Short
เพื่อช่วยรักแรก สามีจึงปล่อยให้ฉันตายในทะเล

เพื่อช่วยรักแรก สามีจึงปล่อยให้ฉันตายในทะเล

โดย:  สือเยว่จบแล้ว
ภาษา: Thai
goodnovel4goodnovel
16บท
660views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

สามีของฉันและลูกสาวตัวปลอม เป็นคู่รักที่มีใจให้กันมาตั้งแต่เด็ก ฉันและลูกสาวตัวปลอมถูกลักพาตัวไปพร้อมกัน สามีซึ่งเป็นแพทย์ตามรถพยาบาลไปยังที่เกิดเหตุลักพาตัว แต่กลับเลือกช่วยเธอก่อน ทอดทิ้งฉันที่ขาหักทั้งสองข้างให้ต้องตะเกียกตะกายอย่างสุดชีวิตในท้องทะเล ในขณะที่กำลังจะตาย ฉันร้องขอให้เขาช่วยฉันและลูกในท้องของฉัน เขากลับเหลือบมองฉัน และก่อนจะเดินจากไปก็พูดด้วยความเมตตาว่าจะช่วยโทรเรียกรถพยาบาลให้ฉัน แล้วพูดว่า “เพื่อเอาตัวรอด คุณถึงกับกุเรื่องลูกขึ้นมาเลยเหรอ น่าขยะแขยงจริงๆ” “ผมตอบแทนบุญคุณที่คุณช่วยผมไว้หมดแล้ว จะมาเซ็นใบหย่าที่โรงพยาบาลทีหลัง” หลังจากฟังจบ ฉันจึงใช้มือที่สั่นเทาถอดเครื่องช่วยฟังออกจากหูขวา

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทที่ 1

            [มาหาฉันที่บ้าน] นาราหรือนาคถอนหายใจหลังจากได้ยินประโยคนั้น เธอลุกจากแปลงผัก ปาดเหงื่อบนหน้าผากออก ก่อนจะปั่นจักรยานออกมาจากแปลงดินขนาดสิบไร่

            ที่นี่คือไร่ธรภูมิ ที่ดินแปลงเกษตรเกือบห้าพันไร่ เป็นของตระกูล ธรภูมิ ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแถบนี้ และ ใช่ ตอนนี้นาราเป็นลูกหนี้ของครอบครัวนี้อยู่ และใช่ อีกนั่นแหละว่าเธอเป็นลูกหนี้ขัดดอก ใช้หนี้ยังไงก็ไม่หมดสักที

            ช่างเถอะ เรื่องนี้เธอจะมาเล่าให้ฟังทีหลัง เพราะตอนนี้ต้องไปหาใครคนหนึ่งก่อน

            พอพาหนะคู่ใจพามาถึงบ้านเรือนไทยขนาดใหญ่ ที่รอบข้างปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ประดับ ร่มรื่นและเย็นสบาย นาราก็ขึ้นไปบนบ้าน เข้าไปในห้องริมฝั่งซ้ายสุด

            “ทำไมช้า” ชายที่นั่งอยู่บนเตียงมองเธอด้วยใบหน้าเรียบตึง นาราถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

            “ก็ฉันถอนหญ้าในแปลงผักอยู่ เพิ่งเห็นข้อความค่ะ” จริงๆนะ เธอไม่ได้สนใจมือถือเลย

            “เหรอ” ทว่าสิงหราช หรือนายหัวสิงที่ทุกคนในไร่ต่างเกรงกลัวกลับแสยะยิ้ม ร่างดูดีสมส่วนย่างสามขุมมาหาเธอ เพียงชั่วอึดใจเขาก็อยู่ตรงหน้านาราเสียแล้ว คนตัวเล็กสั่นไปทั้งตัว

            “แล้วไอ้ปลัดน่าโง่นั่นโผล่มาจากไหนกัน”

            “คุณ!” นาราหน้าแดง เธอโกรธ ทำไมเขาต้องเอาแต่ว่าพี่ชายเธอแบบนั้นด้วย ถึงภูริจะเป็นพี่ชายที่มหาลัยของเธอ แต่นาราไม่ชอบอยู่ดี  อีกอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องเป็นแบบนี้ทุกที

            “ฉันบอกแล้วว่าพี่ภูเป็นพี่ชายของฉัน เขาแค่มาหา ทำไมต้องว่าเขาด้วย”

