共有

ตอนที่ 3

last update 最終更新日: 2025-09-25 14:42:55

“เจ้าบอกว่าข้าพลัดตกน้ำ…อย่างนั้นหรือ?” เสียงของเนี่ยฮุ่ยเฟยเอ่ยขึ้นเบา ๆ แต่เฉียบคม ในขณะที่มองตรงไปยังสาวใช้คนสนิทนามว่า “เสี่ยวจู” เด็กสาววัยราวสิบหกผู้เติบโตมากับนางมาตั้งแต่ยังเล็ก

 

เสี่ยวจูสะดุ้งเฮือก สีหน้าละล้าละลัง

“ขะ…ขออภัยเจ้าค่ะคุณหนู ข้าน้อย…ข้าไม่กล้าบอกความจริง…ข้ากลัว…” นางทำท่าจะคุกเข่า

 

เนี่ยฮุ่ยเฟยยื่นมือขึ้นห้ามไว้ สีหน้านิ่งสนิท

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ผิด ข้าเพียงต้องการความจริง ข้าจำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งสายตาของเขา…ที่ยืนมองข้าโดยไม่แม้แต่จะเอื้อมมือมาช่วย” น้ำเสียงของนางแผ่วเบา แต่ทุกถ้อยคำเฉียบคมดังใบมีด

 

“ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เสี่ยวจู เจ้าจงเป็นหูเป็นตาให้ข้า…ฟังทุกคำที่พวกเขาพูด ข้าต้องการรู้ทุกเรื่องของจวนนี้”

 

เสี่ยวจูเงยหน้าขึ้นช้า ๆ มองคุณหนูของตนด้วยแววตาไม่เชื่อสายตา

 

“คุณหนู ท่าน…ท่านดูไม่เหมือนเดิมเลยเจ้าค่ะ”

 

เนี่ยฮุ่ยเฟยเพียงยิ้มมุมปากเล็กน้อย “เพราะข้าตายไปครั้งหนึ่ง และต่อไป ข้าจะทำให้ทุกคนรู้ว่า ‘เนี่ยฮุ่ยเฟย’ ที่เขาเคยเหยียบย่ำคนนั้น ได้ตายจากไปแล้วจริง ๆ”

 

 

อีกสองวันถัดมา ขณะที่อากาศยังเย็นจัดเพราะฝนยามเช้าตกโปรยลงมา กลิ่นหอมของบัวหิมะนึ่งน้ำผึ้งกับยำดอกเหมยหมักซอสถั่วเหลืองกลับลอยอบอวลออกมาจากเรือนครัว บ่าวไพร่จำนวนหนึ่งยืนมุงดูอย่างประหลาดใจ

 

“ใครทำ?” เสียงผู้ดูแลครัวเอ่ยขึ้นอย่างเหลือเชื่อ

 

หญิงสาวในชุดผ้าไหมเรียบง่ายคนหนึ่งกำลังนึ่งซี่โครงย่างน้ำแดงอยู่ด้วยท่วงท่าคล่องแคล่ว กลิ่นที่ลอยออกมานั้นเข้มข้นเกินจะมองข้าม

 

“คุณหนูใหญ่?”

 

เมื่อเสียงร่ำลือว่า คุณหนูใหญ่แห่งจวนเนี่ยลงครัวเองไปถึงหูของ ฟู่ซื่อ นางถึงกับเอ่ยดูแคลนลูกเลี้ยงของตนทันที

 

“หึ…คิดจะทำให้ข้าขายหน้าในวันไหว้บรรพชนงั้นหรือ?” ก่อนจะออกคำสั่งเรียกบ่าวคนสนิทมาทันที

 

“ให้คนไปดูว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ หากลงมือในครัวจริง ๆ …ก็ปล่อยให้นางทำ ข้าจะรอดูว่าสิ่งที่นางทำจะดีพอให้บิดาของนางใส่ใจหรือไม่”

 

วันพิธีมาถึงเร็วเกินคาด ท่ามกลางโต๊ะเครื่องเซ่นหลายสิบโต๊ะจากเรือนต่าง ๆ ในจวน มีเพียงโต๊ะเล็กด้านหลังที่จัดโดยเนี่ยฮุ่ยเฟยซึ่งเดิมทีไม่มีใครใส่ใจ

ทว่าเมื่อลมพัดมากลิ่นซี่โครงหมูย่างน้ำแดงร้อน ๆ สีทองประกายเคลือบหนา บรรดาญาติผู้น้อยต่างก็หันมองเป็นสายเดียวกัน

“กลิ่นอะไรน่ะ? ใครทำ?”

“จากโต๊ะของคุณหนูใหญ่…เจ้าค่ะ”

ฟู่ซื่อขมวดคิ้ว ทว่าเนี่ยหย่งซาน…บิดาของนาง กลับชะงักเมื่อได้กลิ่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสายตาคู่นั้นซึ่งเคยไม่สนใจลูกสาวคนโตเลยสักนิด กลับสั่นไหวเล็กน้อยแต่เพียงแวบเดียวก็เลือนหายไป

คืนยามจื่อ (23.00–00.59 น.)

 

ภายในห้องเรือนหลังซ้ายที่มืดสนิท มีเพียงแสงตะเกียงน้ำมันหนึ่งดวงวางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ แสงไหวริบหรี่ตามแรงลมที่ลอดช่องหน้าต่างแม้จะรู้ว่าบัดนี้ตนเองจะต้องใช้ชีวิตในโลกใบใหม่นี้ ทว่านางก็ยังไม่มั่นใจว่าตนเองจะเดินไปในทิศทางใด

 

 

 

สองวันต่อมา

 

เสียงกลองยามเช้าจากหน้าประตูใหญ่ของจวนเนี่ยดังขึ้นหนึ่งระลอก ตามด้วยเสียงบ่าวสาวเร่งรีบปัดกวาด ล้างลาน เดินขวักไขว่ประหนึ่งมีเหตุสำคัญ และนั่นคือความจริงวันนี้เป็นวันเกิดปีที่ห้าสิบของท่านอาจารย์หลัวฉางไท่ ขุนนางในราชสำนักผู้เป็นทั้งสหายเก่าและผู้มีพระคุณของบิดา

บิดาของนางจึงจัดงานเลี้ยงรับรองแขกสำคัญจากทั่วเมือง ณ ศาลาหลักของจวนตระกูลเนี่ย

 

ที่เรือนพักของนางเสี่ยวจูเดินเข้ามาพร้อมกับห่อผ้า

 

“คุณหนู ฮูหยิน ส่งชุดไปให้เจ้าค่ะ บอกว่า…เป็นของขวัญสำหรับงานเลี้ยงวันนี้เจ้าค่ะ ” เสี่ยวจูเปิดผ้าห่ออย่างระมัดระวัง เผยให้เห็นผ้าไหมบางละเอียดสีชมพูอ่อน ปักลายดอกเหมยบานด้วยด้ายทอง

 

เนี่ยฮุ่ยเฟยมองเพียงครู่ก่อนถอนหายใจบาง ฟู่ซื่อ…เจ้ายังคิดว่าข้าโง่พอจะรับไมตรีจากผู้วางยาฆ่าแม่ตัวเองได้อีกหรือ

 

นางกล่าวเสียงเรียบ “เผามันซะ”

 

“คุณหนู…” แม้ว่าเสี่ยวจูจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้านายของตนเองกระทำ แต่นางก็ทำตามคำสั่งแต่โดยดี

 

 

และเมื่อถึงเวลาเนี่ยฮุ่ยเฟยปรากฏกายในชุดผ้าไหมแท้สีม่วงอมน้ำเงิน ประดับลายดอกมู่ตานสีฟ้าบนชายเสื้อ ชุดซึ่งเคยเป็นของมารดานาง อดีตฮูหยินเอกผู้ล่วงลับ

 

เมื่อนางก้าวเข้าศาลา แขกในงานพลันหันมอง ทั้งเพราะความงามของชุดและสายตาแน่วแน่ที่ไม่หวั่นไหว

 

แม้แต่ “ฟู่ซื่อ” ผู้ยืนอยู่กลางศาลาด้านในก็ต้องชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะแย้มยิ้มแผ่ว พูดคุยกับบรรดาแขกที่มาร่วมงานต่อไป

