LOGINหย่วนเฉินปล่อยให้ตู้ชิงชิงนอนหลับภายในตำหนัก ส่วนตัวเขาออกมาภายนอกด้วยใบหน้าสดใส ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
หลั่งน้ำไปเยอะรู้สึกได้ปลดปล่อย เขาจึงออกมาเดินเล่น แล้วค่อยกลับไปเข้าฌานอีกครั้ง
เมื่อถึงสวนหย่อมข้างตำหนัก เขาก็พบกับเทพเต๋ออัน ผู้ซึ่งเป็นเทพข้างกายเทียนจวินกำลังพูดคุยอยู่กับเทพธิดาซิงเหวิน
ครั้นได้ยินเสียงเดินเข้าไปใกล้ ทั้งเต๋ออันและซิงเหวินต่างก็หันมองหย่วนเฉินพร้อมกัน
“ข้าก็คิดว่าเจ้าละกิเลสได้แล้ว ที่ไหนได้” เต๋ออันอมยิ้มพลางกล่าวหยอกเย้าหย่วนเฉิน
ซิงเหวินอมยิ้มเช่นเดียวกัน “ข้าก็คิดไม่ถึงว่าท่านเทพหย่วนเฉินผู้ปฏิเสธนางเซียนเกือบทั้งสวรรค์กลับเลือกผีสาวร่วมเตียงโดยไม่อายผู้ใด”
“เจ้าเป็นสตรี ใยถึงพูดแบบนี้” หย่วนเฉินถลึงตาใส่คนทั้งสอง
“ข้ามีอายุหลายพันปี เหตุใดถึงต้องอายด้วย” ซิงเหวินตอบแล้วหันหน้าเข้าหาเต๋ออัน
“เอ๊ะ ตอนนี้ฝั่งทะเลบูรพามีไอสวรรค์พิสุทธิ์จำนวนมาก หากมนุษย์หรือภูตผีที่มีกายเนื้อสูดกลืนอย่างต่อเนื่อง ก็จะสร้างกายทิพย์เป็นเซียนได้”
เต๋ออันพยักหน้า แล้วส่งเสียง “อ่อ อ่อ อ่อ จริงด้วย ข้าลืมไปได้อย่างไรเนี่ย พอมีกายทิพย์แล้ว ก็แช่น้ำอมฤตสามวันสามคืน ฝึกบำเพ็ญตบะก็ได้เป็นเซียนที่แท้จริง”
หย่วนเฉินเดิมที่มองหน้าทั้งสองพูดคุยกันโดยไม่สนใจตนเองก็รู้สึกหงุดหงิด แต่เมื่อได้ยินเรื่องที่พวกเขาพูดคุยกัน เขาก็ครุ่นคิดชั่วครู่ จากนั้นก็หันหลังกลับตำหนัก
“พวกเจ้ามานี่” เขาตะโกนเรียกบริวารหนุ่มเมื่อถึงหน้าประตูตำหนัก
ชิงสวินกับมู่จวินเหลือบมองสบตากัน ก่อนรีบเดินไปหาอย่างนอบน้อม
“ท่านเทพมีอะไรให้ข้ารับใช้หรือขอรับ”
“ข้าจะไม่อยู่สักพัก พวกเจ้าจงดูแลตำหนักให้ดี เอ่อ ดูเทพซิงเหวินกับแม่นางตู้ชิงชิงด้วยล่ะ” หย่วนเฉินพูดถึงชื่อของตู้ชิงชิงพลางหลบสายตาของบุรุษทั้งสองที่จ้องมองตน
“อ่อ นางชื่อตู้ชิงชิงนี่เอง” ชิงสวินเอ่ย แววตาเผยถึงความเจ้าเล่ห์ออกมา
“แม้ข้าจะไม่ชอบสตรี พวกนางค่อนข้างน่ารำคาญ แต่แม่นางตู้ อืม นางดูเรียบร้อย ข้าไม่ได้อคติอะไรกับนาง ทั้งนางก็ไม่ได้เสียงแหลม เสียงของนางก็ไพเราะยิ่งนัก” มู่จวินรีบพูดประจบเอาใจ สตรีที่ร่วมเตียงกับมหาเทพ ไหนเลยจะละเลยได้
“อืม” หย่วนเฉินตอบ “ข้าไปทำธุระก่อนล่ะ” เขายกขากำลังจะก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ดวงตาหงส์ก็เปล่งประกายประหลาดราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาจึงชะงักฝีเท้าแล้วหายตัวในพริบตา
“อีกแล้ว” มู่จวินยกไหล่ก่อนส่งสายตาให้ชิงสวิน “ข้าไปห้องตำรานะ” พูดจบก็เดินจากไปเหมือนไม่สนใจเจ้านายตนเอง
......
ตำหนักหลัง
หย่วนเฉินปรากฏกายเป็นเพียงรูปเงาจางๆ ในตำหนัก เขาไม่ต้องการให้ตู้ชิงชิงมองเห็นตนเองให้ตอนนี้ เพราะกลัวว่าหากนางเดินมาหาแล้วจะอดใจไม่ไหว
บุรุษยกนิ้วเรียวของตนเองขึ้น สะบัดปลายนิ้วเล็กน้อยก็มีแสงสีทองออกมาจากปลายนิ้วพุ่งเข้าสู่หลังมือของตู้ชิงชิง
นี่คือจิตแยกสายหนึ่งของเขา เอาไว้ปกป้องตู้ชิงชิง ที่สำคัญคือคอยดูกิจวัตรประจำวันของนาง
เผื่อนางจะทำเรื่องเหลวไหลตอนที่เขาไม่อยู่
เมื่อหย่วนเฉินทำธุระนี้เสร็จแล้วจึงวางใจทิ้งให้ตู้ชิงชิงอยู่ภายในตำหนักหลังคนเดียว
....
ทะเลบูรพา
หย่วนเฉินเดินทางมาถึงทะเลบูรพาในเวลาอันรวดเร็ว เขาลอยอยู่เหนือผืนน้ำทะเล ปล่อยขวดหยกขนาดเท่าฝ่ามือให้ออกมาดูดไอสวรรค์พิสุทธิ์เข้าไปจำนวนมาก
“ท่านเทพขอรับ”
เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้น หย่วนเฉินหันมองตามเสียงก็พบว่าเป็นทหารดูแลฝั่งทะเลบูรพา
“มีสิ่งใดหรือ” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม
“ท่านเทพนำขวดหยกมาดูดเอาไอสวรรค์พิสุทธิ์จำนวนมากเช่นนี้ ท่านอ๋องจึงเรียนเชิญไปพบขอรับ”
“ท่านอ๋อง เจ้าทะเลตงไห่อย่างนั้นหรือ ได้ นำทางไป” เขาสะบัดแขนเสื้อ ขวดหยกใบเล็กถูกเก็บอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตามทหารผู้นั้นไปด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย
....
ตำหนักใต้ทะเลบูรพา
เจ้าทะเลตงไห่รอต้อนรับหย่วนเฉินด้วยใบหน้าแจ่มใส เมื่อหย่วนเฉินเดินเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่ เขาก็ผายมือเชื้อเชิญให้มานั่งยังโต๊ะรับรองด้านหน้า
“ท่านเทพหย่วนเฉิน เชิญนั่งๆ” เจ้าทะเลตงไห่เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม
หย่วนเฉินก้มหน้าเล็กน้อย ก้าวเท้ายาวไปนั่งเก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ “ไม่ทราบว่าท่านอ๋อง เจ้าแห่งทะเลตงไห่เชิญข้ามามีเรื่องอันใดหรือ”
“เอ่อ เรียนท่านเทพไม่อ้อมค้อม” เจ้าทะเลตงไห่เริ่มเอ่ยปาก “ธิดาของข้าเพิ่งกลับมาจากการฝ่าด่านเคราะห์บนโลกมนุษย์ หลังกลับมาแล้วนางก็เหมือนจะซึมเศร้า ข้าเลยอยากให้ท่านเทพช่วยรับนางไปเป็นแขกพำนักบนสวรรค์สักพักได้หรือไม่ เผื่อนางจะอารมณ์ดีขึ้น”