            “แล้วใครใช้ให้มันมา นี่ไร่ของฉันไม่ใช่ของเธอ อีกอย่างลืมแล้วเหรอว่าเธอเป็นใคร” สิงหราชตะคอก

            นาราเจ็บแปล๊บในใจ ใช่ เธอเป็นแค่ลูกหนี้เขาเท่านั้น แล้วหนี้มหาศาลมากมายไม่รู้กี่ชาติจะใช้หมด

            ครอบครัวของเธอเคยมีฐานะพอปานกลางทว่ามีปัญหาภายในครอบครัว เลยทำให้แม่ตัดสินใจเอาที่ดินมาจำนองกับเจ้าของไร่ธรภูมิคนเก่าซึ่งเป็นพ่อของสิงหราชเพื่อนำมาใช้หนี้ แต่แล้วไม่มีเงินมาไถ่คืน ด้วยความกลัวเสียที่ดินไปและไม่มีที่อยู่อาศัยทำให้ต้องใช้หนี้ทั้งหมดเพื่อความอยู่รอด

            ในตอนแรกนาราก็ไม่อยากทำ แต่เมื่อเห็นแม่ของเธอร้องไห้จนสลบไปหลายวัน สุดท้ายลูกคนที่เหลืออย่างเธอนอกเหนือจากพี่ชายที่ติดทหาร ต้องมารับกรรมกันไป

            ใช่ ไม่เพียงแต่ใช้แรงงานเท่านั้น หน้าที่ที่ทำอยู่ยังรวมถึงการเป็นนางบำเรอบนเตียงด้วย

            “ฉันอยากอาบน้ำ มาอาบให้ด้วย” เมื่อเห็นเธอนิ่งไปเขาจึงเอ่ย รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับโชคชะตาของตน สิงหาราชก็ขึ้นเสียง เดินหันหลังนำเธอไปยังห้องน้ำที่อยู่ในห้อง

            ร่างบางถอนหายใจ ทว่าสุดท้ายต้องยอมจำใจไปอยู่ดี

            เมื่อมาถึงเห็นว่าเจ้าของไร่ธรภูมิ หรือลูกชายคนรองของที่นี่เปลื้องผ้า เดินลงไปในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำเต็มอยู่แล้ว  หญิงสาววัยยี่สิบห้าปีหลับตาลง เพราะเธอไม่อยากเห็น ทั้งๆที่เห็นมาหลายสิบครั้ง

            “ยืนอยู่ทำไม ถอดเสื้อผ้าเธอซะทีหรือให้ฉันถอดให้”

            “แต่แค่อาบน้ำ ทำไมคุณต้องให้นาคถอดด้วย”

            สายตาเย็นชาปรายมองทางเธอ “ฉันไม่ชอบกลิ่นผู้ชายคนอื่น”

            กลิ่น ผู้ชายคนอื่น? หมายถึงพี่ภูของเธอ

            นาราอยากจะบ้าตาย ทำไมเขาต้องเอาแต่ใจขนาดนี้ แต่เพราะเธอไม่อยากชวนทะเลาะ หญิงสาวจึงปลดกระดุมเสื้อลายสก็อตของเธอออก รวมถึงกางเกงวอร์มขายาว

            ร่างอวบอิ่มเหลือเพียงชุดชั้นในตัวจิ๋ว แวบหนึ่งที่นารารู้สึกใจเต้น เมื่อสิงหราชตวัดมองทางเธอ เขาหันไปทางอื่นเพียงเวลาอันรวดเร็ว

            นาราหน้าแดง ก่อนเคลื่อนกายไปนั่งบนขอบอ่าง หญิงสาวหยิบสบู่ขึ้นมาบีบใส่มือ ก่อนค่อยๆละเลงมันลงบนตัวคนกำยำ

            ภายในห้องน้ำเงียบงัน กลิ่นหอมอ่อนๆของฟองสบู่ลอยมาเตะจมูก ดวงตากลมโตไล่มองแผ่นหลังกว้างจากเบื้อง

