มาคัสก้มลงไปบดจูบเธออย่างเร่าร้อนอีกครั้ง และครั้งนี้เขารุกหนักจนปากของเธอบวมแดงเจ่อไปหมด แต่นั่นก็ดูเซ็กซี่มากที่สุดในสายตาของมาคัส ในระหว่างที่เขาบดจูบอยู่นั้น มือหนาก็ลูบไล้ไปตามเรือนร่างสมส่วนของเธอ จนมาถึงกลีบกุหลาบคู่งามที่ยังปิดสนิทและไม่เคยมีชายใดได้เข้ามาสัมผัสมาก่อน เขาลูบวนอยู่แบบนั้นจนร่างบอบบางครางอื้ออึง " อื้อ...อื้อ...อย่าจับตรงนั้น... " เธอพยายามแล้วที่จะไม่ส่งเสียงอันน่าเกลียดออกมา แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อร่างกายของเธอตอบสนองกับสัมผัสที่เขามอบให้จนเกินต้านทานแล้ว" โอ้วว...ตอดดีชะมัด " ร่างสูงสบถออกมา เมื่อเขาใช้นิ้วหนาถึงสองนิ้วสอดเสียบเข้าไปในโพรงสวาทหวานที่ยังปิดสนิทแน่น สร้างความเสียวกระสันให้เขาไม่น้อย นี่ขนาดแค่นิ้วยังตอดรัดแน่นดีขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นแก่นกายใหญ่ยักษ์ของเขาคงจะตอดหนุบหนับดีไม่น้อย" อื้อ...อ๊ะ...อ๊ะ " ร่างบอบบางสั่นสะท้านเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาภายในร่างกายของเธอ ความรู้สึกเต็มไปด้วยความเจ็บพร้อมกับความเสียวซ่านผสมปนเปกันไปหมด แจ๊ะ...แจ๊ะ...แจ๊ะ...เสียงนิ้วมือหนากับน้ำหวานที่ไหลเอ่อล้นออกมาในจังหวะที่เขาชักเข้าชักออกในร่องรักของเธอ ร่างบอบบางบิดต
ร่างบอบบางถามเขาออกไป เขาจับเธอคว่ำหน้าลงใช่ว่าเธอจะไร้เดียงสาจนไม่รู้ แต่ที่เธอแปลกใจก็คือเขาเพิ่งปลดปล่อยกับเธอไปไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยด้วยซ้ำ ยังไม่หมดแรงอีกหรือไง " ก็จะทำรักกับเธอคืนนี้ทั้งคืนไง " ร่างบางตกใจกับคำว่าทั้งคืนของเขา นี่คือครั้งแรกของเธอถ้าทำทั้งคืนเธอมีหวังได้สิ้นชีพก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นในตอนเช้าเป็นแน่ สวบบบ....ปักกก ร่างสูงสอดแก่นกายใหญ่โตเข้าไปในโพรงสวาทของเธอจากทางด้านหลัง ร่องรักที่รัดแน่นทำให้เขาแทบปริแตกอีกครั้ง แต่ต้องข่มความต้องการเอาไว้ เพราะกลัวเสียเชิงชายหากแตกไปตอนนี้เธอได้หัวเราะเยาะเขาแน่ ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก เสียงครางระงมพร้อมกับเสียงตอกอัดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วห้อง ยังดีที่คอนโดบนชั้นนี้มีแค่ห้องเขาแค่ห้องเดียว ไม่อย่างนั้นคงโดนลูกบ้านคนอื่นออกมาด่าเปิดเปิงแน่ " โอ้ววว...มายก๊อดดด " ร่างสูงคำรามอย่างพอใจในรสสวาทที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน สัมผัสหนึบหนับจนเขาแทบจะปลดปล่อยลูกๆไปไว้ในท้องน้อยๆของเธอ แต่ก็ต้องอดใจไว้เพราะเธอเพิ่งเริ่มป้องกันตัวเองวันนี้เป็นวันแรก ยาอาจยังไม่ออกฤทธิ์ เขาจับเธอให้นอนตะแคงข้างพร้อมกับยกขาเรียวข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดไว้บน
