ความเงียบเข้าปกคลุมตู้โดยสารรถไฟหลังจากเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ เมรี่, ปู่ทวด, อเล็กซานเดอร์, เฟรเดอริค, เอดิสัน, และเบ็น มองหน้ากันด้วยความงุนงง แสงสีฟ้าที่ดูดกลืนมิสเตอร์คลาร์กและกลุ่ม 'พันธมิตรแห่งเวลา' หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้เพียงกลิ่นโอโซนจางๆ ในอากาศ
"เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับปู่ทวด?" เฟรเดอริคถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ปู่ทวดลูบเคราสีขาวของเขาอย่างครุ่นคิด "บางที...นี่อาจจะเป็นฝีมือของ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' ที่พูดถึงในวิทยุ" "พวกเขาเป็นใครกันคะ?" เมรี่ถาม ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่จุดที่มิสเตอร์คลาร์กหายไป "เรายังไม่รู้แน่ชัด" ปู่ทวดตอบ "แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาไม่ได้อยู่ในมิติเวลาเดียวกับเรา" ท่านหัวหน้าหน่วยสืบสวนลับเดินเข้ามา ใบหน้าของเขาดูซีดเผือดไม่ต่างจากคนอื่นๆ "ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลยครับ" ท่านหัวหน้ากล่าว "มันเหนือความเข้าใจของมนุษย์" "ถึงเวลาที่เราต้องรีบไปเอดินบะระแล้วครับ" ปู่ทวดกล่าว "สมุดบันทึกเล่มนี้อาจจะมีคำตอบทุกอย่าง" รถไฟที่ถูกเคลียร์พื้นที่กลับมาให้บริการอีกครั้งในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พวกเขาทั้งหมดตัดสินใจเดินทางต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางที่แท้จริง นั่นคือ 'ประตูสู่เวลา' ที่เอดินบะระ ท่ามกลางความเงียบงันและความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวของทุกคนเกี่ยวกับเหตุการณ์ประหลาดที่เพิ่งเกิดขึ้น เอดินบะระ: เมืองแห่งความลึกลับ เมื่อขบวนรถไฟมาถึงสถานีเอดินบะระ แว่บแรกที่เมรี่เห็นคือเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่และปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา บรรยากาศของเมืองดูขลังและเต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีต ราวกับทุกก้อนหินมีประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่ "ที่นี่น่าจะเหมาะกับการซ่อน 'ประตูสู่เวลา' จริงๆ นะครับ" อเล็กซานเดอร์พึมพำ พวกเขาเดินตามปู่ทวดและเอดิสันที่กำลังศึกษาแผนที่ในสมุดบันทึกของจอห์น สมิธอย่างละเอียด แผนที่นั้นนำพวกเขาไปยังตรอกซอกซอยที่แคบและคดเคี้ยว ผ่านร้านขายของเก่าที่เต็มไปด้วยของสะสมแปลกตา และอาคารเก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างหลายแห่ง "ตามแผนที่บอกว่ามันอยู่ใต้ปราสาทเอดินบะระครับ" เอดิสันกล่าว "แต่ทางเข้าถูกซ่อนไว้ในสถานที่ที่ไม่คาดคิด" "สถานที่ไหนครับ?" เฟรเดอริคถาม ปู่ทวดหยุดเดินตรงหน้าร้านหนังสือเก่าๆ แห่งหนึ่งที่ดูเก่าแก่และเงียบสงบ มันมีป้ายไม้แกะสลักเขียนว่า "ตำราโบราณของมาสเตอร์ลีออน" "ที่นี่แหละ" ปู่ทวดกล่าว "จอห์น สมิธ ได้ทิ้งร่องรอยไว้ที่นี่" พวกเขาเดินเข้าไปในร้านหนังสือ ภายในร้านมีกลิ่นกระดาษเก่าๆ และฝุ่นคละคลุ้งไปทั่ว ชั้นหนังสือสูงจรดเพดานเต็มไปด้วยหนังสือเก่าแก่ที่ดูทรงคุณค่า ชายชราเจ้าของร้านที่ดูใจดีเงยหน้าขึ้นมองพวกเขาจากหลังเคาน์เตอร์ไม้เก่าๆ "มีอะไรให้ช่วยไหมหนุ่มๆ สาวๆ?" ชายชราถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "เรามาตามหาหนังสือโบราณเล่มหนึ่งครับ" เมรี่ตอบ "มันเป็นหนังสือที่จอห์น สมิธ เคยศึกษาอยู่" เมื่อได้ยินชื่อจอห์น สมิธ ใบหน้าของชายชราก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที "เจ้าหนูจอห์น...