Share

บทที่ 1 เขตหวงห้าม

last update Last Updated: 2025-06-10 12:43:43

หนุ่มลูกครึ่งยืนเต็มความสูงอยู่ท่ามกลางสุสานของตระกูล ดวงตาสีอำพันจ้องมองไปที่หลุมฝังศพของบิดาและมารดาได้จากเขาไปด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่เขาอายุเพียงสิบขวบ

ความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความรักนั้นกลับเลือนรางไปตามกาลเวลา แทบไม่เหลือสิ่งใดให้จดจำ

เขาแค่เพียงขับรถผ่านทางนี้ในวันครบรอบการเสียชีวิตของท่านทั้งสอง ไม่ได้ใส่ใจจะแวะมาเยี่ยมหากปีไหนที่เขาติดงาน เพราะฝังใจว่าทั้งคู่ได้ทอดทิ้งเขาไป

"ผมอยากให้พ่อเข้าฝันบอกท่านปู่ให้เลิกวุ่นวายหาเมียให้ผมสักที แล้วผมก็ไม่อยากมีทายาทด้วย"

แม็กเครย์บ่นยืดยาว แล้วจึงนำดอกไม้สีขาวช่อใหญ่วางไว้หน้าหลุมศพที่ได้รับการทำความสะอาดอย่างดี ก่อนจะปรายตามองลูกน้องคนสนิทที่พึ่งเดินตามมาทีหลัง

"นายครับ ยังไม่เจอไอ้คเชนทร์เลยครับ" เข็มทิศรีบรายงานให้เจ้านายหนุ่มได้ทราบหลังจากที่เขาและเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาได้ตามล่าน้องชายของคนทรยศซึ่งหนีไปซ่อนตัวมาสามวันสามคืนแล้ว

"...มึงไปหาที่เขตหวงห้ามหลังโรงแรมรึยัง"

"ยังครับ แต่มันไม่น่าจะกล้ามาซ่อนตัวในพื้นที่ของนายนะครับ"

"แต่ถ้ากูเจอมันที่นั่น กูจะหักเงินเดือนมึง"

"ขอโทษครับ ผมจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้" เข็มทิศรีบรับคำบัญชาแล้วหมุนตัวออกไปจากสุสานทันที

หลายชั่วโมงต่อมา...

ตึก ตึก ตึก

เสียงเท้าหนากระแทกลงบนพื้นคอนกรีตสลับกับเสียงจังหวะหัวใจที่เต้นถี่ของชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังวิ่งหนีเอาตัวรอดจากเงื้อมมือปีศาจหน้าหล่ออย่างเอาเป็นเอาตาย

หลังจากที่เขาหลบซ่อนตัวอยู่ในโกดังเก็บของที่ไม่ได้ใช้งานในเขตพื้นที่หวงห้ามหลังโรงแรมดังมาสามวันสามคืน เพราะเขาคิดว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด แต่ทว่าเขาคิดผิด มีหรือที่จะรอดพ้นสายตาแหลมคมของแม็กเครย์

นักธุรกิจหนุ่มที่เบื้องหลังเขาคือมาเฟียจิตใจโหดเหี้ยม ใครที่คิดหักหลังเขา จะถูกฆ่าล้างบาง ลูกน้องใต้บังคับบัญชาต่างรู้เรื่องนี้ดีและไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งเขา

หมับ!! ผลัวะ!!

"เฮือก อ๊ากกกก!!" ลมหายใจหอบถี่ของเหยื่อที่ลงไปนอนแนบใบหน้ากับพื้นคอนกรีตเมื่อแม็กเครย์ใช้รองเท้าหนังราคาแพงเหยียบลงบนศีรษะ ท่อนแขนท่อนขาถูกทารุณกรรมด้วยคมมีดเป็นทางยาว โลหิตสีแดงสดค่อยๆ หลั่งไหลตามรอยแยกออกมาเป็นจำนวนมาก

"คิดว่ากูโง่จะหามึงไม่เจอสินะ มึงก็เลยหนีมาซ่อนตัวแถวโรงแรมกู" เสียงทุ้มต่ำจากชายหนุ่มเจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเก้าเซนติเมตร มีใบหน้าหล่อคมตามแบบฉบับลูกครึ่งยุโรปเอเชีย ดวงตาสีอำพันกลับไร้ความรู้สึกบอกน้องชายของคนทรยศที่นอนโหยหวนด้วยความเจ็บปวดตรงหน้าอย่างใจเย็น

"มึงมันอำมหิต ไอ้แม็กเครย์ มึงฆ่าพี่ชายกู"

"หึ...แล้วมึงกับพี่ชายมึงทำอะไรกับกูไว้"

"ให้ผมลงมือเลยไหมครับนาย" มือขวาคนสนิทของแม็กเครย์รีบเอ่ยขึ้น เพราะเขารู้ดีว่าได้ทำงานพลาด ปล่อยให้น้องชายของหนอนบ่อนไส้หนีมาได้ แถมแอบมากบดานเพื่อหนีมารักษาชีวิตอยู่แค่เพียงปลายจมูก

"ไม่ต้อง ก็แค่ปรสิต ดีเหมือนกัน กูได้มีอะไรสนุกๆ ทำ มึงไปซะไอ้คเชนทร์" จบประโยคเยือกเย็นมาเฟียหนุ่มสูดสารนิโคตินเข้าเต็มปอดก่อนจะปล่อยควันสีขาวคละคลุ้งล่องลอยในอากาศ ในขณะที่เข็มทิศหันมองขันเงินซึ่งเป็นมือซ้ายคนสนิทของเจ้านายด้วยความไม่เข้าใจ

เมื่อจู่ๆ เจ้านายหนุ่มผู้ไม่เคยคิดจะปล่อยให้คนที่สมคบผู้คิดทรยศรอดชีวิตไปสักราย แต่วันนี้กลับแปลกไปกว่าทุกครั้ง ไม่กี่วินาที ดวงตาคู่วูบไหวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็รีบประคองสังขารอันบอบช้ำจ้ำอ้าวออกมาจากบริเวณนั้นทันที

"ทำไมนายถึงปล่อยมันไปครับ" เข็มทิศรีบโพล่งถามอย่างไม่เข้าใจนัก

"ให้แบล็กกับบราวน์จัดการ"

"อ๋อ...เข้าใจแล้วครับ/อืม...เข้าใจแล้วครับ" มือขวาและมือซ้ายพร้อมใจกันรับคำโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่นานนักขันเงินและชายฉกรรจ์ชุดดำรีบไปปลดโซ่ของสุนัขล่าเนื้อสีดำและสีน้ำตาลที่แม็กเครย์เลี้ยงไว้ ปล่อยให้มันไปจัดการเหยื่อโดยทันที

อีกฟากหนึ่งของโรงแรมแอมมิวตันสุดหรู

"วันนี้พอแค่นี้ก่อน ว่าแต่น้องมีชื่อเล่นไหม" เสียงเอ่ยถามอย่างเป็นกันเองของสิริบอกนักศึกษาสาวร่างอรชรตรงหน้าซึ่งเธอมีโอกาสได้มาฝึกงานวันแรกที่โรงแรมแห่งนี้เหตุเพราะเป็นหนึ่งในนักศึกษาชั้นปีที่สาม ที่มีผลการเรียนดี แถมเธอยังได้รับค่าจ้างตอบแทนในการฝึกงานที่โรงแรมแห่งนี้อีกด้วย

"หนูไม่มีชื่อเล่นหรอกค่ะ เรียกหนูว่าลิตาก็ได้"

ปาลิตา เด็กสาวที่โตมาจากมูลนิธิเด็กด้อยโอกาสบ้านในเหมืองจังหวัดชุมพร เธอมีริมฝีปากอวบอิ่มที่มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยส่งผลให้ใบหน้าหวานชวนมอง ทำให้มองผ่านๆ เหมือนคนอมยิ้มตลอดเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เด็กสาวดูหน้าตาเป็นมิตร เธอมีสร้อยคอที่มีจี้เป็นล็อกเกตเล็กๆ รูปหัวใจโดยมีตราสัญลักษณ์บางอย่างสลักอยู่ มันเป็นของชิ้นเดียวที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

เด็กสาวและพี่ๆ น้องๆ โตมาในมูลนิธิจนเติบใหญ่โดยมีเจ้าหน้าที่เก่าแก่คอยดูแล และเมื่อเด็กในมูลนิธิอายุครบสิบแปดปีก็จะมีสิทธิ์ตัดสินใจที่จะเลือกทางเดินของตัวเอง บางคนก็เลือกที่จะออกไปทำงานเลี้ยงตัวเอง บางคนก็เลือกจะเรียนต่อ ส่วนปาลิตาเธอเลือกที่จะทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยที่กรุงเทพมหานคร

"อืม นี่ก็ดึกแล้วลิตากลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้พี่มีงานที่ต้องสอนเราอีกเยอะ แล้วอย่าไปเดินเพ่นพ่านแถวเขตหวงห้ามล่ะ" สิริที่ซึ่งรับหน้าที่ตำแหน่งพี่เลี้ยงให้กับปาลิตา ได้ย้ำเตือนถึงกฎเกณฑ์ของโรงแรมหรูแห่งนี้

โดยพนักงานทุกคนจะต้องใช้ทางเข้าออกด้านหลังของโรงแรม และห้ามใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเขตหวงห้ามซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก ส่วนแขกของทางโรงแรมและผู้บริหารระดับสูงเท่านั้นที่จะสามารถเข้าออกทางด้านหน้าของโรงแรมได้

"ได้ค่ะ พรุ่งนี้ลิตาจะมาทำงานให้ทันเวลา ไม่สายค่ะ" เธอรับคำมั่นเหมาะเพราะวันนี้เธอดันมาสายซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุรถชนกันกลางสี่แยกทำเอารถติดพรืดยาว

หลังจากนั้นมือเล็กยกไหว้ผู้จัดการแผนกด้วยความนอบน้อม ก่อนจะกระชับหูกระเป๋าผ้าขึ้นสะพายคล้องไหล่ แล้วเดินออกไปทางด้านหลังของโรงแรมเพื่อไปที่ป้ายรถประจำทาง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    ตอนพิเศษ

    มิอาร์และมอตก้าก็เติบโตขึ้นทุกวัน ด้านแม็กเครย์จึงกลับไปทำงานเหมือนเดิม แต่พอถึงเวลาเลิกงานปุ๊บเขาก็รีบกลับมาบ้านทันที เพราะคิดถึงลูกคิดถึงเมียแทบไม่อยากห่าง ส่วนลิตาก็กลับไปเรียนต่อโดยเธอเลือกที่จะเรียนภาคค่ำแทน จะได้ไม่กระทบเวลาเลี้ยงลูกน้อยทั้งสอง"นี่ลูกก็เริ่มเดินได้แล้วนะ เราจะจัดงานแต่งงานกันเมื่อไหร่ดีครับ" ในขณะที่สองจิ๋วกำลังฝึกยืนตั้งไข่และก้าวเดินที่สนามหญ้าข้างบ้านโดยมีบรรดามือซ้ายมือขวาและป้าเจียนตามประกบไม่ห่าง รวมไปถึงแบล็กกับบราวน์ก็คอยนั่งอารักขาอยู่ใกล้ๆ สมาชิกใหม่ทั้งสองของบ้านด้วยความชาญฉลาด"ก็ไหนเราคุยกันแล้วไงคะ ว่ารอหนูกลับไปเรียนให้จบก่อน" เมื่ออยู่กันเพียงลำพังที่อีกมุมหนึ่งของสวนหย่อมเธอจึงให้คำตอบสามี"มันนานไป พี่อยากแต่งไวๆ" เขาให้ตอบห้วนๆ ทำเอาคนฟังพอจะมองออกว่าสามีหนุ่มของเธอไม่พอใจ"ไม่พอใจอะไรอีกคะเนี่ย""ก็เมียพี่กำลังกลับไปเรียน ถ้าเกิดมีหนุ่มๆ มาตามจีบให้ทำไง""อะไรกันคะ พี่เล่นส่งลูกน้องไปเข้าเรียนด้วยขนาดนั้นใครจะกล้าเข้ามาคะ" ลิตาพึ่งกลับไปเรียนเมื่อวานได้แค่วันเดียว แต่แม็กเครย์ก็ยื่นข้อแลกเปลี่ยนให้ลูกน้องของเขาไปตามเฝ้าด้วยไม่ห่างเพราะกลัวจะ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 52 Happy Ending (NC)

    เวลาต่อมา…แม็กเครย์ก็ได้เข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอ ส่วนทุกคนที่เหลือก็บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอจึงอยากนอนเฝ้าไข้พ่อของลูกด้วยตัวเองแสงสว่างของเช้าวันใหม่ก็ทอแสงผ่านเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ทำให้ร่างอรชรที่นอนบนโซฟารู้สึกตัว ซึ่งเป็นเวลาที่นายแพทย์หนุ่มต้องเข้ามาตรวจดูอาการของแม็กเครย์ตามหน้าที่"พี่แม็กเครย์อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ หนูจะไปซื้อมาให้" เธอลุกขึ้นมาถามชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้หลังจากที่คุณหมอออกไปแล้ว โดยชายหนุ่มตอบสนองตัวยาได้ดีก็ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจหลังจากผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาแล้ว"ไม่ครับ พี่ขอโทษนะที่ดูแลหนูกับลูกไม่ดี" เขาค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นหลังพิงหัวเตียง พลางจับมือหญิงสาว ถ้าเธอกับลูกเป็นอะไรไปเขาคงไม่ให้อภัยตัวเอง"ขอโทษทำไมกันคะ ตอนนี้หนูกับลูกก็ปลอดภัยดี" หลังจากผ่านการตรวจร่างกายมาแล้วก็พบว่าสองแฝดในท้องหัวใจเต้นปกติดี ส่วนลิตาก็มีแค่รอยฟกช้ำตามร่างกายเท่านั้น"แล้วพี่แม็กยังไม่เล่าให้ฟังเลยนะคะ ว่าพี่ตามมาช่วยหนูทันได้ไง" ในขณะที่ถามเธอก็ลากเก้าอี้ตัวเล็กมาไว้ข้างเตียงแล้วจึงหย่อนสะโพกนั่งลง"จริงๆ พี่ตามหนูมาแหละ นอนรีสอร์ตถัดไปนี

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 51 คนที่อยู่เบื้องหลัง

    ในเวลานี้ท้องฟ้าก็มืดมิดพอดี บรรยากาศที่ชวนขนลุกทำเอาร่างอรชรรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ ชายฉกรรจ์พาเธอเข้าไปในเส้นทางป่าทึบที่ไร้ผู้คน พื้นดินที่มีหญ้ารกปกคลุมมีเพียงแสงของดวงจันทร์ที่ให้ความสว่างในเวลานี้ เธอคิดถึงแม็กเครย์จับใจ แล้วใครกันนะที่ต้องการตัวเธอ แล้วเขาต้องการไปเพื่ออะไร ในสมองมันตีรวนไปหมดใช้เวลาพอสมควรก็เริ่มถึงหน้าผาสูง ดวงตากลมเห็นบุคคลที่เธอคุ้นเคยดียืนเอามือไพล่หลังกำลังจ้องมองไปยังท้องทะเลในยามค่ำคืนดวงตากลมเบิกโพลงเป็นไข่ห่าน อยู่ๆ ชายคนดังกล่าวหันมามองเธอ"ได้ตัวมาแล้วครับนาย""เปิดปากมันออก"ฟึบบบ!!! แรงกระชากจากกาวของสกอตช์เทปทำเอาเธอสะบัดหน้าหนีด้วยความรู้สึกเจ็บ"ขะ…คุณลุง" ริมฝีปากแดงเถือกเรียกสรรพนามชายตรงหน้าเสียงสั่นหรือว่าแท้จริงแล้วปองพลคือคนที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ในวันนี้"หึ…มาสักทีนะหนูลิตา""ลุงทำแบบนี้ทำไมคะ ต้องการอะไร""มึงจ่ายเงินให้พวกมันได้แล้ว" ปองพลหันไปบอกคนขับรถของตัวเองที่ยื่นซองสีน้ำตาลซึ่งข้างในบรรจุเงินสด ในขณะที่ตัวเองหยิบปืนออกมาจากซองปืนพกข้างบั้นเอวออกมา"มีอะไรก็เรียกใช้พวกผมได้นะครับ" เสียงในหนึ่งของชายชุดดำบอกปองพลหลังจากนับเงิ

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 50 คนแปลกหน้า

    ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและสมาชิกในบ้านเริ่มสนิทกันมากขึ้น บางวันเธอก็นอนที่บ้านและบางวันก็กลับไปนอนที่บ้านของแม็กเครย์ การที่มีครอบครัวแท้ๆ มันอบอุ่นแบบนี้นี่เอง ส่วนเด็กๆ ในท้องของลิตาก็เริ่มโตขึ้นไปตามพัฒนาการคุณตาของปาลิตาหมายมั่นอยากให้หลานสาวได้เข้าไปช่วยงานในบริษัทของตระกูล เธอจึงได้เข้าไปศึกษาเนื้องานของบริษัทในบางเพื่อไม่ให้รู้สึกเบื่อ และหลังจากที่เธอคลอดลูกแล้ว จึงจะค่อยไปดูกิจการที่ภาคใต้ในลำดับต่อไปเวลาได้เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงวันที่ครอบครัวของปาลิตาเดินทางมาพักผ่อนที่ปราณบุรี ท้องน้อยๆ ในวันวานมาตอนนี้กลับนูนออกชัดขึ้นซึ่งในตอนแรกแม็กเครย์จะตามแฟนสาวของเขามาด้วย แต่เธอก็ห้ามไว้เพราะอยากเป็นส่วนตัวกับคนที่บ้าน และลุงของเธอได้ย้ำกับว่าอยากให้มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้น แต่เธอก็ไม่กล้าบอกแม็กเครย์ไปตามตรงโดยลิตาจะนั่งไปกับปภังกร ส่วนปัถย์วีไปคันเดียวกับปองพล ในขณะที่ทุกคนยืนเตรียมและตรวจเช็กสัมภาระภายในรถ จู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของปัถย์วีก็ดังขึ้น เขาจึงรีบกดรับสาย"ว่าไง"[นายครับ ไฟล์งานประมูลเพชรของไตรมาสถัดไปมันถูกลบไปครับ]"มันจะถูกลบไปได้ไงวะ หรือมีใครเข้ามาในห้องทำงา