เช้านี้ร่างบอบบางตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวหนักอึ้ง เหมือนมีค้อนมาทุบกลางหัวก็ไม่ปาน เธอหนาวจนไม่อยากลุกไปไหน แต่เมื่อมองไปรอบๆห้องก็ไม่เจอกับร่างสูงของมาคัสที่เมื่อคืนนอนกอดเธอไว้อย่างอบอุ่น " เขาคงไปแล้วสินะ จะมาสนใจอะไรกับผู้หญิงขัดดอกแบบเรา " เธอพูดออกมาอย่างน้อยใจพลางคิดในใจว่าอาจจะเพ้อเพราะผิดไข้ก็ได้ เขาจะอยู่หรือจะไปก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเธอสักนิด แต่ใจเจ้ากรรมทำไมถึงได้รู้สึกหน่วงๆก็ไม่รู้ ร่างบอบบางพยุงตัวเองขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ จากนั้นก็ออกมาจากห้องนอนเจอกับซานโต้ที่ยืนอยู่ที่โต๊ะกินข้าวพร้อมกับกำลังแกะถุงโจ๊ก " พี่ซานโต้เข้ามานานแล้วหรอคะ " ซานโต้รีบหันมาหาเธอ พร้อมกับส่งยิ้มไปให้ แต่ไม่ทันไรก็ต้องหุบยิ้มด้วยเห็นสภาพของร่างบอบบางตรงหน้าที่ดูยับเยินไปหมด เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง เมื่อคิดแบบนั้นหัวใจเจ้ากรรมก็ดันรู้สึกเจ็บขึ้นมาซะดื้อๆ" พี่เพิ่งเข้ามาครับ พอดีนายสั่งไว้ว่าให้ขึ้นมาดูแลปลายฝัน นายมีธุระข้างนอกต้องรีบไปจัดการเลยไม่ได้อยู่ดูแล แต่นายให้พี่ไปซื้อยาลดไข้แล้วก็ยาแก้อักเสบมาให้ฝันแล้วนะครับ " เขาพูดพร้อมกับ
มาร์คัสเมื่อมาถึงคาสิโนเขาก็นั่งทำงานอยู่แบบนั้นตั้งแต่เช้าโดยที่ก่อนที่เขาจะออกมาเขาได้ฝากฝังปลายฝันไว้กับซานโต้บอดี้การ์ดมือขวาของเขาเรียบร้อยแล้ว เมื่อเช้าเธอมีไข้แต่ก็ไม่ได้ตัวร้อนมาก เขาจึงปลีกตัวออกมาจัดการธุระสำคัญที่นี่ และที่เขาไม่อยู่ดูแลเธอเพราะไม่อยากให้เธอคิดว่าเธอเป็นคนสำคัญเพราะเธอก็แค่นางบำเรอคนหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้ว่าภายในใจของเขาอยากจะอยู่ดูแลเธอก็ตาม แต่คนอย่างเขาจะไม่มีวันกลืนน้ำลายตัวเองเด็ดขาด เขานั่งหงุดหงิดอยู่ทั้งวันเพราะโทรไปถามซานโต้มันก็ได้แต่ตอบมาว่าปลายฝันนอนอยู่ในห้องทั้งวันไม่ออกไปไหนจนเขาเองจะไม่รู้ความเคลื่อนไหวของเธอ จนตอนนี้เขาหงุดหงิดไปหมด " โดนัล นัดเด็กให้สักคนสิ ไปเจอกันที่ห้างเลย ฉันจะไปรอที่นั่น " มาร์คัสยกหูไปหาโดนัลบอดี้การ์ดมือมือซ้ายของเขา พร้อมกับที่ตัวเขาเองลุกขึ้นแล้วหยิบกุญแจรถออกไปยังห้างดังทันที เมื่อมาถึงหน้าห้างดังเขาก็ได้ยินเสียงข้อความดังมาจากโทรศัพท์ ไลน์ปลายฝัน : วันนี้ฝันขอออกไปทำธุระข้างนอกได้ไหมคะ พอดีนัดเพื่อนกินข้าวกัน มาคัส : ผู้ชายหรือผู้หญิง ปลายฝัน : ผู้หญิงค่ะชื่อมะลิ มาคัส : อืม อย่ากลับดึกมากล่ะ ปลายฝัน : ค่