เจ้าทะเลตงไห่สังเกตสีหน้าของหย่วนเฉิน เมื่อเห็นเขาเม้มริมฝีปาก ก็กล่าวต่อ “หากท่านเทพช่วยเหลือ ข้าจะให้ไอสวรรค์พิสุทธิ์ชั้นยอดให้แก่ท่าน อีกทั้งท่านเทพสามารถเลือกได้ว่าต้องการสิ่งใดเพิ่ม”
ได้ยินดังนั้น จากเดิมที่หย่วนเฉินจะปฏิเสธก็ถามกลับโดยพลัน “ท่านมีน้ำอมฤตจากทะเลสาบซีหูหรือไม่”
“น้ำอมฤตทะเลสาบซีหูที่อยู่ใจกลางเกาะตงหนานฟางใช่หรือไม่ มีๆ หากท่านเทพอยากได้ข้าจะให้คนนำมาให้เดี๋ยวนี้”
หย่วนเฉินพยักหน้าตอบตกลงทันที ตอนนี้ตำหนักเขามีเทพซิงเหวินพำนักอยู่ จะเพิ่มสตรีอีกนางก็คงไม่เสียหายไปมากกว่านี้
อีกประการ หากได้ทั้งไอสวรรค์พิสุทธิ์ชั้นยอดมาเพิ่ม ทั้งยังมีน้ำอมฤตจากทะเลสาบซีหู การที่ตู้ชิงชิงจะมีร่างกายดั่งเทพเซียนก็คงใช้เวลาไม่นาน
ประหยัดเวลาได้เยอะทีเดียว
“เช่นนั้นก็ได้” หย่วนเฉินตอบพลางลุกขึ้นยืน “เชิญบุตรสาวของท่านมาได้เลย ข้าจะกลับสวรรค์แล้ว”
......
สวรรค์ชั้นฟ้า
ตำหนักไห่ถัง
ช่วงเวลาที่หย่วนเฉินไม่อยู่ตำหนัก นางเซียนเมี่ยวเจินกับนางเซียนเฟิ่งโหรวก็กลับไปร้องห่มร้องไห้กับฮองเฮาแดนสวรรรค์ เนื่องจากหย่วนเฉินมีศักดิ์เป็นหลานของเทียนจวิน เขาจึงนับถือฮองเฮาราวกับเป็นญาติผู้หนึ่งของตน
“ไม่น่าเชื่อว่าหย่วนเฉินจะมีกิเลสไม่ต่างจากมนุษย์” ฮองเฮาสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “หากพวกเจ้าไม่สามารถมัดใจหย่วนเฉินได้นั่นก็หมายความว่าไม่มีวาสนากับเขา”
“แต่ฮองเฮาเพคะ สตรีที่ท่านเทพหย่วนเฉินร่วมบำเพ็ญด้วยไม่ใช่เทพเซียนอย่างพวกเรา จะให้มาเป็นชายาไม่ได้นะเพคะ” เมี่ยวเจินรีบพูดอย่างร้อนรน
“พอเถอะ เรื่องนี้ข้าจะตรวจสอบเอง หากไม่เหมาะสมข้าจะแจ้งเทียนจวิน พวกเจ้าไปได้แล้ว”
“เพคะ” เมี่ยวเจินกับเฟิ่งโหรวก้มหน้ายอบกายคารวะฮองเฮา เมื่อพวกนางออกมานอกตำหนักไห่ถัง มองเห็นสายตาของเทพองค์อื่นๆ ก็เดินเข้าไปพลางพูดคุยกระซิบกระซาบทันที
ในเมื่อจัดการเองไม่ได้ ก็ปล่อยข่าวให้กระจายไปทั่วสวรรค์ชั้นฟ้า สตรีต่ำต้อยอย่างตู้ชิงชิงไหนเลยจะอาจหาญกล้าเป็นชายาของเทพหย่วนเฉิน
......
ตำหนักเทพหย่วนเฉิน
หลังจากที่ข่าวแพร่สะพัด ก็มีเทพจำนวนมากผ่านไปมาหน้าตำหนักของหย่วนเฉิน พวกเขาต่างชะเง้อมองหมายจะเห็นหน้าของตู้ชิงชิง บางคนถึงกับใจกล้าเดินเข้ามาภายในตำหนักตอนที่ชิงสวินกับมู่จวินไม่ได้เฝ้าอยู่แถวหน้าประตู
“แม่นางผู้นั้นน่าจะอยู่ตำหนักใหญ่หรือเปล่า” เทพเจินหลาน บุรุษร่างสูงพูดกับเทพถูเชวี่ย บุรุษรูปร่างเล็กกว่าทว่าสง่างามไม่แพ้กัน
“เจ้านี่นะ อยากรู้ไม่เข้าเรื่อง ถ้าหย่วนเฉินรู้เข้าคงโกรธแน่นอน” เทพถูเชวี่ยบ่น แต่ก็เดินตามติดเทพเจินหลานอย่างไม่ลดละ
“นั่นๆ จะใช่สตรีผู้นั้นไหมนะ” เทพเจินหลานชี้นิ้วไปยังห้องหนึ่ง เขารีบเดินไปผลักประตูห้องด้วยความรวดเร็ว
แต่เมื่อประตูห้องนั้นถูกเปิดออก เขากลับถูกผลักโดยมือที่มองไม่เห็นจนกระเด็นไกลหลายตลบ
“โอ้ย” เจินหลานร้องเสียงดัง เขาทั้งเจ็บและตกใจ เมื่อสายตามองไปยังประตูก็พบว่าถูเชวี่ยก็กระเด็นลอยมาตามกัน
“ใครกันถีบข้า” ถูเชวี่ยส่งเสียงไม่พอใจ
“ออกไป” น้ำเสียงหงุดหงิดโมโหดังขึ้นข้างหูเทพเซียนทั้งสอง ทั้งเจินหลานและถูเชวี่ยจำได้ว่าเป็นเสียงของหย่วนเฉิน พวกเขามองหน้ากันแล้วจ้ำอ้าวกลับไปอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่า แม้หย่วนเฉินไม่อยู่ แต่ก็ยังแบ่งจิตเทพไว้ที่ตำหนัก หากร่างหลักกลับมาแล้วพบว่าพวกเขาทั้งสองเข้ามาโดยพละการคงสั่งสอนพวกเขาหนักกว่านี้
ดีไม่ดีอาจจะลงมือเหี้ยมโหดกว่าผลักและถีบก็เป็นได้
คิดดังนั้นบุรุษทั้งสองจึงไม่รีรอ พากันกลับทันที
......
“นั่นใคร” ตู้ชิงชิงที่กำลังเปลือยกายแช่น้ำในสระตะโกนถามพลางมุดตัวจนศีรษะจมอยู่ใต้น้ำ
นางรู้สึกเบื่อจึงเข้ามาแช่น้ำในห้องอาบน้ำของหย่วนเฉิน คิดไม่ถึงว่าประตูจะถูกเปิดออกอย่างกะทันหัน
เอี๊ยด ปึง !
เสียงประตูถูกปิดอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว ตามมาด้วยร่างลางเลือนของหย่วนเฉินปรากฏกายขึ้น
เงาของจิตแยกนั่นเอง !
“เจ้านี่ร้ายกาจนักนะ ข้าไม่อยู่ก็อ่อยบุรุษไปทั่ว” ร่างลางเลือนพูดคล้ายบ่นพึมพำในลำคอ
ตู้ชิงชิงได้ยินเสียงของเขาก็โผล่ศีรษะขึ้นมาจากน้ำ ตอบกลับด้วยอารมณ์ขุ่นมัว “ข้าแช่น้ำอยู่ดีๆ จะไปอ่อยผู้ใดได้ ทำอย่างกับว่าข้าจะมีฌานรู้ล่วงหน้าว่าจะมีคนเปิดประตูเข้ามา”
“อย่างน้อยเจ้าก็กำลังล่อลวงข้าอยู่” เงาร่างลางเลือนจ้องมองร่างอวบอิ่มของตู้ชิงชิงที่ยืนขึ้นเหนือน้ำจนเต้าอวบคู่ใหญ่อวดความงามสะพรั่ง
แม้เขาจะเป็นจิตแยกสายหนึ่ง แต่ก็มีความคิดและความรู้สึกของหย่วนเฉินอยู่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
