“หนูขอลงไปซื้อของหน่อยได้ไหมคะ” พอดีทางผ่านมีร้านขายยาเล็ก ๆ เปิดอยู่
“......” คุณเขาเงียบแต่พยักหน้าเบา ๆ แล้วเอนหลังพิงเบาะคุณเขาดูเครียด ๆ
“จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ แนนนี่ลงไปซื้อของแป๊บเดียว” ฉันบอกพี่เทเลอร์เพราะแถวนี้มันหาที่จอดรถยากเดินไปไม่ไกลก็ถึงร้านขายยาแล้ว
“......แกไปซื้อ” เป็นคุณเขาที่พูดกับพี่เทเลอร์
“ครับนาย!”
“ตะ...แต่...”
ฉันไม่ทันจะได้พูดอะไรคุณเขาก็ลืมตาพร้อมทำหน้าดุ ๆ แล้วพี่เทเลอร์รู้เหรอว่าฉันจะซื้อยาอะไร เฮ้อ ฉันก็ได้แต่นั่งก้มหน้าบรรยากาศมันอึดอัดชะมัด
“พอดีลูกชายฉันไม่สบาย ไม่ยอมกินข้าวกินนม งอแงทั้งวันเธอมีน้องคงรู้นะต้องทำยังไง!” อยู่ ๆ คุณเขาก็พูดขึ้น
“รู้ค่ะ” ฉันตอบอย่างหนักแน่น
“ไม่ต้องยิ้มดีใจขนาดนั้น! ถ้าไม่เพราะครั้งที่แล้วเธอเอาเสื้อผ้าบ้า ๆ ไปให้ลูกฉันก็คงไม่เอาแต่ถามหาเธอแบบนี้หรอก!”
พูดดีได้ไม่ถึงสิบคำคุณเขาก็ทำหน้าดุใส่ฉันอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรดุได้ดุไปยังไงวันนี้ฉันก็จะได้เจอหน้าน้องพาร์ทแล้ว ดุแค่นี้ฉันสบายมาก! (◠‿◕)
“......” คุณเขาหันมาจ้องหน้าฉันแล้วถอนหายใจอย่างเอือมระอา
“ถามจริง เธอโกรธใครเป็นไหม?” คุณเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ
“เป็นสิคะ ใครจะโกรธไม่เป็น” ฉันก็ตอบตามความจริง ใคร ๆ เขาก็ต้องมีอารมณ์โกรธสิ ใครจะไปใจดีได้ตลอดเวลา
“แล้วเธอโกรธฉันไหมที่ฉันไม่ให้เธอไปหาลูกฉัน!” คุณเขาพูดเรียบ ๆ
“โกรธค่ะ! แต่หนูเข้าใจเพราะคุณรักน้องพาร์ทเลยไม่อยากให้คนอย่างหนูเข้าใกล้น้อง!”
ฉันหันไปยิ้มให้คุณเขา ถึงเขาจะใจร้ายกับฉันแต่เขาก็รักและห่วงน้องพาร์ทมาก แถมน้องพาร์ทยังอยู่อย่างสุขสบายแค่นี้ฉันก็ดีใจแล้ว
“ขอบคุณนะคะที่คุณรักน้องพาร์ท แค่คุณรักน้องพาร์ทหนูก็ดีใจแล้วค่ะ” ฉันยกมือไหว้เขา ฉันคิดแบบนั้นจริง ๆ ไม่ได้ประชดหรืออะไร
“ลูกฉันยังไงฉันก็ต้องรัก!”
“......” แล้วคุณเขาก็เอาแต่เงียบและจ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น
“ค่ะ!” ฉันก็ได้แต่ยิ้มให้เขาไม่รู้สิแค่คิดว่าจะได้เจอหน้าน้องพาร์ท เรื่องอื่นมันก็ไม่สำคัญไม่อยากจะเก็บมาใส่ใจ…
“แล้วเธอจะเรียนต่อที่ไหน?” วันนี้คุณเขามาแปลก ปกติไม่เห็นสนใจเรื่องพวกนี้เลย
“ยังไม่รู้ค่ะ น่าจะเรียนเสาร์อาทิตย์” ฉันตอบไปอย่างไม่ได้คิดอะไรเพราะจันทร์ถึงศุกร์ฉันต้องไปทำงาน ความฝันที่จะเป็นนักการทูตนั้นมันอยู่ไกลเกินเอื้อมจริง ๆ
“เรียนเสาร์-อาทิตย์?” คุณเขาจ้องหน้าฉันตาเขม็ง
“ค่ะ! พอดีหนูเพิ่งได้งานขายของที่ห้าง” พอดีทางร้านเขาเพิ่งตอบกลับมาเมื่อคืนก่อนกว่าจะได้ทำงานอีกเดือนกว่า ๆ ตอนนั้นอายุก็ครบ 18 พอดี
“แล้วทำไมต้องทำงาน?” คุณเขาดึงตัวฉันเข้าไปใกล้ ๆ
“คือหนู...” จะบอกคุณเขายังไงดี ก็เงินที่คุณเขาให้ทุกเดือนพ่อกับแม่เอาไปใช้จนหมดแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปเรียนต่อ แล้วมหาวิทยาลัยที่ฉันสอบติด ค่าเทอมก็แพงมากจะเอาปัญญาที่ไหนไปจ่าย
แนนนี่! เอ๊ย!!! ไม่น่าหลวมปากพูดออกไปเลย
“เงินที่ฉันให้ไปไหนหมด?” คุณเขาพูดอย่างหงุดหงิด
“......” ฉันได้แต่เงียบแล้วก้มหน้า
“เฮ้อ! ช่างเถอะเธอนี่มันซื่อบื้อจริง ๆ” คุณเขาถอนหายใจอย่างเอือมระอา แล้วปล่อยมือจากตัวฉัน
“ไม่ต้องไปทำงานมีหน้าที่เรียนกับนอนอ้าขาให้ฉันเอาก็พอ เรื่องเงินฉันจัดการเอง!”
คุณเขาพูดดุ ๆ แต่คำพูดเขามันยิ่งทำให้ฉันถึงกับพูดไม่ออก มันเหมือนเขาจะใจดีกับฉันนะแต่ไอ้คำว่า นอนอ้าขาให้เขาเอา มันรู้สึกจุกแน่นที่หน้าอกยังไงก็ไม่รู้ นี่ฉันจะไม่มีวันหลุดพ้นจากเรื่องนี้ได้เลยหรือไง
“......” แล้วฉันก็ได้แต่เงียบ ฉันก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีความฝันอยากจะเจอกับเจ้าชายรูปงามที่เขารักและพร้อมจะดูแลถนอม กอดปลอบเวลาฉันเสียใจ ให้กำลังใจเมื่อฉันร้องไห้
แต่นั่นก็แค่ฝันเพราะชีวิตจริง เจ้าชายแสนดีแบบนั้นมันไม่มีอยู่หรอก จะมีก็แต่เทพบุตรในคราบปีศาจแบบคุณเขานี่ละมั้ง?
ไม่นานพี่เทเลอร์ก็เดินกลับมาพร้อมยื่นแผงยากับน้ำให้ฉัน ฉันรีบกินยาทันทีกลัวจะลืม
แล้วรถก็วิ่งออกไป แต่ทางที่จะไปมันกลับไม่ใช่ทางไปบ้านคุณเขา
ฉันหันไปมองคุณเขาที่ตอนนี้กำลังนั่งจ้องโทรศัพท์ ท่าทางเขาดูเครียด ๆ สงสัยคงจะมีปัญหาเรื่องงาน
เลยได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ไม่กล้าพูดหรือถามอะไรเพราะคุณเขาไม่ชอบให้ยุ่งเรื่องส่วนตัวไม่ชอบคนพูดมาก
คอนโดหรู…
ทันทีที่รถจอดฉันก็รีบก้าวขาสั้น ๆ เดินตามหลังคุณเขาไปทันที ส่วนพี่เทเลอร์ขับรถออกไปไหนไม่รู้
“อะ โอ๊ย!” ฉันมัวก้มหน้าก้มตาเดินไม่ทันได้มองเลยไม่รู้ว่าคุณเขาหยุดเลยชนแผงอกคุณเขาเข้าให้จัง
“......” คุณเขาเงียบไม่พูดอะไร แต่สายตาเขามันฟ้องว่าเขากำลังหงุดหงิด
“ขอโทษค่ะ” ฉันได้แต่ก้มหน้ารับผิด แล้วเดินตามคุณเขาไปจนถึงห้อง
ตื้ด ตื้ด
แกรก!
“ลูกกูล่ะ!” พอเปิดประตูเข้าไปคุณเขาก็ถามพี่ไทเกอร์ทันที
“อยู่กับพยาบาลครับนาย” พี่ไทเกอร์พูดแล้วหันมายิ้มให้ฉัน ฉันก็ยิ้มตอบตามมารยาท
“เป็นไง”“ตกลงว่าท้องไหม?”ปรเมศวร์เอ่ยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อเห็นร่างบางของภรรยาสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ“ฟองเบียร์ล่ะ” แต่เธอกลับไม่สนใจเดินผ่านหน้าสามีหนุ่มสายตาสอดส่องหาลูกสาวตัวน้อย“แนน! หนูตอบป๋าก่อนตกลงท้องไหม!” ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวคอดดึงร่างเล็กเข้ามากอดเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจ“ป๊ะป๋า! ปล่อยอึดอัดหายใจไม่ออก” สองมือเล็กผลักดันหน้าอกอย่างรำคาญ“เหม็นด้วย! ““ไหนบอกว่าเลิกได้แล้วทำไมยังได้กลิ่นบุหรี่!” เธอชักสีหน้าไม่พอใจทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นเหม็นของบุหรี่ติดปลายจมูก“อะไรป๋าไม่ได้สูบ คงจะลูกค้าสูบมันเลยติดเสื้อ ป๋าเลิกนานแล้ว” ปรเมศวร์รีบอธิบายอย่างกระตือรือร้น แต่เห็นอาการแปลก ๆ ของเมียรักเขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจ“ดีใจมากไหมคะ” คนตัวเล็กคลี่ยิ้มบางเมื่อได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าสามี หลังจากที่พยายามจะมีลูกอีกคนมาหลายเดือนและในวันนี้ก็สิ้นสุดการรอคอยแต่จะเป็นลูกสาวอย่างที่เขาหวังไหม อันนี้คงต้องว่ากันอีกที“ที่สุดครับ!”“หนูน่ารักที่สุดเลยรู้ไหม!”พรึบ!ร่างบางถูกช้อนอุ้มเดินตรงไปยังเตียงนอน“คงได้เวลาป๋าต้องทำงานให้น้อยลงเพื่อจะได้ดูแลหนูกับลูกให้มากขึ้นแล้วสินะ!” เขาพูด
“ไทเกอร์!!”“ไอ้ไทเกอร์!!!”ปรเมศวร์ส่งเสียงเรียกลูกน้องหนุ่มที่ซึ่งกำลังหัวหมุนกับเจ้าสองแสบลูกชายเจ้านายเสียงแข็ง“ครับนาย” ชายหนุ่มวิ่งหอบตรงเข้าหาผู้เป็นนาย“ดูฟองเบียร์ด้วยกูมีธุระ!”“แล้วดูลูก ๆ กูดี ๆ ล่ะ อย่าให้ไปวิ่งเล่นแถวสระน้ำ!”“ถ้าลูกกูเป็นอะไรไปมึงตาย!”สิ้นประโยคเด็กน้อยแก้มใสวัยห้าเดือนเศษก็ถูกยัดใส่มือลูกน้องหนุ่มที่ทำหน้ามึนงง“นาย!” แต่ยังไม่ทันที่เจ้านายหนุ่มจะได้เดินไปไหนเขาก็อุ้มเด็กน้อยไปขวางหน้าไว้เสียก่อน“อะไรของมึงอีก?” เจ้านายหนุ่มมองหน้าลูกน้องอย่างไม่สบอารมณ์เพราะจิตใจมันลอยล่องไปอยู่ที่สระน้ำ“แล้ว...” ลูกน้องหนุ่มมองไปที่สองพี่น้องที่กำลังเล่นต่อสู้กันอยู่“มันเป็นหน้าที่มึง! ไว้กูขึ้นเงินเดือนให้!”เขาพูดแค่นั้นก็จะรีบสาวเท้ายาว ๆ ไปหาภรรยาสาวที่กำลังเล่นน้ำอย่างสบายใจ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าภัยร้ายกำลังจะถึงตัวเพราะชุดบิคีนีตัวจิ๋วที่เธอสวมใส่……“ไม่ตายวันนี้จะตายวันไหน! ไอ้ไทเกอร์!” ไทเกอร์ได้แต่บ่นตามหลังเจ้านาย ทำหน้าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ“อ้อแอ้ อ้อแอ้” แต่ต้องสีหน้าเปลี่ยนเมื่อเสียงหวานเล็กดังอ้อแอ้ มือเล็กนุ่มนิ่มลูบจับที่หน้าเขาอย่างอ่อนโยน“เห็นแบบ
“กรี๊ด อุแว้!!”“พอร์ช! ลูกอีกแล้วนะแกล้งน้องทำไม!”เฮ้อ! ฉันละเหนื่อยใจกับลูกชายคนนี้ ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว 3 เดือนกว่า ๆ ทุกอย่างเงียบกริบทางตำรวจพยายามสืบหาที่มาของเด็กแต่ไร้ซึ่งวี่แวว ฉันกับคุณป๋าเลยรับเลี้ยงสาวน้อยและรับเป็นลูกบุญธรรมน้องฟองเบียร์ เด็กหญิง พิชามญชุ์ โชติฐิติเมธานนท์พิชามญชุ์ ผู้งดงามด้วยความรู้ ชื่อนี้หลวงตาเป็นคนตั้งให้ และต้องขอบคุณป๊ะป๋าที่ตามใจฉันให้ลูกใช้นามสกุลเดียวกันกับเราได้เพราะไม่รู้วันเกิดเด็กที่แน่ชัดเราเลยเอาวันที่เจอน้องเป็นวันเกิด และดีที่คุณป๋าเขามีเส้นสายจัดการเรื่องเอกสารให้ลูกได้มีสิทธิ์ทุกอย่างเหมือนคนอื่น ๆแต่ต้องปวดหัววันละแปดรอบกับไอ้ตัวแสบลูกชายคนเล็ก เผลอเป็นไม่ได้แอบหยิกแก้มน้องทุกทีอย่างวันนี้ก็เหมือนกันน้องนั่งเล่นหัวเราะ อยู่ ๆ คนพี่วิ่งมาจากไหนไม่รู้หยิกแก้มน้องจนเป็นรอย จนน้องร้องกรี๊ด“แบร่!!!” แล้วยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันมาแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งไปหาพี่ชายทันที ให้มันได้แบบนี้สิ! ลูกคนนี้นิ“นี่ก็อีกคนเขาแกล้งขนาดนี้ยังมองตามตาละห้อย แล้วอะไรคือยิ้มหวานคะ? หนูไม่เจ็บเหรอลูก”ฉันทายาใส่แก้มขาวใสที่เป็นรอยแดงอย่า
ประเทศจีน...“แนน!!”“จะทะเลาะกับป๋าให้ได้ใช่ไหม!”“ได้!”“งั้นขึ้นห้อง ถอดเสื้อผ้าเรามีเรื่องต้องคุยกัน!”สิ้นคำพูดร่างฉันก็ถูกกระชากขึ้นไปบนห้อง และจากนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง!คนบ้าอะไรจะถอดเสื้อผ้าคุยกัน เขาหาเรื่องรังแกฉันมากกว่า!“ทีนี้หายโมโหยัง” ก็แบบนี้ทุกทีพอได้แล้วก็มาอ้อน ทีตอนลากขึ้นเตียงเกรี้ยวกราดที่สุด“......” ฉันเงียบ! ดีนะที่วันนี้พี่ไทเกอร์พาสองหนุ่มไปเที่ยว ฉันเลยแวะไปหาคุณป๋าที่บริษัท แต่ต้องไปเห็นอะไรที่มันทำให้อารมณ์เสียเพราะแบบนี้ฉันถึงไม่อยากกลับมาที่นี่ ที่บ้านหลังนี้ เพราะมันมีอะไรหลายอย่างที่มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บ“ป๋าไม่ได้อะไรกับผู้หญิงพวกนั้นแล้วนะ เราก็อยู่ด้วยกันตลอด แค่เอาหนูคนเดียวป๋าก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว”ฉันเข้าใจเพราะเรื่องมันก็นานแล้วแต่มันก็หงุดหงิดใจอยู่ดี ที่เห็นผู้หญิงที่เขาเคยควง!“ป๋าเป็นเด็กดีแล้วนะครับ” ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นรดที่ต้นคออย่างแผ่วเบา“หนูเข้าใจแต่หนูไม่ชอบ ไม่ชอบที่พวกเธอมองป๊ะป๋าด้วยสายตาท่าทางอ่อยแบบนั้น หนูหวง!”ฉันพลิกตัวมุดหน้าซุกแผงอกแกร่ง เพิ่งจะกลับมาอยู่จีนได้ไม่ถึงอาทิตย์กลับต้องมาทะเลาะกันเสียแล้วแ
หลายเดือนผ่านไป...งานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ทั้ง ๆ ที่ฉันขอแค่งานเล็ก ๆ แต่ป๊ะป๋าบอกมันไม่ได้เพราะด้วยฐานะฉันตอนนี้ที่เป็นถึงน้องสาวเจ้าของบริษัทส่งออกใหญ่โตของประเทศและคุณเขาที่เป็นถึงประธานบริษัทค้าเพชรอันดับต้น ๆ จะให้จัดงานเล็ก ๆ มันเป็นไปไม่ได้“แม่สวยจังครับ!” น้องพาร์ทที่วันนี้อยู่ในชุดสูทสีขาวพูดมองแม่แล้วเอาแต่นั่งยิ้มกริ่ม ส่วนน้องพอร์ชตอนนี้กำลังซน ก็ช่วงวัยของเขาแหละกำลังหัดเดินไม่เคยจะอยู่นิ่งดีที่ได้พี่ไทเกอร์คอยดูแลวิ่งตามตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ พี่ไทเกอร์ยังไม่ได้พักเลยแต่ความซนยังไม่เท่าน้องญี่ปุ่นลูกสาวคนสวยของเบบี๋ รายนั้นบอกเลยทั้งซนทั้งแสบส่วนคนที่สบายหน่อยคือพี่พิมพ์ เพราะน้องมาเฟียคือนิ่งสุขุมถอดแบบพี่เทเลอร์มาทุกอย่าง! ฉันละปลื้มใจแทนพี่สาวเพราะไม่ต้องมานั่งปวดหัววิ่งไล่จับลูกเหมือนฉันส่วนคุณเจ้าบ่าวป๊ะป๋าคนหล่อ ก็ดีใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เข้าใจว่าตื่นเต้นแต่ฉันเป็นผู้หญิงแท้ ๆ ยังไม่ตื่นเต้นจนออกหน้าออกตาเท่าเขาเลยไม่ใช่ไม่ดีใจที่ได้แต่งานมันก็ดีใจแต่ป๊ะป๋าเขาดีใจเกินไป อยู่ด้วยกันมากี่ปี ลูกสองคนก็โตจนวิ่งไล่เตะก้นพ่อได้แล้ว ทุกวันนี้ฉันเหมือนมีลูกชายส
“ลูกไม่ยอมดูดขวด!” คุณป๋าเขามองฉันอย่างคาดโทษและส่งลูกให้ฉัน“หนูขอโทษ!” ฉันได้แต่ทำหน้าสำนึกผิด เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้ใส่ลูกก็จะกินนม“แอ้!!”“รู้แล้วครับไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลย ก็อ้อนแบบนี้แม่ถึงใจอ่อนให้หนูกินจากเต้าจนป๊ะป๋าดุ” ฉันเอาลูกนอนลงที่ตักทันทีที่เห็นเต้าตามเคยตัวเล็กดีใจจนตัวสั่นจ๊วบ!!ด๊วบ!!“เบา...ไอ้เสือ นมแม่ช้ำหมดแล้วลูก!” คุณป๋าเขาคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงจูบที่เท้าเล็ก“ทำอะไรไม่เอามันจั๊กจี้!” ฉันเอามือดันตัวเขาที่เอาหัวหนุนตักแล้วอ้าปากงับเต้าอีกข้าง“ทีลูกดูดไม่เห็นเป็นอะไรป๋าก็หิวเหมือนกันกินหน่อยนะ!” เขามันบ้า! ดูดดึงหน้าอกแล้วดูดแรงด้วยแรงพอจนน้ำนมมันทะลักออกมานั่นแหละ“ป๊ะป๋า! ไม่เอาพอแล้วลูกกินนมอยู่นะ!” ฉันพูดดุ ๆ“หึ...ป๋าแค่ล้อเล่นเอง”“แล้วพาร์ท ล่ะคะ” ทำไมฉันถึงรู้สึกผิดต่อลูกอยู่ตลอดนะ“มีอะไรหรือเปล่า”คุณเขานั่งช้อนด้านหลังเอาคางเกยไหล่ มือสากเอื้อมมาหยอกล้อเล่นกับตัวเล็กที่พอนมเข้าปากก็เงียบไปเลย“ป๊ะป๋า!” ฉันเอียงคอหันไปจ้องหน้าเขา“ฮือ ว่าไงครับเป็นอะไรทำไมทำหน้าเศร้า ๆ” คุณเขาจุ๊บที่ปากฉันเบา ๆ“ป๊ะป๋ารักน้องพาร์ทไหม” ฉันพูดเสียงสั่น ไม่รู้ฉันคิดอะไรทำ