เมื่อได้ยินเสียงทักท้วงจากสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่เขาควงมา เขาจึงละความสนใจมาสนใจเธอแทน " เปล่าครับ เบลล่ารีบกินเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นชืดซะก่อน " ในตอนนี้เขาอยากจะกลับไปจัดการแม่สาวน้อยปลายฝันเหลือเกิน แต่เขาก็ต้องพยายามข่มใจไม่ให้เธอมีความสำคัญกับเขามากจนเกินไป จึงเลือกที่จะสนใจเบลล่าแทน แล้วเผลอๆวันนี้เขาก็จะอยู่กับเบลล่าทั้งคืนด้วย " งั้นคืนนี้มาคัสค้างกับเบลล่านะคะ " สายตาอันแสนเซ็กซี่ถูกส่งไปให้กับร่างสูงตรงหน้า พร้อมกับเอ่ยเชิญชวนเขาแบบไม่อาย " ครับ ผมจะไปห้องคุณ แต่ผมไม่ค้างนะเพราะผมไม่เคยค้างกับใคร " ที่เขาพูดไม่เกินจริงเลยสักนิด เขาไม่เคยค้างคืนกับผู้หญิงคนไหนสักคน ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยหมดแรงแค่ไหนก็ตาม เขาก็จะให้พวกเธอเหล่านั้นกลับไป บางทีก็ให้บอดี้การ์ดไปส่ง แล้วคู่ควงของเขาก็ไม่เคยซ้ำหน้าเลยสักครั้ง เบลล่าก็เช่นกัน เขาคงจะมากับเธอแค่ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเพราะเขาไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร " ค่ะ ไม่ค้างก็ไม่ค้าง ขอแค่มาคัสอยู่กับเบลล่าก็พอ " ทั้งสองรีบทานอาหาร หลังจากทานเสร็จแล้วเขาก็พาเธอขึ้นมานั่งบนรถคันหรูที่มีโดนัลเป็นคนขับให้ จากนั้นก็ตรงไปที่คอนโดของเบลล่าทันที เมื่อมา
ปลายฝันแยกย้ายกับมะลิในช่วงกลางวันจากนั้นเธอก็ให้ซานโต้พามาหาพ่อกับแม่ที่บ้านของเธอ พอมาถึงก็พบกับทั้งพ่อและแม่ที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ในบ้าน เธอจึงเดินเข้าไปพร้อมกับสวมกอดทั้งสองคนเอาไว้แน่น " พ่อจ๋าแม่จ๋า ฝันคิดถึงจังเลย " " ฝันลูก " รำพาผู้เป็นแม่โผเข้ากอดลูกสาวพร้อมกับทศด้วยเช่นกัน " เป็นไงบ้างลูก ทำไมตาเสี่ยนั่นถึงจะยอมปล่อยลูกออกมาหาแม่ได้ " " ฝันขอคุณมาคัสออกมาเองจ๊ะแม่ แล้วคุณมาคัสก็ไม่ใช่เสียอย่างที่แม่เข้าใจหรอกนะจ๊ะ เขายังไม่แก่เลย เป็นคนธรรมดาเหมือนพวกเรานี่แหละ " " คนธรรมดาที่ไหนจะทำธุรกิจแบบนั้นกันล่ะลูก " " แม่จ๋า ฝันไปอยู่ที่นั่นไม่ได้ลำบากอะไรเลยจ่ะ แม่สบายใจได้เลยนะจ๊ะ แล้วเรื่องหนี้สินของเราฝันคุยกับเขาแล้วว่าใช้เวลาแค่สองปีหนี้สินของเราก็จะเป็นศูนย์ทันทีจ่ะแม่ " " เขายอมหรอลูก " " จ่ะแม่ ฝันคุยกับเขาเรียบร้อยแล้วจ่ะ " รำพาสวมกอดลูกอีกครั้ง พร้อมกับสังเกตเห็นชายร่างสูงอีกคนหนึ่งที่มาพร้อมกับลูกสาว " แล้วนี่ใครหรือลูก " " ผู้จัดการคาสิโนพ่อจำได้ " ทศพูดขึ้น เพราะเขาจำได้ดี ชายคนนี้คือผู้จัดการอยู่ที่คาสิโนแห่งนั้น และเป็นคนพาเขากับลูกสาวขึ้นไปพบกับเจ้าของค
ถึงแม้ว่าคำพูดชวนฝันของเขาจะทำให้เธอรู้สึกดีใจ แต่นั่นก็เพียงแค่แว๊บเดียวเท่านั้น เมื่อเธอหันกลับไปมองเขาพร้อมกับสำรวจสภาพร่างกายของเขาที่ดูอิดโรยเหมือนกับคนไม่ได้นอน พลางคิดในใจว่าเมื่อคืนคงจะสนุกกับสาวสวยแสนเซ็กซี่คนนั้นทั้งคืนเลยสินะ เมื่อคิดได้แบบนั้นก็ทำให้ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มจนเขินอายหุบลงทันที " คุณมาคัสไปรอที่โต๊ะก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฝันทำเสร็จจะออกไปเสิร์ฟให้ " มาคัสที่ทำหน้างงๆทีแรกเธอยังดูเขินอายอยู่เลย แต่ไม่ทันไรก็ทำหน้าบึ้งตึงอีกแล้ว แถมยังไม่ถามเขาสักคำว่าเมื่อคืนเขาไปทำอะไรมา ทำไมไม่กลับห้องทั้งคืน เขายืนรอให้เธอได้ถามแบบนั้นสักพักจึงเลิกรอเพราะเธอไม่มีทีท่าจะสนใจเขาเลย เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรแต่เดินออกไปเงียบๆให้เธอได้ทำอาหารจนเสร็จ " พี่ซานโต้ทานอาหารเช้าด้วยกันนะคะ " ร่างบอบบางยกกับข้าวมาวางไว้ที่โต๊ะสามสี่อย่าง พร้อมกับเอ่ยชวนบอดี้การ์ดของมาคัสมาทานอาหารด้วยเหมือนเช่นทุกวัน " พี่ซานโต้? " คำพูดที่ออกมาจากร่างบางสร้างความหงุดหงิดใจให้กลับมาคัสเป็นอย่างมาก ทีกับเขาเรียกคุณ ทีกับซานโต้เรียกพี่ สองมาตรฐานชัดๆ คำพูดที่แสนห่างเหินใช้กับผัวตัวเองส่วนคำพูดที่ดูสนิทสน
ร่างสูงส่งนิ้วมือหนาเข้าไปสำรวจร่องรักของเธอ แล้วชักเข้าชักออกจนสัมผัสได้ถึงน้ำหวานที่ไหลออกมามากมาย ส่วนตัวเขาเองคิดถึงร่างนุ่มนิ่มนี้มาตั้งแต่เมื่อคืน เวลานี้ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาอดทนได้อีกต่อไป ร่างบอบบางตรงหน้าหน้าแดงตัวแดงจนเขาแทบอยากจะขย้ำให้จมเตียงตั้งแต่ตอนนี้ด้วยซ้ำ คิดได้ดังนั้นทำให้เขาอดใจไม่ไหวรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองและขึ้นคร่อมเธอไว้ทันที จากนั้นก็ถลกเดรสสั้นตัวสวยของเธอขึ้นไปกองไว้ที่เอว แล้วนำตัวตนใหญ่โตของเขายัดเข้าไปในร่องรักของเธอทีเดียวด้วยความใจร้อน กรี๊ดดด!!! " อื้อ..เจ็บ " ด้วยขนาดของเขาที่ใหญ่เกินไปเกินกว่าที่ร่างกายของเธอจะรับไหว แล้วเขาก็เข้ามาทีเดียวจึงทำให้เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด " เจ็บหรอสาวน้อย ทนหน่อยนะฉันไม่ไหวแล้ว " " มันต้องฉีกแล้วแน่ๆ ฝันเจ็บ " สิ้นสุดคำพูดของเธอร่างสูงก็ก้มลงมองยังจุดเชื่อมต่อของเขาและเธอ แต่ก็ไม่พบคราบเลือดอะไรออกมาทั้งสิ้น เขาจึงก้มลงบดจูบเธอเพื่อให้เธอคลายความเจ็บปวด แล้วจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มปรับตัวได้ " ขยับทีค่ะ ฝันหายใจไม่ออก " กายหนาเริ่มขยับร่างกาย ซอยเข้าออกถี่ถี่ในร่องรักของเธอ วันนี้เขามอบรสสวาทที่แสนดุด
มาคัสหลังจากที่ช่วยเมียสาวถอดชุดเจ้าสาวออกเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ก้มลงจูบที่แผ่นหลังบางของเธออย่างแผ่วเบาด้วยความเสน่หา กลิ่นกายที่ไม่ว่าจะสูดดมสักกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ พร้อมกับเลื้อยไปเรื่อยๆมาจนถึงไหล่บอบบางและมาซุกไซร้ซอกคอของเธออย่างบ้าคลั่ง กลิ่นกายเฉพาะตัวของเธอที่เขาสูดดมเมื่อไหร่ก็เป็นนั้นต้องเคลิบเคลิ้ม เขาชอบสูดดมกลิ่นกายของเมียตัวน้อยแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเธอทำให้เขารู้สึกมีพลังและสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่ใช้น้ำหอมส่วนมากกลิ่นของเธอจะมาจากแป้งเด็กอ่อนๆเท่านั้น ทำให้มาคัสรู้สึกผ่อนคลายและอยากเข้าไกลตลอดเวลา " อื้อ...