“คุณไม่ได้ทำอะไรฉันเลยจริงๆ น่ะเหรอ”
“เท่าที่จำได้ มีแต่คุณลวนลามผมอยู่ฝ่ายเดียว”
“คุณไม่ได้ล้อฉันเล่นจริงๆ ใช่ไหม” ฉันถามย้ำ แต่พอเห็นเขาพยักหน้าตอบรับ ในใจลึกๆ กลับรู้สึกเหมือนเสียดายอะไรบางอย่าง
ถึงฉันจะไม่ยอมมีอะไรกับนิกกี้ แต่ใช่ว่าจะเกลียดเรื่องพวกนี้ เพียงแต่เลือกที่จะจัดการตัวเองด้วยนิ้วมือ หรือเซ็กส์ทอยตามเวลาและโอกาสเท่านั้น
ความจริงฉันไม่ได้ตายด้าน และอยากมีประสบการณ์กับชายหนุ่มที่ทำให้ใจเต้นได้เหมือนกัน
ก็นะ...กล้ามแน่นๆ และวีไลน์สุดเซ็กซี่บนร่างเปลือยของไรวินท์ที่ฉันเห็นตอนนี้ มันชวนให้เกิดอาการหวิวๆ ที่ท้องน้อยสุดๆ จนฉันเผลอกลืนน้ำลายต่อหน้าเขา
“ผมไม่มีทางข่มขืนคนที่ไม่มีสติ และผมก็บอกแล้วไงว่าไม่ชอบมีเซ็กส์กับก้อนเนื้อเลอะอ้วก”
“แล้วถ้าฉันไปอาบน้ำตอนนี้ล่ะคะ” ไม่รู้ผีตัวไหนดลใจให้ฉันถามเขาแบบนี้ อาจจะเพราะไม่เชื่อว่ารูปร่างหน้าตาของตัวเองไม่สามารถดึงดูดเขาได้ละมั้ง
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันครู่หนึ่ง แล้วคลายออก “งั้นคุณก็ไม่ต้องไปเอากับหนุ่มโฮสต์แล้ว”
ทั้งสายตาและคำตอบของเขาทำให้ฉันร้อนวูบวาบ เนื้อตัวสั่นระริก ฉันไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน เพราะฉันยึดถือความซื่อสัตย์ต่อนิกกี้มาโดยตลอด ต่อให้มีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิดกับไรวินท์ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อยู่บ่อยครั้งก็ตาม แต่ระหว่างเราเรียกได้ว่าอยู่คนละชั้น มันไกลเกินเอื้อมจนฉันไม่กล้าคิดพร่ำเพ้ออย่างผู้หญิงคนอื่นๆ
แต่วันนี้ชายหนุ่มที่สาวๆ ทั้งออฟฟิตต่างใฝ่ฝันถึง กำลังนั่งเปลือยอยู่ต่อหน้าฉัน และฉันแน่ใจว่าเราต่างรู้สึกถึงแรงดึงดูดของกันและกัน
ดวงตาสีดำสนิทส่องประกายยามกวาดมองไปตามเนื้อตัวฉัน ไรวินท์เผยรอยยิ้มละลายใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบเสน่ห์ “เทียร์ ผมอยากได้คุณ”
นาทีนั้น ฉันไม่อาจปฏิเสธเขาได้ลงจริงๆ
ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าไรวินท์จะคิดยังไงที่ฉันยอมมานั่งเปลือยอยู่บนตักเขาในอ่าง ปล่อยให้พ่อคุณใช้ฟองสบู่ลูบเนื้อลูบตัว ทำความสะอาดเรือนกายไปทุกซอกทุกมุมแบบนี้ แต่ที่จริงฉันควรถามตัวเองมากกว่าว่าผีหื่นตนไหนสิงใจให้ปล่อยตัวได้ขนาดนี้ถึงน้ำในอ่างจะมีอุณหภูมิอุ่นกำลังดี แต่ทุกครั้งที่ฝ่ามือของเขาสัมผัสไปบนผิวตั้งแต่ต้นคอไปจนถึงส่วนเว้าส่วนโค้ง กายฉันก็สั่นจากความวาบหวามตามธรรมชาติที่เขาค่อยๆ จุดมันขึ้นระหว่างเรา
และยิ่งนึกถึงเรื่องที่เขาเล่าก่อนหน้านี้ หัวใจฉันก็เต้นระส่ำ เพราะยังไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่า ฉันจะอมท่อนเนื้อที่ทั้งใหญ่ทั้งยาวซึ่งตอนนี้กำลังผงกหัวหงึกหงักอยู่ตรงบั้นท้ายตัวเอง จนเขาพ่นน้ำรักใส่ปากฉันมารอบหนึ่งแล้ว แถมเขาก็ไม่ได้ฉวยโอกาสมากไปกว่ายินยอมให้ฉันกระทำเอาแต่ใจอยู่ฝ่ายเดียว
ช่างเป็นผู้ชายที่...เสียสละตัวเองได้อย่างน่าตกใจจริงๆ
ฉันคงต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขาสินะว่าชายคนนี้มีน้ำอดน้ำทนสูงมาก ขนาดทั้งลูบทั้งคลำฉันนานขนาดนี้ และไอ้นั่นของตัวเองก็พองขยายจนแข็งขนาดนั้น เขาก็ยังควบคุมอารมณ์ได้ดี ผิดกับฉันตอนนี้ที่สูดปากครางเบาๆ ทุกครั้งที่นิ้วมือเขาปัดผ่านยอดอก และลูบไล้เหนือเนินเนื้อโหนกนูนแบบไม่ตั้งใจ
ทุกสัมผัสของเขาทำให้ฉันรู้สึกถึงความปรารถนาบางอย่างที่เบื้องต่ำ มันทั้งวูบวาบ ปลาบแปลบ คล้ายต้องการบางอย่างมาเติมเต็มความกลวงเปล่าทางอารมณ์ และฉันก็มั่นใจเหลือเกินว่าเขาเองก็อยากช่วยให้ผู้หญิงคนนี้ได้สมใจ เพราะตอนนี้ท่อนลำที่ทั้งแข็งทั้งร้อนรุ่มกำลังเต้นตุบๆ ฟ้องว่าอารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านไม่ต่างกัน
แต่การที่เขาสะกดความใคร่ของตัวเองได้ดี มันทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวอยู่ลึกๆ ว่าเวลาที่เขาปล่อยให้ความต้องการมาอยู่เหนือทุกสิ่งมันจะเร่าร้อนรุนแรงปานไหน
ให้ตายสิ ทำไมฉันคิดอะไรแบบนี้ตลอดเลย หรือว่าเป็นเพราะยังเมาค้างอยู่?
แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้เหตุผลต่างๆ รวมไปถึงฐานะทางสังคมคงไม่อาจขวางกั้นความต้องการระหว่างชายหญิงของพวกเราสองคนได้อีกต่อไป
ก็แล้วจะทำไมล่ะ ในเมื่อความบริสุทธิ์ที่ฉันเฝ้าหวงแหนมันไม่ได้ทำให้คนรักซื่อสัตย์ หรือคิดว่าคุ้มค่าที่จะรอคอยให้ถึงเวลาเหมาะสม ไม่สู้ฉันมอบค่ำคืนแรกให้ผู้ชายที่ครบเครื่องแบบไรวินท์ไปเลยดีกว่า
อย่างน้อยมันก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
ส่วนเรื่องการสานสัมพันธ์กันต่อ เอาไว้เป็นเรื่องของอนาคตก็แล้วกัน
“คุณอยากจะเอากับผมในอ่างนี่ หรืออยากไปต่อบนเตียง” เขากระซิบเสียงพร่า พลางแตะจูบลงบนลาดไหล่เปล่าเปลือย ลมหายใจอุ่นๆ ทำเอาฉันสะดุ้ง ตื่นจากภวังค์ความคิดที่วนเวียนอยู่ภายในหัว
ดูเหมือนว่าการได้ถูกเนื้อต้องตัวกันในอ่างมาสักพักของเรา คงทำให้ไรวินท์อดทนไม่กินฉันต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว และฉันมั่นใจว่า ถ้าตัวเองเลือกมีเซ็กส์ตรงนี้ เขาก็คงจะแทงท่อนเอ็นที่ขยายใหญ่เตรียมพร้อมเข้ามาทันทีแหงๆ
แต่ว่ายังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันจะสละความสาวให้ผู้ชาย คิดว่ายังไงบนเตียงก็น่าจะสะดวกและเจ็บปวดน้อยกว่าในน้ำ
