินเข้าไปหามิ้นท์ ช้อนมือขึ้นประคองใบหน้าของเธอ แล้วจูบหน้าผากเบาๆ
มิ้นท์หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย เธอเงยหน้ามองปกรณ์ด้วยรอยยิ้มหวานซึ้ง
อลิสาและคีรินทร์ที่ยืนมองอยู่ห่างๆ ก็ยิ้มให้กัน คีรินทร์โอบเอวอลิสาเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบข้างหูเธอเบาๆ “ลิซก็สวยที่สุดในโลกของพี่นะครับ”
อลิสาหันมายิ้มให้คีรินทร์ด้วยความเขินอายเล็กน้อย โมเมนต์ที่เพื่อนรักมีความสุข ทำให้พวกเขาหวนคิดถึงวันวานของตนเอง
นอกจากการลองชุดแต่งงานแล้ว มิ้นท์และปกรณ์ยังทุ่มเทกับการเลือกสรรทุกรายละเอียดของงานแต่งงาน ตั้งแต่สถานที่จัดงาน อาหาร การตกแต่ง ไปจนถึงการ์ดแต่งงาน และของชำร่วย
วันหนึ่ง พวกเขานัดกันที่ร้านการ์ดแต่งงาน อลิสาและคีรินทร์ก็มาร่วมด้วยเพื่อช่วยเลือกแบบการ์ดที่สวยงามและเหมาะสม
“มิ้นท์ชอบแบบที่ดูเรียบง่ายแต่เก๋ๆ ค่ะ” มิ้นท์บอกกับพนักงาน พร้อมกับชี้ไปที่ตัวอย่างการ์ดแบบมินิมอล
ปกรณ์พยักหน้าเห็นด้วย “พี่ว่าแบบนี้ก็สวยดีนะ ดูสะอาดตาดี”
อลิสาหยิบการ์ดอีกแบบขึ้นมาดู “แบบนี้ก็น่ารักดีนะมิ้นท์ มีรูปการ์ตูนคู่รักด้วย”
“อันนั้นน่ารักค่ะลิซ แต่มิ้นท์ว่ามันอาจจะดูไม่เป็นทางการเท่าไหร่” มิ้นท์ตอบกลับ
ขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันเลือกแบบการ์ด ปกรณ์ก็เลื่อนมือไปกุมมือมิ้นท์ไว้แน่น เขาส่งสายตาหวานๆ ให้เธอ มิ้นท์ยิ้มตอบกลับด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
“ไม่ว่าแบบไหน พี่ก็มั่นใจว่าต้องสวยที่สุดอยู่แล้วครับ เพราะมิ้นท์เป็นคนเลือก” ปกรณ์กระซิบข้างหูมิ้นท์เบาๆ
มิ้นท์หน้าแดงก่ำ “พี่ปกรณ์นี่ก็พูดไปเรื่อย”
อลิสาและคีรินทร์ที่เห็นโมเมนต์น่ารักๆ ของเพื่อนรักก็ยิ้มให้กัน คีรินทร์เดินเข้ามาใกล้อลิสาแล้วโอบไหล่เธอไว้ “เห็นแบบนี้แล้วก็อยากจัดงานแต่งงานอีกครั้งเลยนะลิซ”
อลิสาหัวเราะเบาๆ “พี่คีคะ พูดอะไรน่ะ”
การเตรียมงานแต่งงานเป็นกระบวนการที่ทำให้มิ้นท์และปกรณ์ได้ใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน ได้เรียนรู้ที่จะตัดสินใจร่วมกัน และได้เห็นว่าความรักของพวกเขานั้นแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสร้างสรรค์สิ่งสวยงามต่างๆ ขึ้นมาได้
อลิสาและคีรินทร์ไม่เพียงแค่ช่วยให้คำแนะนำ แต่ยังลงมือช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน เช่น การช่วยติดต่อประสานงานกับผู้จัดงานแต่งงาน การช่วยจัดเตรียมของชำร่วย หรือแม้แต่การเป็นเพื่อนไปชิมอาหารสำหรับจัดเลี้ยง
วันหนึ่ง อลิสาและคีรินทร์ไปช่วยมิ้นท์และปกรณ์ชิมอาหารที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
