บทที่ 7 หัวใจนิรันดร์

สีหน้าของเฟย์เปลี่ยนไปอย่างมากในทันที เธอโกรธจัดและสาปแช่งเซนว่าเป็นตัวร้าย ถ้าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น เธอคงตบเขาแรง ๆ ไปแน่ ๆ !

“ดูสิ? แม้แต่สามีของเธอก็เห็นด้วย ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องต่อกรกันไปหรอก ไปกันเถอะ เราจะเลือกเครื่องประดับบางอย่างในฐานะเพื่อนซี้ เป็นเรื่องบังเอิญที่ฉันเห็นสร้อยคอเพชรเมื่อเร็ว ๆ นี้ มันค่อนข้างถูก เพียงประมาณ 15,000 ดอลลาร์ เอง” อีวานนายิ้มกว้าง

เซนต้องการซื้อเครื่องประดับให้กับเฟย์มาระยะหนึ่งแล้ว เขาไม่เคยให้ของขวัญที่เหมาะสมกับเธอในช่วงสี่ปีของการแต่งงานเลย ตอนนี้เขามีเงินและโอกาสนี้ที่จะแสดงออกมาแล้ว เขาจะไม่ปล่อยให้มันผ่านไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เขายังมีความคิดเล็กน้อย เขาหวังว่าเขาจะใช้ความจริงใจของเขาเพื่อกู้คืนชีวิตสมรสของพวกเขาคืนมา

เฟย์เกือบจะร้องไห้ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่อีวานนาจะกระตือรือร้นอย่างไม่ลดละ เธอไม่สามารถทำอะไรเพื่อหนีได้ ดังนั้น เธอจึงต้องตามอีวานนาเข้าไปในร้านขายเครื่องประดับ เธอถอนหายใจและคิดว่าเซนเป็นภาระจริง ๆ พวกเขากำลังจะหย่ากัน แต่เขาก็ยังพยายามทำให้เธออับอาย

เฟย์เหยียบเท้าของเซนไปอย่างโกรธจัดและเต็มแรง หลังจากที่เขาตามทันเธอ “ดูที่คุณทำสิ! มันจะฆ่าคุณตายเหรอ ถ้าไม่ทำให้ฉันอับอายแม้แต่วันเดียวน่ะ?!”

เฟย์สวมรองเท้าส้นสูง ความเจ็บปวดทำให้เขากัดฟัน และเขาเกือบจะกระโดดขึ้น “ฟีฟี่ ในครั้งนี้ ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ทำให้คุณลำบากใจ”

“เซน มันจะตายเหรอ หากคุณไม่โกหกน่ะ?” เฟย์ปฏิเสธที่จะเชื่อเขา และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความรังเกียจ

แดริล ลี จับมือกับ อีวานนา เดินเข้าไปในห้อง แล้วพูดกับพนักงานขายผู้หญิงว่า “เฮ้ ของที่ลดราคาที่คุณพูดถึงก่อนหน้านี้ยังอยู่ไหม?”

พนักงานขายผู้หญิงพูดตอบมาว่า “ยินดีต้อนรับค่ะ! อยู่ค่ะ เรายังลดราคาอยู่ค่ะ ตราบใดที่ทั้งคู่แต่งงานกันอย่างถูกกฎหมาย และซื้อสินค้าชิ้นเดียวกัน 2 ชิ้น ก็สามารถรับส่วนลด 70% ได้ ฉันขอถามคุณได้ไหมคะ ว่าคุณสนใจเครื่องประดับชิ้นไหนคะ?”

อีวานนายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เธอพูดกับเฟย์ไปว่า “เฟย์ ฉันสังเกตเห็นว่านิ้วของเธอว่างเปล่า และเธอไม่มีแหวนเพชรด้วยซ้ำ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนร่วมห้องกันนะ ฉันได้ทุกอย่างตามที่เธอเลือกเลย วิธีนี้ เธอสามารถประหยัดเงินได้ค่อนข้างมากเลยนะ เพื่อนร่วมห้องเก่าเป็นคนเลือกให้กันเอง เป็นอะไรที่ลงตัวมาก ใช่ไหมล่ะ?”

“ไอวี่ พูดตรง ๆ เลยนะ ธุรกิจของฉันตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้น ฉันจึงไม่สามารถซื้อเครื่องประดับราคาแพงได้” เฟย์เกือบจะบังคับคำพูดผ่านฟันที่กัดแน่นของเธอออกมา

ประโยคธรรมดา ๆ แบบนั้นทำให้เธอหมดแรง! เธอเป็นคนภาคภูมิใจในตัวเอง ดังนั้น เธอจึงยอมตายดีกว่าต้องพูดแบบนี้

อีวานนาหัวเราะคิกคัก “โอ้ ที่รัก! ฟีฟี่ หยุดพูดเล่นเถอะ ทุกคนในห้องเรียนของเรารู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของตระกูลที่ร่ำรวย เธอมีคนขับรถพาไปโรงเรียนทุกวัน ถ้าบอกว่าไม่รวย คนธรรมดาอย่างเราต้องจนติดดินไปแล้วล่ะ! หลายปีผ่านมา ธุรกิจตระกูลของเธอต้องดีขึ้นกว่าเดิมสิ!”

ทุกคำที่เธอพูดแทงหัวใจของเฟย์เหมือนเข็ม และทำให้ใบหน้าของเธอซีดลงเรื่อย ๆ

เมื่อยืนอยู่ด้านข้าง แดริลก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ฮ่า ฮ่า ถูกต้อง นอกจากนี้ สามีของคุณก็รวย ใช่ไหมล่ะ? เขาจะไม่ยอมเสียเงินสักสองสามพันดอลลาร์ เพื่อซื้อเครื่องประดับให้คุณได้อย่างไรกัน โอ้ ใช่ คุณภรรยา สร้อยคอเพชรที่คุณต้องการราคาเท่าไหร่นะครับ?”

อีวานนาตอบว่า “ราคาปกติอยู่ที่ 33,800 ดอลลาร์ ด้วยส่วนลดในแพ็คเกจที่รวมกันแล้ว มันน้อยกว่า 26,000 ดอลลาร์ค่ะ”

“น้อยกว่า 26,000 ดอลลาร์? ราคาถูกนะ ผมจะต่อรองราคาให้ ถ้าคุณต้องการซื้อ” แดริลกล่าวด้วยรอยยิ้ม

พนักงานขายสองสามคนในร้าน วิ่งไปประจบพวกเขาเมื่อรู้ว่านี่จะเป็นการขายครั้งใหญ่

เฟย์รู้สึกอับอายอย่างยิ่ง เธออยากจะขุดหลุมในดินและฝังตัวเองไปเลย ตั้งแต่เด็กเธอไม่เคยละอายใจขนาดนี้มาก่อนเลย!

ในขณะเดียวกัน ได้ยินเสียงก้องกังวานว่า “สองหมื่นหกพันดอลลาร์? นั่นถือว่าไม่แพงเลย”

ทั้งกลุ่มมองย้อนกลับไป เพื่อดูว่าใครเป็นเจ้าของน้ำเสียงที่เลี่ยงไม่ได้เช่นนี้

เขาคือเซนนั้นเอง เขายิ้มกว้างและจับมือเฟย์ขณะที่เขาพูดว่า “ที่รัก คุณลืมเกี่ยวกับหุ้นตัวเก่าที่เคยมีปัญหา ที่ผมซื้อไปเมื่อนานมาแล้วหรือยัง? ตอนนี้มันเสถียรแล้ว ดังนั้น ผมจึงทำกำไรได้เล็กน้อย คราวนี้เพียงไม่กี่แสนเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะซื้อสร้อยคอเพชรสักโหลให้คุณได้”

เฟย์อึ้งไปครู่หนึ่ง เซนรู้วิธีซื้อขายหุ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ในไม่ช้าเธอก็สรุปได้ว่าเซนกำลังพูดข่มคนอื่นออกมา

เห็นได้ชัดว่าอีวานน่าและแดริล ไม่เชื่อเซนเหมือนกัน และคิดว่าเขาแค่แกล้งทำเป็นไปอย่างนั้น

“โว้ว คุณได้เงินสองสามแสนจากการซื้อขายหุ้นเหรอ ห๊ะ? มันน่าประทับใจอย่างมาก! คุณควรจะได้สิ่งที่แพงที่สุดแล้ว!” อีวานนาพูดกลับไปด้วยรอยยิ้มที่แสแสร้ง

“ไม่… ” เฟย์พยายามจะปฏิเสธ แต่อีวานน่าปฏิเสธที่จะให้โอกาสเธอ

เธอรีบถามพนักงานขายผู้หญิงไปว่า “คุณคะ ชิ้นไหนที่แพงที่สุดในร้าน?”

พนักงานขายเริ่มแสดงความเคารพมากขึ้น “คุณผู้หญิงคะ คุณมาทันเวลาพอดี ร้านของเราส่งสร้อยคอเพชรรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจากสำนักงานใหญ่มาเมื่อวานนี้เท่านั้น เส้นนี้ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบเครื่องประดับที่มีชื่อเสียง และทำด้วยเพชรทั้งหมด 999 เม็ดที่บ่งบอกถึงการมีอายุยืน นั่นคือเหตุผลที่มันถูกเรียกว่า หัวใจนิรันดร์ ค่ะ”

“หัวใจนิรันดร์เหรอ?” อีวานนาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “นั่นคือ หัวใจนิรันดร์ ที่เคยเป็นที่นิยมในทวิตเตอร์มาก่อนหรือเปล่า?”

“ใช่ค่ะ” ใบหน้าของพนักงานขายเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “หัวใจนิรันดร์ เป็นรุ่นที่จำกัด และมีเพียงเก้าชิ้นทั่วโลก มันมีค่ามาก และร้านของเราสามารถนำมาได้เพียงสองชิ้นเท่านั้น เพราะเจ้านายของเราเป็นเพื่อนสนิทกับดีไซเนอร์ค่ะ”

ดวงตาของอีวานนาเป็นประกาย ขณะที่เธอพูดอย่างเร่งรีบ “เอามันออกมา และโชว์ให้ฉันเห็นเดี๋ยวนี้เลย”

พนักงานขายรีบหยิบกล่องที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างประณีตออกมาสองกล่องอย่างระมัดระวัง ใคร ๆ ก็สัมผัสได้ว่าทุกคนในบริเวณนั้นต่างรอคอยอย่างคาดไม่ถึง

มันยังดึงความสนใจของเฟย์ไปได้ เธออ่านเกี่ยวกับหัวใจนิรันดร์ บนทวิตเตอร์เมื่อนานมาแล้ว มันช่างงดงาม และความสนใจของเธอก็ถูกกระตุ้น

เธอไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะมีโอกาสได้เห็นหัวใจนิรันดร์ด้วยตาของเธอเอง ความอยากรู้ของทำให้เธอทึ่งเมื่อได้เห็น

พนักงานขายผู้หญิงเปิดบรรจุภัณฑ์ และโชว์หัวใจนิรันดร์ที่อยู่ภายในให้ทุกคนได้เห็น มันช่างวิจิตร งดงาม และวิจิตรบรรจง ราวกับว่าเพชรทุกเม็ดได้รับการมอบชีวิตมามากมาย จนเปล่งแสงเป็นแถวจากมุมที่ต่างกัน

อีวานนาออกจากภวังค์จากความตกใจและพูดกับเซนว่า “คุณคิดอย่างไร? คุณสามารถจ่ายหัวใจนิรันดร์ได้ใช่ไหม?”

เซนไม่ตอบเธอ แต่เขาถามเฟย์ว่า “ฟีฟี่ คุณคิดอย่างไรกับหัวใจนิรันดร์? คุณชอบมันไหมครับ?”

เฟย์ยังคงหมกมุ่นอยู่กับความงามของหัวใจนิรันดร์ ดังนั้น เธอจึงยังไม่ฟื้นตัวจากความประหลาดใจ เธอพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดไปว่า “ฉันชอบมันมากเลยค่ะ!”

เซนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ พวกเรารับชิ้นนี้ครับ”

ต่อจากนั้น เขาก็ให้พนักงานขายผู้หญิงจัดการห่อของให้เสร็จสรรพ

พนักงานขายผู้หญิง ถามไปลักษณะสอบถามเพื่อความแน่ในอีกครั้งว่า “คุณคะ คุณแน่ใจใช่ไหมคะว่าจะซื้อชิ้นนี้? หัวใจนิรันดร์เป็นรุ่นที่มีจำกัดมาก และราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ 388,888 ดอลลาร์… ”

เมื่อได้ยินราคา ลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียงก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ สร้อยคอมีราคามากกว่า 300,000 ดอลลาร์ มันเป็นราคาที่ค่อนข้างแพงสำหรับพวกเขา มันเพียงพอที่จะซื้อบ้านในใจกลางเมืองได้เลย!

เซนพยักหน้าและพูดว่า “ผมแน่ใจ ห่อได้เลยครับ”

ทันใดนั้น เซนก็จำบางสิ่งได้ และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ใช่แล้ว หัวใจนิรันดร์ ก็รวมอยู่ในการขายนั้นด้วยใช่ไหมครับ?”

พนักงานขายพยักหน้าเพื่อยืนยัน

เซนพูดกับอีวานนาว่า “ฟีฟี่และผมเลือกหัวใจนิรันดร์แล้ว มาชำระค่าใช้จ่ายด้วยกันนะครับ เมื่อคุณทั้งคู่เลือกเครื่องประดับเสร็จแล้ว”

การแสดงออกของอีวานนาและแดริลจางลง พวกเขาไม่สามารถจ่ายเงินได้มากขนาดนั้น!

เซนพูดไปอีกครั้งว่า “แดริล อีวานนา เป็นไปได้ไหม ที่คุณไม่สามารถซื้อหัวใจนิรันดร์ได้น่ะ?”

เหมือนแมวที่เหยียบหางตัวเอง อีวานนาพูดอย่างกระวนกระวายไปว่า “บ้าเหรอ! ทำไมถึงฉันไม่สามารถซื้อหัวใจนิรันดร์ได้? บริษัทของสามีฉันทำกำไรได้สองสามแสนดอลลาร์ต่อปี ดังนั้น การจ่าย 300,000 ดอลลาร์สำหรับเครื่องประดับจึงเป็นเรื่องง่าย ในทางกลับกัน คุณแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าตลาดนัดทั่ว ๆ ไป และคุณยังหางานไม่ได้ด้วยซ้ำ คุณสามารถจ่าย 300,000 ดอลลาร์ได้จริงเหรอ?! ฉันคิดว่าคุณไม่สามารถจ่าย 30,000 ดอลลาร์ได้ด้วยซ้ำ!”

เครื่องประดับสองชิ้นมีราคาประมาณ 300,000 ดอลลาร์หลังจากส่วนลด 70% แล้ว

เซนไม่ลดระดับตัวเองที่เป็นธรรมชาติลง เขาหัวเราะและพูดว่า “ขอโทษนะ แต่ผมสามารถจ่าย 300,000 ดอลลาร์ได้จริง ๆ”

“คุณทำเป็นเหมือนว่าคุณกำลังพูดความจริง ซื้อมันด้วยตัวเองสิ ถ้าคุณทำได้!” การแสดงออกของ อีวานนาเต็มไปด้วยพิษร้าย เธอมั่นใจว่าเซนเป็นคนยากไร้เท่านั้น

เซนถามพนักงานขายทันทีว่า “ผมสามารถชำระด้วยบัตรที่นี่ได้ไหมครับ?”

พนักงานขายผู้หญิงยิ้มหวาน “ได้ค่ะ คุณสามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม คุณกำลังใช้ดีลส่วนลด 70% ดังนั้น จึงใช้ได้กับบิลเดียวเท่านั้น”

“โอเค” เซนมองไปทางอีวานนา “พวกคุณสองคนตัดสินใจกันแล้วหรือยัง? เรามาจ่ายด้วยกันไหม?”

สามีและภรรยามองตากัน และคิดว่าเซนกำลังเย้ยหยันพวกเขาอย่างแน่นอน แดริลพูดอย่างดูถูกไปว่า “ถ้าอย่างนั้น เรามาจ่ายด้วยกัน คิดว่าเรากังวลเรื่องนี้หรือไง?”

จากนั้นทั้งสองก็หยิบบัตรออกมา แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อชำระบิล เมื่อถึงจุดนั้น พวกเขาได้ยินเสียงของการชำระเงินที่สำเร็จ และการชำระเงินที่ล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง

แดริลตกตะลึงในทันที เสียงคิวของการชำระเงินที่สำเร็จมาจากไหนกัน? มีเพียงไม่กี่หมื่นดอลลาร์ในบัตรของเขาเท่านั้น เป็นไปได้ไหมที่ลูกค้าของเขาจ่ายเงินให้เขาแล้วล่วงหน้า? มันคงแย่น่าดูเพราะเขาได้ใช้เงินที่ใช้ในสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทไป เขาจะต้องสูญเสียมหาศาล ถ้าเขาจะใช้มันเพื่อซื้อสร้อยคอเพชรนี้!

ดังนั้น เขาจึงพูดด้วยความตื่นตระหนกไปว่า “การชำระเงินผ่านได้อย่างไร? คืนเงินให้ผมเร็ว ผมใช้บัตรผิด… ”