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 49 ครอบครัวแท้ๆ

    "สวัสดีทุกคนนะคะ" เธอยกมือไหว้ทุกคนอย่างมีมารยาทหลังจากทราบชื่อของทุกคน เกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่าจะกลายเป็นลูกเศรษฐี มีคนใช้กับเขา แต่ละคนล้วนแก่กว่าเธอทั้งนั้น การกระทำดังกล่าวทำให้เหล่าบริวารของบ้านอัศวรัศมิ์กุลต่างรู้สึกประทับใจกับเจ้านายคนใหม่ ที่ดูใจดีและไม่ถือตัว"เดี๋ยวเตรียมห้องใหม่ให้คุณลิตาด้วยนะโพน งั้นทุกคนมีอะไรก็ไปทำ" ปภังกรหันไปบอกแม่บ้านใหญ่ประจำคฤหาสน์รวมไปถึงคนอื่นๆ"โถ คุณหนูลิตาช่างดูคล้ายคุณปิ่นมากๆ โดยเฉพาะดวงตา พูดแล้วก็คิดถึงคุณปิ่นนะคะ ดีใจกับคุณท่านด้วยที่ได้เจอหลานสาวแล้ว" โพนแม่บ้านวัยป้าคนเก่าแก่ของที่นี่ เมื่อเห็นใบหน้าของปาลิตาก็อดคิดถึงมารดาของเด็กสาวไม่ได้ หลังจากที่แสดงความยินดีกับประมุขของบ้านเสร็จโพนจึงปลีกตัวออกไปทำตามคำบัญชาด้วยความเต็มใจปภังกรจึงเอามือแตะที่หลังของหลานสาวเบาๆ เป็นเชิงให้เดินไปพักผ่อนที่โซฟาเบดด้วยกัน"ถ้าโพนเตรียมห้องเสร็จแล้วหนูขึ้นไปพักได้เลยนะ อยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกตาได้""ขอบคุณคุณตามากนะคะ""ไม่ต้องขอบคุณหรอก ต้องขอบคุณไอ้ไมค์มากกว่าที่มันเจอหนูแล้วมันพาหนูมาหาตา ไม่อย่างนั้นป่านนี้เราคงไม่ได้เจอหน้ากันหรอกหลานรักของตา" ใบหน้า

  • เด็กฝึกงานของแม็กเครย์    บทที่ 48 แต่งงานกันนะ

    หลังจากกลับมาพักผ่อนที่บ้านในช่วงบ่ายของวัน เขาจึงนัดแนะลิตาโดยบอกเธอว่าจะพามาดินเนอร์ที่รูฟท็อปโรงแรมแอมมิวตันซึ่งอยู่บนชั้นดาดฟ้า-ช่วงเย็น-ร่างอรชรในชุดแม็กซี่เดรสแบบเปิดไหล่ ก็เดินเคียงคู่มากับมาเฟียหนุ่มในปล่องลิฟต์ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวมาถึงชั้นบนสุดของโรงแรม ทันทีที่ถึงรูฟท็อปบาร์ดาดฟ้าของแอมมิวตัน ก็มีสายลมเย็นกระทบผิวบาง บรรยากาศเป็นส่วนตัวโดยไม่มีแขกเลยสักคน จะเห็นก็มีแค่พนักงานของโรงแรมเท่านั้น ทำเอาลิตาถึงกับเผยอริมฝีปากเล็กๆ"อ้าว ไม่มีคนเลยเหรอคะ" ปกติเธอจะต้องเห็นภาพแขกเหรื่อที่มารับประทานอาหารมื้อเย็นอย่างคลาคล่ำเต็มทุกเกือบโต๊ะแต่มาวันนี้กลับปราศจากผู้คน แถมก็จัดโซนที่เห็นพระอาทิตย์ตกดินได้ชัดที่สุดให้มีซุ้มดอกไม้สดส่งกลิ่นหอมให้รู้สึกสดชื่น และใกล้กันมีกลีบดอกกุหลาบซึ่งถูกโปรยไว้เป็นรูปหัวใจตกแต่งด้วยเทียนLEDช่วยเพิ่มแสงสว่าง"ก็พี่อยากมากินกับหนูแค่สองคนหนิ ก็เลยให้ปิดรูฟท็อปหนึ่งวันครับ""ขนาดนั้นเชียว" เธอมุ่ยหน้ากลบเกลื่อนความเขินอาย แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่เขาพยายามเอาอกเอาใจเธอตามที่พูดจริงๆ และตั้งแต่เธอมาฝึกงานที่นี่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้มานั่งทานอาหารที่นี่เลยสักค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status