หญิงสาวถูกผลักเข้าไปให้ภูผารับช่วงต่อ ซึ่งเขาก็คว้าต้นแขนบางไว้แน่น ก่อนลากตัวออกจากห้องวีไอพีไปทันทีโดยใช้ประตูหนีไฟ
ดวงตาคู่สวยกวาดทั่วบริเวณหาหนทางเอาตัวรอด ในขณะที่สองเท้าก็ก้าวยาวๆ ตามบอดี้การ์ดหน้าเข้มให้ทันจนใกล้ถึงรถยุโรปคันใหญ่คันหนึ่ง ไอวี่ตัดสินใจใช้โอกาสที่เขาล้วงมือไปควานหากุญแจในกระเป๋าสลัดตัวสุดแรง จนสามารถหลุดจากมือใหญ่นั้นไปได้
เธอออกแรงวิ่งสุดกำลัง ไม่คิดหน้าคิดหลังอีกแล้ว รู้ดีว่าหากขึ้นรถคันดังกล่าวไปแล้วชีวิตเธออาจสิ้นสุดเพียงแค่นี้ หัวใจเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง พุ่งตรงไปแต่ด้านหน้าเท่านั้นโดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว แต่แล้วต้นแขนบางก็ถูกกระชากอีกครั้งจนร่างเล็กเซถลาไปด้านหลัง เกือบจะเสียหลักล้ม แต่ก็กระแทกชนกับแผงอกกว้างของบอดี้การ์ดหนุ่มซะก่อน
ปึก!
“เฮ้อออออ~ ฤทธิ์เยอะจริงๆ...ช่วยอยู่นิ่งๆ ด้วยครับ อย่าให้ผมต้องใช้กำลัง” ภูผาถอนหายใจยาวรวบแขนบางไพล่หลังแน่นหนาขึ้นพร้อมคำขู่
“...”
ฟันคมกัดกลีบปากตัวเองจนได้เลือดด้วยความเครียดจัด ตวัดสายตาแข็งกร้าวมองคนด้านหลัง แต่เขาก็ไม่สนใจ กระชากลากถูไอวี่กลับไปทางรถคันเดิม และครั้งนี้ภูผาก็จัดการใช้เชือกท้ายกระโปรงหลังรถมัดข้อมือและข้อเท้าของเธอเสร็จสรรพจนใบหน้าสวยเผลอเบ้หน้าด้วยความเจ็บจากแรงเสียดสีของเชือกเส้นหยาบ
หญิงสาวถูกผลักเข้าไปในรถจนหน้าทิ่มล้มกลิ้งไปกองกับเบาะรถ ชายกระโปรงที่สวมร่นขึ้นมาเล็กน้อย แต่ภูผาก็ไม่สนใจไยดี เอ่ยคำขู่ทิ้งท้าย
“อย่าสร้างเรื่องให้ตัวเองเดือดร้อนไปมากกว่านี้เลยครับ ผมขอเตือนให้คุณอยู่เฉยๆ แล้วยอมรับสารภาพมา เผื่อคุณลีออนจะใจดีเมตตา”
ว่าจบเขาก็ปิดประตูไป แล้วย้ายไปยืนเฝ้าอยู่ข้างรถแทน ปล่อยให้ไอวี่ต้องใช้ความพยายามหยัดกายขึ้นนั่งดีๆ เอื้อมดึงชายกระโปรงให้กลับเข้าที่โดยที่มือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลังเอาไว้
เธอไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมเสี่ยงตายเท่านี้มาก่อนให้ชีวิต แม้ใบหน้าสวยจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ภายในกลับกระสับกระส่ายร้อนรนไปหมดแล้ว