 

ในระหว่างงานเลี้ยง แขกมากหน้าหลายตาต่างกล่าวชมเรื่องความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลเนี่ย พลางจิบสุราอุ่นในถ้วยหยก แต่ในจังหวะที่สายลมพัดแรงจนม่านผ้าไหววูบขึ้นนั้น ร่างหนึ่งปรากฏตรงทางเดินด้านหลังศาลา

 

ชายหนุ่มผู้สวมชุดคลุมสีดำสนิท คลุมหน้าไว้ด้วยผ้าพันบาง เผยเพียงดวงตาเรียวลึกเย็นชา เขาก้าวเข้ามาช้า ๆ และโค้งคำนับต่อหน้า อาจารย์หลัวและ เนี่ยหย่งซาน

 

 

 

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่13

    เมื่อฟ้าเช้าเริ่มปรากฏแสงแดดแรกของวัน หลิงเซ่าเทียนเดินออกจากวังหลวงโดยไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร มีเพียงร่องรอยรองเท้าบนฝุ่นบาง ๆ ที่ลานหิน และเงาของเขาที่ทอดยาวไกล เขาหยิบตราลับเล็กอีกดวงจากอกเสื้อ เป็นตราที่ราชเลขามอบให้เขาโดยเฉพาะตราที่ให้สิทธิ์ “ปิดเมือง สอบสวน และควบคุมผู้ต้องสงสัย” ได้โดยตรงในอำนาจของราชเลขาหวังจิ่นข่าย “ถึงเวลาตอบแทนความยุติธรรม…ของท่านพ่อแล้ว” เรือนเล็กของเนี่ยฮุ่ยเฟยนั่งอยู่กลางสวนหลังเรือน นางกำลังวาดภาพเหมือนของมารดาตามความทรงจำ ในใจเต็มไปด้วยความกังวล หลังข่าวลือเรื่องขบถเงาเริ่มแทรกซึมสังคมสาวใช้คนสนิทวิ่งเข้ามา สีหน้าเคร่งเครียด “คุณหนูเจ้าคะ! มีคนแปลกหน้าป้วนเปี้ยนแถวเรือนตั้งแต่เช้า! ข้าคิดว่า…พวกเขาไม่ใช่คนของจวน!” เนี่ยฮุ่ยเฟยหยุดมือที่กำลังแตะปลายพู่กันสายตาแปรเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “นั่นแสดงว่า…ฟู่ซื่อเริ่มลงมือแล้ว

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 12

    คลิก… ฝากล่องเปิดออกภายในมีม้วนผ้าไหมยาวหลายผืน จดหมายที่ถูกพับอย่างบรรจง และ “เหรียญประจำตระกูล” ซึ่งหายไปนานนับสิบปี นางค่อย ๆ หยิบจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นลายมือมารดาชัดเจน และเปื้อนรอยน้ำตาเก่า ๆ นางอ่านเบา ๆ ในจดหมาย มารดานางเขียนถึง ภัยที่ใกล้เข้ามาในวันนั้นกล่าวถึง “ขุนนางบางคน” ที่มีความเกี่ยวพันกับฟู่ซื่อ และการยักยอกเงินหลวงผ่านกิจการในนามร้านเล็ก ๆ มารดานางพยายามจะเปิดโปง แต่ถูกสั่งปิดปากอย่างเลือดเย็นหลิงเซ่าเทียนเงียบอยู่นาน ก่อนพูดช้า ๆ “นี่…คือหลักฐานที่ท่านพ่อของข้า เคยตามหา และเป็นหลักฐาน…ที่อาจโค่นทั้งฟู่ซื่อและตระกูลเนี่ยพร้อมกันได้” แววตาของฮุ่ยเฟยในยามนั้น…ไม่ใช่สายตาของคุณหนูผู้เคยถูกทอดทิ้งอีกต่อไปแต่มันคือดวงตาของคนที่ตื่นขึ้นจากเงามืดพร้อมจะยืนอยู่กลางแสงอย่างไม่กลัวสิ่งใด “ข้าจะไม่ถอยอีกต่อไป…ไม่ว่าใครจะต้องล้มไปกับความจริงนี้ก็ตาม”

