“หมิง มานั่งนี่” อัมพรมารดาของอัศราเรียกหลานชายมานั่งด้วยกัน ชายหนุ่มทำความเคารพผู้ใหญ่ทุกคนในที่นั้น อัมพรหันมาคุยกับนางแก้วคำที่นั่งใกล้กันแนะนำหลานชายให้ญาติฝ่ายทางเจ้าสาวรู้จัก
“ตาหมิงค่ะ เป็นญาติอีกคนมีศักดิ์เป็นพี่ของฮาน สองคนนี่จริงๆ สนิทกันมากเลยค่ะ หมิงนี่คุณน้าแก้วคำเป็นแม่ของหน่อยน้องสะใภ้เรา ส่วนนั่นลูกไก่พี่สาวยายหน่อย”
นางแก้วคำยิ้มให้รับไหว้ชายหนุ่มที่มาใหม่
“ยินดีที่รู้จักค่ะ ตามสบายเลยนะคะงานพิธีเรียบร้อยแล้ว เราย้ายไปทานอาหารว่างกันเถอะค่ะ”
กฤติกาไม่ได้พูดอะไร แต่เธอรู้สึกว่าถูกจับจ้องไม่วางตาจนนางอัมพรเองก็รู้สึก
“หมิงจ้องอะไรหนูลูกไก่ขนาดนั้น คุ้นหน้าล่ะสิ หนูลูกไก่เขาเป็นเนตไอดอลชื่อดังมาก ทำช่องยูทูปมีคนติดตามเป็นล้าน สวนทุเรียนของน้าที่ระยองก็เลยดังไปด้วยเพราะหนูลูกไก่โปรโมทให้”
เดิมนางอัมพรเป็นลูกสาวเจ้าของสวนผลไม้ขนาดใหญ่ที่ระยอง เมื่อมาแต่งงานกับพ่อของอัศรานางก็ยังมรดกเป็นสวนผลไม้และพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น จนตอนนี้สวนของนางขึ้นชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวว่าเป็นที่หนึ่งที่ควรไปเยี่ยม ได้รับคำแนะนำจากการท่องเที่ยวของจังหวัดติดอันดับหนึ่งมาสามปีซ้อน
“อ้อครับ ผมก็ว่าคุ้นๆ” สมิติเออออไปกับนางอัมพร ทั้งที่เขาไม่เคยรู้เรื่องในโลกออนไลน์เลยว่าใครดังหรือไม่ดัง
บรรดาผู้ใหญ่ทยอยเดินออกจากห้อง กฤติกาปล่อยเชอรี่ไปหาพ่อแม่ของเด็กหญิง ตัวเธอเองออกทางด้านหลังของห้องรับรองแขกเงียบๆ สมิติมองตามแต่ไม่สามารถเดินตามเธอไปทางนั้นได้ ชายหนุ่มได้แต่อวยพรบ่าวสาว
“ดีใจด้วยขอให้ได้แต่งเร็วๆ นะ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเรานะครับน้องหน่อย” ตอนท้ายเขาหันมาพูดกับเกศราที่พนมมือไหว้ขอบคุณเขาอย่างไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไร
“ขอบคุณค่ะ เชิญพี่ด้านนอกเลยค่ะอาหารน่าจะพร้อมแล้ว” เกศราเชิญเขาไปด้านนอกที่มีการจัดเตรียมอาหารแบบบุฟเฟต์ไว้ กฤติกาสั่งอาหารรับรองแขกมาจากร้านชื่อดังสำหรับคนห้าสิบคน เพื่อเป็นการผ่อนแรงเจ้าภาพจะได้ไม่ต้องมามัวทำอาหารเองจนหน้ามัน
“เชิญตามสบายเลยค่ะ” เกศราพูดซ้ำ เธออุ้มลูกสาวขึ้นมาเพื่อไปดูอาหารที่เด็กหญิงอยากทาน
“หาแม่ไก่” น้องเชอรี่พูดเธอมองหาแม่ไก่ไม่เห็นเลย
“แม่ไก่มีงานค่ะลูกหนูอยู่กับพ่อแม่นะคะวันนี้” เกศรารู้อยู่แล้วว่าวันนี้พี่สาวมีนัดถ่ายงานตอนบ่าย สำคัญมากจนเลื่อนไม่ได้อีกอย่างวันนี้เป็นแค่งานหมั้น เธอจึงไม่ได้ติดใจหรือน้อยใจที่พี่อยู่ในงานไม่นาน
แต่สองหนุ่มที่เพิ่งรู้ถึงกับมองหน้ากัน
“วันนี้ลูกไก่มีงานอีกเหรอหน่อย” อัศราถามคู่หมั้นหมาดๆ
“ค่ะ งานเลื่อนไม่ได้พี่ไก่เลยต้องรีบไป ก็พี่ฮานเลือกวันไม่ปรึกษาใครเองนี่” ตอนท้ายเกศราโยนกลับมาให้เป็นความผิดของเจ้าบ่าว
กฤติกาหลบขึ้นมาบนห้องส่วนตัวเธอเคยคิดว่าเธอลืมสมิติไปหมดแล้ว ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วแต่เมื่อพบกันวันนี้จึงรู้ว่าที่เคยเข้าใจนั้นผิดทั้งหมด
‘แต่จะยังไงล่ะ รู้สึกหรือไม่มันก็ไม่ต่างกัน’
หญิงสาวบอกตัวเอง เธอเดินมาไกลแล้ว วันนี้เธอไม่ใช่เด็กสาวที่มีสมิติเป็นโลกทั้งใบ แต่วันนี้เธอต่างหากที่เป็นโลกใบใหม่ให้กับหลายๆ คน งานที่เธอทำมันช่วยจุดประกายให้หลายคนสู้ต่อ เธอไม่จำเป็นต้องแคร์เขาอีกแล้วเพราะชื่อเสียงและงานที่มีในวันนี้เป็นสิ่งที่สร้างมาด้วยตัวเอง
หญิงสาวลุกขึ้นเปลี่ยนชุด วันนี้เธอมีงานไปถ่ายทำการทำน้ำตาลมะพร้าวที่สมุทรสงคราม สินค้าจากภูมิปัญญาจากกลุ่มชาวบ้านที่กำลังจะสู้ระบบทุนนิยมไม่ได้ เนื่องจากเธออยู่ร่วมพิธีหมั้นของน้องสาวจึงให้ทีมงานไปก่อน
เธอลงมาที่ชั้นล่างเห็นแขกเริ่มทานอาหารแล้วจึงบอกแม่บ้านฝากบอกแม่ว่าเธอไปทำงานแล้ว อาจจะไม่ได้กลับบ้านคืนนี้จากนั้นออกทางหลังบ้านขับรถไปทำงานทันที
กฤติกามาถึงสวนมะพร้าวที่อัมพวาในเวลาบ่ายสอง ญาณินกำลังคุยกับประธานกลุ่มน้ำตาลมะพร้าวอย่างออกรสชาติ
“สวัสดีค่ะ ขอโทษที่มาช้านะคะ” เธอทักทายทุกคน จากนั้นจึงเริ่มคุยรายละเอียดงาน เธอฟังญาณินบรีฟงานคร่าวๆ จากนั้นดูสคริปต์และปรับแก้ไขเพิ่มเติม จากนั้นจึงเริ่มการถ่ายทำเพราะแสงใกล้หมด
“ตอนนี้นะคะไก่อยู่ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตน้ำตาลมะพร้าวและผลิตภัณฑ์อื่นจากมะพร้าวของอัมพวาค่ะ ในกระทะคือการเคี่ยวน้ำตาลที่ได้มาจากจั่นมะพร้าว ตอนนี้เราเคี่ยวกันมากี่ชม.แล้วคะพี่” เธอหันไปถามชายคนหนึ่งที่กำลังอยู่หน้าเตา กระทะที่ใช้เคี่ยวเป็นกระทะใบบัวขนาดใหญ่ มีคนเคี่ยวอยู่ประมาณ 2-3 คน
“ห้าชั่วโมงแล้วครับ นี่ก็จะเสร็จแล้ว” ชายผู้นั้นหันมาตอบ จากนั้นกล้องแพลนไปที่การเคี่ยวน้ำตาลที่หนืดจนข้น ไม่นานนักมีการยกกระทะขึ้นจากเตาไฟ พักให้เย็นตักหยอดใส่พิมพ์เพื่อบรรจุจำหน่าย
“ที่นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่โรงที่ยังผลิตน้ำตาลมะพร้าวแท้ โดยที่ไม่ผสมแบะแซหรือน้ำตาลทรายค่ะ ส่วนข้อดีของน้ำตาลมะพร้าวแท้คือเป็นน้ำตาลที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าน้ำตาลชนิดอื่นเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล หรือคนที่กำลังลดน้ำหนักโดยเฉพาะในสายโลว์คาร์บนะคะ”
กฤติกาสรุปข้อดีของน้ำตาลมะพร้าว จากนั้นจะเป็นการแนะนำช่องทางการขายสินค้า ซึ่งทั้งหมดทีมงานของเธอจะนำภาพและคลิปไปตัดต่ออีกครั้งที่สำนักงาน
