“ไปบอกพยาบาลให้กลับไปก่อน” คุณเขาพูดเรียบ ๆ แล้วเดินเข้าไปในห้อง
“ครับนาย!”
“มาได้ไงเราอะ” พี่ไทเกอร์พูดกับคุณเขาแล้วหันมาถามฉัน
“คุณเขาให้มาหาน้องพาร์ทได้ค่ะ” ฉันฉีกยิ้มกว้าง
“งั้นพี่พาไปหานายน้อย ดีเหมือนกันพี่กับพยาบาลกำลังจะตายแล้ว นายน้อยร้องไห้งอแงทั้งวัน”
พี่ไทเกอร์พูดอย่างหนักใจ แล้วพาฉันเดินเข้าไปหาน้องพาร์ทที่กำลังอาละวาดร้องไห้อยู่กับพยาบาล
“น้องพาร์ทครับ!” ฉันส่งเสียงเรียกน้องพาร์ทเบา ๆ
“อึก ฮือ! อึก อึก” เสียงสะอื้นเล็ก ๆ ใบหน้ามีแต่คราบน้ำตา มันทำให้หัวใจฉันแทบสลาย
“เป็นอะไรครับทำไมร้องไห้งอแงแบบนี้”
คุณเขาที่พูดพร้อมอุ้มน้องพาร์ทเดินมาหาฉัน สีหน้าแววตาคุณเขามันอ่อนโยนมากเวลาเขาอยู่กับลูก
“หม่ำ ๆ หม่ำ ๆ” พอน้องพาร์ทเห็นฉันก็ยิ้มดีใจใหญ่
“นะ...หนูขออุ้มน้องได้ไหม!” ฉันเดินเข้าไปจับมือเล็ก ๆ
“......” คุณเขาไม่พูดอะไรและส่งน้องพาร์ทให้ฉัน
“คนเก่งของพี่แนนตัวร้อนเหรอครับ!”
“ไหนพี่แนนดูหน่อยสิ” ฉันเอามือแตะที่หน้าผากเล็ก ๆ ดีที่ไข้ไม่สูงเท่าไร
“น้องไม่ยอมทานข้าวเลยค่ะ” เป็นคุณพยาบาลที่พูดขึ้น ส่วนตัวเล็กตอนนี้เงียบนิ่งเอาหน้าแนบอกแต่ยังคงมีเสียงสะอื้นเป็นพัก ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะแนนนี่ดูน้องเอง”
ฉันก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอกแต่เพราะแนตตี้กับนนท์ไม่สบายบ่อย ๆ แล้วแม่ก็ไม่ค่อยสนใจหน้าที่ดูแลน้องทุกอย่างเลยตกอยู่ที่ฉัน
ไม่นึกเลยว่าวันนี้ฉันจะได้มีโอกาสได้ดูแลน้องพาร์ท อย่างที่ฉันเคยฝันไว้
“งั้นดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” คุณพยาบาลพูดและยิ้มพร้อมเอามือลูบหัวน้องพาร์ท อย่างเอ็นดู
“เชิญครับเดี๋ยวผมไปส่ง” พี่ไทเกอร์รีบเดินไปเปิดประตูแล้วเดินออกจากห้องทันที
ตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันที่ยืนอุ้มน้องพาร์ทพร้อมสายตาเย็นชาของคุณที่กำลังจ้องมาที่ฉันอยู่
“ทำไมไม่ทานข้าวล่ะครับคนเก่ง”
แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรคุณเขาพูดกับน้องพาร์ทที่อยู่ในอ้อมกอด เด็กวัยนี้ก็แบบนี้แหละเวลาไม่สบายก็จะไม่ค่อยทานข้าว
“งั้นเดี๋ยวป๊ะป๋าไปทำอาหารให้เอาไหม”
คุณเขาเดินเข้ามาหาฉัน น้ำเสียงเขาที่พูดกับน้องพาร์ทมันอ่อนโยนมือใหญ่ลูบที่หัวน้องเบา ๆ ฉันสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของคุณเขาที่มีต่อน้องเอามาก ๆ
“......” เด็กน้อยขี้งอแงได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ
“หนูไปทำให้ดีกว่าค่ะ คุณอยู่กับน้องเถอะ”
“ฮื้อ!! แอ้!!” แต่เด็กน้อยขี้งอแงกลับไม่ยอมออกจากอ้อมกอด พอฉันจะส่งตัวให้คุณน้องพาร์ทก็กอดฉันไว้แน่น
“ไม่ต้องรออยู่นี่แหละฉันไปทำเอง”
คุณเขามองฉันดุ ๆ แล้วหอมที่หัวน้องพาร์ทก่อนจะเดินเข้าครัว ฉันได้แต่มองตามหลังคุณเขาไป เวลาเขาอยู่กับลูกเขาคงจะอบอุ่นน่าดูเพราะฟังจากที่เบบี๋เล่าว่าป๊ะป๋าห่วงใยเอาใจใส่เธอทุกอย่าง
“หนูโชคดีมากรู้ไหมที่ป๊ะป๋าเขารักหนูมากขนาดนี้”
ฉันพูดกับตัวเล็กที่ยังคงอ้อนกอดฉันไม่ยอมปล่อย พอเห็นคุณเขารักและห่วงน้องแบบนี้ ฉันเองก็สบายใจเพราะฉันคงไม่มีโอกาสได้ดูแลและอยู่ใกล้ ๆ น้องแบบนี้บ่อย ๆ
วันนี้ถือว่าคุณเขาใจดีให้ฉันได้ดูแลน้องสำหรับฉันแค่นี้มันก็มากเกินพอแล้ว
20 นาทีผ่านไป
“หลับซะแล้ว!”
ระหว่างที่รอคุณเขาทำอาหารฉันก็อุ้มน้องเดินไปเดินมารอบ ๆ ห้อง พอดูอีกทีเด็กน้อยกลับหลับอ้าปากหวอน่ารักเชียว
“ทำไมน่ารักแบบนี้นะ”
ฉันก้มลงจูบที่หัวน้องพาร์ทเบา ๆ กลัวน้องจะตื่น เห็นตัวแค่นี้ก็หนักเอาการอยู่นะเมื่อยแขนและเหมือนมันจะเริ่มชาขยับไม่ได้แล้ว
“หลับแล้วทำไมไม่เอาเข้าไปนอนในห้อง?” คุณเขาเดินออกมาจากในครัว พร้อมจ้องมาที่น้องพาร์ท
“...เอามาฉันพาไปนอนเอง” คุณเขาถอนหายใจแล้วตรงเข้ามาจะอุ้มน้องพาร์ทเข้าไปนอน
“ดะ...เดี๋ยวค่ะ” ฉันพูดห้ามเขาทันที
“อะไรของเธอ?” เขาพูดอย่างรำคาญ
“คะ... คือตะคริว” แขนฉันมันขยับไม่ได้
“แขนหนูเป็นตะคริว!” ฉันพูดเสียงเบา
พรึบ!!
“ทะ... ทำอะไรคะ?”
“......” คุณเขาเงียบแล้วอุ้มฉันที่อุ้มน้องพาร์ทอยู่เดินเข้าไปในห้องนอน แต่... จากที่ดู ๆ ห้องที่เขาพาฉันเข้ามาไม่น่าจะเป็นห้องนอนน้องพาร์ท!
คุณเขายังคงเงียบและค่อย ๆ วางฉันลงกับเตียงอย่างเบามือ คงจะกลัวน้องพาร์ทตื่น
“... เธอนี่โง่หรือเปล่า เมื่อยแขนแล้วยังจะอุ้มไว้อีก!” คุณเขาพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ พร้อมดึงผ้าห่มมาห่มตัวให้น้องพาร์ทที่นอนหันหน้ากอดฉันอยู่ แล้วนวดที่มือฉันเบา ๆ
“ก็หนูกลัวน้องตื่น” ฉันค่อย ๆ ผลักตัวเอาน้องพาร์ทนอนลงกับที่นอน เพราะตอนนี้มันมืดแล้ว เฮ้อ... จะมีรถกลับบ้านไหมล่ะเนี่ยแนนนี่
“... แอ้! ฮื่อ!...” แต่พอฉันจะขยับเอามือออกน้องพาร์ท กลับงอแง
“ไม่ร้องนะครับ”
ฉันเอามือลูบที่อกน้องพาร์ทเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบไม่นานน้องก็นิ่งและหลับไป
“แล้วจะไปไหน!” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเมื่อฉันลุกจากเตียงเตรียมตัวจะกลับบ้าน
“เป็นไง”“ตกลงว่าท้องไหม?”ปรเมศวร์เอ่ยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อเห็นร่างบางของภรรยาสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ“ฟองเบียร์ล่ะ” แต่เธอกลับไม่สนใจเดินผ่านหน้าสามีหนุ่มสายตาสอดส่องหาลูกสาวตัวน้อย“แนน! หนูตอบป๋าก่อนตกลงท้องไหม!” ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวคอดดึงร่างเล็กเข้ามากอดเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจ“ป๊ะป๋า! ปล่อยอึดอัดหายใจไม่ออก” สองมือเล็กผลักดันหน้าอกอย่างรำคาญ“เหม็นด้วย! ““ไหนบอกว่าเลิกได้แล้วทำไมยังได้กลิ่นบุหรี่!” เธอชักสีหน้าไม่พอใจทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นเหม็นของบุหรี่ติดปลายจมูก“อะไรป๋าไม่ได้สูบ คงจะลูกค้าสูบมันเลยติดเสื้อ ป๋าเลิกนานแล้ว” ปรเมศวร์รีบอธิบายอย่างกระตือรือร้น แต่เห็นอาการแปลก ๆ ของเมียรักเขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจ“ดีใจมากไหมคะ” คนตัวเล็กคลี่ยิ้มบางเมื่อได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าสามี หลังจากที่พยายามจะมีลูกอีกคนมาหลายเดือนและในวันนี้ก็สิ้นสุดการรอคอยแต่จะเป็นลูกสาวอย่างที่เขาหวังไหม อันนี้คงต้องว่ากันอีกที“ที่สุดครับ!”“หนูน่ารักที่สุดเลยรู้ไหม!”พรึบ!ร่างบางถูกช้อนอุ้มเดินตรงไปยังเตียงนอน“คงได้เวลาป๋าต้องทำงานให้น้อยลงเพื่อจะได้ดูแลหนูกับลูกให้มากขึ้นแล้วสินะ!” เขาพูด
“ไทเกอร์!!”“ไอ้ไทเกอร์!!!”ปรเมศวร์ส่งเสียงเรียกลูกน้องหนุ่มที่ซึ่งกำลังหัวหมุนกับเจ้าสองแสบลูกชายเจ้านายเสียงแข็ง“ครับนาย” ชายหนุ่มวิ่งหอบตรงเข้าหาผู้เป็นนาย“ดูฟองเบียร์ด้วยกูมีธุระ!”“แล้วดูลูก ๆ กูดี ๆ ล่ะ อย่าให้ไปวิ่งเล่นแถวสระน้ำ!”“ถ้าลูกกูเป็นอะไรไปมึงตาย!”สิ้นประโยคเด็กน้อยแก้มใสวัยห้าเดือนเศษก็ถูกยัดใส่มือลูกน้องหนุ่มที่ทำหน้ามึนงง“นาย!” แต่ยังไม่ทันที่เจ้านายหนุ่มจะได้เดินไปไหนเขาก็อุ้มเด็กน้อยไปขวางหน้าไว้เสียก่อน“อะไรของมึงอีก?” เจ้านายหนุ่มมองหน้าลูกน้องอย่างไม่สบอารมณ์เพราะจิตใจมันลอยล่องไปอยู่ที่สระน้ำ“แล้ว...” ลูกน้องหนุ่มมองไปที่สองพี่น้องที่กำลังเล่นต่อสู้กันอยู่“มันเป็นหน้าที่มึง! ไว้กูขึ้นเงินเดือนให้!”เขาพูดแค่นั้นก็จะรีบสาวเท้ายาว ๆ ไปหาภรรยาสาวที่กำลังเล่นน้ำอย่างสบายใจ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าภัยร้ายกำลังจะถึงตัวเพราะชุดบิคีนีตัวจิ๋วที่เธอสวมใส่……“ไม่ตายวันนี้จะตายวันไหน! ไอ้ไทเกอร์!” ไทเกอร์ได้แต่บ่นตามหลังเจ้านาย ทำหน้าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ“อ้อแอ้ อ้อแอ้” แต่ต้องสีหน้าเปลี่ยนเมื่อเสียงหวานเล็กดังอ้อแอ้ มือเล็กนุ่มนิ่มลูบจับที่หน้าเขาอย่างอ่อนโยน“เห็นแบบ
“กรี๊ด อุแว้!!”“พอร์ช! ลูกอีกแล้วนะแกล้งน้องทำไม!”เฮ้อ! ฉันละเหนื่อยใจกับลูกชายคนนี้ ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว 3 เดือนกว่า ๆ ทุกอย่างเงียบกริบทางตำรวจพยายามสืบหาที่มาของเด็กแต่ไร้ซึ่งวี่แวว ฉันกับคุณป๋าเลยรับเลี้ยงสาวน้อยและรับเป็นลูกบุญธรรมน้องฟองเบียร์ เด็กหญิง พิชามญชุ์ โชติฐิติเมธานนท์พิชามญชุ์ ผู้งดงามด้วยความรู้ ชื่อนี้หลวงตาเป็นคนตั้งให้ และต้องขอบคุณป๊ะป๋าที่ตามใจฉันให้ลูกใช้นามสกุลเดียวกันกับเราได้เพราะไม่รู้วันเกิดเด็กที่แน่ชัดเราเลยเอาวันที่เจอน้องเป็นวันเกิด และดีที่คุณป๋าเขามีเส้นสายจัดการเรื่องเอกสารให้ลูกได้มีสิทธิ์ทุกอย่างเหมือนคนอื่น ๆแต่ต้องปวดหัววันละแปดรอบกับไอ้ตัวแสบลูกชายคนเล็ก เผลอเป็นไม่ได้แอบหยิกแก้มน้องทุกทีอย่างวันนี้ก็เหมือนกันน้องนั่งเล่นหัวเราะ อยู่ ๆ คนพี่วิ่งมาจากไหนไม่รู้หยิกแก้มน้องจนเป็นรอย จนน้องร้องกรี๊ด“แบร่!!!” แล้วยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันมาแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งไปหาพี่ชายทันที ให้มันได้แบบนี้สิ! ลูกคนนี้นิ“นี่ก็อีกคนเขาแกล้งขนาดนี้ยังมองตามตาละห้อย แล้วอะไรคือยิ้มหวานคะ? หนูไม่เจ็บเหรอลูก”ฉันทายาใส่แก้มขาวใสที่เป็นรอยแดงอย่า
ประเทศจีน...“แนน!!”“จะทะเลาะกับป๋าให้ได้ใช่ไหม!”“ได้!”“งั้นขึ้นห้อง ถอดเสื้อผ้าเรามีเรื่องต้องคุยกัน!”สิ้นคำพูดร่างฉันก็ถูกกระชากขึ้นไปบนห้อง และจากนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง!คนบ้าอะไรจะถอดเสื้อผ้าคุยกัน เขาหาเรื่องรังแกฉันมากกว่า!“ทีนี้หายโมโหยัง” ก็แบบนี้ทุกทีพอได้แล้วก็มาอ้อน ทีตอนลากขึ้นเตียงเกรี้ยวกราดที่สุด“......” ฉันเงียบ! ดีนะที่วันนี้พี่ไทเกอร์พาสองหนุ่มไปเที่ยว ฉันเลยแวะไปหาคุณป๋าที่บริษัท แต่ต้องไปเห็นอะไรที่มันทำให้อารมณ์เสียเพราะแบบนี้ฉันถึงไม่อยากกลับมาที่นี่ ที่บ้านหลังนี้ เพราะมันมีอะไรหลายอย่างที่มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บ“ป๋าไม่ได้อะไรกับผู้หญิงพวกนั้นแล้วนะ เราก็อยู่ด้วยกันตลอด แค่เอาหนูคนเดียวป๋าก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว”ฉันเข้าใจเพราะเรื่องมันก็นานแล้วแต่มันก็หงุดหงิดใจอยู่ดี ที่เห็นผู้หญิงที่เขาเคยควง!“ป๋าเป็นเด็กดีแล้วนะครับ” ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นรดที่ต้นคออย่างแผ่วเบา“หนูเข้าใจแต่หนูไม่ชอบ ไม่ชอบที่พวกเธอมองป๊ะป๋าด้วยสายตาท่าทางอ่อยแบบนั้น หนูหวง!”ฉันพลิกตัวมุดหน้าซุกแผงอกแกร่ง เพิ่งจะกลับมาอยู่จีนได้ไม่ถึงอาทิตย์กลับต้องมาทะเลาะกันเสียแล้วแ
หลายเดือนผ่านไป...งานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ทั้ง ๆ ที่ฉันขอแค่งานเล็ก ๆ แต่ป๊ะป๋าบอกมันไม่ได้เพราะด้วยฐานะฉันตอนนี้ที่เป็นถึงน้องสาวเจ้าของบริษัทส่งออกใหญ่โตของประเทศและคุณเขาที่เป็นถึงประธานบริษัทค้าเพชรอันดับต้น ๆ จะให้จัดงานเล็ก ๆ มันเป็นไปไม่ได้“แม่สวยจังครับ!” น้องพาร์ทที่วันนี้อยู่ในชุดสูทสีขาวพูดมองแม่แล้วเอาแต่นั่งยิ้มกริ่ม ส่วนน้องพอร์ชตอนนี้กำลังซน ก็ช่วงวัยของเขาแหละกำลังหัดเดินไม่เคยจะอยู่นิ่งดีที่ได้พี่ไทเกอร์คอยดูแลวิ่งตามตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ พี่ไทเกอร์ยังไม่ได้พักเลยแต่ความซนยังไม่เท่าน้องญี่ปุ่นลูกสาวคนสวยของเบบี๋ รายนั้นบอกเลยทั้งซนทั้งแสบส่วนคนที่สบายหน่อยคือพี่พิมพ์ เพราะน้องมาเฟียคือนิ่งสุขุมถอดแบบพี่เทเลอร์มาทุกอย่าง! ฉันละปลื้มใจแทนพี่สาวเพราะไม่ต้องมานั่งปวดหัววิ่งไล่จับลูกเหมือนฉันส่วนคุณเจ้าบ่าวป๊ะป๋าคนหล่อ ก็ดีใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เข้าใจว่าตื่นเต้นแต่ฉันเป็นผู้หญิงแท้ ๆ ยังไม่ตื่นเต้นจนออกหน้าออกตาเท่าเขาเลยไม่ใช่ไม่ดีใจที่ได้แต่งานมันก็ดีใจแต่ป๊ะป๋าเขาดีใจเกินไป อยู่ด้วยกันมากี่ปี ลูกสองคนก็โตจนวิ่งไล่เตะก้นพ่อได้แล้ว ทุกวันนี้ฉันเหมือนมีลูกชายส
“ลูกไม่ยอมดูดขวด!” คุณป๋าเขามองฉันอย่างคาดโทษและส่งลูกให้ฉัน“หนูขอโทษ!” ฉันได้แต่ทำหน้าสำนึกผิด เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้ใส่ลูกก็จะกินนม“แอ้!!”“รู้แล้วครับไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลย ก็อ้อนแบบนี้แม่ถึงใจอ่อนให้หนูกินจากเต้าจนป๊ะป๋าดุ” ฉันเอาลูกนอนลงที่ตักทันทีที่เห็นเต้าตามเคยตัวเล็กดีใจจนตัวสั่นจ๊วบ!!ด๊วบ!!“เบา...ไอ้เสือ นมแม่ช้ำหมดแล้วลูก!” คุณป๋าเขาคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงจูบที่เท้าเล็ก“ทำอะไรไม่เอามันจั๊กจี้!” ฉันเอามือดันตัวเขาที่เอาหัวหนุนตักแล้วอ้าปากงับเต้าอีกข้าง“ทีลูกดูดไม่เห็นเป็นอะไรป๋าก็หิวเหมือนกันกินหน่อยนะ!” เขามันบ้า! ดูดดึงหน้าอกแล้วดูดแรงด้วยแรงพอจนน้ำนมมันทะลักออกมานั่นแหละ“ป๊ะป๋า! ไม่เอาพอแล้วลูกกินนมอยู่นะ!” ฉันพูดดุ ๆ“หึ...ป๋าแค่ล้อเล่นเอง”“แล้วพาร์ท ล่ะคะ” ทำไมฉันถึงรู้สึกผิดต่อลูกอยู่ตลอดนะ“มีอะไรหรือเปล่า”คุณเขานั่งช้อนด้านหลังเอาคางเกยไหล่ มือสากเอื้อมมาหยอกล้อเล่นกับตัวเล็กที่พอนมเข้าปากก็เงียบไปเลย“ป๊ะป๋า!” ฉันเอียงคอหันไปจ้องหน้าเขา“ฮือ ว่าไงครับเป็นอะไรทำไมทำหน้าเศร้า ๆ” คุณเขาจุ๊บที่ปากฉันเบา ๆ“ป๊ะป๋ารักน้องพาร์ทไหม” ฉันพูดเสียงสั่น ไม่รู้ฉันคิดอะไรทำ