“ฉันว่าเราแช่น้ำนานเกินไปแล้วค่ะ” ฉันตอบอ้อมๆ แบบคนมีจริตจะก้าน เพราะขืนพูดไปทื่อๆ ว่าอยากให้เขาพาไปซั่มบนเตียง มันต้องดูน่าขำแน่ๆ
“โอเค งั้นเราไปต่อกันที่เตียง”
หลังจากเต้นรำและดื่มฉลองในอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของงานแต่งจนพอใจแล้ว ณภัทรก็อุ้มเจ้าสาวคนสวยขึ้นไปยังห้องพักสุดหรูของโรงแรมห้าดาวซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของพวกเขาที่จัดขึ้นหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทคนใหม่ได้ไม่นานเขาวางเจ้าสาวที่ใส่สวมชุดเดรสสั้นรัดรูปสีขาวแหวกอกสุดเซ็กซี่ลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วตามขึ้นไปกอดก่าย ลูบไล้ผิวกายเนียนละเอียดไปมาช้าๆ สายตาคมจดจ้องเนินอกที่โผล่พ้นเนื้อผ้าออกมาอย่างหมิ่นเหม่ด้วยแววปรารถนาร้อนแรง“เจ้าสาวของอาเซ็กซี่มากเลยรู้ไหม”“เซ็กซี่ แล้วน่าเอาด้วยไหมคะ” พริ้มพราวยิ้มยั่วยวน พลางรั้งกระโปรงที่สั้นอยู่แล้วให้เลิกขึ้นมาจนเห็นจีสตริงสีขาวประดับไข่มุกรำไรณภัทรกลืนน้ำลายพลางครางลึกในลำคอ ทั้งที่เห็นเพียงเท่านี้ แต่ในหัวสมองกลับจินตนาการเตลิดไปไกลแล้ว พอเห็นเขาเอาแต่จ้อง พริ้มพราวจึงต้องสร้างแรงจูงใจให้เจ้าบ่าวของเธอด้วยการแยกขาออก เผยให้เห็นพูเนื้ออวบอูมที่ฉ่ำแฉะเพราะถูกเม็ดมุกเสียดสีตลอดงานเลี้ยง“ว่ายังไงคะ”“พราวของอาทั้งสวยทั้งน่ากิน” ณภัทรตอบเสียงพร่า เพราะบางสิ่งบางอย่างกำลังพองขยายจัดรู้สึกอึดอัดที่กลางหว่างขาจนปวดตุบๆ“งั้นก็กินสิคะ ทำให้พ
“แต่พราวเป็นแค่นักศึกษาจบใหม่ จะไปรับผิดชอบบริษัทไหวได้ยังไงคะ” ตอนคุณปู่ถ่ายโอนอำนาจการบริหารให้พ่อเธอ ท่านก็คร่ำหวอดในวงการธุรกิจจนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับแล้ว แตกต่างจากเธอที่ผ่านการฝึกงานก่อนจบการศึกษาแค่ปีเดียวเท่านั้น“เรื่องนั้นพราวไม่ต้องห่วง เพราะอาเตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว”ความจริงณภัทรสามารถอาศัยตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงบวกกับการเป็นผู้จัดการมรดก กระทำการลับหลังทายาทที่อายุน้อยด้อยประสบการณ์อย่างเธอได้ไม่ยาก แต่จากเอกสารที่ทนายประจำตระกูลนำมาแสดง ไม่มีส่วนใดเลยที่เขาจะเล่นแง่แล้วยักย้ายถ่ายเทไปเป็นของตนเอง ดังนั้นถ้าเขาบอกว่าจัดการทุกอย่างไว้รอเธอแล้ว เขาก็ต้องทำแบบนั้นจริงๆ อย่างแน่นอน “พราวจะทำได้แน่เหรอคะ”“อย่าลืมสิครับ ว่าพราวยังมีอาอยู่อีกทั้งคน” สายตาที่เขาจับจ้องพริ้มพราวเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น และไม่ใช่แค่เชื่อในตัวเธอเท่านั้น แต่ยังมีความเชื่อมั่นในตัวเองอีกด้วย“พราวเชื่ออาภัทรค่ะ” พริ้มพราวสบตาที่เต็มไปด้วยความมั่นคงของเขา แล้วจรดปลายปากกาเซ็นรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเก็บรักษาไว้ให้เธอมาในที่สุด“เนื่องจากทรัพย์สินของตระกูลมีจำนวนมาก ผมคงต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง
ณภัทรโน้มกายลงทาบทับร่างงามที่สั่นสะท้าน แล้วประกบริมฝีปากจูบหญิงสาวที่เสร็จสมสุดขีดจากการกระทำของเขาอย่างดูดดื่ม แต่ไม่ลืมขยับสะโพกตอกตรึงเข้าไปในช่องทางแน่นหนึบระรัว กระทั่งอารมณ์พลุ่งพล่านแตกกระจายใส่ร่องแมวน้อยยั่วเยอย่างแสนสะใจ“โอ้ว!!! พริ้มพราว” ณภัทรกดสะโพกแนบแน่นหลับตาพริ้ม ซึมซับความรู้สึกสุดยอดจากการหลั่งน้ำกามแรงๆ จนหยาดหยดสุดท้าย ในขณะบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรักใคร่หลงใหลสองร่างกอดก่ายลูบไล้สัมผัสกันอย่างแสนคิดถึงอยู่บนพรมนุ่มเนิ่นนาน ความสุขและเสียวซ่านที่มอบให้กันเอ่อล้นเป็นหลักฐานเต็มหว่างขาของพริ้มพราว น้ำสีขาวขุ่นตัดกับสีแดงจัดของร่องสาวดูสวยเซ็กซี่จนณภัทรตื่นตัวอีกครั้ง แต่ก็อดสงสารสาวน้อยที่ถูกเขาสูบแรงไปจนแทบหมดเกลี้ยงไม่ได้ณภัทรค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง แล้วจัดการถอดชุดแมวและหางแมวให้พริ้มพราว แต่กว่าเขาจะยอมถอนมันออกมาจนสุดได้ พริ้มพราวต้องทนรับความเสียวซ่านแปลกใหม่ สูดปากครางกระเส่าอยู่นาน เพราะถูกคนเกเรแกล้งแยงของเล่นเข้าออกร่องรักด้านหลังต่อเสียหลายนาที“ครางดังขนาดนี้ พราวอยากลองทางประตูหลังงั้นเหรอ” เขาว่าพลางใช้ปลายนิ้วแตะวนที่รูร่องจีบตรงบั้นท้ายงามที่ขมิบตอบ
“มะ...ไม่ต้องค่ะ” พริ้มพราวตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้คิดด้วยซ้ำ เรียกรอยยิ้มร้ายที่มุมปากของณภัทร“หันหลัง”“ค่ะ”พริ้มพราวค่อยๆ หมุนตัวหันหลังให้ณภัทรในท่าคลาน พอมั่นใจว่าได้ตำแหน่งดีแล้ว ก็กระดกบั้นท้ายขึ้นพร้อมกับส่ายสะโพกน้อยๆ อวดพวงหางสีขาวที่ณภัทรสั่งทำพิเศษให้เธอเขาจดจ้องภาพตรงหน้าตาเป็นมัน หูแมวและชุดวาบหวิวยังไม่ทำให้เขากระหายอยากเท่ากับการได้เห็นเธอยอมสอดใส่หางแมวเข้าไปทางประตูหลัง แค่คิดว่าอีกไม่กี่อึดใจตนจะได้ร่วมรักกับเธอทั้งที่มีเจ้านี่เสียบคาอยู่ตรงนั้น เขาก็แทบอดรนทนไม่ไหวณภัทรปราดเข้าไปประชิดติดเธอจากด้านหลัง แล้วส่งปลายนิ้วร้อนเข้าไปทักทายเส้นทางแน่นหนึบที่เขาร้างราไปเสียนาน ส่วนมืออีกข้างก็แกล้งดึงหางเธอเบาๆ“ยะ...อย่าดึงไปล้วงไปแบบนี้สิคะ อูย…” พริ้มพราวสูดปากพลางส่ายก้นไปมาอย่างร่านสวาท“ทำไมล่ะ มันรู้สึกแย่งั้นเหรอ” ณภัทรออกแรงอีกนิด แต่ยังไม่มากพอจะถอนหางแมวปลอมออกมา ในขณะที่ควานปลายนิ้วในร่องสวาท แล้วขยี้ติ่งเสียวของเธอไปพร้อมๆ กัน จนน้ำหวานหลั่งล้นเต็มรูสาว“อ๊า อาภัทรอย่าทำแบบนี้สิคะ พราวเสียวจะตายอยู่แล้ว”“แค่นิ้วเองไม่ตายหรอก ยังมีเด็ดกว่านี้อีก”พริ้มพราวยัง
พอพูดจบเธอก็นั่งลงที่พื้น แล้วหยิบสายจูงที่ต่อกับปลอกคอเอามาคาบไว้ในปาก จากนั้นก็ค่อยๆ คลานเข่าเขาไปหาณภัทร แล้วปล่อยสายจูงเส้นนั้นลงบนฝ่ามือของเขาณภัทรมองสายหนังที่อยู่บนมือ แล้วถามเสียงเรียบ “ไหนว่าเกลียดคนโรคจิต”“ถ้าอาภัทรโรคจิต พราวก็เป็นคนโรคจิตเหมือนกัน เพราะพราวชอบให้อาภัทรลงโทษแรงๆ” เสียงสั่นเล็กน้อยตรงคำว่า ‘แรงๆ’ ทำให้ชายหนุ่มท่าทางเครียดขรึมรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ นึกอยากฟังเสียงครวญครางของเธอตอนถูกเขาลงโทษเหลือเกิน“แน่ใจแล้วใช่ไหม เพราะถ้าคืนนี้เธอยอม คืนต่อๆ ไปฉันจะไม่มีทางกลับมามีเซ็กซ์แบบปกติกับเธออีก”“แน่ใจสิคะ ก็พราวเคยบอกอาภัทรไปแล้วว่า พราวพร้อมจะเป็นผู้หญิงในแบบที่อาภัทรชอบ”“งั้นเตรียมใจเอาไว้ให้ดีล่ะ แล้วอย่าหาว่าคนอย่างอาภัทรไม่อ่อนโยนละกัน”หญิงสาวยืนยันคำตอบด้วยการเคลื่อนกายไปนั่งคร่อมตักเขา แล้วก้มลงจูบริมฝีปากบางอย่างโหยหา แลกเปลี่ยนลมหายใจร้อนผ่าวให้กันและกัน เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่ง เมื่อร่างบางบดเบียดแนบชิดกับร่างแกร่งกำยำ ในช่วงเวลานั้นทั้งสองสัมผัสได้ถึงความรู้สึกล้ำลึกที่ห่างหายไปแสนนาน ความต้องการปลุกไฟพิศวาสให้โหมกระพือ ค่อยๆ กลืนกินเหตุผล
ตอนแรกเธอก็ตั้งใจว่าจะอดทนรอเงียบๆ จนกว่าณภัทรจะหายโกรธแล้วกลับมาเอง แต่การแสดงออกว่าเขาอยากยุติความสัมพันธ์นั้นชัดเจนมากขึ้นทุกที หากเธอยังมัวรีรอปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง งานนี้เธอคงต้องสูญเสียเขาไปตลอดกาลจริงๆ แน่พริ้มพราวมองดูเวลาที่หน้าจอมือถือ ตอนนี้เพิ่งจะห้าโมงเย็น อีกหนึ่งชั่วโมงคนของณภัทรถึงจะมาเอาของที่บ้าน เธอยังมีเวลาแก้ไขเรื่องนี้อยู่ร่างระหงผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้ววิ่งขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องนอนหลังจากค้นหาของในห้องแต่งตัวอยู่ครู่หนึ่ง พริ้มพราวก็คว้ากล่องของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ณภัทรวางทิ้งไว้ในคืนนั้นออกมาจากในตู้ได้สำเร็จเพนต์เฮาส์กลางใจเมืองของณภัทรณภัทรปรายตามองแขกไม่ได้รับเชิญ ก่อนจะหันไปถามเลขาส่วนตัวเสียงเย็น “ผมให้คุณไปรับของแทน ไม่ใช่ให้ไปพาคนมาที่นี่ด้วย”“กิ่งขอโทษค่ะคุณภัทร” กิ่งแก้วก้มหน้า ยืนกุมมือแน่น ถึงเธอจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของณภัทรโดยตรง แต่พริ้มพราวก็เป็นเจ้านายคนหนึ่งที่ให้คุณให้โทษกับเธอได้ แล้วใครจะไปกล้าทัดทาน“คุณเป็นเลขาของผม ก็ควรทำตามแค่ที่ผมสั่ง”“อาภัทรอย่าโกรธคุณกิ่งเลยนะคะ ทั้งหมดเป็นความผิดของพราวเอง” พริ้มพราวพย