ไม่อาบน้ำก่อนหรอคะที่รัก เดินในงานทั้งวันฝันตัวเหม็นจะแย่ " เธอเอ่ยทักท้วงเขาเพราะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน วันนี้เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ทั้งรับแขกแล้วทั้งยังรับมือกับลูกชายตัวน้อยทั้งสองคนที่วิ่งเล่นจนรอบงานอีก " ไม่ต้องอาบหรอกที่รัก คุณตัวหอมจะตาย ผมรอไม่ไหวแล้ว " เขาจับเธอให้หันหน้ามาหาเขาพร้อมกับดันตัวเธอให้ไปชิดกับผนังห้อง ซึ่งตอนนี้เธอมีร่างกายเปลือยเปล่าแล้ว หลังจากที่เขาถอดชุดแต่งงานของเธอออกเมื่อสักครู่เขาไม่รอช้ารีบถอ
และแล้วก็มาถึงวันที่มาคัสและปลายฝันเข้าสู่ประตูวิวาห์ ที่ทางครอบครัวของมาคัสจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้สมเกียรติลูกชายคนโตแห่งไมโลเวอร์ " ยัยฝัน เรายินดีด้วยนะ ในที่สุดก็เป็นฝั่งเป็นฝากับเขาสักทีเรื่องจบลงแบบ Happy Ending แบบนี้ฉันก็ดีใจกับแกด้วย " มะลิและเพื่อนสาวคนสนิทที่ตอนนี้อยู่ในห้องแต่งตัวเจ้าสาวพร้อมกับเพื่อนอีกสองสามคน " ขอบใจแกมากนะ วันนั้นถ้าไม่มีแกชีวิตฉันก็ไม่รู้จะเป็นยังไง ขอบคุณที่รักฉันและหลานๆนะ "" แกเป็นเพื่อนฉัน เป็นเพื่อนแท้ แกสุขฉันก็สุข แกเศร้าฉันก็เศร้า " ปลายฝันลุกขึ้นกอดเพื่อนสาวด้วยความดีใจพลันน้ำตาก็กำลังจะไหลลงมา จนเป็นมะลิเองที่ต้องห้ามเอาไว้ก่อน " หยุดร้องไห้ไปเลยนะแก เดี๋ยวก็ไม่สวยหรอก วันนี้เป็นวันสำคัญของแก แกต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหม ห้ามร้องไห้เด็ดขาดไม่งั้นถ่ายรูปออกมาจะไม่สวยเอานะ " ปลายฝันนั่งยิ้มให้กับเพื่อนพร้อมกับปาดน้ำตาน้อยๆออก " แต่งตัวเสร็จกันหรือยังลูก ใกล้จะได้ฤกษ์แล้วนะ " รำพาที่ขึ้นมาตามลูกสาวเพราะตอนนี้ใกล้จะถึงฤกษ์ดีแล้ว " เสร็จแล้วจ่ะแม่จ๋า " ปลายฝันตอบผู้เป็นแม่ พร้อมกับลุกขึ้นนั่ง จึงทำให้รำพาแทบตกตะลึง ลูกสาวของเธอสว
หลังจากที่ปลายฝันตัดสินใจยกคาเฟ่ให้กับนิดหน่อยไปแล้วเพราะเธอรักเหมือนกับครอบครัวจะริงๆ ก็ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯพร้อมกับมาคัสและลูกๆ ทีแรกนิดหน่อยไม่อยากรับเพราะเกรงใจ แต่พอมารู้เหตุผลว่าปลายฝันจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างถาวรและไม่อยากยกคาเฟ่นี้ให้กับใครนอกจากเธอ เธอจึงต้องรับมันไว้พร้อมกับขอบคุณปลายฝันซ้ำๆที่เอ็นดูเธอขนาดนี้ ตอนนี้ทั้งสี่คนเดินทางมาถึงคฤหาสน์ไมโลเวอร์เรียบร้อยแล้ว และยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านกำลังจะเข้าไปแต่คุณหญิงฤทัยและคุณมอร์แดนเจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับหลานๆเสียก่อน ด้วยทนไม่ไหวอยากเห็นหน้าหลานๆเต็มแก่แล้ว ได้ยินข่าวว่าพิมพ์เดียวกับพ่อมาเลย " ตามาคัสนี่คือหลานชายทั้งสองคนของพ่อกับแม่ใช่ไหม ทำไมน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ล่ะ " คุณหญิงฤทัยที่จะเดินตรงเข้าไปกอดหลานชาย แต่ผู้เป็นหลานชายก็เดินเข้าไปหลบหลังแม่ของตัวเองโดยอัตโนมัติ " เอ่อ...ลูกเรากลัวแม่หรอมาคัส หรือว่าแม่ทำอะไรผิดไปหรือเปล่า " " เปล่าหรอกครับคุณแม่ เด็กแฝดอาจจะยังเด็ก คงยังไม่ชินน่ะครับ ให้เวลาแกสักหน่อยนะครับคุณแม่ " " ได้ลูก แม่รอได้ แล้วนี่เมียเราใช่ไหมปลายฝันใช่ไหมลูก " คุณหญิงฤทัยเดินเข้าไปหา
