" เฮ้ย! " พวกคนร้ายที่มาฆ่าเขาร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าพวกเขาจะโดดลงไปจริงๆเพราะถ้าหากโดดลงไปน้ำตกสูงขนาดนี้โอกาสรอดก็แทบไม่มีเหลือเลย " เอาไงดีลูกพี่ พวกมันโดดลงไปแล้ว " " จะเอาไงล่ะ ก็กลับไปรายงานเจ้านายสิหน้าผาสูงขนาดนี้แล้วข้างล่างก็ยังเป็นน้ำตกเชี่ยวอีก มึงคิดว่าพวกมันจะรอดหรือไง " " ก็จริงของพี่ โดดลงไปก็มีแต่ตายกับตาย ไอ้มาคัสมันกล้าบ้าบิ่นสมกับที่เป็นมาเฟียใหญ่จริงๆ " คนร้ายหลายๆคนอดชมในความใจกล้าของมาคัสไม่ได้ หากเป็นพวกเขาคงไม่กล้ากระโดดลงไปแบบนี้แน่ หลังจากนั้นพวกคนร้ายก็รีบกลับมารายงานนายของตัวเองว่ามาคัสและปลายฝันได้โดดลงไปที่หน้าผาเรียบร้อยแล้ว โอกาสรอดมีน้อยมากเพราะหน้าผานั้นทั้งสูงและที่ตรงนั้นเป็นป่าทึบแทบไม่มีคนเข้าไปเลยด้วยซ้ำ " โดนัล คุณปลายฝันโทรหามึงหรือเปล่าวะ " เมื่อเพื่อนพูดออกมาอย่างตกใจ เขาจึงรีบคว้าโทรศัพท์ที่วางไว้ที่รถตอนออกไปซื้ออาหารสดกับซานโต้ " อืม เกือบสิบสายเลย " " ของกูก็เหมือนกัน " ซานโต้ที่เริ่มเอะใจจนเปิดดูข้อความที่ปลายฝันส่งมาให้พร้อมกับแชร์โลเคชั่นมาไว้เรียบร้อย " แย่แล้วโดนัล คุณปลายฝันส่งข้อความมาว่ามีคนร้ายตามรถของนาย
" พวกผมรับรองนะครับว่าพวกผมไม่ใช่คนร้าย แค่หลงทางมาเท่านั้นจริงๆ พวกผมขอแค่ความช่วยเหลือไม่กี่วันเท่านั้น หากหาทางออกเจอแล้วจะรีบออกไปทันทีครับ " มาคัสพูดเสริมและน้ำเสียงของเขาก็ดูหนักแน่นจนทำให้แม่ของเด็กชายคนนั้นเชื่อ แล้วก็เดินไปหาผู้เป็นสามีของตนเพื่อมาที่นี่ พอมาถึงเธอก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้กับผู้เป็นสามีฟัง ซึ่งสามีของเธอเป็นผู้นำหมู่บ้านของที่นี่ " เอาล่ะๆ ในเมื่อมีคนเดือดร้อนมาพวกเราก็ต้องช่วยเหลือ วันนี้พ่อหนุ่มกับแม่หนูพักที่นี่ก่อนแล้วกัน มีกระท่อมอยู่หลังนึงเป็นของลูกชายของฉันเอง ตอนนี้มันไปหาของป่ากว่าจะกลับมาก็อีกหลายวันไปนอนที่นั่นกันก่อนก็แล้วกัน " " ขอบคุณมากๆเลยนะคะคุณลุง " ปลายฝันเอ่ยขอบคุณในความมีน้ำใจของคนที่นี่" แล้วแผลของพ่อหนุ่มเดี๋ยวฉันจะไปหายาสมุนไพรมาให้ ระหว่างนี้ก็ไปอาบน้ำอาบท่าให้สะอาดกันก่อนนะ ไปแม่พาคุณทั้งสองคนเข้าไปดูที่พักเถอะ แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจนะถ้ายังไม่รู้จะหาทางออกยังไงก็อยู่ที่นี่ไปก่อน อยู่หลายๆวันก็ได้ " " ขอบคุณมากครับคุณลุง " มาคัสเอ่ยขอบคุณเจ้าของสถานที่พร้อมกับเดินตามป้าไปจนถึงกระท่อมหลังเล็ก " ถึงแล้วจ่ะ พออยู่ได้ไหม " " สบายม
" มากันแล้วหรอพ่อหนุ่ม มาๆเมียฉันทำอาหารด้วยรอเยอะแยะเลย " ผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้เอ่ยชวนมาคัสและปลายฝันให้นั่งลงกินข้าวด้วยกัน ซึ่งในกระท่อมหลังนี้นั่งกินข้าวที่พื้น แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับปลายฝันเลยเพราะที่บ้านเธอก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เธอจึงชำเลืองมองหน้าของคนตัวโตที่มากับเธอเพราะเขาคงไม่เคยเจอแบบนี้ และแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มและการพยักหน้าจากเขานั่นหมายความว่าเขาโอเคกับการกินข้าวแบบนี้ ทั้งสองจึงนั่งลงกับพื้นร่วมวงกินข้าวซึ่งปลายฝันกับมาคัสนั่งข้างกับจ้อยเด็กที่พวกเขาตามมา" กินเยอะๆนะแม่หนู ป้าไม่รู้ว่าของป่าแบบนี้จะเคยกินกันหรือเปล่า แต่ทุกเมนูป้าขอบอกว่ามันอร่อยมากๆเลยล่ะ " ปลายฝันมองดูอาหารหลากหลายเมนูที่เธอยังไม่เคยกิน แต่หนึ่งในนั้นก็มีเมนูที่เธอรู้จักดีคือไข่เจียว สำหรับเธอเธอกินได้หมดแต่ไม่รู้ว่ามาคัสจะกินอะไรได้บ้างแต่ก็ยังดีที่ยังพอมีไข่เจียวให้เขาบ้าง " คุณรู้จักเมนูอาหารพวกนี้มั้ยคะ พอกินได้ไหม " ในระหว่างที่เธอถามเขาเธอก็ตักไข่เจียวมาใส่ในจานของเขาไปด้วย ผู้นำชุมชนและภรรยาก็เห็นในความน่ารักของทั้งสองคนด้วยเช่นกัน " ผมทานได้ ว่าแต่คุณเถอะทานได้หรือเปล่
คนตัวโตก้มลงมาบดจูบเธอที่นั่งอยู่ในอ้อมแขน ครั้งนี้เขาทำมันอย่างละมุนละไม เต็มไปด้วยความปรารถนา เขาคิดถึงเธอเหลือเกินระยะเวลาเกือบเดือนสำหรับเขามันเหมือนเกือบปีเลยก็ว่าได้ " อื้อ...." เสียงครวญครางในลำคอดังออกมาเบาๆเพราะร่างบอบบางกำลังรู้สึกเคลิบเคลิ้มตามกับรสสัมผัสที่ร่างสูงเป็นคนมอบให้ ริมฝีปากหนาก็ทำการบดจูบอยู่กับริมฝีปากบางส่วนมือหนาข้างหนึ่งก็กอดเอวของเธอไว้แน่น อีกข้างที่ยังว่างก็เลื่อนขึ้นมาเกาะกุมเต้างามของเธอเอาไว้ พร้อมกับขยำมันอย่างไม่เบานักตามแรงอารมณ์ แต่นั่นก็สร้างความกระสันให้กับปลายฝันได้เป็นอย่างดี" เสียวหรอสาวน้อย น้ำไหลเยิ้มเชียว "เขาอดที่จะพูดแซวเธอไม่ได้ เมื่อผละออกจากรสจูบออกมาแล้วมือหนาของเขาเลื่อนลงมาต่ำจนถึงกลีบกุหลาบคู่งามของเธอ และเขาก็สัมผัสมันได้ว่าตอนนี้เธอพร้อมสำหรับการรับตัวตนใหญ่โตของเขาแล้ว ส่วนร่างบอบบางเมื่อถูกแซวแบบนั้นก็หน้าแดงซ่านด้วยความเขินอาย จะให้เธอพูดไปได้อย่างไรว่าตอนนี้อารมณ์ของเธอเตลิดเปิดเปิงไปไกลแล้ว ถ้าจะให้หยุดตอนนี้ก็เหมือนถูกถีบให้ตกสวรรค์ดีๆนี่เอง ร่างสูงอุ้มตัวเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว จากนั้นก็พาเธอเข้าไปในมุ้งเล็กๆหลังนั้นที่เ
เช้านี้มาคัสตื่นแต่เช้ามืดเพราะมีนัดกับผู้นำชุมชนของที่นี่เพื่อเข้าไปในเมือง เขาเลือกที่จะไม่พาเธอไปด้วยเพราะเมื่อคืนเขาเล่นงานเธอหนักเลยปล่อยให้วันนี้เธอได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่" อ้าว! พ่อหนุ่ม เมียไม่ไปด้วยกันหรอ? " ผู้นำชุมชนของที่นี่ถามออกไปเพราะเมื่อวานทั้งสองคนตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ " วันนี้ผมให้เธอพักผ่อนน่ะครับลุง พอดีเมื่อวานเธอดูเพลียๆ " เขาแก้ต่างให้เธอเพราะเมื่อวานกว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่ก็เหนื่อยมากจริงๆแถมเมื่อคืนเขายังไม่ปล่อยให้เธอได้นอนพักอีก " งั้นเราก็รีบไปกันเถอะ " ผู้นำชุมชนของหมู่บ้านแห่งนี้พามาคัสเดินทางตั้งแต่เช้าจนมาถึงในตัวเมืองในช่วงสายๆหลังจากนั้นก็พาไปร้านขายของชำซึ่งมีบริการโทรศัพท์ให้เช่า เขาไม่รอช้ารีบต่อสายหาบอดี้การ์ดคนสนิททันที" นั่นใคร " ซานโต้เมื่อรับโทรศัพท์ก็เลยถามปลายสายทันทีเพราะเป็นเบอร์แปลกโทรเข้ามา " ฉังเอง " มาคัสพูดเพียงเท่านั้นคนปลายสายก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคือใคร " นาย!!! นายเป็นยังไงบ้างครับ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน ทำไมผมตามหาตามแนวชายป่าตั้งแต่เมื่อวานยังไม่เจอนายเลยครับ " ซานโต้ที่พยายามรวบรวมสติ แ
หลังจากที่เขานัดแนะกับบอดี้การ์ดคนสนิทเสร็จแล้วก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งพร้อมกับเห็นปลายฝันที่หลับสนิทไปแล้ว ส่วนตัวเขาเองก็เดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกายแล้วกลับมาพักผ่อนพร้อมเธอ แต่เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วแล้วกำลังตัวเอนตัวลงนอนพักผ่อนก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีก " มาคัสวันนี้ว่างหรือเปล่าลูก มาหาแม่ที่บ้านหน่อยสิ วันนี้แม่ชวนหนูดารินมาทานข้าวกับเราที่นี่แล้วห้ามปฏิเสธแม่นะ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆนานๆน้องจะมีคิวว่างที ช่วงนี้น้องกำลังฮอตกว่าจะเคลียร์คิวให้เราได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเพราะฉะนั้นห้ามปฏิเสธเด็ดขาด " เขาฟังผู้เป็นแม่พูดพร้อมกับถอนหายใจแล้วหันหน้าไปมองหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างๆตอนนี้ รู้สึกหนักใจขึ้นมาทันที ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น เขากำลังสับสนว่าจะอยู่กับเธอหรือจะออกไปดี ทั้งๆที่เพิ่งผ่านเรื่องราวร้ายๆมาด้วยกัน เขาอยากจะอยู่ปลอบได้ใจเธอสักหน่อย แต่เมื่อขัดผู้เป็นแม่ไม่ได้ก็จำเป็นที่จะต้องไป เพราะถ้าแม่บุกมาถึงที่นี่แล้วเห็นเธอเข้าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ แม่เขาไม่ชอบผู้หญิงอย่างว่า เขาจึงไม่อยากให้เธอเสียหายตอนนี้ " ครับแม่ ผมจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้ " หลังจากวางสายจากผู้เ
" แล้วคืนนี้ก็ไม่ต้องกลับคอนโดนอนที่คฤหาสน์ของเรานี่แหละ " คุณหญิงฤทัยกำลังคิดแผนที่จะให้ลูกชายตัวดีได้อยู่ใกล้ชิดกับดารินลูกสะใภ้ที่เธอหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ " ผมมีธุระต้องไปจัดการครับแม่ คงอยู่ค้างที่นี่ไม่ได้ " มาคัสตอบปฏิเสธไป จะให้เขาทิ้งเมียตัวน้อยของเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ในเมื่อป่านนี้เธอคงนอนรอเขาอยู่ที่คอนโดแล้ว " มาคัสถือว่าแม่ขอ นับจากวันนี้ไปจนถึงวันหมั้นค้างที่นี่กับแม่ แม่กลัวว่าลูกจะทำตัวเหลวไหล " ดูท่าทางลุกลี้ลุกลนของผู้เป็นลูกชายคุณหญิงฤทัยก็เริ่มจะสงสัยแล้วเหมือนกัน หรือว่าเจ้าลูกชายตัวดีของเธอแอบซุกหญิงเอาไว้ที่ห้องจริงๆ ถึงได้ลุกลี้ลุกลนจะกลับให้ได้ แต่ก็ไม่เห็นว่าเจ้าลูกชายตัวดีจะพูดอะไรออกมาสักคำ เธอไม่ใช่แม่ผัวที่แสนใจร้ายหรอกนะ หากลูกชายจะรักใครตนก็พร้อมจะรักด้วยอยู่แล้ว แต่ขออย่างเดียวต้องไม่เป็นผู้หญิงประเภทนั้น " ผมอยู่ไม่ได้จริงๆครับคุณแม่ ผมบอกแล้วไงว่าผมมีธุระที่จะต้องไปทำ " เขาพยายามหาทางรอดจากสถานการณ์นี้อยู่ แต่ดูเหมือนหนทางจะจนมุม เพราะแม่ของเขาก็ยื่นไพ่ใบสุดท้ายออกมาเช่นกัน " ถ้าแกยังเห็นว่าฉันเป็นแม่ อยู่ที่นี่จนกว่าจะถึงวันหมั้น " คุณหญิ
ทางด้านร่างบอบบางของปลายฝันเองเมื่อวางสายไปจากเขาแล้ว เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างฟูมฟาย เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมช่วงนี้ถึงได้อ่อนแอนัก เอาแต่ร้องไห้ทั้งที่เมื่อก่อนเธอเข้มแข็งจะตายไป ต่อให้เจอเรื่องราวแย่ๆมากแค่ไหนก็ไม่เคยได้เห็นน้ำตา มะลิเพื่อนของเธอยังทึ่งในความเข้มแข็งของเธอเลย แต่พอดูเธอวันนี้สิอ่อนแอจนหาความเข้มแข็งไม่เจออีกแล้ว " อดทนเอาไว้ปลายฝัน อีกไม่นานเธอจะได้ไปจากที่นี่ จะไม่ต้องมาเจอเรื่องทุกข์ใจแบบนี้อีกและจะได้ไม่ต้องมาเป็นก้างขวางคอของเขาและคนรัก เธอก็เห็นแล้วนี่ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้ว ก็คงไม่ต้องเดาว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น " เธอเฝ้าคิดไปต่างๆนานา จากที่จะได้นอนหลับฝันดีเพราะได้คุยกับเขาก่อนนอน กลายเป็นว่ามีเรื่องให้เครียดก่อนนอนอีกจนได้ และวันนี้กว่าเธอจะหลับลงก็เกือบจะถึงเช้าวันใหม่อยู่แล้ว เธอพยายามห้ามใจไม่ให้คิดแต่ก็นั่นแหละเจ้าใจไม่รักดีห้ามได้ที่ไหนกัน หลังจากวันนั้นนี่ก็เป็นเวลาเกือบสามสัปดาห์แล้วที่เขาไม่มาหาเธอที่คอนโดเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน แต่เขายังโทรหาเธออยู่เรื่อยๆ มันจึงทำให้เธออุ่นใจขึ้นมาได้บ้างว่าเขายังไม่ได้หายไปไหน แต่เช
มาคัสหลังจากที่ช่วยเมียสาวถอดชุดเจ้าสาวออกเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ก้มลงจูบที่แผ่นหลังบางของเธออย่างแผ่วเบาด้วยความเสน่หา กลิ่นกายที่ไม่ว่าจะสูดดมสักกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ พร้อมกับเลื้อยไปเรื่อยๆมาจนถึงไหล่บอบบางและมาซุกไซร้ซอกคอของเธออย่างบ้าคลั่ง กลิ่นกายเฉพาะตัวของเธอที่เขาสูดดมเมื่อไหร่ก็เป็นนั้นต้องเคลิบเคลิ้ม เขาชอบสูดดมกลิ่นกายของเมียตัวน้อยแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเธอทำให้เขารู้สึกมีพลังและสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่ใช้น้ำหอมส่วนมากกลิ่นของเธอจะมาจากแป้งเด็กอ่อนๆเท่านั้น ทำให้มาคัสรู้สึกผ่อนคลายและอยากเข้าไกลตลอดเวลา " อื้อ...