ตอนที่ 11 สนใจ
หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล คีรินทร์ก็กลับมาพักผ่อนที่บ้านอย่างเต็มที่ตามคำแนะนำของแพทย์ อาการอ่อนเพลียและวิงเวียนศีรษะดีขึ้นมากแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงติดตรึงอยู่ในความรู้สึกของเขาคือกลิ่นฟีโรโมนของอิสรา กลิ่นไม้จันทน์ที่เย็นชาและหนักแน่น ซึ่งตอนนี้มันกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวหรือถูกคุกคามอีกต่อไป แต่กลับทำให้เขารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
คีรินทร์ล้มตัวลงนอนบนเตียง แล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ เขานึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล แล้วใบหน้าของอิสราที่ยิ้มให้เขาก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา
“ไอ้บ้าเอ๊ย” คีรินทร์พึมพำกับตัวเอง “ทำไมฉันถึงรู้สึกดีใจที่เขายิ้มให้ด้วยนะ”
ในขณะเดียวกัน ที่บ้านพักสุดหรูของอิสรา เขาก็ไม่ต่างจากคีรินทร์เลยแม้แต่น้อย เขานั่งอยู่บนโซฟาหนังตัวโปรด แล้วนึกถึงใบหน้าสวยหวานของคีรินทร์ที่หัวเราะให้เขาเมื่อตอนอยู่ในโรงพยาบาล
“น่ารักชะมัด” อิสราพึมพำกับตัวเอง
“คุณอิส ผมคิดว่าเราควรจะรีบจัดการเรื่องข่าวที่รั่วไหลออกไปนะ” ฐานวินพูดขึ้นหลังจากที่วางมือถือลง “มีนักข่าวบางคนเห็นคุณอุ้มคุณคีรินทร์ขึ้นรถ พวกเขาคงกำลังเขียนข่าวกันอยู่แน่ๆ”
คำพูดของฐานวินทำให้อิสราหลุดออกจากภวังค์ เขารีบหันไปมองผู้จัดการ “ข่าวอะไร”
“ก็ข่าวที่คุณไปส่งคุณคีรินทร์ที่โรงพยาบาลนั่นแหละ” ผู้จัดการตอบ “พวกเขาคงกำลังเขียนข่าวว่าคุณทั้งคู่กำลังคบกันอยู่”
“ให้พวกเขาเขียนไปสิ” อิสราพูดอย่างไม่แยแส “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด”
ฐานวินถึงกับตกใจกับคำพูดของอิสรา “แต่…คุณเคยบอกว่าคุณไม่ชอบมีข่าว และไม่อยากให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณไม่ใช่เหรอ แล้ว...”
“ใช่” อิสราตอบเสียงเรียบ “แต่เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องปิดบัง ในเมื่อฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย”
คำพูดของอิสราทำให้ฐานวินถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่คิดว่าซุปตาร์ที่เคยมีนิสัยเย่อหยิ่งและเย็นชาจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
“แล้วเรื่องงานในกองถ่ายล่ะ คุณจะทำยังไง” ฐานวินถามออกมาอย่างนึกเป็นกังวล
“ก็ให้เป็นไปตามที่ผู้กำกับสั่ง” อิสราตอบ “เราจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสกันจนกว่าอาการของคีรินทร์จะดีขึ้น”
ผู้จัดการส่ายหน้าเบาๆ “ผมคิดว่าตอนนี้คงไม่มีใครเชื่อแล้วแหละว่าคุณสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ก็แล้วแต่ทุกคนเลย” อิสราพูดพร้อมกับคลี่ยิ้มออกมา “ฉันก็ไม่ได้สนใจคนพวกนั้นมากมายอยู่แล้ว อีกอย่างหากมีข่าวออกมา ก็ช่วยเพิ่มกระแสให้ตัวฉันด้วยไม่ใช่เหรอ พวกนายก็ต้องการแบบนี้อยู่แล้วนี่”
