สวีสวี่ คุณหนูใหญ่ตระกูลสูงศักดิ์ ไม่สนใจการคัดค้านของครอบครัว ถึงขั้นยอมตัดขาดความสัมพันธ์ ยืนกรานที่จะแต่งงานกับเจียงเส้าชิง ชายหนุ่มที่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่กลับมีลูกติดชายหนึ่งหญิงหนึ่ง และธุรกิจกำลังตกต่ำ ตลอดหกปีที่แต่งงานกัน เธอรักและดูแลเด็ก ๆ ราวกับลูกในไส้ และสนับสนุนธุรกิจของสามีจนเจริญก้าวหน้า ลูก ๆ ที่เธอเลี้ยงมาต่างเป็นเด็กดีและเชื่อฟัง ส่วนบริษัทของเจียงเส้าชิงก็ประสบความสำเร็จในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จที่เขากลายเป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลนั้น แม่แท้ ๆ ของเด็กทั้งสองคนกลับปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เจียงเส้าชิงที่สุขุมเยือกเย็นมาตลอดกลับบ้าคลั่ง พยายามรั้งผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ โดยไม่สนว่าการกระทำของเขา จะทำให้สวีสวี่ต้องกลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนทั้งเมือง! คืนนั้นเขาไม่กลับบ้าน แต่กลับพาลูก ๆ ทั้งสองคน ไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับรักแรกที่ลืมไม่ลงของเขา ในเวลาต่อมา เจียงเส้าชิงก็ตัดสินใจขอหย่า “ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทของคุณในตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการที่สุดก็คือแม่แท้ ๆ ของพวกเขา” แม่แท้ ๆ ของเด็กก็พูดเสริมว่า “คงลำบากคุณมากเลยนะคะที่ต้องดูแลลูก ๆ ของฉันมาหลายปี แต่ยังไงแม่เลี้ยงก็คือแม่เลี้ยง ไม่มีทางเทียบกับแม่แท้ ๆ ได้หรอก” บุญคุณที่เลี้ยงดูมา สู้บุญคุณของผู้ให้กำเนิดไม่ได้งั้นเหรอ? ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็ไม่ขอเป็นแม่เลี้ยงแล้ว! แต่ใครจะรู้ว่า ลูกเลี้ยงทั้งสองคนกลับไม่ยอมรับแม่แท้ ๆ ของตัวเอง แถมไม่ต้องการพ่อแท้ ๆ อีกด้วย ทั้งยังประกาศกร้าวว่า “ทั้งชีวิตนี้ พวกเรามีแม่แค่คนเดียวคือสวีสวี่! ถ้าพวกคุณจะหย่ากัน พวกเราก็จะตามแม่ไป แล้วให้แม่แต่งงานใหม่!”
View Moreเธอช่างอ่อนโยนและเพียบพร้อมเป็นกุลสตรี เอาใจใส่ทุกเรื่องเพื่อช่วยให้เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วราบรื่น แล้วยังเป็นแม่แท้ ๆ ของพวกเด็ก ๆเจียงเส้าชิงหัวใจหวั่นไหวขึ้นมาบางทีการกลับมาเริ่มต้นใหม่กับเถาหลินอีกครั้ง อาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรอย่างน้อยทุกอย่างก็ถูกต้องสมควรไปตามเหตุผลครอบครัวนี้ก็คงไม่ถึงขั้นวุ่นวายไม่สงบเหมือนอย่างที่ผ่านมาเถาหลินเอ่ยขึ้นอย่างรู้จังหวะ “ฉันคิดว่าถ้าถึงตอนนั้นแล้วพวกเราน่าจะเชิญคู่ค้าจากเป่ยไห่มาเป็นแขกที่บ้านเราได้นะ พวกเราทำความสะอาดใหญ่สักครั้งน่าจะดี?”“เรื่องนี้เธอจัดการเถอะ”เถาหลินพยักหน้า “ได้!”เจียงเส้าชิงเดินไปที่ห้องหนังสือเถาหลินหุบยิ้มทันที “ใครก็ได้ ปลดภาพถ่ายที่แขวนอยู่พวกนั้นลงมาให้หมด แล้วเปลี่ยนเป็นภาพวาดศิลปินดังพวกนี้แทน”ภาพถ่ายที่แขวนอยู่?ก็มีแต่ภาพถ่ายแต่งงานของคุณผู้ชายกับคุณนาย แล้วก็ภาพถ่ายครอบครัวสี่คนเท่านั้นลุงหลินขมวดคิ้ว “รูปพวกนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่ครับ”เถาหลินเงยหน้าขึ้นช้า ๆ “ไม่เข้าใจ คำสั่งของฉันงั้นเหรอ? เปลี่ยนเป็นภาพวาดให้หมด ปล่อยให้ทั้งห้องมีแต่ภาพครอบครัวแบบนี้ รังแต่จะทำให้ยึดติดกับเรื่องความ
เจียงเส้าชิงถามขึ้น “ทำไมไม่มีความสุขล่ะ?”“ฉัน…” เถาหลินคิดจะพูดอะไรบางอย่างแต่เจียงรั่วกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน “หนูกับน้องกินหวานเยอะเกินไปไม่ได้ แต่เธอกลับบังคับให้พวกเรากิน สุดท้ายพวกเรายังกินไม่ทันอิ่ม เธอก็บอกให้พวกเราไปกันได้แล้ว“คุณน้าพี่เลี้ยงก็บอกแล้วว่าพวกเรายังกินกันไม่เสร็จ แต่เธอกลับพูดทำนองว่าถึงหิวก็ไม่ตายหรอกประมาณนี้ค่ะ”เรื่องเลียนแบบคำพูดคำจา ถือเป็นพรสวรรค์ทีเดียวเชียวล่ะอย่างน้อยเจียงรั่วก็สื่อสารสิ่งที่ต้องการออกมาได้ครบถ้วนชัดเจนไม่บกพร่อง แล้วไม่ได้กล่าวหาเถาหลินเกินไปเลยสักคำเถาหลินหน้าซีดเผือด “เส้าชิง นายอย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันก็แค่เป็นห่วงกลัวว่าพวกลูก ๆ จะกินมากไปแล้วท้องอืด เดิมทีก็กินหวานมากไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลยให้ชิมนิดหน่อยแค่พอรู้รสชาติให้หายอยากก็พอแล้ว”เจียงเส้าชิงกอดลูกสาวไว้ “รั่วรั่ว ลูกเข้าใจคุณแม่ผิดไปแล้ว คุณแม่จะพูดว่าพวกลูกถึงหิวก็ไม่ตายได้ยังไง”“ใช่จ้ะ แม่รักพวกลูกขนาดนี้ ไปรับไปส่งพวกลูกที่โรงเรียน แล้วยังพาพวกลูกไปกินของอร่อยอีกนะ” เถาหลินเอ่ยเจียงรั่วคิดถึงคำพูดของป้าเฉียนขึ้นมาได้ ก็เถียงเลียนแบบ “ไม่ใช่หน้าที่ของคุณรึไง?”
คำตอบนี้เพียงพอจะอธิบายได้แล้วว่า เขาได้ยินมันทั้งหมดแล้วร่างกายของสวีสวี่ยังอ่อนแอ เสียงพูดแผ่วหวิว “ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันแค่…”เว่ยเย่เฉิงหัวเราะเบา ๆ “อืม ฉันรู้”เรื่องนี้ให้พูดยังไงก็น่าอายเกินไป สวีสวี่จึงเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าพี่มีงานก็ไปทำงานเถอะ ที่นี่มีคนคอยดูแลอยู่”ก็มีงานต้องทำจริง แต่ว่าในเมื่อออกมาแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลให้กลับไปแล้วไม่นานสวี่จิ้นก็กลับเข้ามาพร้อมกับบอดี้การ์ด แล้วยังหิ้วยาบำรุงร่างกายมากมายมาด้วย“พวกเรายังมีธุระ ฉันทิ้งคนให้เธอเรียกใช้ได้ตามสบาย” สวี่จิ้นให้บอดี้การ์ดสองคนของตัวเองอยู่เฝ้าที่นี่“ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่ศูนย์พักฟื้นหลังคลอดก็มีคนคอยดูแลอยู่” สวีสวี่พูดขึ้น“อย่าดื้อนักเลย เวลาแบบนี้ขืนไม่ดูแลบำรุงร่างกายให้ดี หลังจากนี้มีเรื่องให้เธอต้องร้องไห้แน่” สวี่จิ้นถลึงตามองเธอสวีสวี่หัวเราะออกมา “ขอบคุณนะคะพี่”“ไปแล้วนะ”เว่ยเย่เฉิงลุกขึ้นยืน ก่อนออกไปก็ไม่ลืมหันกลับมามองเธอ “กินยาให้ตรงเวลาด้วย”สวีสวี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย “อืม ๆ”หลังจากออกจากห้องคนของศูนย์พักฟื้นหลังคลอดก็เดินเข้ามาหาสวี่จิ้น “ประธานสวี่คะ พวกเราเก็บพวกรกและสิ่งอื่น ๆ ไปแช่
เจียงเส้าชิงถูกดันให้ออกไปข้างนอกแววตาของเขาเย็นชาถึงขีดสุด แถมยังแฝงด้วยความผิดหวังและความดูแคลนอย่างไม่มีสิ้นสุดในที่สุดเธอก็ยอมรับแล้วว่าเธอนอกใจ ทรยศต่อครอบครัวนี้!งั้นก็หมายความว่าทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้ เป็นแค่ข้ออ้างที่เธอคิดจะใช้เพื่อหนีไปจากเขาอย่างนั้นเหรอ?-เพียงครึ่งนาทีถัดมา สวีสวี่ได้ยินเสียงฝีเท้าแว่วดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอลืมตาอย่างหงุดหงิด “นี่คุณยังจะ…”เสียงของเธอพลันชะงักไปเป็นเว่ยเย่เฉิงเองเหรอเขาสวมชุดสูทรองเท้าหนัง รูปร่างสูงโปร่งผึ่งผาย บุคลิกเคร่งขรึมและมั่นคงใจเย็น ผมสั้นเรียบแบบนั้นกลับยิ่งขับให้เขาดูเป็นอิสระไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์ของผู้มีตำแหน่งสูงส่งแววตาของเว่ยเย่เฉิงนิ่งเรียบ “ทำไมถึงผ่าตัดเร็วนักล่ะ?”สิ้นเสียงนั้น เงาของสวี่จิ้นพลันปรากฏขึ้นมา จากด้านหลังของเขาหัวใจของสวีสวี่สั่นสะท้าน“พี่คะ…”สวี่จิ้นเดินเข้ามาอย่างจนใจ หยุดยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ก่อนจะยื่นมือเข้าไปสวมกอดเธอเอาไว้น้ำตาของสวีสวี่ไหลพรั่งพรูออกมา เธอสะอึกสะอื้นจนไหล่สั่นไปหมด“ไหนว่าจะไม่ร้องไห้ไม่ใช่เหรอ?” สวี่จิ้นถอนหายใจออกมาปล่อยให้เธอร้องไห้
ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฉายชัดเจนในห้วงความคิดของเขาตระกูลเจียงจำเป็นต้องมีสวีสวี่เขาเองก็ขาดสวีสวี่ไม่ได้เหมือนกันเซี่ยงเยี่ยนเฉินรีบเข้ามา เห็นเจียงเส้าชิงในสภาพแบบนี้ ก็เอ่ยปากพูดปลอบไม่ออก“เจียงเส้าชิง นายไม่ควรปกป้องเถาหลินซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้เลยนะ ถ้าเปลี่ยนเป็นสวีสวี่บ้าง นายจะรู้สึกยังไงเหรอ?”เจียงเส้าชิงคิดไปถึงเว่ยเย่เฉิงสวีสวี่กับผู้ชายคนนั้นแค่อยู่ในขั้นคลุมเครือ เขาก็รับไม่ได้แล้วเจียงเส้าชิงเงยหน้าขึ้น “ทำไมนายถึงยอมให้เธอทำแท้ง?”“ฉันเข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจของเธอไม่ได้หรอก!”เซี่ยงเยี่ยนเฉินหมดคำจะพูดกับเขาจริง ๆ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ตอนนี้ยังไม่สาย ตราบใดที่นายตัดขาดความสัมพันธ์กับเถาหลิน สวีสวี่อาจจะยกโทษให้นายก็ได้นะ เธอรักนายขนาดนั้น ถึงขั้นยอมเป็นแม่เลี้ยงให้ลูก ๆ ของนายด้วยซ้ำ เรื่องนี้ นายปฏิเสธได้เหรอ?”เจียงเส้าชิงเหลือบสายตามองไปยังห้องผ่าตัดหัวใจสั่นไหวระรัวเขาดูเหมือนกำลังหวาดกลัวอยู่จริง ๆ-สวีสวี่พอฟื้นขึ้นมา ก็ค้นพบว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่โรงพยาบาลแต่เป็นศูนย์พักฟื้นหลังคลอดลูกของเธอ…ไม่อยู่แล้วสินะ?หัวใจพลันเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีไ
วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียกของเด็กทั้งสองคน ดังนั้นพวกเขาจึงมีเรียนแค่ครึ่งวันเจียงเส้าชิงอยู่หน้าประตูโรงเรียนรอรับพวกเด็ก ๆ เพื่อออกไปกินข้าวกลางวันด้วยกันเพราะอยู่ใกล้กันมาก เถาหลินจึงได้ยินเสียงร้อนรนจากคนปลายสายที่โทร.เข้ามา เหมือนกำลังพูดถึงเรื่องสวีสวี่อะไรสักอย่างเธอกำมือแน่นเจียงเส้าชิงสีหน้าตระหนก “อยู่ที่นายเหรอ?”“ถูก!”“ช่วยขวางไว้ที! ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”โทรศัพท์ถูกตัดไป หลินเถาเอ่ยขึ้นว่า “เส้าชิง พวกลูก ๆ จะออกมากันแล้วนะ”ทางนี้คือพวกลูก ๆ อีกทางคือสวีสวี่ที่กำลังจะทำแท้ง…ในใจเจียงเส้าชิงสับสนร้อนรุ่มอยู่ไม่เป็นสุขสิบกว่าวินาที ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจลงจากรถ “เธอรับพวกเด็ก ๆ ไปกินข้าวแทนที”เขาเลือกสวีสวี่เกิดอะไรขึ้นกับสวีสวี่ ถึงทำให้เขาร้อนใจขนาดนั้นได้?เถาหลินนิ่งไปเล็กน้อยเธอคิดไม่ถึงเลยสักนิด มาถึงขั้นนี้แล้ว เจียงเส้าชิงจะยังใส่ใจสวีสวี่มากขนาดนั้นอีกหรือลูกทั้งสองคนของเธอจะไม่ได้อยู่ในใจของเขาเลยสักนิด?เถาหลินมองเข้าไปในรั้วโรงเรียนด้วยสายตาลุ่มลึกทิ้งให้เธอดูแลเด็กสองคนตามลำพังแบบนี้ มันต้องเหนื่อยขนาดไหนกันนะ?เถาหลินมองว่าลำพังตน
Comments