หัวสมองฉับไวพยายามเค้นหาทางรอดไปจากสถานการณ์นี้ให้ได้ เธอรู้ซึ้งถึงความอันตรายของผู้ชายกะล่อนชื่อลีออน ก็ตอนที่เผลอเดินเข้ามาใกล้กรงเล็บแหลมคมของเขาจนถูกตะครุบเข้าใส่โดยไม่ทันตั้งตัว
ดวงตาสั่นไหวมองออกไปยังนอกตัวรถติดฟิล์มดำสนิท แล้วก็ดูเหมือนทางรอดเธอจะไม่เหลืออีกต่อไป เพราะนอกจากภูผา เหล่าบอดี้การ์ดคนอื่นก็ทยอยเดินออกมาจากเลาจน์หรูเช่นกัน แม้เธอจะใช้เวลาตอนนี้แก้มัดเชือกได้ แต่ก็คงไม่รอดจากกลุ่มชายฉกรรจ์ร่างกำยำมากมายขนาดนี้ได้ ทำได้เพียงรวบรวมสติที่แตกซ่าน สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ภาวนาว่าหนุ่มยิ้มเก่ง ดูอารมณ์ดีอย่างลีออนคงไม่ใจร้ายฆ่าเธอหมกป่าข้างทาง แม้ความหวังมันจะริบหรี่มากก็ตาม
ในที่สุดเวลาที่อยากจะยืดออกไปให้นานที่สุดก็มาถึงจนได้ หนุ่มหล่อเจ้าเล่ห์เดินอมยิ้มอารมณ์ดีมาแต่ไกล ใครจะเชื่อว่าภายใต้หน้าหล่อๆ ดูเสเพลไม่เอาไหนจะซุกซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ได้ถึงขนาดนี้ แค่ประเมินจากบทสนทนาและกลุ่มลูกน้องมากมาย ให้ตายยังไงไอวี่ก็ไม่เชื่อว่าเขาเป็นเพียงนักธุรกิจธรรมดา!
ปึก!
ประตูรถถูกเปิดออกอีกครั้ง ทำให้หญิงสาวขยับตัวชิดขอบประตูอีกฝั่ง จับจ้องไปยังใบหน้าเจ้าเล่ห์ด้วยสายตาแข็งกร้าวเย็นชา เขาเพียงแค่กระตุกยิ้มร้าย หันไปพยักหน้าให้ลูกน้องเป็นสัญญาณแล้วก้าวขึ้นมานั่งข้างเธอ บอดี้การ์ดคนเดิมที่เป็นคนจับไอวี่มัดก็เดินอ้อมรถขึ้นมาประจำที่คนขับอย่างรู้งาน
“ไหน~ เรามาคุยเรื่องของเธอกันดีกว่า บอกมาว่าเธอเป็นใคร แล้วทำงานให้ใคร!”
น้ำเสียงเรื่อยๆ เปื่อยๆ ติดสบายอารมณ์ แต่กลับแฝงความกดดันในคำถาม ทำให้นักข่าวสาวคิดหนัก ไม่รู้ว่าหากยอมรับความจริงไป เขาจะทำอะไรกับเธอ หรือหากเลือกโกหก ทางไหนจึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในช่วงวินาทีแห่งความเป็นความตาย
“...”
“ฉันเองก็ไม่ใช่พวกชอบทำร้ายผู้หญิงซะด้วย...แต่สำหรับคนที่คิดร้ายกับฉัน ฉันก็ไม่ปล่อยมันง่ายๆ เหมือนกัน”
ร่างเล็กถูกกระชากจนเซถลาเข้าหาแผงอกกว้างกะทันหัน ลำคอเธอแห้งผากกลืนน้ำลายแทบไม่ลง จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีประหลาดคู่นั้นนิ่งๆ เพื่อประเมิน แล้วขนในกายก็ลุกชันดูจากความมาดมั่นนั่นแล้ว เขาเอาจริงแน่!
ยังไม่ทันที่ไอวี่จะคิดหาคำพูด รถคันหรูก็เคลื่อนตัวออกจากลานกว้าง พร้อมขบวนรถอีกหลายคันขับตามหลัง
“จะพาฉันไปไหน”
“ที่ๆ เหมาะกับการเก็บกวาดพวกสอดรู้สอดเห็น...” รอยยิ้มชวนฝันที่เห็นแล้วหนาวสันหลังปรากฏขึ้น
ร่างเล็กตัวแข็งเมื่อหนุ่มข้างกายดึงของบางสิ่งออกมาจากด้านในเสื้อสูท กระบอกปืนสีดำเงาวับสะท้อนกับแสงไฟตามถนนกระทบเข้าสู่สายตาทำเลือดในกายไอวี่เย็นเฉียบ
“ว่าไงดี~ จะคุยกันบนรถนี้เลย หรือจะรอให้ถึงที่ก่อนแล้วค่อยคุย”
“...”
“ดูเหมือนเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงพูดเก่งสินะ คงต้องใช้ไอ้นี่เป็นตัวช่วยซะหน่อย ว่าไง จะตอบคำถามได้หรือยัง” ลีออนถามย้ำด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นพร้อมยกกระบอกปืนขึ้นมาจ่อขมับในระยะประชิด
“...”
“พูด! เธอทำงานให้ใคร!” ไอวี่สะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงเกรี้ยวกราดดุดันนั้น
วินาทีนี้ชีวิตเธอเหมือนอยู่หน้าปากเหวลึก หากเลือกที่จะนิ่งต่อไปคงไม่เป็นผลดีกับตัวเองแน่ เธอยังไม่พร้อมจะตายตอนนี้ ตอนที่ยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณคุณยาย
ไอวี่หายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่รวบรวมความกล้า กดข่มความกลัวที่แผ่ซ่านไปทุกอณูผิวจนร่างกายสั่นระริก ก่อนจะเปิดปากบอกความจริงทั้งหมด
“ฉันมาจากสำนักข่าว X News TV”
“นักข่าว?” ลีออนขมวดคิ้วถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้เลย
“ใช่” หญิงสาวพยักหน้า ตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคง ทั้งที่ภายในหวั่นเกรงว่าปลายนิ้วหนาจะเผลอสัมผัสถูกไกปืนโดยไม่ตั้งใจ ฝ่ามือเย็นเฉียบแต่กลับอาบชุ่มไปด้วยเหงื่อจากความเครียด เช่นเดียวกับจังหวะหัวใจที่กระหน่ำรุนแรง
“ทำไมถึงมาตามฉัน! ยอมรับมาซะดีๆ ว่าใครจ้างเธอมา!” ชายหนุ่มยังคงไม่เชื่อในคำตอบ เขาทำธุรกิจสีดำ ย่อมมีศัตรูและผู้ไม่หวังดีจ้องเล่นงานรอบตัว คำพูดเพียงประโยคเดียวไม่อาจทำให้เขาเชื่อได้
“ฉันพูดเรื่องจริง ฉันเป็นนักข่าว! ถ้าไม่เชื่อค้นดูบัตรนักข่าวในกระเป๋าเลยก็ได้”
ดวงตาคมหรี่ลง ก้มมองตามสายตาหญิงสาวที่ขยับกายเข้าใกล้ทั้งที่มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ด้านหลัง ก่อนจะยอมเก็บปืนเข้ากระเป๋าเสื้อสูท แล้วถือวิสาสะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าข้างกระโปรงชุดพนักงานเสิร์ฟ และเมื่อเปิดออกก็พบบัตรประชาชน และบัตรประจำตัวนักข่าวของ X News TV จริงตามที่เธออ้าง
“แล้วมาตามฉันทำไม ไปรู้เรื่องอะไรมา”
“...” หญิงสาวนิ่งไปอย่างใช้ความคิด ไม่แน่ใจว่าหากพูดความจริงไปจะเป็นการหาเรื่องให้ตายเร็วขึ้นหรือเปล่า
“ตอบ!” ลีออนถามย้ำเสียงเข้มอีกครั้งเป็นการกดดัน เมื่อร่างเล็กเอาแต่ปิดปากเงียบสนิท
“ฉันแค่ได้ข่าวมา ว่าคุณทำธุรกิจผิดกฎหมาย เลยอยากรู้ว่าจริงหรือเปล่า”
“มีหลักฐานอะไรถึงมากล่าวหาฉันแบบนั้น” ชายหนุ่มเหยียดยิ้มร้าย เอ่ยตอบกลับเย้าแหย่
“ไม่มี...”
“ไม่มี...แต่กลับยอมลงทุนตามติดชีวิตฉันอยู่หลายวันเนี่ยนะ พูดความจริงมาดีกว่า ไอลดา”
“...”
หญิงสาวเงียบไปอีกครั้งหลังจากลีออนเรียกชื่อจริงของเธอ ตอนนี้เขาเห็นบัตรประชาชนเธอหมดแล้ว หากคนมีอำนาจเช่นเขาคิดจะเล่นงานเธอกลับ มันก็เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งกว่าดีดนิ้วด้วยซ้ำ
“ฉันอยากได้ข่าวใหญ่ เพื่อรางวัลนักข่าวดีเด่นประจำปี มันอาจจะทำให้ฉันมีโอกาสเลื่อนตำแหน่ง”
“หึหึ ช่างทุ่มเทกับงานจริงๆ” เขาหยอกล้อพร้อมรอยยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นแทน แววตาเหี้ยมเกรียมก่อนหน้าจางหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วนี้ทำหญิงสาวเดาอุปนิสัยที่แท้จริงของหนุ่มตรงหน้าไม่ออกจริงๆ ว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่
“...”
“ฉันว่าฉันควรส่งตัวเธอให้ตำรวจจัดการ แล้วดับเส้นทางนักข่าวช่างสอดรู้สอดเห็น คงดีกว่าสินะ”
“ไม่ได้นะ! ทำแบบนั้นคุณนั่นแหละจะซวยซะเอง ถึงฉันไม่มีหลักฐาน แต่ทั้งข้อหาพกปืนในที่สาธารณะ กักขังหน่วงเหนี่ยว ขู่กรรโชกก็มากพอจะลากคุณเข้าคุกแล้ว!” ไอวี่รีบแทรกขึ้นมาเพื่อขู่กลับ เธอรักในงานตัวเอง และยอมไม่ได้เด็ดขาดหากถูกเขาตัดเส้นทางอนาคต แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะขบขันไม่มีท่าทางหวาดกลัวแม้แต่น้อย
“คิดว่าแค่คำพูดของนักข่าวโนเนมคนเดียวคนจะเชื่อจริงเหรอ เธอตามฉันมาขนาดนี้ก็คงจะรู้แล้วสินะว่าอิทธิพลครอบครัวฉันมันกว้างขวางแค่ไหน แค่เรื่องพกปืนมันเล็กน้อยมาก”
ไอวี่กัดปากแน่น ไร้ข้อโต้เถียงอีกต่อไป หลักฐานที่มีตอนนี้มันเบาบางมากจนไม่อาจจะใช้มัดตัวเขาได้
“เลิกทำข่าวเรื่องฉันซะ! แล้วเรื่องในครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอมีชีวิตรอดต่อไป” ร่างสูงไหวไหล่สบายอารมณ์ พลางเอื้อมมือคว้าเอวบางของสาวข้างกายกระชับเข้าหาตัว ทำให้ใบหน้าสวยจัดไร้เครื่องสำอางซุกเข้าหากล้ามหน้าอกแน่นหนั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ไอวี่พยายามขืนตัวออกห่าง ความใกล้ชิดทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมนุ่นลึกมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกลอยออกมาจากกายเขา
“ได้! ฉันจะหยุดทำข่าวเรื่องนี้! เท่านี้ใช่ไหมที่ต้องการ!” ร่างเล็กกระแทกเสียงกลับ ไม่มีท่าทางเกรงกลัวอีกแล้ว
ท่าทางเยือกเย็น ไม่กลัวตายของเธอยิ่งทำให้ลีออนรู้สึกสนใจในตัวเธอขึ้นไปอีก
“ใช่! และเพื่อเป็นเครื่องรับประกันว่าจะไม่มีการตุกติกภายหลัง เรายังมีเรื่องที่ต้องคุยกันต่ออีกหน่อย”
“...”
“ไอ้ภูผา ขับกลับโรงแรมเลย”
“ครับนาย”
หญิงสาวนั่งตัวแข็งทื่อในอ้อมกอดของเพลย์บอยตัวแสบ พอได้ยินคำว่าโรงแรม ชื่อเสียงกิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของลีออนก็ผุดขึ้นมาในหัวเป็นสิ่งแรก เธอพยายามออกแรงขัดขืน ดิ้นออกจากอ้อมแขนแกร่ง แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนเขาจะรัดแน่นขึ้น
ตอนนี้ขอแค่ให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ฆ่าเธอทิ้งหมกป่า เรื่องอื่นที่จะตามมาก็คงพอจะรับมือได้ คิดได้ดังนั้นไอวี่ก็พ่นลมหายใจยาวแล้วเลิกดิ้นรนขัดขืน ปล่อยให้ลีออนโอบกอดร่างเย้ายวนไปตลอดทาง
ชายหนุ่มหลุบมองสาวสวยหน้าตายในอ้อมแขนด้วยแววตาวิบวับราวกับเด็กน้อยได้เจอของเล่นใหม่ เหตุผลแรกที่เขาจำเป็นต้องกักตัวเธอเอาไว้ต่อ ก็เพื่อไปสืบค้นหาข้อมูลว่าสิ่งที่เธออ้างเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และต่อให้ตอนนี้เธอยังไม่ได้หลักฐานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ดูจากสายตาแน่วแน่คู่นั้นแล้ว ก็ไม่อาจจะวางใจได้ เพราะวันนี้ก็มีหลายสิ่งทำให้ยัยนักข่าวช่างสอดรู้สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ จึงจำเป็นต้องพันธนาการเธอเอาไว้ข้างกายเสียเลย
กลางดึกไฟในห้องนอนกว้างถูกปิดสนิท มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศช่วยให้ความเย็นเท่านั้น ลีออนนอนอยู่อีกฟากของเตียงกว้างเพ่งสายตามองผ่านร่างเล็กๆ ของลูกสาวทั้งสองที่นอนคั่นกลางไปหาร่างเย้ายวนของภรรยาเปลือกตาของสาวลูกครึ่งปิดลง ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอท่อนแขนข้างหนึ่งวางพาดบนก้นเล็กๆ ของเอวาอยู่ ในขณะทั้งสามสาวกำลังจมลึกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ชายหนุ่มเพียงคนเดียวรู้สึกกระสับกระส่ายครั้นเนื้อครั้นตัว พยายามสะกดข่มแรงปรารถนาให้สงบ แต่ไม่ว่าพลิกกายกี่รอบก็ไม่อาจจะหลับได้สักทีสุดท้ายก็ตัดสินใจเอื้อมมือผ่านลูกทั้งสองสะกิดแขนภรรยาเบาๆ“อื้มมมม~” หัวคิ้วบางขมวดเข้าหากัน ส่งเสียงอื้ออ้ารำคาญใจในลำคอหลังจากถูกกวนตอนกำลังหลับสนิท“วี่...วี่ครับ...ที่รักจ๋า”“หื้ม?”คนตัวเล็กผงกหัวขึ้นมาพยายามเปิดปรือดวงตาง่วงงุนขึ้นมอง“มีอะไร”“ชู่~ เบาสิครับ เดี๋ยวลูกตื่น” ลีออนกระซิบบอก ซึ่งไอวี่ก็ได้แต่ยกหลังมือขยี้ตา“คะ?”“ลุกมานี่หน่อยครับวี่”ลีออนค่อยๆ ก้าวลงจากเตียงเชื่องช้าระวังไม่ให้เกิดเสียงใดๆ รบกวนการนอนของลูกๆ แม้หญิงสาวจะยังไม่เข้าใจแต่ก็ยอมหย่อนขาลงจากเตียง เดินสะลึมสะลือด้วยความง่วงต
สามปีต่อมาคฤหาสน์หลังใหม่ของลีออนคฤหาสน์สุดหรูหลังใหญ่สามชั้นมีเนื้อที่กว้างขวาง พร้อมสนามหญ้าและสระว่ายน้ำส่วนตัว ตั้งอยู่ในโครงการบ้านจัดสรรสำหรับเหล่าเศรษฐี ซึ่งทั้งโครงการมีคฤหาสน์ใหญ่เช่นนี้เพียงแค่สามหลังเท่านั้น และหนึ่งในนั้นก็เป็นของวิคเตอร์เรียบร้อย ทำให้ลีออนได้คฤหาสน์อีกหลังริมทะเลสาบเช่นกัน แม้จะไม่ได้อยู่มุมดีที่สุด แต่ก็อยู่ห่างจากบ้านเพื่อนรักเพียงนิดเดียว สามารถเดินเท้าไปหาได้ด้วยซ้ำเด็กน้อยวัยสามขวบกว่า ลูกสาวคนแรกอย่างอีฟ หัวเราะวิ่งเล่นอยู่กับบิดายังสนามโล่งกว้างร่มรื่น สายลมยามเย็นไม่อาจจะช่วยดับร้อนให้ร่างเล็กซึ่งมีพลังงานเหลือล้นได้เลย จนใบหน้ากระจ่างใสแดงระเรื่อไม่ต่างจากลูกมะเขือเทศ“จับได้แล้ว”“คิกๆๆ หนูจั๊กจี้” เธอหัวเราะเสียงใสจนตาหยีเมื่อคุณพ่อคว้าเธอเอาไว้แล้วใช้ตอหนวดสากระคายถูไถแก้มเนียนๆ เป็นการหยอกล้อ“เหนื่อยยังคนเก่ง”“ม่ายยยยย~ เล่นอีก”“ปะป๊าหมดแรงแล้วนะครับอีฟ”“นะคะ”ใบหน้าน่ารักของลูกสาวในอกกะพริบตาปริบๆ อ้อนวอน ทำใจคนพ่ออ่อนยวบเหลวเป็นน้ำ แม้ใบหน้าตนเองจะเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและเหนื่อยกับการวิ่งไล่จับลูกสาวคนโต แต่พอเห็นท่าทา
ตั้งแต่ทราบข่าวว่าตั้งครรภ์ทั้งลีออนและแม่เขาก็สั่งให้เธอพักงานอย่างเด็ดขาด และด้วยอิทธิพลของสิรินดา พอลูกสะใภ้คนโปรดบอกว่ายังอยากทำงานเป็นนักข่าวต่อ เธอจึงได้ต่อสายตรงไปหาเจ้าของสถานี X News TV ขอลาพักร้อนให้ไอวี่เสร็จสรรพ เรียกว่าต่อให้เธอจะหยุดงานไปเป็นปี แต่ทางช่องก็ไม่กล้าไล่เธอออกเพราะนามสกุลใหม่ต่อท้ายของนักข่าวคนเก่งทั้งสามนั่งทานอาหารเช้าอยู่ในห้องอาหาร หน้าต่างบานใหญ่ถูกเปิดอ้า รับสายลมเย็นๆ จากด้านนอกพัดเข้ามาในตัวบ้านช่วยบรรยากาศยามเช้าสดชื่นปลอดโปร่ง คงมีแต่เพียงหนุ่มแสบคนเดียวที่นั่งกุมขมับด้วยใบหน้าซีดเซียว“วี่ทานเยอะๆ ลูก หมอบอกน้ำหนักน้อยไป ต้องบำรุงเพิ่มอีกรู้ไหม” สิรินดาซึ่งย้ายฝั่งมาโอ๋ลูกสะใภ้เต็มที่ช่วยตักผัดผักบุ้งให้เธอ โดยไม่คิดจะสนใจสีหน้าย่ำแย่ของลูกชายเลย“ขอบคุณค่ะคุณแม่” เธอส่งยิ้มให้แม่สามี ก่อนจะเบนสายตามาดูอาการลีออน “ไหวไหม กินข้าวไม่ลงเหรอ”“แย่ พะอืดพะอม”มือหนาดันชามข้าวต้มออกห่าง ทั้งที่อาหารส่วนใหญ่บนโต๊ะก็ไม่มีอะไรมีกลิ่นคาว แต่เขากลับเวียนตื้อรู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาทุกเมื่อ“เมื่อวานแม่บ้านซื้อมะม่วงเปรี้ยวมาไว้ให้ วี่ไปปอก
สัปดาห์ต่อมาพิธีในช่วงเช้าจัดขึ้นยังคฤหาสน์หลังใหญ่ของครอบครัวลีออน แน่นอนว่าไอวี่ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว จึงได้เชิญครอบครัวป้าแก้วและน้าพิณพยาบาลที่คอยดูแลยายมาลีหลายปีมาร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญนี้ ส่วนเพื่อนก็มีทั้งเพื่อนสมัยมัธยมและมหาลัย รวมถึงเพื่อนร่วมงานอย่างบอล และ แมนด้วยอดีตตากล้องคู่ใจถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน หลังจากทราบว่าแท้จริงแล้วลีออนคือทายาทนักธุรกิจตระกูลดัง ทำหนุ่มท้วมยืนตัวเกร็งไม่กล้าหยอกล้อกับเจ้าบ่าวเหมือนแต่ก่อนส่วนญาติทางฝั่งเจ้าบ่าวต้องบอกว่าเยอะมากจนเจ้าสาวสับสน ร่างระหงในชุดพิธีแบบไทยสวยประดุจนางในวรรณคดีหลุดมาสู่โลกแห่งความจริง ใบหน้าสวยจัดมีส่วนผสมจุดเด่นของสาวไทยและเชื้อสายยุโรปไว้อย่างลงตัว มวยผมเกล้าต่ำประดับด้วยดอกไม้ส่งกลิ่นหอม ควงท่อนแขนเจ้าบ่าวในชุดไทยประยุกต์สีขาวสะอาดตา ยกมือขึ้นไหว้บรรดาญาติพี่น้องจากครอบครัวฝั่งแม่ชายหนุ่มจนเหงื่อตกขนาดว่าเป็นงานส่วนตัว แต่จำนวนแขกที่มาร่วมงานกลับมีมากเกือบร้อยคน หัวสมองคนตัวเล็กไล่ทบทวนชื่อของญาติๆ เขาทั้งพี่สาวยาย ลูกของป้า น้าเขย หลานลูกพี่ลูกน้อง ทำเธอมึนตื้อไปหมด แต่ก็ได้เจ้าบ่าวสุ