ฐานวินมองอิสราด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ผมไม่เคยเห็นคุณเป็นห่วงเป็นใยใครมากขนาดนี้มาก่อนเลยนะ”
“ก็เพราะฉันไม่เคยเจอใครที่น่าสนใจขนาดนี้มาก่อน” อิสราพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปที่หน้าต่าง เขามองออกไปข้างนอกด้วยสายตาที่เหม่อลอย
“เมื่อกี้คุณหมายความว่ายังไงนะ” ฐานวินถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ก็…ช่างเถอะ” อิสราตอบเสียงเบา “เอาเป็นว่านายช่วยจัดการเรื่องข่าวให้ด้วยแล้วกัน อย่าให้มีเรื่องไปกระทบกับคีรินทร์ได้เล่า”
ฐานวินถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ “นี่คุณ…ชอบเขาเหรอ”
“ฉันไม่ได้ชอบ” อิสราตอบทันที “ฉันแค่…สนใจ”
คำตอบของอิสราทำให้ฐานวินถึงกับถอนหายใจออกมา “โอเค…ผมเข้าใจแล้ว”
อิสราไม่ได้พูดอะไรต่อ เขามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วนในใจ เขายอมรับว่าเวลานี้เขาไม่ได้เกลียดคีรินทร์อีกแต่ก่อน หนำซ้ำเขาก็เริ่มรู้สึกสนใจในตัวโอเมก้าคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างซุปตาร์ ‘อิสรา’ และดาวรุ่ง ‘คีรินทร์’ แพร่สะพัดไปทั่ววงการบันเทิงอย่างรวดเร็ว ภาพถ่ายที่อิสราอุ้มคีรินทร์ขึ้นรถถูกเผยแพร่ในทุกสำนักข่าวออนไลน์ สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนคลับของทั้งคู่เป็นอย่างมาก
แฟนคลับของอิสรา: “นี่มันเรื่องจริงเหรอ คุณอิสราจะคบกับโอเมก้าอย่างคีรินทร์จริงๆ เหรอ”
แฟนคลับของคีรินทร์: “ดีใจด้วยนะคีรินทร์ที่ได้คบกับคุณอิสรา แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเขาจะมาทำให้นายเสียใจหรือเปล่า”
ข่าวลือนี้สร้างความปั่นป่วนให้กับบริษัทของทั้งคู่เป็นอย่างมาก
“คีรินทร์ นายเห็นข่าวแล้วหรือยัง” เอกรีบยื่นมือถือให้คีรินทร์อ่าน
คีรินทร์อ่านจบพร้อมกับเบิกตากว้างอย่างตกใจ สีหน้าของเขาดูไม่สู้ดีนัก เขาไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะบานปลายและเป็นข่าวใหญ่โตขนาดนี้
“ฉันโทรปรึกษากับบอสแล้ว เขาอยากให้นายเกาะกระแสข่าวนี้ไว้ คุณอิสราเป็นคนมีชื่อเสียงจะทำให้นายมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้นไปด้วย” เอกบอกออกมาพร้อมกับปรายตามองคีรินทร์อย่างหนักใจ เขารู้ดีว่าชายหนุ่มไม่ต้องการชื่อเสียงแบบนี้ และแน่นอนว่าคีรินทร์เกลียดที่สุดคือ การถูกมองในฐานะ ‘ของเล่นของอัลฟ่า
“พี่เอก...พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบชื่อเสียงฉาบฉวยแบบนี้” คีรินทร์บ่นอุบขึ้นมาทันที ยิ่งคิดถึงข่าวที่ออกมานั่นยิ่งทำให้เขาใบหน้าแดงก่ำขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกผิดและลำบากใจที่ทำให้อิสรามีชื่อพัวพันกับตนเอง
“เอาน่า ถึงยังไงข่าวที่ออกก็เป็นเพราะคุณอิสราเองนั่นแหละ ตอนนี้พี่บอกแล้วว่าจะพานายไปเอง คุณอิสราก็ไม่ยอม” เอกรีบแก้ต่างออกมา
“พี่เอก...” คีรินทร์พ้อออกมา ก่อนจะลอบถอนใจออกมา พร้อมกับคิดหนักเมื่อพรุ่งนี้ต้องเผชิญหน้ากับอิสราอีกครั้ง
ทางด้านฐานวินต่างก็รีบมือถือไปหาผู้บริหารเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ผู้บริหารบอกว่าให้เราปล่อยให้ข่าวเป็นไปตามธรรมชาติ” ฐานวินบอกกับอิสราในเช้าวันถัดมา “พวกเขาคิดว่าข่าวนี้จะช่วยให้ซีรีส์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น”
“ผมก็คิดแบบนั้น” อิสราพูดอย่างไม่แยแส “แล้วทางด้านคีรินทร์ว่าไงบ้าง”
“เขาน่าจะกำลังหัวเสียอยู่แน่ๆ” ฐานวินตอบ “แต่ผมคิดว่าเขาคงจะรับมือได้”
“ทำไม...เป็นข่าวกับฉันมันน่าหัวเสียอย่างนั้นเหรอ” อิสราแหวออกมา พร้อมส่งสายตาดุใส่ฐานวิน
“นายไม่ต้องมาพาลใส่ฉันเลยนะ” ฐานวินรีบเบรกทันที “นายลองคิดดู ถ้าเป็นคนอื่นคงดีใจแน่ที่เป็นข่าวกับนาย แต่กับคีรินทร์ นายคิดว่าเขาจะดีใจเนื้อเต้นอย่างนั้นเหรอ”
อิสรานิ่งอึ้งไปกับคำพูดของฐานวิน สายตาคมกริบหรี่เล็กลงอย่างใช้ความคิด ก่อนจะฉวยมือถือข้างกายขึ้นมาในทันที
บทที่ 42 คำขอ หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝันที่แสนหวาน ความรักของอิสราและคีรินทร์ยังคงเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆ วัน พวกเขายังคงเป็นคู่รักที่ถูกจับตามองมากที่สุดในวงการบันเทิง อิสราได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขารักคีรินทร์อย่างจริงใจและพร้อมที่จะปกป้องคีรินทร์จากทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต คีรินทร์เองก็เรียนรู้ที่จะเชื่อใจอิสราอย่างไม่มีเงื่อนไขและเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในชีวิต ในวันครบรอบหนึ่งปีที่คบกัน อิสราพาคีรินทร์ไปที่วิลล่าส่วนตัวที่ภูเก็ต วิลล่าแห่งนี้เป็นที่ที่พวกเขามีความทรงจำดีๆ ร่วมกันมากมาย และอิสราก็ตั้งใจที่จะทำให้วันครบรอบหนึ่งปีนี้เป็นวันที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของคีรินทร์ ทันทีที่พวกเขามาถึง วิลล่าก็เต็มไปด้วยแสงไฟอุ่นจากโคมไฟที่อิสราจัดเตรียมไว้ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ที่โชยมากับลม คีรินทร์ก้าวลงจากรถแล้วสูดหายใจลึก สายตาเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ “สวยเหมือนเดิมเลย” เขาพึมพำออกมาเบา ๆ อิสราเดินเข้ามาข้าง ๆ ก่อนจะสอดมือเข้ากับมือของคีรินทร์ “แต่ฉันว่าครั้งนี้สวยกว่าเดิม…เพราะฉันได้
บทที่ 41 เยียวยา ภายในห้องพักโรงแรมหรู แสงไฟสลัวอบอุ่นสาดกระทบผ้าม่านสีครีมที่ปลิวไหวเบาๆ จากลมแอร์ ความเงียบสงัดปกคลุมไปทั่วห้อง ต่างจากเสียงอึกทึกที่เพิ่งผ่านมา คีรินทร์นั่งอยู่บนโซฟา แผ่นหลังยังสั่นไหวเล็กน้อยจากความกดดันที่ต้องเผชิญมา เขาก้มหน้าลงหลบสายตา ราวกับไม่อยากให้อิสราเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความเจ็บปวด แต่ในช่วงเวลานั้น อิสรากลับคุกเข่าลงตรงหน้าของคีรินทร์ มือหนาของเขาเอื้อมไปประคองแก้มคนรักอย่างแผ่วเบาและปลอบโยน “นายไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้…ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว” อิสราพูดเสียงนุ่ม ดวงตาทอประกายอบอุ่น คีรินทร์เงยหน้าขึ้น แววตาสั่นระริกก่อนจะไหลทะลักออกมาเป็นน้ำตา “แต่ผม…ผมกลัวเหลือเกิน ผมกลัวว่าจะทำให้คุณต้องผิดหวังและเจ็บปวดอีก” อิสราส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะกดริมฝีปากจูบลงที่หยดน้ำตานั้นทีละหยาด “ไม่มีทาง…ต่อให้ทั้งโลกหันหลังให้นาย ฉันก็จะไม่ไปไหน” คำพูดนั้นเหมือนทำลายกำแพงในใจของคีรินทร์ เขาพุ่งเข้ากอดอิสราแน่น แขนทั้งสองโอบรัดเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมืออีกฝ่ายจะหายไป ความอบอุ่นจากอกที่แนบชิดทำให้หัวใจของ
บทที่ 40 เจ็บปวด เสียงดนตรีค่อยๆ แผ่วลง แขกที่มาร่วมงานต่างมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความงุนงงและไม่เชื่อสายตาตัวเอง กลางเวที คีรินทร์ยืนนิ่งราวกับถูกตรึงไว้กับพื้น สายตาของเขาสั่นไหว เขามองทิวาที่ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาหา สีหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเจ็บปวด ทิวายังคงพร่ำเพ้อออกมา เขาพยายามเดินเข้าไปหาคีรินทร์อีกครั้ง แต่คีรินทร์กลับเดินถอยหลังห่างเขาไปอีกหลายก้าว สายตาที่เคยมองอย่างไว้ใจ บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวและผิดหวังในตัวเขาอย่างมาก ทิวาไม่เข้าใจว่าทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ เขาแค่ต้องการเข้าไปปกป้องคีรินทร์ในยามที่ชายหนุ่มถูกทำร้าย และเขาก็ต้องการเป็นคนแรกที่ปลอบประโลมและดูแลคีรินทร์ “คีรินทร์…” เสียงของทิวาแหบพร่า เขายกมือสั่นเทาออกไปข้างหน้าเหมือนอยากคว้าตัวคนตรงหน้าไว้ “นายรังเกียจฉันเหรอ… ฉันทำไปทั้งหมดก็เพราะฉันรักนายนะ” คำสารภาพของทิวาทำให้ทุกคนในงานต่างพากันนิ่งอึ้งไปกันหมด โดยเฉพาะคีรินทร์ที่เวลานี้เขานั้นช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนไม่อาจคิดอะไรได้อีก คีรินทร์ก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติ ราวก
บทที่ 39 เปิดเผย คีรินทร์นิ่งอึ้งไปกับคำสารภาพรักของทิวา เขาจ้องมองทิวาอย่างแทบไม่เชื่อสายตา คีรินทร์ได้แต่คิดไปว่าทิวากำลังสับสนเมื่อเห็นตนเองในสภาพเช่นเมื่อวานนี้ “ทิวา...ฉันว่านายคงกำลังสับสนอยู่นะ” “คีรินทร์...ฉัน...” ทิวาพยายามอธิบาย เขาก้าวเท้าไปหาคีรินทร์อีกครั้ง แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งถอยหลังห่างจากเขาไปอีกครั้ง ทิวาได้แต่หยุดชะงักลงไปอีกครั้ง พร้อมทอดมองคีรินทร์อย่างรู้สึกผิดหวังรุนแรง “เอ่อ...ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ” คีรินทร์ตัดบท ก่อนจะเดินออกจากบ้านทิวาไปในทันที “คีรินทร์...” ทิวาพยายามตะโกนเรียกอีกครั้ง แต่คีรินทร์กลับก้าวเท้าออกไป โดยไม่หันหลังกลับมามองเขาแม้แต่น้อย ทิวาได้แต่กำหมัดแน่นอย่างรู้สึกเจ็บปวด เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคีรินทร์ถึงไม่ยอมเปิดใจให้เขา ชายหนุ่มได้แต่นึกโทษอิสรา ต้องเป็นเพราะเขาแน่ที่ทำให้คีรินทร์ถอยห่างเขาไปแบบนี้ ทิวาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนที่ยังมีกลิ่นไอของคีรินทร์ติดอยู่ เขาซุกหน้าสูดดมความหอมหวานนั้นอย่างหลงใหล “คีรินทร์ นายบีบให้ฉันต้องทำแบบนี้เองนะ” ทิวาได้แค่เพ้อออกมา ดวงตาแ