หลัง

            เขาคงเหนื่อยมาก

            นาราคิดแบบนั้นเพราะในไร่นี้ สิงหราชเป็นคนคุมงานคนเดียว

            สาวิตว์ มีลูกชายอยู่สี่คน ลูกสาวคนโตเป็นผู้หญิงชื่อนารี ตอนนี้เธอไปอยู่ที่ต่างประเทศนานๆกลับมาที คนรองก็คือสิงหราช ชายหนุ่มอายุ สามสิบห้าปี เป็นคนที่เอาแต่ใจและดุมากๆในสายตาเธอ ถึงเขาจะหล่อจนคนงานในไร่ต่างพากันหลงใหล แต่เชื่อเถอะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้าใกล้เลยสักคน นอกซะจากผู้หญิงใจกล้า ยั่วยวนเขาอย่างหน้าไม่อาย

            คนที่สามคือเหนือเมฆ อายุสามสิบสองปี ชายหนุ่มเป็นผู้ควบคุมกิจการส่งออกของธรภูมิ บริษัทของครอบครัวที่ตั้งอยู่ที่ชลบุรี ซึ่งนานๆทีเขาจะกลับมา

            คนที่สี่คิมหันต์ เขาเป็นฝาแฝดกับธันวา ทั้งสองอายุสามสิบเอ็ดปีมีหน้าที่ดูแลกิจการที่กรุงเทพ นานครั้งกลับมาอีกเช่นกัน

            คนในครอบครัวนี้ นารามีโอกาสเห็นเพียงหนึ่งครั้งในหนึ่งปี ตอนที่เกือบทั้งหมดกลับมาวันครบรอบการตายของพ่อ และ บางคนก็ไม่เคยเห็นเลย ใช่ บิดาและมารดาของสิงหราชเสียชีวิตกันหมดแล้ว และไร่นี้เขาเป็นคนคุมหมดเลยทั้งหมด

            ไม่แปลกที่จะเหนื่อย

            แต่น่าแปลกที่เขาไม่แต่งงานสักที เธอทำงานอยู่ที่นี่สองปี เห็นสิงหราชควงผู้หญิงอยู่แค่สองครั้ง ส่วนรายละเอียดเธอไม่รู้ เพราะไม่อยากรู้

            มือนุ่มนวดไปที่บ่ากว้าง เป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องทำให้เขาผ่อนคลาย ทว่าต่อมากลับต้องกรีดร้องเพราะเขาดึงเธอเข้าไปในอ่างเดียวกัน

            ฟองสบู่แตกกระจายเป็นวงกว้าง นารามองคนที่กำลังโอบรอบเอวบางตาโต ทุกอย่างมันเร็วไปหมด เร็วจนใจหายใจคว่ำ

            “เหนื่อย” ร่างสูงเอ่ยออกมา นารามองซ้ายมองขวายิ่งเขากอดเธอแน่น ลูบไล้ไปทั่วตัวหญิงสาวยิ่งรู้สึกขนลุกขนชัน

            “แต่นาคต้องทำงานตอนบ่ายนะคะ” รู้ว่าเขาหมายความว่ายังไง เพราะสิงหราชกำลังบอกเธอให้ปรนนิบัติเขาแบบที่เคยทำ

            “ไปสายก็ได้ฉันไม่ว่าหรอก” มือหนานวดคลึงปลายคางเล็ก นาราใจกระตุกวูบ เธอมีเหตุผลที่ไม่อยากไปทำงานสาย เพราะคนอื่นจะมองว่าเธอได้รับสิทธิพิเศษ พร้อมกับถูกนินทาให้ได้ยิน เธอโดนว่าว่าเป็นผู้หญิงขัดดอกของสิงหราช ปล่อยร่างกายให้นายหัวของไร่เชยชม แต่ความจริงแล้วเขาเป็นคนบังคับเธอทั้งนั้น

            “อื้อ” พอปฏิเสธไม่ได้นิ้วแข็งแกร่งก็ดึงใบหน้าของเธอเข้าไปใกล้ ริมฝีปากของคนใต้ร่างที่โอบรัดเธอ รุกรานริมฝีปากเล็กดูดเม้ม สอดลิ้นเข้ามาพัวพันแทบหลอมละลายเป็นหนึ่งเดียว

            “อะ” ร่างน้อยกระตุกยามฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นมายังทรวงอกอวบอิ่ม สิงหราชบีบเคล้นมันหนักสลับเบา  เกิดความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วสรรพางค์

            “ซี๊ด เธอสวยมาก” ชายหนุ่มครางออกมา น่าแปลกที่เขาบอกเธอแบบนั้นทุกครั้งในตอนที่ทำอะไรกัน ทว่าตอนอยู่ข้างนอกกลับเย็นชา ดุดัน โหดร้ายราวกับเป็นคนละคน

            นารารีบเกาะไหล่หนาไม่ปล่อย เมื่อร่างกายถูกอุ้มขึ้นมาจากน้ำ สิงหราชวางเธอบนอ่างล้างหน้า ก่อนที่กายหนาจะเข้ามาชิด บดเบียดเสียดสีจนผิวเนื้อติดกัน

            ร่างกายที่โดนเขาสัมผัสร้อน ใจกลางร่างของนาราปวดหนึบปะทุความต้องการออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ต่างจากร่างสูงที่พร้อมสาดอาวุธสำคัญเต็มที

            “อยู่นิ่งๆ” เขาสั่ง ริมฝีปากฝั่งลงบนซอกคอเธอ นาราได้แต่ขยุ้มผมดกดำ เงยหน้าขึ้นด้านบน ปลายเล็บจิกเกร็งบนพื้นหินอ่อนจนเจ็บ แล้วเวลานั้นเองที่มือใหญ่จับมือของเธอออกมา

            “อย่าทำ เดี๋ยวเลือดออก” ความร้อนวูบแผ่ไปทั่วดวงหน้าเพราะสิงหราชจับมือเธอขึ้นไปจูบ ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลงใหลความอ่อนโยนที่เขามีให้เหลือเกิน จนบางครั้งนาราหวังสูงว่าเขาจะทำแบบเดียวกันเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่เธอคงหวังมากเกินไปเพราะไม่มีวันเป็นจริง

            ด้วยสถานะแบบเธอ นาราคงเป็นได้แค่นางบำเรอเท่านั้น

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
16
บทที่ 1
ไม่เคยคิดเลยว่าฉันที่รักความสวยงามมาตลอด จะต้องตายในสภาพน่าเกลียดน่ากลัวขนาดนี้หลังจากถูกคนร้ายลักพาตัวทำร้ายทารุณอย่างหนักหน่วงแล้ว ก็ถูกนำไปทิ้งไว้ริมทะเล ปล่อยให้คลื่นทะเลเย็นยะเยือกซัดเข้าใส่ร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเลือดที่ไหลออกมาจากร่างกายท่อนล่าง ย้อมน้ำทะเลโดยรอบให้เป็นสีแดงฉานทั้งหัวใจและสายตาของกู้เซิ่นเหยียนกลับมีเพียงเหลียงอี่อัน เขากลับไม่แยแสต่อสถานการณ์ของฉันเลยแม้แต่น้อยตอนที่ฉันถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล เลือดในร่างกายของฉันก็เหือดแห้งไปหมด และขาทั้งสองข้างก็หักเหมือนตุ๊กตาที่แตกหักดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่แพทย์และพยาบาลเจอผู้ป่วยที่น่าเวทนาเช่นนี้เมื่อต้องเผชิญกับร่างกายอันร่อแร่ของฉัน พวกเขาก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนพยาบาลกระซิบแนะนำว่า “เราลองเชิญผู้อำนวยการกู้มารักษาเถอะค่ะ เขามีฝีมือยอดเยี่ยม อาจจะสามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยไว้ได้”ทันทีที่พูดจบ พยาบาลอีกคนก็แทรกขึ้นมาว่า“ผู้อำนวยการกู้กำลังพยายามช่วยคนรักในวัยเด็กของเขาอย่างเต็มที่อยู่ จะทิ้งคนที่รักมาช่วยคนแปลกหน้าได้ยังไง?”แต่ฉันเป็นภรรยาของเขา ไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อยอาจเป็นเพราะตายตาไม่หลับและมีความอาฆาต
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2
เหลียงอี่อันได้รับการกระตุ้นอย่างรุนแรง เมื่อลืมตาจึงร้องหากู้เซิ่นเหยียนทันทีเธอไม่ยอมให้พยาบาลเข้าใกล้ กอดแน่นอยู่ในอ้อมแขนของกู้เซิ่นเหยียน น้ำตาไหลพรากไม่หยุดและกู้เซิ่นเหยียนก็ปลอบโยนเหลียงอี่อันอย่างอ่อนโยน ราวกับได้สมบัติที่สูญหายไปกลับคืนมาใจเขายังรู้สึกหวาดกลัวจึงตบหลังเธอเบาๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า“คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว คุณรู้ไหมว่าผมเป็นห่วงมากแค่ไหน ผมกลัวว่าจะสูญเสียคุณไปอีกครั้งจริงๆ”เหลียงอี่อันราวกับกระต่ายขาวตัวน้อยที่ตื่นตกใจ ใบหน้าซีดเซียวเธอดึงเสื้อของกู้เซิ่นเหยียนอย่างแรง พูดอย่างสะอึกสะอื้น“เซิ่นเหยียน ฉันคิดว่าฉันตายไปแล้ว และจะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว”“โชคดีที่มีคุณ ไม่งั้นฉันคงจากโลกนี้ไปแล้ว”เหลียงอี่อันเงยหน้าขึ้นมองกู้เซิ่นเหยียนด้วยความรักอย่างลึกซึ้ง น้ำตาคลอเบ้า“เซิ่นเหยียน ฉันกังวลมาโดยตลอดว่าการมีอยู่ของฉันจะทำให้คุณกับพี่ถังถังทะเลาะกัน ดังนั้นจึงปฏิเสธคุณมาตลอด”“หลังจากผ่านเรื่องนี้ไป ฉันจะไม่ปฏิเสธคุณอีกแล้ว”เธอสูดจมูก ซบหน้าลงบนแผงอกของกู้เซิ่นเหยียนและพูดต่อ“ความจริงแล้วฉันไม่ได้โกรธพี่ถังถังเลยสักนิด ถ้าพี่ถังถังไม่นัดฉันออกไป ฉันก็
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3
ฉันก้มหน้าลงยิ้มอย่างขมขื่นแต่สาเหตุหลักที่ทำให้พวกเขาไม่ได้คบกันตั้งแต่แรกคือเหลียงอี่อัน ไม่ใช่ฉันกู้เซิ่นเหยียนและเหลียงอี่อันเป็นคู่รักที่มีใจให้กันมาตั้งแต่เด็ก เดิมทีเมื่อโตขึ้นจะต้องแต่งงานกันจนฉันอายุสิบหกปีถึงได้รู้ว่าฉันคือคุณหนูตัวจริงที่ถูกพี่เลี้ยงในบ้านตระกูลเหลียงสลับตัว และเหลียงอี่อันเป็นเพียงลูกของพี่เลี้ยงเท่านั้นหลังจากที่ฉันกลับไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่แท้จริงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็รู้สึกเสียดายที่จะต้องส่งเหลียงอี่อันซึ่งได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีออกไปจากนี้ไปฉันคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลเหลียง เธอคือคุณหนูรองในวันเกิดปีแรกที่ฉันกลับมาฉลองที่บ้านตระกูลเหลียง คุณพ่อคุณแม่ได้เชิญคุณพ่อคุณแม่กู้และกู้เซิ่นเหยียนมาเมื่อคุณแม่กู้เห็นฉัน จะชมว่าฉันเรียบร้อยหน้าตาสะสวยอยู่เสมอ และแสดงความสนิทสนมโดยจับมือฉันไว้ตลอดเวลาที่พูดคุยกันแต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะทำให้เหลียงอี่อันโกรธแค้นถึงขนาดนี้เหลียงอี่อันฉวยโอกาสตอนที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกันอยู่ในห้องรับแขก ถือน้ำร้อนจัดมาอยู่ตรงหน้าฉันเธอจ้องมาที่ฉัน พร้อมยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง“ถ้าวันนี้ฉันถูกเธอราดน้ำใส่ ทุกคนจะยังมี
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 4
กู้เซิ่นเหยียนดูเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าฉันก็อยู่ที่โรงพยาบาลนี้ด้วยหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเขาก็คิดที่จะมาหาฉันเพื่อระบายความโกรธแทนเหลียงอี่อันและยังไม่ลืมนำใบหย่ามาให้ฉันเซ็นเพื่อเปิดทางให้เหลียงอี่อันเข้ามาแทนที่น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถเซ็นใบหย่าได้บนทางเดินโรงพยาบาล มีพยาบาลสองคนเดินผ่านหน้าเขาไปพยาบาลคนหนึ่งกุมหน้าอกด้วยสีหน้าหวาดกลัว“เธอไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นตายอย่างน่าเวทนาแค่ไหน แขนขาหัก มดลูกแตกและเสียเลือดมาก เธอท้องได้สองเดือนกว่าแล้ว ตอนส่งมาถึงโรงพยาบาลเลือดแทบจะหมดตัวแล้ว เหลือแค่ลมหายใจรวยริน”“น่าสงสารจัง ไม่รู้ว่าเป็นลูกสาวหรือภรรยาของใคร หากครอบครัวของเธอรู้เข้าจะเสียใจมากขนาดไหนกันนะ”“นั่นน่ะสิ หากปฐมพยาบาลได้ทันเวลา บางทีอาจช่วยชีวิตไว้ได้ พิการก็ยังดีกว่าตายล่ะนะ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้กู้เซิ่นเหยียนก็ขมวดคิ้วแน่น ฉันจึงโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูเขาว่า "กู้เซิ่นเหยียน คุณรู้ไหมว่าคนที่ตายคือฉัน?"“คุณอยากไปดูสภาพของฉันตอนนี้ว่าน่าเวทนาขนาดนั้นจริงๆ ไหมใช่ไหมล่ะ”ฉันมีเจตนาไม่ดี อยากให้เขาเห็นสภาพการตายของฉันด้วยตาของเขาเองหากเขา
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 5
ฉันจ้องเขา ขณะที่เขาขมวดคิ้วแน่นสีหน้าหงุดหงิดของเขาคงเป็นเพราะคิดว่าฉันทำให้การเซ็นใบหย่าล่าช้าเราแต่งงานกันมาสองปี แม้โรงพยาบาลจะเป็นธุรกิจของของตระกูลกู้ แต่กู้เซิ่นเหยียนก็ไม่เคยให้ฉันมาที่โรงพยาบาลเลยปกติแล้วเมื่อฉันรู้สึกไม่สบายหรือจะมาตรวจการตั้งครรภ์ ก็ต้องไปโรงพยาบาลอื่นเสมอนางพยาบาลพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วพูดอย่างเห็นอกเห็นใจ "ผู้ป่วยท่านนั้นเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บสาหัสแล้วค่ะ เดิมทีเราต้องการให้คุณมารักษาเขา แต่..."“หากเธอเป็นญาติของเพื่อนคุณ รบกวนคุณช่วยติดต่อให้ด้วยนะคะ เราไม่พบโทรศัพท์มือถือของเธอ จึงได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามหาแล้วค่ะ”“ผู้ป่วยเสียชีวิตในสภาพน่าสลดค่ะ อาจจะต้องให้เพื่อนของคุณเตรียมใจไว้ด้วย...”“คุณลืมหน้าที่ของตัวเองไปแล้วเหรอครับ?” กู้เซิ่นเหยียนที่สายตาคมกริบ พูดขัดจังหวะนางพยาบาล“แค่บาดเจ็บเล็กน้อย หมอทั่วไปก็รักษาได้แล้ว ทำไมคุณถึงไปร่วมมือแสดงละครกับคนไข้ด้วยล่ะครับ”“ปกติแล้วผู้หญิงคนนั้นร่างกายแข็งแรงพอๆ กับวัว จะมาตายเพราะบาดเจ็บเล็กน้อยได้ยังไง”จมูกของฉันเจ็บแสบ น้ำตาหยดใหญ่ไหลพรากออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ครั้งหน
