เขตแดนทำงานให้ภูผาได้อย่างรวดเร็วเสมอ พอเขาบอกว่าอยากได้ผู้หญิงคนไหน ภูผาก็จะสืบประวัติและติดต่อเจรจาให้เรียบร้อยพร้อมสรรพ พอเสร็จกิจแล้วก็เลิกรา เงิน กระเป๋า รองเท้า เขตแดนก็จัดการได้แบบไม่ให้ขาดตกบกพร่อง วิน วินกันทั้งสองฝ่าย
แต่ว่าคงไม่ใช่กับผู้หญิงที่ชื่อพอใจคนนี้ เพราะรู้สึกว่าภูผาจะไม่ต้องจ่ายเงินให้เธอแม้สักแดงเดียว ขอเพียงแค่เขาช่วยแก้ปัญหาให้กับสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าที่เธอเคยเติบโตมาเพียงเท่านั้น "ว่าไงเขตแดน เรียบร้อยดี ?" ภูผาถามมือขวาคนสนิท และเป็นคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด คอยจัดการปัญหาทุกอย่างให้เขาได้อย่างเรียบร้อย แม้ว่าปัญหานั้นจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็ตาม "เรียบร้อยดีครับ" เมื่อวานเขตแดนไปพบกับเสี่ยนพ และเคลียส์ปัญหาเรื่องที่ดินของสถานสงเคราะห์เรียบร้อย เพียงแค่บอกว่าตระกูล 'เดชวรวงกุล' ต้องการที่ผืนนี้เช่นกัน เพียงเท่านั้นเสี่ยนพก็เข้าใจและยอมถอยแต่โดยดี "คุณแม่หายดีแล้วเหรอพอใจ ?" หัวหน้างานเอ่ยถาม เมื่อเจอกันตรงเครื่องสแกนบัตร "วันนี้ก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะพี่ ขอบคุณมากค่ะ" วันนี้พอใจรู้สึกไม่ค่อยสดชื่นนัก เพราะศึกหนักที่ภูผามอบให้เมื่อคืนนี้ทำให้เธอระบมไปทั้งตัว แถมยังรู้สึกว่าตัวรุม ๆ เหมือนจะเป็นไข้ ครั้งแรกของผู้หญิง จะเป็นอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่านะ พอใจถามตัวเองขณะที่นำยาพาราเข้าปากจิบน้ำตามและเดินออกไปยังเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ "ว้าว..คุณภูผา" เสียงพนักงานสาว ๆ ฮือฮา ขณะที่คณะของแขกคนสำคัญเดินเข้ามาในโรงแรม "พอใจคงยังไม่รู้ เพราะหยุดงานใช่มั้ยล่ะ คุณภูผาเขาร่วมหุ้นกับโรงแรมของพวกเราแล้วนะ ต่อไปนี้คงมาที่นี่บ่อย ๆ ดีล่ะฉันจะอ่อยให้เต็มที่ เผื่อจะตกถังข้าวสารบ้าง" หน่อยประชาสัมพันธ์อีกคนพูดออกมา ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างส่งให้คณะของภูผา เขาปรายตามองเธอแวบนึงก่อนจะก้าวผ่านไป พอใจหัวใจเต้นตุ้บ ๆ เพราะความรู้สึกดีที่มีต่อเขาเป็นทุนเดิมในตอนแรก แม้ว่าเขาจะย่ำยีศักดิ์ศรีของเธอมากแค่ไหน แต่พอคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วเธอก็อดหน้าแดงไม่ได้ แล้ววันนั้นทั้งวันเธอก็ไม่เจอเขาอีกเลยจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน "ว้าย..!" พอใจร้องว้ายด้วยความตกใจ เพราะขณะที่เธอเดินออกมาจากห้องของตู้ล็อคเกอร์นั้น เธอก็ถูกใครบางคนคว้าเอวเอาไว้และดึงเข้ามาหาตัวเอง แผ่นหลังของเธอจึงกระแทกกับอกแกร่งอย่างแรง "คุณภู" อ้อมกอดแกร่ง และกลิ่นโคโลญจน์ที่คุ้นเคย ทำให้พอใจรู้ทันทีว่าคนที่กำลังกอดกุมเธอในตอนนี้คือใคร "เธอนี่เย็นชาจังนะ ทำเป็นว่าไม่มีอะไรกับฉันได้แนบเนียนมาก" เขาพูดเสียงราบเรียบก่อนจะก้มลงขบเนื้ออ่อนตรงซอกคอของเธอเบา ๆ พอใจสะดุ้งขนลุกเกรียว ไม่เข้าใจคำพูดของเขา ก็เขาเองไม่ใช่หรือไงที่บอกว่าห้ามให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ในครั้งนี้ "คุณภู" "หยุด..ตามฉันมา" พูดจบก็คว้าแขนของเธอให้เดินตามเขาไปที่ลานจอดรถ รถคันใหญ่สีดำเปิดประตูรอเขาอยู่แล้ว ภูผาผลักเธอเข้าไปในรถตู้คันนั้นก่อนจะตามเข้าไป เมื่อเจ้านายขึ้นรถเรียบร้อย เขตแดนก็ปิดประตูและขึ้นไปนั่งด้านหน้าคู่คนขับ รถค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปช้า ๆ "ขยับมานี่" บอกเธอเสียงเย็น พอใจจำต้องทำตามเพราะไม่อยากให้เขาไม่พอใจ เธอขยับเข้าไปใกล้จนต้นขาเรียวของเธอแนบชิดกับต้นขาแกร่งเขาก็จับใบหน้าของเธอเอาไว้และประทับจูบลงมาทันที "อื้อ" พอใจส่งเสียงประท้วงเขาออกมา เพราะเกรงว่าคนขับรถและเขตแดนจะเห็น แต่ภูผาก็ไม่ยอม เขาดูดดึงริมฝีปากของเธออย่างช่ำชองจนเธอเผลอเปิดปาก เขาจึงส่งลิ้นร้อนเข้าไปดูดกระหวัดลิ้นเล็กของเธอ เนิ่นนานจนพอใจเขาจึงยอมปล่อย แต่มือก็ยังล้วงเข้าไปลูบไล้ต้นขาเนียนไม่ยอมหยุด "คุณภูคะ" เธอคิดจะห้ามเขา แต่สายตาดุ ๆ ที่ส่งมา พอใจจึงพูดได้เพียงแค่นั้นและยอมให้เขาทำตามใจ เกือบชั่วโมงจึงมาถึงคอนโคของเขา การจราจรในช่วงเย็นยังคงติดขัดเสมอ "คุณภู วันนี้คุณหญิง อยากให้คุณภูกลับไปทานข้าวที่บ้านนะครับ" เขตแดนบอกกับภูผาก่อนที่ประตูลิฟท์จะปิดลง เขาใบหน้าเรียบเฉยไม่พูดอะไร ก่อนจะโอบเอวเล็กของพอใจเอาไว้หลวม ๆ และพอเข้ามาในห้องแล้ว เขาก็ซุกไซ้ตรงซอกคอของเธอต่อ "คุณภู มะไม่อาบน้ำก่อนเหรอคะ ?" เธอดันคางเขาออกจากซอกคอของตัวเอง ภูผามองหน้าเธอก่อนจะคว้าตัวของเธอแบกขึ้นบ่าพาเข้าห้องน้ำ กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน เสื้อผ้าของเธอเปียกปอนเพราะเขาแกล้งฉีดน้ำใส่ตอนอยู่ในห้องน้ำ "ค้างที่นี่แล้วกัน หรือไม่งั้นเธอก็แก้ผ้ากลับบ้าน" ภูผาพูดจบเขาก็กระโดดขึ้นเตียง ทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่า พอใจจำต้องยอมตามเขาขึ้นเตียงไปหลังจากที่เธอซักชุดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เขาลืมตาขึ้นมาในขณะที่ร่างเล็กของพอใจหลับไปแล้ว มองหน้าเธออย่างไม่เข้าใจตัวเอง ความสัมพันธ์ของเขากับเธอเริ่มล้ำเส้นไปมากแล้ว และคนที่ล้ำเส้นก็คือ..เขา "แย่แล้ว ๆๆ" พอใจลนลานลุกขึ้นมา มองเวลาที่หน้าจอมือถือ "แปดโมงเช้า !" เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะเข้างาน คงไปทำงานไม่ทันแน่ ๆ "ก็โทรลาหัวหน้าสิ" ภูผางัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของเธอรบกวนเขา "จะลาเองหรือให้ฉันลาให้" เมื่อยังเห็นเธอซึมกะทือ ไม่ยอมขยับตัวสักที จึงคว้ามือถือของเธอเอามาไว้ในมือ "อย่าค่ะ เดี๋ยวฉันโทรเอง" และในที่สุดเธอก็ต้องลางานจนได้โดยให้เหตุผลว่าต้องไปรับคุณแม่พรพรรณที่โรงพยาบาล หัวหน้างานคาดโทษเธอเอาไว้ว่าหากเธอลางานบ่อยและกะทันแบบนี้อีกจะโดนหักเงินเดือน พอใจก็จำต้องยอม "หิวแล้ว ไปทำกับข้าวสิ" ภูผาสั่ง พอใจจึงใส่เสื้อคลุมอาบน้ำของเขาเดินเข้าไปในห้องครัว สำรวจดูของสดในตู้เย็นพบว่าไม่มีอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่าและเบียร์ แต่ยังโชคดีที่พอมีพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ เธอจึงต้มบะหมี่ให้เขา "เสร็จแล้วค่ะ" พอใจเดินไปเรียกเขา และพบว่าภูผาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาไม่พูดอะไรเดินตรงเข้าไปในห้องครัวและลงมือทานบะหมี่เงียบ ๆ เธอจึงอาศัยจังหวะนี้เข้าไปอาบน้ำ เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยเขาก็ทานบะหมี่เสร็จพอดี ภูผารู้สึกทึ่งในความรวดเร็วของพอใจ ปกติถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นอย่างน้อยก็เกือบชั่วโมงถึงจะเสร็จ แต่สำหรับเธอแค่สิบห้านาทีเท่านั้น "ออกไปพร้อมกัน จะไปโรงพยาบาลหรือกลับห้องพักเลย ?" "ไปโรงพยาบาลค่ะ" เขาจึงเดินนำเธอออกไปจากห้อง ตรงไปที่ลิฟท์ และระหว่างที่อยู่ในลิฟท์ภูผาก็จูบและขยำหน้าอกเธอจนลงมาถึงข้างล่าง เพราะต้องอาศัยบารมีของเขาในเรื่องของสถานสงเคราะห์เธอจึงยอมทุกอย่าง แม้ว่าเขาจะกระทำราวกับว่าเธอเป็นผู้หญิงราคาถูกก็ตาม ภูผาแวะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลก่อน เขาจึงได้ไปทำงาน เขตแดนรู้สึกแปลกใจ ปกติเจ้านายของเขาไม่เคยกินของซ้ำ ๆ แต่ก็อย่างว่าแหละนะ รสนิยมของคนรวยเขาก็เดาใจไม่ออก บางทีแม่สาวคนนี้อาจจะมีทีเด็ด "ไม่ต้องสงสัยอะไรให้มาก" ภูผาพูดกับเขตแดนเสียงเรียบ ๆ เขตแดนได้แต่ยิ้ม เจ้านายเขานี่เซ้นส์โคตรแรง รู้ได้ไงว่าเขากำลังนินทาในใจ 'มีเงินเข้าบัญชีของคุณ 100,000 บาท' ก่อนจะเปิดไลน์ดูรูปสลิปการโอนเงินที่ภูผาส่งมาให้ ในตอนแรกเธอคิดจะคืนเขาไป แต่แล้วเธอก็เปลี่ยนใจ ใช้เงินจำนวนนี้จ่ายค่าโรงพยาบาลให้คุณแม่พรพรรณละกันสัปดาห์ต่อมาผลการตรวจ DNA ระหว่างน้องภูมิและภูผาก็ออก ผลปรากฏว่าทั้งสองเป็นพ่อลูกกันอย่างไม่ต้องสงสัย ภูผาให้น้องภูมิลาโรงเรียนที่ต่างจังหวัดยาว ๆ จนกว่าจะจัดการเรื่องราวทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ส่วนบ้านของเธอเขาจะส่งคนไปดูแลเป็นระยะ ๆ ภูผาให้เขตแดนอัพเอกสารผล DNA ของเขากับน้องภูมิลงสื่อโซเชียลพร้อมกับรูปที่เขาอุ้มน้องภูมิเอาไว้ด้วย และคอมเมนต์ก็ล้วนเป็นไปในทิศทางที่ดี ไม่นานชื่อของภูผาก็ติดเทรนด์ในการค้นหาอันดับหนึ่งชื่อและธุรกิจของภูผาก็ปรากฏแก่สายตาของผู้คนโดยไม่ต้องพึ่งการโฆษณาเลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้หุ้นในบริษัทของเขาราคาสูงขึ้นอีกเกือบ 15% และโครงการบ้านจัดสรรที่แต่ละหลังราคาห้าสิบล้านขึ้นไปจำนวนหนึ่งพันหลังขายหมดเกลี้ยง ทั้งที่ยังไม่เปิดตัวโครงการนี้ด้วยซ้ำ แค่ให้เปิดจองผ่านเวบไซต์เท่านั้น และ 70% ของคนที่ซื้อต่างก็ซื้อด้วยเงินสด นั่นก็เพราะภาพลักษ์ของภูผาที่เป็นแฟมิลี่แมนนั้นส่งผลให้ผู้คนเชื่อมั่นในตัวของเขาจึงทำให้ทุกคนพร้อมที่จะจ่ายเงินซื้อบ้านในโครงการล่าสุดจนหมดภายในเวลาไม่ถึงเดือน และมีคนไปขุดค้นประวัติของพอใจ เมื่อพบว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาไม่ใช่ไฮโซที่ไหน แต่ก็สามารถ
วันนี้เป็นวันหยุดเขตแดนจึงไม่ต้องไปทำงาน เขาทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืนนี้แล้วก็รู้สึกแปลก ๆ ในหัวใจ หลังจากที่เขาพาผู้หญิงคนนั้นซึ่งเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเธอกลับมาถึงห้องพักของเขาและพาเธอเข้ามาในห้องแล้ว ปรากฏว่า..เธออ้วกแตก เขาจึงจำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าของเธอออกและนำชุดของเธอไปซักและอบแห้ง นำมันไปวางไว้ที่โซฟา เสร็จแล้วตัวเขาก็ออกไปนอนนอกห้อง และพอเธอตื่นขึ้นมาก็เกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อกี้ไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร หวังว่าคงไม่ไปกินเหล้าเมามายแบบเมื่อคืนนี้อีกนะ เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วเขาก็นำตารางงานขึ้นมาทบทวนดู ช่วงสองสามวันที่คุณพอใจกับน้องภูมิมาอยู่กับเจ้านายนี่รู้สึกว่าเขาจะไม่ค่อยได้ตามติดเจ้านายสักเท่าไหร่นัก เพราะเวลาว่างส่วนมากของเจ้านายจะมอบให้เมียกับลูก เขาจึงว่าง ว่างจนมีเวลาไปเที่ยวผับ และได้ประสบพบเจอกับสาวสวยขี้เมาเข้าเขตแดนกวาดสายตาไปบนหน้าจอโน้ตบุ๊คเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปสะดุดกับตารางนัดของเจ้านายในเที่ยงวันวันจันทร์ ภูผาจะต้องไปพบกับ 'วิยะดา วีระโชติกุล' ลูกสาวของท่านรัฐมนตรี ไม่รู้ว่าเจ้านายจะยังต้องไปพบเธอหรือเปล่า เพราะว่าตอนนี้เจ้านายเขาก็จดทะเบ
แล้วคุณหญิงสดศรีก็ลงมือทานขนมจีนน้ำยา ตอนแรกกะว่าจะทานแค่นิดเดียวแต่เพราะน้ำยาที่รสชาดเข้มข้นแต่ไม่ผ็ด กินกับผักเคียงพวกใบแมงลักและผักชีลาวแล้วก็กลมกล่อม จึงทานขนมจีนหมดไปหลายจับ"อร่อยไหมคะ ?"ป้าน้อยเอ่ยถาม หลังจากที่เข้ามาเก็บถาดขนมจีนออกไปและทำความสะอาดโต๊ะ"ก็งั้น ๆ"ป้าน้อยลอบยิ้ม เห็นทานไปตั้งเยอะ ก็ยังไว้ท่า ไม่รู้ว่าจะอะไรนักหนา คุณพอใจน่ารักจะตาย ไม่ถือตัวกิริยามารยาทก็น่ารัก ไม่แปลกที่คุณภูจะรัก ขนาดป้าน้อยเองยังเอ็นดูเลย มีแต่คุณหญิงนี่แหละที่แปลกคน หรือว่าจะต้องเป็นผู้ลากมากดีมีชาติมีตระกูลเท่านั้นถึงจะดีในสายตาคุณหญิงช่วงบ่ายแก่ ๆ น้องภูมิก็ตื่นขึ้นมาจากการนอนกลางวัน คุณหญิงรีบหาข้าวมาป้อนหลานชาย พอตกเย็นหน่อยก็พาไปอาบน้ำอาบท่า โดยที่ไม่ต้องลำบากพอใจเลย เกือบหกโมงเย็นภูผาก็กลับมาถึงบ้าน พอเห็นว่าน้องภูมิอยู่กับคุณย่าก็รีบไปหาภรรยาบนห้องทันที แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะว่าตอนนี้พอใจกำลังทำกับข้าวอยู่ในห้องครัวเมื่อทำกับข้าวเสร็จแล้ว พอใจก็ขึ้นห้องไปเพื่ออาบน้ำ แต่เธอกลับพบว่าภูผานอนอยู่บนเตียงโดยที่ยังไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำ พอเธอเตรียมตัวจะอาบน้ำ ภูผาก็กระโดดลงจากเตี
หลังจากที่ทานข้าวเย็นกันเรียบร้อยแล้ว คุณหญิงสดศรีก็พาน้องภูมิเข้าห้องไป หวังจะให้หลานชายนอนด้วย และหากว่าน้องภูมิสนิทสนมกับท่านมากพอ พอถึงเวลาเขี่ยแม่พอใจทิ้ง หลานชายจะได้ไม่ต้องเสียใจ คุณหญิงสดศรีวางแผนเอาไว้ในใจ "คุณย่าครับ ภูมิคิดถึงแม่"แต่เพราะน้องภูมินั้นติดแม่มากทำยังไงก็ไม่ยอมนอนกับคุณย่า เพราะตั้งแต่เกิดมาหนูน้อยก็มีแม่เพียงคนเดียว คนอื่นอาจจะสนิทได้ง่าย แต่ยังไงตอนนอนอ้อมกอดไหนก็คงไม่อุ่นเหมือนอ้อมกอดแม่"พาภูมิไปหาแม่หน่อยนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ภูมิจะมาหาคุณย่าแต่เช้าเลย นะครับ"และออดอ้อนจนคุณย่าใจอ่อน จนคุณย่าต้องจูงมือหลานชายไปเคาะประตูห้องของลูกชายในตอนสองทุ่มครึ่ง พอใจเป็นคนมาเปิดประตู"แม่คร้าบบ"น้องภูมิกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของแม่ "เชอะ !"โดนแม่สามีสะบัดบ๊อบใส่ พอใจก็หน้าเจื่อน มองตามหลังคุณหญิงด้วยสายตาเศร้า ๆ ก่อนจะปิดประตูเบา ๆ ภูผาเห็นกิริยาของแม่แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ถ้าใช้น้องภูมิละลายความคิดคุณย่าไม่ได้ ก็คงต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดพอใจอุ้มลูกมานอนบนเตียงข้าง ๆ สามี น้องภูมิพลิกตัวไปกอดพ่อทันที"พ่อครับ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปใช่ไหม ?"พอน้องภูมิพูดจบ สองคนผัว
"คุณย่าทานข้าวนิดเดียว อิ่มหรือเปล่าครับ ?"น้องภูมิถามคุณย่าด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้จะเป็นเด็กที่มีอายุยังไม่เต็มสี่ขวบดี แต่น้องภูมิก็ฉลาดและช่างสังเกต ย่ากับหลานนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น"ย่าทานไม่ลง"พูดเสียงอ่อนกับหลานชาย น่ารักซะจริงเชียว"เดี๋ยวปวดท้องนะครับ คุณย่าต้องทานข้าวเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ"คุณหญิงสดศรีอารมณ์ดีขึ้นมาทันที กอดหลานชายเอาไว้แนบอก แล้วก็หอมแก้มซ้ายขวาของเจ้าหนูไปหลายฟอด"ภูมิครับ ไปกันเถอะ"หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแล้ว ภูผาก็ไปตามลูกชาย เพราะวันนี้ต้องไปตรวจ DNA ที่โรงพยาบาล และเขาจะพาพอใจไปจดทะเบียนสมรสด้วยน้องภูมิวิ่งจู๊ดมาหาพ่อ ภูผาจึงย่อตัวลงและอุ้มลูกชายขึ้นมา น้ำหนักยี่สิบกิโลกรัมของน้องภูมิไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา ขนาดแบกแม่ของเจ้าหนูเกือบทั้งคืนเขายังไม่เหนื่อยสักนิด คิดมาถึงตรงนี้ก็มองหน้าภรรยาแล้วก็ยิ้มเล็กน้อย พอใจหน้าแดง เพราะแค่มองสายตาของภูผา เธอก็รู้ว่าเขาคิดอะไร"แม่ครับ ทานอะไรเพิ่มอีกหน่อยนะ ผมให้ป้าน้อยทำของว่างให้แม่แล้ว"พูดจบภูผาก็จูงมือพอใจเดินออกไปขึ้นรถ คุณหญิงสดศรีมองตามหลังลูกชายที่มือหนึ่งจูงเมีย อีกมืออุ้มลูก แล้วก็รู้สึกแปลก ๆ เป็นท่านเอ
"ไม่ได้กลับคอนโดหรือคะ?"พอใจเอ่ยถาม เพราะจำได้ว่าไม่ใช่ทางกลับคอนโด"กลับบ้านน่ะ น้องภูมิอยู่ที่นั่น"เธอจึงนั่งเงียบ ๆ ไปตลอดทาง ภูผาคว้าเอามือของเธอมากุมเอาไว้ เธอสบตากับเขา"ไม่ต้องกังวล ฉันอยู่นี่ทั้งคน"พอได้ฟังคำพูดของเขา พอใจก็รู้สึกมั่นใจอย่างประหลาดว่าเรื่องราวทุกอย่างต้องจบลงด้วยดี ประมาณเกือบชั่วโมงรถหรูคันนั้นก็เคลื่อนตัวมาถึงบ้านของภูผา ไม่สิน่าจะเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า"แม่คร้าบบ พ่อคร้าบบ"เมื่อพอใจกับภูผาเดินเข้าไปในบ้าน น้องภูมิก็วิ่งมาหาทันที เด็กน้อยกางแขนออกจนกว้าง เมื่อวิ่งมาถึงระยะที่จะกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของแม่ได้แล้ว หนูน้อยก็กระโดดและพุ่งตัวสุดแรงเข้าสู่อ้อมแขนของแม่"น้องภูมิ คิดถึงจังเลย กวนคุณย่าหรือเปล่าคะ ?""ไม่ครับ"ซบลงบนบ่าของแม่ หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข "ขอพ่ออุ้มบ้างสิครับ"ภูผาพูดพร้อมกับกางแขนออก น้องภูมิจึงดันตัวเองเข้าสู่อ้อมอกของพ่อ เด็กน้อยมีความสุขมาก ไม่นึกเลยว่าการที่มีแม่กับพ่อพร้อมหน้าจะมีความสุขมากขนาดนี้"ตาภู มา ๆ มาทานข้าว"เอ่ยปากเรียกลูกชายแต่หันไปค้อนให้พอใจ ภูผาจึงจูงมือของเธอ พาเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว ป้าน้อย แม่บ้านเก่าแก่ขอ