แชร์

บทที่ 1 เขตหวงห้าม

ผู้เขียน: รีล์ม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-10 12:43:43

หนุ่มลูกครึ่งยืนเต็มความสูงอยู่ท่ามกลางสุสานของตระกูล ดวงตาสีอำพันจ้องมองไปที่หลุมฝังศพของบิดาและมารดาได้จากเขาไปด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่เขาอายุเพียงสิบขวบ

ความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความรักนั้นกลับเลือนรางไปตามกาลเวลา แทบไม่เหลือสิ่งใดให้จดจำ

เขาแค่เพียงขับรถผ่านทางนี้ในวันครบรอบการเสียชีวิตของท่านทั้งสอง ไม่ได้ใส่ใจจะแวะมาเยี่ยมหากปีไหนที่เขาติดงาน เพราะฝังใจว่าทั้งคู่ได้ทอดทิ้งเขาไป

"ผมอยากให้พ่อเข้าฝันบอกท่านปู่ให้เลิกวุ่นวายหาเมียให้ผมสักที แล้วผมก็ไม่อยากมีทายาทด้วย"

แม็กเครย์บ่นยืดยาว แล้วจึงนำดอกไม้สีขาวช่อใหญ่วางไว้หน้าหลุมศพที่ได้รับการทำความสะอาดอย่างดี ก่อนจะปรายตามองลูกน้องคนสนิทที่พึ่งเดินตามมาทีหลัง

"นายครับ ยังไม่เจอไอ้คเชนทร์เลยครับ" เข็มทิศรีบรายงานให้เจ้านายหนุ่มได้ทราบหลังจากที่เขาและเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาได้ตามล่าน้องชายของคนทรยศซึ่งหนีไปซ่อนตัวมาสามวันสามคืนแล้ว

"...มึงไปหาที่เขตหวงห้ามหลังโรงแรมรึยัง"

"ยังครับ แต่มันไม่น่าจะกล้ามาซ่อนตัวในพื้นที่ของนายนะครับ"

"แต่ถ้ากูเจอมันที่นั่น กูจะหักเงินเดือนมึง"

"ขอโทษครับ ผมจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้" เข็มทิศรีบรับคำบัญชาแล้วหมุนตัวออกไปจากสุสานทันที

หลายชั่วโมงต่อมา...

ตึก ตึก ตึก

เสียงเท้าหนากระแทกลงบนพื้นคอนกรีตสลับกับเสียงจังหวะหัวใจที่เต้นถี่ของชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังวิ่งหนีเอาตัวรอดจากเงื้อมมือปีศาจหน้าหล่ออย่างเอาเป็นเอาตาย

หลังจากที่เขาหลบซ่อนตัวอยู่ในโกดังเก็บของที่ไม่ได้ใช้งานในเขตพื้นที่หวงห้ามหลังโรงแรมดังมาสามวันสามคืน เพราะเขาคิดว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด แต่ทว่าเขาคิดผิด มีหรือที่จะรอดพ้นสายตาแหลมคมของแม็กเครย์

นักธุรกิจหนุ่มที่เบื้องหลังเขาคือมาเฟียจิตใจโหดเหี้ยม ใครที่คิดหักหลังเขา จะถูกฆ่าล้างบาง ลูกน้องใต้บังคับบัญชาต่างรู้เรื่องนี้ดีและไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งเขา

หมับ!! ผลัวะ!!

"เฮือก อ๊ากกกก!!" ลมหายใจหอบถี่ของเหยื่อที่ลงไปนอนแนบใบหน้ากับพื้นคอนกรีตเมื่อแม็กเครย์ใช้รองเท้าหนังราคาแพงเหยียบลงบนศีรษะ ท่อนแขนท่อนขาถูกทารุณกรรมด้วยคมมีดเป็นทางยาว โลหิตสีแดงสดค่อยๆ หลั่งไหลตามรอยแยกออกมาเป็นจำนวนมาก

"คิดว่ากูโง่จะหามึงไม่เจอสินะ มึงก็เลยหนีมาซ่อนตัวแถวโรงแรมกู" เสียงทุ้มต่ำจากชายหนุ่มเจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเก้าเซนติเมตร มีใบหน้าหล่อคมตามแบบฉบับลูกครึ่งยุโรปเอเชีย ดวงตาสีอำพันกลับไร้ความรู้สึกบอกน้องชายของคนทรยศที่นอนโหยหวนด้วยความเจ็บปวดตรงหน้าอย่างใจเย็น

"มึงมันอำมหิต ไอ้แม็กเครย์ มึงฆ่าพี่ชายกู"