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 6
คำพูดที่ไร้ความปราณีของกู้เซิ่นเหยียน เปรียบเสมือนเข็มที่ทิ่มแทงทะลุหัวใจของฉันนิ้วมือของเหลียงอี่อันแข็งค้างไปชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาแวบวาบด้วยบางสิ่งที่ผิดปกติ ก่อนจะเผยรอยยิ้มแห่งความโล่งใจออกมาบนใบหน้าเธอเงยใบหน้าเล็กที่ละเอียดอ่อนขึ้น มองกู้เซิ่นเหยียนด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความรู้สึก“เซิ่นเหยียน ครั้งนี้เราต้องกล้าหน่อย ใครก็ไม่สามารถพรากเราจากกันได้อีก”แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย เหลียงอี่อันเขย่งเท้าขึ้น ริมฝีปากกำลังจะแตะริมฝีปากของกู้เซิ่นเหยียนในขณะที่ฉันคิดว่าทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างราบรื่น กู้เซิ่นเหยียนกลับผลักเธอออกสิ่งนี้ทำให้ฉันประหลาดใจเล็กน้อย กู้เซิ่นเหยียนมักจะตามใจเหลียงอี่อันมาโดยตลอด ไม่เคยปฏิเสธความไม่พอใจฉายชัดในดวงตาของเหลียงอี่อันเพียงเสี้ยววินาที แต่มันก็หายไปในชั่วพริบตากู้เซิ่นเหยียนตื่นตระหนกไปชั่วครู่ "ผมยังไม่ได้หย่ากับเหลียงอี่ถัง เลยกลัวว่าจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของคุณ"ที่แท้ก็กลัวว่าคนจะมาด่าว่าเหลียงอี่อันว่าเป็นมือที่สามที่ทำลายชีวิตแต่งงานของคนอื่นสุดท้ายแล้วเหลียงอี่อันก็เป็นนางแบบที่มีชื่อเสียง ในฐานะบุคคลสาธารณะ ช
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 7
บ่ายวันนั้น หลังจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จสิ้นลง ฉันกับกู้เซิ่นเหยียนก็เดินออกจากสนามสอบด้วยกันกู้เซิ่นเหยียนต้องไปงานปาร์ตี้กับเพื่อนร่วมชั้น จึงไม่ได้ให้คนขับรถที่บ้านมารับเมื่อกู้เซิ่นเหยียนเดินมาถึงทางเปลี่ยว ก็เห็นกลุ่มอันธพาลเดินเข้ามาล้อมรอบเขาพวกเขาไม่รอช้า หยิบไม้ขึ้นมาฟาดใส่กู้เซิ่นเหยียนทันทีแต่ฉันตกใจมากจนไม่ทันได้โทรแจ้งตำรวจ และพุ่งตัวเข้าใส่กู้เซิ่นเหยียนทันทีไม้หลายอันกระหน่ำตีลงบนแผ่นหลังของฉันจนกระทั่งไม้ฟาดโดนหัวของฉัน และมีของเหลวอุ่นร้อนไหลออกจากหูของฉัน พวกนั้นถึงได้หยุดเมื่อฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้วคุณพ่อคุณแม่ตระกูลกู้และคุณพ่อคุณแม่ของฉันกำลังนั่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วย พวกเขากำลังคุยเรื่องบางอย่างกัน แต่ฉันได้ยินไม่ชัดต่อมาฉันพบว่าไม้ที่ฟาดหัวฉันทำให้หูข้างขวาของฉันหนวก และไม่สามารถรักษาได้ตั้งแต่นั้นมา ท่าทีของกู้เซิ่นเหยียนที่มีต่อฉันก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเขาไม่เฉยเมยใส่ฉันอีกต่อไป และเตรียมของขวัญวันเกิดให้ฉันด้วยหลังจากนั้นเราก็เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ตามขั้นตอนจิตวิญญาณของฉันอ่อนแอลงเล็กน้อย และเจ็บปวดไปทั้งร่
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 8
เมื่อได้ยินดังนั้น ร่างกายของเหลียงอี่อันก็สั่นเล็กน้อยอย่างไม่สามารถสังเกตเห็นได้ หลุบตาลงเพื่อปกปิดความตื่นตระหนกในใจแปลกที่พี่ชายเติบโตมากับเหลียงอี่อัน แต่กลับไม่ชอบเธอคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงดูฉันมาคือคนขับรถและพี่เลี้ยงของตระกูลเหลียงเมื่อเขารู้ว่าฉันเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา เขาก็มีความสุขมาก“ไม่รู้ว่าทำไมพอเห็นถังถังแล้วก็รู้สึกผูกพัน ปรากฎว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่นี่เอง”“จากนี้ไปพี่ชายจะปกป้องเธอเอง”วันแรกที่ฉันกลายมาเป็นสมาชิกตระกูลเหลียง ทันทีที่เห็นฉัน พี่ชายก็สัญญาว่าจะดูแลฉันอย่างดีและเขาก็ทำตามสัญญา ในทุกเทศกาล เขาไม่เคยพลาดที่จะซื้อของขวัญให้ฉันเลยคุณพ่อคุณแม่แทบจะไม่ให้เงินค่าขนมฉันเลย พี่ชายจึงคอยโอนเงินให้ฉันเสมอ กลัวว่าฉันจะลำบากไม่มีเงินใช้เช่นเดียวกับตอนนี้ ฉันตายไปแล้ว มีเพียงพี่ชายเท่านั้นที่เสียใจและช่วยทวงความยุติธรรมให้ฉันพี่ชายเปิดประตูและผลักกู้เซิ่นเหยียนอย่างไม่เกรงใจทันใดนั้นฉันก็แทบรอไม่ไหวที่จะรู้ว่ากู้เซิ่นเหยียนจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นศพของฉัน?