มาร์คัสมองหน้าลูกชายพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ ลูกชายของเขาเมื่อโตขึ้นก็ต้องเป็นทายาทสืบทอดที่นี่ต่อจากเขาและน้องชายอยู่แล้ว " ที่นี่ที่ทำงานของพ่อเองครับ แล้วต่อไปก็จะเป็นของลูกทั้งสองคนรู้ไหมครับ " มาคัสบอกกับลูกชายที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับสถานที่แปลกใหม่แห่งนี้ " " จริงหรอครับ ที่ทำงานคุณพ่อทำไมกว้างจัง ไคเลอร์อยากมาที่นี่ทุกวันเลย " " จริงสิลูก พอโตขึ้นลูกก็จะได้มาที่นี่จนเบื่อเลยล่ะ ถึงตอนนี้อย่าบ่นให้พ่อได้ยินก็แล้วกัน " มาคัสให้ลูกชายและภรรยานั่งรออยู่ที่โซฟาพร้อมกับบอกให้เลขาหาขนมมาให้ในระหว่างที่เขาจัดการกับเอกสารตรงหน้า เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็จัดการกับเอกสารตรงหน้าจนจะเสร็จแต่เมื่อหันไปมองลูกน้อยทั้งสองคนก็ไม่ยอมนอนทั้งที่เมื่อวานก็นอนกลางวันกันไป " ฝัน ลูกเราไม่นอนกลางวันหรอ "เขาเงยหน้าขึ้นมาถามภรรยาสาว " นั่นสิคะ ปกติตอนนี้แกต้องง่วงแล้ว " มาคัสลุกขึ้นแล้วเดินมาหาลูกชายทั้งสองคนที่ตาแทบจะปิดอยู่แล้ว แต่ยังไม่ยอมหลับสักที " ไคเลอร์ คาร์ลอสทำไมไม่ยอมนอนล่ะลูก " " ผมพวกผมกลัวว่าถ้าหลับแล้วคุณพ่อจะหายไป " คำพูดที่แสนไร้เดียงสาของลูกชายทำเอาเขาแทบชะงัก พร้อมกับปลายฝันที่จุกในอ
เช้านี้ปลายฝันตื่นขึ้นมาทำอาหารตั้งแต่เช้าเธอตื่นแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่มีลูกน้อยเธอต้องทำอาหารเช้าไว้ให้กับลูกของเธอ เพราะตื่นขึ้นมาลูกของเธอก็จะหิวเลย ถ้าเธอไม่ทำอาหารไว้ลูกของเธอก็จะบ่นหิวไม่หยุดแล้วงอแงทั้งวัน แต่ละวันกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวให้เด็กน้อยทั้งสองคนก็กินเวลาไปนานพอสมควร เธอเคยไม่ทำอาหารเช้าไว้รอลูกผลลัพธ์คือเจ้าสองแฝดงอแงหนักมากๆ ทั้งอยากให้เธอกอดไม่ไปไหน ทั้งหิว จนเธอไม่รู้ต้องแยกร่างยังไงเลย มาคัสที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอก็รีบลงมาข้างล่าง กวาดสายตามองไปแล้วเจอกับเธอที่อยู่ในครัว กำลังทำอาหารอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปแล้วกอดเธอจากทางด้านหลัง " อุ๊ย! ทำอะไรของคุณ ฝันตกใจหมด ปล่อยกอดเดี๋ยวนี้นะ " เธอออกคำสั่งกับเขาแล้วร่างสูงก็ปล่อยกอดออกจากเธอแต่โดยดี " ทำอะไรกินครับทำไมหอมจัง " คำพูดนี้ทำให้เธอนึกไปถึงตอนที่เธอทำอาหารให้เขาทานในตอนแรกๆที่ยังอยู่คอนโดด้วยกัน แต่ก็ต้องรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งแล้วหันมาโฟกัสที่อาหารตรงหน้าแทน" ซุปมันฝรั่งค่ะ ไคเลอร์กับคาร์ลอสชอบเมนูนี้ แล้วก็ชอบให้ฝันทำให้กินเป็นประจำ " มาคัสฟังที่เธอพูดอย่างตั้งใจพร้อมกับจดจำข้อมูลเกี่ยวกับลูกๆของเข
ร่างสูงใช้ความหน้าด้านหน้าทนเข้าแลกและตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว โดยที่เขาอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเธอว่าเขาเดินทางดึกๆดื่นคงอันตรายมากแน่ เพราะเขาไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้ ทั้งที่จริงๆแล้วเขามาทำงานที่โรงแรมนี้ก็ออกบ่อย ทำไมเขาจะไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้กัน นอกจากเขาจะรู้จักเส้นทางแล้วคนทั้งเมืองยังรู้จักเขาอีกด้วย เพราะครอบครัวเขาค่อนข้างเป็นที่รู้จักของคนในแถบนี้ในฐานะนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองนี้ " บ้านหลังนี้มีแค่สองห้อง ซึ่งเป็นห้องของฝันแล้วอีกห้องเป็นของไคเลอร์กับคาร์ลอส คืนนี้คุณนอนที่โซฟาได้ไหมคะ แต่ถ้าคุณนอนไม่ได้จะกลับไปนอนที่โรงแรมของคุณก็ได้นะ " ที่เธอรู้ว่าเขามีโรงแรมเพราะก่อนหน้าที่เขาจะมาบ้านเธอ เขาได้เล่าให้เธอฟังว่าเพราะต้องมาทำงานที่นี่เขาถึงได้เจอกับเธอโดยบังเอิญ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีโอกาสที่จะได้เจอเธอเพราะเธอมาไกลถึงที่นี่ แล้วเขาก็ไม่ได้มีเส้นสายมากพอที่จะตามหาเธอถึงหมู่บ้านแถวชานเมืองแบบนี้ " ผมนอนที่ไหนก็ได้ ขอแค่ได้อยู่ใกล้คุณกับลูก หรือถ้าคุณจะใจดีให้ผมขึ้นไปนอนกับคุณ... " " ไม่ค่ะ " เธอตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด ถ้าให้เขาไปนอนกับเธอ
ปลายฝันที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองภายใต้อ้อมกอดอบอุ่นของเขา ที่เธอเองก็โหยหามันเช่นกัน เขาบอกคิดถึงเธอแต่สิ่งที่เธออยากได้ยินไม่ใช่คำนี้เลยสักนิด เธออยากได้ยินคำพูดที่สามารถยืนยันได้ว่าเธอกับเขาคิดตรงกัน เธอจะไม่ยอมให้อภัยเขาจนกว่าเขาจะพูดคำนั้นออกมา " แต่ฝันไม่อยากกลับไปเป็นนางบำเรอของคุณอีกแล้ว ตอนนี้ฝันมีชีวิตใหม่แล้ว แล้วเด็กๆก็อยู่ได้โดยที่มีฝันเป็นแม่แค่คนเดียว " มาคัสใจแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาไม่มีทางทนได้แน่หากไม่มีเธออยู่ในชีวิต " โถ่ฝัน คุณไม่ใช่นางบำเรอ และผมไม่มีทางให้คุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรอกนะ คุณเป็นเมียผมมาตั้งแต่ทีแรกผมไม่เคยคิดแบบนั้นกับคุณเลย ผมขอโทษที่ตอนนั้นปากผมมันไม่ดี ผมมันปากเสีย คุณจะลงโทษผมยังไงก็ได้ แต่อย่าทิ้งผมไปอีกเลยนะ ผมอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าไม่มีคุณกับลูกๆ " " จะลงโทษคุณยังไงก็ได้อย่างนั้นใช่ไหมคะ " มาคัสถึงกับหน้าซีดเผือก เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาและสายตาแบบนั้นของเมียตัวน้อย " ครับ ผมยอมทุกอย่างขอแค่คุณไม่ทิ้งผมไป แล้วกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิม " " คุณต้องเอาชนะใจเด็กๆให้ได้ก่อนถ้าคุณเข้ากับไคเลอร์และคาร์ลอสไม่ได้คุณ
มาคัสทำหน้าสงสัยว่าทำไมเธอต้องบอกว่าไม่ใช่ลูกของเขาในเมื่อ DNA บนหน้าของเด็กแฝดทั้งสองคนก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่าเหมือนเขาขนาดไหน ต่อให้เธอจะโกหกยังไงเขาก็ไม่มีทางเชื่อ ลูกของเขาเขาทำเองกับมือแถมยังสำเนาถูกต้องขนาดนี้อีกด้วย " คุณอย่ามาโกหกผมฝัน คุณหนีผมมาพร้อมกับลูกทำไมผมจะไม่รู้ " ปลายฝันรู้สึกตกใจอีกครั้งทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ ทั้งที่เธอไม่ได้บอกใครเลยนอกจากมะลิผู้เป็นเพื่อนสาวแล้วก็ครอบครัวของเธอ หรือว่าพ่อกับแม่ของเธอเป็นคนบอกเขา แต่เธอก็กำชับไว้แล้วว่าให้เก็บไว้ให้เงียบที่สุด " ใครเป็นคนบอกคุณว่าฉันหนีมาพร้อมกับลูก " " ไม่ต้องมีใครบอกผมก็รู้ แล้วถ้าผมจะหาหลักฐานมันก็ไม่ยากหรอกนะปลายฝัน อีกอย่างเด็กสองคนนี้เป็นลูกของผม คุณจะมาพรากลูกพรากพ่อเขาแบบนี้ไม่ได้ " ในเมื่อพูดกับเธอดีๆแล้วเธอไม่ฟังก็คงต้องใช้ไม้แข็งกันบ้าง " คุณหมายความว่ายังไง คุณจะมาแย่งลูกของฝันไปอย่างนั้นหรอ ฝันไม่ยอมหรอกนะ " มาคัสกระตุกยิ้มที่มุมปาก " ถ้าอย่างนั้นคุณยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของผม " เมื่อเขาต้อนเธอจนจนมุมร่างบอบบางจึงปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป " ค่ะ เขาเป็นลูกของคุณฉันไม่ปฏิเสธ แต่เรื่องมัน
หลังจากที่ถามทางจากพนักงานคนนั้นแล้วเขาก็ขับรถออกมาเพื่อไปยังคาเฟ่แห่งนั้น เนื่องจากช่วงนี้เขาเคลียร์ปัญหาของโรงแรมเสร็จหมดแล้วเขาจึงว่างทั้งวัน และคงเป็นการดีไม่น้อยถ้าได้เค้กของเธอมาเพิ่มยอดขายให้กับโรงแรมและดึงดูดความสนใจจะนักท่องเที่ยวได้ และในที่สุดเขาก็มาถึงคาเฟ่แห่งนี้หลังจากที่ตามหาอยู่สักพัก เขามองก็ไปด้านในถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆแต่คนก็แน่นถนัดตาเหมือนที่พนักงานของเขาบอกจริงๆ เมื่อเขาเดินเข้ามาด้านในแล้ว ก็เห็นโต๊ะว่างที่อยู่ตรงมุมสุดซึ่งเป็นมุมอับ เขาก็เลยไปนั่งตรงนั้นสักพักก็มีพนักงานมารับออเดอร์ที่นี่เป็นคาเฟ่เล็กๆมีพนักงานแค่ไม่กี่คน คนที่มาหาเขาก็คงจะเป็นของเจ้าของร้านสินะ " สวัสดีค่ะคุณลูกค้า วันนี้รับอะไรดีคะ " นิดหน่อยเธอยื่นเมนูน้ำและของหวานเพื่อให้กับชายรูปหล่อคนนี้ เขามองจนเธอนึกแปลกใจไม่ได้เพราะเธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้แถวนี้เลย " คุณเป็นเจ้าของร้านนี้หรอครับ? " ในระหว่างที่เขากำลังเลือกเมนูของว่างอยู่นั้นเขาก็ได้ถามกับผู้หญิงคนนี้ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านทันที " ไม่ใช่หรอกค่ะ ดิฉันเป็นแค่ผู้จัดการร้านนี้เท่านั้น ตอนนี้เจ้าของร้านยังไม่เข้ามานะคะ น่าจะ