เขาเป็นคนดีนะ ไม่น่าเลย" "คุณรู้จักเขาหรือคะ?" เมรี่ถาม "ใช่" ชายชราตอบ "เขามาที่นี่บ่อยๆ เขาเป็นนักโบราณคดีที่กระตือรือร้นมาก" "เขาเคยพูดถึง 'ประตูสู่เวลา' หรือ 'กุญแจสู่กาลเวลา' บ้างไหมคะ?" เมรี่ถามอย่างตรงไปตรงมา ชายชรามองเมรี่ด้วยแววตาที่สงสัย "ทำไมเจ้าถึงรู้เรื่องพวกนี้?" ความลับใต้ห้องสมุด ก่อนที่เมรี่จะได้ตอบอะไร จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากชั้นใต้ดินของร้านหนังสือ! "แกรู้ความลับมากเกินไปแล้วเฒ่า!" เสียงนั้นคำราม ชายชราเจ้าของร้านหน้าซีดเป็นไก่ต้ม "ไม่นะ! พวกแกมาถึงที่นี่ได้อย่างไร!" ทันใดนั้นเอง ชายฉกรรจ์ในชุดสีดำหลายคนก็ปรากฏตัวขึ้นจากทางเดินที่มืดมิดที่นำลงสู่ชั้นใต้ดิน! พวกเขาสวมชุดที่คล้ายกับกลุ่ม 'เงาที่หลงเหลือ' ที่โจมตีตลาดในลอนดอน "พวกแกคือ 'เงาที่หลงเหลือ'!" อเล็กซานเดอร์คำราม "ส่งแผนที่นั่นมาให้เราซะ!" ชายคนหนึ่งตะโกน "ไม่อย่างนั้นพวกแกจะต้องตายอยู่ตรงนี้!" การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือดในร้านหนังสือที่แคบและเต็มไปด้วยชั้นหนังสือเก่าๆ! เฟรเดอริคกับเบ็นพุ่งเข้าจัดการกับศัตรูอย่างรวดเร็ว เอดิสันพยายามหาอาวุธจากของที่วางอยู่รอบๆ ส่วนปู่ทวดก็ใช้ความรู้โบราณของเขาในการหลบหลีกและถ่วงเวลา เมรี่พยายามหาทางหนี เธอรู้ว่าพวกเขาต้องไปถึง 'ประตูสู่เวลา' ให้ได้ก่อนพวกคนร้าย "มาทางนี้เลยหนู!" ชายชราเจ้าของร้านตะโกน "ข้าจะพาเจ้าไปที่นั่นเอง!" เขาชี้ไปที่ชั้นหนังสือเล่มหนึ่งที่ดูไม่น่าจะเปิดออกได้ "ที่นี่มีทางลับไปสู่ 'ประตูสู่เวลา' ด้วยหรือคะ!" เมรี่ถามด้วยความประหลาดใจ "ใช่แล้ว" ชายชราตอบ "จอห์น สมิธ เป็นคนบอกข้าเอง เขาพบว่าใต้ร้านหนังสือของข้าคือทางเข้าลับสู่ห้องสมุดโบราณที่เชื่อมต่อกับ 'ประตูสู่เวลา'!" ปู่ทวดพยักหน้าเล็กน้อย "รีบไปเดี๋ยวนี้เลยหลานสาว! ที่เหลือพวกเราจะจัดการเอง!" เมรี่ลังเลเล็กน้อย เธอไม่อยากทิ้งทุกคนไว้ข้างหลัง แต่เธอก็รู้ว่านี่คือโอกาสเดียวที่จะไปถึง 'ประตูสู่เวลา' ได้ "ระวังตัวด้วยนะคะทุกคน!" เมรี่ตะโกน เธอหันไปดูชายชราที่กำลังกดปุ่มลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่หลังชั้นหนังสือ ชั้นหนังสือก็เลื่อนเปิดออกเผยให้เห็นทางเดินลับที่มืดมิด "ไปกันเถอะหนู!" ชายชรากล่าว ก้าวแรกสู่ประตูแห่งกาลเวลา เมรี่รีบเข้าไปในทางเดินลับทันที ตามด้วยชายชราเจ้าของร้านหนังสือ ทางเดินนั้นมืดและแคบ เต็มไปด้วยใยแมงมุมและกลิ่นอับชื้นที่คละคลุ้งไปทั่ว "ที่นี่คือที่ไหนคะ!" เมรี่ถาม "มันคือทางเดินลับที่จอห์น สมิธ ค้นพบ" ชายชราตอบ "มันเชื่อมต่อกับห้องสมุดโบราณใต้ดิน" พวกเขาเดินไปตามทางเดินลับเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงปลายทางของทางเดิน มันเป็นประตูเหล็กบานใหญ่ที่ดูเก่าแก่และมีสัญลักษณ์แปลกๆ สลักอยู่ "นี่คือประตูสู่ห้องสมุดโบราณ" ชายชรากล่าว "แต่การจะเข้าไปข้างในได้ เราต้องไขปริศนาบางอย่าง" เมรี่มองไปที่ประตูเหล็ก เธอรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมาจากประตู มันเป็นพลังงานที่เต็มไปด้วยความลึกลับและอำนาจ "เราต้องรีบแล้วค่ะ!" เมรี่กล่าว "พวกเขาจะต้องตามเรามาแน่ๆ!" ในขณะที่พวกเขากำลังพยายามไขปริศนาของประตูอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านหลัง! "พวกแกไม่มีทางหนีพ้นไปได้หรอก!" เสียงหนึ่งคำราม เมรี่และชายชราเจ้าของร้านหันขวับ และพบกับ 'หัวหน้าใหญ่' ของ 'เงาที่หลงเหลือ' ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมาถึงที่นี่ได้อย่างไร!" ชายชราเจ้าของร้านตะโกน "แกคิดว่าข้าจะปล่อยให้พวกแกหนีไปได้ง่ายๆ งั้นหรือ!" หัวหน้าใหญ่ตอบ " 'สถาปนิกแห่งหายนะ' จะไม่มีวันให้อภัยแก!" การต่อสู้เพื่อเปิด 'ประตูสู่เวลา' กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!ความเงียบเข้าปกคลุมตู้โดยสารรถไฟหลังจากเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ เมรี่, ปู่ทวด, อเล็กซานเดอร์, เฟรเดอริค, เอดิสัน, และเบ็น มองหน้ากันด้วยความงุนงง แสงสีฟ้าที่ดูดกลืนมิสเตอร์คลาร์กและกลุ่ม 'พันธมิตรแห่งเวลา' หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้เพียงกลิ่นโอโซนจางๆ ในอากาศ"เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับปู่ทวด?" เฟรเดอริคถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือปู่ทวดลูบเคราสีขาวของเขาอย่างครุ่นคิด "บางที...นี่อาจจะเป็นฝีมือของ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' ที่พูดถึงในวิทยุ""พวกเขาเป็นใครกันคะ?" เมรี่ถาม ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่จุดที่มิสเตอร์คลาร์กหายไป"เรายังไม่รู้แน่ชัด" ปู่ทวดตอบ "แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาไม่ได้อยู่ในมิติเวลาเดียวกับเรา"ท่านหัวหน้าหน่วยสืบสวนลับเดินเข้ามา ใบหน้าของเขาดูซีดเผือดไม่ต่างจากคนอื่นๆ"ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลยครับ" ท่านหัวหน้ากล่าว "มันเหนือความเข้าใจของมนุษย์""ถึงเวลาที่เราต้องรีบไปเอดินบะระแล้วครับ" ปู่ทวดกล่าว "สมุดบันทึกเล่มนี้อาจจะมีคำตอบทุกอย่าง"รถไฟที่ถูกเคลียร์พื้นที่กลับมาให้บริการอีกครั้งในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พวกเขาทั้งหมดตัดสินใจเดินทางต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง
รถไฟหยุดลงที่สถานีเล็กๆ แห่งหนึ่งกลางชนบทของสกอตแลนด์ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ผู้โดยสารทุกคนถูกอพยพลงจากขบวนรถ เพื่อให้ทีมสืบสวนลับสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ บรรยากาศภายในตู้โดยสารที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยความเงียบสงบที่น่าขนลุก มีเพียงเสียงรองเท้าของเจ้าหน้าที่และเสียงกล้องถ่ายรูปเท่านั้นที่ดังก้องไปมาหัวหน้าหน่วยสืบสวนลับ หรือที่เมรี่และทีมเรียกเขาว่า "ท่านหัวหน้า" กำลังยืนคุยกับ นักสืบโธมัส อย่างเคร่งเครียด ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วบริเวณราวกับกำลังหาอะไรบางอย่าง"คุณแน่ใจนะครับว่านี่คือฝีมือของ 'พันธมิตรแห่งเวลา' ?" นักสืบโธมัสถาม"ผมค่อนข้างมั่นใจครับ" ท่านหัวหน้าตอบ "สัญลักษณ์ที่พบในที่เกิดเหตุนั้นเป็นของพวกเขาอย่างแน่นอน"เมรี่เดินเข้าไปหาท่านหัวหน้า "ท่านหัวหน้าคะ พวกเขาฆ่านักโบราณคดีคนนี้ไปเพื่ออะไรกันคะ?"