ไม่อาบน้ำก่อนหรอคะที่รัก เดินในงานทั้งวันฝันตัวเหม็นจะแย่ " เธอเอ่ยทักท้วงเขาเพราะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน วันนี้เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ทั้งรับแขกแล้วทั้งยังรับมือกับลูกชายตัวน้อยทั้งสองคนที่วิ่งเล่นจนรอบงานอีก " ไม่ต้องอาบหรอกที่รัก คุณตัวหอมจะตาย ผมรอไม่ไหวแล้ว " เขาจับเธอให้หันหน้ามาหาเขาพร้อมกับดันตัวเธอให้ไปชิดกับผนังห้อง ซึ่งตอนนี้เธอมีร่างกายเปลือยเปล่าแล้ว หลังจากที่เขาถอดชุดแต่งงานของเธอออกเมื่อสักครู่เขาไม่รอช้ารีบถอ
และแล้วก็มาถึงวันที่มาคัสและปลายฝันเข้าสู่ประตูวิวาห์ ที่ทางครอบครัวของมาคัสจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้สมเกียรติลูกชายคนโตแห่งไมโลเวอร์ " ยัยฝัน เรายินดีด้วยนะ ในที่สุดก็เป็นฝั่งเป็นฝากับเขาสักทีเรื่องจบลงแบบ Happy Ending แบบนี้ฉันก็ดีใจกับแกด้วย " มะลิและเพื่อนสาวคนสนิทที่ตอนนี้อยู่ในห้องแต่งตัวเจ้าสาวพร้อมกับเพื่อนอีกสองสามคน " ขอบใจแกมากนะ วันนั้นถ้าไม่มีแกชีวิตฉันก็ไม่รู้จะเป็นยังไง ขอบคุณที่รักฉันและหลานๆนะ "" แกเป็นเพื่อนฉัน เป็นเพื่อนแท้ แกสุขฉันก็สุข แกเศร้าฉันก็เศร้า " ปลายฝันลุกขึ้นกอดเพื่อนสาวด้วยความดีใจพลันน้ำตาก็กำลังจะไหลลงมา จนเป็นมะลิเองที่ต้องห้ามเอาไว้ก่อน " หยุดร้องไห้ไปเลยนะแก เดี๋ยวก็ไม่สวยหรอก วันนี้เป็นวันสำคัญของแก แกต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหม ห้ามร้องไห้เด็ดขาดไม่งั้นถ่ายรูปออกมาจะไม่สวยเอานะ " ปลายฝันนั่งยิ้มให้กับเพื่อนพร้อมกับปาดน้ำตาน้อยๆออก " แต่งตัวเสร็จกันหรือยังลูก ใกล้จะได้ฤกษ์แล้วนะ " รำพาที่ขึ้นมาตามลูกสาวเพราะตอนนี้ใกล้จะถึงฤกษ์ดีแล้ว " เสร็จแล้วจ่ะแม่จ๋า " ปลายฝันตอบผู้เป็นแม่ พร้อมกับลุกขึ้นนั่ง จึงทำให้รำพาแทบตกตะลึง ลูกสาวของเธอสว
หลังจากที่ปลายฝันตัดสินใจยกคาเฟ่ให้กับนิดหน่อยไปแล้วเพราะเธอรักเหมือนกับครอบครัวจะริงๆ ก็ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯพร้อมกับมาคัสและลูกๆ ทีแรกนิดหน่อยไม่อยากรับเพราะเกรงใจ แต่พอมารู้เหตุผลว่าปลายฝันจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างถาวรและไม่อยากยกคาเฟ่นี้ให้กับใครนอกจากเธอ เธอจึงต้องรับมันไว้พร้อมกับขอบคุณปลายฝันซ้ำๆที่เอ็นดูเธอขนาดนี้ ตอนนี้ทั้งสี่คนเดินทางมาถึงคฤหาสน์ไมโลเวอร์เรียบร้อยแล้ว และยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านกำลังจะเข้าไปแต่คุณหญิงฤทัยและคุณมอร์แดนเจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับหลานๆเสียก่อน ด้วยทนไม่ไหวอยากเห็นหน้าหลานๆเต็มแก่แล้ว ได้ยินข่าวว่าพิมพ์เดียวกับพ่อมาเลย " ตามาคัสนี่คือหลานชายทั้งสองคนของพ่อกับแม่ใช่ไหม ทำไมน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ล่ะ " คุณหญิงฤทัยที่จะเดินตรงเข้าไปกอดหลานชาย แต่ผู้เป็นหลานชายก็เดินเข้าไปหลบหลังแม่ของตัวเองโดยอัตโนมัติ " เอ่อ...ลูกเรากลัวแม่หรอมาคัส หรือว่าแม่ทำอะไรผิดไปหรือเปล่า " " เปล่าหรอกครับคุณแม่ เด็กแฝดอาจจะยังเด็ก คงยังไม่ชินน่ะครับ ให้เวลาแกสักหน่อยนะครับคุณแม่ " " ได้ลูก แม่รอได้ แล้วนี่เมียเราใช่ไหมปลายฝันใช่ไหมลูก " คุณหญิงฤทัยเดินเข้าไปหา