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 11

    อีกด้านของเมืองนั้น ภายในห้องหนังสือของหลิงเซ่าเทียน แสงจากตะเกียงส่องลงบนแผนที่และสมุดบัญชีเก่า ๆ บ่าวคนสนิทของเขารายงานด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ “นายท่าน ร้านเก่าของฮูหยินเนี่ยถูกลอบวางเพลิง!” หลิงเซ่าเทียนเงยหน้าขึ้นทันทีแววตาเยือกเย็นวูบผ่าน ก่อนเขาจะลุกขึ้น “พวกมันเริ่มแล้ว….ไปเตรียมรถม้า ข้าจะไปพบกับฮุ่ยเฟยในคืนนี้” ในยามที่ทุกสิ่งเคลื่อนไหวในเงามืดความลับของอดีต คำมั่นในปัจจุบัน และเงาแค้นของอนาคต…กำลังเริ่มปะทะกันอย่างเงียบงัน เสียงฝีเท้าบนลานกรวดเงียบเชียบ หากมั่นคงบ่าวคนสนิทของหลิงเซ่าเทียนเดินมาหยุดที่ข้างหน้าต่าง โบกมือเบา ๆ ส่งสัญญาณ ไม่นานนัก เงาร่างสูงสง่าก็ข้ามกำแพงเข้าสู่เรือนอย่างไร้สุ้มเสียงสายตาเขาเหลือบมองความมืดรอบข้างก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องแคบ ๆ ที่แสงตะเกียงยังคงส่องสลัว เนี่ยฮุ่ยเฟยนั่งรออยู่แล้ว ราวกับรู้ว่าเขาจะมาสีหน้าแม้เคร่งขรึม แต่ดวงตายังคงเยือกเย็นอย่างควบคุม

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 10

    เนี่ยฮุ่ยเฟยสบตาเขานางเห็นแววจริงใจในดวงตานั้นแต่ก็ยังไม่ละความระแวดระวัง “ข้าไม่เข้าใจ…เหตุใดท่านจึงต้องช่วยเหลือข้า” หลิงเซ่าเทียนวางถ้วยชาลงเงียบไปนาน ก่อนตอบช้า ๆ “ในสายตาคนนอก เจ้าอาจเป็นเพียงคุณหนูตกอับของจวนตระกูลเนี่ย แต่ข้า…เห็นเจ้ายืนหยัดด้วยตัวเองมาตลอด ไม่แม้แต่จะยอมจำนนต่อโชคชะตา” เสียงเขาชะงักเล็กน้อยก่อนพูดคำที่ทำให้นางแทบลืมหายใจ “และที่สำคัญ…ข้าเป็นหนี้คนผู้หนึ่ง ซึ่งเกี่ยวพันกับท่าน” ดวงตาของฮุ่ยเฟยเบิกขึ้น “หนี้? ท่านหมายถึงใครกัน…” หลิงเซ่าเทียนสบตานางใบหน้าเขาเคร่งขรึมแต่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยน “ฮูหยินเอกแห่งตระกูลเนี่ย มารดาของเจ้า” มือที่ถือถ้วยชากระชับแน่นขึ้นเล็กน้อยหัวใจเต้นถี่…คล้ายกลัวความจริงที่รออยู่เบื้องหน้านางเงยหน้าขึ้นช้า ๆ เสียงที่เปล่งออกมาแม้เบา แต่ชัดเจนและมั่นคง “ท่านแม่ของข้า นางเกี่ยวข้องอะไรกับท่