ท่านหัวหน้าหันมามองเมรี่ ใบหน้าของเขาดูจริงจัง "เรายังไม่รู้แน่ชัดครับ แต่ผมเชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่นักโบราณคดีคนนี้กำลังค้นพบ"ปู่ทวดของเมรี่เดินเข้ามาสมทบ "ดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องหาคำตอบกันเองแล้วล่ะ"เมรี่หันไปมองศพของ จอห์น สมิธ อีกครั้ง เธอรู้สึกถึงควา
เบาะแสที่ถูกทิ้งไว้เมรี่เดินเข้าไปใกล้ศพของชายผู้นั้น เธอสังเกตเห็นว่าชายคนนั้นกำมือข้างหนึ่งไว้แน่น เมื่อเธอกางนิ้วมือของเขาออก เธอก็พบกับกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่ถูกพับไว้อย่างดี"นี่คืออะไรคะ?" เมรี่พึมพำเธอกางกระดาษออก และพบกับสัญลักษณ์แปลกๆ ที่ถูกวาดด้วยหมึกสีแดงเข้ม มันเป็นสัญลักษณ์ที่ดูคล้ายกับนาฬิกาโบราณ แต่มีเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขโรมัน XII และมีตัวอักษรภาษาอังกฤษสามตัวเขียนอยู่ด้านล่าง: R.E.D."R.E.D. อย่างนั้นหรือ?" เฟรเดอริคพึมพำ "มันหมายความว่าอะไรกันแน่?""มันอาจจะเป็นรหัสลับครับ" เอดิสันกล่าว "หรืออาจจะเป็นชื่อขององค์กรบางอย่าง""หรืออาจจะเป็นเบาะแสที่ผู้ตายทิ้งไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต" เมรี่เสริมทันใดนั้นเอง พนักงานรถไฟก็วิ่งเข้ามาในตู้โดยสารพร้อมกับชายร่างใหญ่สองคนในชุดเครื่องแบบ"เกิดอะไรขึ้นครับ!" พนักงานรถไฟถามด้วยความตกใจ"มีคนตายครับ!" ผู้โดยสารคนหนึ่งตอบ "เขาถูกฆาตกรรม!"พนักงานรถไฟมองไปที่ศพด้วยความตกใจ แล้วเขาก็หันมามองที่เมรี่และทีม"พวกคุณเป็นใครกัน!" พนักงานรถไฟถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด"เราเป็นนักสืบครับ" ปู่ทว
หลังจากที่ปู่ทวดของเมรี่กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ชีวิตของทุกคนก็พลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาย้ายเข้าไปยังบ้านพักลับของปู่ทวดที่ตั้งอยู่ในชนบทอันห่างไกล เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตามล่าจาก 'เงาที่หลงเหลือ' และเตรียมพร้อมรับมือกับ 'สงครามแห่งกาลเวลา' ที่ปู่ทวดกล่าวถึง ภายในบ้านหลังนั้น ปู่ทวดได้เปิดเผยความลับมากมายเกี่ยวกับตระกูลแบล็ควู้ด องค์กร 'กาลเวลา' และบุคคลลึกลับที่ชื่อว่า 'สถาปนิกแห่งหายนะ' รวมถึงวิธีการต่อสู้กับพลังเหนือธรรมชาติบางอย่างที่พวกเขากำลังจะต้องเผชิญ"เราจะต้องไปที่ เอดินบะระ ครับ" ปู่ทวดกล่าวในวันหนึ่ง "มีเบาะแสสำคัญที่นั่น ที่จะนำเราไปสู่ความจริงเกี่ยวกับ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' และ 'สงครามแห่งกาลเวลา' ""เราจะเดินทางอย่างไรครับ?" อเล็กซานเดอร์ถาม"เราจะไปโดยรถไฟ" ปู่ทวดตอบ "มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้"แม้จะยังคงหวาดระแวงจากเหตุการณ์บนรถไฟครั้งก่อน แต่พวกเขาก็เชื่อใจในการตัดสินใจของปู่ทวด พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เรียบง่าย เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต และขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าสู่เอดินบะระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ ทันทีที่รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานี ความรู้สึกตื่นเต้นและกังวล