มาร์คัสมองหน้าลูกชายพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ ลูกชายของเขาเมื่อโตขึ้นก็ต้องเป็นทายาทสืบทอดที่นี่ต่อจากเขาและน้องชายอยู่แล้ว " ที่นี่ที่ทำงานของพ่อเองครับ แล้วต่อไปก็จะเป็นของลูกทั้งสองคนรู้ไหมครับ " มาคัสบอกกับลูกชายที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับสถานที่แปลกใหม่แห่งนี้ " " จริงหรอครับ ที่ทำงานคุณพ่อทำไมกว้างจัง ไคเลอร์อยากมาที่นี่ทุกวันเลย " " จริงสิลูก พอโตขึ้นลูกก็จะได้มาที่นี่จนเบื่อเลยล่ะ ถึงตอนนี้อย่าบ่นให้พ่อได้ยินก็แล้วกัน " มาคัสให้ลูกชายและภรรยานั่งรออยู่ที่โซฟาพร้อมกับบอกให้เลขาหาขนมมาให้ในระหว่างที่เขาจัดการกับเอกสารตรงหน้า เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็จัดการกับเอกสารตรงหน้าจนจะเสร็จแต่เมื่อหันไปมองลูกน้อยทั้งสองคนก็ไม่ยอมนอนทั้งที่เมื่อวานก็นอนกลางวันกันไป " ฝัน ลูกเราไม่นอนกลางวันหรอ "เขาเงยหน้าขึ้นมาถามภรรยาสาว " นั่นสิคะ ปกติตอนนี้แกต้องง่วงแล้ว " มาคัสลุกขึ้นแล้วเดินมาหาลูกชายทั้งสองคนที่ตาแทบจะปิดอยู่แล้ว แต่ยังไม่ยอมหลับสักที " ไคเลอร์ คาร์ลอสทำไมไม่ยอมนอนล่ะลูก " " ผมพวกผมกลัวว่าถ้าหลับแล้วคุณพ่อจะหายไป " คำพูดที่แสนไร้เดียงสาของลูกชายทำเอาเขาแทบชะงัก พร้อมกับปลายฝันที่จุกในอ
เช้านี้ปลายฝันตื่นขึ้นมาทำอาหารตั้งแต่เช้าเธอตื่นแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่มีลูกน้อยเธอต้องทำอาหารเช้าไว้ให้กับลูกของเธอ เพราะตื่นขึ้นมาลูกของเธอก็จะหิวเลย ถ้าเธอไม่ทำอาหารไว้ลูกของเธอก็จะบ่นหิวไม่หยุดแล้วงอแงทั้งวัน แต่ละวันกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวให้เด็กน้อยทั้งสองคนก็กินเวลาไปนานพอสมควร เธอเคยไม่ทำอาหารเช้าไว้รอลูกผลลัพธ์คือเจ้าสองแฝดงอแงหนักมากๆ ทั้งอยากให้เธอกอดไม่ไปไหน ทั้งหิว จนเธอไม่รู้ต้องแยกร่างยังไงเลย มาคัสที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอก็รีบลงมาข้างล่าง กวาดสายตามองไปแล้วเจอกับเธอที่อยู่ในครัว กำลังทำอาหารอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปแล้วกอดเธอจากทางด้านหลัง " อุ๊ย! ทำอะไรของคุณ ฝันตกใจหมด ปล่อยกอดเดี๋ยวนี้นะ " เธอออกคำสั่งกับเขาแล้วร่างสูงก็ปล่อยกอดออกจากเธอแต่โดยดี " ทำอะไรกินครับทำไมหอมจัง " คำพูดนี้ทำให้เธอนึกไปถึงตอนที่เธอทำอาหารให้เขาทานในตอนแรกๆที่ยังอยู่คอนโดด้วยกัน แต่ก็ต้องรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งแล้วหันมาโฟกัสที่อาหารตรงหน้าแทน" ซุปมันฝรั่งค่ะ ไคเลอร์กับคาร์ลอสชอบเมนูนี้ แล้วก็ชอบให้ฝันทำให้กินเป็นประจำ " มาคัสฟังที่เธอพูดอย่างตั้งใจพร้อมกับจดจำข้อมูลเกี่ยวกับลูกๆของเข
ร่างสูงใช้ความหน้าด้านหน้าทนเข้าแลกและตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว โดยที่เขาอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเธอว่าเขาเดินทางดึกๆดื่นคงอันตรายมากแน่ เพราะเขาไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้ ทั้งที่จริงๆแล้วเขามาทำงานที่โรงแรมนี้ก็ออกบ่อย ทำไมเขาจะไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้กัน นอกจากเขาจะรู้จักเส้นทางแล้วคนทั้งเมืองยังรู้จักเขาอีกด้วย เพราะครอบครัวเขาค่อนข้างเป็นที่รู้จักของคนในแถบนี้ในฐานะนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองนี้ " บ้านหลังนี้มีแค่สองห้อง ซึ่งเป็นห้องของฝันแล้วอีกห้องเป็นของไคเลอร์กับคาร์ลอส คืนนี้คุณนอนที่โซฟาได้ไหมคะ แต่ถ้าคุณนอนไม่ได้จะกลับไปนอนที่โรงแรมของคุณก็ได้นะ " ที่เธอรู้ว่าเขามีโรงแรมเพราะก่อนหน้าที่เขาจะมาบ้านเธอ เขาได้เล่าให้เธอฟังว่าเพราะต้องมาทำงานที่นี่เขาถึงได้เจอกับเธอโดยบังเอิญ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีโอกาสที่จะได้เจอเธอเพราะเธอมาไกลถึงที่นี่ แล้วเขาก็ไม่ได้มีเส้นสายมากพอที่จะตามหาเธอถึงหมู่บ้านแถวชานเมืองแบบนี้ " ผมนอนที่ไหนก็ได้ ขอแค่ได้อยู่ใกล้คุณกับลูก หรือถ้าคุณจะใจดีให้ผมขึ้นไปนอนกับคุณ... " " ไม่ค่ะ " เธอตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด ถ้าให้เขาไปนอนกับเธอ
ปลายฝันที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองภายใต้อ้อมกอดอบอุ่นของเขา ที่เธอเองก็โหยหามันเช่นกัน เขาบอกคิดถึงเธอแต่สิ่งที่เธออยากได้ยินไม่ใช่คำนี้เลยสักนิด เธออยากได้ยินคำพูดที่สามารถยืนยันได้ว่าเธอกับเขาคิดตรงกัน เธอจะไม่ยอมให้อภัยเขาจนกว่าเขาจะพูดคำนั้นออกมา " แต่ฝันไม่อยากกลับไปเป็นนางบำเรอของคุณอีกแล้ว ตอนนี้ฝันมีชีวิตใหม่แล้ว แล้วเด็กๆก็อยู่ได้โดยที่มีฝันเป็นแม่แค่คนเดียว " มาคัสใจแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาไม่มีทางทนได้แน่หากไม่มีเธออยู่ในชีวิต " โถ่ฝัน คุณไม่ใช่นางบำเรอ และผมไม่มีทางให้คุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรอกนะ คุณเป็นเมียผมมาตั้งแต่ทีแรกผมไม่เคยคิดแบบนั้นกับคุณเลย ผมขอโทษที่ตอนนั้นปากผมมันไม่ดี ผมมันปากเสีย คุณจะลงโทษผมยังไงก็ได้ แต่อย่าทิ้งผมไปอีกเลยนะ ผมอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าไม่มีคุณกับลูกๆ " " จะลงโทษคุณยังไงก็ได้อย่างนั้นใช่ไหมคะ " มาคัสถึงกับหน้าซีดเผือก เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาและสายตาแบบนั้นของเมียตัวน้อย " ครับ ผมยอมทุกอย่างขอแค่คุณไม่ทิ้งผมไป แล้วกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิม " " คุณต้องเอาชนะใจเด็กๆให้ได้ก่อนถ้าคุณเข้ากับไคเลอร์และคาร์ลอสไม่ได้คุณ
