 LOGIN
LOGIN09:30 น.
"อ่ะ! มีอะไรก็ว่ามา" โจ้เดินมานั่งที่โต๊ะแล้วถามด้วยสีหน้าเบื่อ ๆ "มีอะไรยังไงว่ะ" สายลมถาม "เอ้า! ก็ที่มึงเรียกให้กูมามอตอนนี้ไง มีอะไรด่วน" โจ้พูด "เปล่าอ่ะไม่มีไร" สายลมตอบ "ไม่มีอะไรแล้วมึงเรียกกูมาทำไม" โจ้ถาม "กูก็แค่ไม่อยากอยู่คนเดียวเฉย ๆ" สายลมตอบ "แล้วมึงจะรีบออกมาแต่เช้าเพื่อ มึงไม่อ่านในไลน์กลุ่มเหรอว่ะว่าวันนี้คาบเช้าเขายกคลาสอ่ะ" โจ้พูด "อ่านแล้ว" สายลมตอบ "อ่านแล้วแล้วมึงจะสาระแนมาทำไมแต่เช้าครับ ทำไมมึงไม่นอนเล่นที่คอนโดมึงก่อนครับแล้วพอถึงคาบบ่ายมึงก็ค่อยเสนอหน้าออกมาเรียน" โจ้พูด "กูไม่ได้มาแต่เช้าแต่กูขี้เกียจวนรถกลับไปคอนโดก็เลยเรียกมึงมาอยู่เป็นเพืื่อนนี่ไง" คำตอบของสายลมทำให้ยิ่งฟังโจ้ก็ยิ่งอารมณ์ขึ้น "ไอ้เชี้ยลม! มึงก็รู้นิหว่าว่าอาจารย์ประภาสแกยกคลาสยากขนาดไหนแล้วนี่กูอุตส่าห์ได้โอกาสนอนตื่นสายแล้วแท้ ๆ มึงก็ยังโทรขุดกูออกมาจากเตียงอีก ไอ้เพื่อนชั่ว" โจ้ว่าสายลมด้วยความหงุดหงิดเมื่อรู้ว่าความจริงว่าที่เพื่อนเรียกให้เขามาเป็นเพราะแค่ไม่อยากอยู่คนเดียวทั้ง ๆ ที่ตอนแรกเขารีบตั้งใจมาหาสายลมด้วยความเป็นห่วงเพราะคิดว่าสายลมน่าจะมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าถึงรอคุยกันตอนบ่ายไม่ได้ "เรื่องแค่นี้เองมึงจะบ่นทำไมเนี่ย" สายลมพูด "ไม่บ่นได้ไงเมื่อคืนกูดูบอลจนดึกเพิ่งจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง" โจ้ตอบ "กูก็ได้นอนแปปเดียวเหมือนมึงนั่นแหละ" สายลมตอบ "แล้วมึงเป็นห่าอะไรไม่นอน!" โจ้ถาม "เรื่องของกู" สายลมตอบ "มึงนี่แม่ง!...อุ้ย~น้องแพร" ในระหว่างที่โจ้กำลังบ่นสายลมอยู่สายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับแพรรุ่นน้องสาวสวยในคณะ "สวัสดีค่ะพี่โจ้ พี่สายลม" แพรตอบ "จะไปไหนครับเนี่ย" โจ้ถาม สายลมเห็นสีหน้าดี้ด้าของเพืือนก็ถึงกับส่ายหัวทันทีเพราะเมื่อกี้เจ้าตัวยังหงุดหงิดใส่เขาอยู่เลยแต่พอเจอสาวสวยก็ดันอารมณ์ดีขึ้นมาซะงั้นแต่ก็ไม่แปลกใจหรอกเพราะโจ้เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว เขาเป็นคนคารมดี เฟรนลี่ขี้เล่น โกรธง่ายหายเร็วและชอบเต๊าะสาว ๆ สวย ๆ เป็นที่สุด "แพรมาจองโต๊ะให้เพืื่อน ๆ น่ะค่ะไม่รู้ทำไมวันนี้โต๊ะเต็มแต่เช้าเลย" แพรตอบ "เห็นว่ามีนักร้องชื่อดังศิษย์เก่าจากคณะเรามาพูดคุยกับพวกอาจารย์เกี่ยวกับงานกีฬามหาลัยอ่ะคนก็เลยแห่มาที่คณะเรากันเต็มเลย" โจ้พูด "แย่จัง สงสัยแพรกับเพืื่อน ๆ ต้องไปนั่งรอที่โรงอาหารคณะอื่นแล้วมั้งคะเนี่ย" แพรตอบ "ถ้าน้องแพรกับเพื่อน ๆ ไม่คิดมากก็นั่งกับพวกพี่ได้นะครับ" โจ้พูด "ได้เหรอคะ" แพรถาม "ได้สิครับ" โจ้ตอบ "พี่สายลมจะอึดอัดหรือเปล่าคะ" แพรพูด "ตามสบายเลยครับยังไงโต๊ะมันก็ว่างอยู่แล้ว" สายลมตอบ "ขอบคุณค่ะ" แพรกล่าวขอบคุณแล้วนั่งลงร่วมโต๊ะกับสองคนทันที "ไม่ได้เจอกันไม่กี่วันน้องแพรสวยขึ้นเยอะเลยนะครับ" โจ้พูด "ขอบคุณค่ะพี่โจ้" แพรตอบพร้อมกับส่งยิ้มที่สดใสให้โจ้ด้วยความจริงใจ "โอ้โห~ แสงแดดที่แยงตายังไม่เท่ายิ้มที่เธอส่งมาแยงใจ" โจ้พูด "เฮ่อ" สายลมถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเอือมระอากับมุกเสี่ยว ๆ ของเพื่อน "เอ่อ...พี่โจ้นี่มีมุกใหม่มาเล่นตลอดเลยนะคะ" แพรตอบ "ชอบไหมล่ะครับ" โจ้ถามพร้อมกับยักคิ้วข้างนึงใส่แพร "แฮร่ ๆ ๆ" แพรแสยะยิ้มตอบ "นั่นรอยยิ้มหรือแผ่นดินไหวเห็นที่ไรแล้วใจสั่นทุกที" โจ้ตอบ แพรถึงกับค้างไปเลยเธอเริ่มไม่แน่ใจแช้วว่าที่ตัดสินใจนั่งร่วมโต๊ะกับโจ้ด้วยเป็นการตัดสินใจที่ผิดไหมเพราะเขาเอาแต่ส่งมุกมาหยอดเธอตลอดเวลา "พะ แพรยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยขอตัวไปซื้อข้าวก่อนนะคะ" แพรพูด "อ้าวแล้วน้องแพรจะไปซื้อข้าวอะไรกินเหรอครับ" โจ้ถาม "เอ่อ...." แพรไม่คิดว่าโจ้จะถามอะไรแบบนี้เธอเลยไม่ได้คิดคำตอบไว้แต่เมื่อเงยหน้าไปเจอร้านข้าวมันไก่เป็นร้านแรกเธอเลยตอบมั่ว ๆ ไปก่อน "ข้าวมันไก่ค่ะ" แพรตอบ "อ๋อ~ ข้าวมันไก่หรือจะสู้ ข้าวมาใกล้ ๆ หน่อยได้ไหมคิดถึง" โจ้ตอบ แพรฝืนยิ้มตอบออกมาอีกครั้งแล้วก็รีบสาวเท้าเดินออกจากโต๊ะไปทันที "สงสัยจะเขิน...คิ ๆ ๆ" โจ้พูดด้วยความภาคภูมิกับสกิลการเล่นมุกของตัวเอง "มึงเลิกเล่นมุกอะไรแบบนี้สักทีได้ป่ะกูได้ยินทีไรแล้วหงุดหงิดชิบหาย" สายลมพูด "คนไม่มีวาทศิลป์แบบมึงไม่มีวันเข้าใจมุกระดับสูงของกูหรอก" โจ้ตอบ "ใครเขาจะอยากเข้าใจไอ้มุกเสี่ยวๆ ของมึงว่ะ แม่งเลี้ยนสัตว์" สายลมพูด "คารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรองอ่ะเคยได้ยินป่ะ" โจ้พูด "ฮึ~ แต่สำหรับกูคือรูปหล่อเป็นที่หนึ่งและรวยเป็นที่สุดส่วนเรื่องคารมไม่จำเป็นต้องใช้เลยว่ะ" สายลมตอบ "ไอ้สัตว์! ดีแต่มึงมั้ง" โจ้เสียอารมณ์ทันทีที่ถูกสายลมขิงใส่ หลังจากเรียนเสร็จสายลมก็มานั่งอยู่เพื่อน ๆ ของเขาสนามฟุตบอลซึ่งตอนนี้โจ้กับเป้กำลังเตะบอลกับเพื่อนอย่างสนุกสนานแต่สายลมยังคงนั่งอยู่ข้างสนามไม่ยอมลงสักที "แป๊ปนะเว้ยพวกมึง" เป้พูดกับคนในทีมแล้ววิ่งออกมาหาสายลมที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ "เฮ้ยไม่ลงเหรอว่ะหรือว่าไม่ได้เอาชุดมา" เป้ถามพร้อมกับยืนกระดกน้ำดื่มเพื่อดับกระหาย "วันนี้ไม่เล่นว่ะมีธุระต่อ" สายลมตอบ "ไปไหนว่ะ" เป้ถาม "เสือก" สายลมตอบ "เอ้าไอ้นี่!" เป้ว่าพร้อมกับยื่รเท้าไปเตะขาของสายลมเบา ๆ "โอ้โหไอ้เป้!" เสียงโจ้โวยวายมาแต่ไกลจนทั้งสองคนต้องหันไปดู "อะไร" เป้ตะโกนถาม "มึงเห็นไหมเนี่ยพวกมันทำประตูได้แล้วเนี่ย มึงจะออกจากสนามหาพ่อมึงเหรอ" โจ้ตอบ "กูออกมายังไม่ถึงนาทีเลยโว้ย!" เป้ตอบ "ก็มึงเป็นผู้รักษาประตูไหมล่ะ ไม่มีโกลมันก็ยิงเข้าง่ายดิไอ้โง่" โจ้ตอบ "เออ ๆ ไปแล้ว" เป้ตอบแล้วโยนขวดน้ำของเขาให้สายลมช่วยเก็บให้จากนั้นก็รีบวิ่งกลับลงไปในสนามต่อ ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์) "ฮัลโหลครับ" สายลมรีบรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ของเกรซ "ฉันเลิกงานแล้วนะ" เกรซพูด "ครับเดี๋ยวผมรีบไป" สายลมตอบ "เฮ้ยไม่ต้องรีบ...ฉันรอได้" เกรซตอบ "ได้ครับ พี่รอผมอยู่หน้าบริษัทนะเดี๋ยวผมไปรับ" สายลมตอบ "อืม" เกรซตอบแล้วก็วางสายไป "ไอ้เป้ ไอ้โจ้ กูไปก่อนนะ" สายลมพูด "เออ" เป้ตอบ "เจอกันเพื่อน" โจ้ตอบ เกรซนั่งเล่นโทรศัพท์รอสายลมอยู่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งจากนั้นไม่นานแจนที่กำลังเดินออกมาจากลิฟต์เพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้านก็เจอเข้าพอดีจากนั้นเธอจึงรีบเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวทันที "เฮ้ย! ทำไมแกยังไม่กลับบ้านอีกอ่ะ" เกรซถามเพราะเห็นว่าตอนนี้มันจะ 5 โมงเย็นแล้วซึ่งมันเลยเวลาเลิกงานของแจนไปแล้ว "ฉันมีงานต้องสะสางนิดหน่อยว่าแต่แกเถอะลืมอะไรหรือเปล่า" แจนถาม "ลืมอะไร ไม่มีนะ" เกรซตอบแล้วหันไปดูของใช้ของตัวเองในกระเป๋า "ฮื้ออออ~ ไม่ใช่...เรื่องเมื่อเช้าอะว่าไงจ๊ะ" แจนถาม เกรซรู้สึกตัวชาแปลก ๆ เมื่ออยู่ดี ๆ ก็ถูกถามเรื่องของสายลม "อ๋อออออ ก็...." เกรซพยายามยื้อเวลาเพื่อคิดหาคำตอบที่ฟังดูดีหน่อยเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนหรือว่าควรพูดอะไรออกไปบ้าง "ก็อะไร" แจนนั่งลุ้นคำตอบจากเกรซจนตัวเกร็งไปหมดแล้ว "ก็เขามาจีบ" เกรซตอบ "เหรอ ๆ ๆ แล้งเขาเป็นใครอ่ะ หล่อป่ะ" แจนถาม "ก็ดูดีแหละ" เกรซตอบ "หึ้ย~ ดีใจด้วยนะแกในที่สุดก็ขายออกแล้ว" แจนพูดแล้วเข้าไปสวมกอดเกรซด้วยความดีใจ "โอ๊ย ๆ หายใจไม่ออก" เกรซพูดแล้วตีแขนแจนเบา ๆ "ว่าแต่เขาทำงานอะไรเหรอ" แจนถาม "เอ่อ...ความจริงก็...ยัง...ยังไม่ได้ทำงานอ่ะ" เกรซตอบ "ฮะ? หมายความว่าไงยังไม่ได้ทำงานหรือว่าเขารวยมากจนไม่ทำงานก็ได้" แจนพูด "ที่บอกว่ายังไม่ได้ทำงานก็เพราะว่าเขายังเป็น...นักศึกษาอยู่อ่ะ" เกรซตอบ "ฮะ!" แจนอุทานออกมาดเวยความตกใจ "นักศึกษา" แจนพูด เกรซพยักหน้าตอบ "นี่แกคบกับเด็กนักศึกษาเหรอ" แจนถาม "ก็ประมาณนั้นมั้ง" เกรซตอบ "เกรซ นี่แกเอาจริงดิ คือถ้า 2-3 ปีฉันพอเข้าใจนะแต่แบบนี้มันไม่เด็กไปเหรอว่ะ" แจนพูด "ก็เด็กไปจริงนั่นแหละแต่ฉันก็อยากลองดูป่ะ" เกรซตอบ "แต่ถ้าคบกันไปสักระยะนึงแล้วเกิดเลิกกันขึ้นมาตอนนั้นถ้าแกอยากจะมีใหม่มันก็ยากแล้วนะแต่เด็กนั่นเขายังวัยรุ่นอยู่เขาหาใหม่ได้สบายเลย" แจนพูด "ฉันรู้แต่ว่าฉันก็ดันรู้สึกดีกับเขาไปแล้วไงจะให้ทำไงได้ว่ะ ฉันก็อยากมีอนาคตที่มั่นคงคบกับใครสักคนไปได้ตลอดชีวิตแต่มันก็ไม่ได้มีอะไรการันตีได้ป่ะว่าถ้าคบคนรุ่น ๆ เดียวกันแล้วมันจะไปกันได้ตลอดรอดฝั่งจริง ๆ วันนี้ฉันแค่รู้สึกดีกับลมก็เลยลองเปิดโอกาสให้ตัวเองดีกว่าต้องมาเสียดายทีหลังเมื่อมันสายไปแล้ว" เกรซตอบ "มันไม่มีอะไรการันตีได้ก็จริงแต่มันก็น่าจะมีเปอร์เซ็นเป็นไปได้มากกว่าคบเด็กนะแก แกดูอย่างฉันอย่างพีต้าอย่างวาดดิว่าคบคนที่อยู่ในช่วงวัยใกล้ ๆ กันมันมั่นคงแค่ไหน ฉันไม่ได้อยากจะพูดอวดแกนะแต่ฉันแค่ไม่อยากเห็นแกต้องมานั่งเสียใจตอนวัยเท่าเนี่ย" แจนพูด "ฉันเข้าใจแกนะแต่ว่าขอฉันลองคิดดูอีกหน่อยเถอะยังไงแกก็อย่าเพิ่งเล่าเรื่องนี้ให้วาดกับพีต้าฟังนะ ฉันยังไม่พร้อมให้มันสองคนรู้อ่ะ" เกรซพูด "อืม ได้สิ" แจนตอบ จากนั้นไม่นานรถของสายลมก็เข้ามาจอดหน้าบริษัท "ฉันไปก่อนนะ" เกรซพูด "อืม มีอะไรก็โทรมาปรึกษาฉันได้นะ" แจนตอบ "โอเค แกก็ขับรถกลับบ้านดี ๆ นะ" เกรซพูด
"อยู่ได้ใช่ไหมกล้าหรือว่าอยากไปอยู่กับพี่" เกรซถามความเห็นน้องชายหลังจากพาเขามาดูห้องที่เธอจัดหาไว้ให้"กล้าอยู่ได้พี่เกรซ ดีกว่าห้องที่บ้านเยอะเลย""ถ้าอยู่ได้ก็ดี ทำตัวตามสบายได้เลยนะเรื่องห้องพี่จัดการไว้ให้หมดแล้วถ้าอยากได้อะไรก็โทรหาพี่ได้ตลอดส่วนเงินที่พี่ให้ไว้ก็ใช้ประหยัด ๆ อยากกินอะไรพี่ไม่หวงนะกล้าซื้อกินให้เต็มที่ได้เลยแต่อะไรที่มันไม่ดีก็อย่าไปยุ่งล่ะ""ครับ""พี่เพิ่มเงินค่าขนมให้อีกอาทิตย์ล่ะสองพันนะเดี๋ยวถึงเวลาพี่จะโทนให้เอง ถ้าเหงาอยากกลับบ้านก็บอกพี่นะหรือถ้าอยากมาหาพี่ที่คอนโดก็มาได้ตลอดเลย""รู้แล้วหน่าพี่เกรซไม่ต้องห่วงผมหรอกผมดูแลตัวเองได้""งั้นคืนนี้ให้พี่มาอยู่เป็นเพื่อนไหม""โอ๊ยยย~ ไม่ต้องเลยพี่รีบกลับไปเถอะวันนี้พากล้าไปซื้อของมาทั้งวันแล้ว พี่ลมก็น่าจะเหนื่อยแล้วเดี๋ยวเกรงใจพี่เขาบ้าง" เกรซหันไปมองสายลมที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่"ตามสบายเลย" สายลมตอบ"พี่กลับก็ได้" สายลมเดินเข้ามาหาทั้งสองคน"เรื่องเรียนไม่ต้องห่วงนะไว้เทอมหน้าพี่จะพาไปสมัครเอง" สายลมพูดพร้อมเอามือแตะที่ไหล่ของกล้าเบา ๆ "ขอบคุณครับ...ขอบคุณสำหรับวันนี้ด้วยที่พี่ช่วยผมขนของแถมยังพาไปซื้อของใช
"ผมเข้าห้องก่อนนะ" "อื้ม" เกรซขับรถพาทุกคนกลับมาที่บ้านเพื่อพูดคุยว่าจะเอายังไงต่อแต่เธอเห็นสีหน้าของกล้าดูไม่พร้อมจะคุยเลยยอมปล่อยให้นอนไปพักในห้องก่อน"อ้าว! มึงไม่เรียกมันมาคุยล่ะจะได้รู้ว่ามันจะเอายังไงต่อ ยังอยากเรียนอยู่ไหม""ให้มันอยู่กับตัวเองสักพักเถอะแม่""ก็ถ้ามันไม่อยากเรียนกูจะได้ไปคุยกับเจ๊เล้งเจ้าของตลาดให้ว่าพอจะมีงานอะไรให้มันทำไหม""แม่ไม่ต้องห่วงฉันไม่มีทางปล่อยให้น้องไปเป็นเด็กเก็บค่าแผงหรือขนผักในตลาดหรอก ตอนนี้หน้าที่ของมันมีแค่เรียนเท่านั้นห้ามแม่พาน้องไปทำงานหาเงินตอนนี้เด็ดขาด""ก็ถ้ามันไม่เรียนก็ต้องช่วยกูออกทำงานไหม จะให้นอนกินเกาพุงอยู่ที่บ้านเฉย ๆ เหรอ"กล้ายืนแอบอยู่บนบันไดเพื่อฟังสิ่งที่แม่กับพี่สาวของเขาคุยกัน เขารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถเรียนอยู่ที่นั่นต่อได้ทั้ง ๆ ที่พี่สาวของเขาใช้เงินไปในน้อยเลยเพื่อที่จะส่งเขาเรียนที่ดี ๆ ทั้งค่าเทอม ค่ากินอยู่ ค่าอุปกรณ์การเรียนหรือแม้แต่ค่าจิปาถะต่าง ๆ ที่ผ่านมาเขาพยายามอดทนไม่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามเพราะรู้ว่าถ้าตัวเองมีปัญหาพี่สาวคงเสียใจมากแต่สุดท้่นแล้ววันนี้มันก็มาถึง กล้าเดินคอตกกลับขึ้นไปบนห้องด้วยความเสียใจ เขา
(เกรซ) ตลอดระยะเวลาอาทิตย์กว่า ๆ ที่ผ่านมาฉันกับสายลมก็ยังใช้ชีวิตกันปกติแต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือเขาบังไม่ได้กลับมาอยู่กับฉันเหมือนเดิม พวกเราใช้เวลาว่างในการโทรคุยกันบ้างแต่ไม่บ่อยนักเพราะฉันมีงานที่ต้องจัดการอยู่เต็มไปหมดและตอนนี้ฉันก็กำลังแต่งตัวเพื่อไปรอต้อนรับหลานคนแรกของกลุ่มที่โรงพยาบาลกับเพื่อน ๆ ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์เข้า) "ฮัลโหลแม่" "อยู่ไหนเนี่ย" "ฉันอยู่ห้องกำลังจะออกไปหาป่านวาดที่โรงพยาบาล" "มึงไม่ต้องไปมาหากูที่บ้านก่อน" "แม่มีธุระอะไรก็พูดมาเลยฉันนัดกับเพื่อนไว้แล้ว" "เพื่อนมึงมันสำคัญกว่าแม่กว่าน้องใช่ไหม" "นี่แม่เป็นอะไรอีกเนี่ย" "ไอ้กล้ามันไปมีเรื่องที่โรงเรียนตอนนี้พ่อแม่ของไอ้เด็กที่มันไปต่อยเขากำลังจะเอาเรื่องน้องมึง" "ฮะ?! กล้าเนี่ยนะไปมีเรื่อง" "ก็เออน่ะสิ" "แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหน" "กูอยู่ตลาดกำลังจะเก็บแผงพอดี" "งั้นแม่รีบไปโรงเรียนก่อนเลยเดี๋ยวฉันตามไป" "รีบมานะ!" "ฉันรู้แล้วหน่าแค่นี้นะ" ฉันวางสายจากแม่แล้วโทรหาแจนทันที "ฮัลโหลว่าไงจ๊ะสาว" พีต้าเอ่ยทักทายฉันด้วยน้ำเสียงสดใส "พีต้าเหรอ" "แล้วจะเป็นใครได้ล่ะจ๊ะ" "
มานิตย์เดินเข้ามาในห้องอาหารเข้าไปกระซิบพศินเบา ๆ เพื่อรายงานว่าสายลมออกไปกับเกรซแล้ว พศินไม่พอใจนิดหน่อยที่สายลมหนีออกไปทั้ง ๆ ที่เขายังมีแขกอยู่แต่ตั้งแต่ที่สายลมอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำเขาก็พอจะเดาได้อยู่แล้วว่าลูกชายจะต้องไปหาเกรซเพื่อปรับความเข้าใจกันอย่างแน่นอนแต่ก็ไม่คิดว่าจะกล้าหักหน้าเขาโดยการทิ้งแขกแล้วหนีออกไปเลย มานิตย์ถอยออกไปยืนด้านหลังจากนั้นพศินก็พยายามปั้นหน้ายิ้มเพื่อไม่ให้แขกทั้งสองคนไม่สบายใจ"พอดีสายลมเขามีธุระด่วนนิดหน่อยเลยไม่ว่างอยู่ทานข้าวกับพวกเราแล้วน่ะ" "พี่สายลมไปแล้วเหรอคะ" มีนรู้สึกน้อยใจนิดหน่อยที่สายลมไปรับเธอมาแต่กลับปล่อยเธอเอาที่บ้านแล้วเขาก็ออกไปไหนไม่รู้"เอาไว้พวกเราทานข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวพ่อให้คนไปส่งหนูมีนที่บ้านทีหลังนะ""ขอบคุณค่ะ"บรรยากาศในรถเงียบมากเกรซนอนพิงเบาะของเธอหันหน้าออกมองด้านนอกตลอดเวลา สายลมเหล่มองเธอเป็นระยะอยากจะชวนเธอคุยแต่ก็รู้นี่ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ความเงียบทำให้เกรซได้มีเวลาคิดทบทวนกับตัวเอง เธอรักสายลมแต่ก็รู้สึกเสียใจที่สายลมโกหกจนไม่สามารถเชื่อใจเขาได้อีก มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย อยากจะเลิกให้มันจบ ๆ แล้วไปเริ
สายลมยังคงตกใจไม่หายที่เห็นหน้าเกรซ ขาเขาแข็งจนก้าวไม่ออก มีนหันไปมองสายลมที่ไม่ยอมเดินตามเธอเข้ามาสักทีและเมื่อเธอเห็นแววตาของสายลมที่มองเกรซแบบไม่วางตาอยู่ในใจก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีเพราะสายตาของทั้งคู่ที่มองกันมันไม่ใช่สายของคนที่เพิ่งเคยเจอกันเลย สายลมดูมีอาการตกใจผิดปกติส่วนเกรซเองก็ดูตกใจไม่น้อยไปกว่าสายลมแต่แววตาของเธอดูเศร้ากว่าสายลมมาก ต๊อดเดินเข้าไปจับที่ไหล่ของสานลมด้วยท่าทางคุ้นเคย"ไม่เจอกันนานโตเป็นหนุ่มแล้วหนิเรา" สายลมละสายตาจากเกรซไปหาต๊อด"สวัสดีครับน้าต๊อด""ไง อยู่ปีไหนแล้วล่ะ""จบปี 3 แล้วครับ""โห่~ ไวขนาดนี้เชียว""ครับ" สายลมเหล่มองเกรซอยู่หลายครั้ง"มะ ๆ มานั่งคุยกันดี ๆ ดีกว่า" พศินพูด ต๊อดและสายลมพากันเดินมานั่งที่โต๊ะทันทีโดยต๊อดกลับไปนั่งข้างเกรซเหมือนเดิมส่วนสายลมก็อ้อมมาอีกฝั่งเพื่อนั่งอยู่กับมีน เกรซรู้สึกเจ็บแปล๊บเมื่อเห็นทั้งสองคนใกล้ชิด รู้ว่าแฟนโกหกไม่พอยังมารู้อีกว่าแฟนกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีก เธอทั้งตกใจทั้งเสียใจจนไม่อยากทำงานต่อแล้ว อยากหนีออกไปจากตรงนี้เพื่อไปทบทวนตัวเองเงียบ ๆ คนเดียว"อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าพี่อยากจะออกสินค้าใหม
ผ่านไปหลายวันแล้วจนสายลมกลับมาจากทะเล ความรู้สึกคับข้องขุ่นเคืองในใจของเกรซก็ยังไม่ลดลง เธอพยายามทำตัวปกติเพราะอยากรู้ว่าสายลมจะอธิบายเรื่องทั้งหมดกับเธอยังไงแต่เขาก็ไม่แม้แต่จะปริปากออกมาเลย มันเลยยิ่งทำให้เธอไม่สบายใจจนบางทีก็เครียดจนปวดหัวเพราะแค่เฉพาะเรื่องงานก็หนักมากพอแล้วนี่ยังมามีเรื่องสายลมอีก เกรซกำลังนั่งรอต๊อดมารับอยู่ที่ล็อบบี้คอนโดของเธอเพราะพวกเขามีนัดออกไปคุยงานกับลูกค้าด้วยกัน ทีแรกเธอก็จะขับรถไปเองแต่ต๊อดเห็นว่าเขาต้องขับผ่านคอนโดของเธออยู่แล้วก็เลยอาสามารับ ระหว่างทางต๊อดเกรซก็ช่วงอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารให้ต๊อดฟังอีกที "คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกนะครับ บริษัท Lyra (ไลอา) เป็นของญาติผมเอง ทำตัวตามสบายได้เลย" "คุณต๊อดเป็นญาติกับรัชนีเหรอคะ" "ไม่ใช่ครับ เมื่อก่อนบริษัทไลอาเป็นของพี่สาวผมแต่หลังจากเธอเสียไปสามีของเธอก็มารับช่วงดูแลต่อให้แต่เพราะมีงานรัดตัวมากเกินไปเขาก็เลยแต่งตั้งคุณรัชนีเป็นรักษาการแทนน่ะครับ" "อ๋อ~ ขอโทษนะคะแต่เกรซไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่สาวของคุณต๊อดเสียไปแล้ว" เกรซจำได้ว่าต๊อดมีพี่สาวจริง ๆ แต่เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อนเธอก็ยังมาเที่ยวหา