เมรี่วิ่งไปตามตรอกซอกซอยที่แคบและซับซ้อนของลอนดอน โดยมีเสียงปืนและเสียงกรีดร้องของผู้คนดังไล่หลังมาอย่างไม่หยุดหย่อน เธอพยายามหาที่หลบซ่อนที่ปลอดภัยสำหรับเด็กหญิงในที่สุด เธอก็มาถึงโรงละครเก่าๆ แห่งหนึ่งที่ถูกทิ้งร้าง มันเป็นที่ที่เธอเคยใช้เป็นฐานลับในการสืบสวนคดีต่างๆ ในอดีต"เราปลอดภัยแล้วนะหนู" เมรี่กล่าวพร้อมกับวางเด็กหญิงลง "ไม่ต้องกลัวแล้วนะ"เด็กหญิงยังคงร้องไห้อย่างต่อเนื่อง เมรี่กอดเธอไว้แน่นเพื่อปลอบประโลมในขณะที่เธอกำลังกอดเด็กหญิงอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากด้านหลัง..."น่าประทับใจจริงๆ ที่เจ้ายังจำที่แห่งนี้ได้"เมรี่หันขวับ และพบกับชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยแววตาที่เฉลียวฉลาด และแววตาที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาดใจ"คุณเป็นใครคะ!" เมรี่ถามด้วยความสงสัยชายชราคนนั้นยิ้ม "ข้าคือคนที่เฝ้ารอเจ้ามานานแล้ว"เขาก้าวเข้ามาใกล้เมรี่ แล้วยื่นมือมาสัมผัสที่ใบหน้าของเธอ เมรี่รู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าบางอย่างที่ไหลผ่านร่างกายของเธอ"เจ้าคือความหวังสุดท้ายของข้า" ชา
สองสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่การล่มสลายของ 'กาลเวลา' องค์กรลับที่เคยบงการโลกเบื้องหลังฉาก เมรี่และทีมกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้งในลอนดอน แม้จะมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษผู้กอบกู้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเก็บตัวและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมอเจเน็ตยังคงดูแลคลินิกใต้ดินของเธอ มิสเตอร์คลาร์กได้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะผู้จัดการสำนักพิมพ์ที่ซื่อสัตย์ ส่วนนักสืบโธมัสก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการตำรวจเช้าวันหนึ่งที่สดใส เมรี่กับเฟรเดอริคตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ตลาดนัดคอเวนต์การ์เดน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน เสียงดนตรีจากนักแสดงข้างถนนดังคลอเคลียกับเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของ บรรยากาศดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"นี่แหละชีวิตที่แท้จริง!" เฟรเดอริคกล่าวพร้อมกับสูดหายใจลึกๆ "ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวาย ไม่ต้องมีองค์กรลับมาตามล่า"เมรี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยกับพี่ชายอย่างเต็มที่ แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความว่างเปล่าบางอย่าง...ราวกับว่าชีวิตที่ไร้ความตื่นเต้นมันไม่ใช่สิ่งที่เธอโหยหาอีกต่อไปขณะที่พวกเขากำลังเลือกซื้อดอกไม้อยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงระเ