LOGIN05 : 20 น. เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก “นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่ “ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ “แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น” “ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขา โอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย “นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ “ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้ “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ “ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน” เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว “เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเลย” “ใครบอกให้ไม่ปล่อยฉันละวันนี้ฉันมีนัดด้วย ต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัว” เสียงจากเมียขาโหดของเขาตอบกลับมาด้วยความเย็นชา “วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ แล้วคุณจะไปไหน” คำถามจากปากผู้เป็นสามีถามทั้งที่นอนหลับตาอยู่ “ก็ไปหาหมอไงจำไม่ได้หรือยังไงวันนี้คุณหมอนัดอัลตร้าซาวด์ ไม่ได้เรื่องจริงๆ แค่นี้ยังจำไม่ได้” เธอพูดจบกำลังเดินไปอาบน้ำ เขาก็ลุกพ้วดขึ้นมาพูด “จำได้สิทำไมจะจำไม่ได้ ผมแกล้งถามไปงั้นแหละ” ความจริงแล้วเขาก็ลืมนั้นแหละแต่แค่กลัวเธอด่าว่าไม่ได้เรื่องแต่หน้าตาดูเลิ่กลักมาก ข้าวฟ่างหันมาด้วยหน้าตาที่ไม่เชื่อในคำพูดของเขา “เหรอ?” สิ้นสุดคำพูดนี้เธอก็เข้าไปอาบน้ำ เกือบไปแล้ว! ลืมได้ยังไงเนี้ยอุส่าจะเอาชนะใจเธอด้วยการเป็นพ่อและสามีที่ดีแต่กลับลืมเรื่องพวกนี้ เขาก็ไปเปิดดูตู้เสื้อผ้าของข้าวฟ่างและเลือกเสื้อผ้าออกมาไว้ให้เธอ ผ่านไปสักครู่.. ข้าวฟ่างเะอก็อาบน้ำเสร็จกำลังจะไปแต่งตัวก็เห็นเสื้อผ้าห้อยไว้ที่หน้าตู้เกิดความสงสัยจึงหันไปถามสามีที่นั่งดูมือถืออยู่ “อะไรเนี้ย ใครเอาเสื้อผ้าฉันออกมาไว้ข้างนอก” เธอหยิบชุดกระโปรงยกขึ้นมาถามวุฒิชัย “ผมเองแหละผมเลือกชุดไว้ให้คุณใส่” ข้าวฟ่างได้ยินแบบนั้นถึงกับกลั้นขำไว้ไม่อยู่เพราะเขาทำตัวแปลกๆ “คุณจะให้ฉันใส่ชุดนี้เหรอ?” ชุดที่เขาเอาออกมานั้นเขาเลือกเสื้อที่ปิดถึงคอแขนก็ยาวและกระโปรงยาวจนจะลากดิน" “ก็ใช่ไงครับ” “ช่วยดูอากาศเมืองไทยด้วยค่ะว่ามันร้อนขนาดไหน” เธอพูดพร้อมกำลังจะเอาชุดใส่เข้าไปในตู้เสื้อผ้าคืนแต่ก็มีมือใหญ่มือหนึ่งมาดึงไว้ “คุณจะทำอะไร” “เอาเสื้อผ้าเก็บไงฉันไม่ใส่หรอกมันร้อน” “ไม่ได้!! คุณต้องใส่” เขาพูดเสียงแข็งใส่เธอหวังให้เธอกลัวเขาและทำตามที่เขาบอก “ขอเหตุผลทำไมฉันต้องทำตามที่คุณบอก” เธอพูดและเงยหน้ามองหน้าเขา “เพราะผมเป็นผัวคุณไม่อยากให้ใส่ชุดที่มันสั้นผมหวง เข้าใจไหม” เขาเดินเข้าไปใกล้เธอจนเธอถอยหลังติดตู้เสื้อผ้าเขายื่นหน้าไปใกล้เธอทำให้เธอรีบหันหน้าหนีเพราะความเขิน ตึกตั๊ก! ตึกตั๊ก! ตึกตั๊ก! หัวใจของเธอแอบเต้นระรัวเร็วขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อหน้าที่หล่อเหลาของเขาเข้ามาใกล้ๆ “ก็ได้ออกไปได้แล้วแต่ฉันขอเลือกที่มันลดความอึดอัดกว่านี้ได้ไหม” เธอพูดให้เขาออกไปเพราะเธอเก็บความเขินเขาไม่ไหว “ได้แต่ห้ามสั้นนะ แต่หัวใจคุณนั้นเต้นแรงมากเลยสงสัยจะเขอนผม” เขาพูดพร้อมยิ้ม “นี่คุณ” เธอพูดพร้อมยกฝามือขึ้น “อย่าตีผมอีกนะ ผมกลัวแล้วครับ” เขาพูดอ้อนเมียของเขา “เลิกกวนประสาทฉันได้แล้วรีบไปอาบน้ำ” “หลงรักผมเข้าแล้วละสิ ผมเข้าใจนะเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่รักผมสักคนไม่มีจริงๆ” เขาพูดหลงตัวเองเพียงเพราะเข้าไปใกล้เธอแล้วหน้าเธอแดงและใจเต้นแรง “แหวะ หลงตัวเองผู้หญิงอื่นอาจจะหลงคุณแต่ฉันไม่!” เธอพูดพร้อมเอาเสื้อชุดกระโปรงออกมาจะใส่ “คุณแน่ใจนะ” เขาพูดและกำลังจะเดินไปอีกรอบ แต่ก็ต้องหยุดและรีบเดินไปอาบน้ำเพราะเสียงอันทรงพลังของเมีย “หยุดเลย!! ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ไม่งั้นฉันจะไปคนเดียวไม่รอคุณ” เสียงขู่ที่ทำให้เขากลัวเพราะเขาอยากไปดูอัลตร้าซาวด์ลูกของเขา “ครับ รอด้วยนะ” เขารีบตรงเข้าไปอาบน้ำทันที ทำให้ข้าวฟ่างยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เอ๊ะทำไมฉันต้องยิ้มด้วยนะ ฉันไม่มีทางหลงรักผู้ชายเจ้าชู้แบบนี้หรอก เธอรีบแต่งตัวแต่งหน้าและลงไปรอเขาที่ห้องทานอาหาร เธอทานข้าวต้มรองท้องเพราะไม่ค่อยหิวสักเท่าไหร่และดื่มนมบำรุงลูกในท้องเธอ ท้องของเธอดิ้นทำให้เธอยิ้มอย่างมีความสุขเพราะตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วเธอยังมีลูกตัวเล็กๆ ของเธอที่อยู่ในท้องเขาอาจจะไม่ได้เกิดจากความรักอาจเกิดจากความผิดพลาดแต่เธอก็รักเขา คิดถูกแล้วที่ไม่เอาเขาออกเพราะเขาไม่ได้ผิดอะไรเลยเธอลูบท้องตัวเองและยิ้ม วุฒิชัยก็ลงมาทานอาหารและเมื่อทั้งคู่ทานอาหารเสร็จและก็ขึ้นรถไปที่โรงพยาบาลเมื่อทั้งคู่ถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็เรียกทั้งสองไปที่ห้องอัลตร้าซาวด์ ทั้งคู่เห็นลูกที่อยู่บนจออัลตร้าซาวด์ก็ทำให้ยิ้มอย่างมีความสุขเพราะนั้นคือหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่เกิดจากทั้งคู่ถึงจะเกิดจากความผิดพลาดและเกือบที่จะไม่เอาเขาไว้แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเขานั้นมีค่าขนาดไหน ลูกของทั้งคู่เป็นผู้หญิง เมื่อออกมาจากโรงพยาบาลแล้วทั้งคู่ก็เดินไปที่ลานจอดรถ “คุณผมอยากไปซื้อของไว้ให้ลูก” วุฒิชัยพูดขึ้นมาระหว่างเดิน “อีกตั้งนานกว่าลูกจะคลอดคุณจะรีบไปไหน” “ผมอยากเห็นหน้าลูกไวๆ อยากให้ลูกหน้าเหมือนผมจะได้สวยๆ” คำพูดของเขาทำให้ข้าวฟ่างเบื่อหน่ายมากเพราะค่อนข้างหลงตัวเอง “แหมทีตอนแรกจะให้ฉันเอาออกไม่ยอมรับผิดชอบทีมาตอนนี้มาทำเป็นเวอร์” “ตอนนั้นผมยังรักสนุกหนิแถมยังคิดไม่ได้แต่ตอนนี้ผมคิดได้แล้วนะ” ข้าวฟ่างได้ยินคำพูดของเขาทำให้เธอหันหน้าไปมองหน้าเขา และนึกในใจว่าเขาจะคิดได้จริงๆ รึป่าวเพราะเขาเป็นคนเจ้าชู้มากและรักใครไม่เป็นด้วย เธอกลัวว่าจะต้องเสียใจเหมือนที่ผ่านมาขนาดภูริทัตที่รักเธอคนเดียวแถมไม่เคยสนใจใครเลยยังเปลี่ยนใจได้ไวขนาดนั้นแล้วนี้คนเจ้าชู้จะกลับใจได้จริงรึป่าว “คิดได้ยังไงเหรอ?” วุฒิชัยหันหน้ามามองหน้าข้าวฟ่าง “ผมอยากสร้างครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกที่รักกัน คุณจะหันมารักผมได้ไหม?” >>>>>ติดตามตอนต่อไป
หลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ







