Mag-log in"ข้อเสนอของฉันไม่ใช่ราคาตัวเลข" ดีแลนพูดเน้นคำ "แต่เป็นการทำข้อตกลงที่ 'เป็นส่วนตัว' มากกว่านั้น"
เขายื่นข้อเสนอให้เธอเป็น 'ของเล่นลับ'เพื่อแลกกับการพิจารณาขายที่ดิน การกระทำนี้ไม่ใช่แค่การเจรจาธุรกิจ แต่มันคือการแก้แค้นทางเพศ คือการยืนยันอำนาจเหนือเธอ ในฐานะที่เขาเป็นผู้ที่เคยทำลายชีวิตเธอในอดีต
อีวาลุกขึ้นยืนทันทีด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธและความอับอาย
"คุณมันบ้าไปแล้ว ดีแลน แบล็กเวลล์! ฉันไม่ได้กลับมาเพื่อให้คุณดูถูก!" อีวาตวาดเสียงสั่น พยายามเดินหนี
ดีแลนเร็วกว่านั้น! เขาคว้าแขนของเธอไว้แน่น ดึงร่างเพรียวของนางฟ้าสายการบินให้ปะทะเข้ากับแผงอกแข็งแกร่งของเขา
"จะไปไหน อีวา? เกมเพิ่งจะเริ่มต้นเอง" ดีแลนกระซิบเสียงต่ำข้างหูของเธอ ไออุ่นและกลิ่นน้ำหอมของเขาทำให้อีวาขนลุกซู่
"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!" อีวาเงยหน้าขึ้นอย่างท้าทาย เธอรวบรวมแรงทั้งหมดตวัดมือ ตบ ลงบนใบหน้าหล่อเหลาของดีแลนอย่างแรง เสียงตบดังสนั่นไปทั่วห้องทำงานที่เงียบสงบ
ดีแลนผงะไปเล็กน้อย แต่รอยยิ้มเหยียดหยามบนริมฝีปากของเขากลับกว้างขึ้น แววตาของเขากลายเป็นเปลวเพลิงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความกระหายที่ถูกจุดชนวน
"กล้าดีนี่ ยัยนางฟ้าตกสวรรค์!"
มือหนาของดีแลนบีบคางของเธออย่างแรงจนอีวาต้องเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ใบหน้าของเขาเข้าใกล้จนลมหายใจของทั้งคู่ปะทะกัน
"ฉันเคยเตือนเธอแล้วว่าฉันเกลียดทุกอย่างที่เป็นของตระกูลเธอ... แต่ดูเหมือนฉันต้องเปลี่ยนแผน"
เขายื่นหน้าเข้าประชิด พลางออกแรงบีบคางของเธอแน่นขึ้นอีก "ฉันเกลียดเธอ... แต่ตอนนี้ฉันจะทำลายความเกลียดชังนั้นด้วยการ ครอบครอง เธอ!"
ดีแลนกดริมฝีปากลงบดขยี้ปากของอีวาอย่างรุนแรงและป่าเถื่อน มันไม่ใช่จูบที่อ่อนโยน แต่เป็น การลงทัณฑ์ ที่เต็มไปด้วยโทสะและอำนาจ เขาไม่เปิดโอกาสให้อีวาปฏิเสธหรือต่อต้านได้เลย ลิ้นของเขาบุกรุกเข้าไปในโพรงปากของเธออย่างหิวกระหายเพื่อลงโทษและตักตวงทุกสิ่งที่เขาปรารถนา
อีวาต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุดกำลัง เธอทุบลงบนอกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ร่างของดีแลนหนักแน่นและแข็งแกร่งเกินกว่าจะต้านทานไหว การต่อต้านของเธอทำให้อารมณ์ดิบของดีแลนพุ่งทะยานยิ่งขึ้น
เขายกตัวเธอขึ้นจากพื้น ก้าวถอยหลังไปชนกับกำแพงกระจกใสเย็นเฉียบด้านหลัง พลางกอดรัดร่างกายของเธอไว้แน่นจนแทบจะรวมเป็นร่างเดียวกัน ชุดเครื่องแบบของนางฟ้า ที่เคยสง่างามยับยู่ยี่ด้วยแรงบีบรัดของเขา
จูบนั้นดำเนินไปอย่างยาวนานและรุนแรง ดีแลนปล่อยความเกลียดชังทั้งหมดลงไปในจูบนี้ พร้อมกับความกระหายที่ถูกกักเก็บมานานกว่ายี่สิบปี
เมื่อดีแลนผละริมฝีปากออก ใบหน้าของอีวาเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาและรอยจูบที่บวมช้ำ
"จำไว้ อีวา" ดีแลนกระซิบเสียงแหบพร่า ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยไฟปรารถนา "ที่ดินผืนนั้นเป็นของฉัน... และตอนนี้... ร่างกายเธอ... ก็เป็นของฉันด้วย"
เขาปล่อยเธอให้ทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง ท่าทางของดีแลนในขณะนี้ดูเหมือนปีศาจที่เพิ่งได้รับชัยชนะเหนือเหยื่อที่บริสุทธิ์ที่สุดของเขา
ดีแลนถอยออกมา เขาใช้มือลูบปากที่บวมช้ำของตัวเองอย่างช้า ๆ รสชาติของความแค้นและรสชาติของ อีวา ตีกันในปากอย่างน่าประหลาด
ความเกลียดชังยังคงอยู่ แต่ตอนนี้มันถูกห่อหุ้มด้วย ความรู้สึกผิด ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วเสี้ยววินาที และ ความต้องการ ที่แทบจะฉีกกระชากสติของเขาไป ดีแลนรู้สึกโกรธตัวเองที่จู่โจมเธออย่างรุนแรง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็โกรธที่ร่างกายของเขาตอบสนองต่อเธอราวกับเป็นทาส
บ้าที่สุด! นี่มันยัยลูกสาวตระกูลคาร์เตอร์ที่เขาเกลียดไม่ใช่เหรอ!
ดีแลนพยายามรักษาน้ำเสียงให้มั่นคงที่สุด แม้ว่าร่างกายภายในของเขาจะกำลังปั่นป่วนด้วยไฟรักและไฟแค้น
"ข้อตกลงของฉันยังเหมือนเดิม" ดีแลนกล่าวอย่างเด็ดขาด "หนึ่งปี... มาอยู่ภายใต้การดูแลของฉัน และทำตามข้อตกลงทั้งหมดที่ฉันกำหนด... และฉันจะพิจารณาการขายที่ดินผืนนั้นให้คุณ"
อีวาลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เธอเช็ดน้ำตาอย่างรวดเร็ว แม้จะเสียเปรียบและถูกย่ำยี แต่แววตาของเธอกลับฉายแสงของนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้
"คุณมันปีศาจ!" อีวาพูดเสียงแหบพร่า
"ใช่... และฉันคือปีศาจที่จะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ" ดีแลนยิ้มอย่างเลือดเย็น "ตอนนี้... คุณต้องเลือกระหว่างความเกลียดชังในตัวฉัน... กับความปรารถนาสุดท้ายของคุณย่า"
การเผชิญหน้าครั้งนี้ทำให้อีวาเข้าใจว่าการทวงคืนที่ดินผืนนี้จะต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงลิ่วและโหดร้ายที่สุด และสำหรับดีแลน มันคือจุดเริ่มต้นที่เขาต้องตกเป็นทาสของเสน่หาที่มาพร้อมกับความเกลียดชังอย่างไม่มีวันหลีกหนี
....
