Share

บทที่ 2 อับอาย ขายหน้า

รู้บี้ตกใจมาก ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ก่อนที่เธอจะพูดไปว่า “ฟีฟี่ ลูกบ้าไปแล้วเหรอ?! ลูกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ ห๊ะ?!”

ในทางกลับกัน จอร์จมีความสุขมากเมื่อได้ยินแบบนั้น “ดี ดี ดี! ดีมากเลย! เฟย์ เธอเป็นหลานสาวคนโปรดของฉัน เธอเป็นคนที่รู้ว่าความภักดีของเธออยู่ตรงไหน!”

คนอื่น ๆ ในตระกูลต่างก็มีความสุข เพราะพวกเขาไม่คิดว่าเฟย์จะยอมง่าย ๆ แบบนี้ ดูเหมือนว่าเธอเป็นคนค่อนข้างชอบวัตถุนิยม และไม่ใช่ภรรยาที่ซื่อสัตย์สักเท่าไหร่

เฟย์พูดต่อไปว่า “คุณปู่คะ หนูยังพูดไม่จบ หนูจะไปกับคุณวิลสันเป็นเวลาสามวัน แต่หนูมีเงื่อนไขหนึ่งข้อค่ะ”

“เงื่อนไขนั้น คืออะไรล่ะ? พูดมาได้เลย” จอร์จไม่สามารถแบกรับความวิตกกังวลได้อีกต่อไปแล้ว

เฟย์หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดว่า “หนูต้องได้รับส่วนแบ่งสิบเปอร์เซ็นต์จากหุ้นของตระกูล และจะต้องโอนไปให้คุณพ่อคุณแม่ของหนูค่ะ นอกจากนี้ หนูต้องการให้ครอบครัวถอนเงิน 300,000 ดอลลาร์เป็นเงินสด และโอนไปยังบัญชีของเซนค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จอร์จก็ขมวดคิ้วทันที ในขณะที่คนอื่น ๆ ประหลาดใจกับสิ่งที่เธอพูด มันสมเหตุสมผลที่เธอจะนำหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของพวกเขาไปมอบให้เวนและรูบี้ แต่การมอบเงิน 300,000 ดอลลาร์ให้กับเซนไปนี่ ประเด็นสำคัญมันคืออะไรกัน?

เซนเป็นแค่คนไร้ค่า มันโชคร้ายมากที่เธอแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็ยังอยากจะให้เงินเขาอย่างนั้นเหรอ?

ทันใดนั้น ประตูห้องประชุมก็เปิดออกกระทันหัน ชายคนหนึ่งก้าวเดินยาว ๆ เข้ามาในห้อง และพูดด้วยเสียงดังก้องกังวานไปว่า “ผมขอคัดค้าน!”

ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากเซนนั่นเอง

การปรากฏตัวของเขา ทำให้ทุกคนในห้องประชุมต่างประหลาดใจ พวกเขาจ้องมองเขาด้วยความสับสน ไม่มีใครคาดคิด รวมทั้งเฟย์ด้วยว่าเขาจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้

ในความเป็นจริงแล้ว เซนยืนอยู่นอกประตูมาซักระยะหนึ่งแล้ว หูของเขาคมกว่าคนส่วนใหญ่ ดังนั้นเขาจึงสามารถได้ยินการสนทนาก่อนหน้านี้ได้อย่างชัดเจน

เมื่อเขาได้ยินว่าเฟย์กำหนดเงื่อนไขของเธอแบบนั้น เขาก็ไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้อีกต่อไป และพุ่งเข้ามาในห้องทันที

ดวงตาแดงก่ำของเขาจดจ่ออยู่ที่เฟย์ เขาไม่เคยคาดหวังมาก่อนว่าเธอจะนึกถึงเขาแบบนี้ แม้สักครั้งเดียวก็ตาม

“เซน?”

“นี่มันเรื่องบ้าบออะไร คุณได้รับอนุญาตให้มาที่นี่เหรอ? ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”

“อย่ามาอวดดีแบบนี้ นี่คือการประชุมของตระกูลคาร์เตอร์ ใครอนุญาตให้คุณเข้ามาในห้องนี้ ฮะ?”

“มองอะไรอยู่นั่น! ออกไปเดี๋ยวนี้!”

แม้จะมีการโจมตีด้วยคำพูดที่มุ่งร้ายต่าง ๆ มากมาย แต่เซนก็ยืนอยู่ตรงจุดนั้นโดยไม่ขยับเขยื้นไปไหนเลย เขาเดินไปหาเฟย์ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ผมขอโทษ ฟีฟี่ ที่ผมมาช้า”

เฟย์อดไม่ได้ที่จะมึนงง เมื่อเห็นท่าทางของเซน เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างเกี่ยวกับเขาที่แตกต่างออกไป

จอร์จตบโต๊ะในทันที และตะโกนออกมาว่า “เซน นายเป็นอันธพาลที่ใจกล้ามาก ใครให้สิทธิ์นายบุกรุกเข้ามาแบบนี้? นายรู้ไหมว่าที่แห่งนี้มันคืออะไร?”

เซนหันกลับมาและพูดกับจอร์จว่า “ท่านครับ ผมรู้ว่าผมไม่ควรมาที่นี่ แต่พวกคุณทุกคนมัดมือชกผม เฟย์เป็นภรรยาของผม และผมขอคัดค้านที่เธอจะต้องเสียสละร่างกาย และจิตวิญญาณของเธอ เพื่อผลประโยชน์ ที่เรียกว่าของตระกูล!”

คำพูดของเขาถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น และดังสนั่นด้วยความยืดหยุ่นที่เขาไม่เคยมีมาก่อน ทำให้หลายคนนั่งลงและสังเกตเขา ผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวกันกับที่พวกเขารู้จักหรือเปล่า?

เซนตระหนักดีว่า เขากำลังอยู่ในช่วงที่อันตรายมาก หากพวกตระกูลคาร์เตอร์พบตัวตนที่แท้จริงของเขา เขาจะต้องถูกสาปแช่งตลอดไปเป็นแน่!

เขาเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูลลาร์สัน แต่เขาถูกไล่ออกจากตระกูลเมื่อสี่ปีก่อน นอกจากนี้ เขาได้รับคำสั่งไม่ให้พูดถึงภูมิหลังของเขา ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกทำร้ายจนตาย!

เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่อย่างไร้ชื่อ เขาจำเป็นที่จะต้องซ่อนตัว และแสร้งทำเป็นคนสิ้นหวังตลอดเวลา เขาไม่กล้าแสดงความสามารถแม้แต่นิดเดียว เพราะเขารู้ว่าถ้าใครจากตระกูลลาร์สันรู้เรื่องนี้เข้า เขาจะถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน! ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวคาร์เตอร์ทั้งหมด! เขาไม่กลัวตายหรอก แต่เขาไม่ต้องการให้เกิดอันตรายกับเฟย์ และครอบครัวของเธอ

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงอยู่ในสภาพที่อับอายมาตลอดเป็นเวลานานถึงสี่ปี เขาอดทนกับความยากลำบากเช่นนี้ โดยหวังว่าวันหนึ่งจะฟื้นคืนและทวงทุกสิ่งที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้

เมื่อปรากฎว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเฟย์ ในตอนนี้

โฮเวิร์ดพูดอย่างไม่ใส่ใจออกมาจากด้านข้างว่า “นายขอคัดค้านอย่างนั้นเหรอ? นายมีสิทธิ์อะไรที่จะขอคัดค้าน? นายเป็นแค่ขยะที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลของเรา นายกินข้าวของเรามากมายมาตลอดตั้งสี่ปี และเงินที่นายใช้ ก็คือเงินของเรา นายคงอดตายไปแล้ว ถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากเรา! นายน่ะ สร้างความเสื่อมเสียให้กับพวกเราทุกคน ถ้าฉันเป็นนายนะ ฉันคงกดคอตัวเองจมปัสสาวะของตัวเองไปแล้ว”

เซนยืนตัวตรง และพูดไปว่า “ผมสามารถให้เงินสามล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้ตระกูลคาร์เตอร์ หลีกเลี่ยงจากวิกฤตนี้ได้ครับ!”

คนในตระกูลต่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของเขาเช่นนั้น แต่ไม่นานนัก พวกเขาก็หัวเราะออกมา ราวกับว่าพวกเขาเพิ่งได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันได้ยินผิดไปหรือเปล่าเนี่ย ไอ้คนต่ำช้าคนนี้บอกว่า เขาสามารถให้เงินสามล้านกับเราได้งั้นเหรอ? เขาทำได้ใช่ไหมเนี่ย?”

“เขาเป็นคนเพ้อเจ้อจริง ๆ นายเข้าใจมูลค่าของเงินสามล้านดอลลาร์จริง ๆ ใช่ไหม? นายจะไม่สามารถทำเงินได้มากขนาดนั้นแม้เกินอีกสิบครั้งก็ตามเถอะ!”

“เฟย์เป็นคนสวยมาก เป็นเรื่องน่าเศร้าจริง ๆ ที่เธอได้แต่งงานกับคนโง่แบบนี้”

ทุกคนล้อเลียนเซน และคำพูดของพวกเขา ก็ฟังดูรุนแรงต่อหูของเขาเป็นพิเศษ

รูบี้ไม่สามารถหยุดตัวเองให้เตะเขาจากทางด้านหลังได้ เธอดุเขาเพราะทำให้พวกเขาต้องอับอายและสั่งให้เขาออกไปในทันที

ในขณะเดียวกันนั้น เฟย์ก็มองเขาจากด้านหลัง ในความเป็นจริงก็คือ เธอไม่ได้สนใจการกระทำของเขาเลย ในทางตรงกันข้าม เธอรู้สึกผิดหวัง และหวาดกลัวมากกว่าที่เคยเป็นมา!

เซนไม่สามารถให้เงินสามล้านดอลลาร์ได้จริง ๆ หรอก ในอดีต เงินสามล้านดอลลาร์สำหรับเขานั้นเทียบเท่ากับ 300 ดอลลาร์สำหรับคนทั่วไป เขาจะสามารถรวบรวมเงินขนาดนั้นมาได้อย่างไร ถึงอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และสิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือหยุดเท่านั้น

“อย่าเพิ่งหัวเราะไปเลยครับ ให้เวลาผมหนึ่งสัปดาห์ และผมรับประกันได้เลยว่า เมื่อถึงเวลานั้น ผมจะรวบรวมเงินมาให้ได้สามล้านดอลลาร์!” เซนไม่สามารถปกปิดความรู้สึกผิดที่เขารู้สึกได้ เมื่อพูดไปแบบนั้น และเฟย์ก็สามารถเข้าใจมันได้เมื่อได้ยินมันด้วยน้ำเสียงของเขา

“พอได้แล้ว!” เฟย์ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา

เซนหันไปหาเธอ และเห็นความคับข้องใจ ควางรังเกียจ และความผิดหวังที่เธอรู้สึกต่อเขาในดวงตาของเธอ

“ฟีฟี่ ผม… ”

เฟย์ขัดจังหวะเขาก่อน “ในครั้งนี้ เซน คุณทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ ออกไปข้างนอกซะ คุณไม่จำเป็นต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของฉัน”

เซนพูดอย่างตั้งใจไปว่า “ฟีฟี่ ฟังผมก่อนนะ ผมสามารถหาเงินมาได้ถึงสามล้านดอลลาร์จริง ๆ”

“เซน ฉันไม่เคยดูถูกคุณเลยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าคุณจะทำอะไรหรือเป็นใคร นั่นเป็นเพราะจุดแข็งอย่างหนึ่งของคุณก็คือ คุณจะไม่มีวันโอ้อวด อวดดี เพื่อรักษารูปลักษณ์ภายนอก พูดมาถึงตอนนี้ คุณผลักไสฉันไปแล้วจริง ๆ ตอนนี้ ฉันรู้สึกขยะแขยงแค่ได้เห็นหน้าคุณ!” เฟย์จ้องไปที่เซนและเขาสามารถเห็นความรังเกียจ และความผิดหวังในสายตาของเธอ นอกจากนั้น ยังมีระยะห่างระหว่างเขาเกิดขึ้นมา

เซนจะพูดอะไรได้อีก แต่เขาพบว่าเขาไม่สามารถพูดคำอื่นอะไรได้ต่อไป

เฟย์พูดต่อไปว่า “คุณควรออกไปได้แล้ว ฉันจะให้ทนายความร่างเอกสารการหย่า ก่อนที่จะออกเดินทางไปกับคุณวิลสัน หลังจากที่คุณเซ็นชื่อ ฉันก็จะไม่ถูกมองว่านอกใจคุณอีกต่อไป”

มุมริมฝีปากของเธอโค้งเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซนก็สะดุดถอยหลัง เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาหยุดเต้น และความเจ็บปวดภายในมันกำลังทำให้เขาหายใจไม่ออก

หลังจากใช้เวลาร่วมกันทั้งวันทั้งคืนกว่าสี่ปีกับเฟย์ เขาก็ตกหลุมรักเธอโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เขาคุ้นเคยกับการปรากฏตัวของเธอทุกวัน เขานึกไม่ออกว่าเขาจะอยู่ได้อย่างไรโดยไม่มีเธอ!

เมื่อได้เห็นฉากนี้ คนอื่นๆ ในตระกูลต่างก็พอใจ มีความสุข และแซวเซนอย่างสนุกสนาน

“ออกไปเถอะ ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันต้องสูญเสียความปรารถนาดีสุดท้าย ที่ฉันมีให้กับคุณไป ฉันไม่อยากเจอคุณอีกแล้ว” เฟย์หันกลับมา พยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลลงมาที่ใบหน้าของเธอ

เช่นเดียวกับที่เซนคุ้นเคยกับการปรากฏตัวของเธอ เธอก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับเขา เพียงแค่เธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากแบกรับภาระอันมหาศาลที่วางไว้บนตัวเธอ

เซนตะลึงไปสองสามวินาที จากนั้นเขาตอบอย่างเรียบเฉยไปว่า “ได้” เขาหันกลับไปและจากไปเหมือนคนตาย

เซนรู้สึกมึนงงไปหมด เขาไม่รู้ตัวเลยว่าลงมาถึงชั้นล่างได้อย่างไร จนกระทั่งได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขา เสียงเรียกเข้าดังขึ้น และขัดจังหวะความคิดของเขา เขารับสายโดยสัญชาตญาณและถือโทรศัพท์ไว้แนบหู และในทันที เขาก็ได้ยินเสียงของชายชราพูดว่า “สวัสดีครับ นี่ใช่ เซน ลาร์สัน หรือเปล่าครับ?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status