จะดีใจจนร้องไห้? หรือจะรู้สึกเศร้าใจเพียงเล็กน้อย?ใบหน้าของกู้เซิ่นเหยียนที่กำลังจะแส
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 9
“เซิ่นเหยียน ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน ถ้าตอนนั้นให้รถพยาบาลไปช่วยพี่พี่ถังถังก่อน เธอคงไม่ตาย”“ผมเป็นคนผิด คนที่ตายควรเป็นผมมากกว่า”กู้เซิ่นเหยียนค่อยๆ วางมือลง สายตาของเขามืดมนน่ากลัว และมีเส้นเลือดปูดโปนบนหน้าผาก“คุณออกไปก่อน ผมอยากอยู่กับถังถังตามลำพัง”ถังถัง? กู้เซิ่นเหยียนเรียกฉันว่าเหลียงอี่ถังตลอดเลยนี่เหลียงอี่อันไม่อยากให้กู้เซิ่นเหยียนอยู่ที่นี่ จึงกุมหน้าอก "เจ็บจัง!"แต่กู้เซิ่นเหยียนดูเหมือนจะไม่ได้ยิน และไม่แม้แต่จะมองเธอเลยเหลียงอี่อันมีสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อเธอจากไป เธอได้หันมามองศพของฉัน บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแห่งความสะใจดูประหลาดและน่าหวาดกลัวกู้เซิ่นเหยียนรวบรวมความกล้าเพื่อจับมือที่เย็นเยียบของฉัน สายตาก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศกแต่ฉันกลับรู้สึกสะอิดสะเอียนฉันตะโกนเสียงดัง "อย่าแตะต้องฉันนะ ฉันรังเกียจ"น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ยินขณะที่เขาเอื้อมมือมาจับฉัน กำไลที่ข้อมือของฉันก็ขาด หล่นลงกระทบพื้นทันทีเขาตกตะลึงไปชั่วครู่ เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านี่คือของขวัญชิ้นแรกที่เขามอบให้ฉันในวันเกิดปีแรกหลังจากที่ฉันต้องหูข้างขวาหนวกเพราะช่
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 10
เขาหยิบมาดู แล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ไหล่สั่นเทิ้ม น้ำตาไหลออกมาจากหางตานั่นคือใบตรวจครรภ์ของฉันหลังแต่งงาน ฉันกับกู้เซิ่นเหยียนก็มีช่วงเวลาหวานชื่นด้วยกันบ้างเขาเคยไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว และพลัดตกจากที่สูงขณะพยายามช่วยเหลือผู้คนสุดท้ายขาก็หัก ต้องนอนอยู่บนเตียงถึงสามเดือนในช่วงสามเดือนนั้นฉันดูแลเขาอย่างดีเขาเป็นคนเลือกกินและไม่ชอบกินผัก ดังนั้นฉันจึงทำอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้เขาสุดท้ายอาหารก็ถูกปากเขาเมื่อวันเกิดฉันปีที่แล้ว เขาเตรียมพลุให้ฉันพลุที่ระเบิดขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน เป็นสักขีพยานในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของความสัมพันธ์ของเราฉันดื่มด่ำไปกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของกู้เซิ่นเหยียน และจูบริมฝีปากของเขาอย่างกล้าหาญร่างกายของฉันสั่นเล็กน้อย เขากลับไม่ผลักไสฉันออกไป แต่กลับรั้งเอวฉันเข้ามาใกล้และจูบอย่างลึกซึ้งขึ้นหลังจากนั้นเขาก็ถามฉันว่า "ขอพรอะไรในวันเกิดล่ะ?"ฉันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงหยั่งเชิงเขาอย่างระมัดระวังว่า "ฉันอยากมีลูก อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและมีความสุข"เขาบีบหน้าฉันแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ขอพรอะไรแบบนี้กัน กา
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status