ร่างของ อีวา คาร์เตอร์ ทรุดตัวลงกับพื้นห้องทำงานหรูหราของตึก แบล็กเวลล์ คอร์ป ความสง่างามของชุดเครื่องแบบที่เคยเป็นเกราะกำบังถูกบดขยี้ด้วยความป่าเถื่อนเพียงชั่วครู่เดียวของ ดีแลน แบล็กเวลล์
รสชาติเลือดจาง ๆ ในปากและร่องรอยน้ำตาบนแก้มคือหลักฐานของการถูกย่ำยี แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือความรู้สึกหวาดหวั่นและโกรธแค้นที่พุ่งพล่าน อีวารู้ดีว่าชายคนนี้คือปีศาจที่มาพร้อมกับอำนาจ และตอนนี้เขากำลังใช้ความอ่อนแอเดียวที่เธอยังมีอยู่ ความรักต่อคุณย่า มาเป็นเครื่องมือ
ดีแลนถอยห่างจากเธอเพียงก้าวเดียว เขาทอดสายตาลงมามองเธออย่างเย็นชา มือของเขากำแน่นอยู่ข้างลำตัวเพื่อควบคุมความปรารถนาบ้าคลั่งที่เพิ่งระเบิดออกมา
“ลุกขึ้นมา อีวา” ดีแลนสั่งเสียงเรียบ แต่เต็มไปด้วยอำนาจ “ฉันไม่ได้เชิญเธอมานั่งกับพื้นห้องทำงานของฉัน”
อีวากัดฟันแน่น เธอรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดพยุงตัวเองขึ้นยืนอย่างช้า ๆ มือของเธอปัดเครื่องแบบที่ยับยู่ยี่อย่างอัตโนมัติ พยายามฟื้นฟูความมั่นใจที่แตกสลาย
“ฉันไม่เข้าใจ” อีวาพยายามพูดอย่างควบคุม “คุณต้องการอะไรกันแน่ ดีแลน? คุณเกลียดตระกูลฉัน คุณเกลียดฉัน... แล้วทำไมคุณถึงต้องการ ร่างกาย ที่คุณเกลียดเพื่อแลกกับที่ดินผืนเดียวที่ไร้ความหมายสำหรับคุณ”
ดีแลนกลับไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน เขาจัดเนคไทให้เข้าที่ด้วยท่าทางที่สงบอย่างน่ากลัว ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นยิ่งทำให้อีวาเข้าใจว่าการกระทำของเขาไม่ใช่ความผิดพลาด แต่มันคือการข่มขู่ที่ตั้งใจทำ
“ไร้ความหมาย?” ดีแลนหัวเราะเยาะ เป็นเสียงหัวเราะที่ไร้ความสุข “สำหรับฉัน ที่ดินผืนนั้นก็แค่ จุดด่างพร้อย ที่ฉันยังทำลายไม่สมบูรณ์ แต่สำหรับ เธอ มันคือชีวิตของคุณย่า คือความทรงจำที่สวยงามเพียงอย่างเดียวที่เธอเหลืออยู่ มันมีค่าทางอารมณ์ที่ไม่มีราคาใดซื้อได้ ”
ดีแลนหยุดไปครู่หนึ่ง เขายิ้มอย่างเยือกเย็น “และนั่นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ”
เขาเอื้อมมือไปหยิบปากกาหมึกซึมราคาแพงมาวางบนกระดาษเปล่าราวกับกำลังจะเซ็นสัญญาสำคัญ
“ฉันไม่ชอบเงินที่สกปรกจากตระกูลคาร์เตอร์ในอดีต และฉันก็ไม่สนใจเงินที่สะอาดจากการเป็นนางฟ้าของคุณในปัจจุบัน” ดีแลนยันกายไปด้านหน้า “ข้อตกลงของฉันคือ การแลกเปลี่ยน ที่จะทำให้ความเกลียดชังของฉันสมบูรณ์แบบที่สุด”
“เธอจะต้องมาเป็นของฉัน อีวา... เป็น ‘ของเล่นลับ’ เป็น ‘นางบำเรอ’ เป็น ‘ทาสทางเพศ’ เป็นทุกอย่างที่ฉันต้องการให้เธอเป็น เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม”
อีวาเบิกตากว้างจนแทบจะถลนออกมาจากเบ้าตา ลมหายใจของเธอหยุดลงทันที เธอไม่คิดว่าข้อเสนอจะต่ำช้าและโจ่งแจ้งถึงขนาดนี้
