Home / โรแมนติก / เมียเฉิ่มของมาเฟีย / ตอนที่ 13 อยากเป็นคนสวย

Share

ตอนที่ 13 อยากเป็นคนสวย

last update Last Updated: 2025-04-23 21:36:20

“เป็นอะไรวะ นุ่มนิ่ม เห็นดูเหม่อๆ ตั้งแต่เช้าแล้ว มึงมีอะไรในใจหรือเปล่าวะ ถ้ายังมัวแต่คิดเรื่องเมื่อวานที่โดนอีสองตัวมันมาป่วนอยู่อ่ะ มึงเลิกคิดได้แล้ว ไปให้ค่ากับพวกมันทำไม พวกประสาทแดกอย่างนั้น” จิราภาว่าพลางเบ้ปากมองบน คิดถึงพฤติกรรมแย่ๆ ของแพรวาและนพเมื่อวานแล้วก็ยังเจ็บใจไม่หาย เสียดายเมื่อวานนี้น่าจะด่าพวกมันไปเยอะๆ เอาให้สะใจมากกว่านี้

“เจน”

“ฮะ ว่าไง” จิราเงยหน้าขึ้นจากเครื่องทำกาแฟ มองเพื่อนที่ตาลอยไม่มีชีวิตชีวา

“กูแม่งทุเรศขนาดนั้นเลยเหรอวะ” หลังจากเกิดเรื่องที่กระทบจิตใจทั้งตอนบ่ายและเมื่อคืนที่ผ่านมา เธอก็นอนคิดไปคิดมาทั้งคืนจนนอนไม่หลับ คำพูดของคนเหล่านั้นต่างหลอกหลอนซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับฝันร้ายที่ไม่สามารถสลัดออกไปได้

“ทุรงทุเรศอะไร เฮ๊ย นี่มึงเก็บคำพูดของอีสองคนนั้นไปคิดเหรอ กูบอกแล้วไงว่าอย่าไปให้ค่าพวกมัน…” จิราภายังพูดไม่จบก็โดนเพื่อนสวนทันที

“ก็มันไม่ได้มีแค่สองคนนั้นน่ะสิ” 

“เอ๊ะ…”

“ใช่ กูโดนคนอื่นบูลลี่ ว่าไม่สวย ขี้เหร่ เป็นอีป้าหน้าจืด เมื่อก่อนกูก็อยู่ของฉันดีๆ แต่ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้มีแต่คนมายุ่งกับกู มาดูถูก บูลลี่สารพัด กูก็เลย…แค่เสียใจ”

“ใครมันมาบูลลี่มึงอีก” คนสมัยนี้มันเป็นอะไรกันนักถึงชอบบูลลี่คนอื่น แล้วบางคนที่ชอบบูลลี่ ตัวเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเลยด้วยซ้ำ บางคนเออออห่อหมก มีคนมาเล่าก็เม้าท์มอยกันสนุกปาก “เดี๋ยวกูไปด่าสั่งสอนมันให้เอง”

“ไม่ต้อง เพราะมึงคงไปด่าพวกนั้นไม่หมดหรอก”

“ฮะ นี่มีหลายคนเหรอ ยังไงไหนเล่ามาสิ”

“ก็กูโดนพวกพีอาร์บูลลี่มาน่ะสิ”

“พวกพีอาร์? อีพวกนั้นมันคิดว่าตัวเองสวยแค่ไหนเชียวถึงจะมาดูถูกคนอื่นได้อ่ะ แล้วพวกตัวเองก็สวยเพราะศัลยกรรมกันไม่ใช่เหรอ”

“เจน กูอยากเป็นคนสวยว่ะ”

“อะไรนะ มึงอยากเป็นคนสวย” จิราภาตาลุกวาว มองเพื่อนสนิทอย่างสงสัยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ “มึงจะทำยังไง”

ใครๆ ก็อยากสวยหรือเปล่า ใช่ว่ามันจะสวยกันง่ายๆ ถ้าพื้นฐานเดิมไม่ได้ดีอยู่แล้ว

“ไม่รู้หรอก แต่กูไม่อยากให้ใครมาดูถูกกูอีกแล้ว กูเบื่อ”

ศรัณญูเดินออกมาจากห้องทำงานด้านในพลางยืนข้างๆ นริศราด้วยสีหน้าที่อยากคุยด้วย

“พี่ยูมีอะไรเหรอคะ”

“เอาอเมริกาโน่เย็นไม่หวานให้พี่แก้วนึงสิ” เขาหาเรื่องคุยทั้งที่มีเรื่องในใจอีกเรื่องถึงตั้งใจเดินมาหาเธอ

จิราภาก็แอบมองทั้งสองคนอย่างจับสังเกตพลางลอบยิ้มอย่างเขินแทนเพื่อน

“ได้ค่ะ พี่ยูเข้าไปรอข้างในเลย เสร็จแล้วเดี๋ยวนุ่มนิ่มเอาเข้าไปให้ค่ะ” 

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ยืนรอเอาเลยก็ได้” ร่างสูงโปร่ง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาลอบมองเธอพลางยิ้มเขิน อยากยืนคุยกับเธอแต่ก็ทำตัวไม่ถูก

นริศราหันไปทำกาแฟสักครู่พอรู้ตัวว่าชายหนุ่มยังอยู่ก็หันมาแล้วบังเอิญเห็นเขายืนยิ้มอยู่พอดี

“อะไรเหรอคะพี่ยู” เรียวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างตั้งคำถาม ยิ่งทำเอาศรัณญูยิ่งเขินเข้าไปใหญ่

“เอ่อ…คือว่า นุ่มนิ่ม พี่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี พอดีพี่รู้เรื่องเมื่อวานแล้ว” เรื่องที่มีคนเข้ามาป่วนเธอจนทำเอาเธอเสียใจไม่น้อย ทั้งจิราภาและนริศราไม่ได้เอ่ยปากบอกเรื่องนี้กับเขาแต่เขารับรู้จากคนรู้จักที่เข้ามานั่งเล่นที่ร้านพอดีเป็นคนบอก เพราะเมื่อวานตอนบ่ายเขาออกไปทำธุระข้างนอกและไม่ได้กลับเข้ามาอีกเลย

“เรื่องเมื่อวาน?”

“ใช่ พี่อยากจะให้กำลังใจนุ่มนิ่มนะ อย่าไปแคร์คนพวกนั้นเลย ชีวิตเรามีค่าเยอะมากกว่าจะต้องมานั่งเสียใจกับคำพูดของใครหรอกนะ”

“พี่ยูพูดถูกค่ะ” จิราภาตะโกนมาจากอีกฝั่งหนึ่งของร้านพลางยกนิ้วโป้งให้

“คนพวกนั้นน่ะดีแต่ใช้ปากทำให้คนอื่นเสียใจ ถ้าเราไม่สน ไม่เก็บคำพูดเหล่านั้นมาทำให้ตัวเองทุกข์ใจ มันก็เป็นเพียงคำๆ นึง ทำอะไรเราไม่ได้หรอกนะ นุ่มนิ่มเข้าใจที่พี่จะสื่อใช่ไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยเนิบนาบแต่สบายหู รวมถึงรอยยิ้มบางๆ นั้นมันช่างดูอบอุ่นเหลือเกิน

แม้ว่าจะเป็นเจ้านายและลูกจ้างกันมานาน แต่ทั้งเธอและเขาก็ไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรด้วยกันยาวๆ หรอกนะ แต่ทำไมวันนี้ถึงรู้สึกดีกับคำพูดของเขาจัง

“ขอบคุณพี่ยูมากนะคะ นุ่มนิ่มไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ ก็แค่นอยด์ๆ นิดหน่อยเท่านั้นเอง นุ่มนิ่มรู้ค่ะว่าคำพูดของพวกนั้นมันทำอะไรนุ่มนิ่มไม่ได้หรอก แต่แค่เสียดายที่ครั้งนึงเคยไปรู้จักคนพวกนั้น ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าอย่าไปให้ค่ากับคนที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับเรา”

“ครับ ดีแล้ว”

“ได้แล้วค่ะ อเมริกาโน่เย็นไม่หวาน” เธอยกแก้วกาแฟส่งให้เขาพร้อมส่งรอยยิ้มให้ไปหนึ่งกรุบ

ศรัณญูหน้าแดงซ่านเพราะความขวยเขินก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน

 

ซินดี้ส่งข้อความมาเลื่อนนัดที่จะเข้าไปเอาแว่นที่ตัดไว้ และบอกว่าจะพาไปเอาอีกครั้งในวันเสาร์ ซึ่งพอดีเป็นวันหยุดของนริศราเธอจึงตอบตกลงไป

“เหม่ออะไรเหรอนุ่มนิ่ม” ระหว่างที่นั่งรถไปด้วยกัน ซินดี้ก็จับสังเกตคนที่นั่งเบาะด้านข้างไปด้วย รู้สึกว่านริศรานั่งเงียบมาตลอด ถามคำตอบคำและแววตาก็ดูเศร้าๆ อย่างไรไม่รู้

“ปละ…เปล่านี่ ไม่มีอะไร” เธอฉีกยิ้มกว้างอย่างพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง

“ไหนๆ เราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว ถ้าเธอมีอะไรในใจ อยากจะพูดกับฉันก็ได้นะนุ่มนิ่ม” ซินดี้พูดขณะที่ใบหน้ามองไปยังถนนเบื้องหน้า นริศราแอบมองซินดี้อย่างประหม่า

“เอาจริงฉันก็ยังไม่ชินและก็ร้สึกเกรงใจเธออยู่เลย เธอสวยมาก ฉันเองรู้สึกเหมือนเป็นเห็บเหาที่เกาะอยู่ข้างๆ เธอเลย”

“แล้วเธออยากสวยไหมล่ะ” คำพูดของซินดี้ทำคนที่นั่งอยู่เบาะด้านข้างเงียบไป “เธอคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมถ้าฉันจะบอกว่า ถ้าสวยน่ะ จะมีอะไรดีๆ ตามมาอีกมากมายเลย ชื่อเสียง เงินทอง ความรัก แต่ถ้าไม่สวย…ก็ตรงกันข้าม แถมยังอาจจะโดนบูลลี่อีกด้วยซ้ำ”

“ใช่ เธอพูดถูก เพราะฉันเจอมาหมดแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้น เธออยากสวยไหมล่ะ” ซินดี้ถามซ้ำพลางหันมามองหน้านริศราแวบหนึ่ง

นริศรารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่น้อย เธอรู้ดีและสัมผัสมาแล้วว่าตอนที่สวยกับไม่สวยนั้นมันแตกต่างมากขนาดไหน แล้วใครล่ะจะไม่อยากสวย…

 

เมื่อมาถึงที่ห้างสรรพสินค้าและรับแว่นที่ตัดที่ห้างแว่นเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะดูไร้ค่าไปแล้ว เพราะมีเป้าหมายอื่นที่ดีกว่านี้

ซินดี้พิจารณารูปร่างหน้าตาของนริศราตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างถี่ถ้วน พลางคิดว่าจะต้องปรับปรุงที่ส่วนไหนบ้าง 

“ก่อนอื่นเลยนะ เธอต้องไปยืดผม”  ว่าแล้วก็จูงมือคนที่ยืนเหลอหลาเข้าร้านทำผมในห้างหรู ซึ่งกว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปเกือบครึ่งวัน

เมื่อออกมาแล้วซินดี้ถึงกับยิ้มอย่างพออกพอใจ จะว่าไปแล้วถ้าหากผมเสียทุกอย่างบนร่างกายก็จะดูเสียไปหมด นริศราผมหนาและหยิกฟูแต่พอยืดออกมาแล้วตรงพลิ้วสวยเวลาสะบัดผมแต่ละทีมันสยายไปมาพลางเงาแวววาวสวยมาก

“ต่อไปก็ต้องเข้าคลินิกความงาม ผลักวิตามินให้ผิวใสขึ้น” ผิวของนริศราดีอยู่แล้วแต่หากทำโน่นทำนี่กับผิวนิดหน่อย เชื่อเลยว่าจะต้องดีกว่านี้แน่นอน ว่าแล้วซินดี้ก็พาเธอเข้าคลินิกแห่งหนึ่งภายในห้างนั้น

เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรก็หมดวัน ฟ้ามืดและได้เวลากลับบ้านเสียแล้ว ทั้งที่มีโปรแกรมอีกมากมายที่จะพานริศราไปทำ

“ดูสิ แค่ทำผมกับทำหน้านิดหน่อยเธอก็ดูดีขึ้นเป็นกองเลยนะนุ่มนิ่ม แต่นี่ยังไม่เสร็จนะ ยังมีอีกหลายอย่างเลยล่ะที่ฉันอยากจะพาเธอไปทำ”

“จะเป็นคนสวยนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยเนอะ ทำแต่ละอย่างนี่ก็หลายชั่วโมง บางอย่างนานจนเล่นเอาตะคริวกินเลย”

“อดทนๆ ไว้พรุ่งนี้ฉันพาเธอมาทำต่อ”

“ฉันทำงานน่ะสิ” เธอทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้าลากยาวไปจนถึงเที่ยงคืนเลยทั้งงานประจำและงานพาร์ททาม ไม่มีเวลาไปทำสวยขนาดนั้นหรอก

“ลางานสักวันได้ไหมล่ะ ฉันน่ะตอนกลางวันไม่ได้ทำอะไรหรอก” ซินดี้ทำงานกลางคืน ฉะนั้นจึงพาเธอไปทำสวยในตอนกลางวันได้อยู่แล้ว

นริศราครุ่นคิดอยู่สักพัก ตั้งแต่ทำงานมาเธอก็ไม่เคยลางานเลย แต่ทำทุกวันก็ไม่เห็นจะรวย ถ้าอย่างนั้นลองขอพี่ยูหยุดสักวันคงไม่เป็นไรมั้ง

“โอเค งั้นฉันจะขอเจ้านายหยุดสักวันดู”

“นี่ก็เย็นแล้ว เธอไปค้างที่คอนโดฉันไหม พรุ่งนี้จะได้ออกแต่เช้ากันเลย” คอนโดนั้นก็อยู่ไม่ไกลจากแถวนี้ ขับรถแปบเดียวก็ถึง 

นริศราสองจิตสองใจ เธออยากจะกลับบ้านตัวเองเพราะไม่อยากรบกวนซินดี้แต่บ้านตัวเองก็ไกลจากที่นี่เหลือเกิน ถ้าจะกลับก็หมายความว่าต้องลำบากซินดี้เป็นคนไปส่งอีก ถ้าอย่างนั้นก็ค้างที่คอนโดซินดี้อีกคืนละกัน

กลายเป็นว่าเมื่อตัดสินใจมาค้างที่คอนโดของซินดี้แล้วเธอก็ต้องนอนคนเดียวเหมือนเดิมเพราะซินดี้ออกไปทำงานตอนกลางคืน แต่แปลกแฮะ เมื่อกลับมาที่นี่อีกครั้ง สังเกตดูดีๆ ที่นี่ใหม่มากเหมือนกับว่าซินดี้ไม่เคยมาอยู่เลย ข้าวของใหม่กริบเงาวับเหมือนกับไม่เคยใช้งานมาก่อน จนเธอแทบไม่กล้าหยิบจับอะไรเลย

“พี่ยู พรุ่งนี้นุ่มนิ่มขอลางานหนึ่งวันได้ไหมคะ”

‘เป็นอะไรหรือเปล่า นุ่มนิ่ม’

“เอ่อ…”

‘ได้สิ พี่จะไปว่าอะไรนุ่มนิ่มล่ะ พี่แค่เป็นห่วงว่านุ่มนิ่มเป็นอะไรหรือเปล่า ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยเห็นลาเลย’

“ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ แต่ว่าต้องพาพ่อไปทำธุระน่ะ” ขอยืมชื่อพ่อมาใช้อ้างก่อนนะ

‘ได้สิ ไม่มีปัญหาเลย’ 

“โอเคค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ”

‘ครับ’

นริศราวางสายไปแล้ว ไม่รู้เลยว่าที่ปลายสายนั้นมีคนกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ใบหน้าขาวสะอาดนั้นแดงซ่านเป็นลูกตำลึงสุกและภายในหัวสมองก็เอาแต่คิดถึงใบหน้าของเธอ

 

 

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 34 ฮีโร่ตัวจริง

    นี่มันโรงพยาบาลนี่นา สายน้ำเกลือ เตียง ผ้าปูที่นอน รวมถึงชุดผู้ป่วยที่กำลังสวมอยู่ตอนนี้ก็บ่งบอกว่าตอนนี้เธอกำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจริงๆพระเจ้าเธอไม่ได้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองถูกขายตัวให้กับแก๊งค้ามนุษย์ ทั้งที่ก่อนสลบไปเธออยู่กับเขา…“ฟื้นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มห้าวดังข้างหู นริศราหันขวับไปทางต้นเสียงทันทีร่างสูงใหญ่บึกบึนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำเปิดกระดุมสามเม็ดกับกางเกงแสล็คสีเข้ากันกำลังจ้องเธออยู่ ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งตกใจเล็กน้อยเขาไม่ได้หายไปไหนหรอก แต่ตอนนี้กำลังยืนจ้องเธอไม่วางตา โชคดีที่เขายังไม่เอาเธอไปขาย หรือคงเห็นว่าเธอบาดเจ็บจึงเอามารักษาตัวก่อน ถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องรีบหนีไปจากเขาให้เร็วที่สุด“คิดอะไรอยู่เหรอ” เมื่อเธอยังเงียบเขาเลิกคิ้วถามอีกครั้ง“อะ…เอ่อ…” “ช็อคจนพูดไม่ออกเลยเหรอ ไม่ต้องกลัวนะ เธอปลอดภัยแล้ว”ปลอดภัยจากไอ้พวกชั่วสองตัวนั่นแต่กลับมาตกอยู่ในอันตรายเพราะแกอีกน่ะสิ“เธออาจจะยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรเพราะเรื่องที่เจอคงหนักพอสมควร ไม่เป็นไรพักผ่อนไปก่อนก็ได้ ฉันไม่รบกวนเธอแล้ว แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็เรียกได้ตลอดเวลา” คาลอสเอ่ยเสร็จก็เดินไปนั

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 33 หนีเสือปะจระเข้

    “ไปคุยกับมันทำไม” เจย์เดนกระชากเสียงถามคนที่วิ่งมาหาอย่างโมโห แสดงอาการหึงหวงอย่างโจ่งแจ้ง“ฉันไม่รู้จักเขา เขามาช่วยฉันต่างหาก เมื่อกี๊ฉันจะหงายหลังเขาก็เลยเจ้ามาช่วย ก็แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรเลย” คนหน้าแดงเพราะฤทธิ์ไวน์หนึ่งอึกพยายามอธิบาย“ก็เคยบอกแล้วไงว่าอย่าไปยุ่งกับมัน”“เคย?” นริศราเอียงคอขมวดคิ้วสงสัย สมองอันพร่าเบลอในเวลานี้กำลังคิดทบทวนว่าเขาเคยบอกเธอตอนไหนว่าไม่ให้ไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้นอ๋อ จำได้แล้ว คืนนั้นเอง เจย์เดนเคยบอกว่าเขาเป็นมาเฟียค้ามนุษย์ ถ้าไม่อยากชะตาขาดก็อย่าไปยุ่งกับเขาแต่เอไม่ได้ไปยุ่งกับเขานะ เขาเข้ามาช่วยเธอเอง วันนี้ต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำ“จำได้หรือยัง”หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ สลัดความคิดเรื่องผู้ชายคนนั้นออกจากหัวแล้วโฟกัสกับผู้ชายตรงหน้าที่ตีหน้าเข้มหึงหวงตัวเองอยู่ เข้าไปกอดแขนล่ำสันพลางซบลงและจ้องตาอย่างออดอ้อน“เมื่อกี๊มันไม่มีอะไรจริงๆ ทำไมเหรอ หึงฉันหรือไง”“…” เงียบ“หึงก็ยอมรับมาเหอะน่า ไม่ต้องมาทำเข้ม”“ทีหลังห้ามไปยุ่งกับไอ้คาลอส เข้าใจไหม” ไม่รู้ว่าเจย์เดนเคยบอกชื่อผู้ชายหน้าร้ายๆ คนนั้นให้เธอฟังหรือยัง แต่เธอจำขึ้นใจเลยว่าห้ามยุ่งเกี่ยวด้วยเด็ดขาด“ไ

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 32 งานเลี้ยงบนเรือยอร์ช

    เจย์เดนปล่อยสาวๆ พูดคุยทำความรู้จักกัน ส่วนตัวเขาลากคริสและหมอธีโอออกมายืนดื่มเหล้านอกที่ระเบียงและอีกหน่อยก็จะเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจสีเทาสักเล็กๆ น้อยๆ “เปิดตัวสักทีนะมึง ก็สวยใช้ได้นี่หว่า ไม่รู้ว่าจะหวงไว้ทำไมตั้งนาน” คริสว่าหลังจากกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก“เออใช่ พอเห็นแล้ว…กูคิดว่ามึงจะยังชอบสเปคเดิมซะอีก เปลี่ยนซะงั้น” หมอธีโอว่า“ไม่ได้เปลี่ยนนิดๆ หน่อยๆ นะเว๊ย เปลี่ยนแบบคนละแนวไปเลย” คริสเสริม“นี่พวกมึงสังเกตอะไรผู้หญิงของกูขนาดนั้น” เจย์เดนหันหน้าต้านลมที่พัดมาต่อเนื่องพลางกระดกเหล้าเข้าปากท่ามกลางคลื่นลมและทะเลสีดำด้านนอกตัวเรือขนาดใหญ่“ไม่ได้สังเกตก็เห็นตั้งแต่แรกแล้วว่ะ คนก่อนกับคนปัจจุบันของมึงน่ะต่างกันสุดๆ” พวกเพื่อนต่างก็รู้สึกได้ว่าสเปคของเจย์เดนเปลี่ยนไป เมลินดาไพลิน แฟนคนก่อนของเขานั้นสวยและรวยระดับไฮโซ มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเอง ทว่าต่างกับแฟนคนปัจจุบันของเขาที่แม้ว่าจะสวยไม่ต่างกันแต่เธอดูขี้อายและไม่ค่อยคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมรอบกายของเขา“มึงเลิกพูดถึงเรื่องเก่าๆ สักที แล้วอย่าเอาเรื่องนี้ไปพูดให้นุ่มนิ่มได้ยินเชียวนะ”“กูอยู่เป็นน่า กูไม่ทำให้มึงเดือ

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 31 คนมันหวง

    “นอนพักต่ออีกหน่อยไหม” เจย์เดนถามหลังจากที่ทั้งสองรับประทานอาหารที่สั่งพนักงานโรงแรมเอาขึ้นมาส่งให้ที่ห้องเรียบร้อยแล้ว ทั้งเธอและเขาต่างก็สวมชุดคลุมอาบน้ำของทางโรงแรมด้วยสภาพที่โทรมสุดๆ เพราะตั้งแต่ตื่นเมื่อวานก็จัดกันไม่หยุด ยังไม่ได้ออกไปเดินชมบรรยากาศภายนอกเลยด้วยซ้ำ“ไม่เอาแล้ว อยู่แต่ในนี้ทั้งวันทั้งคืน อยากออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง”“งั้นก็ไปอาบน้ำสิ” “อื้ม…” นริศราตอบรับอย่างเขินอายเมื่อเขาดึงเธอเข้าไปใกล้แล้วจรดริมฝีปากลงที่หน้าผากมน มิหนำซ้ำยังกระซิบข้างหู“อาบด้วยกันอีกรอบไหมล่ะ…” น้ำเสียงแหบพร่าเซ็กซี่ทำเอาคนฟังขนลุกซู่เธอผลักเขาออกเบาๆ “ไม่เอา เดี๋ยวก็กินเวลาไปอีก ฉันเหนื่อยแล้ว” รู้น่าว่าคนอย่างเขาคิดอะไรอยู่ กินดุ กินเก่ง แล้วก็อึดชะมัดยาด…ทั้งสองคนอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย เจย์เดนสวมกางเกงขาสั้นแบรนด์เนมเสื้อฮาวายสีน้ำเงิน-ขาวและสวมแว่นตาดำหรูแบบที่ชอบใส่ ส่วนนริศราออกมาในชุดคลุมตาข่ายสีดำทว่าสามารถมองทะลุเข้าไปเห็นบิกินี่สีดำเช่นเดียวกัน เจย์เดนมองเธอด้วยสายตาหวานเชื่อม ไม่คิดว่าเธอจะกล้าสวมใส่ มันเย้ายวนหัวใจเขามากจนไม่อยากพาเธอออกไปเดินเล่นเลย อยากจัดเธอซ้ำ

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 30 บนเตียง ระเบียง หรือในอ่าง NC++

    “คุณไม่เห็นบอกฉันก่อนเลยว่าคุณจะพาฉันไปที่ภูเก็ตด้วย” เธอถามพลางเอาใบหน้าเกยไหล่หนาระหว่างที่นั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวมุ่งหน้าไปที่ภูเก็ตเขาคิดว่าเป็นเจ้าของชีวิตของเธอหรือไง ทำอะไรก็ไม่ปรึกษา พาเธอมาที่นี่ทั้งที่ยังไม่ได้ลางานเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่คาเฟ่และมินิมาร์ท กลับไปได้โดนไล่ออกกันพอดี“ก็ถ้าชวนดีๆ ก็คงไม่มาด้วยไง ฉันรู้เดี๋ยวเธอก็อ้างโน่นอ้างนี่”“แล้วก็มัดมือชกกันมาเนี่ยนะ” มิน่าล่ะ ทำไมวันนี้ถึงพาไปช็อปปิ้งเสียเยอะแยะขนาดนั้น ชุดว่ายน้ำด้วยอีกต่างหาก ที่แท้ก็จะพามาภูเก็ตนี่เอง“ใช่ แล้วก็ไม่ต้องกลัวนะเรื่องที่ทำงาน”“ทำไม” “ระหว่างที่เธอไปภูเก็ตกับฉัน ฉันให้คนไปทำงานแทนเธอแล้ว ฉะนั้นก็ไม่ต้องห่วงว่าที่ทำงานของเธอจะขาดคน” เห็นไหม ทำอะไรก็ไม่เคยบอก คิดเองเออเองทั้งนั้นแต่ก็เอาน่า ถือซะว่าได้มาเที่ยวอย่างไม่ต้องห่วงอะไรหารู้ไม่ว่า ที่เจย์เดนหาคนไปทำงานแทนเธอทั้งที่คาเฟ่และมินิมาร์ทนั้นเป็นการจ้างทำแบบถาวรไปเลยเพราะเขาลาออกแทนเธอแล้วเธอจะได้อยู่กับเขาตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาไปทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำแต่ได้เงินเดือนละไม่กี่บาท เขาจะเลี้ยงและดูแลเธอให้ดีที่สุด อย่างที่ได้เคยพูดเอ

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 29 สายเปย์ตัวพ่อ

    หมออนุญาตให้เจย์เดนออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เขากลับมาพักที่เพ้นท์เฮาส์โดยมีพยาบาลส่วนตัวที่คอยดูแลเป็นพิเศษจนอาการทางกายก็ค่อยๆ หายตามปกติ แต่อาการทางใจนั้นเรียกได้ว่าหายสนิทวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เขาขอให้เธอหยุดงาน ทั้งที่เธอเองก็รู้สึกเกรงใจศรัณญูเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จะลาออกก็เสียดายเพราะทำมาหลายปี อีกทั้งได้ทำอยู่กับเพื่อนสนิทและมีเจ้านายที่ใจดี“ลาออกไหม ฉันเลี้ยงเธอเอง” เขาถามอีกครั้งหลังจากที่เคยยื่นข้อเสนอให้เธอลาออกแล้วเขาจะเป็นคนเลี้ยงเธอเองมันก็รู้สึกดีอยู่นะที่มีคนรักต้องการซัพพอร์ทดูแลเลี้ยงดู แต่ถ้าหากวันหนึ่งเธอกับเขาไปด้วยกันไม่ได้แล้วเธอจะไม่แย่หรอกหรือ เธอไม่ได้ต้องการเกาะใครกินหรอกนะ แต่ก็ไม่ปฏิเสธหรอกถ้าหากเขาจะเลี้ยงเธอน่ะ รู้ดีว่ามันเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาท“สายเปย์เหรอ”“ได้หมด” ใบหน้าคมคร้ามยักคิ้วหนาพลางหยักยิ้มมุมปาก ขณะที่ใบหน้ายังมีรอยแดงจางๆ ทว่าก็ยังคงเท่ไม่เปลี่ยนสายเปย์นักใช่ไหม จะหลอกแดกให้หมดเลย“กินเยอะน๊า” “เท่าไหร่เชียว” ต่อให้มีเธออีกสิบคนเขาก็เลี้ยงไหว จะกินสักเท่าไหร่กันเชียว ของโปรดส้มตำไก่ย่าง ไม่ได้กินหรูหราในภ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status