หลายสัปดาห์ต่อมางานที่ลีออนเฝ้ารอคอยมาทั้งชีวิตก็กระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ ท่ามกลางความยินดีของกลุ่มเพื่อนและครอบครัว เว้นเพียงคนเดียวที่ยังคงแสดงอาการต่อต้านอยู่ นั่นก็คือสิรินดาวันนี้ไอวี่ไปลองชุดแต่งงานพร้อมแก๊งสาวๆ ซึ่งก็มีแพรวา คลีโอ มิลิน รวมถึงอันดามันที่ท้องใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่วายพยุงร่างตุ้ยนุ้ยของตัวเองไปด้วยเนื่องจากเธอถือเป็นสไตล์ลิสประจำกลุ่ม วิคเตอร์จึงต้องติดตามไปดูแลภรรยาสาวตัวเองไม่ห่าง คงมีเพียงว่าที่เจ้าบ่าวที่ต้องมานั่งแกร่วเตรียมเข้าพบนักธุรกิจหนุ่มใหญ่เพื่อติดต่อขอซื้อที่ดินแปลงสวยในจังหวัดกระบี่ลีออนมุ่ยหน้าขัดใจที่ตนเองอดไปดูเจ้าสาวแสนสวยของตนเองลองชุด เหมือนว่าแม่ของเขาจะวางแผนกลั่นแกล้งหาเรื่องมากกว่าถึงได้โยนหน้าที่นี้มาให้ในช่วงเวลาใกล้งานแต่งเช่นนี้“ทำหน้าดีๆ หน่อยสิครับนาย”“กูไม่อยากมา ทำไมกูต้องมาเจรจาขอซื้อที่ด้วยตัวเองวะ”“คุณปรีชาค่อนข้างหัวแข็ง แต่ประธานอยากจะได้ที่ดินตรงนั้น เคยส่งคนมาพูดคุยแล้ว แต่ก็ถูกปฏิเสธทันที ผมคิดว่าถ้าคุณลีออนมาเองเขาน่าจะยอมตกลงด้วย”“แม่งเอ๊ย! กูอยากไปดูเมียลองชุด ไม่ใช่มาเจอหน้าลุงแก่ๆ”“
เช้าตรู่ในวันต่อมาแล้วก็เป็นไปอย่างที่ลีออนคาด เพราะทันทีที่ทั้งสองก้าวลงมาจากชั้นบนเพื่อรับประทานเช้าก็พบกับนายหญิงเจ้าของบ้านนั่งเชิดหน้าชูคอรออยู่ในห้องรับแขกซะแล้ว“ลีออน! มานี่! เราต้องคุยเรื่องนี้ให้รู้เรื่อง” น้ำเสียงทรงอำนาจตวาดลั่น ตวัดสายตาเกลียดชังไปทางหญิงสาวหน้าลูกครึ่งซึ่งตนไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเลยการแสดงออกของผู้เป็นแม่ทำลูกชายหน้าตึง เอื้อมคว้ามือเล็กบีบแน่นแล้วจูงว่าที่ภรรยามาเผชิญหน้ากับพ่อแม่เขาเป็นครั้งแรก“สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานเลยนะเนี่ย” ร่างสูงยิ้มกริ่มไม่ได้ยกมือไหว้ทักทายแบบไทย เพียงแค่ยืนส่งยิ้มกวนอารมณ์ให้ทั้งคู่ แม้ไอวี่จะรู้ตัวว่าสิรินดาไม่ชอบหน้าเธอ แต่เมื่อพบผู้ใหญ่เธอก็ยกมือขึ้นไหว้ทั้งสองตามมารยาท“สวัสดีค่ะ”“กองไว้ตรงนั้นแหละ ฉันไม่รับ!”“สิรินดา...”แอลวินเอ่ยปรามภรรยาเสียงเข้ม คำพูดไร้เยื่อใยของแม่ลีออนทำไอวี่หน้าเสีย กัดปากข่มความโมโหกับสายตาเหยียดหยามที่จ้องมาไม่วางตา“กรุณาให้เกียรติเมียผมด้วย ผมเตือนแม่ไปแล้ว!” ลีออนก็ออกปากช่วยปกป้อง น้ำเสียงแข็งกร้าวไม่เกรงกลัวเรียกความสนใจจากมารดาให้กลับมามองหน้าลูกชายตัวดีแทน“แกน่ะ