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 9

    เนี่ยฮุ่ยเฟยหยุดอยู่หน้าร้านหนึ่งมองแผ่นป้ายไม้ที่จางไปตามกาลเวลาร้านนั้นคือ “ร้านผ้าเมฆา” ร้านผ้าที่เคยเป็นของมารดาตนเนี่ยฮุ่ยเฟยมองป้ายร้านอยู่นาน ดวงตาที่ปกติแน่วแน่นั้นสั่นระริกเพียงครู่ จากนั้นจึงหันหลังเดินต่อ โดยมุ่งหน้าไปยังตรอกด้านหลังตลาด จากนั้นซูอวี้ก้เดินตามนางไปซูอี้มองซ้ายขวาอย่างระมัดระวังตรอกนี้เป็นทางเชื่อมระหว่างตลาดกับโรงเตี๊ยมเมิ่งหลิ่วชุนจังหวะที่นางแทรกตัวเข้าไป ทันใดนั้น…เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นด้านหลัง เร็ว และมั่นคงจนผิดสังเกตซูอี้ขมวดคิ้ว รีบหมุนตัวกลับกลับพบเพียงบุรุษในชุดดำ สวมหมวกบังหน้า เดินสวนผ่านเธอไปเงียบ ๆ แต่สัมผัสบางอย่างไม่ถูกต้องกลิ่นยาสมุนไพรจาง ๆ กับแรงกดดันจากแววตาผู้ผ่านไปนั้นทำให้หลังของซูอี้เย็นวาบหลิงเซ่าเทียนยืนมองออกไปจากหน้าต่างเขาสวมเสื้อคลุมสีเข้ม ผ้าคาดเอวหรูหราแต่ไม่อวดอ้างในมือนั้นถือพัดไม้ไผ่ปักชื่อ ‘เมิ่งหลิ่วชุน’ อย่างอ่อนช้อย ข้างหลังเขา คือชายวัยกลางคนในชุดทหารปลอมตัว “จินซาน” อดีตองครักษ์ประจำตระกูลหลิง“สาวใช้นั่นใช่คนของฟู่ซื่อหรือไม่?” หลิงเซ่าเทียนถามโดยไม่หันกลับมา“ใช่ขอรับ ข้าสืบพบว่าเรียกชื่อว่าซูอี้ สนิทกับฮู

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 8

    ยามสาย แสงแดดอ่อนลอดผ่านม่านโปร่งที่ไหวตามลม ภายในเรือนของ “ฟู่ซื่อ” กลิ่นธูปหอมอบอวล ปะปนกับกลิ่นชาดอกเหมยหญิงผู้ครองตำแหน่ง “ฮูหยินเอกคนปัจจุบัน” นั่งประณีตอยู่บนอาสนะไม้ลายกลีบบัวงดงามดุจสตรีผู้สูงศักดิ์ หากแต่ในแววตากลับมีเงาของความไม่พอใจแฝงอยู่สาวใช้ที่ไว้ใจได้ “ชุนผิง” เดินเข้ามาคุกเข่าแล้วก้มหน้ารายงานเบา ๆ“อูหยินเจ้าคะ…บ่าวกลับจากตลาดแล้ว แต่…เรื่องที่สั่งเกี่ยวกับคุณหนูใหญ่…”ฟู่ซื่อเอียงศีรษะเล็กน้อย “ว่าอย่างไร? คนในตลาดว่าอะไรบ้าง”“…ขออภัยเจ้าค่ะ ไม่มีใครกล่าวถึงอีกเลย”มือที่กำลังถือถ้วยชาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะวางลงช้า ๆ“ไม่มีเลย? หมายความว่าอย่างไร…”“เมื่อคืนตลาดปิดเร็วกว่าปกติหลายร้าน แม่ค้าบางคนที่เคยพูดถึงข่าวลือเรื่องคุณหนูใหญ่ ก็เงียบ ไม่กล้ากล่าวแม้คำเดียว แม้บ่าวจะลองจงใจถามนำเรื่อง ก็ถูกปฏิเสธ หรือไม่ก็ถูกเมินค่ะ”ฟู่ซื่อขมวดคิ้ว เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยเสียงต่ำ“แปลก…ข้าคิดว่าอย่างน้อยพวกชาวบ้านคงไม่หยุดพูดกันเร็วถึงเพียงนี้ หรือว่าผู้ใด…เข้าแทรกแซง?”“ชุนผิง เจ้าเคยได้ยินชื่อของผู้ใดที่มีผู้คนกล่าวถึงในตลาดเร็ว ๆ นี้บ้างหรือไม่?”ชุนผิงเงยหน้าช้า ๆ คล้ายล

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status