"หึ...แล้วมึงกับพี่ชายมึงทำอะไรกับกูไว้"

"ให้ผมลงมือเลยไหมครับนาย" มือขวาคนสนิทของแม็กเครย์รีบเอ่ยขึ้น เพราะเขารู้ดีว่าได้ทำงานพลาด ปล่อยให้น้องชายของหนอนบ่อนไส้หนีมาได้ แถมแอบมากบดานเพื่อหนีมารักษาชีวิตอยู่แค่เพียงปลายจมูก

"ไม่ต้อง ก็แค่ปรสิต ดีเหมือนกัน กูได้มีอะไรสนุกๆ ทำ มึงไปซะไอ้คเชนทร์" จบประโยคเยือกเย็นมาเฟียหนุ่มสูดสารนิโคตินเข้าเต็มปอดก่อนจะปล่อยควันสีขาวคละคลุ้งล่องลอยในอากาศ ในขณะที่เข็มทิศหันมองขันเงินซึ่งเป็นมือซ้ายคนสนิทของเจ้านายด้วยความไม่เข้าใจ

เมื่อจู่ๆ เจ้านายหนุ่มผู้ไม่เคยคิดจะปล่อยให้คนที่สมคบผู้คิดทรยศรอดชีวิตไปสักราย แต่วันนี้กลับแปลกไปกว่าทุกครั้ง ไม่กี่วินาที ดวงตาคู่วูบไหวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็รีบประคองสังขารอันบอบช้ำจ้ำอ้าวออกมาจากบริเวณนั้นทันที

"ทำไมนายถึงปล่อยมันไปครับ" เข็มทิศรีบโพล่งถามอย่างไม่เข้าใจนัก

"ให้แบล็กกับบราวน์จัดการ"

"อ๋อ...เข้าใจแล้วครับ/อืม...เข้าใจแล้วครับ" มือขวาและมือซ้ายพร้อมใจกันรับคำโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่นานนักขันเงินและชายฉกรรจ์ชุดดำรีบไปปลดโซ่ของสุนัขล่าเนื้อสีดำและสีน้ำตาลที่แม็กเครย์เลี้ยงไว้ ปล่อยให้มันไปจัดการเหยื่อโดยทันที

อีกฟากหนึ่งของโรงแรมแอมมิวตันสุดหรู

"วันนี้พอแค่นี้ก่อน ว่าแต่น้องมีชื่อเล่นไหม" เสียงเอ่ยถามอย่างเป็นกันเองของสิริบอกนักศึกษาสาวร่างอรชรตรงหน้าซึ่งเธอมีโอกาสได้มาฝึกงานวันแรกที่โรงแรมแห่งนี้เหตุเพราะเป็นหนึ่งในนักศึกษาชั้นปีที่สาม ที่มีผลการเรียนดี แถมเธอยังได้รับค่าจ้างตอบแทนในการฝึกงานที่โรงแรมแห่งนี้อีกด้วย

"หนูไม่มีชื่อเล่นหรอกค่ะ เรียกหนูว่าลิตาก็ได้"

ปาลิตา เด็กสาวที่โตมาจากมูลนิธิเด็กด้อยโอกาสบ้านในเหมืองจังหวัดชุมพร เธอมีริมฝีปากอวบอิ่มที่มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยส่งผลให้ใบหน้าหวานชวนมอง ทำให้มองผ่านๆ เหมือนคนอมยิ้มตลอดเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เด็กสาวดูหน้าตาเป็นมิตร เธอมีสร้อยคอที่มีจี้เป็นล็อกเกตเล็กๆ รูปหัวใจโดยมีตราสัญลักษณ์บางอย่างสลักอยู่ มันเป็นของชิ้นเดียวที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

เด็กสาวและพี่ๆ น้องๆ โตมาในมูลนิธิจนเติบใหญ่โดยมีเจ้าหน้าที่เก่าแก่คอยดูแล และเมื่อเด็กในมูลนิธิอายุครบสิบแปดปีก็จะมีสิทธิ์ตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินของตัวเอง บางคนก็เลือกที่จะออกไปทำงานเลี้ยงตัวเอง บางคนก็เลือกจะเรียนต่อ ส่วนปาลิตาเธอเลือกที่จะทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยที่กรุงเทพมหานคร

"อืม นี่ก็ดึกแล้วลิตากลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้พี่มีงานที่ต้องสอนเราอีกเยอะ แล้วอย่าไปเดินเพ่นพ่านแถวเขตหวงห้ามล่ะ" สิริที่ซึ่งรับหน้าที่ตำแหน่งพี่เลี้ยงให้กับปาลิตา ได้ย้ำเตือนถึงกฎเกณฑ์ของโรงแรมหรูแห่งนี้

โดยพนักงานทุกคนจะต้องใช้ทางเข้าออกด้านหลังของโรงแรม และห้ามใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเขตหวงห้ามซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก ส่วนแขกของทางโรงแรมและผู้บริหารระดับสูงเท่านั้นที่จะสามารถเข้าออกทางด้านหน้าของโรงแรมได้

"ได้ค่ะ พรุ่งนี้ลิตาจะมาทำงานให้ทันเวลา ไม่สายค่ะ" เธอรับคำมั่นเหมาะเพราะวันนี้เธอดันมาสายซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุรถชนกันกลางสี่แยกทำเอารถติดพรืดยาว

หลังจากนั้นมือเล็กยกไหว้ผู้จัดการแผนกด้วยความนอบน้อม ก่อนจะกระชับหูกระเป๋าผ้าขึ้นสะพายคล้องไหล่ แล้วเดินออกไปทางด้านหลังของโรงแรมเพื่อไปที่ป้ายรถประจำทาง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 11 ยัดเยียดให้ขายตัว

    "มึงไปเอาเอกสารทั้งหมดที่กูต้องเซ็นมาที่นี่ วันนี้กูไม่เข้าบริษัท" แม็กเครย์เดินออกมานอกห้องแล้วหันไปสั่งการกับลูกน้องคนเดิม"ได้ครับนาย"ภายในห้องทำงานที่รายล้อมไปด้วยหนังสือหลายร้อยเล่มซึ่งจัดวางไว้เป็นระเบียบบนชั้นวางหนังสือ แม็กเครย์นั่งเซ็นเอกสารและตรวจแฟ้มงานที่กองไว้บนโต๊ะ เขาสะดุดกับเอกสารชุดหนึ่งแล้วอารมณ์เดือดดาลก็คุกรุ่นขึ้นทันทีใจความสำคัญของกระดาษแผ่นนี้คือ ทางคณะของมหาวิทยาลัยที่ปาลิตาเรียนอยู่ ขอยกเลิกฝึกงาน เนื่องจากเด็กสาวมีความประสงค์จะไปฝึกงานที่อื่นใกล้ๆ หอพัก และให้นักศึกษาคนอื่นมาฝึกงานที่นั่นแทนแม็กเครย์จึงขยำกระดาษแผ่นดังกล่าวทิ้งลงที่พื้นเพื่อระบายอารมณ์ เด็กนั้นกล้าดียังไง ถึงได้ปฏิเสธที่จะฝึกงานกับโรงแรมห้าดาวหรูหราใจกลางเมืองที่มีเงินเดือนให้อย่างโรงแรมแอมมิวตันก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตครับ นาย""เข้ามา" เขาละสายตาจากเอกสารแล้วเงยหน้าให้คำตอบมือขวาคนสนิทที่กำลังเดินเข้ามาในห้องทำงาน"นายครับ HR แจ้งมาว่า เรื่องขอยกเลิกการฝึกงานของปาลิตา ไม่ทราบว่านายจะอนุมัติหรือไม่ครับ พอดีทางมหา'ลัยติดต่อมาต้องการทราบผลภายในวันนี้ครับ เพราะมันมีผลต่อชั่วโมงฝึกงาน" ประโยคยืดย

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 10 หงุดหงิด

    "ไปดีลงาน แต่เจ้าพ่อรถตักดินดันไปลากเด็กในคลับมาแทน?"เสียงของออนิกซ์โพล่งขึ้นเป็นเชิงเหน็บแนมทันทีที่เห็นพี่แม็กเครย์เดินเข้ามาด้านในของห้องรับรองที่พวกเขาในกลุ่มมักจะมารวมตัวกันเพื่อคุยเรื่องธุรกิจสีเทาหรือสังสรรค์บ้างในบางครั้ง ไม่ก็ไปที่คลับของเขาแทน ส่วนฉายา "เจ้าพ่อรถตักดิน" เป็นคำที่เพื่อนๆ ตั้งไว้เรียกแม็กเครย์โดยเฉพาะ สืบเนื่องจากชื่อของเจ้าตัวดันไปใกล้เคียงกับคำว่าแม็กโคร"มึงหงุดหงิดเรื่องอะไร หรือเป็นเพราะกูโทรไปขัดจังหวะมึงบนรถ?" เป็นลาร์คินที่ตั้งข้อสังเกต เพราะโดยปกติเท่าที่เขาเห็น แม็กเครย์ไม่เคยมีเรื่องหัวเสียขนาดนี้มาก่อน มาเฟียใบหน้าเย็นชาเป็นนักแก้ปัญหาที่เก่งกาจ ขนาดถูกลูกน้องหักหลัง แต่แม็กเครย์ก็ไม่เคยไม่แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดให้ได้เห็น ยิ่งเรื่องผู้หญิงความเป็นไปได้แทบเป็นศูนย์"เด็กมันคงพยศแหละมั้ง เจ้าพ่อรถตักดินลูกรังถึงได้อารมณ์เสียเอา" ไทเลอร์พูดแทรกขึ้นพลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแกว่งเบาๆ ก่อนจะกระดกของเหลวสีแดงเข้มเข้าปากในพรวดเดียว"ถ้าพวกมึงตามกูมาแค่ต้องการกวนตีนใส่กู งั้นกูจะกลับ" แม็กเครย์รีบตัดบทสนทนาก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาซึ่งว่างอยู่ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 9 ฟ้าสว่าง NC+

    พรึ่บบบ!เขาช้อนร่างเปลือยของเด็กสาวด้วยความไวประหนึ่งปีศาจ แล้วจับเธออ้าขาพร้อมๆ กับกดสะโพกมนลงมาที่ตักแกร่งสวบ!"กรี๊ดดดดด ยะ...อย่านะ"ช่องทางรักที่เปียกแฉะไปด้วยน้ำหวานค่อยๆ กลืนกินแก่นกายความเป็นชายที่ขนาดใหญ่กว่าข้อมือเข้าไปได้ง่ายกว่าครั้งแรก ฝ่ามือหนาล็อกสะโพกงามงอนของสาวน้อยกระทบกับหน้าขาของของเขาด้วยความหื่นกระหาย"รอฟ้าสว่างก่อนนะแล้วฉันจะหยุด" เขากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนจะเป็นฝ่ายออกแรงตับๆๆๆเสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังกึกก้องภายในรถหรูตามจังหวะระรัวด้วยฝีมือคนตัวสูง ปลายส้นสูงเสียดสีไปมากับเบาะหนัง เธอจึงคว้ากอดลำคอหนาเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว กลิ่นน้ำหอมราคาแพงบนลำตัวเขาเสมือนกับดักที่ล่อให้เหยื่อติดกับทว่าอีกฝ่ายกลับมองภาพคนตรงหน้าที่เปลือยเปล่าซึ่งสวมเพียงรองเท้าส้นแหลมกำลังนั่งคร่อมบนตัวเขา กระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนให้ยิ่งร้อนระอุ"อื้อ! จะ...จุก""อืม~" แม็กเครย์ตะโบมดูดสองเต้าอวบที่จุกสีชมพูกำลังแข็งชูชันตรงหน้าราวกับคนอดอยาก ช่างล่อตาให้เขาอยากจะขย้ำมันแรงๆ เขาขบกัดหน้าอกใหญ่ทั้งสองข้างไปมาด้วยความกระหาย จนลิตาใบหน้าเหยเกทั้งรู้สึกเจ็บและเสียวในเวลาเดียวกันเขาผลักเธอ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 8 หญิงร่าน NC

    ตุ๊บ!"โอ๊ย นี่คุณจะพาฉันไปไหน กระเป๋าฉันอยู่ที่ห้องแต่งตัว" สรรพนามที่เด็กสาวแทนตัวเปลี่ยนไป พร้อมๆ กับกำปั้นเล็กอีกข้างพยายามทุบนิ้วมือของเขาเพื่อให้คลายพันธนาการออกจากข้อแขนของเธอแต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งกระตุ้นต่อมโทสะของเขาให้เดือดดาล"เข้าไป" เขายัดเธอเข้าไปในรถโรลส์รอยซ์คันหรูที่ลานจอดรถ แล้วก้าวขายาวตามขึ้นมาติดๆ"ปล่อยนะ ฉันไม่ไป โอ๊ย!" ร่างอรชรล้มคะมำกระแทกกับเบาะหนังจนเด็กสาวรู้สึกเจ็บแปล๊บที่สะโพกงอนงาม ก่อนจะกวาดสายตามองภายห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าปกติแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน"หึ...อยู่กับฉันทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวเพื่ออัพราคา พอทีกับคนอื่นรีบอ้าขาให้โดยไม่ลังเล...ผู้หญิงร่าน" ถ้อยคำดูถูกของแม็กเครย์ทำเอาเด็กสาวถูกเรียกคืนสติ แล้วหันมองเขาด้วยแววตาวาวโรจน์ ฝ่ามือเล็กกำหมัดแน่นด้วยความขุ่นเคือง"ออกรถ""ขะ...คุณจะพาฉันไปไหน" ดวงตากลมมองข้างทางด้วยความหวาดกลัวเมื่อรถคันดังกล่าวถูกขับเคลื่อนไปถนนเส้นหลักด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดหลังจากที่แม็กเครย์ออกคำสั่ง"อยากขายตัวนักไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันซื้อไว้เอง""มะ...ไม่ ก็บอกไม่ได้ขายไง" เธอตวาดกลับเสียงสั่นไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเจอ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 7 เจอกันอีกครั้ง

    "ก็ไหนลาออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ...ปาลิตา" ถ้อยคำกระแนะกระแหนของสาวสวยเจ้าของชื่อ 'ซอนญ่า' หญิงสาวเชื้อสายไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ใช้ชื่อใหม่ตั้งแต่เธอเข้ามาเป็นพีอาร์ของผับแห่งนี้ แววตาริษยาเพ่งมองอีกคนที่กำลังสำรวจความเรียบร้อยของชุดผ่านกระจกเงาในห้องน้ำ"..." ลิตาเลือกที่จะเงียบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซอนญ่ามักจะพูดจากระแนะกระแหนเธอ"หึ...ไปแล้วก็น่าจะไปลับไม่ต้องกลับมาอีก""ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ" ถึงแม้ลิตาจะไม่ใช่คนชอบต่อปากต่อคำ แต่ทว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุดหาเรื่อง ครั้งนี้เธอจึงต้องใช้คำพูดให้เป็นเหมือนเกราะป้องกันตัวเอง"เจ๊น้ำไม่รู้คิดอะไรอยู่ที่รับแกเข้ามาทำงานอีกครั้ง น่ะ หึ..ทำเป็นไร้เดียงสาเวลาเจอแขกเพื่อเรียกร้องความสนใจล่ะสิไม่ว่า" ถ้อยคำกระแทกแดกดันดังขึ้นอีกครั้งในจังหวะที่เด็กสาวใบหน้าสวยปรายตามองมา"ฉันอัดเสียงไว้ในมือถือ อยากให้ฉันไปบอกเจ๊น้ำไหมล่ะ ว่าเธอกำลังนินทาเจ๊น้ำ"ว่าพลางลิตาล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรงที่สวมใส่อยู่แล้วอาศัยจังหวะเปิดกล้องค้างไว้ให้ดูเหมือนกับว่าเธออัดวิดีโอจริงๆ แล้วหันหน้าจอให้ซอนญ่าดูก่อนจะหย่อนเก็บไว้ที่เดิมในเสี้ยววินาที ในเมื่อพ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 6 จับตาดู

    ซ่า~ ซ่า~เสียงสายน้ำเย็นฉ่ำไหลออกมาจากฝักบัวตกกระทบร่างกายไหลลงสู่พื้น เด็กสาวยืนนิ่งเงียบราวกับคนไร้วิญญาณในห้องน้ำส่วนตัวเมื่อกลับมาถึงหอพัก ปล่อยให้น้ำสะอาดชำระล้างความสกปรกทั่วเรือนร่างซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยความป่าเถื่อน"คุณมันใจร้าย ฮึก ฮือ" เสียงสะอื้นไห้ดังสลับกับเสียงสายน้ำไหลเป็นระยะไม่เคยนึกฝันภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาของแม็กเครย์ที่เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแต่เขากลับบ้ากามและข่มเหงเด็กฝึกงานอย่างเธอได้ลงคอนานนับชั่วโมงที่ลิตาร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตา เธอคว้าหยิบผ้าขนหนูพันตัวแล้วจึงค่อยๆ เดินออกมาแต่งตัวครืด~ ครืด~โทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกความสนใจให้ลิตาที่พึ่งสวมเสื้อผ้าเสร็จรีบเดินมาที่กระเป๋าสะพาย ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็น 'สิริ' โทรมา"...ค่ะ พี่สิ"[วันนี้ไม่มาทำงานหรือไง]"ลิตารู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ เลยจะขอลา"[อ้าวเหรอ เมื่อคืนพี่ให้เรากลับดึกไปหน่อยเลยไม่สบายละสิ]"เออ..." มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสิริสักนิด แต่เธอก็ไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมดให้คนในสายฟังได้ ได้แต่ปล่อยให้สิริคิดไปเองตามนั้น[งั้น..ถ้าไม่ไหวยังไงก็พักก่อน เดี๋ยวพี่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status