ร่างสูงใหญ่จึงพุ่งเข้าไปหาตู้ชิงชิง ผลักนางให้นอนหงายอยู่ข้างสระ มือหนารวบแขนทั้งสองข้างของนางขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนที่จะก้มหน้าซุกจมูกลงตรงร่องอกอวบแล้วแลบลิ้นเลียอย่างอดใจไม่อยู่
ตำหนักใหญ่ โถงรับรองสตรีนางหนึ่งมองกาน้ำชาและขนมในจานที่ตั้งบนโต๊ะด้านหน้าตนหลายครั้ง “ข้ากินจนอิ่มแล้วอิ่มอีก ท่านเทพหย่วนเฉินไปไหนหรือ”“เทพธิดาอย่าร้อนใจไป ท่านเทพแค่เอ่อ อยู่กับสตรีของตนเท่านั้น” ชิงสวินตอบน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อครู่เขาเดินผ่านหน้าห้องสรงน้ำ ได้ยินเสียงร้องครางของบุรุษสตรีสลับไปมาไม่ต้องเดาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของผู้ใด“สตรีอย่างนั้นหรือ ไหนว่าท่านเทพยังไม่มีคู่บำเพ็ญเพียร” สตรีเอ่ยถามด้วยใบหน้าตกใจ“ตอนนี้ยังไม่มีสถานะ แต่อีกไม่นานคงมี” มู่จวินเดินเข้ามาพอดีจึงตอบคำถามนี้“ข้ารักของข้ามานาน เป็นแบบนี้ได้อย่างไร” สตรีบ่นพึมพำเสียงเบาจนไม่มีผู้ใดได้ยิน สายตามองไปยังประตูทางเข้าด้วยความหวังผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม หย่วนเฉินก็เดินเข้ามาพร้อมกับเทพเต๋ออันและนางเซียนซิงเหวิน“ข้าเห็นความสัมพันธ์ของเจ้ากับแม่นางตู้ก็พลันนึกขึ้นได้ว่า ข้าเองอายุก็ไม่น้อยแล้ว ควรมีคู่บำเพ็ญเพียรบ้าง เลยตกลงกับซิงเหวินไว้ว่าจะอยู่ร่วมกัน” เต๋ออันพูดกับหย่วนเฉินสีหน้าสดใสทว่าซิงเหวินกลับสีหน้าเรียบเฉย นางมองเต๋ออันแล้วพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย “เจ้าก็ไม่ใช่เด็กแล้ว มีอายุหลายพันปี ยังจ
ลิ้นร้ายเลียลงร่องนมจนชุ่มชื้น จากนั้นก็ตวัดไปยังติ่งนูนสีชมพูเนื้อทั้งสองข้าง ปลายลิ้นฉกรวดเร็วเหมือนงู ตวัดเลียดุจลูกสุนัข ริมฝีปากดูดเม้มดั่งทารกแรกคลอด“อื้อ อื้อ” ตู้ชิงชิงลมหายใจหอบถี่ แม้นางจะยังเป็นผีแต่ก็เริ่มรู้สึกเสียวซ่านที่หน้าอกและมวนหวิวในท้องน้อยราวกับมีผีเสื้อนับร้อยนับพันตัวบินวนไปมาอยู่ภายในแค่นางเริ่มต้นเสียว ร่องรักด้านล่างก็ถูกนิ้วยาวเรียวดันแทรกเข้าไป นิ้วเรียวแข็งนั้นแยงร่องที่คับแน่นเข้าๆ ออกๆ“ท่านมันระ ไร้ เหตุผล ที่ สุด”ตู้ชิงชิงข่มกลั้นความเสียวก่นด่าบุรุษออกมาทีละคำ ทว่าร่างแยกของหย่วนเฉินหาได้สนใจไม่ เขาจับต้นขาขาวยกสูงขึ้นพาดบ่าของตน ก่อนจะยัดแก่นกายใหญ่ยาวเข้าไปในร่องรักแทนนิ้วเรียวที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำใส“อื้ม คับแน่นดีมาก” หย่วนเฉินหลับตาซึมซับความรู้สึกถูกตอดรัดอย่างเต็มที่ เมื่ออยู่ในท่าทางที่คล่องตัว เขาก็เริ่มขยับเอวสอบตอกกระทุ้งแท่งหยกร้อนของตนรัวๆปัก ปัก ปัก ปักสตรีที่ไม่ได้ร่วมรักกับบุรุษมาพักใหญ่ ครั้นถูกกระแทกหนักๆ ถี่ ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอออกพร้อมกับส่งเสียงหวาน“อ้า”“รู้สึกดีหรือไม่” หย่วนเฉินยิ้มมุมปาก ดวง
หย่วนเฉินปล่อยให้ตู้ชิงชิงนอนหลับภายในตำหนัก ส่วนตัวเขาออกมาภายนอกด้วยใบหน้าสดใส ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าหลั่งน้ำไปเยอะรู้สึกได้ปลดปล่อย เขาจึงออกมาเดินเล่น แล้วค่อยกลับไปเข้าฌานอีกครั้ง เมื่อถึงสวนหย่อมข้างตำหนัก เขาก็พบกับเทพเต๋ออัน ผู้ซึ่งเป็นเทพข้างกายเทียนจวินกำลังพูดคุยอยู่กับเทพธิดาซิงเหวินครั้นได้ยินเสียงเดินเข้าไปใกล้ ทั้งเต๋ออันและซิงเหวินต่างก็หันมองหย่วนเฉินพร้อมกัน“ข้าก็คิดว่าเจ้าละกิเลสได้แล้ว ที่ไหนได้” เต๋ออันอมยิ้มพลางกล่าวหยอกเย้าหย่วนเฉินซิงเหวินอมยิ้มเช่นเดียวกัน “ข้าก็คิดไม่ถึงว่าท่านเทพหย่วนเฉินผู้ปฏิเสธนางเซียนเกือบทั้งสวรรค์กลับเลือกผีสาวร่วมเตียงโดยไม่อายผู้ใด”“เจ้าเป็นสตรี ใยถึงพูดแบบนี้” หย่วนเฉินถลึงตาใส่คนทั้งสอง“ข้ามีอายุหลายพันปี เหตุใดถึงต้องอายด้วย” ซิงเหวินตอบแล้วหันหน้าเข้าหาเต๋ออัน“เอ๊ะ ตอนนี้ฝั่งทะเลบูรพามีไอสวรรค์พิสุทธิ์จำนวนมาก หากมนุษย์หรือภูตผีที่มีกายเนื้อสูดกลืนอย่างต่อเนื่อง ก็จะสร้างกายทิพย์เป็นเซียนได้”เต๋ออันพยักหน้า แล้วส่งเสียง “อ่อ อ่อ อ่อ จริงด้วย ข้าลืมไปได้อย่างไรเนี่ย พอมีกายทิพย์แล้ว ก็แช่น้ำอมฤตสามวันสามคืน ฝึกบำเพ็
หน้าตำหนักหลักเทพธิดาเจินเมี่ยวกับเฟิ่งโหรวมาถึงก็พบซิงเหวินยืนดักอยู่ที่หน้าประตู นางได้ยินเสียงพูดคุยระหว่างสตรีทั้งสองกับมู่จวิน จึงรีบออกมายังตำหนักนี้“ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าทั้งสองจะมาดูแลหย่วนเฉินของข้า แต่คงต้องทำให้พวกเจ้าผิดหวังแล้ว หย่วนเฉินมีพวกข้าดูแลแล้ว” ซิงเหวินตอบน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาเปล่งประกายบางอย่าง“พวกข้า” เจินเมี่ยวขมวดคิ้วทวนคำของซิงเหวินซิงเหวินยกยิ้มริมฝีปากคล้ายกับเป็นสตรีร้ายกาจ นางผลักประตูตำหนัก เดินนำเข้าไปภายในไม่ไกลจากเตียงนอนนัก ที่เตียงถูกดึงผ้าม่านปิดทุกฝั่ง ทว่าก็ยังพอมองเห็นเงาร่างในนั้นหนึ่งเงาบุรุษนอนบนเตียง และอีกหนึ่งเงาสตรีนั่งทับส่วนล่างของบุรุษ พร้อมกับขยับร่างกายในท่วงท่าที่ชวนจินตนาการไปไกล“นางผู้นั้น เป็นใครกัน” เฟิ่งโหรวตกใจถามเสียงดัง“นางคือสตรีคนแรกของท่านเทพขอรับ” มู่จวินที่อยู่ข้างหลังมาตลอดเปิดปากตอบให้ทุกคนได้ยิน “นางปรนนิบัติตั้งแต่อยู่บนโลกมนุษย์ เมื่อเสด็จกลับสวรรค์ก็ยังพานางกลับมาด้วย”“แน่ใจนะ ดูเหมือนว่าฝ่ายชายจะนอนนิ่งๆ เสียมากกว่า หรือไม่ใช่เทพหย่วนเฉิน” เมี่ยวเจินมุ่นคิ้วสงสัย ไม่ทันที่ซิงเหวินจะทันขัดขวาง นางก็เด