“มิ้นท์ว่าอาหารอร่อยทุกอย่างเลยนะคะพี่คี” มิ้นท์พูดพลางชิมอาหารจานหลัก
“ใช่ครับ อร่อยจริงๆ” ปกรณ์เสริม
คีรินทร์พยักหน้า “โรงแรมนี้เขาจัดงานดีจริงๆ ครับ พี่เชื่อว่าอาหารในงานแต่งงานของมิ้นท์กับปกรณ์จะต้องประทับใจแขกทุกคนแน่นอน”
อลิสายิ้ม “ลิซว่างานแต่งงานของมิ้นท์กับพี่ปกรณ์จะต้องเป็นงานที่น่ารักและอบอุ่นที่สุดเลยค่ะ”
คำพูดของอลิสาทำให้มิ้นท์และปกรณ์รู้สึกอบอุ่นหัวใจ พวกเขารับรู้ได้ถึงความปรารถนาดีที่เพื่อนรักทั้งสองมีให้
“ขอบคุณมากนะลิซ พี่คี ที่ช่วยมิ้นท์กับพี่ปกรณ์มาตลอด” มิ้นท์พูดด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งใจ
“ไม่เป็นไรหรอกมิ้นท์ พวกเรายินดีช่วยอยู่แล้ว” อลิสาตอบกลับ “เห็นมิ้นท์กับพี่ปกรณ์มีความสุข ลิซก็มีความสุขไปด้วยค่ะ”
ความสุขของมิ้นท์และปกรณ์เป็นสิ่งที่เติมเต็มให้กับอลิสาและคีรินทร์เช่นกัน เพราะพวกเขาได้เห็นเพื่อนรักมีความสุขและได้สร้างครอบครัวในฝัน การได้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเตรียมงานแต่งงานนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกผูกพันกันมากยิ่งขึ้น
การเตรียมงานแต่งงานดำเนินไปอย่างราบรื่นและเต็มไปด้วยความสุข มิ้นท์และปกรณ์เริ่มมองเห็นภาพงานแต่งงานในฝันของพวกเขาชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆ ขั้นตอนที่ได้ลงมือทำร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกชุด การ์ด หรืออาหาร ล้วนเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่ช่วยตอกย้ำความรักที่พวกเขามีให้กัน
วันหนึ่ง มิ้นท์และปกรณ์กำลังนั่งดูรูปสถานที่จัดงานแต่งงานที่เลือกไว้
“มิ้นท์รู้สึกตื่นเต้นจังเลยค่ะพี่ปกรณ์” มิ้นท์พูดด้วยแววตาเป็นประกาย
“พี่ก็เหมือนกันครับมิ้นท์” ปกรณ์ตอบกลับ “อีกไม่นานเราก็จะได้ใช้ชีวิตคู่กันอย่างสมบูรณ์แล้ว”
ปกรณ์เลื่อนมือไปโอบไหล่มิ้นท์แน่น มิ้นท์ซบหน้าลงกับอกของเขาอย่างสบายใจ
พวกเขาทั้งสองคนต่างรู้ดีว่าชีวิตคู่ข้างหน้าอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป อาจมีทั้งความสุข ความท้าทาย และบทเรียนต่างๆ ที่ต้องเผชิญ แต่ด้วยความรัก ความเข้าใจ และมิตรภาพที่แข็งแกร่งจากอลิสาและคีรินทร์ พวกเขาก็พร้อมที่จะก้าวผ่านทุกสิ่งไปได้
งานแต่งงานของมิ้นท์และปกรณ์จะเป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ในชีวิตของพวกเขา บทใหม่ที่เต็มไปด้วยความรัก ความสุข และการเติบโตที่ไม่มีวันสิ้นสุด และความสุขของพวกเขาก็จะส่งต่อและเติมเต็มให้กับอลิสาและคีรินทร์ตลอดไป
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่