Share

บทที่ 19 ฝากความคิดถึง🌾

last update Huling Na-update: 2025-06-24 12:13:47

เอ่ก อี๋ เอก เอ้ก

เสียงไก่ขันขึ้นดังจากทางหมู่บ้าน พลที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นสิ่งๆ แรกที่มองหาคือเข้ม ที่ในตอนนี้หายไปไหนไม่รู้ พร้อมกับพลที่ค่อยๆ พยุงตัวของเขาขึ้น พร้อมกับรีบสวมเสื้อผ้า และเดินออกมาจากตัวห้อง พร้อมกับสายลมเย็นในยามเช้ากระทบเข้าใบหน้าพลางทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ทว่าในใจก็ยังว้าวุ้นอยู่ไม่น้อย

เท้าเล็กค่อยๆ ก้าวขาลงจากตัวเถียงนาพร้อมกับลงมาด้วยขาสั่นๆ พร้อมกับควานหาโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับดูเวลา หน้าจอแสดงวอเปเปอร์ขึ้นพร้อมกับบ่งบอกเวลาว่าตอนนี้ เป็นเวลาหกโมงครึ่ง พลที่กวาดสายตาหาเข้มไปทั่ว

“ไปไหนของเขาว่ะ คือจะฟันแล้วหนีเหรอ?” พลเบ้หน้าพลอยคิดในใจ พร้อมกับนั่งกอดอกหน้าบึ้ง

แปร๊น แปร๊น…..

เสียงมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างที่ดังมาตั้งแต่ไกลพร้อมกับเข้มที่ยิ้มกว้างโดยขี่รถมอไซค์พ่วงข้าง ข้างๆ พ่วงก็มีเลขาอย่างนาติดรถมาด้วย เธอมาในลุคที่สบายๆ และสีหน้าผ่อนคลายสุดๆ เมื่อมาถึงเข้มก็ดับเครื่องรถลง พร้อมกับถือถุงบางอย่างเดินเข้ามา ซึ้งเป็นถุงปิ้งไก่หอมอบอวนแตะจมูกเข้าเป็นอย่างดี

“คุณหนู?”

“เดี๋ยวนะครับพี่นา” พูดจบพลก็เดินแบบเก้ๆ กังๆ ไปหาเข้ม ที่ตอนนี้ยืนเก๊กหน้าหล่อ ก่อนที่พลจะพูดออกไปเสียงดังฟังชัดจนเลขาถึงกับตาโตพลางอ้าปากค้างด้วยความอึ้ง

“ผมเจ็บตูดมากเลยนะครับ ทำไมพี่ไม่รอตื่นพร้อมกับผม ทำไมไม่มาพยุงผม ปล่อยให้ผมเดินเก้ๆ กัง ผมนึกว่าพี่จะฟันผมแล้วทิ้ง อุ๊บ!”

เข้มและนาตาโตเมื่อคุณหนูตรงหน้าบ่นชุดใหญ่ ไม่หนำซ้ำยังพูดสิ่งๆ นั่นออกมา โดยไม่สนว่าเลขาเขาอยู่ข้างๆ เข้มเองที่จะปิดปากอีกฝ่ายแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว พลในตอนนี้เลิ้กลั้กขั้นสุดมองหน้าเข้มและนาสลับกันไปมา

“เหอะๆ คุณหนูว่ายังไงนะคะ” นาพูดขึ้นถามเพื่อความชัวว์พร้อมกับหัวเราะแห้งๆ

“เอ่อ…ครับ” พลยิ้มแห้งหน้าแดงเถือกเมื่อรู้ตัวว่าตนได้พูดอะไรออกไป

เข้มที่ยืนอยุ่ถึงกับยิ้มไม่หุบ พลมองหน้าเข้มด้วยสีหน้าของการขอความช่วยเหลือ แต่เขากลับยักคิ้วกวนๆ ให้หนึ่งที พลที่เบ้หน้าพร้อมกับยิ้มเจือนขึ้น พลพยามทำตัวเป็นปกติแต่ท่าทางการเดินก็ยังเก้ๆ กังๆ แปลก เลขาสาวก็ยิ้มให้เข้มหนึ่งทีก่อนที่เธอจะมานั่งข้างพลที่แคร่ไม้หน้าถียงนา

“พี่….”

“ไม่เป็นไรพี่เข้าใจ ว่าแต่คุณหนูไหวไหมคะ”

พลเริ่มสีหน้าวิตกกังวนเขาที่ไม่สามารถเดินได้ปกติ แถมเวลาเดินก็รู้สึกเสียดๆ จากช่องทางด้านหลัง พลกำมือเลขาสาวแน่นก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่พยามยามขอร้องเธออย่างสุดชีวิต

“พี่นาครับ ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้ไหมครับ พอถึงเวลานั้นเดี๋ยวผมจะเป็นคนที่บอกทุกคนเอง”

“ได้ค่ะ ว่าแต่คุณหนู จะกลับเลยไหมคะ”

พลเงียบไปชั่วครู่ พลจ้องมองที่เข้มในตอนนี้สีหน้าเริ่มนิ่งลง พลเดินเข้าไปหาเข้มพลอยกอดอีกฝ่ายไวแน่น เขาได้ให้คำหมั้นสัญญาในการจะกลับมาที่นี่บ่อยๆ พลกล่าวลาเข้มด้วยการจูบลาและกอดอีกฝ่ายไว้แน่น เลขาอย่างนาที่เธอเห็นอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร เธอได้แต่ยืนมองด้วยความอบอุ่นหัวใจ

“เดี๋ยวนะครับ อ้ายเข้มซื้อมาแต่ไหนเหรอครับหอมมากเลยนะครับ” พลพูดด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น เขาตัดสินใจที่จะอยู่กินข้าวเช้าที่นี่ก่อนจะตัดสินใจกลับกรุงเทพไป

“อืม พี่ซื้อมาเพื่อเราเลยนะพล เห็นคุณนาอยากมาดูการเป็นอยู่ พี่เลยเอาเขามาด้วย” เข้มพูดพร้อมกับพยุงพลค่อยเดินมานั่งที่แคร่ พร้อมกับพลที่นั่งลงแคร่อย่างทุลักทุเล แสงแดดยามเช้าก็เริ่มสาดส่องผ่านท้องฟ้าสีทองอร่าม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของไก่ย่างที่อยู่ในถุงที่เข้มพึ่งซื้อมาก็ลอยเข้ามากระทบจมูก จนทำให้พลพลอยท้องร้องไปด้วย

พลที่นั่งอยู่แคร่ไม้ไผ่หน้าเถียงนา พร้อมกับเลขาสาวอย่างนาที่เธอก็จัดโต๊ะง่ายๆ ด้วยจานจากทางในครัวบนเทียงนาและแก้วน้ำพลาสติก และเธอก็พลอยหันมามองเจ้านายของเธอด้วยรอยยิ้มบางๆ ไม่นานนัก ไก่ย่างตัวใหญ่ก็ถูกนำมาเสิร์ฟบนจาน เข้มค่อยๆ ใช้มีดหั่นไก่ออกเป็นชิ้นๆ แล้วส่งให้พลเป็นคนชิมเป็นคนแรก

“ลองชิมดู พี่ซื้อมาจากร้านน้าแพนกับร้านน้าเพลงเลยนะ คิดว่าน่าจะถูกใจเรานะ”

พลพยักหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง พร้อมกับรับชิ้นไก่มาหนึ่งชิ้นก่อนที่จะชิมและกัดเข้าไปที่ความฉ่ำของเนื้อไก่ที่ผสมกับกลิ่นหอมของสมุนไพร จนทำให้พลเขาตาเป็นประกายพร้อมกับพูดเอ่ยชมออกมา

“อร่อยมากเลยครับ อ้ายเข้ม ครั้งหน้าอ้ายเข้มต้องพาผมไปกินที่ร้านของน้าเพลงกับน้าแพนแล้วนะครับ”

“กินเยอะๆ เดี๋ยวต้องเดินทางไกล”

เข้มพูดพลางยิ้ม พร้อมกับยื่นมือมาขยี้ผมนุ่มของพลเบาๆ พลก้มหน้าก้มตากินไก่อย่างอย่างเอร็ดอร่อย นาเองเธอก็รับชิ้นไก่จากจานและร่วมวงด้วยกับพลด้วย เมื่อเธอได้กัดเข้าไปเธอก็ต้องตาโตเพราะกลิ่นสมุนไพรที่ตีขึ้นมา ปนเปกับความนุ่มและความนัว จนมันลงตัวไปเสียทุกอย่าง

บรรยากาศในยามเช้าก็พลอยทำให้พลอบอุ่นไปทั่วหัวใจดวงน้อย จนในตอนนี้พลก็รู้สึกไม่อยากกลับกรุงเทพเสียดื้อๆ เขารู้ว่าความสงบสุขนี้กำลังจะหมดลงเมื่อเขาต้องกลับไปเผชิญหน้ากับชีวิตในกรุงเทพอีกครั้ง และมีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าเดิม เมื่อกินเสร็จ ก็มาส่งพลที่บ้านพร้อมกับยืนมองพลอย่างใจหาย พลเองก็หันไปหาเข้มที่ยืนมองเขาอยู่ด้วยสายตาที่ไม่อยากให้เขาไป แต่ทว่าเจ้าตัวก็ก้าวเข้ามายืนตรงหน้าพล พร้อมกับจับมือของพลขึ้นทั้งสองข้าง

“พล... ดูแลตัวเองดีๆ นะ” เข้มพูดด้วยเสียงแผ่ว เขาในตอนนี้รู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย พลเองก็โอบกอดเข้มไว้แน่น พร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียงสะอื้น

“อ้ายเข้มก็เหมือนกันนะครับ อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย ผมจะกลับมาหาพี่อีกแน่ๆ ในเร็วๆ นี้”

เข้มพยักหน้า แต่ในใจลึกๆ เขารู้ว่าไม่มีใครสามารถรับประกันอนาคตได้ เขาได้แต่หวังว่าจะไม่มีหนุ่มเมืองกรุงมาปาดหน้าเขาไปเสียก่อน พลคลายกอดออก เขาจ้องตาเข้มอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากของเข้ม ราวกับเป็นการฝากความรู้สึกทั้งหมดไว้ในจูบนั้น

“ผมไปแล้วนะครับ”

พลกระซิบเบาๆ เข้มพยักหน้าอย่างอึ้งๆ เขามองตามพลที่เดินไปขึ้นรถ รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าในหัวใจของชายหนุ่มบ้านๆ ที่ยืนมองอยู่เบื้องหลัง เข้มยืนมองจนรถหรูจนลับสายตา ก่อนจะถอนหายใจยาวและเดินกลับไปควบมอไซค์ซาคันเก่าพร้อมกับปรีกวิเวกไปที่เถียงนา.....

กรุงเทพ

หลังจากที่กลับมาถึงกรุงเทพ พลก็เหมือนคนที่สูญเสียอะไรบางอย่างไป ใบหน้าของเขาดูหม่นหมอง แม้จะอยู่ในห้องทำงานหรูหราที่เต็มไปด้วยความกดดันจากหน้าที่และความรับผิดชอบ พลเขาก็ยังเอาแต่ใจลอย คิดถึงภาพใบหน้าของเข้ม และบรรยากาศเรียบง่ายที่โคกสะแบง และเหตุการณ์เมื่อคืนวานที่เขาได้มีอะไรกับเข้มก็ลอยเข้าในหัวซ้ำๆ

“หล่อไม่พอยังใหญ่ด้วย” พลคิดในใจพร้อมกับนั่งค้ำคางหน้าแดงด้วยความเขิน เรือนร่างและแก่นกาย ซิกแพ็กหกลูกที่เป็นลอนสวย มันลอยเข้ามาซ้ำๆ จนพลแทบจะบ้าตาย

“คุณหนูคะ มีการประชุมใหญ่วันนี้นะคะ ทุกแผนกพร้อมแล้ว” เสียงของนาเลขาคนเก่งดังขึ้น พลสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนพยักหน้าและลุกขึ้นจากเก้าอี้

“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมไป”

“ช่วงนี้คุณหนูใจลอยบ่อยๆ นะคะ คิดถึงคนคนนั้นอยู่ละสิ”

“ก็คงงั้นครับ” พลพูดพร้อมหน้าแดง นาที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาพร้อมกับเดินนำพล ไปยังห้องประชุมใหญ่

ในห้องประชุมขนาดใหญ่ พนักงานจากทุกฝ่ายนั่งรอกันอย่างเป็นระเบียบ พลเดินเข้ามาพร้อมกับถุงสินค้าหลายถุงที่เขานำมาจากโคกสะแบง ทั้งเสื่อทอมือ ผ้าขาวม้า งานถักจากไหมพรม และของจัดสานฝีมือชาวบ้าน

“สวัสดีทุกคนครับ วันนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่จะพูดถึง” พลเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

“บริษัทของเรามีเป้าหมายและโปรเจกต์ที่จะไม่เพียงแค่สร้างผลกำไร แต่ยังต้องตอบแทนสังคมด้วย ผมมีไอเดียที่จะนำสินค้าจากชาวบ้านที่โคกสะแบงมาดัดแปลงและพัฒนาเป็นสินค้า OTOP สุดเก๋ เพื่อส่งออกไปยังตลาดที่กว้างขึ้น”

ทุกคนในห้องประชุมตั้งใจฟัง พลหยิบตัวอย่างเสื่อทอมือขึ้นมาโชว์ พร้อมกับสายตาทุกคนที่จับจ้องมาที่พลอย่างสนใจ และจับจ้องเขามาเป็นสายตาเดียว

“นี่คือเสื่อที่ชาวบ้านทอด้วยมืออย่างประณีตนะครับ ผมอยากนำมาเพิ่มคุณค่า เช่น ทำเป็นกระเป๋าแฟชั่น หรือแผ่นรองจานที่ออกแบบให้ดูทันสมัย”

พลนำเสนอสินค้าชิ้นต่อๆ ไป พร้อมอธิบายแนวทางการพัฒนาและแผนการตลาด เขามองเห็นความสนใจในสายตาของพนักงานทุกคนที่เข้ามาร่วมประชุมในครั้งนี้ และเขารู้สึกตื่นเต้นกับการเริ่มต้นครั้งนี้

เมื่อการประชุมเสร็จสิ้น พลเดินกลับมาที่ห้องทำงาน เขาหยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่แกะกล่องที่เตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ เขามอบหมายให้นาจัดการส่งโทรศัพท์เครื่องนี้ไปให้เข้ม พร้อมข้อความที่เขียนด้วยลายมือของตัวเองว่า:

"ถึงพี่เข้ม โทรศัพท์เครื่องนี้เพื่อให้เราคุยกันได้ทุกวัน ผมคิดถึงพี่เข้มมาก และมีแผนจะกลับไปหาพี่อีกแน่นอน รอผมนะครับ"

พลถอนหายใจเบาๆ เมื่อมองข้อความที่เขาเขียน รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปาก เพราะแม้ว่าจะต้องอยู่ห่างกันอีกครั้ง แต่ในใจเขาแน่วแน่ว่าจะไม่มีทางลืมพี่เข้มและชาวบ้านโคกสะแบงที่ทำให้เขาได้เรียนรู้คุณค่าที่แท้จริงของชีวิต

“ผมจะกลับไป และทำให้ความฝันของผมและทุกคนที่โคกสะแบงเป็นจริง!”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 27 กินดองคำหมั่นสัญญา/บทส่งทาย

    “โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ อิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววว”ยามเช้าของโคกสะแบงพร้อมกับเสียงโห่ของผู้ใหญ่มีดังขึ้น ปนกับเสียงกลองยาวดังสะท้อนไปทั่วหมู่บ้าน เป็นสัญญานบอกเล่าถึงงานมงคลที่ทุกคนต่างรอคอย บ้านของพ่อใหญ่มีและแม่ปลาถูกตกแต่งด้วยผ้าสีสดใสและดอกไม้พื้นบ้าน และยังมีกลิ่นหอมของอาหารพื้นเมืองลอยมาแตะจมูกเพิ่มบรรยากาศแห่งความสุข และเหลาแม่ครัวที่ทำอาหารกันอย่างขยันขันแข็งเพราะวันนี้มีแขกเยอะไม่ว่าจะเป็นคนในหมู่บ้านอื่น หรือพนักงานบริษัทของพลก็ต่างมาร่วมพิธีมงคลนี้ พร้อมกับนักข่าวที่ตีข่าวกันอย่างทั่วหน้า“โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ อิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววว”เสียงของผู้ใหญ่มีดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางขบวนแห่ พลอยู่ในชุดพื้นบ้านสีขาวทอง พร้อมกับผ้าขาวม้าคาดเอวเสริมความงามแบบชาวอีสาน พลเขานั่งอยู่บนหลังลอล่าควายเผือกตัวงาม ที่ถูกตกแต่งด้วยพวงมาลัยดอกดาวเรืองรอบคอและผ้าคลุมลายไทยดูวิจิตรตระการตาด้านหลังลอล่า เผยให้เห็นเข้มในชุดพื้นบ้านสีเข้ม คาดผ้าขาวม้าแบบเดียวกับพล นั่งซ้อนท้ายพลด้วยรอยยิ้มกว้าง มือหนาก็พลอยจับเชือกบังคับลอล่าไว้อย่างมั่นคง พร้อมกับใบหน้าหวานของพลหันมายิ้มให้คนรักเป็นระยะ และไม่ลืมท

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 26 สินสอด

    ทุกเช้านั้น ทุกอย่างเหมือนปกติที่โคกสะแบงพร้อมกับเสียงไก่ขันที่ปลุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดี เข้มกับพลยังคงนอนหนุนตักกันอยู่บนแคร่ไม้หน้าเถียงนา พร้อมกับสัมผัสอุ่นที่กระทบเขาใบหน้าพลที่ลืมตาตื่นขึ้น ในขณะที่ใบหน้าหล่อก็หอมแก้ม หอมหน้าฝาก และปากของคนร่างเล็กไปมาด้วยความหลงใหล“เช้าแล้วตื่นเร็วครับ”เข้มพูดขึ้นพร้อมกับริมฝีปากที่พลอยเข้ามากดจูบเบาๆ พลที่ค่อยลุกขึ้นนั่งก็พลอยจ้องที่ใบหน้าหล่อของอีกฝ่ายพร้อมกับซุกหน้าลงอกแกร่งด้วยความที่ไม่สดใสสักเท่าไร“นี่ขี้เซานะเรา” เข้มพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปปากหน่อยๆ ฝามือหนาก็พลอยลูบที่ศรีษะไปพลางๆ“ผมง่วงมากรู้สึกเพรียจังเลยครับพี่เข้ม” พลพูดขึ้นเสียงอู้อี้พร้อมกับเข้มที่ยิ้มกว้างขึ้นด้วยความชอบใจ“มาตื่นๆ จะพากลับบ้าน”เข้มเขย่าตัวพลเบาๆ แต่ทว่าคนร่างเล็กที่ซุกอกก็เปลี่ยนมาเอาคางฝังลงที่ไหล่กว้าง เข้มเองก็ส่ายหัวไปมาพร้อมกับอุ้มพลขึ้นพร้อมกับพาขึ้นรถมอไซค์คันเก่าขณะที่พลก็ยังตื่นไม่ดี“นี่พลตื่นก่อนสิเดี๋ยวตกรถ”“อือออ....”พลตอบแบบครางในลำคอจนทำให้เข้มเองก็ถึงกลับคิดหนัก ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวขึ้นรถแบบเก้ๆ กังๆ พร้อมกับมือที่ยื่นแขนเล็กให้เข้ามาโอบกอ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทพิเศษ🌾

    “ขออมนะครับ” “อืม” เมื่อได้รับคำอนุญาตพลเองก็ไม่รีบร้อน ปากเล็กคอยใช้ปลายลิ้นเรียวเลียสัมผัสไปยังยอดสีน้ำตามที่แข็งเป็นไตของคนตรงหน้า จนเข้มเองก็พลอยครางงึมงำออกจากลำคอ ใบขณะที่ริมฝีปากเรียวก็เคลื่อนขึ้นมายังลูกกระเดือกใหญ่ที่แงเป็นก้อน ปากหล็กก่อนที่จะพูดมันเบาๆ พร้อมกับดูเม้มไปตามคอแกร่งที่มีเส้นเลือดปูดขึ้นมาเล็กน้อย ในขณะที่มือยังลูบคลึงไปมาที่เป้ากางเกงในตัวเล็ก ที่ในตอนนี้เขาได้ปลุกมังกรใหญ่ขึ้น พลพลอยลูบขึ้นลงจนตอนหัวมังกรใหญ่ก็เริ่มโพล่พ้นจากหัวกางเกง รวมถึงของเขาเองที่แข็งขึ้นไม่ต่างกัน พลผลักร่างสูงให้นอนลงราบลง พร้อมกับก้นเรียวงอนพลอยขยับขึ้นลงที่มังกรใหญ่ที่ในตอนนี้หัวโพล่พ้นสีแดงแตกพรานจากหัวกางเกง มือเล็กก็อดไม่ได้ที่จะสัมผัสมันอีกครั้ง “ซี๊ดดด เมียค้าบบ” “ค้าบบบ เสียวเหรอครับ” “อืม” พลพูดพร้อมกับใช้มือที่ค่อยๆ ถกกางเกงชั้นในตัวแน่นลงพร้อมกับเผยมังกรใหญ่ที่ตอนนี้ มีเส้นเลือดที่ปูดโปนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับปลายนิ้วเรียวที่สัมผัสที่น้ำใสที่พึ่งไหลออกจากปลายส่วนหัว พร้อมกับริมฝีปากของพลที่ริ้มเลียต่ำลงมาเรื่อยๆ ปลายนิ้วเรียวเล็กก็เลียไปตามร่องลึกของลอนซิกแพ็กที

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 24 ใส่เบ็ดพลขี่หลังลอล่า🌾

    เช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา พลเองก็พลางลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความรู้สึกสดชื่น ก่อนที่เข้มเจ้าเก่าเจ้าเดิมจตะเดินตรงมาพร้อมกับกดจูบที่ริมฝีปากเรียวเล็กนั้นเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นชวนอีกฝ่ายเพราะเขาจะไปใส่เบ็ดพร้อมกับพาลอล่าไปเดินออกกำลังกาย "คุณเมียครับ พี่จะไปใส่เบ็ดจะไปด้วยไหมถ้าไม่ไปรอพี่บ้านนะ" เข้มพูดพลางยิ้มให้กวนๆ พร้อมกับมือที่เสยผมที่ปกใบหน้าใสของพลออก พลเองที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ตัวเขาเองก็พลอยหน้าแดงเถือกขึ้น แต่ทว่าก็ยังทำเป็นกลบเกลื่อนความเขินตัวเองไปพลางๆ “ไปๆ ไปครับ” พลที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวใจที่เต้นโครมคราม พลเองรีบไปอาบน้ำแต่งตัวตามเข้มไปทันที โดยที่วันนี้พลใส่เสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสั้นพอดีตัว ส่วนเข้มเองก็มาในลุคสุดคูล โดยสวมเพียงแค่ผ้าขาวม้ามัดเอวห้อยถุงผ้าย่ามเก่าๆ พร้อมถอดเสื้อโชว์แผงอกแน่นล่ำจนพลอดไม่ได้ที่จะหันมองบ่อยๆ "มองอะไรขนาดนั้น เดี๋ยวก็คิดเงินซะเลย" เข้มเขาพูดเอ่ยแซวพลด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่เท้าแกร่งจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์พร้อมกับพลที่ขึ้นซ้อนท้าย ก่อนที่จะออกตัวไป เมื่อขับออกมายังทุ่งนากว่างสายลมยามเช้าก็พลอ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 23 ก้อยไข่มดแดง🌾

    ยามเช้า แสงอ่อนจากดวงตะวันส่องผ่านผ้าม่านสีซีดบนบ้านไม้สองชั้น พร้อมกับเสียงหมาหอนและเสียงไก่งขันดังขึ้นพลอยทำให้ดวงตาเล็กปลืตาตื่นขึ้น พลขยับตัวเล็กน้อยพร้อมมกับความรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังแตะอยู่ที่แก้มเบาๆ พร้อมกับสิ่งที่คอยรบกวนอยู่บนใบหน้า ก่อนที่เสียงทุ้มๆ คุ้นเคยจะดังขึ้นกระซิบข้างหู "ตื่นได้แล้วครับ คนขี้เซา เดี๋ยวจะสายเอา" "อื้อ..." พลครางงึมงำ พร้อมกับแขนเล็กที่กอดหมอนข้างแน่นไม่ยอมปล่อย จนเข้มเองที่เห็นอย่างนั้นตนก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ มือหนาก็พลอยยื่นมือไปขยี้เส้นผมยุ่งเบาๆ อย่างเอ็นดู ก่อนที่หน้าหน้าหล่อจะโน้มลงไปกระซิบอีกครั้ง "ถ้าลุกช้า เดี๋ยวพี่จับซั่มเลยดีไหม" คำขู่ที่ไม่จริงจังอะไรมากก็พลอยทำให้พลเด้งตัวลุกขึ้นมาทันที พร้อมกับแก้มแดงเรื่อ จนเข้มเองก็อดที่จะยิ้มกว้างออกมาไม่ได้กับท่าทางรีบร้อนของพล "อ้ายเข้มนี่! ขู่ตลอดเลย!" "ไม่ขู่ก็ไม่ยอมตื่นนี่ครับ ไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว พ่อกับแม่รออยู่" ไม่นานพลก็พลอยเดินตามแบบคนไม่ค่อยสดใสนัก เดินตามเข้มลงมาที่ชั้นล่าง พร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงที่เสื่อผืนใหญ่ข้างๆ กันกับเข้ม และขิมเองเธอก็นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ พ่อ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 22 ขอลูบได้ไหม🌾

    พลเดินถือผ้าขนหนูสะอาดและสบู่หอมนกแก้วสีเขียวก้อนเล็กก้อนโปรด พร้อมกับเท้าเล็กเดินไปที่ห้องน้ำหลังบ้านพร้อมกับเข้มที่เดินถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำๆ ให้พลดูเล่นเป็นอาหารตา บรรยากาศรอบข้างก็เต็มไปด้วยเสียงจิ้งหรีดร้องเบาๆ ประสานกับสายลมเย็นที่พัดผ่าน ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย "น้ำที่นี่เย็นนะ จะไหวไหม? ถ้าไม่ไหวพี่จะไปต้มน้ำให้จะได้อาบแบบอุ่นๆ" เข้มถามพลพลางยิ้ม พร้อมกับจ้องที่ใบหน้าหวาน ที่ในตอนนี้ก็พลางส่งยิ้มหวานให้กับตน ก่อนที่เสียเจื้อแจ้วของอีกฝ่ายจะพูดขึ้น "ไหวสิ ผมอยู่ที่นี่ก็ต้องชินบ้างล่ะครับ" พลตอบพร้อมหัวเราะ ก่อนที่มือเล็กจะยื่นไปสัมผัสที่กรอบหน้าคมขึ้นรูปของเข้ม พร้อมกับสายตาคมของคนตัวสูงมองมาทางพลอย่างมีเล่ห์นัย ก่อนที่เมือเล็กจะจับมือของเข้มพร้อมกับจูงมือเดินตามตนไปที่ห้องน้ำ เมื่อพลและเข้มเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมกับเผยให้เห็นห้องน้ำที่ประกอบไปด้วยโอ่งมังกรที่น้ำครึ่งโอ่ง ก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมไปเปิดน้ำจากโอ่งพร้อมกับตักน้ำขึ้นลูบตัว พร้อมกับความรู้สึกเย็นที่ซึมผ่านผิวหนัง แต่แทนที่จะทำให้พลหนาว แต่ทว่ามันกลับสดชื่นอย่างประหลาด เพราะแผงอกและซิกแพ็กที่ชัดเจนของเข้มบวกกันหยดน้ำที

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status