มาคัสทำหน้าสงสัยว่าทำไมเธอต้องบอกว่าไม่ใช่ลูกของเขาในเมื่อ DNA บนหน้าของเด็กแฝดทั้งสองคนก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่าเหมือนเขาขนาดไหน ต่อให้เธอจะโกหกยังไงเขาก็ไม่มีทางเชื่อ ลูกของเขาเขาทำเองกับมือแถมยังสำเนาถูกต้องขนาดนี้อีกด้วย " คุณอย่ามาโกหกผมฝัน คุณหนีผมมาพร้อมกับลูกทำไมผมจะไม่รู้ " ปลายฝันรู้สึกตกใจอีกครั้งทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ ทั้งที่เธอไม่ได้บอกใครเลยนอกจากมะลิผู้เป็นเพื่อนสาวแล้วก็ครอบครัวของเธอ หรือว่าพ่อกับแม่ของเธอเป็นคนบอกเขา แต่เธอก็กำชับไว้แล้วว่าให้เก็บไว้ให้เงียบที่สุด " ใครเป็นคนบอกคุณว่าฉันหนีมาพร้อมกับลูก " " ไม่ต้องมีใครบอกผมก็รู้ แล้วถ้าผมจะหาหลักฐานมันก็ไม่ยากหรอกนะปลายฝัน อีกอย่างเด็กสองคนนี้เป็นลูกของผม คุณจะมาพรากลูกพรากพ่อเขาแบบนี้ไม่ได้ " ในเมื่อพูดกับเธอดีๆแล้วเธอไม่ฟังก็คงต้องใช้ไม้แข็งกันบ้าง " คุณหมายความว่ายังไง คุณจะมาแย่งลูกของฝันไปอย่างนั้นหรอ ฝันไม่ยอมหรอกนะ " มาคัสกระตุกยิ้มที่มุมปาก " ถ้าอย่างนั้นคุณยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของผม " เมื่อเขาต้อนเธอจนจนมุมร่างบอบบางจึงปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป " ค่ะ เขาเป็นลูกของคุณฉันไม่ปฏิเสธ แต่เรื่องมัน
หลังจากที่ถามทางจากพนักงานคนนั้นแล้วเขาก็ขับรถออกมาเพื่อไปยังคาเฟ่แห่งนั้น เนื่องจากช่วงนี้เขาเคลียร์ปัญหาของโรงแรมเสร็จหมดแล้วเขาจึงว่างทั้งวัน และคงเป็นการดีไม่น้อยถ้าได้เค้กของเธอมาเพิ่มยอดขายให้กับโรงแรมและดึงดูดความสนใจจะนักท่องเที่ยวได้ และในที่สุดเขาก็มาถึงคาเฟ่แห่งนี้หลังจากที่ตามหาอยู่สักพัก เขามองก็ไปด้านในถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆแต่คนก็แน่นถนัดตาเหมือนที่พนักงานของเขาบอกจริงๆ เมื่อเขาเดินเข้ามาด้านในแล้ว ก็เห็นโต๊ะว่างที่อยู่ตรงมุมสุดซึ่งเป็นมุมอับ เขาก็เลยไปนั่งตรงนั้นสักพักก็มีพนักงานมารับออเดอร์ที่นี่เป็นคาเฟ่เล็กๆมีพนักงานแค่ไม่กี่คน คนที่มาหาเขาก็คงจะเป็นของเจ้าของร้านสินะ " สวัสดีค่ะคุณลูกค้า วันนี้รับอะไรดีคะ " นิดหน่อยเธอยื่นเมนูน้ำและของหวานเพื่อให้กับชายรูปหล่อคนนี้ เขามองจนเธอนึกแปลกใจไม่ได้เพราะเธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้แถวนี้เลย " คุณเป็นเจ้าของร้านนี้หรอครับ? " ในระหว่างที่เขากำลังเลือกเมนูของว่างอยู่นั้นเขาก็ได้ถามกับผู้หญิงคนนี้ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านทันที " ไม่ใช่หรอกค่ะ ดิฉันเป็นแค่ผู้จัดการร้านนี้เท่านั้น ตอนนี้เจ้าของร้านยังไม่เข้ามานะคะ น่าจะ