ตอนที่8 แรกพบ
เลิกเรียน
“วันนี้จะแวะซื้อขนมที่ไหนหรือเปล่าครับ” ลุงคนขับรถเอ่ยถามทันทีที่พลอยใสก้าวเท้าขึ้นมาบนรถ
“เอ่อ..เปล่าค่ะ กลับบ้านเลยค่ะ” พลอยใสตอบกลับแบบงง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เลยนึกคำพูดของธาราเมื่อเช้าที่บอกกับเธอว่าตอนเย็นในบ้านจะกลับมาปกติเหมือนเดิม
บ้านฮาร์เปอร์
“วันนี้เรียนเหนื่อยไหมครับ” เสียงบอดี้การ์ดที่ยืนทำหน้าที่อยู่หน้าบ้านเอ่ยทักทายเด็กสาวอย่างเช่นทุกวัน
“ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ พี่ ๆ ล่ะคะ ทำงานกันเหนื่อยไหมคะวันนี้” เสียงเจื้อยแจ้วตอบกลับ บ้านฮาร์เปอร์กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังเจอมรสุมลูกใหญ่จากประมุขของบ้านถูกจัดการไป
สี่ทุ่ม
“เธอจะออกไปไหนเหรอพลอยใส ผ้าไหมที่ลุกไปเข้าห้องน้ำและกำลังเดินกลับเข้ามานอนถามขึ้นเมื่อเห็นพลอยใสถือผ้าคลุมกำลังจะเดินออกจากห้อง”
“พลอยรู้สึกนอนไม่ค่อยหลับน่ะว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย ไหมนอนก่อนเลยนะ” พลอยใสบอกกับเพื่อนร่วมห้องนอนของเธอ
“อืม ตามใจดึก ๆ ดื่น ๆ ยังจะออกไปเดินเล่นอีกนะเธอนี่ ฉันนอนก่อนล่ะไม่ไหวง่วง” ผ้าไหมพูดพร้อมกับเดินไปขึ้นเตียงปิดโคมไฟหัวเตียงและนอนหลับไป
พลอยใสที่เกิดอาการนอนไม่หลับจึงออกมานั่งรับลมเย็น ๆ ช่วงกลางดึกหลังจากกลับเข้าห้องไปเมื่อตอนสองทุ่มกว่า ๆ อากาศยามค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวระยิบระยับ พร้อมสายลมเอื่อย ๆ ที่พัดมากระทบผิวหน้าและผิวกายเรียกให้ขนในกายสาวลุกซู่ มือเล็กหยิบผ้าคลุมที่ถือติดมือมาด้วยขึ้นคลุมไหล่บาง แม้สายลมยามค่ำคืนจะทำให้อากาศค่อนข้างเย็นแต่ก็ทำให้รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ของอากาศจนเธอยอมที่จะนั่งตากน้ำค้างเพื่อรับความสดชื่นนี้ ก่อนจะนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ จนไม่รู้ว่ากำลังมีใครอีกคนเดินเข้ามาบริเวณนั้น
คืนนั้นชาร์วีรู้สึกอยากออกมาสูดอากาศด้านนอกจึงลงมาเดินเล่นด้านล่าง มาเฟียหนุ่มในชุดนอนผ้าฝ้ายสีน้ำเงินเข้มสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ ตามทางเดินของสวนหย่อม โดยมีเหล่าบอดี้การ์ดที่คอยรักษาความปลอดภัยกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ
ชาร์วีเดินแหงนหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่เปล่งแสงท่ามกลางความมืดมิดของท้องฟ้า และอดที่จะเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้ว่าเขาก็ไม่ต่างจากท้องฟ้าที่เมื่อถึงเวลามืดก็ต้องมืดเมื่อถึงเวลาสว่างก็ต้องสว่าง ในขณะที่กำลังเดินไปเรื่อย ๆ และคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่สายตาคมก็ปะทะเข้ากับร่างบางที่กำลังนั่งกอดตัวเองแหงนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อน ร่างสูงหยุดฝีเท้าและยืนมองเสี้ยวหน้าของเด็กสาวที่ตอนนี้โตเป็นสาวเต็มตัว พลางนึกในใจว่าเด็กคนนี้สวยเด่น ผิวขาวที่ต้องแสงจันทร์ยามค่ำคืนดูแล้วเด่นกว่าแสงดาวที่เปล่งประกายบนท้องฟ้าด้วยซ้ำ ยิ่งมองนานเข้ายิ่งสัมผัสถึงความสวยแบบหมดจด สวยแบบไร้เดียงสา แม้จะเห็นเพียงแค่เสี้ยวหน้าด้านข้าง ชาร์วียืนมองสำรวจใบหน้าของพลอยใสอยู่นานโดยไม่ให้หญิงสาวรู้ตัว พลอยใสรู้สึกง่วงและหาวหวอด ๆ มือบางยกมือขึ้นปิดปากหาวอยู่หลายครั้งในที่สุดก็ลุกเดินกลับเข้าบ้านไปนอน ชายหนุ่มยืนมองร่างเพรียวระหงของวัยสาวแรกแย้มเดินเข้าบ้านไปจนลับสายตาด้วยความรู้สึกที่ยากอธิบาย
หลังจากที่พลอยใสเดินกลับเข้าบ้านไปแล้วชาร์วีก็เดินเล่นต่ออีกสักพักก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องเพื่อไปพักผ่อนหลังจากเดินรับลมมาสักพัก แต่จนแล้วจนรอดก็นอนไม่หลับเพราะใบหน้าของเด็กสาวที่พึ่งเจอมานั้นคอยวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา
“จัดการติดกล้องวงจรปิดแถวสวนหย่อมเพิ่มทุกมุมด้วย” ชาร์วีเอ่ยขึ้นในเช้าวันถัดมาในขณะที่กำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่กับธารา
“สวนหย่อม? สวนหย่อมหลังบ้านน่ะเหรอครับ” ธาราถามกลับอย่างแปลกใจ
“บ้านนี้มีสวนหย่อมหลายที่หรือไง” ชาร์วีตอบกลับน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อมือขวาทำท่าเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่สั่ง ธาราคิ้วขมวดมุ่นเพราะความจริงตรงนั้นก็มีกล้องอยู่แล้วไม่เข้าใจว่าชาร์วีจะติดเพิ่มทำไม แต่ก็ไม่อยากถามอะไรมากเพราะยังไงก็ต้องทำตามเจ้านายสั่งอยู่ดี
“เดี๋ยวสาย ๆ จะให้คนมาจัดการให้ครับ” ธารารับคำสั่งคนเป็นนายก่อนที่ทั้งคู่จะจัดการกับอาหารเช้าตรงหน้าแล้วพากันออกจากบ้านหลังใหญ่เพื่อไปทำงานเหมือนเช่นทุกวัน
“เป็นยังไงบ้างช่วงนี้เรียนหนักเลยสิ” สายวันหยุดที่พลอยใสและเพื่อน ๆ ไม่ได้ไปเรียนหลังจากที่ช่วยงานในครัวและงานบ้านใหญ่เสร็จเลยมานั่งอ่านหนังสือตรงที่เดิมของเธอเหมือนทุกครั้ง ธาราที่หยุดอยู่บ้านเพราะไม่มีนัดที่ต้องออกไปพบลูกค้าเดินมาหาเด็กสาวเพื่อถามไถ่ความเป็นอยู่และความต้องการที่จำเป็นเพิ่มเติม หลังจากที่ไม่ได้มาหาหลายวันเพราะงานที่ค่อนข้างยุ่งในช่วงนี้
“นิดหน่อยค่ะใกล้สอบปลายภาคแล้วและเป็นเทอมสุดท้ายของปีสุดท้ายแล้วด้วยก็เลยต้องขยันอ่านหนังสือนิดหนึ่งค่ะ” พลอยใสที่เห็นผู้มาเยือนก็ยิ้มกว้างตอบออกไป
“เวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะแป๊บเดียวน้องสาวพี่ก็โตเป็นสาวจนจะได้เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว”
“ถ้าไม่มีคุณวีและพี่ธาราพลอยเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าตอนนี้ชีวิตพลอยจะเป็นยังไง ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่ให้โอกาสพลอย” พลอยใสขอบคุณพร้อมยกมือไหว้ธารา
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพราะพลอยเป็นเด็กดีความดีของพลอยก็เลยทำให้พลอยได้รับสิ่งดี ๆ ไง ไม่ใช่เป็นเพราะพี่หรอก ขอให้ตั้งใจเรียนถ้ามีอะไรก็บอกพี่เดี๋ยวพี่จะแจ้งคุณวีให้” ธารายกมือขึ้นขยี้หัวพลอยใสอย่างเอ็นดูเหมือนที่เคยทำ โดยไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าต่างห้องทำงานบนชั้นสองบ้านหลังใหญ่กำลังมีสายตาคู่คมจ้องมองลงมายังที่ทั้งคู่นั่งอยู่
“คุณวีเขางานยุ่งขนาดนั้นเลยเหรอคะ” เมื่อธาราเอ่ยถึงชาร์วีขึ้นมาพลอยใสจึงอดใจไม่ได้ที่จะถามออกไป
“ทำไมล่ะ”
“ก็ตั้งแต่พลอยมาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยเห็นหน้าคุณวีเลยสักครั้ง เขาทำงานหนักกลับบ้านดึก ๆ ทุกคืนเลยเหรอคะ”
“เจ้านายมีธุรกิจหลายอย่างยิ่งตอนนี้หลายธุรกิจกำลังขยายตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไหนจะต้องดูแลพนักงานอีกเป็นร้อยเป็นพันชีวิต” ธาราเล่าให้เด็กสาวฟังเชิงปลอบโยน เขารู้ว่าเด็กในอุปการะของชาร์วีทั้งสามคนอยากเจอหน้าผู้อุปการะของตนเองแต่ติดที่เจ้านายเขานี่สิไม่รู้มีเหตุผลอะไรที่ไม่ยอมให้พบ
“พลอยมาอยู่ที่นี่ 6 ปีแล้วนะคะคิดเป็นวันก็ 2190 วันแล้วเวลาสองพันกว่าวันที่ผ่านมาคุณวีเขาไม่เคยมีวันว่างเลยเหรอคะ” ระยะเวลาเกือบ6ปีที่เธอมาอยู่ที่นี่ แม้แต่สวนหย่อมข้างบ้านก็ไม่เคยเห็นเขาย่างกายเข้ามา จะเห็นแค่เพียงแว็ป ๆ ครั้งสองครั้งตอนที่เขากลับมาจากทำงานแค่นั้นเอง
“อยากเจอนายขนาดนั้นเลยเหรอเรา มีอะไรต้องการที่จะคุยกับนายบอกพี่ได้นะเดี๋ยวพี่ไปบอกนายให้” ธาราแกล้งถามขึ้นเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย
“เปล่าหรอกค่ะ ถ้ามีโอกาสพลอยแค่อยากขอบคุณ คุณวีแค่นั้นเองค่ะ” พลอยใสบอกเหตุผลของเธอออกไป ทั้งที่ในใจก็เกิดคำถามอยู่บ่อยครั้งว่าเธอต้องการที่จะพบเขาทำไม ในเมื่อเขาแค่รับเธอมาอุปการะส่งเสียให้เรียนหนังสือ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเจอหน้าหรือพูดคุยกันแม้แต่คำขอบคุณจากเธอก็เชื่อว่ามาเฟียหนุ่มนั้นไม่ได้ต้องการ
“พี่จะบอกนายให้แล้วกัน”
หลังจากนั่งพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่สักพักธาราก็กลับเข้าบ้านใหญ่โดยรับปากเด็กสาวว่าจะนำความต้องการของเธอมาแจ้งกับเจ้านายให้
“ได้ยินแล้วคิดว่าไง อยากจะเปลี่ยนใจไหม” หลังจากเดินแยกมาจากพลอยใส ธาราก็ตรงขึ้นมายังห้องทำงานของชาร์วีทันทีก่อนจะเอ่ยถามแบบยิ้ม ๆ
“เปลี่ยนใจอะไร” ชาร์วีที่กำลังเซ็นเอกสารงบประจำเดือนของผับอยู่เอ่ยถามขึ้นทั้งที่สายตายังจ้องอยู่ที่ตัวเลขกระดาษในมือ
“นายก็ได้ยินที่เด็กมันคุยกับผมแล้วนี่ครับเห็นแอบยืนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ จะสละเวลาให้เด็กมันเจอหน่อยได้หรือเปล่าละครับ”
“สรุปแกเป็นลูกน้องฉันหรือเป็นทูตเชื่อมสัมพันธไมตรีกันแน่” คนที่ถูกลูกน้องรู้ทันถามกลับแบบประชด
“สงสารพลอยใสนะครับ ความจริงมีครอบครัวที่สมบูรณ์ต้องการรับเธอไปอุปการะแต่เพราะนายเลือกเธอก่อนเธอเลยต้องมาอยู่กับผู้ปกครองที่ให้เธอได้แต่เงิน แม้แต่หน้าก็ไม่เคยเห็น เธอน่าจะได้ไปเจอครอบครัวที่ดีกว่านี้” ธาราใช้ความจริงเข้ากดดันมาเฟียหนุ่ม ทั้งที่เรื่องนี้เขาเองก็ไม่อยากพูดถึงเพราะเขาก็มีส่วนในเรื่องนี้ที่ต้องการดึงพลอยใสมาไว้ใกล้ตัวเพราะห่วงว่าจะไปเจอครอบครัวที่ไม่ได้รักเธอจริง ๆ
“แล้วกูไม่ดีตรงไหน” เสียงเข้มดังขึ้นอย่างโมโหทันทีที่ได้ยินลูกน้องพูดแบบนั้น
“เปล่าครับ นายเป็นคนดีแต่เย็นชาเกินไปหน่อย” ธาราพูดก่อนจะก้มหัวให้คนเป็นนายแล้วเดินออกจากห้องไป ชาร์วีมองตามหลังลูกน้องคนสนิทด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ลูกน้องพูดมานั้นเป็นความจริง
หลังจากที่ธาราเดินออกจากห้องไปชาร์วีก็นั่งคิดทบทวนเรื่องที่คุยกันไปเมื่อสักครู่ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดดูอะไรบางอย่าง ภาพเด็กสาวที่กำลังนั่งทบทวนตำราเรียนพร้อมทำท่าครุ่นคิดเหมือนไม่เข้าใจสิ่งตรงหน้าเป็นระยะทำให้ชายหนุ่มนั่งมองภาพที่ส่งผ่านมาทางมือถือจนเพลิน ทุกอิริยาบถทุกความเคลื่อนไหวจากร่างอรชรนั้นส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของเขาอยู่ไม่น้อย จากครั้งแรกที่เจอเมื่อสิบปีก่อนจนถึงตอนนี้จะเรียนจบ high school แล้ว การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายที่โตขึ้นตามวัยจนกลายเป็นสาวที่หน้าตาสวยเด่น จนเขาเองต้องยอมรับว่าเด็กสาวคนนี้มีเสน่ห์ดึงดูดให้หลงใหลมากพอสมควร
“เราจะได้เจอกันเมื่อทุกอย่างถึงเวลา..เด็กน้อย” เสียงเรียบพูดกับหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะกดปิดและนั่งทำงานตรงหน้าต่อ
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว