공유

บทที่ 3

작가: ไป๋เสวียน
เถาหลินทำท่าทางราวกับตกใจ ไม่อยากจะเชื่อ “ลูก...... ลูกใส่ร้ายแม่แบบนี้ได้ยังไง?”

เมื่อมองสายตาที่เจ็บปวดของเถาหลิน เจียงเส้าชิงก็รู้สึกว่าลูกสาวกำลังโกหก

เธอทำไปเพื่อปกป้องสวีสวี่ ก็เลยจงใจใส่ร้ายเถาหลิน

จะมีแม่คนไหนทำร้ายลูกตัวเองได้ลงคอ?

เจียงเส้าชิงสั่งสอน “รั่วรั่ว เด็กต้องไม่โกหกนะ อีกอย่าง เธอไม่ใช่คนแปลกหน้า เธอคือแม่ผู้ให้กำเนิดของลูกกับน้องชาย ถ้าไม่มีเธอก็ไม่มีพวกหนู”

“หนูไม่ได้โกหก!”

เถาหลินยิ้มทั้งน้ำตา รีบปลอบเจียงเส้าชิง “ไม่เป็นไร เด็กไม่โกหกหรอก พวกเขาแค่คิดจะปกป้องคนที่ใกล้ชิด ไม่เป็นไรเลย พวกเขาชอบคุณผู้หญิงเจียง ก็แสดงว่าเธอดีกับลูก ๆ แบบนี้ฉันก็ดีใจแล้ว”

ใช่แล้ว เด็กไม่มีทางโกหก

งั้นก็แสดงว่าสวีสวี่จงใจสอนให้ลูกสาวพูดแบบนี้

เมื่อเห็นความเสียใจและน้อยเนื้อต่ำใจในดวงตาของเถาหลิน เจียงเส้าชิงก็ยิ่งโกรธขึ้นมาทันที “คนใช้ล่ะ?”

พี่เลี้ยงรีบเข้ามาในห้อง

เจียงเส้าชิงจ้องไปที่สวีสวี่ “อุ้มเด็ก ๆ ออกไปให้หมด”

นี่หมายความว่าต้องการให้เด็ก ๆ อยู่ห่างจากสวีสวี่!

หลังจากพี่เลี้ยงอุ้มเด็กทั้งสองคนออกไปแล้ว เจียงเส้าชิงก็เดินจากไปพร้อมกับเถาหลินด้วยความโกรธ

สวีสวี่ยืนอยู่ที่เดิมตามลำพัง

พวกเขาคนหนึ่งคือพ่อผู้ให้กำเนิด อีกคนคือแม่ผู้ให้กำเนิด

เธอจะมีสิทธิ์พูดอะไรได้?

มองสำลีก้านที่เปื้อนเลือดซึ่งอยู่ข้าง ๆ หัวใจของเธอก็เจ็บปวดอย่างยิ่ง

แต่ในนั้นกลับเต็มไปด้วยความผิดหวังมากกว่า

แต่งงานกันมาหกปี เธอช่วยเขาดูแลบ้านและลูก ๆ ทำให้เขาสามารถทุ่มเทให้กับธุรกิจได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวล

เธอเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ เพราะตลอดหลายปีมานี้เจียงเส้าชิงไม่เคยนอกใจ ทั้งยังดูแลเอาใจใส่เธอ ทำหน้าที่ของสามีได้เป็นอย่างดี

แต่ทั้งหมดนี้ อยู่บนพื้นฐานที่ว่าเถาหลินยังไม่ปรากฏตัว

เพียงแค่คืนนี้คืนเดียว การปกป้องที่เจียงเส้าชิงมีให้เถาหลินนั้น มากกว่าการปกป้องที่เขามีให้เธอตลอดหกปีที่ผ่านมาเสียอีก

นั่นทำให้ความดีเพียงน้อยนิดที่เขามีให้เธอ ดูเป็นเรื่องน่าขันสิ้นดี

...

ตกกลางคืน

สวีสวี่อาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอน ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังเข้ามา

เจียงเส้าชิงก็อาบน้ำเสร็จแล้วเช่นกัน เขานอนลงอีกฝั่งหนึ่ง ทั้งสองคนนอนหันหลังให้กัน

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เจียงเส้าชิงก็พูดขึ้น “เถาหลินแค่คิดถึงลูก แวะมาเยี่ยมเฉย ๆ เธอไม่จำเป็นต้องต่อต้านขนาดนั้น แถมยังสอนให้ลูกโกหกอีก เรื่องวันนี้ อย่าให้มีครั้งต่อไป”

อย่าให้มีครั้งต่อไป?

สวีสวี่กัดฟันเบา ๆ “ฉันเลี้ยงพวกเขามาหกปี ดูแลพวกเขามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กแบเบาะ ไม่มีใครอยากให้พวกเขาปลอดภัยและเป็นเด็กดีมากกว่าฉันอีกแล้ว คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดว่าฉันเป็นคนสอนพวกเขา?”

“ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วเป็นเถาหลินรึไง?” เจียงเส้าชิงพูดอย่างเย็นชา “ต้องให้ฉันเตือนเธอไหมว่า เถาหลินคือแม่แท้ ๆ ของพวกเขา”

พร้อมกับเสียงของเขาที่หยุดลง ก็คือหัวใจของสวีสวี่ที่ราวกับถูกธนูนับหมื่นดอกแทงทะลุ!

ความทุ่มเทตลอดหกปี กลับสู้น้ำตาและการคร่ำครวญของเถาหลินไม่ได้

แล้วหลายปีที่ผ่านมาเธอเป็นตัวอะไร?

...

คืนนั้นไม่มีคำพูดใด ๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น

ตอนที่สวีสวี่ตื่นนอน เจียงเส้าชิงก็ไม่อยู่แล้ว

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ถือเป็นวันครอบครัว เจียงเส้าชิงจะไม่ไปทำงาน และจะอยู่บ้านเพื่อใช้เวลากับลูก ๆ

เมื่อลงมาข้างล่าง

“คุณผู้หญิงครับ อาหารเช้า...... เตรียมเสร็จแล้วครับ” พ่อบ้านลุงหลินพูดจาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ

พอสวีสวี่เดินไปที่ห้องอาหาร ถึงได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

เถาหลินเป็นคนทำอาหารเช้า และทำไว้มากมาย

“คุณผู้หญิงเจียง ตื่นแล้วเหรอคะ รีบมาทานอาหารเช้าเถอะค่ะ” รอยยิ้มของเถาหลินดูอ่อนโยนจริง ๆ

แต่ในสายตาของเจียงเส้าชิง มันกลับกลายเป็นการที่เถาหลินกำลังเอาใจสวีสวี่

เขารู้สึกทนดูไม่ได้เล็กน้อย “เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ที่นี่คือบ้านของลูก ๆ เธอ เธอพักอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจเลย”

ฝีเท้าของสวีสวี่ชะงักไป รู้สึกร้อนผ่าวที่แก้ม ราวกับถูกตบหน้า

เถาหลินยิ้ม “ได้สิ”

เมื่อสวีสวี่นั่งลง เถาหลินก็พูดว่า “คุณลองชิมนี่สิคะ ซาลาเปาน้ำซุปนี่เป็นสิ่งที่ฉันถนัดที่สุด เส้าชิงก็ชอบทาน ฉันเลยคิดว่าจะทำให้คุณกับลูก ๆ ได้ลองชิมกัน”

เจียงเส้าชิงชอบทานซาลาเปาน้ำซุปจริง ๆ

เขาชมไม่ขาดปาก “ฝีมือดีกว่าเมื่อก่อนอีก ขอบคุณที่เหนื่อย ต่อไปไม่ต้องทำเองหรอก สวีสวี่ก็ทำเป็น”

ขอบคุณที่เหนื่อย......

สวีสวี่ก็ทำเป็น......

หมายความว่าเถาหลินไม่ต้องทำ ให้เธอมาทำแทนงั้นเหรอ?

สวีสวี่ก้มหน้ามองโจ๊กในถ้วยเงียบ ๆ เธอเคยดูแลเจียงหวยที่ไม่สบายอยู่สองวันสองคืน จนขอบตาแดงก่ำไปหมด แต่ตอนนั้นเจียงเส้าชิงกลับไม่เคยพูดคำว่า ‘ขอบคุณที่เหนื่อย’ เลยสักคำ

เธอระงับความต้องการที่จะโต้เถียงเอาไว้ ทำเป็นว่าเจียงเส้าชิงปฏิบัติต่อเถาหลินอย่างสุภาพในฐานะแขกเท่านั้น

สวีสวี่เงยหน้าขึ้น “ใช่ค่ะ ฉันก็ทำเป็น แล้วก็รั่วรั่วแพ้ปู ทานไม่ได้หรอก”

เถาหลินตกตะลึง “แพ้เหรอคะ? เส้าชิง ร่างกายของเด็ก ๆ มีอาการแพ้ ก็เพราะตอนเด็ก ๆ ไม่ได้ดูแลบำรุงให้ดี เด็ก ๆ ไม่ควรถูกปกป้องมากเกินไป ต้องให้เขาได้สัมผัสกับเชื้อโรคต่าง ๆ บ้าง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน”

เจียงเส้าชิงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเหลือบมองสวีสวี่

ตลอดหลายปีมานี้ อันที่จริงแล้วสวีสวี่ดูแลลูก ๆ ได้อย่างไร้ที่ติ

ดังนั้นครั้งนี้ เขาจึงไม่ได้คล้อยตามคำพูดของเถาหลินต่อไป

เถาหลินก็สังเกตเห็นความเงียบของเจียงเส้าชิงเช่นกัน จึงเปลี่ยนเรื่อง “ฉันอยากพาลูก ๆ ออกไปเที่ยว เส้าชิง นายไปเป็นเพื่อนพวกเราได้ไหม?”

พูดจบ เธอก็หันไปมองสวีสวี่ “คุณผู้หญิงเจียง คุณไปกับพวกเราด้วยไหมคะ?”

เจียงเส้าชิงพูดขึ้นมาทันที “เรียกเธอว่าสวีสวี่ก็พอ”

เถาหลินเปลี่ยนคำเรียกอย่างว่าง่าย “ได้เลย สวีสวี่”

ทั้งสองคนพูดคุยโต้ตอบกัน ไม่ได้ถามความเห็นของสวีสวี่เลยแม้แต่น้อย

สวีสวี่ยังไม่ได้ทานโจ๊กเลยสักคำ “พวกคุณไปกันเถอะ ฉันไม่ไปดีกว่า วันนี้ฉันนัดเพื่อนไว้แล้ว”

เจียงเส้าชิงถามกลับโดยไม่รู้ตัว “เธอมีเพื่อนที่ไหน?”

สวีสวี่อ้าปากค้าง “เพื่อนเก่าของฉันคนหนึ่งน่ะ เธอย้ายมาอยู่ที่เมืองจูแล้ว ฉันจะไปหาเธอหน่อย”

เธอมีเพื่อนมากมาย เพียงแต่หลังจากแต่งงานกับเจียงเส้าชิงและย้ายมาอยู่ที่เมืองจู ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเท่าไหร่ เพราะเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่อยู่ที่มืองหลวงฉางจิงกันหมด

เจียงเส้าชิงไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่กำชับว่า “กลับมาเร็ว ๆ นะ ระวังตัวด้วย”

สวีสวี่หันหลังกลับขึ้นไปข้างบน

ช่างเถอะ เจียงเส้าชิงคีบอาหารให้เถาหลิน “หายป่วยดีแล้วเหรอ?”

เถาหลินยิ้มแล้วพยักหน้า “หายดีแล้ว นายวางใจได้”

เขากล่าว “อืม หลายปีมานี้คงลำบากมากสินะ?”

เถาหลินก้มหน้าลง สายตาฉายแววเศร้าสร้อย “ก็ยังดี ตอนนี้ก็พ้นความลำบากและมีความสุขแล้วไม่ใช่เหรอ?”

อันที่จริงแล้ว เธอไม่ได้ลำบากอะไรเลย กลับกันยังใช้ชีวิตสุขสบายด้วยซ้ำ

เพียงแต่เรื่องราวในอดีตเหล่านั้นไม่สามารถพูดถึงได้ก็เท่านั้น

...

พอเด็ก ๆ ตื่นนอน สวีสวี่ก็ช่วยเตรียมของที่ต้องใช้สำหรับออกไปข้างนอกวันนี้

กระบอกน้ำ ทิชชูเปียก กล้องถ่ายรูปเด็ก และเสื้อผ้าสำรอง

“วันนี้แม่ไม่ได้ไปกับพวกลูกนะ ออกไปข้างนอกต้องเชื่อฟังคุณพ่อ ห้ามวิ่งซนล่ะ” สวีสวี่นั่งยอง ๆ แล้วจัดเสื้อผ้าให้ลูกทั้งสองคน

เจียงหวยเบ้ปาก “แล้วใครจะไปกับพวกเราล่ะครับ?”

“คุณพ่อ แล้วก็...” สวีสวี่หยุดไปครู่หนึ่ง “แม่แท้ ๆ ของพวกลูก”

“พวกเราไม่เอา!” เจียงรั่วเริ่มงอแงขึ้นมา “คุณแม่จะไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของพวกเราได้ยังไงล่ะ? ผู้หญิงคนนั้นโกหก พวกเราไม่เคยเจอเธอมาก่อนด้วยซ้ำ!”

สวีสวี่เกลี้ยกล่อม “รั่วรั่ว เธอคือแม่แท้ ๆ ของพวกลูกจริง ๆ ถ้าพวกลูกต่อต้านเธอ คุณพ่อจะไม่พอใจนะ”

แม้ว่าเด็กทั้งสองคนจะไม่พอใจ แต่ก็ยังเชื่อฟังสวีสวี่อย่างว่าง่าย

พวกเขายอมรับความจริงที่ว่าสวีสวี่ไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของพวกเขาได้ยากมาก จนทำให้ความรู้สึกต่อต้านเถาหลินยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก

หลังจากลงมาข้างล่าง สวีสวี่ก็วางกระดาษแผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะอาหาร “พฤติกรรมการกินของลูก ๆ แล้วก็อาหารที่แพ้และห้ามทาน ฉันเขียนไว้บนนี้หมดแล้ว” พูดจบ เธอก็ไม่ได้อยู่ต่อ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปทันที

จนกระทั่งใกล้ค่ำ สวีสวี่ก็ยังคงอยู่ที่บาร์ของเพื่อนสาว

“วันครอบครัวแท้ ๆ ยากนะเนี่ยที่จะเห็นเธอมาอยู่ที่นี่ได้นาน” เฉียวอวี่เมิ่งนำจานผลไม้มาให้

สวีสวี่หัวเราะเบา ๆ แฝงไปด้วยการเยาะเย้ยตัวเองเล็กน้อย “ครอบครัวสี่คนเขาออกไปเที่ยวกัน ฉันจะไปทำอะไรได้ล่ะ”

“เธอก็ทำธุรกิจของตัวเองสิ”

สวีสวี่ส่ายหน้าช้า ๆ “ธุรกิจของฉัน ที่เมืองจูไม่มีหรอก”

เธอเรียนจบด้านการลงทุน แต่บริษัทผู้ผลิตขนาดกลางในเมืองจูเหล่านี้ ตอนนี้ยังไม่มีโครงการใหญ่ ๆ ระดับหมื่นล้านที่ต้องระดมทุนหรือควบรวมกิจการ

บริษัทที่มีโอกาสเติบโตมากที่สุด ก็มีเพียงบริษัทของเจียงเส้าชิงเท่านั้น

เพราะเจียงกรุ๊ปถือเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสามมณฑลใกล้เคียงแล้ว

แต่สวีสวี่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องงานของเขาเลย

“เธอทิ้งความสามารถของตัวเองไปโดยเปล่าประโยชน์จริง ๆ” เฉียวอวี่เมิ่งรู้สึกเสียดายแทนเธอ

สวีสวี่ซึมซับเรื่องธุรกิจมาจากพ่อและพี่ชายตั้งแต่เด็ก พออายุสิบเจ็ดก็เริ่มตามพ่อของเธอไปเรียนรู้เรื่องการลงทุน สายตาเฉียบคมมากตั้งแต่ยังเด็ก ไม่รู้ว่าช่วยตระกูลสวี่ทำเงินไปได้มากมายเท่าไหร่

ด้วยเหตุนี้ คุณหนูผู้สูงศักดิ์จากตระกูลที่มั่งคั่งอย่างสวีสวี่ ในตอนที่ตัดสินใจจะแต่งงานกับเจียงเส้าชิงที่ยังไม่ได้แต่งงานแต่มีลูกติดถึงสองคน ตระกูลสวี่ถึงได้คัดค้านอย่างหนัก ถึงขั้นตัดความสัมพันธ์กันเลยทีเดียว

แต่ผู้ชายที่เธอแอบรักมาตั้งแต่สมัยเรียน ตอนนี้ได้มาเป็นสามีแล้ว แน่นอนว่าต้องทุ่มเทให้ทั้งใจ เฉียวอวี่เมิ่งจึงไม่สามารถพูดอะไรได้

แต่เรื่องพวกนี้เจียงเส้าชิงไม่รู้เลย

เขาคิดว่าสวีสวี่มาจากครอบครัวธรรมดา บ้านเกิดอยู่ไกลและเดินทางลำบาก พ่อแม่ของเธอถึงไม่เคยปรากฏตัวเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา

สวีสวี่เริ่มรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย “ไม่ดื่มแล้ว ฉันจะกลับ......”

“ครืด—”

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดคำพูดของเธอ

เป็นสายจากเจียงเส้าชิง

สวีสวี่เดาว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูก ๆ ไม่อย่างนั้นเจียงเส้าชิงแทบจะไม่โทรหาเธอเลย ปกติจะคุยกันทางไลน์มากกว่า

เธอรับสาย “ฮัลโหล?”

น้ำเสียงของเจียงเส้าชิงเย็นชา “รีบมาที่โรงพยาบาลเด็กเดี๋ยวนี้!”

สวีสวี่ยังไม่ทันได้บอกลาเฉียวอวี่เมิ่ง ก็รีบวิ่งออกไปทันที

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 85

    เธอช่างอ่อนโยนและเพียบพร้อมเป็นกุลสตรี เอาใจใส่ทุกเรื่องเพื่อช่วยให้เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วราบรื่น แล้วยังเป็นแม่แท้ ๆ ของพวกเด็ก ๆเจียงเส้าชิงหัวใจหวั่นไหวขึ้นมาบางทีการกลับมาเริ่มต้นใหม่กับเถาหลินอีกครั้ง อาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรอย่างน้อยทุกอย่างก็ถูกต้องสมควรไปตามเหตุผลครอบครัวนี้ก็คงไม่ถึงขั้นวุ่นวายไม่สงบเหมือนอย่างที่ผ่านมาเถาหลินเอ่ยขึ้นอย่างรู้จังหวะ “ฉันคิดว่าถ้าถึงตอนนั้นแล้วพวกเราน่าจะเชิญคู่ค้าจากเป่ยไห่มาเป็นแขกที่บ้านเราได้นะ พวกเราทำความสะอาดใหญ่สักครั้งน่าจะดี?”“เรื่องนี้เธอจัดการเถอะ”เถาหลินพยักหน้า “ได้!”เจียงเส้าชิงเดินไปที่ห้องหนังสือเถาหลินหุบยิ้มทันที “ใครก็ได้ ปลดภาพถ่ายที่แขวนอยู่พวกนั้นลงมาให้หมด แล้วเปลี่ยนเป็นภาพวาดศิลปินดังพวกนี้แทน”ภาพถ่ายที่แขวนอยู่?ก็มีแต่ภาพถ่ายแต่งงานของคุณผู้ชายกับคุณนาย แล้วก็ภาพถ่ายครอบครัวสี่คนเท่านั้นลุงหลินขมวดคิ้ว “รูปพวกนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่ครับ”เถาหลินเงยหน้าขึ้นช้า ๆ “ไม่เข้าใจ คำสั่งของฉันงั้นเหรอ? เปลี่ยนเป็นภาพวาดให้หมด ปล่อยให้ทั้งห้องมีแต่ภาพครอบครัวแบบนี้ รังแต่จะทำให้ยึดติดกับเรื่องความ

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 84

    เจียงเส้าชิงถามขึ้น “ทำไมไม่มีความสุขล่ะ?”“ฉัน…” เถาหลินคิดจะพูดอะไรบางอย่างแต่เจียงรั่วกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน “หนูกับน้องกินหวานเยอะเกินไปไม่ได้ แต่เธอกลับบังคับให้พวกเรากิน สุดท้ายพวกเรายังกินไม่ทันอิ่ม เธอก็บอกให้พวกเราไปกันได้แล้ว“คุณน้าพี่เลี้ยงก็บอกแล้วว่าพวกเรายังกินกันไม่เสร็จ แต่เธอกลับพูดทำนองว่าถึงหิวก็ไม่ตายหรอกประมาณนี้ค่ะ”เรื่องเลียนแบบคำพูดคำจา ถือเป็นพรสวรรค์ทีเดียวเชียวล่ะอย่างน้อยเจียงรั่วก็สื่อสารสิ่งที่ต้องการออกมาได้ครบถ้วนชัดเจนไม่บกพร่อง แล้วไม่ได้กล่าวหาเถาหลินเกินไปเลยสักคำเถาหลินหน้าซีดเผือด “เส้าชิง นายอย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันก็แค่เป็นห่วงกลัวว่าพวกลูก ๆ จะกินมากไปแล้วท้องอืด เดิมทีก็กินหวานมากไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลยให้ชิมนิดหน่อยแค่พอรู้รสชาติให้หายอยากก็พอแล้ว”เจียงเส้าชิงกอดลูกสาวไว้ “รั่วรั่ว ลูกเข้าใจคุณแม่ผิดไปแล้ว คุณแม่จะพูดว่าพวกลูกถึงหิวก็ไม่ตายได้ยังไง”“ใช่จ้ะ แม่รักพวกลูกขนาดนี้ ไปรับไปส่งพวกลูกที่โรงเรียน แล้วยังพาพวกลูกไปกินของอร่อยอีกนะ” เถาหลินเอ่ยเจียงรั่วคิดถึงคำพูดของป้าเฉียนขึ้นมาได้ ก็เถียงเลียนแบบ “ไม่ใช่หน้าที่ของคุณรึไง?”

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 83

    คำตอบนี้เพียงพอจะอธิบายได้แล้วว่า เขาได้ยินมันทั้งหมดแล้วร่างกายของสวีสวี่ยังอ่อนแอ เสียงพูดแผ่วหวิว “ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันแค่…”เว่ยเย่เฉิงหัวเราะเบา ๆ “อืม ฉันรู้”เรื่องนี้ให้พูดยังไงก็น่าอายเกินไป สวีสวี่จึงเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าพี่มีงานก็ไปทำงานเถอะ ที่นี่มีคนคอยดูแลอยู่”ก็มีงานต้องทำจริง แต่ว่าในเมื่อออกมาแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลให้กลับไปแล้วไม่นานสวี่จิ้นก็กลับเข้ามาพร้อมกับบอดี้การ์ด แล้วยังหิ้วยาบำรุงร่างกายมากมายมาด้วย“พวกเรายังมีธุระ ฉันทิ้งคนให้เธอเรียกใช้ได้ตามสบาย” สวี่จิ้นให้บอดี้การ์ดสองคนของตัวเองอยู่เฝ้าที่นี่“ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่ศูนย์พักฟื้นหลังคลอดก็มีคนคอยดูแลอยู่” สวีสวี่พูดขึ้น“อย่าดื้อนักเลย เวลาแบบนี้ขืนไม่ดูแลบำรุงร่างกายให้ดี หลังจากนี้มีเรื่องให้เธอต้องร้องไห้แน่” สวี่จิ้นถลึงตามองเธอสวีสวี่หัวเราะออกมา “ขอบคุณนะคะพี่”“ไปแล้วนะ”เว่ยเย่เฉิงลุกขึ้นยืน ก่อนออกไปก็ไม่ลืมหันกลับมามองเธอ “กินยาให้ตรงเวลาด้วย”สวีสวี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย “อืม ๆ”หลังจากออกจากห้องคนของศูนย์พักฟื้นหลังคลอดก็เดินเข้ามาหาสวี่จิ้น “ประธานสวี่คะ พวกเราเก็บพวกรกและสิ่งอื่น ๆ ไปแช่

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 82

    เจียงเส้าชิงถูกดันให้ออกไปข้างนอกแววตาของเขาเย็นชาถึงขีดสุด แถมยังแฝงด้วยความผิดหวังและความดูแคลนอย่างไม่มีสิ้นสุดในที่สุดเธอก็ยอมรับแล้วว่าเธอนอกใจ ทรยศต่อครอบครัวนี้!งั้นก็หมายความว่าทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้ เป็นแค่ข้ออ้างที่เธอคิดจะใช้เพื่อหนีไปจากเขาอย่างนั้นเหรอ?-เพียงครึ่งนาทีถัดมา สวีสวี่ได้ยินเสียงฝีเท้าแว่วดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอลืมตาอย่างหงุดหงิด “นี่คุณยังจะ…”เสียงของเธอพลันชะงักไปเป็นเว่ยเย่เฉิงเองเหรอเขาสวมชุดสูทรองเท้าหนัง รูปร่างสูงโปร่งผึ่งผาย บุคลิกเคร่งขรึมและมั่นคงใจเย็น ผมสั้นเรียบแบบนั้นกลับยิ่งขับให้เขาดูเป็นอิสระไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์ของผู้มีตำแหน่งสูงส่งแววตาของเว่ยเย่เฉิงนิ่งเรียบ “ทำไมถึงผ่าตัดเร็วนักล่ะ?”สิ้นเสียงนั้น เงาของสวี่จิ้นพลันปรากฏขึ้นมา จากด้านหลังของเขาหัวใจของสวีสวี่สั่นสะท้าน“พี่คะ…”สวี่จิ้นเดินเข้ามาอย่างจนใจ หยุดยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ก่อนจะยื่นมือเข้าไปสวมกอดเธอเอาไว้น้ำตาของสวีสวี่ไหลพรั่งพรูออกมา เธอสะอึกสะอื้นจนไหล่สั่นไปหมด“ไหนว่าจะไม่ร้องไห้ไม่ใช่เหรอ?” สวี่จิ้นถอนหายใจออกมาปล่อยให้เธอร้องไห้

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 81

    ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฉายชัดเจนในห้วงความคิดของเขาตระกูลเจียงจำเป็นต้องมีสวีสวี่เขาเองก็ขาดสวีสวี่ไม่ได้เหมือนกันเซี่ยงเยี่ยนเฉินรีบเข้ามา เห็นเจียงเส้าชิงในสภาพแบบนี้ ก็เอ่ยปากพูดปลอบไม่ออก“เจียงเส้าชิง นายไม่ควรปกป้องเถาหลินซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้เลยนะ ถ้าเปลี่ยนเป็นสวีสวี่บ้าง นายจะรู้สึกยังไงเหรอ?”เจียงเส้าชิงคิดไปถึงเว่ยเย่เฉิงสวีสวี่กับผู้ชายคนนั้นแค่อยู่ในขั้นคลุมเครือ เขาก็รับไม่ได้แล้วเจียงเส้าชิงเงยหน้าขึ้น “ทำไมนายถึงยอมให้เธอทำแท้ง?”“ฉันเข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจของเธอไม่ได้หรอก!”เซี่ยงเยี่ยนเฉินหมดคำจะพูดกับเขาจริง ๆ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ตอนนี้ยังไม่สาย ตราบใดที่นายตัดขาดความสัมพันธ์กับเถาหลิน สวีสวี่อาจจะยกโทษให้นายก็ได้นะ เธอรักนายขนาดนั้น ถึงขั้นยอมเป็นแม่เลี้ยงให้ลูก ๆ ของนายด้วยซ้ำ เรื่องนี้ นายปฏิเสธได้เหรอ?”เจียงเส้าชิงเหลือบสายตามองไปยังห้องผ่าตัดหัวใจสั่นไหวระรัวเขาดูเหมือนกำลังหวาดกลัวอยู่จริง ๆ-สวีสวี่พอฟื้นขึ้นมา ก็ค้นพบว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่โรงพยาบาลแต่เป็นศูนย์พักฟื้นหลังคลอดลูกของเธอ…ไม่อยู่แล้วสินะ?หัวใจพลันเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีไ

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 80

    วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียกของเด็กทั้งสองคน ดังนั้นพวกเขาจึงมีเรียนแค่ครึ่งวันเจียงเส้าชิงอยู่หน้าประตูโรงเรียนรอรับพวกเด็ก ๆ เพื่อออกไปกินข้าวกลางวันด้วยกันเพราะอยู่ใกล้กันมาก เถาหลินจึงได้ยินเสียงร้อนรนจากคนปลายสายที่โทร.เข้ามา เหมือนกำลังพูดถึงเรื่องสวีสวี่อะไรสักอย่างเธอกำมือแน่นเจียงเส้าชิงสีหน้าตระหนก “อยู่ที่นายเหรอ?”“ถูก!”“ช่วยขวางไว้ที! ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”โทรศัพท์ถูกตัดไป หลินเถาเอ่ยขึ้นว่า “เส้าชิง พวกลูก ๆ จะออกมากันแล้วนะ”ทางนี้คือพวกลูก ๆ อีกทางคือสวีสวี่ที่กำลังจะทำแท้ง…ในใจเจียงเส้าชิงสับสนร้อนรุ่มอยู่ไม่เป็นสุขสิบกว่าวินาที ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจลงจากรถ “เธอรับพวกเด็ก ๆ ไปกินข้าวแทนที”เขาเลือกสวีสวี่เกิดอะไรขึ้นกับสวีสวี่ ถึงทำให้เขาร้อนใจขนาดนั้นได้?เถาหลินนิ่งไปเล็กน้อยเธอคิดไม่ถึงเลยสักนิด มาถึงขั้นนี้แล้ว เจียงเส้าชิงจะยังใส่ใจสวีสวี่มากขนาดนั้นอีกหรือลูกทั้งสองคนของเธอจะไม่ได้อยู่ในใจของเขาเลยสักนิด?เถาหลินมองเข้าไปในรั้วโรงเรียนด้วยสายตาลุ่มลึกทิ้งให้เธอดูแลเด็กสองคนตามลำพังแบบนี้ มันต้องเหนื่อยขนาดไหนกันนะ?เถาหลินมองว่าลำพังตน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status