ตำหนักเทพหย่วนเฉินบุรุษอาภรณ์ขาวปลอดกลับมาถึงตำหนัก เขาเข้าไปนั่งที่ตั่งของตนตามความเคยชิน จากนั้นจึงสะบัดแขนเสื้อปล่อยผีสาวที่เก็บกลับมาให้เป็นอิสระตรงหน้าตู้ชิงชิงออกมาด้วยความงุนงง นางกวาดสายตามองโดยรอบก่อนหันมองท่านเทพที่พานางมา ณ ที่แห่งนี้เมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน ตู้ชิงชิงถึงกับตกใจ ดวงตา จมูก ริมฝีปากนั้น เป็นสิ่งที่นางคุ้นตายิ่งนักบุรุษคนแรกและคนเดียวของนางตู้ชิงชิงอึ้งไปเล็กน้อย นางเอ่ยชื่อที่ติดปากออกมา “จางอวิ๋นอวี้ เจ้า.. ไม่ใช่สิ ท่านคือ....ท่านเทพลงไปจุติที่โลกมนุษย์หรือเจ้าคะ”หย่วนเฉินเลิกคิ้วประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดจะย้อนไปดูความทรงจำเมื่อครั้งจุติที่โลกมนุษย์ จึงไม่รู้ว่าตนเองอยู่บนโลกมนุษย์นั้นเป็นใคร และทำสิ่งใดไว้บ้าง“คงจะใช่” เขาตอบสตรีเพียงสั้นๆ ก่อนถามสิ่งที่ตนเองสงสัย “แล้วตอนที่ข้าเป็นมนุษย์ เคยช่วยเจ้าไว้อย่างนั้นหรือ”เขาเป็นมนุษย์ จะช่วยเหลือถ่ายทอดพลังเทพได้อย่างไรกัน นี่คือความสงสัยของเขา“จะว่าช่วยก็ช่วย จะว่าไม่ช่วยก็ไม่ช่วยเจ้าค่ะ” ตู้ชิงชิงลังเลเล็กน้อย นางไม่รู้จะตอบบุรุษตรงหน้าอย่างไรดี ในใจเต็มไปด้วยความกระดากอาย“ท่านเทพเคยไว้ชีวิต
ตู้ชิงชิงใช้เวลาเพียงสามวันก็จัดการโจรทั้งสามกลุ่มและพรรคพวกขององค์ชายสี่เหอควานตายจนหมด เหตุการณ์ที่มีคนจำนวนมากล้มตายโดยไม่ทราบสาเหตุนี้สร้างความสะเทือนขวัญแก่ผู้คนเป็นอย่างมากครั้นเรื่องดังกล่าวไปถึงพระกรรณฮ่องเต้ของแคว้น พระองค์ทรงเรียกขุนนางทั้งหมดรวมถึงบรรดาโหรหลวงมาวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“กราบทูลฝ่าบาท นี่เป็นฝีมือของปีศาจแน่นอนพะย่ะค่ะ พระองค์ต้องทำพิธีขอให้ท่านเทพมาช่วยจัดการกำจัดปีศาจตนนี้” หัวหน้าโหรหลวงกราบทูลสีหน้าเคร่งเครียด“ได้ พวกเจ้าไปเตรียมการให้เรียบร้อยภายในสามวัน ข้าจะเดินทางไปทำพิธีด้วยตนเอง”........จวนรองผู้บัญชาการศาลต้าหลี่หลังจากที่ตู้ชิงชิงทำให้พวกเมิ่งหลู่ เกาถงและคนอื่นๆ หายห่วงจนไปสู่สุคติแล้ว นางก็กลับมายังจวนที่เคยอยู่กับจางอวิ๋นอวี้ ตู้ชิงชิงเลือกไม่ปรากฏกายออกมาให้ผู้ใดเห็นหน้าจวนประดับผ้าไว้ทุกข์ ภายในจวนเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ตู้ชิงชิงเห็นเฉินเล่อจิ้นผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ผู้ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของจางอวิ๋นอวี้กำลังปลอบน้องสาวตน“เจ้าเห็นหรือไม่ อวี้เอ๋อร์ของเราเป็นคนดี แม้ถูกโจรสังหาร แต่ก็ยังมีพวกภูติผีช่วยจัดการฆ่าโจรให้”“แต่นั่นบุ