“ระหว่างหนึ่งปีนั้น เธอต้องยอมรับทุกอย่างที่ฉันสั่ง ห้ามปฏิเสธ ห้ามร้องขอ ห้ามเปิดเผยความสัมพันธ์นี้ต่อสาธารณะ เธอจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ และเมื่อครบกำหนดหนึ่งปี... ถ้าฉันพอใจ... ฉันจะพิจารณาการขายที่ดินให้ในราคาที่ฉันเป็นคนกำหนด”
ดีแลนเว้นจังหวะอย่างจงใจเพื่อให้คำพูดทุกคำตอกย้ำเข้าไปในจิตใจของเธอ
“ส่วนข้อดีของเธอ? ระหว่างข้อตกลงนี้ เธอจะมีชีวิตที่สะดวกสบายที่สุดในโลกในฐานะผู้หญิงของดีแลน แบล็กเวลล์ แต่จงจำไว้... นี่คือ 'ข้อตกลงลับเฉพาะตัว' ที่มีค่ากว่าเงินนับพันล้าน ที่ดินผืนนั้น... คือของแลกเปลี่ยนของ ร่างกาย และ ศักดิ์ศรี ของเธอ”
อีวาพยายามจะพูด แต่คำพูดติดอยู่ในลำคอ ความคิดในหัวตีกันอย่างอลหม่าน
ยอมไม่ได้! นี่คือการยอมจำนนต่อความชั่วร้าย! นี่คือการทำลายตัวเอง!
“คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้” อีวาพูดเสียงแหบพร่า “นี่มันการข่มขู่ คุณกำลังละเมิดกฎหมาย”
ดีแลนยิ้มอย่างเหยียดหยาม “กฎหมายงั้นหรือ? อีวา ตอนนี้ฉันคือผู้สร้างกฎหมายในห้องนี้ และในวงการนี้ เมื่อคุณเดินเข้ามาในห้องของฉัน คุณก็ไม่มีทางออกอื่นแล้ว ถ้าคุณเดินออกไปวันนี้ คุณก็จะสูญเสียโอกาสในการนำที่ดินกลับคืนมาตลอดกาล”
เขาใช้ความรักของคุณย่าเป็นอาวุธ “คุณย่าของคุณเสียใจจนตายเพราะที่ดินผืนนี้ และตอนนี้โอกาสเดียวที่จะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของท่านเป็นจริงอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว... แต่คุณเลือกที่จะปกป้อง ความบริสุทธิ์ ที่ไร้ค่าของคุณแทนที่จะปกป้องความรักที่คุณมีต่อย่า?”
คำพูดของดีแลนทิ่มแทงหัวใจของอีวาจนเลือดซิบ เขาจี้จุดอ่อนของเธอได้อย่างแม่นยำที่สุด อีวารู้ดีว่าหากเธอเดินออกไป ที่ดินผืนนี้จะถูกทำลายในไม่ช้า และความฝันของคุณย่าก็จะสลายไปตลอดกาล
ดีแลนลุกขึ้นอีกครั้ง เขาเดินช้า ๆ ไปที่ตู้ไวน์ราคาแพง รินวิสกี้ชั้นดีลงในแก้วสองใบ เสียงน้ำแข็งกระทบแก้วเป็นเสียงเดียวที่ดังขึ้นในห้อง
เขาไม่ได้ให้แก้วกับเธอ แต่เขายื่นใบสัญญาที่ถูกเขียนด้วยลายมือของเขาเองมาให้ อีวาเห็นคำว่า 'Non-Disclosure Agreement (NDA)' และถ้อยคำที่ระบุถึง 'ความสัมพันธ์ส่วนตัว'อย่างคลุมเครือ
“เซ็นซะ อีวา” ดีแลนกล่าวอย่างหนักแน่น
อีวามองกระดาษนั้นด้วยความรังเกียจราวกับมันเป็นเชื้อโรค เธอกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเนื้อ
“ฉันรู้ว่าคุณรังเกียจฉัน” อีวาตอบเสียงสั่น “คุณอยากเห็นฉันถูกทำลาย คุณแค้น... แต่คุณเลือกที่จะแก้แค้นด้วยวิธีที่ต่ำช้าที่สุด”
ดีแลนยิ้มเย็น “ใช่... ฉันเลือกวิธีที่ทำให้ฉันได้ ผลประโยชน์สูงสุด เพราะฉันเกลียดคุณ ฉันจึงไม่อยากให้ความพ่ายแพ้ของตระกูลคุณมีราคาแค่ตัวเลข”
เขาเดินเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง คราวนี้เขาไม่ได้สัมผัสเธอ แต่ยืนใกล้พอที่ลมหายใจของเขาจะสัมผัสผิวของเธอได้ ดีแลนใช้ การบีบบังคับทางกายภาพ อย่างนุ่มนวลแต่ร้ายกาจ
“ถ้าคุณไม่เซ็น ฉันจะโทรเรียกทีมรื้อถอนทันทีพรุ่งนี้เช้า ฉันจะรื้อบ้านหลังเก่าของคุณทิ้งทั้งหมด ฉันจะถมสวนกุหลาบของคุณย่า และฉันจะสร้างตึกที่สูงกว่านี้ขึ้นมาบนนั้น” ดีแลนก้มลงกระซิบข้างหูของเธอ “คุณจะไม่มีอะไรให้จำ... แม้แต่ซากปรักหักพัง”
คำขู่ของเขามีน้ำหนักมากพอที่จะทำลายจิตวิญญาณของอีวาได้ในทันที ภาพของคุณย่าที่กำลังร้องไห้ในวันย้ายออกผุดขึ้นมาในหัวของเธออย่างชัดเจน ปมในใจที่เธอเคยสาบานว่าจะแก้ไขกลับกลายเป็นพันธนาการที่บีบคอเธอ
อีวายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานราวกับรูปปั้นที่ถูกแช่แข็ง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังขายวิญญาณให้กับปีศาจ แต่การรักษาความทรงจำของคุณย่าไว้สำคัญกว่าศักดิ์ศรีของเธอเอง
เธอหายใจเข้าลึก ๆ ความโกรธแค้นในดวงตาถูกแทนที่ด้วยความมุ่งมั่นที่น่ากลัว
“ตกลง” อีวาตอบเสียงแผ่ว แต่ชัดเจน “ฉันจะยอมรับข้อตกลงลับเฉพาะตัวนี้... ฉันจะมาเป็นของเล่นลับของคุณ”
ดีแลนไม่ได้แสดงความยินดีใด ๆ เขามีเพียงรอยยิ้มเย็น ๆ ประดับบนใบหน้า ราวกับว่าเขาคาดการณ์ผลลัพธ์นี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว
“ดีมาก นางฟ้า” ดีแลนยื่นปากกาให้เธอ "เซ็นชื่อตรงนี้... และจงจำไว้ให้ดี... การต่อต้านครั้งต่อไปของคุณ... จะถูกลงโทษอย่างสาสม"
อีวารับปากกามาอย่างมือสั่นเทา เธอจ้องมองชื่อของตัวเองบนเอกสารอย่างยาวนานก่อนที่จะจรดลายเซ็น อีวา คาร์เตอร์ ลงไปบนบรรทัดที่ว่างเปล่า ความรู้สึกของความพ่ายแพ้และความขมขื่นแล่นเข้าสู่หัวใจ
เมื่อลายเซ็นปรากฏบนกระดาษ นั่นหมายถึงอีวาได้ขายตัวเองให้กับศัตรูที่เกลียดชังเธอที่สุดแล้ว
ดีแลนหยิบเอกสารนั้นขึ้นมาตรวจทานด้วยรอยยิ้มพอใจ เขามองอีวาที่ยืนอย่างสง่างามแต่บอบช้ำอยู่ตรงหน้า
“ยินดีต้อนรับสู่กรงทองของฉัน อีวา” ดีแลนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจและเสน่หาที่บิดเบื
อน “พรุ่งนี้เช้าเลขานุการของฉันจะแจ้งตารางเวลาและที่พักใหม่ของคุณให้ทราบ... เตรียมตัวให้พร้อม เพราะชีวิตใหม่ของคุณ... กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
บทเสริม: ความท้าทายใหม่—การเป็นผู้นำด้านศีลธรรม การกลับเข้าสู่สาธารณะชนในฐานะผู้ไถ่บาปหลายปีหลังจากที่ ดีแลน แบล็กเวลล์ยุติสงครามกับบิดาและทิ้งอาณาจักรธุรกิจของเขาไป เขาก็ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในฐานะคุณพ่อและผู้บริหารมูลนิธิ อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของเขาในฐานะอดีตซีอีโอที่ยอมสละทุกอย่างเพื่อความถูกต้องและภรรยาของเขา ก็ยังคงดึงดูดความสนใจจากโลกภายนอกอยู่เสมอมูลนิธิคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ ไม่ได้เป็นเพียงองค์กรการกุศล แต่กลายเป็น สถาบันทางความคิด ด้านจรรยาบรรณธุรกิจ ดีแลนและอีวาเริ่มได้รับคำเชิญให้ไปพูดในที่สาธารณะ โดยเฉพาะจากสถาบันการศึกษาและกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ดีแลนตัดสินใจที่จะกลับเข้าสู่สาธารณชนอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่เพื่อแสวงหาอำนาจ แต่เพื่อ มอบบทเรียนที่เขาได้รับมาจากการไถ่บาปของเขา ปาฐกถาที่มหาวิทยาลัย: บทเรียนจากความมืดมิด วันหนึ่ง ดีแลนได้รับเชิญให้ไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยชั้นนำ ซึ่งเป็นสถาบันที่เขาเคยบริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่อล้างภาพลักษณ์ของตระกูลในอดีต แต่คราวนี้เขามาในฐานะ วิทยากรที่มีความซื่อสัตย์เมื่อดีแลนยืนอยู่บนเวที ห้องประชุมเต็มไปด้วยนักศึกษาและนักธุรกิจที่ต่างจ
บทเสริม: ช่วงเวลาแห่งแสงแดด—ฤดูหนาวในบ้านที่อบอุ่น พลังงานของฤดูหนาว (The Winter Solace)เป็นช่วงกลางฤดูหนาวในคฤหาสน์บนเนินเขาหลังใหม่ของครอบครัวแบล็กเวลล์ แม้ภายนอกจะปกคลุมด้วยความเย็นยะเยือก แต่ภายในบ้านกลับอบอวลไปด้วยไออุ่นจากเตาผิงและกลิ่นหอมของช็อกโกแลตร้อนที่ อีวา กำลังเตรียมอยู่ลูก ๆ ทั้งสามคนกำลังวุ่นวายอยู่กับกิจกรรมของตนเองในห้องนั่งเล่น:อีธาน (วัยเจ็ดขวบ) นั่งอยู่บนพรมหน้าเตาผิง เขากำลังพยายามสานผ้าพันคอสีเข้มให้กับ ดีแลนโดยมีสมาธิอย่างสูง ตามแบบฉบับของเขาที่ชอบทำงานฝีมือที่ละเอียดอ่อนโนอาห์ (วัยหกขวบ) ที่เต็มไปด้วยพลังงานและความคิดสร้างสรรค์ กำลังก่อสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่จากหมอนอิงและผ้าห่มกลางห้อง เขามักจะอธิบายถึงโครงสร้างของป้อมปราการอย่างละเอียดด้วยศัพท์ทางวิศวกรรมที่เขาไปค้นคว้ามาลินน์(วัยหกขวบ) ผู้มีจิตใจอ่อนโยนและจินตนาการกว้างไกล กำลังนั่งวาดรูปครอบครัวอยู่บนโต๊ะกาแฟ เธอวาดกุหลาบขาวดอกใหญ่ไว้ที่มุมหนึ่งของภาพเสมอดีแลน กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เก่า ๆ (เขาไม่สนใจข่าวสารทางธุรกิจอีกต่อไป) แต่ดวงตาของเขากลับมองเลยขอบกระดาษเพื่อเฝ้าดูลูก ๆ ของเขาอย่างเงียบ ๆอีว
บทเสริม: การเดินทางเพื่อรำลึก—การกลับไปสู่จุดเริ่มต้น วันครบรอบ การเดินทางที่ไม่ใช่การหนีเจ็ดปีผ่านไปนับตั้งแต่ ดีแลน แบล็กเวลล์ และ อีวา คาร์เตอร์ เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของพวกเขา และครบรอบห้าปีนับตั้งแต่การกำเนิดของลูกแฝด โนอาห์ และ ลินน์ ชีวิตของพวกเขาถูกเติมเต็มด้วยความสุขสงบ และการเติบโตของลูก ๆ ทั้งสามปีนี้ในวันครบรอบ ดีแลนและอีวาตัดสินใจที่จะเดินทางไปพักผ่อนเพียงลำพัง โดยฝาก อีธาน, โนอาห์, และ ลินน์ ไว้กับพี่เลี้ยงที่ไว้ใจได้ การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางเพื่อการพักผ่อนทั่วไป แต่เป็นการเดินทางเพื่อ รำลึกถึงจุดเริ่มต้น ของพวกเขาจุดหมายปลายทางของพวกเขาคือ ที่ดินเก่าของตระกูลคาร์เตอร์ ที่ตอนนี้ถูกพัฒนาเป็น ศูนย์การเรียนรู้และยุติธรรมสำหรับเยาวชน ภายใต้การดูแลของมูลนิธิ ที่ดินนี้เคยเป็นจุดเริ่มต้นของความแค้นและความเจ็บปวดทั้งหมดของพวกเขาการเดินทางที่เงียบสงบดีแลนขับรถไปอย่างช้า ๆ มือของเขากุมมือของอีวาไว้ตลอดทาง พวกเขาสื่อสารกันด้วยความเงียบมากกว่าคำพูด ความเงียบที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและซาบซึ้งในเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมาอีวา: "คุณยังจำได้ไหมคะ ดีแลน วันที่คุณ
บทเสริม: การเติบโต—ปีที่สี่ของแบล็กเวลล์น้อยความวุ่นวายที่มีระเบียบ (Structured Chaos)สี่ปีผ่านไปอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่การกำเนิดของลูกแฝด โนอาห์และ ลินน์ บ้านคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ไม่ได้เป็นเพียงบ้านที่อบอุ่นอีกต่อไป แต่เป็นศูนย์กลางของพลังงานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง อีธานตอนนี้อายุห้าขวบ เป็นพี่ชายที่รักน้องและเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของพ่อแม่ ส่วน โนอาห์และ ลินน์ แฝดสี่ขวบ กำลังอยู่ในช่วงของการค้นพบโลกและเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่สิ้นสุดดีแลนผู้ที่เคยเป็นซีอีโอที่เคร่งครัด ได้เปลี่ยนบทบาทเป็นคุณพ่อที่อดทนและมีไหวพริบ เขาใช้หลักการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่เขาเคยใช้ในบริษัทมาปรับใช้กับการเลี้ยงลูกได้อย่างน่าประหลาดใจในห้องครัวที่เต็มไปด้วยแสงแดด ดีแลน กำลังพยายามทำอาหารเช้าสามอย่างพร้อมกัน (โจ๊กสำหรับอีธาน, แพนเค้กสำหรับโนอาห์, และผลไม้สำหรับลินน์) ในขณะที่ต้องตอบคำถามที่ซับซ้อน:โนอาห์ "คุณพ่อคะ ทำไมพระอาทิตย์ต้องไปนอนด้วยคะ? โนอาห์ไม่เคยไปนอนตอนเที่ยงวันเลย!"ดีแลน"เพราะพระอาทิตย์ต้องให้ดวงจันทร์ได้ทำงานบ้างครับ ลูกชาย มันเหมือนกับการแบ่งปันหน้าที่กันในครอบครัวไงครับ"ลินน์(นั่งวาดรูปอยู่บนเก้า
เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคในการสร้างข้อความ ความสุขที่สมบูรณ์แบบของครอบครัว (The Complete Joy) ยามเช้าในบ้านคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์: วงจรชีวิตใหม่บ้านคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ในช่วงเช้าไม่ได้เงียบสงบอีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยพลังงานที่วุ่นวายและเสียงหัวเราะ ดีแลน ตื่นก่อนใครเสมอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เพื่ออ่านรายงานการเงิน แต่เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิห้อง, เตรียมขวดนมสองขวดที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างสมบูรณ์แบบ, และเตรียมชาขิงให้กับ อีวาเมื่อลูกแฝด โนอาห์ (มักจะตื่นก่อนและมีเสียงดัง) และ ลินน์ (มักจะตื่นทีหลังและร้องเบา ๆ) เริ่มส่งเสียงร้องขออาหารเช้าจากห้องทารก อีธาน ลูกชายคนโตวัยสามขวบก็จะวิ่งลงจากเตียงและตรงมาที่ห้องพ่อแม่เพื่อขอให้ ดีแลน อุ้มเขาไปดูน้อง ๆดีแลน ที่เคยรังเกียจความวุ่นวายและสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ตอนนี้กลับโอบกอดความโกลาหลนี้ไว้ด้วยความสุขเต็มเปี่ยม เขาสามารถอุ้ม อีธาน ไว้ที่สะโพกข้างหนึ่ง ขณะที่ใช้มืออีกข้างผสมนมผงสำหรับแฝดได้อย่างชำนาญการทำงานเป็นทีมที่ไร้ที่ติอีวา ที่ออกมาจากห้องด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน จะเดินตรงไปหา ลินน์ ทันที ขณะที่ดีแลนจัดการกับ โนอาห์ ที่เริ่มส่งเสียงเรียกร้องอย่าง
ความทรงจำของลูคัสและจุดจบของยุคสมัย ความเงียบเหงาที่ถูกควบคุม (The Controlled Solitude)หลังจากที่ ลูคัส แบล็กเวลล์ยอมลงนามในสัญญาการยอมรับความผิด เขาถูกย้ายไปยังสถานที่ดูแลส่วนตัวที่ห่างไกลออกไปภายใต้ข้อตกลงลับกับดีแลน ที่ซึ่งเขายังคงได้รับการดูแลทางการแพทย์และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่เคยมี แต่เขาถูกตัดขาดจากการควบคุมโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงสถานที่นั้นเป็นคฤหาสน์ขนาดเล็กตั้งอยู่บนเนินเขาที่เงียบสงบ แต่สำหรับลูคัส มันคือ คุกที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีผู้บริหารคนใดมาเข้าพบ มีเพียงพยาบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกจ้างโดยดีแลนเท่านั้นการเผชิญหน้ากับความว่างเปล่าตลอดชีวิตของลูคัส เขาเคยชินกับการกรอกเวลาทุกวินาทีด้วยการวางแผน การบงการ และการแสวงหาอำนาจ แต่ตอนนี้... เวลาว่างเปล่า ได้กัดกินเขาอย่างช้า ๆเขานั่งอยู่ในห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือที่ไม่เคยเปิดอ่าน มองออกไปนอกหน้าต่างที่เผยให้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่ความงามเหล่านั้นไม่ได้สร้างความหมายใด ๆ ให้กับเขาเลย“ฉันทำอะไรลงไป?” ลูคัสคิดในใจเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่ใช่การเสียดายที่สูญเสียธุรกิจ