มะพร้าวหรือน้ำตาลโตนดอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Glycemic Index, GI) ต่ำ คือ 35 (ค่าดัชนีน้ำตาลไม่เกิน 55 หมายถึงมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ) จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้นเร็ว และร่างกายไม่ต้องหลั่งอินซูลินออกมามากเพื่อกำจัดน้ำตาลออกจากกระแสเลือด
การเลือกรับประทานอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน และสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้วก็จะสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้นและจะทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นอีกด้วย ดังนั้น น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลโตนดจึงเป็นอีกทางเลือกของการรับประทานน้ำตาล
ทั้งคณะกลับจากอัมพวามาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงเย็น ญาณินขอตัวกลับก่อนเพราะเธอมาตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนกฤติกาจะเข้าสำนักงานพร้อมลูกน้อง
“กลับก่อนนะลูกไก่ มะรืนนี้เดี๋ยวฉันเข้าไปที่ออฟฟิศ” ญาณินลาเพื่อน
“โอเควันนี้ขอบใจมากนะนิน”
กฤติกาสั่งอาหารมาเลี้ยงลูกน้อง
“อยู่กินข้าวก่อนค่อยกลับนะเว พรุ่งนี้ค่อยมาตัดต่องาน”
“ค่ะพี่ลูกไก่” เวธนียิ้มรับ เธอเป็นครีเอทีฟสาวอายุน้อยกว่าเจ้านายสองปี หญิงสาวตัดผมสั้นเพื่อความคล่องตัวในการทำงานที่ต้องออกต่างจังหวัดบ่อยจนหลายคนเข้าใจว่าเธอเป็นทอมบอย
“พี่ลูกไก่คะ จุ๋มลืมบอกว่าเมื่อวานนี้เลขาฯ ท่านธำรงติดต่อมาอยากเป็นสปอนเซอร์ให้เราค่ะ” จุฑามาศเลขาฯ แจ้งเรื่องงานให้เธอทราบ
ท่านธำรงเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในปัจจุบัน หนุ่มใหญ่อายุ 50 ปีเคยให้คนติดต่อมาแล้วครั้งนึงแต่เธอปฏิเสธไปเพราะไม่อยากทำรายการที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
กฤติกาฟังแล้วหนักใจ สัญชาตญาณของผู้หญิงทำให้เธอระแวงผู้มีอิทธิพลคนนี้ว่าเขากำลังต้องการในสิ่งที่เธอไม่สามารถสนองตอบได้
“ก็คงต้องแจ้งเขาแบบเดิมน่ะ” เธอตอบหลังจากที่คิดคำตอบอยู่นาน
“จุ๋มบอกเขาไปแล้วค่ะพี่ว่าเราไม่อยากให้รายการไปเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองใดๆ แต่เลขาของท่านยังไม่ได้ตอบกลับมานะคะ”
##############
สมิติกลับจากบ้านงานในตอนบ่าย เขากลับมาทำงานตามปกติพบกับน้องสาวที่มารอเขาที่ห้องทำงาน
“มีอะไรหนูเล็ก” เขาถามไม่อ้อมค้อม
“เมื่อไหร่เฮียจะเห็นใจเพื่อนหนูเล็กบ้างล่ะ เพชรมันรอเฮียมาหลายปีแล้วนะ” สมาภรณ์วีนใส่พี่ชายทำให้สมิติมองน้องสาวอย่างหงุดหงิด
“เพื่อนเราเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงมารอเฮีย เฮียไม่เคยบอกเลยนะว่าสนใจเพื่อนเราน่ะ”
“เฮีย..” น้องสาวเสียงสูงปรี๊ด แต่ต้องเงียบเมื่อสมิติพูดต่อ
“เอาเวลาไปสนใจผัวเธอดีกว่า ว่ามันไปมีเมียน้อยนอกบ้านไว้กี่คน อย่ามายุ่งกับเรื่องของเฮียเพราะเฮียไม่อนุญาต”
วันรุ่งขึ้นเธอเห็นสมิติเจริญอาหารเป็นพิเศษ“เมื่อวานพี่เห็นไก่ซื้อขนมมาใช่ไหม ยังมีอยู่รึเปล่า” “ขนมเหรอคะ ขนมไทยนะคะพี่จะทานเหรอ” กฤติกาไม่เคยเห็นเขาชอบของหวานเลยสักครั้ง“อืม อยากกินน่ะยังมีอยู่รึเปล่า” สมิติตอบหญิงสาวจึงเปิดตู้เย็นดูขนมที่ว่า“มีค่ะเป็นทองหยิบกับฝอยทองนะคะ” เธอซื้อมาจัดชุดถวายข้าวพระพุทธ จึงมีเหลือในกล่องไม่มากเธอนำมันมาจัดจานไปใส่คนที่นั่งรอ“อร่อย” สมิติจิ้มทองหยิบใส่ปากสีหน้าดูชื่นอกชื่นใจ ส่วนกฤติกาทำหน้าแหยง“มันหวานมากเลยนะคะ พี่หมิงว่าพอดีเหรอ” สมิติหันมาพยักหน้า ทำสีหน้าจริงจัง“พอดี ไม่เห็นหวานไปเลยจ้ะ เอาอีกนะอันนี้ไก่ซื้อร้านไหนมา”“ร้านหน้าคอนโดนี่เองค่ะ พี่หมิงไม่สบายรึเปล่าคะ” เธอมองเขาอย่างกังวล พักนี้รู้สึกว่าเขาไม่ปกติหลายๆ อย่าง เหมือนผีเด็กเข้าสิงแต่เธอแน่ใจว่าแถวนี้ไม่มีใครเลี้ยงกุมาร“ไม่นี่ พี่ปกติ” สมิติตอบ เขาไม่รู้สึกว่าเขาเป็นอะไรภรรยาคิดมากไปเองหญิงสาวป้อนโจ๊กให้น้องแมทจนหมดถ้วย 'กินเก่งทั้งพ่อทั้งลูก' เธอคิดในใจ กฤติกาลุกขึ้นจะเข้าไปในครัวแต่ก็ต้องเซเมื่อเธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลม“ไก่..” สมิติเรียกเสียงดัง เขารีบมาป
“พี่หมิงคะ ลูกร้อง” กฤติกาตะโกนบอกสามี เด็กชายกรกันต์หรือน้องแมทวัยแปดเดือน กำลังแผดเสียงร้องจ้าเมื่อตื่นมาไม่พบใครในห้อง“จ้า พี่ไปเดี๋ยวนี้ละ” สมิติรีบวิ่งออกจากห้องน้ำไปดูลูกชาย ส่วนกฤติกากำลังเคี่ยวข้าวผักห้าสีให้ลูกในครัว“โอ๋.. ไม่ร้องนะครับ พ่อเปลี่ยนเพิสให้นะลูก” ชายหนุ่มเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จให้ลูกชายอย่างคล่องแคล่วเพราะทำมาตั้งแต่น้องแมทเกิด พ่อลูกอ่อนอุ้มลูกชายมาไว้ในคอก ตอนนี้น้องแมทคลานได้คล่องแล้ว บางครั้งไปไวมากจนพ่อแม่จับไม่ทัน“มาแล้ว” กฤติกายกถ้วยข้าวบดมาให้ลูก เธอคนๆ วางทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้คลายความร้อนลง“มาค่ะน้องแมท” เธออุ้มเด็กชายขึ้นจากคอกมานั่งที่เก้าหัดกินข้าวของเด็ก หญิงสาวหัดให้ลูกชายนั่งได้เองเพื่อที่ว่าเวลาไปไหนจะได้ไม่ต้องคอยอุ้มตลอดเวลา“พี่หมิงหิวหรือยังคะ” เธอหันไปถามสามี “หิวจ้ะ แต่ไม่รู้อยากกินอะไร” สมิติทำท่าเพลีย “นอนน้อยรึเปล่าคะ มีไข้ไหม” หญิงสาวลุกมาหาเขาเธอใช้มืออังหน้าผากพบว่าเขาตัวเย็น “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก” สมิติจับมือเธอไว้ “คืนนี้ไม่ต้องลุกมาดูแมทนะคะ ไก่จัดการเอง” เธอเริ่มฝึกให้ลูกเลิกมื้อดึกและนอนยาวแล้วตามที่คุยกับค
สมิติไม่ทำอะไรเธอตามที่เขาพูดจริง แต่ชายหนุ่มถือโอกาสช่วงที่รอแผลเธอหายช้ำสร้างความคุ้นเคยให้เธอด้วยการสัมผัสแตะต้อง โอบบ้าง กอดบ้างจนกฤติกาเริ่มชินเช้าวันอาทิตย์เขาออกไปข้างนอกและกลับมาทานข้าวเย็นกับเธอ พบว่ากฤติกาไม่ได้ออกไปไหนเลย“ออกไปเดินเล่นบ้างก็ได้นะไก่” “ไม่เป็นไรค่ะ ไก่อยากพักพรุ่งนี้ต้องไปมหาวิทยาลัย” สมิติพยักหน้าเข้าใจ เขาขยับตัวลุกขึ้นเตรียมตัวจะกลับที่พัก “งั้นไก่พักพี่จะกลับก่อน เช้าวันอังคารเจอกันพี่จะมารับไปลำปาง” “ค่ะ” ###############สมิติพาเธอไปจัดการธุระเรื่องบ้านที่ลำปางในเช้าวันอังคาร โดยที่เขาไปคุยกับเจ้าหนี้ให้เองและนำโฉนดบ้านกลับคืนมา จากนั้นเขาปล่อยให้กฤติกาเข้าบ้านไปหาน้องๆ หญิงสาวซื้อของจำเป็นเข้าบ้านจำนวนหนึ่งพอใช้ไปนาน และซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ไว้ให้น้อง ๆ โทรหาตนเอง ไม่ต้องยืมโทรศัพท์เพื่อนบ้านใช้อีกทั้งคู่กลับมาถึงกรุงเทพฯ ในตอนเที่ยงคืน สมิติขึ้นมาบนห้องด้วยเขาวางของลงบนโต๊ะ ขณะที่บอกเธอให้ไปอาบน้ำกฤติกาออกมาจากห้องน้ำ ไฟในห้องนอนถูกปิดแล้วเหลือไฟเล็กหัวเตียงเท่านั้น สมิตินอนบนเตียงอยู่ในชุดนอนเขาคงไปใช้ห้องน้ำด้านนอก“พี่จะ
“พี่ว่าอะไรนะ” สมิติทวนคำหลังจากที่พีรพัทย์โทรหาเขา “ก็อย่างที่บอกไป เดียโทรมาปรึกษากูว่าเพื่อนเขาจำเป็นต้องใช้เงินแสนสองภายในสามวัน กูพอจะมีเพื่อนดีๆ ที่สนใจน้องเขาไหม น้องเขายอมทุกอย่างแต่ขอให้ชัวร์เพราะเขาเดือดร้อนมาก” พีรพัทย์ทวนอีกครั้ง“แล้วถ้าผมบอกว่าไม่สนล่ะ” สมิติหยั่งเชิง“กูก็อาจจะหาคนอื่นให้น้องเขา หรือไม่กูก็อาจจะบริจาคให้น้องเขาเอง เงินแค่นี้มึงก็รู้ว่ากูไม่มีปัญหา” พีรพัทย์แกล้งพูด“พี่ว่าไงนะ พี่มีเดียอยู่แล้วไง” สมิติแย้ง“แล้วไงลูกไก่ก็เพื่อนเดีย เพื่อนสนิทกันมาก สองสาวจะได้มีเพื่อนเวลาปรนนิบัติกูไง เดียเขาอาจจะวางใจก็ได้ที่คนนั้นเป็นกู” “หยุด พี่บ้าไปแล้วไหนว่าจริงจังกับเด็กมันจะไปทำให้เดียเสียใจทำไม เอางี้ผมรับเองแต่ผมขอคุยกับลูกไก่ก่อน” สมิติรีบห้ามก่อนที่เพื่อนรุ่นพี่จะจินตนาการบรรเจิดไปมากกว่านั้น ได้ยินเสียงอีกฝ่ายหัวเราะจึงรู้ว่าฝ่ายนั้นล้อเล่น“ก็มาสิ คืนนี้ลูกไก่ต้องมาทำงานที่ร้านอยู่แล้ว” “ไม่ต้องเลย บอกเด็กพี่นะว่าให้บอกลูกไก่เลิกทำงานที่ร้าน เดี๋ยวผมจะออกไปรับตอนนี้เขาอยู่ที่คอนโดของเดียใช่ไหม” สมิติลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน วันนี้งานเขาไม
สมิติกลับมาขึ้นรถ เขาหันมามองกฤติกาที่ยังหน้าซีดเผือดจากเหตุการณ์เมื่อครู่“เจ็บตรงไหนบ้าง เดี๋ยวพี่จะพาไปตรวจที่โรงพยาบาล” เธอส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ จุกเดี๋ยวก็คงหายถ้าจะกรุณา ไปส่งที่ห้องเดียได้ไหมคะ” “ห้องเดียนั่นมันเป็นของเฮียพีท เขาซื้อให้เดียอยู่” สมิติเปรยขึ้นมา กฤติกาเม้มปากแน่น“งั้นไปหอของไก่ก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามันไกลไปเกรงใจเดี๋ยวไปแท็กซี่เองค่ะ” “ยังไม่เข็ดเหรอ” สมิติถามเสียงเรียบ เขาออกรถพาเธอออกจากตรงนั้น ถนนที่ค่อนข้างมืดในตอนหนึ่งนาฬิกาทำให้กฤติกามองทางไม่ชัดเจน ประกอบกับเธอยังจำทางได้ไม่แม่นทำให้เธอไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน“พี่หมิงจะไปไหนคะ” หญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อเริ่มรู้สึกว่าเส้นทางไปไกลกว่าขามา “หอที่ไก่อยู่เป็นหอพักนักศึกษาหรืออพาร์ตเมนท์” เขาย้อนถาม“เอ่อ หอพักนักศึกษาค่ะ อยู่หน้า...” เธอบอกชื่อสถาบันทำให้สมิติเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเธอเรียนที่ไหน “พี่ก็เคยเรียนที่นี่ เราเรียนคณะไหน” “สถาปัตยฯ ค่ะ” “อืมม” เขาทำเสียงในลำคอแบบที่เธอไม่เข้าใจ “เป็นรุ่นน้องพี่ คณะเดียวกันถ้าหมายถึงหอหญิงหน้าสถาบันตอนนี้ประตูคงปิดแล้ว เข้าไม่ได้หรอก” ฟังแล้ว
“ชื่ออะไรครับน้อง อายุครบสิบแปดแล้วใช่ไหม” สุธนผจก.ร้านสัมภาษณ์กฤติกา หลังจากที่นาเดียสาวตัวท็อปของร้านพาเพื่อนมาสมัครงาน“ชื่อกฤติกาค่ะ สิบแปดแล้ว” เธอส่งบัตรประชาชนให้ผจก.ร้านดู“โอเค เด็กใหม่งั้นพี่จะให้เราชงเหล้า เสริฟที่โซนวีไอพีนะฝากน้องเดียเป็นพี่เลี้ยงให้แล้วกัน มีชื่อสั้นๆ ไหมครับน้อง” สุธนส่งบัตรประชาชนคืนและยื่นใบสมัครให้กฤติกาเขียน เธอรับมากรอกรายละเอียดทันที“ลูกไก่ค่ะพี่” นาเดียตอบแทน สุธนพยักหน้าพอใจ“ปกติเด็กเราหน้าที่ชงเหล้า เสริฟก็คือทำตามนั้น เรื่องงานพิเศษร้านปล่อยฟรีสไตล์แล้วแต่ความสมัครใจ แต่ต้องไม่ใช่ทำในร้านนะครับ แล้วถ้าน้องไม่อยากไปต่อกับใครแต่มีแขกเซ้าซี้แจ้งพี่หรือการ์ดร้านได้เลย” สุธนบอกทำให้เธอสบายใจขึ้นเมื่อเสร็จธุระเรื่องเอกสารและสุธนแจ้งค่าตอบแทนแล้ว นาเดียจึงพากฤติกาไปที่ห้องพักของพนักงาน เป็นห้องรวมสำหรับเตรียมตัว แต่งหน้าหรือทำผมมีห้องน้ำสองห้อง นาเดียพาเพื่อนสาวไปที่มุมประจำของเธอ“ทำงานที่นี่ยิ้มไว้เยอะๆ กับแขก ส่วนเพื่อนร่วมงานด้วยกันคบได้พอผ่านๆ อย่าสนิทมากไม่มีใครอยากให้เราได้ดีเกินหน้าหรอกไก่” เธอกระซิบสอน พร้อมกับพาไปเบิกชุดสำ