บทที่ 38 มือที่สาม คีรินทร์ตัดสายของทิวาไปอย่างเงียบๆ เขาตั้งใจจะเข้านอนแต่วันเพราะร่างกายและจิตใจรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น คีรินทร์ตรงไปเปิดประตู และเขาก็เห็นอิสราที่มีสีหน้าอิดโรยยืนรอเขาอยู่ “คุณอิส ทำไมคุณยังไม่นอนอีก” คีรินทร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเหินห่าง “นายคุยกับใครอยู่” อิสราถามออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนเช่นกัน “คุณอิส คุณจะหาเรื่องอะไรอีก วันนี้ผมเหนื่อยมากแล้ว คุณกลับไปนอนเถอะ” คีรินทร์ตัดบท พร้อมใบหน้าที่ดูบึ้งตึง อิสรากำหมัดแน่นด้วยความหงุดหงิด เขาเดินตรงไปยังเตียงนอน พร้อมหยิบมือถือของคีรินทร์ขึ้นมาตรวจดู คีรินทร์ไม่พอใจกับท่าทีของอิสรา เขาจึงเดินไปแย่งมือถือออกจากมือของอิสรา “คุณอิส คุณจะทำอะไร” “แล้วนายคุยกับใครอยู่ล่ะ” อิสราตะคอกออกมาอย่างหัวเสีย “ผมคุยกับเพื่อน” คีรินทร์ตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ อิสรากัดฟันแน่น เขาคว้าตัวคีรินทร์มารัดไว้ พร้อมแย่งมือถือกลับมาอีกครั้ง และเมื่อเขาเห็นเบอร์โทรของทิวา อารมณ์ของเขาก็ยิ่งพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที “ทำไม
บทที่ 37 รอยร้าว คืนเดียวกันนั้น ทิวาได้รับข้อความจากคีรินทร์ที่ส่งมาสั้นๆ “ฉันไม่รู้จะเชื่ออะไรดีแล้ว” ทิวามองข้อความนั้นด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยชัยชนะค่อยๆ คลี่ออก เขารู้ดีว่ารอยร้าวกำลังเกิดขึ้นระหว่างคีรินทร์กับอิสรา และมันก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนการซับซ้อนที่เขาวางเอาไว้เท่านั้น เสียงฝนโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ยามค่ำคืนในเมืองใหญ่เต็มไปด้วยความชื้นแฉะและความวุ่นวาย แต่ภายในคอนโดหรูของทิวากลับเงียบสงัดราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แสงไฟสีเหลืองนวลจากโคมไฟตั้งพื้นส่องกระทบโซฟาหนัง ทำให้เงาของทิวาที่นั่งพิงอยู่ทอดยาวบนพื้นห้อง เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น ทิวารีบเดินไปเปิดในทันที รอยยิ้มกว้างผุดออกมาด้วยความดีใจเมื่อคนตรงหน้าคือคนที่เขารอคอยอยู่ ‘คีรินทร์’ เสียงฝีเท้าหนักหน่วงดังขึ้น ตามด้วยร่างของคีรินทร์ที่ก้าวเข้ามา เขาสวมเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมบนออกเล็กน้อย ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยร่องรอยความเหนื่อยล้าและหงุดหงิด “เกิดอะไรขึ้น” ทิวาลุกขึ้นต้อนรับ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใยที่แสร้งให้ดูจริงใจ เขา