"ทำไมนั่งเงียบตลอดทางเลยล่ะ เหนื่อยเหรอ" สายลมถาม
"มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ" เกรซตอบ "งานไม่ราบลื่นเหรอครับ" สายลมถาม "ไม่มีไรหรอก" เกรซตอบ "งั้นพี่ก็อย่าทำหน้าเครียดสิครับพี่ทำแบบนี้ผมเป็นห่วงนะ" สายลมพูด "หน้าฉันมันก็เป็นแบบนี้แหละไม่ชอบก็ไม่ต้องมองสิ" เกรซตอบ ใครบอกไม่ชอบ...ตอนนี้ผมอ่ะหลงพี่จะตาย" สายลมตอบ "เว่อร์มาก" เกรซแสร้งตอบเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของสายลมทั้งที่ในใจเธอเขินเขามาก ๆ หลังจากได้พูดคุยกันมาตลอดทางก็ทำให้เกรซรู้สึกดีขึ้นมาจนลืมเรื่องที่เพิ่งคุยกับแจนตอนเย็นไปเลย "มาทำอะไรที่นี่อ่ะ" เกรซถามเมื่อเห็นสายลมเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของซุปเปอร์มาเก็ต "ซื้อของไง" สายลมตอบ "ซื้ออะไร" เกรซถาม "ก็ซื้อของสดเข้าห้องพี่ไง" สายลมตอบ เกรซขมวดคิ้วทำหน้างงทันที "ผมหิวอ่า~ อยากกินกับข้าวฝีมือพี่...ได้ไหม" สายลมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อน ๆ "แต่ฉันทำอาหารไม่เป็น" เกรซตอบ "พี่ทำเป็นผมรู้ เมื่อเช้าผมเห็นนะว่าห้องพี่มีเครื่องปรุงกับอุปกรณ์ทำครัวครบเลย คนไม่ทำอาหารที่ไหนจะซื้อเครื่องปรุงเครื่องปรุงกับของสดติดห้องไว้ขนาดนั้น" สายลมพูด "อ่ะ ๆ ทำก็ได้" เกรซตอบ สายลมยิ้มออกมาด้วยความดีใจ "น่ารักจัง" สายลมพูด "พอ ๆ จะซื้ออะไรก็รีบไปซื้อไม่งั้นฉันเปลี่ยนใจจริงด้วย" เกรซตอบ "โอเคครับ" สายลมตอบแล้วรีบลงจากรถทันที สายลมคอยเข็นรถเข็นตามเกรซตลอดบางครั้งตอนที่เกรซกำลังเลือกดูของอยู่เขาก็แอบเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเธอเก็บไว้ด้วย "สรุปแล้วนายอยากกินอะไรอ่ะ" เกรซถามแล้วหันไปเจอสายลมกำลังอมยิ้มพร้อมกับถ่ายรูปเธออยู่พอดี "ทำอะไรน่ะ" เกรซพูด "เปล่า" สายลมตอบแล้วก็ค่อย ๆ เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า "ก็เห็นอยู่ว่านายถ่ายรูปฉัน" เกรซพูด "ถ้ารู้แล้วพี่จะถามผมทำไมอ่ะ" สายลมตอบ "เอามาดูสิน่าเกียจหรือเปล่า" เกรซถามแล้วแบมือขอโทรศัพท์จากสายลม "ไม่ให้" สายลมตอบแล้วก็เข็นรถเข็นเดินนำเกรซไป "เอ้า! รอด้วย" เกรซว่าแล้วรีบเดินตามเขาไป "ซื้อของไปเยอะแบบนี้สรุปแล้วนายจะกินอะไรกันแน่เนี่ย" เกรซถาม "พี่ทำอะไรผมก็กินอันนั้นแหละ" สายลมตอบ "แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกดูสิเนี่ยจะเต็มรถอยู่แล้ว" เกรซพูด ตอนแรกเธอเห็นสายลมเลือกของมาใส่รถเยอะแยะเพราะคิดว่าเขาอยากทานมื้อเย็นหลายเมนูแต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเจ้าตัวซื้อไปเผื่อไว้ให้เธอเลือกเอามาทำให้เขาทาน "กินไม่หมดก็เก็บไว้ทำวันอื่นไง" สายลมตอบ "นายคงไม่คิดจะไปฝากท้องที่ห้องฉันทุกวันหรอกใช่ไหม" เกรซพูด "ได้ไหมครับ" สายลมถามพร้อมกระพริบตาปิ๊ง ๆ ใส่เกรซ "ไม่ได้!" เกรซตอบ "ทำไมอ่าาาา~" สายลมถาม "เบื่อขี้หน้า" เกรซตอบ "หล่อขนาดนี้เอาอะไรมาเบื่อก่อน" สายลมพูด "ไป ๆ รีบไปจ่ายตังค์ได้แล้วจะได้กลับสักที" เกรซพูด จากนั้นพวกเขาก็เข็นรถไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ "ทั้งหมด 2,436 บาทค่ะ" พนักงานพูด "ค่ะ" เกรซตอบแล้วเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบเงินออกมาแต่ก็ไม่ทันสายลมอยู่ดี "นี่ครับ" สายลมพูดแล้วส่งบัตรเครดิตของเขาให้พนักงานเอาไปชำระทันที คอนโดเกรซ "เอาวางไว้ตรงนี้ก่อนก็ได้เดี๋ยวฉันจัดเอง" เกรซพูด "ครับ" สายลมตอบแล้ววางถุงวัตถุดิบที่เพิ่งซื้อมาไว้บนเคาน์เตอร์ครัว "มีอะไรให้ผมช่วยไหม" สายลมถาม "ไม่มีอะ นายไปนั่งเล่นรอที่โซฟาเถอะ" เกรซตอบ "ไม่มีแน่นะ" สายลมถามย้ำอีกครั้งเพราะเขายังอยากอยู่ต้องนี้ต่อกับเกรซ "ไม่มี~ ไป ๆ เกะกะ" เกรซตอบแล้วดันหลังสายลมให้เดินออกไป "อยู่ด้วยไม่ได้เหรอ" สายลมถาม "ไม่ได้!" เกรซตอบ หลังจากดันสายลมออกไปได้แล้วเกรซก็กลับมาคัดวัตถุดิบจัดใส่ตู้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วเริ่มลงมื้อทำอาหารมื้อค่ำของเธอกับสายลมต่อเลย ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์) "ว่าไงโจ้" สายลมพูด "คืนนี้พวกกูจะไปเที่ยวกับพวกทีมบอลมึงจะไปด้วยกันไหม" โจ้ถาม "คืนนี้กูไม่ว่างว่ะ" สายลมตอบ "ไม่ไปจริงดิ" โจ้ถาม "เออ พวกมึงไปกันเลยวันนี้กูไม่ว่างแล้วว่ะ" สายลมตอบ "โห่ นาน ๆ ทีพวกทีมบอลจะไปกันครบมึงมาเทได้ไงว่ะ" โจ้พูด "ทีหลังมึงก็หัดนัดก่อนบ้างดิว่ะ" สายลมตอบ "เออ ๆ ไม่ไปก็ไม่ไป แค่นี้นะ" โจ้พูด "เค เจอกันพรุ่งนี้เพื่อน" สายลมตอบ "เจอกันเว้ย" โจ้ตอบ สายลมหันไปมองดูเกรซที่กำลังยุ่งอยู่กับงานในครัวแล้วก็เผยให้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ยิ่งมองสายลมก็ยิ่งรู้สึกหลงเกรซมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จนเขาแทบอยากหยุดภาพตรงหน้าเอาไว้เลย "เสร็จแล้ว" เกรซพูดพร้อมยกอาหารมาวางที่โต๊ะเล็กหน้าทีวี "หื้อ~ หอมจัง" สายลมแล้วรีบขยับเข้าไปดูใกล้ ๆ "รอแป๊ปนะเดี๋ยวฉันยกที่เหลือมาให้" เกรซพูด "เดี๋ยวผมไปช่วย" สายลมตอบ "อื้ม" เกรซตอบ สายลมลุกตามเกรซไปในครัวแล้วเห็นว่ายังเหลือกับข้าวอีกสองอย่างเลยที่เกรซยังไม่ได้ยกไป "ถึงว่าสิทำไมปล่อยให้ผมทนหิวอยู่ตั้งนานที่แท้พี่ก็ทำกับข้าวหลายอย่างนี่เอง" สายลมพูด "อย่าบ่นแล้วก็รีบยกไปเลยไปเดี๋ยวฉันตักข้าวไปให้" เกรซตอบ "คร้าบบบ รับทราบแล้วครับ" สายลมตอบพร้อมกับยกกับข้าวไปจัดวางที่โต๊ะจากนั้นเกรซก็เดินถือจานข้าวตามเขามา "เราจะนั่งกินกันตรงนี้ใช่ไหม" สายลมถามด้วยความสงสัยเพราะเขารู้สึกว่านั่งโซฟาแล้วคร่อมตัวลงมาทานอาหารมันไม่ถนัดเท่าไหร่ "แล้วใครบอกให้นายนั่งสูงกว่ากับข้าวล่ะ ลงมานั่งนี่" เกรซตอบแล้วนั่งลงที่พื้นทำให้โต๊ะอยู่ระดับอกของเธอพอดีจากนั้นสายลมก็ขยับลงมานั่งตามเธอ "พี่รู้ไหมตั้งแต่ผมเกิดมาพี่เป็นคนแรกเลยนะที่ชในผมนั่งกินข้าวที่พื้นเนี่ย" สายลมพูด "จ้าพ่อคุณชาย~ ถ้านั่งไม่ได้ก็ตักราดข้าวแล้วไปนั่งกินที่โต๊ะนั้นคนเดียวเลยไป" เกรซตอบ "ไม่อ่ะ พี่อยู่ที่ไหนผมก็อยู่ที่นั่นแหละ" สายลมเอียงคอพูดกับเกรซซึ่งมันดูน่ารักมาก ๆ จนทำให้เกรซรู้สึกเอ็นดูเขาขึ้นมาทันที "มา ๆ กินข้าวได้แล้วหิวไม่ใช่หรือไง" เกรซตอบ "พี่ไม่พรีเซนต์อาหารวันนี้หน่อยเหรอ" สายลมพูด "ทำให้กินแล้วยังต้องพรีเซนต์อีกเหรอ...ไหนบอกหิวไง" เกรซถาม "หิวแต่อยากฟังพี่อธิบายรายการอาหารวันนี้หน่อยอะ" สายลมตอบ "ฮึ ๆ ๆ ได้สิค่ะคุณสายลม ดิฉันนางเกรซซี่นะคะวันนี้ได้ทำอาหาร 3 อย่างมาให้คุณสายลมได้ลองชิมค่ะ อาหารเมนูแรกชื่อว่าปีกไก่ทอดน้ำมันพราย ดิฉันนำปีกไก่ไปล้างน้ำสะอาด 2-3 น้ำจากนั้นก็ซับให้แห้งด้วยผ้าขี้ริ้วแล้วค่อยนำไปหมักกับเครื่องปลุงสูตรพิเศษที่ได้มาตั้งแต่ต้นตระกูลเมื่อ 200 ปีกว่าทอดด้วยน้ำมันพราย 7 ป่าช้าตั้งไฟอ่อน ๆ รอไม่เกิน 10 นาทีก็ได้ปีกไก่ทอดของดิฉันก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ" เกรซพูดสายลมก็ขำไปอย่างสนุกสนานจนลืมความหิวไปเลย "คุณสายลมลองชิมดูนะคะ" เกรซพูดแล้วใช้มือหยิบปีกไก่ทอดส่งให้สายลม "ดิฉันล้างมือแต่เช้าแล้วคุณสายลมน่าจะไม่คิดมากนะคะ" เกรซพูด "ไม่ล้างมือผมก็กินได้ครับ" สายลมตอบแล้วอ้าปากกัดปีกไก่ทอดจากมือของเกรซโดนตรงเลย "หืมมมม~ หอมอร่อยอย่างกับโดนมันน้ำพรายสะกดเลยอะ" สายลมพูด "ฮ่า ๆ ๆ โอเว่อร์ตลอดเลย" เกรซตอบแล้วเอาไก่ในมือไปวางบนจานข้าวของสายลมจากนั้นเธอก็หันไปตักกับข้าวมาเพื่อที่จะทานเองบ้าง "เอ้า! ยังพรีเซนต์ไม่ครบเลยจะกินก่อนได้ไงอะ" สายลมพูดเมื่อเห็นว่าเกรซกำลังตักอาหารเมนูอื่นมาทานก่อนจะอธิบายให้เขาฟัง "อันนี้เหรอ" เกรซถามแล้วชี้ไปที่อาหารเมนูที่สอง "ใช่...แต่ว่าก่อนจะพรีเซนต์ต้องเติมพลังก่อน" สายลมตอบแล้วหยิบปีกไก่ทอดอันใหม่มาให้เกรซแต่พอเกรซจะยื่นมือไปรับเขาก็ชักมันหนี "อ้ามมมม~" สายลมไม่ยอมเพราะอยากป้อนเกรซเอง "กินเองได้" เกรซตอบแล้วยื่นมือไปรับอีกครั้งแต่สายลมก็ยังไม่ยอมให้เธออยู่ดี "อ้าปากเร็ว...อ้ามมมม" สายลมพูด สุดท้ายแล้วเกรซก็ยอมให้สายลมป้อนอยู่ดีเพราะเธอเองก็รู้สึกหิวไม่น้อยเหมือนกันแต่แปลกตรงที่ครั้งนี้เธอไม่รู้สึกโมโหหิวเลยที่มีคนมากวนหรือขอให้เธอพูดพรีเซนต์อาหารให้เขาฟังก่อน "อร่อยใช่ไหมล่ะ" สายลมถาม "ฉันทำเองมันจะไม่อร่อยได้ไง" เกรซตอบ "เมนูต่อไปเลยผมอยากกินแล้ว" สายลมพูด "เมนูนี้ชื่อว่าต้มแซ่บกระดูกอ่อน แม้ว่าชื่อจะดูธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนเพราะดิฉันพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบจนถึงลงมือทำ เนื้อหมูที่ใช้ต้องเป็นหมูที่เลี้ยงในฟาร์มระบบปิดเท่านั้น ก่อนเชือดน้ำหนักตัวหมูต้องมากกว่า 150 กิโกกรัมเป็นต้นไปเพื่อให้ได้เนื้อหมูที่โตเต็มที่และสมบูรณ์มากที่สุดส่วนกระดูกอ่อนที่ใช้ก็เป็นกระดูกอ่อนจากหมูตัวเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ด้วยรับรองกรุบกรอบอร่อยไม่เหมือนที่อื่นแน่นอน สมุนไพรที่ใช้ก็เป็นพวกข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอม กระเทียมที่อยู่ในตู้เย็นของพวกนี้ดิฉันนำเข้าจากตลาดไทยทั้งหมดเลยค่ะ" เกรซพูด "แล้วปรุงรสด้วยอะไรเหรอครับ" สายลมถาม "ดิฉันปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว มะขามเปียก พริกสดตำหยาบ ๆ แล้วก็ผงวิเศษอีก 2 ห่อครึ่งค่ะ" เกรซตอบ "โอ้โห~ ถ้าใส่ไป 2 ห่อครึ่งแบบนี้ผมเชืื่อเลยครับว่ามันต้องอร่อย" สายลมพูด "คุณสายลมลองทานดูนะคะ" เกรซตอบแล้วขยับถ้วยต้มแซ่บกระดูกอ่อนให้เข้าไปใกล้สายลม ซู๊ดดดดด~ "ร้อน ๆ แซ่บ ๆ ถูกปากผมมากเลยครับ" สายลมตอบ ทั้งคู่ยังคงหยอกล้อกันไปมาตลอดมื้ออาหารทำให้บรรยากาศการทานข้าวของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข เกรซแอบหลงไหลไปกับรอยยิ้มของสายลมจนเธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้าวันนึงสายลมหายไปเธอจะรู้สีกแย่มากแค่ไหนเพราะวันนี้ที่มีสายลมมันทำให้เธอรู้สึกดีมากจริง ๆอ้อมกอดอันแนบแน่นค่อย ๆ คลายลงทั้งสองคนผละออกจากกัน ใบหน้าหวานซึ้งของเกรซยังคงมีร่องรอยของความตกใจอยู่นิดหน่อยแต่ก็เจือด้วยรอยยิ้มอบอุ่น สายลมมองหน้าเกรซด้วยแววตาเปี่ยมสุข"ทำไมวันนี้ถึงว่างมาหาได้ล่ะ" เกรซถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะเมื่อคืนที่คุยโทรศัพท์กันสายลมยังดูยุ่งอยู่เลย"ก็ผมคิดถึงพี่อ่ะ" "หายไปตั้งนานเพิ่งคิดถึงเองเหรอ""ผมคิดถึงตลอดเวลาเลยต่างหาก""พูดอะไรบ้า ๆ " เกรซหัวเราะเบาๆ "ไปกันเถอะ หิวแล้วง่าาา~" เกรซทำหน้าอ้อนสายลมเพราะเธอยังไม่ได้ทานอะไรมาจริง ๆ จนสายลมอดอมยิ้มออกมาไม่ได้"โอเค เดี๋ยววันนี้ผมเลี้ยงพี่เต็มที่เลย" สายลมจอดรถเสร็จเขาก็รีบลงมาเปิดประตูรถให้เกรซทันทีเพราะเธอมัวแต่เติมหน้าอยู่"สวยแล้วครับ""อย่ามาโกหก วันนี้งานฉันเต็มโต๊ะเดินหัวหมุนตั้งแต่เช้า ดูสิหน้าซีดมากเลยเห็นไหม""พี่ไม่แต่งหน้าก็สวยเฮอะ" เกรซลงลิปสีอ่อนไม่ฉูดฉาดจากนั้นก็"เสร็จแล้ว ป่ะ!" เกรซก้าวลงจากรถพร้อมหันหน้าสวย ๆยื่นไปให้สายลมดู"สวยยัง"สวยแล้วครับ" ทุกครั้งที่เธอได้ยินคำชมจากสายลมเธอจะรู้สึกดีมาก ๆ เสมอแม้ว่าเขาจะพูดมันออกมาบ่อยครั้งแต่เธอก็ยังชมที่ได้ฟังทุกครั้งไป บรรยากาศในร้านอบ
ก่อนจบงานเลี้ยงสายลมแอบปลีกตัวออกมาจากพื้นที่จัดงานก่อน เขามุ่งตรงไปยังลานจอดรถเพื่อไปยืนรอครอบครัวที่นั้นอยู่กับคนขับรถแม้จะรู้ดีว่าการกระทำนี้อาจไม่เหมาะสมนักแต่เขาก็อยากหลีกเลี่ยงสถานการณ์อึดอัดให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้และถ้าเขายังขืนอยู่ในนั้นต่อไปก็อาจถูกบีบบังคับให้ต้องหักหน้าทุกคนอีกครั้ง ไม่นานนักพศินก็เดินตามออกมาพร้อมกับกานดาหลังจากกล่าวลากับสุรศักดิ์และมินตราด้วยสีหน้าบึ้งตึงคิ้วขมวดเข้าหากันบ่งบอกถึงความไม่พอใจ "แกทำอะไรลงไป!" พศินเอ่ยเสียงเข้มพยายามกดเสียงให้ต่ำที่สุดเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยินแต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยโทสะ "ทำไมไม่อยู่ลาคุณสุรศักดิ์กับฉันก่อน ที่นี่มันใช่ที่ที่แกจะมาทำตัวแบบนี้ไหม ฮะ!" สายลมนิ่งเงียบ เขาไม่รู้จะตอบอะไรออกให้ในสถานการณ์เช่นนี้มันดีขึ้นจึงทำได้แต่ฟังพ่อของเขาต่อว่าต่อไป"แกรู้ไหมว่าแกกำลังหักหน้าฉัน! หักหน้าคุณสุรศักดิ์! ต่อหน้าทุกคนอยู่และการที่แกทำแบบนี้มันทำให้คุณสุรศักดิ์ไม่พอใจมากแค่ไหนแกเคยรับรู้บ้างไหม" ขณะที่พศินกำลังระบายความโมโหกับลูกชายที่เอาแต่เงียบเหมือนคนไม่รับรู้อะไรกานดาก็รีบเข้ามาห้ามทัพไว้ก่อนโดยเธอจับที่แขนพศินเบา ๆ พร้อมกับส่ายห
ดนตรีบรรเลงในงานเลี้ยงช่วยให้สายลมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้างและว่าแม้กายเขาจะอยู่ในงานแต่ใจกลับล่องลอยไปไกลแสนไกลถึงเกรซที่นอนหลับไหลอยู่ที่คอนโดของเธอ งานเลี้ยงนี้้คือภารกิจที่เขาถูกพศินผู้เป็นพ่อบังคับให้มาเพื่อพบปะพูดคุยกับมีนคู่หมั้นในวัยเยาว์ ความสัมพันธ์ที่ถูกผูกมัดไว้ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ตั้งแต่ทั้งคู่ยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ มีนในวันนี้เติบโตเป็นสาวสะพรั่งเธอพยายามส่งยิ้มและแววตาหวานมาให้เขาตลอดซึ่งสายลมก็ดูออกนะแต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจไปงั้น ขณะที่สายลมกำลังจมดิ่งอยู่กับตัวเองเสียงทุ้มแหบห้าวของสุรศักดิ์พ่อมีนก็ดังขึ้นเหมือนต้องการเรียกดึงเขาให้กลับมาสนใจบทสนทนาตรงหน้า"โตเป็นหนุ่มแล้วสินะเรา" สุรศักดิ์เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม "จำได้ไหม เมื่อก่อนสมัยเด็ก ๆ เราชอบมาเล่นซ่อนแอบกับมีนแล้วก็สายหมอกด้วยกันที่นี่บ่อย ๆ" บทสนทนาเริ่มต้นด้วยเรื่องราวในอดีตที่สดใส ทว่าแววตาของสุรศักดิ์กลับฉายแววบางอย่างที่อ่านได้ยากคล้ายกับกำลังต้องการรือฟื้นความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขาเพื่อการบางอย่าง พศินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพยายามส่งสายตาคมกริบมาข่มขู่สายลมตลอดเหมือนต้องการบอกให้เขาตอบคำถามทุกค
บรรยากาศภายในรถเงียบสงบแต่ดูอึมครึมมากทั้งพศินและสายลมเหมือนกำลังแผ่รังสีใส่กันอยู่ตลอดเวลาจนคนบนรถทุกคนได้รับผลกระทบความกดดันจากพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน สายฟ้าล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาโทรหาภรรยา"ค่ะ""ผมจะถึงแล้วนะ""ได้ค่ะเดี๋ยวดาออกไปรับนะคะ""ผมโทรบอกดาแล้วนะครับพ่อ ฟังจากเสียงรอบข้างตอนนี้น่าจะมีคนถึงงานกันบ้างแล้ว""อืม จริง ๆ วันนี้แกน่าจะให้หนูมุกดามาพร้อมพวกเรานะจะได้ดูไม่น่าเกียจ""ผมบอกแล้วครับแต่ดาเขาอยากมาช่วยดูแลความเรียบร้อยในงานให้ที่บ้านก่อนก็เลยขอกลับไปนอนบ้าน 2 วันแล้ว" "ช่วยทำตัวเป็นสามีที่ดีหน่อยนะเพราะถ้าเกิดหนูดาเขาทนแกไม่ไหวขอหย่าเมื่อไหร่แกเจอฉันเล่นแน่""ครับพ่อ" สายลมเบะปากเล็กน้อยเพราะรู้สึกแย่กับคำที่พ่อสอนพี่ชายทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ยังเป็นสามีที่ดีไม่ได้แต่กลับสอนให้ลูกเป็นสามีที่ดีให้กับคนที่ลูกไม่ได้เลือกด้วยซ้ำบ้านสุขนิรันดร์"คุณแม่ขาเดี๋ยวดาขอตัวออกไปรับพี่สายฟ้าก่อนนะคะ""จ่ะ รีบมานะ""ค่ะ""ให้มีนไปเป็นเพื่อนไหมคะพี่ดา""ไม่เป็นไรจ่ะ" มุกดาลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปรอรับครอบครัวสามีที่กำลังจะมาถึง ไม่นานรถตู้สีดำเงาสวยราคาแพงก็ขับเข้ามาจอดในบ้านโด
สายลมนอนแผ่อยู่บนเตียงด้วยความเบื่อหน่าย เขารู้สึกอึดอัดและคิดถึงเกรซมากจนไม่อยากทำอะไร 5 วันที่ผ่านมาที่เขาต้องอยู่คนเดียวทำได้แค่โทรคุยกับเกรซบ้างหลังเธอเลิกงานและนั่นเป็นความสุขเดียวของเขาในตอนนี้เลย เขารู้สึกซึ้งใจมาก ๆ ที่เวลาเกรซโทรมาแล้วถามถึงปัญหาที่เขาเจอ เธอพยายามช่วยเขาคิดวิธีแก้ไขทุกอย่างเพราะยังเข้าใจอยู่ว่าที่สายลมหายไปเป็นเพราะปัญหาธุรกิจจริง ๆ สายลมทั้งซึ้งใจและรู้สึกผิดอยู่นัย ๆ ที่ต้องโกหกเกรซแบบนี้บางทีเขาก็แอบน้ำตาไหลออกมาเลย เขาอยากพุ่งเข้าไปในโทรศัพท์แล้วดึงเกรซเข้ามากอดให้หายคิดถึงพร้อมกับสารภาพทุกอย่างอย่างจริงใจแต่เขาก็ทำไม่ได้ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์)สายลมรีบลุกขึ้นคว้าโทรศัพท์ด้วยความดีใจเพราะคิดว่าเกรซโทรมาแต่เมื่อเห็นชื่อปลายสายเป็นพ่อตัวเองเขาก็หุบยิ้มทันที"ครับ""พรุ่งนี้บ่าย 3 มาที่บ้านด้วยอย่าสายล่ะ""พ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ""ไม่มีฉันจะโทรตามแกเหรอ! มาให้ตรงเวลาด้วยอย่าให้ฉันต้องรอแกนะ""เฮ่อ~ ครับ" สายลมรับปากทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะปฏิเสธมากและทันทีที่วางสายพ่อไปเกรซก็โทรเข้ามาหาเขาทันที"ฮัลโหลครับ""เมื่อกี้โทรไปแล้วติดสาย...คุยกับใครอยู่เหรอ""ผม
ผมขึ้นมาบนรถคิดทบทวนก่อนว่าจะเอายังไงต่อดีเพราะขืนวันนี้ผมกลับไปคอนโดพี่เกรซพ่ออาจจะรู้ได้ในไม่ช้าแน่ว่าผมกำลังคบกับใครอยู่เพราะผมมั่นใจว่ายังไงซะช่วงนี้พ่อต้องให้คนคอยติดตามดูผมแน่ ๆ จนกว่าเขาจะมั่นใจว่าผมไม่มีใครจริง ๆ ถึงจะเลิกตาม ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่เกรซทันทีและระหว่งรอสายอยู่ผมก็มองออกไปด้านนอกเห็นบอดี้การ์ดของพ่อหลายคนแอบเหช่มองมาที่รถผมเป็นระยะ"ฮัลโหล" เสียงอันสดใสของพี่เกรซช่วยฮีลใจผมจากการมีปากเสียงกับพ่อไปเมื่อกี้ไม่น้อยเลย"พี่ทำอะไรอยู่อ่ะ" ผมไม่รู้จะเริ่มเข้าประเด็นจากตรงไหนเลยพยายามหาเรื่องอื่นคุยก่อน"ก็ทำงานน่ะสิมีอะไรหรือเปล่า" "คือ...วันนี้...""เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย" "เปล่าครับ ผมแค่จะโทรมาบอกอ่ะว่าวันนี้ผมคงไม่ได้กลับไปทานข้าวกับพี่แล้ว""ทำไมอ่ะ""ผมมีธุระต้องจัดการนิดหน่อย...อาจจะ...ไม่ได้ไปหาพี่สักพัก" แม้ว่าการพูดออกไปตรง ๆ สำหรับใครมันอาจจะไม่ได้ยากแต่สำหรับผมมันยากมากเพราะผมรู้จักพี่เกรซดี เธอเป็นคนคิดมาก ความใจดีของเเธอถ้ามีให้กับผมมันจะทำให้เธอลำบากซะเอง ผมรู้ว่าถ้าผมสารภาพกับพี่เกรซตรง ๆ พี่เกรซต้องเข้าใจผมแน่และเธออาจยอมทำให้สิ่งที่ผมไม่ต้องกา